The Bonds of Love (MPREG)
บทที่ 1
ร้านอาหารกลางเมืองที่เจ้านายเขาเป็นคนจองเอาไว้ให้ ในห้องจัดเลี้ยงโซนวีไอพี
งานใหญ่ขนาดที่ทำให้ทุกคนที่อยู่บริษัทได้โบนัสแน่ๆ สามเดือน+เงินพิเศษ เพิ่งจะจบลง
"ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยครับที่ทำให้งานนี้ผ่านพ้นได้ด้วยดี” บอสที่แสนอบอุ่นกล่าวขอบคุณลูกน้องสิบหกชีวิตในห้องนี้
“เพื่อเป็นการตอบแทน คืนนี้ขอให้กินดื่มกันให้เต็มที่ พรุ่งนี้อนุญาตให้ไม่ต้องเข้าออฟฟิศครับ”
“เย้....” เสียงเฮลั่นห้อง
ทำเอาเซียวจ้านหัวเราะกับท่าทางดีใจเกินเหตุของพวกน้องๆ
“เต็มที่เลยนะ” บอสนั่งลงแล้วทุกคนก็เริ่มดื่มกันต่อ
“จ้าน” เซียวจ้านเดินไปข้างๆ บอส
“ครับ...”
“อันนี้บัตรเอาไว้เคลียร์ค่าใช้จ่ายนะ แล้วก็ขอบคุณมากๆ นะครับ เก่งมาก” บอสตบบ่าเขา
เพราะบอสให้โอกาสเขา พี่อี้โจวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ หันมาพยักหน้า
“ครับ” เซียวจ้านยิ้มกว้าง
รู้สึกเหมือนตัวเองประสบความสำเร็จไปอีกขั้นนึงแล้ว
สักพักบอสกับพี่อี้โจวก็ขอตัวกลับ
“กลับดีๆ นะครับ” เซียวออกมาส่งที่หน้าร้าน
“เราด้วยนะ” พี่อี้โจวหันมาพยักหน้าให้
ถ้าทั้งออฟฟิศรู้จักเซียวจ้านมากพอเท่าที่อี้โจวรู้จักทุกคนอาจจะแปลกใจ
แต่ตอนนี้รุ่นน้องเขาเปลี่ยนไปมาก มากกว่าตอนที่เขาเจอ
“พี่จ้าน” จื่ออิงหันมาเห็นเขาที่เดินเข้ามาให้ห้องพอดี เดินมาลากเขาทั้งที่ตัวเองเริ่มเมามากแล้ว
“ดื่มครับ ดื่มให้หมดแก้วเลย” เซียวจ้านพอจะรู้ว่าน้องๆ เป็นพวกทโมน ชอบเล่นอะไรแผลงๆ
“วอดก้ากับเบียร์” อี้ป๋อบอกเขา แววตาเด็กๆ ที่มองจ้องมาอย่างลุ้นๆ ทำให้เขาตัดสินใจกระดกรวดเดียวหมด
“วู้.....พี่จ้าน” เสียงโห่ร้องรอบๆ ทำให้เซียวจ้านหัวเราะ
“....” เขาเป็นพี่จ้านที่สุภาพ ใจเย็นของน้องๆ เสมอ
“พี่ต้องดื่มเยอะๆ” จั่วเฉิงกำชับแล้วส่งแก้วให้เขาอีก
.
.
.
“ดื่มโหดเหมือนโกรธใคร” อี้ป๋อหันมาบอกกับเซียวจ้าน
เมื่อเจ้าพวกลิงเริ่มกรอกวอดก้าใส่ปากเพื่อนที่เล่นเกมแพ้ เสียงโห่ฮาตัวอยู่เป็นระยะๆ
“ไม่ไปเล่นกับเขาบ้างละ” อี้ป๋อส่ายหน้า
“ผมกินเบียร์ ไอ้พวกนั้นกินวอดก้า” เซียวจ้านพยักหน้า
“พี่ก็ดื่มเลยนะ เดี๋ยวผมไปส่งเอง” เซียวจ้านพยักหน้า ปกติเขาเองก็ติดรถอี้ป๋อกลับบ้านอยู่บ่อยๆ
“ดื่มมากไม่ค่อยได้แล้ว ไม่ค่อยได้ดื่มนานๆ พอดื่มหนักมันเมาง่าย” อี้ป๋อเอียงคอมองคนที่กินวอดก้าไปห้าช็อตติดๆ กันเมื่อครู่แล้วหัวเราะ
จริงอย่างที่พี่อี้โจวเคยแซว พี่จ้านไม่ธรรมดา
ก่อนจะกลับเซียวจ้านเคลียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จแล้วเจ้าของร้านที่รู้จักกันยังส่งไวน์มาให้กินอีกขวด
“ผมดื่มหลายอย่างแล้วนะครับ” แม้ว่าจะอย่างนั้นรอยยิ้มพิมพ์ใจก็ยังมีประดับอยู่บนใบหน้าหวานๆ
“อันนี้ผมได้มาจากเพื่อนเลยนะ ผมจะให้คุณลองหลายทีแล้ว” ถึงจะไม่อยากดื่มแล้วแต่ก็ยังรับมา
เอาวะ เมาสักวันคงไม่เป็นไรพรุ่งนี้ก็ไม่ได้เข้าออฟฟิศอยู่แล้ว
.
.
.
“กลับดีๆ น้า...” เสียงเซียวจ้านร้องบอกน้องๆ ที่ทยอยกลับกันไป บางคนขึ้นรถเพื่อน บางคนขึ้นแท็กซี่
“พี่น่ะ...ไหวมั๊ย” อี้ป๋อมองคนที่ยืนไม่มั่นคง แล้วส่ายหัวเบาๆ
“ไหวสิไหว” ปากบอกไหวแต่ยืนตรงๆ ยังยากเลย
“เสี่ยวป๋อพี่กลับแท็กซี่ก็ได้นะ” สภาพนี้ขึ้นแท็กซี่เขาก็อดระแวงคนขับแท็กซี่ไม่ได้
“ขึ้นรถครับ” พี่อายุมากกว่าพยักหน้าก่อนจะเดินปัดๆ ไปเปิดประตูขึ้นรถ แล้วเอนหัวซบกระจกหน้าต่าง
“....” อี้ป๋อโน้มตัวไปจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้ เซียวจ้านก็ยกมือขึ้นมา
“พี่คาดเองครับ” เซียวจ้านรั้งสายเบลท์ออกมาแต่พอถึงตอนที่ต้องเสียบลงช่องก็ไม่สามารถเสียบได้สักที อี้ป๋ออยากจะแกล้งแต่ก็สงสาร เขาเลยจับมือขาวๆ นั้นกดเบลท์ลงช่องให้
“ขอบคุณครับ ขอบคุณ” คำพูดติดปากของฝ่ายประสานงานสินะ
ระยะประชิดเมื่อสักครู่ทำให้อี้ป๋อได้กลิ่นน้ำหอมของเซียวจ้านที่ผสมกับกลิ่นเหงื่อจางๆ
น่าแปลกที่เขาเป็นพวกจมูกดี บ่อยๆ ครั้งที่คนข้างๆ ใส่น้ำหอมกลิ่นโปรดของเขา แต่อี้ป๋อไม่เคยเอ่ยปากออกไป เพราะมันคงดูแปลกๆ ที่ชมผู้ชายด้วยกันว่าน้ำหอมหอมดี
“...” ใบหน้าขาวๆ เหมือนจะระเรื่อไปด้วยสีชมพูจางๆ ไปทั้งใบหน้าและลำคอ
พอเลี้ยวเข้ามาส่งลานจอดรถใต้ดินตรงหน้าลิฟต์ เขาก็หันไปมองเซียวจ้านที่ยังกอดกระเป๋าเป้อิงหัวกระจก
“พี่จ้านถึงแล้วครับ” เจ้าตัวปรือตาขึ้นมอง ก่อนจะหันไปมองรอบๆ
“อ่า....แต๊งกิ้วนะเสี่ยวป๋อ” เสี่ยวป๋อมาหลายรอบแล้ว ปกติต่อหน้าคนอื่นๆ พี่จ้านไม่เรียกเขาแบบนี้
เพราะอี้ป๋อจะเป็นพวกหน้าเรียกแขกเสมอ แต่ฝีมือการทำงานของเขาที่เข้าตาบอสกับพี่อี้โจวมาๆ ถึงได้เป็นดรีมทีม
“....” อี้ป๋อมองคนที่เดินลงจากรถไปกดลิฟต์แล้วอิงผนัง
พอประตูลิฟต์เปิดออกก็ยังยืนอยู่ที่เดิม อี้ป๋อเลยตัดสินใจจอดรถให้เรียบร้อยแล้วเดินมาจับต้นแขนเซียวจ้านให้ยืนดีๆ
“พี่เมามากเลยนะเนี่ย”
“เสี่ยวป๋อยังไม่กลับเหรอ” คนเมาก็เงยหน้าขึ้นมอง
“ชั้นไหนครับ” ถึงเขาจะมาส่งเซียวจ้านที่นี่บ่อยแค่ไหนก็ตามแต่เขาก็มาส่งแค่ที่จอดรถเท่านั้น ไม่เคยรู้ว่าเจ้าตัวอยู่ชั้นไหน ห้องไหน เพราะเขาเองก็ค่อนข้างมีขอบเขตกับคนตรงหน้าประมาณหนึ่ง
“ชั้นเก้า” เซียวจ้านยิ้มกว้างก่อนหันไปจิ้มผนังลิฟต์เล่น
“ทางไหนครับ”
“ทางนั้น” เซียวจ้านชี้มือ
อี้ป๋อประคองร่างที่เป๋ไปมาให้เดินตรงๆ กว่าเก่า แล้วก็นึกในใจว่าเขาจะต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้แกล้งรุ่นพี่คนนี้ให้ได้เลย
“ทำไมมันไขไม่เข้า” แว่นตาใสๆ ตกมาอยู่ที่ปลายจมูก
“ผมช่วย” เขาคว้ากุญแจมาไขเอง พอเปิดประตูเข้าไป ไฟอัตโนมัติหน้าห้องก็เปิด
“นั่งนี่ก่อนครับ”
“โอ้...ขอบคุณนะ” เซียวจ้านคว้ารีโมตแอร์มาเปิดก่อนจะปาไปไว้ที่โซฟาอีกตัว
“น้ำครับ นี่ผ้าเย็น” อี้ป๋อเปิดตู้รินน้ำพร้อมกับหยิบผ้าเย็นมาส่งให้
แต่เหมือนคนเมาจะทิ้งกายลงแล้วหลับทันที
รองเท้าก็ไม่ถอด กระเป๋าเป้ก็ยังอยู่ที่ไหล่
อี้ป๋อไม่คิดว่าคนอย่างเซียวจ้านจะเป็นได้ถึงขนาดนี้
เมื่อตอนงานเอ้าติ้งที่ต่างจังหวัดครั้งก่อน
พวกเขาดื่มกันจนเมา เรียกว่าเมาเละเทะเลยก่อนที่สติจะดับไป
พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าทุกคนถูกพากลับห้องพักแล้วเรียบร้อย โดยฝีมือขอเซียวจ้านคนนี้เพียงคนเดียว
“ถอดรองเท้าก่อนครับ” พอสะกิดบอกเจ้าตัวก็ค่อยๆ ดันตัวขึ้นมานั่งแล้วช้อนตามองเขา
เอาจริงๆ เขาไม่เคยเห็นมุมนี้มาก่อน
ไอ้สายตาขี้อ้อนกับเสียงหวานๆ ที่พี่อี้โจวแน่ะว่าให้เอาไปใช้กับลูกค้ามันเป็นแบบนี้เองเหรอวะ
“....” พี่จ้านถอดรองเท้าออกแล้วดึงถุงเท้าออกเอง ก่อนจะยัดๆ มันลงในรองเท้าและดันมันหลบไปอีกทาง
“เสี่ยวป๋อ พี่โอเคครับ กลับได้แล้ว” เสียงที่อ่อนโยนบอกกับเขา แต่ดวงตาฉ่ำ ใบหน้าแดงๆ นั้นกำลังทำให้เขาใจอ่อนยวบยาบ
พอย่อตัวลงนั่งข้างแล้วเอาผ้าเช็ดไปตามใบหน้า ลำคอไปจนถึงแผงออก
คนที่นอนเฉยๆ ให้เช็ดก็ยิ้มให้
“ดีจังเลยนะ ใจดีจัง” ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว...
หวังอี้ป๋อสะดุดกับรอยยิ้มแบบนี้ของพี่จ้านทุกทีเลย
คนเช็ดถึงหายใจเข้าลึกๆ กับรวบรวมสติที่ดูจะกระเจิดกระเจิงไปกับรอยยิ้ม
อี้ป๋อปลอบตัวเองว่าเขาน่าจะห่างจากเรื่องบนเตียงนานไปหน่อย
พอเห็นพี่จ้านเวอร์ชั่นนี้แล้วอดคิดลามกไม่ได้จริงๆ
ปกติพี่จ้านเป็นคนสดใส แถมพูดเก่ง ช่างเอาใจใส่คนอื่นๆ เขาเลยมองว่าพี่จ้านเป็นเหมือนพี่ที่น่ารักมาตลอด
จนตอนนี้
เขาค่อยๆ โน้มตัวไปแตะริมฝีปากเข้ากับปากบางสีชมพูอ่อนนั้นอย่างเผลอไผล
เซียวจ้านหลับตาลง อี้ป๋อที่คิดว่าถ้าแตะเบาๆ สัมผัสเพียงแผ่วเบาก็พอจะทำให้เขาหยุดความอยากรู้ว่าปากพี่จ้านจะนิ่งขนาดไหน
หากแค่เพียงแตะเบาๆ ร่างกายของเขาก็เริ่มกดเน้นให้อีกฝ่ายเปิดอ้ารับลิ้นเข้าไปสำรวจ
“....” ทำไมมันต่างจากจูบที่เคยเป็นมา
ยิ่งจูบคนข้างล่างเองก็โต้ตอบ
เซียวจ้านน่ะเมาแน่นอน เขารู้
แต่ตัวเขาเองละ...
อี้ป๋อลงความเห็นให้ว่าเขาเองก็เมาเหมือนกัน
ความยับยั้งชั่งใจถูกทำลายลงเมื่อมือของพี่จ้านยกขึ้นมาแตะที่อกของเขาก่อนจะโอบรอบคอ
มือของอี้ป๋อเองก็ทำหน้าที่ปลดกระดุมของคนข้างล่าง ทั้งยังลูบไล้ไปตามผิวเนียนๆ พาดผ่านยอดอกให้เซียวจ้านครางรับในลำคอ
“พี่จ้าน...” เขาเรียกชื่ออีกคนเมื่อเขาปลดปลดเข็มขัดรุ่นพี่ออกแล้วรั้งกางเกงลง
“...” เซียวจ้านไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไร เขาโอบกอดหวังอี้ป๋อเอาไว้ ตอบรับด้วยจูบที่มอมเมาให้ความต้องการทะยานสูงขึ้น
ไม่รู้ว่ากางเกงของอีกฝ่ายหลุดไปเมื่อไหร่ แต่เซียวจ้านก็ลูบไล้ลงไปถึงแก่งกายที่กำลังขยายตัวเต็มมือของเขา
“พี่มีถุงมั๊ย” อี้ป๋อไล้จมูกไปมากระซิบถาม
“ไม่มี” เซียวจ้านส่ายหน้า เพราะเขาไม่เคยพาใครมาที่นี่ และไม่ได้มีใครมาตั้งแต่ตอนนั้น
“งั้นผมไม่ใส่นะ” เซียวจ้านไม่รู้ตัวว่าตอบว่าอะไร แต่คนข้างบนก่อนขยับตัวลงไปจ่อที่ทางเข้า
หากแต่เมื่อเพียงส่วนปลายเข้าไป อี้ป๋อแทบจะปลดปล่อยออกมา
“พี่จ้านอย่าเกร็ง” เขาเสียวจนแทบสุด หากแต่พอกดเข้าไปจนสุดแล้วแช่ค้างเอาไว้ พี่จ้านก็คล้ายจะผ่อนคลายมากขึ้น เขาจึงรอดพ้นจากการล่มปากอ่าว
“อื้อ....” พออี้ป๋อดันเข้าไปอีกครั้งเหมือนจะโดนจุดวาบหวามของเซียวจ้านเข้า เขาเลยเน้นลงไปอีกครั้งและอีกครั้ง
“อื้อ....อ่ะ” พอเห็นรุ่นพี่เริ่มตอบสนองต่อสัมผัส อี้ป๋อก็เริ่มขยับตามที่ร่างกายเรียกร้อง
ความรู้สึกที่ได้รับมันแปลกใหม่กว่าที่เคยพบเจอ
ภายในที่เต้นตุบตอดรัดเขา ทั้งร่างกายที่โอบกอดเขายามนี้ จูบที่เร่าร้อนและอ่อนโยนในคราเดียวกัน เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังหลงใหลไปกับร่างกายของพี่จ้าน
“จะถึง” อี้ป๋อรั้งรูดส่วนหน้าจนน้ำกามสีขาวทะลักออกมา ก่อนจะเร่งเน้นกดแกนกลางเข้าไปอีกครั้ง
“อ่า....” เขาปลดปล่อยออกไปแล้ว ภายในยังอุ่นและตอดรับอยู่
อี้ป๋อกดจูบที่ข้างขมับรุ่นพี่
“...” เหมือนจะหลับไปแล้ว...เขามองใบหน้าที่อ่อนเยาว์กว่าอายุ
เขาสองคนทำอะไรลงกัน...
หลังจากปลดปล่อยความใคร่ สติของอี้ป๋อก็กลับมา
ข้อหนึ่งเขายอมรับว่าเขาล่วงเกินเซียวจ้านที่เมา
ข้อสองเขาไม่แน่ใจว่าเซียวจ้านมีคนคุยอยู่มั๊ยในตอนนี้
ข้อสามถ้าสิ่งที่พี่อี้โจวเคยพูดเป็นจริง พี่จ้านเป็น (MPREG)
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 30
Comments