หมีฝันเรารักตัวนะ
บทที่ 1
มาอยู่ด้วยกันไหม…
"นี่..เราชอบตัวนะจริงๆนะ"
"คุณมันบ้าไปแล้วเหรอไงนี่ฉันเป็นเมียน้อยของสามีคุณนะคะถ้าหากว่าคุณลืมอยู่”
“ตัวพูดงันไม่ถูกเพราะตอนนี้เราได้หย่ากับผู้ชายคนนั้นอย่างเป็นทางการแล้วไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกัน..สรุปได้ว่าตอนนี้เราโสดนั้นแหละ”
คนตัวเล็กบอกพลางเกาแก้มตัวเองดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรที่พึ่งหย่ากับสามีตัวเองไปเพราะไปทำผู้หญิงตรงหน้าตัวเองท้องโตจนต้องระเห็จมาตีโพยตีพายกับเธอ..อย่างนี้ซึ่งถามว่ามันน่ารำคานหรือเปล่าคำตอบคือไม่เลยสักนิดเดียวเพราะคนตรงหน้า
สวย..
จะว่าไปเมียน้อยของสามีของมะลิกาก็สวยใช่ได้เลยหากเธอเป็นภัคก็ย่อมอยากนอกใจเมียไปหาเมียน้อยสวยๆแบบนี้อยู่แล้วแหละในเมื่อเมียไม่ยอมให้นอนด้วยมาแรมปีตั้งแต่วันเข้าหอยันปัจจุบันถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นคู่สามีภรรยาแต่ก็นอนแยกห้องกัน
ดังนั้นก็เป็นธรรมชาติของผู้ชาย(ไม่มีความสำนึก)ที่จะอยากมีนอกมีในไปหาเศษหาเลยเพื่อปลดปล่อยอารมณ์อยากกระหายของตัวเองชั่วครั้งชั่วคราว
"ตัวเองก็ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยกลูกให้ภัคโดยที่ตัวเองไม่ได้แต่งงานอยู่แล้วหนิเนาะ แถมตัวก็กำลังเดือดร้อน..แม่ป่วยเข้าโรงบาลป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายไหนครอบครัวจะล้มละลายอีก"
ว่าที่ประธานบริษัทสาวยังพูดความจริงเจื้อยแจ้วเหมือนนกแก้วนกขุนทองโดยคนฟังนี่หน้าซีดเผือดลงก้อนอารมณ์ที่เดือดอยู่ก่อนแล้ว
เพิ่มพูมทวีขึ้นจนขึ้นเสียงตวาทด้วยความไม่พอใจที่คนตรงหน้าพูดจาราวกับ…
"จะมาตอกย้ำว่าฉันไม่มีที่ไปงันเหรอคะ?!”
"อื้อใช่.."
"......."
"ไม่มีที่ไปแถมยังร้อนเงินสิดี"
"......."
"มาอยู่ด้วยกันมั้ยล่ะ? "
"ไปให้คุณฆ่าหั่นศพน่ะเหรอคะไม่มีทาง"
"ใครว่าเพราะเราชอบตัวต่างหากเลยถึงชวนให้มาอยู่ด้วยกัน”
“……….”
“พวกเรามาลองเข้าหอกันคืนนี้เลยมั้ยล่ะ?"
ในตอนนี้เองฟากฝันเริ่มสมองประมวลผลอย่างหนักว่าเธอควรทำอะไรต่อไปดี
..มันไม่ใช่สิ่งที่เธอคิดว่าจะต้องมาเจออะไรหลุดโลกขนาดนี้ผู้หญิงตรงหน้าเธอเจ้าหล่อนคิดจะเล่นลูกไม้อะไรกันแน่นะ
หรือต้องการล้อเธอเล่นอยู่เหรอไงเจอกันแค่ครั้งเดียวแค่ตอนที่มาสมัครงานมันจะชอบกันเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ
หรือว่าโดนสามีนอกใจจนอยากหันมาเล่นงานเธอด้วยวิธีเปิบพิศดาร
คุณต้องการอะไรกันแน่นะคุณลิน..มันเหลือเชื่อเกินไปจริงๆว่าคนประเภทถือตัวออกแบบนี้จะรักชอบในตัวเธอ..เธอคนที่ถูกตราหน้าว่าเป็นเมียน้อยหน้าด้านหน้าทนที่แอบลักกินขโมยกินอดีตสามีเจ้าตัวแล้วปล่อยตัวให้ท้องก่อนแต่งเพื่อที่หวังจะใช้วิธีนี้จับตัวเขาแต่กลับเจอหักหลังอย่างเจ็บแสบอีก
คุณลิน…คุณต้องการอะไรจากฉันแน่นะ
ลิน:
เรากำลังมองหน้าน้องที่ยังคงนิ่งงันราวนักมวยอิหร่านเจอชกใต้เข็มขัดจนคางแตกไม่รู้ควรออกหมัดรึยอมแพ้ดีแล้วต้องครุ่นคิดคำนวนผลเสียผลรับอย่างหนักด้วยความเอ็นดูในทีแต่ก็ไม่สามารถยิ้มออกไปได้ไม่อย่างงันล่ะก็สิ่งที่เพียรทำมาจะพังกันหมดพอดี
อันที่จริงเราเคยเจอกันเมื่อนานมาแล้วนะแต่น้องคงจะลืมมันไปแล้วแหละเพราะเวลามันผ่านไปยาวนานเหลือเกิน (แต่ฉันก็ยังคงเฝ้ารอมาจนถึงตรงนี้ด้วยความอดเปรี้ยวไว้กินหวาน)
วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราชวนผู้หญิงด้วยกันมาอยู่กินกันแบบข้ามขั้นตอนไปหลายขั้นตอนเลย
แถมพิเศษไปยิ่งกว่านั้นคือน้องยังเป็นสถานภาพเป็น ‘เมียน้อย’ ของอดีตสามีเราด้วยมากกว่านั้นคือตั้งครรถ์ลูกของผู้ชายสารเลวคนนั้นด้วย
ถ้าให้เล่าย้อนไปคือก่อนหน้านี้สักราวๆสามเดือนคือภัคเขารายงานมาบอกเราทางไลน์ว่าจะไปดูงานที่รัชเซียกับเลขาสาวคนใหม่โดยไปกับคุณอนุณาผู้เป็นที่ปรึษาอาวุโสของบริษัท
และพนักงานฝ่ายศิลป์สามคนกำหนดการคือกระทันหันวันนี้เลยซึ่งเราก็อนุญาติให้เขาทำตามความต้องการ….
แต่ความจริงนั้นมันคือการพาเมียน้อยที่เขาแอบเลี้ยงดูมาหลายปีไปเที่ยวฮันนีมูนกันอย่างหวานชื่น
รู้เต็มอกแต่ก็ยินดีเซ็นอนุมัติงบให้ตามวงเงินที่ร้องขอเพราะเราคิดว่ามันจะเป็นการให้ครั้งสุดท้าย
ประจวบกับเพื่อดำเนินแผนการฟ้องหย่ากับเขาอย่างเด็ดขาดแบบไม่ให้ฝั่งเราเสียหน้าเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะทนไม่ไหวกับการไปสร้างปัญหาเที่ยวไข่แล้วทิ้งไปทั่วไม่ก็สาวๆของเขาที่มาก่อกวนเราที่ทำงานแบบวันเว้นวันเล่นเราแทบจะประสาทกินตายอยู่แล้ว..ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่หน้าของฉันมันไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเก็บเขาไว้ไม่ใช่เหรอไง
เราจงใจเปิดโรงแรมให้สามีตัวเองและเมียน้อยทั้งสร้างโอกาสสั่งให้บาร์เทนเนอร์ดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด
ลงมือเอาเข็มเจาะถุงยางในกล่องที่เขามีทั้งหมดขัดขวางการคุมกำเนิดทุกอย่างของเมียน้อยอย่างสุดฤทธิ์
แต่ทว่ามาภายหลังนึกเปลี่ยนใจเลยเอาถุงยางที่เจาะโยนลงถังขยะไปซ่ะยังไงเสียเรื่องแบบนี้ก็ควรจะให้เจ้าตัวจัดการเอาเองเพราะดูจากมันสมองของภัคเองก็น่าจะป้องกันดีอยู่แล้วไม่ใช่ไก่อ่อนหัดขันสักหน่อยที่จะปล่อยตัวเองอยู่ในความเสี่ยงจะมีพันธะฝูกพันกับของเล่นชั่วคราว
แผนต่อมาก็คือให้นักข่าวช่องดังไปทำข่าวแฉพร้อมสรรพพอเหยื่อพากันกระโดดลงหลุมพรางนายพรานที่ขุดดักล่อไว้ก็เรียบร้อยโรงเรียนจีน
ตามคาดเลย...เมียน้อยสามีเราจงใจท้องเองด้วยล่ะเพราะคิดว่าอดีตสามีเราจะรักเธอและแต่งงานเธอออกหน้าออกตาหลังจากหย่ากับเราเรียบร้อยแล้วแต่ทว่า
มันไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะไม่เพียงแต่ภัคจะไม่รับผิดชอบกลับใช้วิธีโหดร้ายตามแบบฉบับดาวร้ายละครไทยนั่นก็คือ
'เทน้องแล้วรับผิดชอบแค่ลูกในท้อง'
ดูเป็นคนดีเนอะอดีตสามีของเราน่ะ….
แต่เราก็คาดเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าผลมันต้องออกมาเป็นอย่างนี้…
เพราะเหตุผลนั่นคือเราไม่ควรคาดหวังว่าคนที่ไม่ฉลาดมาตลอดจะมีพัฒนาการขึ้นมาหรอกดังนั้นในเมื่อผลจะออกมาเป็นไหนเราก็พร้อมรับน้องมาดูแลด้วยความเต็มใจพร้อมทั้งให้อภัยทุกอย่างไม่ติดสาหาความกับคนสวยหรอก
เพราะคนเรามันย่อมผิดพลาดกันได้แหละ..มั้ง..เอาความจริงคือตัวเราสองมาตรฐานนั่นแหละถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ฝันก็ไม่ให้อภัยเผลอๆไม่อยากจะมองดูหน้าหล่อนเสียด้วยซ้ำไป
"แล้วคุณไม่โกรธที่ดิฉันแย่งคุณภัคมาจากคุณเลยเหรอคะ?"
น้องถามคำถามที่เราคาดเดาไว้ล่วงหน้าว่าน้องต้องถามแน่เลยตอบกลับด้วยน้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำให้รู้ว่า ‘ทำไมพี่ต้องโกรธล่ะคะก็ในเมื่อพี่ไม่เคยให้ค่ากับผู้ชายคนนั้นมาตั้งนานแล้ว’
"ตามหลักเรารักภัคมากพอละก็เราคงแค้นตัวน่าดูแต่นี้ไม่ใช่-สามีก็เหมือนรองเท้าถ้ามันกัดเราก็แค่สลัดทิ้งไปนี่มันยุคอะไรแล้วไม่ใช่ยุคกรุงธนบุรีนะที่ผู้หญิงแบบเราจะมากัดกันเพื่อผู้ชายเลวระยำตัวเดียวน่ะ..."
"มันก็จริง"
"เพราะงันก็รีบตกลงอยู่กับเราสิ"
"คุณคิดจะทำอะไรกันแน่-ฉันตามเกมส์คุณไม่ทันเลย"สาวน้อยขมวดคิ้วชิดกันแล้วมองตรงมาที่เราอย่างคนกำลังไม่ไว้วางใจเลยแม้แต่น้อย
"ชวนอยู่ด้วยกัน-ตัวคิดว่าผู้ชายเฮงซวยสันดานหมาๆแบบนั้นมันจะมีปัญญาดูแลตัวได้ดีเหรอไง"
"......."
"ขนาดเรามีพร้อมทุกอย่างยังนอกใจเรานับสิบรอบแล้วมีหลักประกันอะไรว่ามันจะไม่นอกใจตัวอีกทอดล่ะ"
"แต่ว่าฉันมีลูกเขาในท้อง"
"ตัวอยากให้ลูกมีพ่อนักเราเป็นให้เองก็ได้มีเงินส่งให้ยันจบปริญญาเอกพวงยกบริษัทนี้ให้ด้วยเอา! "
น้องอ้าปากค้างเลยจนเราแอบอมยิ้มนิดๆในใจด้วยความเอ็นดู
สิ่งที่ว่าไปเราพูดจริงนะ..
บุญทุ่มกว่าผู้ชายอกสามศอกหลายๆคนเสียอีก...ทำไงได้ล่ะคนอย่างมะลิกาถ้าจะอยากได้อะไรไม่มีคำว่าไม่ได้อยู่แล้ว
ต่อให้ต้องเทหมดหน้าตักก็ตามซึ่งมันก็หมดหน้าตักจริงๆเลยจะว่าไป
"ทำแบบนี้คุณจะได้อะไร"
"เราไม่อยากได้อะไรจากตัวหรอก-เรารวยแล้ว"
น้องทำหน้าปูเลี่ยนหลังฟังเราพูดประโยคหลังแถมยังยกมือมากอดอกที่แสนจะมีอยู่ร้อยนิดของตัวมองจ้องมาทางเราเหมือนตำรวจมองดูผู้ร้ายข้ามแดนที่กำลังยื่นเสนอข้อต่อรองที่ไม่น่าปล่อยผ่านไปได้
สีหน้าเริ่มดีขึ้นแตกต่างจากเราที่แม้จะเก็กหน้านิ่งแต่เหงื่อยังซึมเต็มแผ่นหลังด้วยความลุ้นระทึก
ว่าแม่คุณจะยอมตอบตกลงรับข้อเสนอเราหรือเปล่า
"ฉันจะเชื่อคุณได้ยังไง? "
"ที่พูดมายาวยืดฟังเหมือนเล่นเหรอคะคุณฟากฝัน"
เดี้ยะก็ข่วนหน้าเอาซ่ะหรอก..เหอะ
""พิสูจน์สิ”
"พิสูจน์อะไร?”
"ถ้าชอบฝันจริงๆคุณกล้าเดินมาจูบปากฝันตอนนี้ไหมล่ะคะ? "
“ได้สิ”
เราแทบไม่คิดเสียเวลาระหว่างขยับตัวลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่แล้วก้าเข้าไปเชยคางคนตัวเล็กมาประกอบปากจูบทันที..ทันทีเมื่อริมฝีปากลิ้มรสหวานแปลกใหม่เราก็บดปากจูบมากยิ่งขึ้นจนคนน้องที่ยังช็อคนั่นเผลอไผลจูบตอบแบบได้ไม่ประสีประสาจนน่าเอ็นดูในที เอิ่ม…รู้สึกอยากทำมากกว่านี้ซ่ะแล้วสิแต่เราก็ต้องข่มความต้องการในการจะหงาบเด็กลงท้องเพื่อถอยออกมายืนเท้าสะเอวหอบออกมาทางปากสูดเอาลมเข้าไปให้มันผ่อนคลายเพราะเมื่อกี้รู้สึกหวิวๆในอกยังกับมันจะกระเด้งมาเต้นข้างนอกกับมีความรู้สึกที่ต้องการไม่อยากจะหยุดแค่จูบปาก
“ทีนี้จะเชื่อเราได้รึยังคะคนดี”
"ห้ะ..จูบเลยเหรอ!!"
พี่สาวเรากับเฮียมาร์อุทานขึ้นมาเหมือนไก่ตาแตกในวันรวมญาติซึ่งเราให้คำนิยามกับมันว่าวันรวมผีมาเผากันเนื่องจากเหตุผลที่แท้จริงที่ครอบครัว
หมิงหรือประภารัตน์ ดิศรานุกรณ์ให้ความสำคัญคือเรียกรวมลูกๆทั้งสามคนโดยเฉพาะเจ๊ผักกาดที่ไปทำงานที่ไทยจนไม่ค่อยมาหาครอบครัวเลยตามประสาคนที่เป็นโลกส่วนตัวสูงเอามากๆแม้แต่เตี่ยกับม๊าเองต้องเกรงใจเเละเคารพการตัดสินใจของเจ๊ใหญ่
อีกอย่างคือให้พวกเราสามใบเถามาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันให้พ่อแม่ได้สอบปากคำว่าไปทำอะไรที่ไหนมาบ้าง
หลังจากถีบลูกๆออกจากรังให้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากจบม.ปลายถือเป็นการประหยัดค่ากับข้าวในครัวเรือนซึ่งปีใหม่นี้เจ๊ใหญ่ของเรามาพร้อมสามีที่น่ารักแถมสวยมากนั่นก็คืออามี้ที่ม๊าเรียกอย่างพิศวาทขาดใจว่าอามีมี่ๆของม๊า
ใช่แล้วล่ะ..คุณเข้าใจไม่ผิดหรอกว่าทำไมเราถึงได้นิยามคุณพี่เขยเหมือนเขาเป็นผู้หญิงเพราะว่าเธอคนนั้นก็ผู้หญิงจริงๆแถมยังเรียบร้อยมากเสียด้วย…
เจ๊ใหญ่ของเรานั้นเธอได้แต่งงานกับผู้หญิงด้วยกันเองแถมยังจดทะเบียนมงคลสมรสอยู่กินกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายของไทยเสียด้วย
เอ่ออีกทั้งคุณพี่เขยของเราก็ไม่ใช่ไก่กาที่ไหนนะเป็นลูกสาวคนเล็กของตระกูลนุวัฒทนากรตระกูลมั่งคั่งหนึ่งนามสกุลของไทยที่ร่ำรวยกันทั้งบ้านแต่ว่าพี่มี้กลับทำตัวติดดินเกินคาดถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นทายาทนักธุรกิจหมื่นล้านนะนั่น
ด้วยเหตุที่ทั้งรวยทั้งสวยกันทั้งคู่มันเลยไม่แปลกว่าตอนสองคนประกาศจัดงานแต่งงานกันอย่างเอิกเกริกจะทำให้ผู้ชายร้องไห้กอดคอกันนับสิบ
ที่ตกใจกว่าใครเพื่อนนั่นก็เฮียมาร์ที่พอทราบข่าวก็ถือกับบินกลับจากมาเก๊ามาตะโกนแหกปากถามเราเพื่อยืนยันว่านี้ไม่เป็นความจริงใช่มั้ย
เจ๊ผักกาดที่ไม่เคยมีวี่แววแยแหวกขนบประเพณีแถมมีความฝันอยากออกบวชเป็นแม่ชีในบั้นปลายชีวิตนี่นะจะมีสามีที่เป็นผู้หญิงแถมยังจะจัดพิธีสู่ขอตบแต่งกันตามขนบประเพณีของไทยด้วย
และค่ะถูกต้องแล้วว่ามันจริง
พี่เขยเราเธอก็ไม่เลวนะดูอ่อนน้อมถ่อมตนแม้ว่าอายุจะน้อยมากอยู่แต่ก็ฉลาดในคำพูดคำจาไม่มีประวัติความประพฤติแย่รึว่าเสียหายใดๆ
มิหน้ำซ้ำจากเดิมที่อาม๊าเราต่อต้านพอเจอลูกยอลูกอ้อนก็ทั้งรักทั้งหลงกว่าลูกในใส้อย่างเราอีกในเวลาไม่นานพี่มี้ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราไปในที่สุดด้วยบุคลิคมีสีสันให้สนุกสนานความสดใสของเจ้าตัวและที่สำคัญพี่สาวคนนี้เธอยังเป็นเพียงคนเดียวที่ทำภูเขาน้ำแข็งที่เดินไปอย่างพี่เรากลายเป็นยิ้มง่ายและหัวเราะเก่งอย่างที่ไม่มีใครทำได้…
นี่ล่ะมั้งข้อดีของการมีความรักและความรักไม่สมควรมีคำจำกัดความถึงเพศสภาพเลยเอาล่ะกลับมาเข้าเรื่องเราต่อดีกว่า
"เอิ่ม..ลินจูบกับน้อง-ขอน้องเข้าหอทำอย่างที่พี่มี้แนะนำหมดเลย"
ดูเหมือนว่าพอฉันโยนระเบิดใส่พี่เขยปุ๊บทางฝั่งเจ๊ใหญ่จะหันมามองหมายหัวพี่เขยทันทีจนทั้งโต๊ะเย็นระเยือกในพริบตาเพราะจิตอาฆาตของผักกาดที่แผ่ออกมาทะลุเลนส์แว่นที่เจ้าตัวสวมอยู่
คงน่าจะโกรธที่แฟนตัวเองสอนอะไรให้น้องสาวก็ไม่รู้ แต่เราก็รู้ดีว่าพี่ท่านไม่ได้โกรธจริงจังขนาดนั้นหรอกเพราะยังไงคู่นี้ก็รักกันมากจนเวลาตีกันทีไรไม่พอข้ามวันก็กลับมาคืนดีต่อกันได้แล้ว
"โถ..พี่ประชดค่ะ-ใครจะคิดว่าน้องลินลงมือทำจริงๆขึ้นมา”
แปะ!
เสียงฝ่ามือพี่ผักฟาดใส่เหม่งพี่เขยดังลั่นทำเอาม๊ากะเตี่ยแอบหัวเราะออกมามันดูเหมือนหยอกนะแต่หน้าผากที่แดงๆนี้ท่าทางพี่มีมี้จะเจ็บจริงๆ
เพราะเจ๊ผักตบจริงแถมตบแรงเสียด้วยและเมื่อพอจัดการกับสามีตัวเองเสร็จก็หันมาพูดกับเราต่อด้วยใบหน้านิ่วคิ้วชิดกันให้อารมณ์ราวกับอาจารย์ฝ่ายปกครองกำลังซักความจริงจากเด็กนักเรียนที่ทำความผิดอยู่แต่ทว่าเราก็ไม่ได้ไม่พอใจหรอกเพราะพี่ผักกาดอาจเข้มงวดแต่ก็ใจดีที่สุด
"แล้วยังไงต่อรีบๆเล่ามาเลยนะยายลิน”
"ก็หลังจากนั้นน้องก็บอกว่าจะเอากลับไปคิดดูก่อนค่ะแล้วก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลยติดต่อไปก็ไม่รู้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง"
"แล้วแกไม่กลัวน้องหายเหรอ?"เฮียว่า
"ลินให้ตามดูแลห่างๆถ้าเกิดอะไรขึ้นคงมารายงานลินเองแหละค่ะ”
"ทำแบบนี้จะดีเหรอลูก"
เตี่ยที่เงียบมาตลอดเท้าคางถามเราด้วยน้ำเสียงดูเป็นห่วงมากกว่าติเตียนเพราะพ่อคนนี้มักจะความอ่อนโยนกับลูกเสมอมากผิดจากอาม๊าที่ปกติจะสวมมาดนางเสือดุแลเคร่งระเบียบสุดๆเลยทำให้พวกเราสองพี่น้องนั่นคือเรากับเฮียจะสนิทแล้วติดพ่อมากกว่าแม่ส่วนแม่นั้นทุ่มเทความรักให้เจ๊ใหญ่ที่เป็นพี่สาวคนโตแทนเพราะอาเจ๊เรียบร้อยว่าง่ายเป็นลูกแม่
…ตามใจแม่ทุกอย่างแถมยังใส่แว่นเหมือนกันแต่งกายเฉิ่มคล้ายกันยังกับเป็นร่างแยกของแม่อย่างไรอย่างงั้น
"หากภัครู้เข้า-เขาก็จะยิ่งโกรธเลยนะเพราะมันเหมือนถูกหักหลัง”
"เขาจะคิดยังไงมันก็ช่างเขาเถอะค่ะเตี่ยเพราะลินไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้วอันที่จริงเขาน่าจะขอบคุณลินเสียด้วยซ้ำนะที่ทำให้ตัวของเขาเป็นอิสระน่ะ"
"แต่ม๊าคิดว่าลินไปรับแม่และเอ่อ..เด็กที่เป็นลูกของภัคมามันจะไม่เกินไปหน่อยหรอลูก-มันเหมือนง่ายน่ะแต่ทำจริงๆน่ะยาก"
"ม๊าคิดว่าผู้ชายแบบภัคสมควรได้สิ่งดีๆไปโดยที่ตัวเองทำเลวระยำเหรอคะ?"
"..."
"…”
"สิ่งลินทำอยู่นี้คือกำลังช่วยเด็กคนนึงอยู่ค่ะให้น้องกับลูกมีชีวิตที่ดีอย่างน้อยๆก็ตอนที่ชีวิตน้องกำลังมีมรสุ่มชีวิตหนักๆตอนนี้ทั้งเรื่องบ้านไหนที่ถูกฟ้องล้มละลายไหนจะแม่ที่ป่วยหนักลินไม่โกรธถ้าในตอนสุดท้ายหลังจากน้องคลอดลูกแล้วตั้งหลักได้จะหอบเด็กหนีลินไปน่ะ"
"เจ๊ถามอะไรเราหน่อยสิลิน"
"คะ?"
"ทำไมถึงต้องทำเพื่อผู้หญิงที่ร่วมกันสวมเขาให้ตัวเองขนาดนี้.."
"ความรักที่มีต่อน้องค่ะ”เราตอบก่อนจะวางช้อนในมือลงเพื่อลุกหยิบแก้วน้ำส้มเอาไปอาเตี่ยที่สารวนอยู่กับหยอกล้อเจ้าเหมียวลู่ลู่แมวพันธ์เปอร์เซียที่มันแก้วแล้วอ้วนปุ๊กลุกยังกับแมวน้ำสายพันธ์ขนดก
"แล้วลินก็รักน้องเขามานานแล้วและมันชัดเจนก็ตอนจูบกันนี่แหละ”
“แล้วเขาเป็นคนดีไว้ใจได้แค่ไหนกัน”พี่ผักแย้งเรากลับบ้างสำหรับพี่สาวคนนี้เธอมักจะคิดว่าเราเป็นเหมือนเด็กอยู่เสมอต่อให้น้องจะอายุเข้าวัยเลขสามเข้าวงการปวดหลังมานานแล้วซึ่งเราก็ไม่ได้ไม่พอใจเธอเลยแม้แต่น้อยเพราะเข้าใจดีว่าที่พี่เขาทักท้วงก็เพราะห่วงใยในตัวเราทั้งนั้น
บนโลกนี้มิจฉาชีพแฝงตัวอยู่ตั้งเยอะแยะไปขนาดคนในครอบครัวสายเลือดเดียวกันเองยังฆ่ากันได้…ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมียน้อยที่แย่งสามีของคนอื่นซึ่งเหตุผลข้อนี้กระมังที่ทำให้พี่สาวฉันนึกเป็นห่วงอยู่
“ค่ะดี..ลินคิดว่าลินรักคนไม่ผิดหรอก”
พอให้คำตอบพี่สาวจบก็ลงมือหั่นเป็ดย่างส่วนหูคอยฟังเฮียพูดเปลี่ยนประเด็นไปสารพัดตั้งแต่เหตุสงครามโลกครั้งที่สามจนถึงวัยรุ่นประเทศตูย่าแห่กันกินโรตีดิบๆที่มันไม่สุกจนปวดท้องเข้าโรงบาล
ไปจนถึงนายกประเทศไทยถูกเสาเข็มพุ่งเสียบหัวจนตายคาสภา..
พอตกดึกก็ปลีกตัวมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะกับพี่มี้ที่ตอนนี้เจอพี่สาวเราไล่ออกจากห้องนอนข้างนอกเพราะดันไม่ยอมอาบน้ำล้างกลิ่นเบียร์แถมอยากจะอยู่ฉลองกต่อแม้ว่าวันนี้พึ่งเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางด้วยเครื่องบินมาสดๆร้อนๆก็ตาม
เราก็เลยถือโอกาสถามในสิ่งที่สงสัยมาตลอดแต่ไม่เคยได้คุยกันเลยเสียที
"ตอนที่พี่ชอบเจ๊ผักครั้งแรกมันเป็นยังไงคะทำไมถึงรักคนเย็นชาเหมือนเสาหินแบบนั้นลงกัน"
"ก็ใจเต้นแรงน่ะค่ะ"พี่เค้าอมยิ้มตรงมุมปากดวงตาเปล่งประกายความสุขเต็มที่
"พี่ฉกชอบมาแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนซึ่งมันนานมาแล้วจนเกิดเรื่องราวเยอะแยะตอนเราคบกันมันก็เลยยิ่งรักมาก"
"ลินก็อยากให้น้องเป็นแบบพี่จัง.."
"..."
"รู้สึกไงก็พูดออกมาไม่ใช่สร้างเกราะปลอมๆให้คนอื่นมองว่ามันเข้มแข็งทั้งๆที่ภายในลึกๆเจ้าตัวก็ไม่ได้เข้มแข็งเลย”
"ดูน้องลินจะรู้จักเด็กคนนั้นดีจังนะคะ"
"ลินเคยเจอน้องเมื่อนานมาแล้วน่ะค่ะ"
"..."
"พี่มี้อยากฟังมั้ยคะ?"
พี่มี้พยักหน้าลงและฉันก็เริ่มเล่าออกมาถึงความทรงจำที่มันไม่เคยหายลืมเลือนไปจากใจ
ความทรงจำที่เจ้าของรอยยิ้มสดใสเหมือนพระอาทิตย์ยิ้มจนตายีหน้ายับไปหมดตอนเข้ามากอดตัวเราในวันที่เราไม่เหลือใครเลยในชีวิตไม่คิดว่าความรักมันจะมีอยู่เพื่อเรา ‘แต่น้องคือคนที่ทำให้เราอยากจะลองมีมันอีกครั้งนึง’
23:58
'ท่ามกลางค่ำคืนที่ยาวนานและเหน็บหนาว..'
'ท่ามกลางหมู่ดาวที่หม่นหมองเพราะแสงจันทร์..แต่แค่เพียงไม่นานหยาดฝนก็โปรยปราย'
เราฟังเสียงเพลงริงโทรจากคนสวยอยู่นานเลยก่อนที่เจ้าตัวจะยอมกดรับสักทีซึ่งเบอร์นี้เราเป็นคนขอน้องเองกับมือกลัวแทบแย่ว่าจะไม่ใช่เบอร์เจ้าตัวแต่เป็นเบอร์ของเจ้าหนี้นอกระบบ
"ฮัลโหลค่ะ..นี่ฝันพูดค่ะ"
เสียงน้องฟังแล้วแห่บเพร่าเหมือนคนกำลังร้องไห้เลยแฮะ..ใครเค้าทำให้แม่น้องเจ้าร้องไห้กันนะ
"นี่เรานะมะลิกา"
"มะลิกาคนไหนคะ"
"คนสวยๆที่จูบตัวในห้องทำงาน"
"คุณลิน!”
เราหัวเราะออกมาก่อนจะพูดต่อโดยมีพี่มี้ให้กำลังใจข้างๆแถมยังทำท่าทางเหมือนดูเราแกล้งเด็กไร้ทางสู้อยู่…ก็นะมันอยากน่าแกล้งเองทำไม
"แล้วดึกขนาดนี้ยังไม่นอนอีกเหรอ?"
"ยังค่ะพอดีเดินออกมาดูพลุหน้าบ้านตัวเองน่ะ..คุณจะโทรมาถามเรื่องข้อเสนอเหรอคะนี่มันพึ่งผ่านมาสองวันเองนะ"
"เปล่า"
"หื้ม.."
"แค่อยากจะอยู่ข้ามปีกับคนที่ชอบน่ะ"
"....."
"สุขสันต์ปีใหม่นะคุณฟากฝัน
00:00
ปัง!!!ปัง!!!
เสียงพลุชุดแรกถูกจุดขึ้นพร้อมกันเองทางนั้นก็ได้ยินเหมือนเสียงประทัดดอกไม้ไฟดังสับสนไปหมดเช่นเดียวกัน
"คุณลิน.."
"ว่าไง"
"ขอบคุณนะคะขอให้ปีใหม่นี้คุณเองก็มีความสุขเช่นกันนะ..ฉันขอโทษที่ทำเรื่องไม่ดีกับคุณนะ"
"เราจะรับแล้วกัน"
"..."
"เราก็ขอให้พระเจ้าคุ้มครองตัวกับลูกให้ปลอดภัยมันจะดีมากเลยถ้าซานต้าให้พรเราในเรื่องให้ตัวยอมรับข้อเสนอเราน่ะ"
"คุณเชื่อเรื่องที่เด็กๆเชื่ออยู่อีกเหรอไง"
"ตัวเคยได้ฟังนิทานเรื่องกล่อนแพนโดร่ามั้ยที่พระเจ้าให้กล่องๆหนึ่งแก่ราชินีแพนโดร่า..และให้เธอเปิดออกปลดปล่อยโรคภัยความเจ็บความตายออกมา"
"แม่เคยเล่าให้ฉันฟังอยู่ค่ะ"
"อื้ม..ตัวที่ไม่ได้ออกมาคือความสิ้นหวังเพราะแบบนี้มนุษย์จึงยังมีความหวัง"
"แม้จะมีโอกาสไม่สมหวังมากก็ตามก็ยังอยากหวังเหรอคะ?"
"อื้ม.."
"........"
"ก็ดีกว่าปล่อยตัวไปโดยที่เราไม่ได้พยายามทำอะไรเลย"
"...."
"จริงมั้ยล่ะ..คุณฝัน"
"ฝันดีค่ะ"
ติ้ด
'คิดจะวางก็วางเลยเหรอคนเรา..'
หลังจากที่น้องวางสายใส่เราไปก็ถือค้างแบบนั้นจนเรารู้ตัวอีกทีก็ตอนหันมาทางคุณพี่เขยนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จับจ้องสายตาวาววับมาทางเรา
"พี่มี้ยิ้มอะไร?"
"น้องลินยิ้มกว้างพี่อีกค่ะ"
"..ห้ามล้อลินนะคะ"
"น้องลินชอบเด็ก"
"อย่าล้อ!"
"น้องลินจะพรากผู้เยาว์.."
ฮือ...เชื่อฟังกันที่ไหนเล่านั่น
"ฝันเค้าอายุ21แล้วค่ะไม่ใช่ผู้เยาว์แล้ว"
แต่เกิดมารองจากเฮียก็มีพี่คนนี้แหละที่ยิ้มได้น่าตีสุดๆไปเลยไม่รู้จะล้อเราอะไรนักหนาก็ไม่รู้
อย่าให้ถึงคราวเราบ้างละกัน
"อ้าวมี้..คุณอยู่นี้เอง-พี่ตามหาคุณตั้งนานรีบกลับบ้านกันได้แล้วเดี๋ยวก็มีคนไม่ดีมาอุ้มเอาไปหรอก"
เจ๊เราพูดเหมือนพวกเราสองคนเป็นแมวสามสีที่ใครจะอยากจะอุ้มก็อุ้มใส่กระสอบได้อย่างไงอย่างงัน
ทำเอาพี่มี้ถึงกับพูดตอบกลับไปว่า
“จะบ้าเหรอเค้าไม่ใช่แมวนะคะพี่”
“ใครว่าแมว-พี่เป็นห่วงสาวพี่ต่างหากก็เลยออกมาตาม”
เปล่านะที่เดินมาดูจากสายตาพี่เค้าไม่ได้มีความห่วงน้องสาวแบบเราหรอก
ค่ะ
ห่วงผัว..ต่างหากล่ะ
มองจากระยะร้อยเมตรยังรู้เลย
"แล้วนี่แกจะกลับไทยวันไหนอ้ะลิน"
"ก็พรุ่งนี้อะค่ะ"
"จะด่วนกลับไปหาเด็กสินะ"
"ฝันเค้าไม่เด็กแล้ว"
"แต่แก35น่ะน้องรัก.."
"-*-..35แล้วไง-เจ๊37ยังมีพี่มี้ได้เลยย"
"หื้อ..นี่แกยอกย้อนพี่เหรอ!"
"ก็หรือไม่จริง"
"เอ่อ..ว่าจะให้ของขวัญไม่ให้ล่ะ"
พอเอ่ยถึงของขวัญเราก็หูผึ่งทันทีด้วยความตื่นเต้น
"ให้เลยเจ๊"
"ไม่น่าให้อ้ะ"
"ไม่ให้..คุณอรชรของพี่รั่วสองข้างแน่เอาดิ"
เราเอารถของเจ๊มาข่มขู่พร้อมแสยะยิ้มชั่วร้ายว่าไม่ใช่แค่ขู่เล่นๆแน่แต่กล้าทำจริงๆถ้ายังไม่ให้ของขวัญปีใหม่เสียที
"เอาป๊าย"จบคำกล่องน้ำเงินหกเหลี่ยมก็ถูกยื่นมาให้เราด้วยท่าทีร้อนรนก่อนที่เจ๊ผักกาดจะโอบเอวเล็กๆของพี่มี้เดินเข้าบ้านไปโดยไม่ลืมเอ่ยอวยพรให้ฉันด้วยน้ำเสียงคล้ายกำลังทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องปกติทั้งที่มีความสั่นๆในนั่น
เวลาจะแสดงความรักต่อน้องนุงให้เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาดูช่างดูเป็นการทำที่ยากเย็นสำรับพี่เราคนนี้แต่ก็นะสไตล์เขานั่นเเหละ
"ขับให้สนุกและก็สวัสดีปีใหม่น้องรัก"
พอลับร่างของพี่สองคนไปเราก็รีบเปิดฝากล่องออกดู
..เจ้าโลหะสีเงินแวววาวนี้มัน
มอเตอร์ไซค์ฮารเลย์สีดำรุ่นที่เราอยากได้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วแต่ว่าเตี่ยกลับซื้อปอเช่ให้เรามาขับแทนเนื่องจากกลัวลูกสาวไปแหกทางโค้งตายใต้ฟุตบาทที่ไหนสักแห่งในเเอลเอและในตอนนั้นเราก็รู้สึกคิดถึงใครสักคนที่ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างในวันที่คนทั้งโลกต่างเฉลิมฉลองกันอยู่
บ้างก็อยู่กันกับครอบครัวกับคนที่ตัวเองรักแต่น้องเขานั้นแม้แต่เงินจะจ่ายค่าห้องค่าซื้ออาหารประทังชีวิตตัวเองไปวันๆก็ยังไม่มี
“ฮัลโหลคุณเกด”
(คะว่าไงคะคุณลิน)
“ช่วยจัดส่งชุดหมูกระทะไปให้ตามที่อยู่ที่เราส่งไปให้ทีได้ไหมคะส่วนเงินนั้นให้มาเก็บที่เราแทนบอกว่าเป็นรางวัลผู้โชคดีก็ได้”
(ค่ะได้สิคะให้ดิฉันระบุไปว่าเป็นของบริษัทอะไรดีล่ะคะ?)
“I am your happiness”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 26
Comments