หลี่เฉิง: "ใช่...ผมจะมาคุยเรื่องกำหนดการแต่งงานของเราสองคน คุณคิดว่าไงล่ะ"
เว่ยเซี่ยว: "เอ่อ...." แล้วฉันจะตอบว่ายังไงดีล่ะ จะตอบว่าไม่แต่งก็ไม่ได้ "คือว่า....คุณหลี่เฉิงคิดว่ายังไง ฉันก็คิดอย่างงั้นแหละคะ" ฉันพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นสายตาของคุณพ่อที่บอกเป็นนัยว่าให้ฉันพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์หน่อยไม่อย่างงั้นท่านจะมาจัดการกับฉันทีหลัง
หลี่เฉิง: "งั้นก็ดีเลย ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะจัดงานแต่งอาทิตย์หน้าเลย คุณเว่ยเซี่ยวคิดว่าดีรึป่าวครับ"
เว่ยเซี่ยว: "เอ่อ...ก็ดีเหมือนกันนะคะ ฉันก็กำลังคิดแบบนั้นอยู่พอดีเลย" แต่ความจริงคือฉันไม่ได้อยากแต่งกับหมอนี่เลยสักนิด ต่อให้หมอนี่จะหล่อรวยแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าใจของเราสองคนไม่ได้รักกันยังไงมันก็ไม่มีความหมายอยู่ดี
หลี่เฉิง: "งั้นก็ตกลงตามนั้น" หลังจากที่ตกลงเรื่องกำหนดการงานแต่งงานเสร็จแล้วฉันก็รีบเดินกลับไปที่ห้องทันที
เว่ยเซี่ยว: "ฉันไม่อยากแต่งงานเลย ต้องทำยังไงนะหมอนั่นถึงจะยอมยกเลิกงานแต่งครั้งนี้ โอ๊ย! ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว" เฮ้อ... เหนื่อยใจจริงๆ เลย ผู้หญิงมีตั้งมากตั้งมายทำไมหมอนั่นจะต้องเลือกเราด้วยนะ ชั่งมันก่อนก็แล้วกันตอนนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ขอนอนสักงีบก็แล้วกัน คร่อก คร่อก....
เว่ยเซี่ยว: "อืม...กี่โมงแล้วเนี่ย" ฉันพูดขึ้นพร้อมกับเอื่อมมือไปหยิบโทรศัพย์ขึ้นมาเปิดดูว่ากี่โมงแล้ว
"2 ทุ่มแล้วหรอเนื่ย นี่ฉันหลับไปนานขนาดนี้เชียวหรอ" โคกคราก โคกคราก ไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่านั่นคือเสียงท้องร้อง แต่มันจะร้องก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอก เพราะตั้งแต่ฉันกลับบ้านมา ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องฉันเลย
เว่ยเซี่ยว: "ป้าจื่อ... วันนี้มีอะไรกินบ้างคะ"
ป้าจื่อ: "มีเยอะแยะเลยค่ะ คุณหนูจะกินเลยไหมคะ"
ไอ้เราก็รู้อยู่หรอกว่าเยอะแยะแต่มันมีอะไรบ้างล่ะ
เว่ยเซี่ยว: "กินเลยก็ได้ค่ะ" เมื่อฉันพูดจบป้าจื่อก็รีบวิ่งเข้าไปในครัวทันที ผ่านไปซักพักป้าจื่อก็เดินออกมาพร้อมกับอาหารอีกมากมาย ว้าว...มีแต่ของโปรดฉันทั้งนั้นเลย ป้าจื่อเนี่ยรู้ใจฉันจริงๆ
ผ่านไป 15 นาที อาหารที่ตอนแรกตั้งอยู่เต็มโต๊ะบัดนี้มันได้ลงไปอยู่ในกระเพาะฉันเรียบร้อยแล้ว
เว่ยเซี่ยว: "อือ...อิ่มจังเลย" หลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว ฉันก็ออกไปเดินเล่น สูดอากาศข้างนอกต่อ แล้วก็รอให้อาหารมันย่อย
[คนสวยจ้าาาารับโทรศัพย์หน่อยจ๊ะ]
เว่ยเซี่ยว: "ฮัลโหล"
ซีเหมน: "นี่...ยัยบ้าถ้าฉันไม่โทรหา เธอก็กะว่าจะไม่โทรหาฉันเลยใช่ไหม" อึ่ย...เสียงหมอนี่ดังดีจริงๆเลย เล่นเอาหูฉันแทบแตก
เว่ยเซี่ยว: "นายก็พูดเบาๆก็ได้นิ ไม่เห็นต้องตะโกนเลย"
ซีเหมน: "ฉันขอโทษ" หึ...ยังดีที่รู้ตัวว่าตัวเองผิด
เว่ยเซี่ยว: "ชั่งมันเถอะ แล้วตกลงนายโทรหาฉันมีเรื่องอะไรรึป่าว"
ซีเหมน: "ฉันได้ยินว่าเธอจะแต่งงาน"
เว่ยเซี่ยว: "ก็คิดว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้นี่เอง"
ซีเหมน: "มันเป็นเรื่องจริงรึป่าว"
เว่ยเซี่ยว: "อืม"
ซีเหมน: "......" เงียบไปเลยแฮะ สงสัยจะช็อคล่ะมั่ง ที่รู้ว่าฉันจะแต่งงาน
เว่ยเซี่ยว: "ซีเหมนถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นแค่นี้ก่อนนะ"
ตื้ด ตื้ด ตื้ด ยัยบ้าแค่ฉันเงียบไปเธอก็วางสายใส่ฉันเลยยังงั้นหรอ เธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่ไหมเนี่ย
ซีเหมน: "โถ่เอ้ย..." ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมฉันถึงได้รู้สึกหงุดหงิดอย่างนี้นะ
ป้าจื่อ: "คุณหนูค่ะ พรุ่งนี้คุณหนูต้องไปลองชุดแต่งงานตามร้านที่อยู่ในนามบัตรนีัด้วยนะคะ " ป้าจื่อพูดขึ้นพร้อมกับยื่นนามบัตรนั้นมาให้ฉัน
เว่ยเซี่ยว: "ค่ะ" ฉันยื่นมือไปรับนามบัตรอย่างว่าง่าย
นั่นก็เพราะว่าทุกอย่างมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว ดังนั้น ฉันเลยทำได้แค่เพียงยอมรับความจริง ที่ไม่ว่าฉันจะหนียังไงก็คงจะหนีไม่พ้น
ร้าน....
พนักงาน: "ยินดีต้อนรับค่ะ ใช่คุณเว่ยเซี่ยวรึป่าวคะ"
เว่ยเซี่ยว: "เอ่อ...ใช่ค่ะ"
พนักงาน: "งั้น เชิญทางด้านนี้เลยค่ะ" พี่พนักงานพูดขึ้นพร้อมกับพาฉันไปที่ห้องลองชุด
[20 นาทีต่อมา]
ตอนนี้ฉันอยู่ในชุดแต่งงานที่ดูผรุงผรังยังไงก็ไม่รู้
แถมจะเดินทีก็เดินลำบากอีกต่างหาก
เว่ยเซี่ยว: "อ่ะ..." กระโปรงเจ้ากรรมนี่ติดอะไรอีกเนี่ย "ว้าย!" ตายแน่ฉันจะล้มแล้ว ตุบ 1 นาทีผ่านไป เอ๊ะ...ทำไมพื้นมันนิ่มๆ ปกติพื้นมันจะต้องแข็งสิถึงจะถูก
หลี่เฉิง: "นี่...คุณจะนอนทับผมอีกนานไหม" เสียงนี้หรือว่า
เว่ยเซี่ยว: "คุณ!" ฉันพูดขึ้นพร้อมกับรีบลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ฉันทับอยู่นั้นไม่ใช่พื้นแต่กลายเป็นว่าฉันกำลังนอนทับอยู่บนตัวของคุณหลี่เฉิงแทนนั่นเอง "เอ่อ...ขอโทษค่ะ"
หลี่เฉิง: "คุณเนี่ยซุ่มซ่ามจริงๆ" เค้าพูดขึ้นพร้อมกับปัดผุ่นที่ติดอยู่บนเสื้อออก
เว่ยเซี่ยว: "นั่นก็เพราะว่าชุดมันรุงรังเกินไปน่ะสิ"
หลี่เฉิง: "แต่ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะรุงรังตรงไหนเลย"
เว่ยเซี่ยว: "ก็คุณไม่ได้ใส่เหมือนฉันนี่" หมอนี่เจอหน้าฉันทีไรเป็นต้องหาเรื่องฉันทุกทีสิน่า
พนักงาน: "พวกคุณสองคนดูรักกันมากๆเลยนะคะ" พี่ค่ะนี่พี่ใช่ตาหรืออะไรมองกันแน่ ฉันอยากจะบอกเหลือเกินว่าถ้าฉันมีแฟนสักคนจริงๆยังไงคนๆนั้นก็ต้องไม่ใช่หมอนี่แน่ๆ คนอะไรก็ไม่รู้นิสัยแย่ยิ่งกว่าอะไรดีซะอีก
เว่ยเซี่ยว: "ฉันขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ" ฉันพูดขึ้นก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องลองชุด เพื่อเปลี่ยนกลับมาใส่ชุดลำลองเหมือนเดิม
เว่ยเซี่ยว: "เฮ้อ...ใส่ชุดนี้แล้วค่อยโล่งขึ้นมาหน่อย ทีนี้ก็กลับบ้านได้สักที" ฉันพูดขึ้นก่อนจะเดินไปขึ้นรถ
หลี่เฉิง: "เดี๋ยว! คุณจะไปไหน" หมอนี่ถามอะไรโง่ๆอีกล่ะ
เว่ยเซี่ยว: "กลับบ้าน"
หลี่เฉิง: "ทำไมเวลาผมถามว่าคุณจะไปไหน คุณจะต้องตอบว่ากลับบ้านอยู่เรื่อยเลย"
เว่ยเซี่ยว: "ก็ฉันจะกลับบ้านจริงๆนี่นา"
หลี่เฉิง: "คุณไม่อยากอยู่กับผมขนาดนั้นเลยหรอ"
เว่ยเซี่ยว: "ถ้าคุณคิดว่าใช่มันก็คงจะใช่ล่ะมั่งคะ"
หลี่เฉิง: "......"
เว่ยเซี่ยว: "งั้นฉันขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ" ฉันพูดขึ้นก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไป โดยไม่หันกลับมามองหลี่เฉิงที่ยืนทำหน้าเศร้าราวกับคนอกหักอยู่ (นั่นก็เพราะแกทำให้หลี่เฉิงของฉันต้องเป็นแบบนี้ โฮ...หลี่เฉิงไม่ต้องเศร้านะนายยังมีฉันอยู่:นักเขียน)
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 5
Comments