Episode 18

ถึงกำหนดวันสัมภาษณ์พลอยมายาตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว

และทบทวนการพูด การวางตัวของเธออีกครั้ง หญิงสาวเลือกที่จะแต่งตัวเรียบง่าย

ถูกกาลเทศะ แต่ดูสวย เธอฉีดพรมน้ำหอมแบรนด์เนมมือสองที่ซื้อมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ผมสาวสลวยถูกมัดรวบเก็บอย่างเรียบร้อย ใบหน้าฟ้าประทานของเธอนั้น

แต่งแต้มเครื่องสำอางแค่พองาม

ชุดนักศึกษาที่เลือกมาใส่นั้นก็เป็นชุดที่เรียบร้อยถูกระเบียบ

เสริมด้วยเครื่องประดับชิ้นเล็ก ๆ อย่างนาฬิกา

พลอยมายาสำรวจดูตัวเองที่กระจกอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจออกจากห้อง เพื่อเดินทางไปที่บริษัทของอาชา

พลอยมายาทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง ซึ่งพนักงานนั้นก็ทำการต้อนรับเธออย่างดี

ไม่ใช่เพียงแค่กับเธอคนเดียวเท่านั้น

แต่กับนักศึกษาทุกคนที่มาร่วมสัมภาษณ์ในวันนี้ด้วย

พลอยมายาแอบมองดูคู่แข่งของเธอทีละคน และรู้สึกว่าคนอื่น ๆ

ไม่เห็นจะมีใครน่ากลัวสักคน จากบุคลิกภายนอก

ก็คงต้องลุ้นกันต่อว่าการสัมภาษณ์จะสักแค่ไหนกัน แต่คะแนนด้านบุคลิกภาพนั้น

เธอคงจะกวาดมาจนเต็ม

“คุณพลอยมายาค่ะ”

เสียงพนักงานเดินออกมาเชิญให้พลอยมายาเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ เธอรู้สึกเกร็งนิดหน่อย

เพราะได้เข้าห้องสัมภาษณ์เป็นคนแรก ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องความรู้สึกเย็นเยือกก็คืบคลานเข้ามาปกคลุมทั่วร่างกาย

ภายในห้องมีกรรมการสัมภาษณ์ 4 คน

หนึ่งในนั้นมีอาชานั่งอยู่ด้วย เขากำลังนั่งอ่านเอกสารยื่นสมัครของเธออย่างตั้งใจ

และไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธออย่างคนอื่น ๆ

พลอยมายาเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางให้คนรู้ว่าเธอกับเขานั้นรู้จักกันเช่นกัน

“เชิญแนะนำตัวค่ะ”

หนึ่งในกรรมการสัมภาษณ์ผายมือเชิญ พลอยมายาเริ่มการนำตัวเองด้วยภาษาไทย

ก่อนจะแนะนำตัวเองอีกครั้งด้วยภาษาอังกฤษตามที่เธอได้ซ้อมมา

“โอเค

ถ้าจะนำแบบนี้ ฉันอ่านจากในใบสมัครของเธอหมดแล้ว” ระหว่างที่นักศึกษาสาวกำลังแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษอยู่นั้น

ลูกสาวเจ้าของบริษัทก็แทรกขึ้นด้วยภาษาอังกฤษเช่นกัน

พลอยมายารู้สึกเสียความมั่นใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาให้ใครเห็น

เธอเผลอเหลือบมองอาชาแวบหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเลย

เขาช่วยอะไรพลอยมายาไม่ได้อยู่แล้ว โอกาสที่เขามอบให้มากมายขนาดนี้

หากพลอยมายาไม่สามารถที่จะรักษามันเอาไว้ได้

ก็ถือว่าเธอไม่มีคุณสมบัติพอจะได้รับมัน

“ค่ะ”

พลอยมายาเลือกที่จะหยุดการแนะนำตัว และรอให้คณะกรรมการได้ยิงคำถามใส่

“รู้จักบริษัทเราจากที่ไหนคะ

แล้วทำไมถึงรู้ว่าที่นี่รับเด็กฝึกงาน” คำถามแรกจากผู้หญิงคนเดียวกันกับที่บอกให้เธอแนะนำตัว

“ขอเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะคะ”

พลอยนิลแทรกขึ้น คนถูกรุมสัมภาษณ์เริ่มรู้สึกอึดอัด

เธอมั่นใจแล้วว่าลูกสาวของอาชาต้องเป็นคนที่สาดแต่ภาษาอังกฤษใส่เธอแน่

‘พูดเร็วขนาดนี้ใครจะไปฟังทัน’ พลอยมายาแอบคิดในใจ

“ฉันรู้จักบริษัทสยามจิวเวอร์รี่อยู่แล้ว

เพราะเป็นบริษัทใหญ่ และมีชื่อเสียงทางด้านนำเข้า-และขายประมูลอัญมณี

เนื่องจากตัวเองชื่อพลอย ซึ่งเป็นหนึ่งในอัญมณีเหมือนกันก็เลยอยากทำงานกับที่นี่

จึงเลือกที่จะหาช่องทางการส่งใบสมัคร และเสี่ยงดวงว่าจะรับหรือไม่”

คำตอบของพลอยมายาดูเหมือนจะไม่มีที่มาที่ไปและไม่มีหลักการเอาเสียเลย

แต่กลับได้ใจพลอยนิลไปเต็ม ๆ

“แสดงว่าคุณไม่ได้รับข่าวการรับสมัครอย่างนั้นสิ?” พลอยนิลถามต่อ

“ค่ะ

ฉันมาสมัครด้วยความตั้งใจของตัวเอง” พลอยมายาตอบอย่างมั่นใจ

อาชาที่ฟังอยู่อยากจะยิ้มให้ปากฉีก เขาชอบการตอบคำถามของพลอยมายามาก

มันฟังดูฉลาดและต้องไม่มีใครตอบแบบเธอแน่

เขายังมั่นใจอีกด้วยว่าพลอยนิลลูกสาวของเขาก็น่าจะชอบคำตอบนี้ด้วยเหมือนกัน

“ชื่อพลอยมายาใช่ไหม

งั้นช่วยบอกหน่อยสิว่าอัญมณีพลอยเนี่ย มันมีดียังไง” อาชาถามขึ้นบ้าง

“มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า

เพชรสวยที่ใส ส่วนพลอยสวยที่สี พลอยนั้นมีมากมายหลายสี หลายชนิด และหลายตระกูล

ไม่เหมือนกับเพชร พลอยจึงมีความหลากหลายมากกว่า ไม่น่าเบื่อ ไม่จำเจ

เอาไปประดับกับเครื่องประดับอะไรก็สวย”

“เธอชอบพลอยชนิดไหนมากที่สุด”

พลอยนิลเอ่ยถามเล่น ๆ

“นิลค่ะ

ฉันว่ามันเป็นสีของความลึกลับ น่าค้นหา” พลอยนิลพยักหน้ารับ

เธอไม่คิดว่าคำตอบที่ได้จะเป็นนิลเสียด้วยซ้ำ แต่จะอะไรก็ช่าง

พลอยนิลรู้สึกถูกชะตากับนักศึกษาคนนี้ และรู้สึกว่าเธอตอบคำถามได้ฉลาด

กรรมการคนอื่น ๆ ถามต่ออีก 2-3 คำถาม

พลอยมายาก็ถูกเชิญออกหลังจบการสัมภาษณ์

“นิลชอบคนนี้นะคะ

รู้สึกว่าเขาฉลาดตอบดี” พลอยนิลหันไปบอกกับอาชา

เขากำลังลงคะแนนให้กับเด็กสาวอย่างสบายอารมณ์

“พ่อก็ว่าโอเคนะ

ทักษะการตอบ บุคลิกภาพ การแต่งกาย ทักษะภาษา บวกกับคะแนนเรซูเม่ที่ทำมา

พ่อไม่รู้จะหักอะไรเลย” อาชาพูดเชิงชื่นชมแต่พยายามให้มันเบาที่สุด เพราะกลัวลูกสาวจะจับได้

“นิลก็คิดแบบนั้น

ก็ต้องดูกันอีกทีว่าตอนมาทำงานจริง ๆ จะได้เรื่องหรือเปล่า”

อาชาเลิกคิ้วมองคนพูดอย่างประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าพลอยนิลจะด่วนสรุปขนาดนี้

ทั้งที่ยังเหลือนักศึกษาคนอื่นที่ยังไม่ได้เข้ามาสัมภาษณ์อีกตั้งหลายคน

“นี่นิลจะรับเลยเหรอ

ยังมีคนอื่นอีกนะ” อาชาแกล้งว่า ทั้งที่ใจจริงอยากจะโทรบอกพลอยมายาเสียเดี๋ยวนี้

“บริษัทคุณพ่อรับตั้งหลายคนไม่ใช่เหรอคะ

ไม่รู้แหละคนนี้นิลถูกชะตา นิลรับ” พลอยนิลพูดอย่างเด็กเอาแต่ใจ

อาชาไม่ได้พูดอะไรต่อเขาเพียงแต่ยิ้มกลบเกลื่อน

ไม่นานนักศึกษาคนต่อไปก็เข้ามานั่งที่กลางห้อง

พลอยมายาเดินออกมาจากตึกด้วยใจที่ยังคงเป็นกังวล

เธอไม่ค่อยมั่นใจนักว่าตัวเองจะได้ แม้ว่าจะทำออกมาได้ดีกว่าตอนที่ซ้อมก็ตาม

เธอแอบมองดูอาชาอยู่ตั้งหลายครั้ง แต่เขากลับทำเมินเฉยใส่

แต่พอนึกดูอีกทีเขาต้องแสดงเป็นไม่รู้จักเธอต่อหน้าลูกสาวก็ไม่แปลกที่เขาจะเย็นชาขนาดนั้น

แต่คิด ๆ ดูผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดาเลย เขาแสดงเป็นผู้ชายอบอุ่น

รักลูกสาวได้อย่างแนบเนียน ถ้าเธอไม่ได้ขายตัวให้เขา

ก็คงมองไม่รู้ว่าคนแบบนี้จะเอาเงินมาแลกกับการนอนกับนักศึกษาคราวลูกได้

"คืนนี้ก็ได้ครับบอส..." เสียงของใครบางคนดึงความสนใจจากพลอยมายาที่กำลังเดินเหม่อลอยให้ต้องหันไปมอง

เธอยิ้มขึ้นทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่าย

“ไง”

หลังจากที่เสือวางสายแล้ว เมื่อเขาหันกลับมา พลอยมายาจึงได้เอ่ยทัก เธอไม่รู้ว่า

จะเริ่มอย่างไรดี รู้เพียงว่าคิดถึงเขาเหลือเกินเท่านั้น

เพียงไม่กี่วันที่ไม่ได้เจอกัน แต่เวลามันเหมือนผ่านไปนานเหลือเกิน

“มาทำอะไรเหรอ”

เสือเอ่ยถามขึ้น เขาเองก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

“เดี๋ยวนี้นาย...ไม่ต้องรับส่งฉันแล้วเหรอ”

พลอยมายากระซิบกระซาบถาม เพราะกลัวว่าจะมีคนมาได้ยิน

“เปล่า

ทำไมเหรอ”

“ก็วันนั้นไม่เห็นนายมารับฉันเลย”

พลอยมายาตัดสินใจเอ่ยถามในสิ่งที่ค้างคาใจ

เสือรู้ทันทีว่าพลอยมายานั้นหมายถึงวันไหน เขายิ้มก่อนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“ก็คงจะแบบนั้น

เห็นว่าช่วงนี้เจ้านายเรียกใช้คนอื่นบ่อย ๆ ผมเองก็ต้องคอยรับส่งลูกสาวของท่าน

คงไม่ได้ทำงานอื่นหรอกช่วงนี้” เสือแกล้งว่า พลอยเข้าใจคำว่างานอื่นของเขาดี

แต่ไม่รู้ว่าทำไม พอฟังแล้วมันรู้สึกเจ็บที่หัวใจแปลก ๆ

“งั้นเราคงจะไม่ได้เจอกันเลยสิ”

เธอตัดสินใจถามขึ้น

“ก็บอกแล้วนี่

ถ้าอยากเจอกันก็แค่ทักมา ไลน์ก็ให้ไปแล้ว หรือคุณทิ้งไปแล้วล่ะ”

เขาถือโอกาสนี้หลอกถามอีกฝ่าย พลอยมายารีบส่ายหัวทันที

“เปล่านะ

ฉันไม่ได้ทิ้ง ยังเก็บไว้อย่างดีเลย” เธอรีบปฏิเสธ เพราะกลัวอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด

เสือต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้เต็มที่

เขาเห็นสีหน้าท่าทางของพลอยมายาแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ

แต่ก็กลัวเธอจะรู้ว่าเขากำลังแกล้งเธออยู่

“เหรอ

ก็ไม่เห็นแอดมาสักทีนี่”

“ฉันกลัว....”

พลอยมายาไม่ได้พูดต่อ แต่เสือก็รู้ว่าเธอกำลังหมายถึงอะไร

เขาไม่คิดเลยว่าพลอยมายาจะกลัวอาชาได้มากขนาดนั้น ทั้งที่เรื่องก็ผ่านมาสักพักแล้ว

“อย่าให้เขารู้สิ”

“พูดง่าย

ๆ นายไม่ได้มาเจ็บตัวกับฉันสักหน่อย”

“ถ้าเขารู้

ผมไม่แค่เจ็บตัวหรอก แต่ถึงตายเลยล่ะ” เสือกล่าว พลอยมายาพลันหน้าซีดลงทันที

เธอเชื่อว่าที่เสือพูดมาเมื่อครู่นั้นต้องจริงแน่ คนอย่างอาชาถ้าถูกลูกน้องหักหลัง

เขาคงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนอาจจะสั่งเก็บเสือจริง ๆ

“รู้ทั้งรู้ว่าเสี่ยง

แต่ก็ยังจะทำ” หญิงสาวต่อว่า

“เสี่ยงแล้วคุ้มก็น่าเสี่ยงอยู่หรอกนะ”

อีกฝ่ายพูดอย่างหน้าตาเฉย

ทั้งคู่ยืนคุยกันต่อได้เพียงไม่นานพลอยมายาก็ต้องแยกตัวออกมา

เพราะกลัวใครจะงมาเจอเข้า เธอกลับไปเข้าเรียนตามปกติ

ส่วนเสือนั้นก็อยู่ทำงานจนหมดเวลา เขามีนัดกับหัวหน้าใหญ่

เสือเปลี่ยนรถก่อนจะออกไปตามนัด เขาขับรถหายไปในซอยเปลี่ยวก่อนจะแวะเข้าไปในบ้านหลังเล็กกลางป่าละเมาะ

ที่ลานเล็ก ๆ หน้าบ้านมีรถจอดอยู่ก่อนแล้ว 1 คัน

เสือเดินเข้าไปภายในตัวบ้านอย่างระมัดระวัง

เมื่อเข้ามาถึงก็พบชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ 2-3 คนยืนอยู่รอบ

และมีผู้ชายที่ดูทรงอำนาจที่สุดนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้กลางวงล้อมของชายร่างสูงใหญ่เหล่านั้น

“มากันนานหรือยังครับ”

เสือเอ่ยถามด้วยภาษาพื้นเมืองของประเทศเอจีรัส

คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พลันลุกยืนขึ้นก่อนจะส่ายศีรษะไปมา

“เพิ่งถึงก่อนนายจะมาถึงสักพักเอง”

เขาว่าพลางเดินเข้าไปหามือขวาของเขา

“ไม่เจอกันนานเลยนะ”

อาเธอร์กล่าวก่อนจะยิ้มให้คนตรงหน้า

“ครับ”

เสือเป็นคนของอาเธอร์ ที่ถูกส่งมาเพื่อสืบเรื่องสร้อยพลอยนิล

สร้อยขอมโบราณเส้นที่อาชาหวงนักหวงหนา

เดิมนั้นสร้อยเส้นนี้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวอาเธอร์

พ่อของเขานั้นมีเชื้อสายเขมรเป็นขุนนางใหญ่โต

แต่หลังมีสงครามก็ย้ายถิ่นฐานหนีไปอยู่ที่เอจีรัส ต่อมาสร้อยได้ถูกขโมยไปประมูล

พ่อของอาเธอร์พยายามตามหาเพราะเป็นคำสั่งจากบรรพบุรุษเจรจาขอซื้อจากอาชาอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ

กระทั่งเขาเสนอราคาที่สูงจนพ่อของอาเธอร์ต้องยอมขายสมบัติมาซื้อจนเนื้อประดาตัว

แต่สุดท้ายอาชาก็ไม่ยอมส่งสร้อยพลอยนิลให้กับทางพ่อของอาเธอร์อยู่ดี

ทำให้พ่อของอาเธอร์นั้นฆ่าตัวตายในที่สุด

อาเธอร์และครอบครัวต้องเผชิญหน้ากับความอดอยากเพราะไม่มีอะไรเหลือเลยหลังจากพ่อเขาขายสมบัติทั้งหมดไป

กว่าเขาจะพาครอบครัวให้กลับมามีกินมีใช้อีกครั้ง

คนก็ลืมชื่อของพ่อเขาไปเสียจนหมดแล้ว

“ฉันคิดว่าแผนของเราน่าจะมีปัญหา”

อาเธอกล่าวขึ้น หลังจากได้ทำความรู้จักกับพลอยนิลจนแน่ใจแล้วว่า

เธอไม่สามารถดึงมาเป็นหมากในเกมได้แน่

“พลอยนิลรักพ่อของเธอมาก

คงอยากถ้าจะหลอกอะไรเธอ เพื่อหาผลประโยชน์จากอาชา” อาเธอร์ว่าต่อ

เรื่องนี้เสือเองก็รู้ดีอยู่แล้ว แต่ไม่กล้าที่จะไปเสนอความคิดอะไร

“แล้วแบบนี้...”

“ฉันอยากได้ใครสักคน

ที่อาชาให้ใจพอ ๆ กับลูกสาว และคนคนนั้นไม่ได้จงรักภักดีกับอาชาแบบพลอยนิล”

อาเธอร์พูดขึ้น เขาให้คนไปสืบหาข้อมูลมาแล้ว

และมั่นใจว่าเสือจะเจรจากับคนคนนี้ให้เขาได้

“ใครครับ”

“ผู้หญิงที่อาชาเลี้ยงอยู่ไง

ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร รู้แค่ว่านายเคยไปรับ-ส่งผู้หญิงคนนี้”

เสือรู้ทันทีว่าคนที่เจ้านายของเขากำลังพูดถึงนั่นก็คือพลอยมายา

“คนอย่างอาชา

ไม่จริงจังกับผู้หญิงคนไหนหรอกครับ เลี้ยงเบื่อก็เปลี่ยนคนแล้ว” เสือรีบพูดขึ้น

เขาไม่อยากเอาพลอยมายาเข้ามาเสี่ยงด้วย แค่นี้เธอก็เสี่ยงชีวิตมากพอแล้ว

“ก็ให้มันทำยังไงก็ได้

ให้อาชาเชื่อใจ ฉันยินดีจ่ายไม่อั้น”

“แต่...”

“ถ้านายทำไม่ได้

ก็พาผู้หญิงคนนั้นมาเจอฉัน ฉันจะคุยกับเธอเอง” อาเธอร์ไม่รอให้เสือขัดเขาอีกครั้ง

เขาไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว เขาอยากจะจบเรื่องนี้สักที

อยากเอาพลอยนิลเส้นนี้ไปคืนพ่อ วิญญาณของพ่อจะได้ไปสู่สุคติ

ไม่ต้องมีอะไรติดค้างอีกต่อไป อยากจะสั่งสอนคนขี้โกงแบบอาชา

อยากจะแก้แค้นที่เขาเป็นสาเหตุให้พ่อต้องตาย เสือได้แต่ก้มหน้ารับคำสั่งเท่านั้น

แม้เขาจะไม่เห็นด้วยเลย แต่ในเมื่อมันเป็นคำสั่งของเจ้านาย เขาย่อมขัดอะไรไม่ได้ นอกจากทำตามเท่านั้น

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!