คอยคุ้มกัน|Harwin​|{House​ ​of ​the​ Dragon}​

คอยคุ้มกัน|Harwin​|{House​ ​of ​the​ Dragon}​

คอยคุ้มกัน[1]|Harwin​|

เซอร์ฮาวิน สตรอง ถูกปลดจากการเป็นทหารและถูกผู้เป็นบิดาอย่างลอร์ดไลโอเนลลากตัวกลับฮาเรฮอล แต่ก็ไม่วายที่จะถูกตามมาฆ่าปิดปาก คำคืนแสนเงียบสงบในปราสาทของฮาเรฮอลถูกวางเพลิง ไฟสีส้มกองตัวจากฟางเส้นเล็ก โหมกระหน่ำกลายเป็นพายุลูกใหญ่ ฮาวิน พยายามหาทางรอด แต่ประตูและหน้ากับถูกปิดตาย เขาหมดหนทางหนี และผู้เป็นบิดาอย่างลอร์ดไลโอเนล ก็จมลงไปในกองเพลิงเสียแล้ว ข้ารับใช้มากมายค่อยๆล้มตายด้วยควันไฟหรือไม่ก็ถูกไฟไหม้ร่าง หรือสิ่งของหล่นทับใส่

ฮาวินหมดหนทางเขากำลังจะตาย อัศวินที่แข็งแกร่งอย่างเขากลับมีจุดจบที่แสนน่าสมเพชในกองเพลิง เทพทั้งเจ็ดคงไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่เป็นแน่ นี้อาจเป็นผลของกรรมที่เขาแอบเป็นชู้กับเจ้าหญิงเรนีร่า ไฟสีส้มเริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น ความตายคืบคลานเข้ามาในไม่ช้ามันคงแผดเผาร่างของอัศวินหนุ่ม ฮาวินขบตาแน่นรอรับความตายที่เทพประทานมาให้ ความร้อนระอุจากไฟสัมผัสถึงผิวหนังหางตามีนํ้าสีใส ในความคิดสุดท้ายที่สมองจะสามารถทำงานได้คือการ ระลึกนึกคนึงหาใบหน้าของลูกชายทั้งสาม เจเซริส ลูเซริส และจอฟฟรีย์ ฮาวินคงไม่มีโอกาสได้พบเด็กสามคนนั้นอีกแล้ว 

มันจะไม่มีวันอีกแล้ว ผู้เป็นพ่อไม่อาจสะกดนํ้าตาไว้ได้ ใบหน้าขอหญิงสาวผู้เป็นยอดดวงใจ เรนีร่า เธอจะเป็นสตรีหนึ่งเดียวในใจของเขา เธอคือราชีนีของเขาและจะเป็นแบบนั้นไปตลอด ตำแหน่งของราชีนีจะไม่มีใครมาแทนที่เธอได้ สุดท้ายแล้วเปลวเพลิงสีส้มก็มาถึงตัวของอัศวินหนุ่ม

"หวังว่าชาติหน้าข้าจะได้ครองคู่กับท่านเรนีร่า ยอดรัก"

นั้นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่เปลวไฟจะแผดเผา

นั้นคือสิ่งที่คิดว่ามันเป็นคำพูดสุดท้าย แต่แท้จริงแล้วกลับไม่ใช่เลยสักนิด ฮาวิน รู้สึกตัวขึ้นร่างกายของเขาหนักอึ้งด้วยความเจ็บ เขากำลังอยู่ในกองเพลิงรอรับความตายจากเทพทั้งเจ็ด แต่ทำไมตอนนี้ถึงมานอนอยู่บนเตียงขนแกะสีขาวนวล แถมทั้งร่างยังมีผ้าพันแผลกับกลิ่นของสมุนไพรอีก ก่อนที่ฮาวินจะได้ครุ่นคิดไปมากกว่านั้น เสียงประตูของห้องที่เขานอนอยู่ก็ดังขึ้น

ร่างของเด็กหญิงวัยสิบสี่ปีกำลังถือถังนํ้าใบเล็กที่ด้านในมีผ้าและน้ำ สีหน้าของเธอเมื่อเห็นเขาฟื้นขึ้นราวกับเทพประกาศชัยชนะ"คุณฟื้นแล้ว! โอ้เทพทั้งเจ็ด! หนูคิดว่าคุณตายซะแล้ว"เสียงใสแจ๋วดังขึ้น หล่อนรีบเดินตรงมาหาเขาที่นอนเป็นผักอยู่บนเตียง ฮาวินมองเด็กหญิงตรงหน้า"เธ...ชาว...ฉัน...ร?"เป็นคำถามแรกที่ฮาวินถามคนตรงหน้า แต่เสียงของเขาแหบแห้งเกินไปจนไม่ได้ยินซับ เด็กหญิงวัยสิบสี่รีบหยิบแก้วนํ้าที่หล่อนเตรียมไว้สำหรับผู้ป่วยมอบให้ฮาวินทันที

เขาดื่มอย่างกระหาย นํ้าเต็มแก้วหายไปในพริบตา"ดูท่าจะหิวมากนะคะ"เด็กสาววัยสิบสี่พูดพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ ฮาวินที่พร้อมมีนํ้าเสียงเพิ่มมาแล้วจึงได้ถามใหม่"เธอเป็นคนช่วยฉันหรอ"นั้นคือสิ่งที่เขาสงสัยภาพสุดท้ายคืออยู่ในกองเพลิง แต่พอรู้สึกตัวอีกคืออยู่บนเตียงนุ่ม เด็กสาวพยักหน้า"ใช่หนูช่วยคุณเองแหละ หนูเห็นกลุ่มควันไฟขนาดใหญ่เลยวิ่งตามมาดู พอเห็นไฟไหม้เลยรีบเข้ามาแต่ทางเข้ามันถูกไม้กั้นไว้ ดีนะที่เจ้ากัสมันสามารถพังประตูเข้าไปได้ หนูเลยเข้าไปแล้วเห็นคุณนอนสลบอยู่เลยรีบพาออกมาน่ะค่ะ"เธอไม่ได้โกหก ทักษะการจับผิดของฮาวินเป็นเลิศเขารู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่ได้โกหก แต่ใครคือกัส

ฮาวินขมวดคิ้ว "อ่ะ!อ๋อ ลืมไปๆคุณไม่รู้จักมัน กัส คือหมาป่าโลกันต์ของหนูเอง"เด็กสาวยิ้ม ฮาวินถึงกับชงักความคิด หมาป่าโลกันต์มันอยู่แดนเหนือไม่ใช่รึไง "เธอเป็นคนจากแดนเหนือ"ฮาวินมองเด็กสาวตรงหน้าแต่หล่อนรีบส่ายหน้าปฎิเสธ "เมื่อสองปีก่อนมีพวกพ่อค้า จับมันมาขายเพราะคิดว่าเป็นหมาป่าธรรมดา หนูเลยขอซื้อมันมา หนูพึ่งมารู้ว่ามันคือหมาป่าโลกันต์เมื่อสี่เดือนที่แล้วเอง"ใบหน้าของเด็กสาวเผยความขี้เล่น และเธอก็พูดจริงอีกครั้ง

"พ่อแม่เธออยู่ไหน"ฮาวินถามออกไป การที่เด็กสิบสี่มาอาศัยคนเดียวในบ้านหลังเล็กมันดูแปลกเกินไป สีหน้าของเด็กสาวอ่อนลงจนเศร้า"พวกเขาตายแล้ว พ่อถูกคนของราชีนีอลิเซนสังหาร แม่เสียใจจนล้มป่วยและตรอกใจ"เป็นคำตอบที่ฮาวินไม่คาดคิด ถ้าแค่บอกถูกสังหารคงเดาได้ไม่ยากว่าเพราะอะไร แต่การมีชื่อขององค์ราชีนีแห่งเจ็ดอาณาจักรเข้ามาแล้ว แสดงว่าบิดาและมารดาของเด็กคนนี้คงเป็นคนในวัง

"เธอชื่ออะไร"ฮาวินถาม "วารีเรีย หรือจะเรียกว่า วาเรียหรือวารีก็ได้"เด็กสาวยิ้ม "นามสกุลละ"เขาถาม"ทิวสัน" ฮาวินจำสกุลนี้ได้ เป็นสกุลของขุนนางเล็กที่มั้งมีความคิดเห็นแย้งต่อราชีนีอลิเซน ไม่น่าละถึงโดนสังหาร แต่เขาก็ไม่คิดว่าเจ้าขุนนางเล็กคนนั้นจะมีบุตรสาวที่ดูสดใสและเยาว์วัยขนาดนี้"แล้วคุณชื่ออะไรหรอคะ" เด็กสาวถาม ฮาวินมองก่อนจะลังเล ถ้าเขาบอกชื่อจริงไปจะเกิดเรื่องไหม พวกที่คิดว่าเขาตายแล้วจะกลับมาฆ่าเขาอีกไหมหากได้ยินชื่อ เขาห่วงความปลอดภัยของตัวเอง แต่ห่วงความปลอดภัยของเด็กตรงหน้ามากกว่า

"งั้นหนูขอเรียกคุณว่า อัศวินหมี นะ"สุดท้ายก็เป็นเด็กสาวที่ยื่นการเรียกชื่อ เธอคงเห็นเขาเงียบไปละมั้งเลยตัดสินใจไม่อยากรับรู้ชื่อของเขา ฮาวินที่ได้ยินก็ไม่ได้ว่าอะไร กลับกันเขาดูจะชอบด้วยซ้ำ 'อัศวินหมีหรอ ถ้าเรนีร่าได้ยินเธอจะยิ้มเพราะมันตลกไหมนะ' ฮาวินหยุดชะงักความคิด เขาไม่มีวันกลับไปพบเรนีร่าและบุตรชายทั้งสามได้อีกแล้ว เสียงถอนหายใจของฮาวินดังขึ้น 

เขาคงต้องใช้ชีวิตเงียบๆไปตลอดเสียแล้ว"คือคุณอัศวินหมี"เสียงใสแจ๋วของวารีเรียกสติของเขา ฮาวินมองเด็กสาว"เมื่อกี้คุณคิดอะไรอยู่หรอ"เด็กสาววารีเรียมองหน้าของฮาวิน เธอเห็นเขาหยุดนิ่งไปพอเธอเรียกเขาว่า อัศวินหมี "เปล่าไม่มีอะไร"เขาตอบ เด็กสาวเผยรอยยิ้มหวานก่อนจะลุกขึ้น "คุณหิวอะไรไหมเดี๋ยวเราไปทำอาหารมาให้"ฮาวินเพียงพยักหน้าตอบ วารีเรียที่ได้คำตอบก็รีบวอ่งแจ้นไปครัวทันทีใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม เธอคงดีใจที่มีเพื่อนเล่นเพื่อนคุย การอยู่ตัวคนเดียวกับหมาป่าที่พูดไม่ได้มันค่อนข้างจะน่าเบื่อ

ผ่านไปไม่นานซุปมันเห็ดทัฟเฟิลกับมันฝรั่งทอดและเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ก็ได้มาวางอยู่ที่โต๊ะหัวเตียง ฮาวินมองชิ้นเนื้อสัตว์ที่กำลังร้อนเพราะพึ่งถูกนำขึ้นมาจากหม้อ มันใหญ่เท่าแขนเขาเลยก็ว่าได้ เนื้อชิ้นใหญ่ขนาดนี้แม้แต่ขุนนางบางคนยังไม่เคยได้ริมรสชิมเลยด้วยซํ้า "เนื้อกวางส่วนขา กัสเป็นคนไปล่ามา"วารีเรียยิ้มพร้อมบอกชื่อของสหายรัก ฮาวินมองหน้าของวารีเรียก่อนจะถาม "แล้วหมาป่าโลกันต์ของเธออยู่ไหนละ"วารีเรียยิ้ม"มันออกไปล่ากวางกับหมูป่าน่ะเดี๋ยวก็กลับมา"

​​​​​​​ฮาวินไม่ถามต่อเขาพยุงร่างตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียงโดยมีวารีเรียคอยช่วย นํ้าซุปร้อนถูกตักขึ้นมาและถูกชิม ความร้อนของนํ้าซุปทำให้โล่งคอและความหอมกรุ่นก็เป็นดั่งสมุนไพรหอม เนื้อชิ้นใหญถูกป้อนสู่ปากอดีตอัศวิน เขารู้สึกดีเยี่ยมกับการริมรสเนื้อแสนนุ่ม มันแทบจะละลายในปากก็ว่าได้ ไอร้อนจากๆของมันยิ่งเพิ่มความอร่อย กลิ่นสมุนไพรอ่อนๆช่วยบรรเทาอาการของฮาวินได้หลายครั้ง นี้คงเป็นการทานข้าวมื้อแรกที่รู้สึกมีความสุขที่สุด

หลังจากทานเสร็จวารีเรียก็นำจานชามไปล้างและกลับมาดูแลฮาวินต่อ ท้งสองได้พูดคุยแลกเปลี่ยนหลายๆอย่างด้วยกันแต่คงเป็นวารีเรียมากกว่าที่พูดเยอะและแลกเปลี่ยนความรู้ในธรรมชาติจนฮาวินจำแทบไม่หมด เด็กสาวเล่าถึงการใช้ชีวิตในป่ากับ กัส หมาป่าโลกันต์ เธอเล่าถึงช่วงอายุเก้าขวบต้องฝึกปีนต้นไม้ไปเก็บผลไม้ อายุสิบขวบฝึกจับปลา อายุสิบเอ็ดฝึกทำอาวุธ อายุสิบสองเรียนรู้ธรรมชาติและวิถีชีวิตของสัตว์ อายุสิบสามค้นคว้าความรู้จากการซื้อหนังสือที่พวกพ่อค้าต่างแดนนำมาขาย อายุสิบสี่ฝึกการต่อสู้ถึงแม้จะมีแค่กัสที่เป็นคู่ค่อสู้ให้ก็ตาม

ส่วนฮาวินเขาเล่าแค่เรื่องการทำงานเป็นองครักษ์เป็นอัศวิน และดูเหมือนเด็กสาววารีเรียจะชอบมากซะด้วย ทั้งสองพูดคุยกันไปมาจนฮาวินเผลอยิ้มออกมาหลายรอบส่วนเด็กสาววารีเรียน่ะหรอ เธอยิ้มอย่างกะดูดยามาเลย ไม่มีวินาทีไหนที่เธอหุบยิ้มเลยสักวิเดียว แต่นั้นก็เป็นเสมือนดวงอาทิตย์อีกดวงเพราะรอยยิ้มนั้นสดใสเกินกว่าจะยอมให้ใครมาทำลายได้

ตะวันตกดินราตรีเข้าครอบงำ แต่ฮาวินกับวารีเรียยังคงพูดคุยกันอย่างสนุกจนกระทั้งสิ่งมีชีวิตประจำบ้านได้กลับมาจากการล่าสัตว์ มันเดินก้าวเข้ามาในห้องของวารีเรียที่กำลังนั่งคุยกับฮาวิน สายตาสีแดงสดดูไม่ไหวฮาวินสักเท่าไหร่ "กัส แกกลับมาแล้ว"วารีเรียรีบวิ่งไปกอดหมาป่าสุดที่รักที่เติบโตมากับเธอ หมาป่าโลกันต์สูงเท่าตัวเด็กหญิงวารีเรีย ขนสีขาวนวลราวกับหิมะคือสัญลักษณ์ของมัน

ลิ้นซากเลียใบหน้าเจ้าของด้วยความคิดถึง แต่กลับมอบสายตาที่หวาดระแวงแกผู้ที่นอนอยู่บนเตียงเหมือนผัก "กัสไม่มองคุณอัศวินหมีแบบนั้นสิ" วารีเรียจับใบหน้าของหมาป่าพี่เลี้ยงก่อนจะกอดหอมมันอย่างที่ทำประจำ และดูเหมือนเจ้าหมาป่าก็ยอมต่อความรักจากเด็กสาว มันเลิกมองจิกใส่ฮาวิน"มันดูไม่ค่อยชอบฉันเลย"ฮาวินพูด "เดี๋ยวคุณก็ชิน"วารีเรียพูดพร้อมรอยยิ้ม

นับจากวันนั้นก็ผ่านมาสี่ฤดูเก้าครั้ง[ผ่านมาเก้าปี] ฮาวิน สรอง ใช้ชีวิตอย่างสามัญชนในบ้านหลังเล็กกับ วารีเรีย ทิวสัน เด็กสาวที่ในอดีตเคยช่วยชีวิตของเขาและยังมีเจ้า กัส ที่ตอนนี้มันมาเป็นคู่กัดกับเขาเสียแล้ว ตลอดที่ผ่านมาเก้าปีฮาวินค่อยๆปรับเปลี่ยนและเรียนรู้วิถีชีวิตอย่างวารีเรีย ในทุกวันยามเช้าเธอจะพาเขาไปเดินเล่นในป่าสำรวจและศึกษาต้นไม้นาๆพันธุ์ ในยามเที่ยงจะพาไปหาสัตว์และพากันทำอาหารในครัวเล็ก ยามบ่ายก็พาไปปลูกดอกไม้ที่ซื้อจากพวกพ่อค้าต่างแดนหรือไม่บ้างวันก็พากันนั่งอ่านหนังสือเล่าเรื่องราวของกันและกัน ส่วนยามเย็นคือเวลาอิสระความเป็นส่วนตัวแต่ดูเหมือนฮาวินจะอยู่กับวารีเรียทุกเวลาไม่หนีหายเลยแม้แต่วิเดียว

ถึงแม้บ้างวันการใช้ชีวิตแบบวารีเรียที่เข้าป่าทุกวันเพื่อสะกดรอยหรือล่าสัตว์หรือบันทึกต้นไม้จะเหนื่อยและลำบากแต่เขาก็ดูจะชอบมันมากเสียจนเป็นแบบเดียวกับหล่อนไปแล้ว "อัศวินหมี!"เสียงใสแจ๋วของสตรีวัยยี่สิบสามปีเรียกสติของฮาวินชายวัยกลางคน "มีอะไรลูกหมา"คำเรียกแสนติดปากตลอดเก้าปี นี้คือคำที่ฮาวินมักเรียกวารีเรียคงเพราะเธอซนเหมือนลูกหมา"เราได้ข่าวจากพวกพ่อค้าต่างแดนมาด้วย"วารีเรียรีบมอบกระดาษข่าวให้แก่ฮาวินที่กำลังตัดไม้อยู่ เขารับมันก่อนจะอ่าน

แต่ทว่ายังไม่ทนอ่านจบมือของฮาวินก็สั่นเทา ดวงตาสีสดหมองลงทันที มันคือข่าวการตายของเจ้าหญิงรัชทายาท เรนีร่า ทาร์แกเรี่ยน และการล่มสลายของตระกูลมังกร ในข่าวสรุปทุกอย่างที่ผ่านมาเก้าปี ศึกสงครามระหว่างราชีนีดำและราชาเอก้อนจบลงแล้วไม่มีใครเหลือรอดจากสงคราม มังกรเช่นกันยกเว้นแต่ลูกชายทั้งสองเรนีร่า เอก้อน และ วิเซริส ที่ตอนนี้โตพอจะครองบังลังก์และเป็นราชาคนต่อไป

ฮาวินกำกระดาษแน่นเขาอยู่ในป่ามาเกือบเก้าปีและไม่รับรู้ข่าวสารจากโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย ถ้าวันนี้วารีเรียไม่เข้าไปในหมู่บ้านเพื่อซื้อหนังสือ เขาก็คงไม่รู้ถึงสงครามที่ฆ่าล้างตระกูลมังกร ใบหน้าของแสดงความเศร้าได้ชัดเจนจนวารีเรียมองออก "อัศวินหมี คุณเป็นอะไรรึเปล่า"เธอถามด้วยความกังวล ฮาวินไม่ได้ตอบในทันทีเขาข่มอารมณ์ก่อนตอบ"ไม่มีอะไร ข้าขอตัว"เขารีบเดินเข้าไปในป่า วารีเรียมองแผ่นหลังนั้นจนลับสุดสายตา

ความกังวลเริ่มมีมากขึ้น

ในป่าฮาวินนั่งอยู่ที่ริมธารที่ประจำในการล่าปลา เขาร้องไห้อย่างกลั้นไว้ไม่ได้ หญิงสาวหนึ่งเดียวในดวงใจของเขาจากไปแล้ว จากไปโดยที่เธอไม่รู้ว่าเขามีชีวิตอยู่ ลูกชายทั้งสาม เจซ ลุคและจอฟ ก็ไม่ได้มีลมหายใจบนโลกนี้แล้ว ฮาวินพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ สายฝนเริ่มตกลงจากฟากฟ้าราวกับทวยเทพกำลังหลั่งนํ้าตากับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของตระกูลมังกร เสียงร้องสะอึ้นอื้นถูกกบด้วยเสียงสายฝน ฮาวินกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดในการสูญเสียครั้งนี้ มันดังพอที่เหล่าสัตว์จะได้ยินเสียง

ดวงตาที่ครั้งเคยสุขตอนนี้มันกลับหมองหม่น การสูญเสียคนที่รักไปพร้อมๆกันมันทำเขาใจสลาย ให้ตายเถอะทวยเทพใยกลั่นแกล้งเขาได้โหดร้ายเช่นนี้ ฮาวินหยิบดาบที่มักจะพกติดตัวเสมอขึ้นมา ปอกดาบถูกดึงออก เงาวับวาบของดาบปรากฎขึ้นตรงหน้าของอดีตอัศวิน ในเมื่อเมียและลูกจากไปเขาจะอยู่ไปทำไม

เขามีชีวิตเพื่อดูความสำเร็จของเรนีร่า และบุตรชายทั้งสามแต่ตอนนี้มันจบลงแล้ว ไม่เหลือแล้ว เขาจบสิ้นแล้ว

​​​​​​​แขนแกร่งของฮาวินยกขึ้นปลายดาบแหลมจอที่หัวใจไม่เกินอึดใจมันก็ถูกแทง

ฉึก เลือดสีแดงสดไหลลงตามแรงโน้มถ้วน ฮาวินพร้อมรับความเจ็บปวดแต่นั้นกลับไม่ใช่เขา คนที่ได้รับมันคือผู้หญิงที่กอดเขาจากด้านและใช้ฝ่ามือที่นุ่มนวลนั้นรับคมมีดแหลม เสียงร้องสะอึ้นอืนดังขึ้นเต็มข้างหูของฮาวิน เขารู้ทันทีว่าหล่อนเป็นใคร "วารีเรีย" สายตาเหลือบมองไปยังเจ้าของมือนั้น หญิงสาวที่พาเขารอดจากกองเพลิงกำลังร้องไห้และรับคมดาบแทนเขา 

"ท่านจะทิ้งเราไว้คนเดียวเหมือนกับพ่อแม่ของเราหรอ"เสียงสั่นคลอนดึงสติของฮาวิน ดาบแหลมคมถูกทิ้งทันที ฮาวินหันตัวไปจับที่มือนวลของวารีเรียพร้อมมองใบหน้าของเธอ นํ้าตาอุ่นเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด "วารีเรียเจ้าทำเช่นนี้ทำไม"เขาถามก่อนจะรีบหาผ้ามาห้ามเลือดที่ฝามือทั้งสอง หญิงสาวเพียงร้องไห้"ท่านจะทิ้งเราไปหรอ"เสียงสั่นคลอนของเธอถามซํ้าถึงจุดประสงค์ของฮาวิน

หัวใจของฮาวินราวกับแตกสลายอีกครั้ง เขาทำเธอร้องไห้และนี้คือครั้งแรกที่เขาทำสตรีร้องไห้และยังเป็นสตรีที่ช่วยชีวิตเขาอีก เขาจะฆ่าตัวตายแล้วทิ้งเธอไว้คนเดียวกับหมาป่า ให้ตายเถอะเขามันโง่จริงๆ ลืมไปได้อย่างไรว่าเขายังต้องมีชีวิตอยู่เพื่อดูแลเจ้าเด็กคนนี้ให้ถึงฝั่งฝัน ฝ่ามืออุ่นของฮาวินประครองแก้มนวลขาวที่เปื้อนนํ้าตา "ฉันขอโทษวารีเรีย ฉันขอโทษ"เขารีบเอ่ยขอโทษ ก่อนจะดึงตัวของวารีเรียเข้ามากอด 

เขาเคยสัญญาว่าจะอยู่ดูแลเธอจนกว่าเธอจะเจอคนที่รักและแต่งงาน แต่ความเศร้าและการสูญเสียทำให้เขาตาลอดเกือบฆ่าตัวตายจากเธอไปแล้ว เสียงร้องเด็กสาวยังคงไม่หยุดง่ายๆ ฮาวินกอดอีกฝ่ายไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขารู้สึกที่ได้ทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นไป"ฉันขอโทษ วารีเรีย"เขาทำได้แค่เอ่ยคำซํ้า "ฉันจะไม่ทิ้งเธอแล้ว..ฉันขอโทษ"ฮาวินพูดด้วยนํ้าเสียงที่อ่อนกว่าปกติ นัยตาของเขาสะท้อนภาพของหญิงสาวที่กำลังร้องไห้ในอ้อมกอด ผมสีนํ้าตายาวเปียกชุ่มด้วยสายฝน ใบหน้าขาวนวลเปียกด้วยนํ้าตา ดวงตาสีดำเข้มหุบลง

กองไฟถูกจุดขึ้นในเตาผิงตัวโปรดประจำบ้าน วารีเรียนั่งจมอยู่ในกองผ้าแสนอบอุ่น ส่วนฮาวินกำลังทำแผลให้เธอ และเจ้ากัสที่นั่งจ้องฮาวินอย่างกะจะกินเลือด ตั้งแต่กลับออกมาจากป่าวารีเรียก็ไม่ได้พูดอะไรกับฮาวินอีกเลย และฮาวินก็รู้ดีว่าเขาสมควรโดนแล้ว แผลที่มือได้รับการรักษาอย่างเสร็จสมบูรณ์รอวันหาย ฮาวินมองใบหน้าของวารีเรีย ใบหน้าขาวยังคงมีคาบนํ้าตาในตอนแรก 

มันเจ็บปวดจนไม่สามารถพูดออกมาได้จริงๆ

ฮาวินคิดคำพูดสักพักจนในที่สุดก็ได้พูดขึ้น "วารีเรีย..ฉัน..ฉันขอโทษ"นํ้าเสียงของเขาแทบเงียบจนไม่ได้ยิน วารีเรียไม่ได้ตอบกลับเธอมองเข้าไปในดวงตาของฮาวิน และฮาวินรู้ดีว่าเธอให้อภัยเขาแล้วแต่แค่ยังงอน และสิ่งเธอต้องการในตอนนี้คือกอดฮาวินไม่รีรอให้เกิดคลื่นความโกรธลูกใหม่ เขาเข้ากอดวารีเรียด้วยความอ่อนโยน หญิงสาวซุกเข้าหาตัวของฮาวินมือเล็กที่ยังเจ็บกอดตัวของเขาไว้แน่น มือหนาแกร่งของฮาวินลูบที่ศรีษะของวารีเรีย ต่อให้ผ่านมากี่ปีเธอก็ยังคงเป็นเสมือนเด็กน้อย แต่ทว่าสิ่งที่ฮาวินไม่รู้ในตลอดที่ผ่านมาของวารีเรีย คือความรักใคร่ที่มีต่อเขาที่มันมากเกินกว่าคำว่าคนอยู่อาศัยและคนรู้จัก มากกว่าพี่น้อง มากกว่าสหาย มากกว่าพ่อและบุตร 

มือเรียวเอื้อมไปยังคอเสื้อของฮาวินและพยายามจะปลดกระดุม แต่ไหวพริบของเขาก็ดีพอที่จะหยุดไว้ทัน ฮาวินมองคนตรงหน้า วารีเรียมีสีหน้านิ่งเผฉยผิดกับเขาที่ลนลานอย่างเห็นได้ชัด "วารีเรีย เจ้าจะทำอะไร"ฮาวินถาม เขากำลังสับสนอยู่ๆหญิงสาวตรงหน้าจะถอดเสื้อของเขา วารีเรียไม่ได้พูดเธอำท่าทาง มือซ้ายและขวาผสานกันจนเกิดเสียง

ตับตับ ฮาวินรู้โดยสัญชาตญาญว่าสตรีตรงหน้าตรงการสิ่งใด และสิ่งนั้นชายใดก็ล้วนมอบให้ได้ แต่ฮาวินที่พึ่งจะสูญเสียครอบครัวมามาดๆจะให้มามีอารมณ์กับสตรีอื่นมันก็ไม่ใช่และยิ่งเป็นหญิงสาวที่เขาอาศัยมาด้วยรวมเก้าปีก็ยิ่งแล้วใหญ่ เขาส่ายหน้าและไม่ยอมทำตามที่วารีเรียขอ แต่หญิงสาวก็มีความดื้อดึงพอมือที่ยังเจ็บของหล่อนก้าวเกี้ยวไปยังร่างกายของฮาวิน อดีตอัศวินจับมือของหล่อนไว้เพื่อห้าม

เขาไม่อยากทำมัน เธอไม่ควรบังคับเขา 

​​​​​​​ฮาวินเผยสีหน้าที่ไมพอใจนักกับการกระทำของวารีเรีย และดูเหมือนมันได้ผลเธอยอมสัมผัสตัวเขาและพยักหน้า ร่างเล็กของหญิงสาวกลับไปอยู่ในผ้ามห่มก่อนจะนอนหันหลังบนเตียงนุ่มไม่แม้แต่จะมองหน้าฮาวิน ส่วนเจ้ากัสไม่ต้องพูดถึงมันแสดงสีหน้าขู่ฮาวินเหมือนกับวันแรกที่พบ ฮาวินถอนหายใจเฮือกใหญ่เขาไม่รู้ว่าทำถูกรึเปล่าแต่มันคงดีกว่าที่วารีเรียจะมามีอะไรกับเขา

อดีตอัศวินเดินออกไปจากห้องนอน โดยหารู้ไม่ว่าสตรีที่เขาเพิ่งปฏิเสธกำลังนอนร้องไห้อย่างไร้เสียง

ในอรุณรุ่งฮาวินไม่เห็นวารีเรียแม้แต่เงา เธอตื่นเช้าเกินจนผิดสังเกตุหรือไม่งั้นก็คงไม่ได้นอนทั้งคืน เขาเดินตามหาเธอจนทั่วแต่ก็ไม่มีวี่แววสักนิด ขนาดเจ้ากัสมันยังไม่รู้แล้วเขาจะรู้ไหม ตลอดทั้งวันฮาวินเดินตามหาวารีเรียทั่วทั้งผืนป่าแต่ก็ไม่มีวี่แววอีกตามเคย จนกระทั่งตกเย็นวารีเรียก็ไม่มีวี่แววว่าจะกลับฮาวินไม่เคยรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนขนาดนี้มาก่อนเขากังวลจนว้าวุ่น ก้นนั่งไม่ติดพื้นเลยก็ว่าได้ "หายไปไหนของเธอกัน"เขาบ่นพึมพำ สมองก็คิดไปต่างๆนาๆว่าจะเกิดอันตรายหรือเปล่า

จนเสียงฝีเท้าคุ้นเคยดังออกมาจากทางทิศเหนือปรากฎร่างของหญิงคุ้นตาให้กับฮาวิน เป็นวารีเรียในสภาพมอมแมมเดินกลับมายังบ้าน ฮาวินรีบพุ่งตัวไปหาทันที"เจ้าหายไปไหนมา"เขาถามด้วยอาการร้อนรนและยังคงมีนํ้าเสียงดุ วารีเรียไม่ได้พูดอะไรสายตาของเธอมันอ่อนลงจนผิดสังเกตุ"เจ้าหายตัวไปทั้งวัน คิดประชดข้ารึไงกัน"ฮาวินพูด วารีเรียไม่ได้พูดอะไรตอบ สีหน้าของเธอดูเหนื่อยล้าเต็มทน แถมใบหน้ายังคงเปื้อนคราบนํ้าตา

ฮาวินจับตัวของวารีเรียก่อนจะพบสิ่งที่ผิดสังเกตุ ท่อนล่างของเธอมีรอยคราบสีขาวและคราบเลือดสีแดงดูๆแล้วมันจะไหลออกมาจากร่องของหว่างขา สีหน้าของฮาวินเปลี่ยนไปในทันทีจากตอนแรกที่เตรียมจะดุใส่คนตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าตกใจ "เกิดอะไรขึ้นวารีเรีย"ฮาวินถามเสียงอ่อนลงมาก หญิงสาวตรงหน้าเขาค่อยๆปล่อยนํ้าตาที่อั้ดอั้น ฮาวินรีบดึงตัวของเธอเข้ากอด ก่อนจะพูดคำปลอบประโลม

"พะ..พวกมัน" "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดแล้ว.."ฮาวินราวกับรู้คำตอบ วารีเรียกอดเขาแน่นพร้อมกับร้องไห้ สายตาของฮาวินเต็มไปด้วยความโกรธแค้น จากลักษณะของวารีเรียเขาก็รู้แล้วว่าเธอโดนสิ่งใด และสิ่งที่พวกมันทำเขาจะไม่ให้อภัยอย่างเด็ดขาด ฮาวินปล่อยให้วารีเรียร้องไห้อยู่สักพักใหญ่ เมื่อหญิงสาวเริ่มงียบลงเขาจึงถามขึ้น "พวกมันลักษณะอย่างไร" วารีเรียสะอึ้นืนก่อนจะตอบ "สะ..สวมชุดหนังสัตว์..ผิวแทน..พวกมัน...มีกันหกคน"คำสุดท้ายแทบทำเอาดวงใจของฮาวินสลาย วารีเรียถูกพวกมันหกคนยํ่ายี้ หากแค่สามเขาคงอยากจะตัดหัวมันแต่นี้กลับถึงหก

ฮาวินกอดวารีเรียแน่นเขารู้ว่าสิ่งที่เด็กสาวเจอมันเลวร้ายแค่ไหน 

ในยามดึกดวงดาราส่องสว่างเสียงของชายหกคนกำลังดื่มด่ำกับสุรา พวกมันพูดคำเสียหายที่กระทำต่อสตรีเยี่ยงสัตว์ก่อนจะพากันหัวเราะอย่างไม่รู้ชะตากรรมของตน "เด็กที่พึ่งเจอไปโคตรดีเลยเนอะ"ชายคนหนึ่งพูด "แม่งของดีจัด"อีกคนพูดเสริม "เห็นมานั่งในทุ่งดอกไม้คนเดียวไอเราก็หวังดีไปหน่อยฮ่าฮ่า"ชายอีกคนกล่าว "ตอนนางร้องครางข้ารู้สึกถึงสวรรค์โถ่ทวยเทพใยจึงมอบเวลาให้น้อยนิด"ชายที่ดูเด็กสุดกล่าว"ภาพที่บีบคอนายังตรึงฝังหัวข้าอยู่เลย"ชายแก่สุดกล่าว "งั้นหรอ งั้นต่อจากนี้พวกเจ้าจะเจอกับนรกแล้วละ"เสียงที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง 

ตุ้บ! หินแข็งฟาดเข้าที่หัวของชายแก่สุด ฉึก! มีดเล็กแทงเข้าทีดวงตาของคนที่เด็กสุด ฉวก! มีดอีกเล่มแทงเข้าที่กลางท้องของคนหัวล้าน ปั้ก! ปลายขวานปั้กลงที่ขาซ้ายของชายผมยาว ฉึบ! ดาบใหญ่แทงเข้าทางม้ามของคนไว้หนวดสั้น ตู้ม! ก้อนหินถูกขวางใส่หัวของคนสุดท้าย

เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังขึ้นราวกับเสียงสัตว์นรก  ฮาวินสะกดรอยตามมาจนเจอพวกมันและตอนนี้คือเวลาล้างแค้นให้กับวารีเรีย "พวกแกทุกคนได้ตายเยี่ยงสัตว์แน่"เสียงกรีดร้องดังขึ้นหลังจากนั้น ฮาวินไม่ได้ฆ่าพวกมันด้วยความอ่อนโยนแน่นอน เขาคือ จอมหักกระดูก จะให้ใจดีมันก็ไม่ได้และพวกมันมาทำร้ายคนของเขาอีก 

วันต่อมาข่าวการตายปริศนาของกลุ่มโจนหกคนก็เป็นข่าวทั่วหมู่บ้าน มันจะไม่ดังลยถ้าการตายนั้นไม่สยดสยองจนชวนอ้วก  ในบ้านของวารีเรียและฮาวิน วารีเรียเก็บตัวอยู่ในห้องทั้งวัน ส่วนฮาวินเขาก็ไม่เขาไปยุ่งกับเธอทำเพียงแต่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ยังดีที่เจ้ากัสคอยอยู่ข้างๆวารีเรีย

ผ่านไปหลานยอาทิตย์ วารีเรียก็ไม่ยอมออกมาจากห้องเสียที ส่วนฮาวินเขาก็ทำหน้าที่ดูแลอยู่ห่างๆเขารู้ดีว่ามันทรมานแค่ไหนสำหรับวารีเรีย การเจอเหตุการณ์แบบนั้นมันแย่มากสำหรับสตรีคนหนึ่ง ฮาวินกลับมาคิดทบทวนถ้าหากวันนั้นเขายอมมีอะไรกับวารีเรีย เธอจะไม่ต้องเจอเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ เขานี้มันโง่จริงๆทำผิดพลาดซํ้าแล้วซํ้าเล่าอย่างไม่น่าให้อภัย ในขณะที่กำลังเถียงด่าตัวเองในความคิดอยู่นั้น เสียงประตูบ้านก็ดังขึ้น เป็นวารีเรียที่ออกมาจากห้องในรอบหลายอาทิตย์ ฮาวินเผยรอยยิ้มด้วยความดีใจที่สตรีน้อยของเขาได้ออกมาสูดอากาศภายนอกแต่ วารีเรียมีสายตาที่เศร้าหมอง ไม่สดใสดั่งวันวาน และฮาวินรู้ดีว่ามันเกิดเพราะเขา 

หลังจากวันนั้นมันก็ผ่านมาเกือบ 2 ปีเต็ม เป็นสองปีที่ทรมานสำหรับฮาวินและวารีเรีย เสียงหัวเราะที่เคยมีอยู่ในทุกวินาทีหลมันหายไปแล้ว มีเพียงสายตาที่รอคอยวันตายของวารีเรีย ทุกวินาทีของชีวิตราวกับนรกภาพวันนั้นยังคงฝังตรึงไว้ราวกับตราบาป รอยยิ้มที่สดใสดั่งดอกทานตะวันฮาวินคงจะไม่มีวันได้เห็นอีกแล้ว วันๆวารีเรียจะเก็บตัวอยู่ในห้องนอน จะออกมาก็ต่อเมื่อทานข้าวเท่านั้น ฮาวินที่มักจะได้ยินเสียงใสแจ๋วของหญิงสาว ตอนนี้มันก็เหลือเพียงเสียงในความทรงจำ วารีเรียแทบไม่เอ่ยคำพูดใดๆตลอดสองปี เธอปิดกั้นตัวเองอย่างสมบูรณ์ และราวกับเป็นหญิงใบ้ ทุกคํ่าคืนฮาวินจะได้ยินเสียงร้องไห้ของคนตัวเล็กผ่านหลังบานประตูเสมอ มันเจ็บปวดไม่ใช่น้อย

ในวันเช้านี้ฮาวินกำลังตัดฝืนอยู่เช่นเคยและหวังว่าจะเห็นหน้าของวารีเรีย แต่เขาก็ต้องผิดหวังตามเดิมหญิงสาวไม่ได้ออกมาจากห้องมีแค่เจ้ากัสเท่านั้น  ฮาวินถอนหายใจเฮือกใหญ่ ชาตินี้เขาคงจะไม่มีวันเข้าใกล้วารีเรียหรือได้ยินเสียงนางอีกแล้ว

แต่ทวยเทพก็ยังคงใจดี

​​​​​​​ในยามดึกของวันฮาวินเตรียมบอกฝันดีวารีเรียผ่านประตูไม้อย่างที่ทำตลอดสิบเอ็ดปีแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อประตูเปิดออก วารีเรียในสภาพชุดนอนและผ้าคุมไหล่กำลังจ้องมองเขาอยู่ ฮาวินทำตัวไม่ถูกหากเป็นสองปีก่อนคงมอบรอยยิ้มก่อนจะบอกฝันดีอย่างพ่อหนุ่มกู๊ดบอย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ฮาวินแสดงอาการลนลานอย่างเห็นได้ชัด "คุณอัศวินหมี"เป็นเสียงที่เขาไม่ได้มาสองปีเต็มกำลังเรียกเขา ฮาวินมองใบหน้าของวารีเรียอย่างแปลกใจ 

"วารีเรีย หิวข้าวหรอหรืออยากได้อะรไหม"ฮาวินพูดอย่างติดขัดเขาทำตัวไม่ถูก การไม่ได้พูดคุยกันเกืองสองปีทำเอาฮาวินไปไม่เป็น วารีเรียจ้องมองใบหน้าของฉาวินก่อนจะพูด"ระ..เรา..ต้องการคุณ"คำพูดของวารีเรียทำเอาฮาวินถึงกับชะงัก "ว่าไงนะ"ฮาวินถามซํ้า "เราต้องการคุณ"เธอตอบเช่นเดิม ให้ตายเถอะทวยเทพขยันกลั้นแกล้งข้าเสียเหลือเกิน 

ฮาวินถึงกับถอนหายใจเฮือกยาวเขาไม่คิดว่าวารีเรียต้องการเขา ถึงเธอจะโตพอที่จะมีครอบครัวแต่มันไม่ควรเป็นเขาสิ ตลอดสิบเอ็ดปีวารีเรียไม่เคยรู้ชื่อของเขาด้วยซํ้า แถมเขายังเคยโกหกเธอเกี่ยวกับฐานะจริงๆและชาติกำเนิดร่วมถึงการมีคนรักและบุตรชาย เขาไม่เหมาะกับเธออย่างแรง"วารีเรีย..ข้า..ข้าไม่ใช่บุรุษที่คู่ควร"ฮาวินตอบไปตามตรงเขาเคยทำให้วารีเรียเป็นอย่างไรเขาจำมันได้ และสิ่งที่เธอเป็นทุกวันนี้ก็เพราะเขา เขาทั้งนั้นเลย ฮาวินไม่อยากทำร้ายเธออีก 

"ข้าสามารถหาบุรุษที่เหมาะสมกับเจ้าได้ วารีเรีย" เขาพูดแต่วารีเรียก็พูดสวนทันที"เราต้องการท่าน" ฮาวินถึงกับไปไม่เป็นให้ตายเถอะทวยเทพ

เขาอยากจะบ้าตาย ไอฮาวินจอมหักกระดูกคนนี้อยากจะเอาหัวโม่งโลกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย เขาจ้องมองไปยังวารีเรีย ในเมื่อมันคือโชคชะตาที่ไม่อาจเลี่ยงเขาก็จะเผชิญหน้ากับมัน"เจ้าแน่ใจแล้วหรือ"วารีเรียพยักหน้า คำตอบของนางชัดเจนมาตลอดเพียงแต่เขาโง่เกินกว่าจะรู้

เลือกตอน

กกาวน์โหลดทันที

ชอบผลงานนี้ไหม? ดาวน์โหลดแอพ บันทึกการอ่านของคุณจะไม่สูญหาย
กกาวน์โหลดทันที

โบนัส

ผู้ใช้ใหม่ที่ดาวน์โหลดแอพสามารถปลดล็อค 10 ตอนได้ฟรี

รับ
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!