หลังจากวันนั้น
ฉันก็แอบมาร้านนี้อยู่บ่อยๆก็มานั่งคนเดียวนั่นแหละ มาดูเขาร้องเพลง พอเขาร้องเพลงเสร็จฉันก็จะกลับบ้าน
แรกๆอาแก้วก็ว่าแหละ แต่หลังๆไม่ค่อยว่าอะไรละ
อาแก้วจะไม่จู้จี้กับชีวิตฉันอยู่แล้ว เขาจะให้ฉันใช้ชีวิตด้วยตัวเองในโลกกว้างแห่งนี้ได้โดยที่ไม่พึ่งพาใคร
และก็ต้องเอาตัวรอดได้ด้วย มันก็เป็นแบบนี้เหมือนทุกๆวัน มานั่งมองเขา
แต่ก็ไม่ได้อะไรกับเขานะ ก็แค่อยากเห็นเวลาเขาร้องเพลง ก็แค่นั้น..
อาแก้ว
: ข้าวผัด..
ข้าวผัด
: คะ?
อาแก้ว
: อาว่าจะซื้อรถให้หนูซักคัน
ข้าวผัด
: คะ? หนูขับไม่เป็นหรอกค่ะอา
อาแก้ว
: มันจะได้ไม่ลำบากเวลาไปไหนมาไหน แท็กซี่มันก็ใช่ว่าจะปลอดภัยทุกคัน ข่าวก็ออกจะมีให้เห็นบ่อยๆนะ
ก็อยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้ว คงจะชินทางหมดแล้วล่ะ..
ข้าวผัด
: งั้น.. เอามอไซค์ได้มั้ยคะ หนูขี่เป็น..
อาแก้ว
: ห้ะ?
ข้าวผัด
: ก็หนูขับรถยนต์ไม่เป็น
อาแก้ว
: อ่ะ.. มอไซค์ก็ยังดี จะได้ขับไปมหาลัยด้วยจะเอารุ่นไหน เลือกมาให้น้าดูนะ
ข้าวผัด
: ค่ะ..
ก็นั่นแหละ
ได้มอเตอร์ไซด์มาคันหนึ่ง ก็เป็นมอไซค์สไตล์บิ๊กไบค์ แต่ไม่ได้คันใหญ่มากอะไร
ฉันก็แค่ผู้หญิง แล้วก็ไม่ได้สูงอะไรมากมายด้วย ได้มาก็ต้องขับมาเรียน
วันแรกขับเข้ามา คนมองกันเต็มไปหมด มองอะไรกันล่ะ ก็แค่ผู้หญิงขับมอไซค์ แปลกตรงไหนอยู่บ้านนอกฉันแว๊นกว่านี้เยอะเลยนะ
แทค
: ขะ.. ขะ.. ข้าวผัด?
ฉันถอดหมวกกันน็อคออก
ก็เห็นคนที่กำลังเรียกยืนอยู่ตรงหน้า หลังจากนั้นฉันก็ลงจากรถ..
ข้าวผัด
: เฮ้ออ..
“หู้ย..
เท่ห์ชิบหายเลย น้องข้าวผัด”
ข้าวผัด
: หื้อๆ
หัวเราะแห้งๆไปให้
แล้วก็เดินออกมาจากตรงนั้นดีกว่า คนก็มองกันเต็ม และที่สำคัญ ผู้ชายคนนั้นเขาก็ลงจากรถมาพอดีด้วย
พรหมลิขิตรึเปล่านะ เราเจอกันบ่อยเกินไป.. บางทีฉันก็ชอบคิดอะไรไปเอง
แทค
: เดี๋ยวๆ.. รอด้วยดิรีบไปไหนล่ะ
ข้าวผัด
: ไปเรียนมันสายแล้ว จะตามมาทำไม
แทค
: ใจแข็งจังวะ จีบมาหลายเดือนแล้วนะเนี้ย
ข้าวผัด
: โอ้ยย.. วุ่นวาย ไม่ต้องตามมา จะขึ้นเรียนแล้ว
แทค
: หึๆ
ฉันตรงไปห้องเรียนทันที
ไม่รอใครมันทั้งนั่นแหละ ก็เห็นแหละว่าเพื่อนๆนั่งอยู่ข้างล่าง
แต่ไม่อยากจะแวะแล้ว พอพวกมันเห็นฉัน มันก็ตามขึ้นมากัน
เคธี่
: รีบขึ้นมาทำไม เหลือเวลาอีกเป็นครึ่งชั่วโมงนะ
ข้าวผัด
: แล้วพวกมึงจะรีบขึ้นมาทำไมล่ะ
เคธี่
: แหม.. หนีได้หนีไปเถอะมึง
ข้าวผัด
: เฮ้อ.. ทำไม? อยากให้กูมีผัวขนาดนั้นเลยหรอถามจริง
เคธี่
: มึง.. พี่แทคก็ออกจะงานดี
ข้าวผัด
: มึงจะดูผู้ชายแค่หน้าตาไม่ได้ ยิ่งหล่อๆงี้ มีหรอจะไม่มีใคร
เคธี่
: เออ.. ก็จริงนะมึง แต่ไม่หรอกถ้าเค้ามีแฟน ก็คงจะเห็นตามบ้างแหละ
นี่ไม่เห็นจะมีเลยนะ..
ข้าวผัด
: จ้ะ.. รีบก็ไปก่อนเลยนะ กูไม่รีบ กูจะมีผัวตอนอายุ 30
เคธี่
: อ๊ายย.. อินี่.. เสียดายของ มีแล้วไม่ใช้ เอามาให้กูมะ..
ข้าวผัด
: มดลูกนะจ๊ะ ไม่ใช่ขนม ยกให้กันได้ด้วยหรอ?
เคธี่
: ค่ะ!!
มันก็เหมือนๆเดิมเหมือนทุกๆวัน
ที่เลิกเรียนเสร็จก็ไปทำงานที่โรงแรม พอกลับก็แต่งตัวออกจากบ้านแบบนี้ทุกวัน
ไม่รู้ว่าฉันมานั่งดูเขาร้องเพลงแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ เขาจะสังเกตบ้างมั้ย ว่าฉันมาดูเขาทุกวันแบบนี้
แต่วันนี้เขาไม่มาหรอจะสามทุ่มแล้วนะ ทำไมเขาถึงยังไม่ขึ้นร้องล่ะ?
ข้าวผัด
: พี่คะ..
“ครับ..
ว่าไงน้อง?”
ข้าวผัด
: วันนี้นักร้อง..
“คงจะหมายถึงไอ้เอซ..
วันนี้มันไม่ขึ้นน้อง ไม่ต้องรอหรอก กลับบ้านก็ได้นะ มันไม่มา..”
ข้าวผัด
: อ๋อ.. หรอคะ ขอบคุณนะคะ..
ทำไมวันนี้ไม่ขึ้นนะ มีอะไรรึเปล่า ไม่มาด้วย เป็นอะไรรึเปล่านะ เฮ้อ..
กลับบ้านก็ได้วะ แล้วก็เรียกเช็คบิล กลับบ้านดีกว่า
ข้าวผัด
: เอ้า.. กุญแจรถก็ไม่หยิบมาด้วย อิข้าวเอ้ย..
ก็ต้องได้เดินกล้บเข้ามาเอาอีก..
โอ้ย.. เดินถึงรถแล้วจริงๆเลย ความขี้ลืมนี้นะ
“อ่าว..”
ข้าวผัด
: หึ!
“เห้ย..น้องอย่าเข้าใจผิดนะ พี่ไม่ได้ไล่ลูกค้านะ แต่ไอ้เอซมัน..”
ข้าวผัด
: ค่ะ.. เข้าใจ ขอตัวนะคะ
ทำไมต้องโกหกว่าไม่ขึ้นด้วย
ทั้งๆที่ตัวเองก็อยู่บนเวทีแล้วตอนนี้ ไม่ชอบขี้หน้าฉันขนาดนั้นเลยรึไง
ไม่ชอบที่ฉันตามอยู่แบบนี้สินะ คงรำคาญกันมากสินะ ถึงกับต้องบอกให้คนมาไล่ฉันกลับ
อยู่มหาลัยก็แทบจะไม่มองหน้า ถึงจะไม่รู้จักกันก็เถอะ แต่ก็ต้องจำกันได้มั้ย
ฉันก็มานั่งดูเขาทุกวัน.. โอเค จะไม่มาให้เห็นหน้าอีกเลย.. ไอ้ผู้ชายใจร้าย!
นับตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว
ฉันก็ไม่ไปที่ร้านนั้นอีกเลย ในเมื่อไม่อยากเห็นหน้า ฉันก็จะไม่ให้เขาได้เห็นเหมือนกัน
เกรซ
: เป็นอะไร ทำไมเวลาพี่เอซมาแกต้องหนีด้วย ทุกทีเห็นจ้องเค้าอย่างกะอยากจะกินเค้างั้นน่ะ
ข้าวผัด
: ก็เปล่า.. ไม่อยากเห็นหน้า
เกรซ
: ห๊ะ?
ข้าวผัด
: ตกใจทำไม?
เกรซ
: ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่แบบนี้
ข้าวผัด
: หรอ? ไม่รู้สิ
เกรซ
: แต่คิดได้แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ อย่าไปยุ่งกับเค้าเลย
ข้าวผัด
: เออ..
จะไม่ยุ่งอีก
ไม่ยุ่งอีกเลย เชอะ! คิดว่าหล่อมากมั้ง หล่อตายแหละ
ข้าวผัดจะไม่ยุ่ง ไม่ยุ่งก็คือไม่ยุ่งจริงๆ
เกรซ
: ทำไม? วันนี้พี่เอซมากินข้าวที่นี่ได้วะ
ฉันก็หันไปทางซ้าย ไม่มีใคร หันไปทางขวาอีกที ก็เจออิเกย์คนนี้ยืนอยู่
ข้าวผัด
: มึงถามใคร?
เกรซ
: อินี่.. ก็อยู่กันสองคน
ข้าวผัด
: กูจะรู้มะ ไม่รู้โว้ย.. ไม่อยากรู้ด้วย แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจไป.. ซื้อข้าว
พวกมันไปหมดแล้วเนี้ย
เกรซ
: เออ.. เกรี้ยวกราด อินี่..
ซื้อข้าวเสร็จก็มานั่งกินข้าว
ฉันก็ไม่ได้สนใจเขาหรอก จะไม่สนใจ ก็คือไม่สนใจแล้ว
เคธี่
: พี่เอซเค้ามองมาทางนี้รึเปล่ามึง?
เกรซ
: กูก็ว่างั้นแหละ เห็นจ้องตั้งแต่เราเดินเข้ามาแล้วนะ นี่อิข้าว ไปทำอะไรไว้ ทำไมพี่เค้าต้องจ้องขนาดนั้น?
ข้าวผัด
: ไร้สาระ เค้ามองอะไรอยู่รึเปล่า
เคธี่
: ไม่แล้วล่ะ เค้ามองมึงนั่นแหละ
ข้าวผัด
: มองทำเหี้..
เกรซ
: นี่ๆหยุดเลยนะ ตบปากนะ ผู้หญิงบ้าอะไร พูดจาไม่เพราะ
ข้าวผัด
: กินข้าว! จะได้รีบไป คุยอยู่นั่น
เกรซ
: เออ!
ก็รีบกินจนเสร็จ
เสร็จแล้วฉันก็ว่าจะเดินออกมาก่อน แต่อิพวกนี้ก็จะให้รอ แล้วก็กินช้ามากกก..
ข้าวผัด
: กูไปเข้าห้องน้ำรอนะงั้น
เคธี่
: เออ.. เชิญค่ะ อย่าหนีไปก่อนนะ รู้กูตบนะ เข้าห้องน้ำเสร็จมาหากูตรงนี้ด้วย
ข้าวผัด
: เออ!
ฉันก็เดินมาเข้าห้องน้ำที่โรงอาหารนั่นแหละ..
ไม่อยากนั่งอยู่ตรงนั้นนานๆเงยหน้าขึ้นมาก็เจอคนจ้องหน้า มันไม่โอเค
ข้าวผัด
: ขอทางด้วยค่ะ..
“เดี๋ยว.. นี่หรอ อิข้าวผัด!”
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 65
Comments