จักรพรรดินีจำเป็น
" ราชอาณาจักรวินเนอร์เป็นอาณาจักรใหญ่ทางตอนเหนือของทวีป ภาคเหนือของอาณาจักรปกคลุมไปด้วยหิมะซึ่งมีแค่สองฤดูกาลเท่านั้นคือฤดูร้อนกับฤดูหนาว ภาคกลางและภาคใต้ของอาณาจักรมีสามฤดูคือฤดูร้อน กับฤดูหนาวและฤดูฝน
เมื่อสองปีก่อนทวีปแห่งนี้เกิดการบุกของกองทัพอสูรโดยการนำทัพของราชาอสูรจากทวีปปีศาจ ซึ่งสร้างความระช่ำระฉ่ายแก่อาณาจักรต่างๆที่อยู่ในทวีปคลิชโทเนียเป็นอย่างมาก หลายอาณาจักรเกิดความหวาดกลัว ความโกลาหลไปทุขย่อมหญ้า แต่ละอาณาจักรต่างก็เกณฑ์กำลังพลของตนเพื่อออกศึกสงคราม รวมทั้งอาณาจักรวินเนอร์เองก็เช่นกัน
ราชา และจักรพรรดินี ทั้งสองพระองค์ต่างก็เป็นนักรบกันทั้งคู่ ทั้งสองพระองค์ได้รวบรวมกำลังพลตามหัวเมืองต่างๆในราชอาณาจักรของพระองค์ การออกศึกของทั้งสองพระองค์ต่างเป็นที่ประจักรแก่อาณาจักรข้างเคียงด้วยขุมกำลังรบที่มากมายประกอบไปด้วยอัศวินที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่านักพจนภัยระดับอดามันไทร์เป็นจำนวนมาก และความแข็งแกร่งของทั้งสองพระองค์ ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าระดับ อดามัลไทร์ ถึง 2ขั้น
ศึกครั้งนี้ใช้เวลานานมากกว่า 2ปี ในที่สุดกองทัพอสูรก็ถูกตีแตกพ่าย ด้วยกำลังรบหลายอาณาจักรที่ร่วมมือก่อตั้งเป็นกองทัพพันธมิตรกันชั่วคราว ราชันย์อสูรถูกสังหารโดยเหล่าราชันย์ที่กล้าหาร ความสำเร็จในครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าหากขาด ราชันทั้งสอง ราชาและ จักรพรรดินี แห่งอาณาจักรวินเนอร์ ทั้งสองพระองค์เป็นหัวหอกสำคัญในการสังหารราชันย์อสูร หลายอาณาจักรต่างก็ศูนย์เสียกำลังพลของตนไปมากทั้งแม่ทัพและเหล่าทหาร
แต่ที่ศูนย์เสียมากที่สุดคงเป็นอาณาจักรวินเนอร์ ราชาและจักรพรรดินี ทั้งสองพระองค์สิ้นพระชนในขณะที่เข้าโจมตีราชาอสูร เพื่อเป็นตัวล่อให้เหล่าราชารวบรวมพลังบรรจุลงศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ ศาสตราวุธชนิดนี้ถูกเรียกว่าหอกแห่งการชำระล้างมีเพียงผู้กล้าที่มีพลังไกล้เคียงกับเทพเท่านั้นถึงจะใช้งานมันได้แต่ก็มีข้อแม้อยู่ว่า หากผู้ใดที่สามารรวบรวมพลังถึงขั้นนั้นได้ก็จะสามารกใช้งานมันได้หนึ่งครั้งซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีมนุษย์คนใดที่มีพลังทัศเทียมเท่าผู้กล้าเลยซักคน จึงเป็นเหตุให้เหล่าราชาทั้งหลายที่ร่วมต่อสู้รวบรวมพลังบรรจุลงศาสตราวุธ
จึงเป็นเหตุให้ทั้งสองพระองค์ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าระดับอดามัลไทร์ถึงสองขั้น ทุ่มพลังทั้งหมดที่มี เข้าหยุดยั้งถ่วงเวลาให้เหล่าราชาที่ไม่มีพลังถึงขั้นนั้นรวมรวมพลัง แต่ด้วยความแข็งแกร่งของราชาอสูรที่เทียบเท่ากับผู้กล้า จึงเป็นเหตุให้ทั้งสองพระองค์เริ่มต้านพลังของราชาอสูรไว้ไม่ไหว เมื่อเหลือบมองไปหาเหล่าราชา ก็พบว่าการรวบรวมพลังที่จะปลดล็อคเงื่อนไขการใช้ศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์นั้นยังไม่บรรลุเงื่อนไง่
ถ้าหากปลดล็อคเงื่อนไขเหล่านี้ไม่ได้มันก็เป็นเพียงอาวุธธรรมดา ที่ไม่สามรถแม้กระทั่งสร้างบาทแผลให้หมีป่าแรง A ได้เลย ด้วยความที่พลังนั้นไกล้หมดเต็มที จึงต้องกล่าวบอกลาพระสวามีด้วยความเจ็บปวดหัวใจทั้งรักและคิดถึง จักรพรรดินีมอบพลังแห่งชีวิตที่เกลือนกินชีวิตของเธอบีบอัดหลอมรวมเข้ากับศาสตราวุธทำให้ปลดล็อคเงื่อนไขได้สำเร็จ เรือนร่างอันไร้วินญาณค่อยๆล้มลงกับพื้นดินแต่ก่อนที่จะถึงพื้นราชาที่ตอนนี้น้ำตากำลังไหลอาบผ่านแก้มอันยาบก้านเข้าประคองร่างอันไร้วินญาณพร้อมกับไขว่คว้า ศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ไว้ในมือ เหล่าราชาที่รวมรวมพลังต่างก็อ่อนแรงและตกใจกับภาพที่เห็นพวกเข้าไม่คิดว่าจักรพรรดินีนั้นจะยอมสะระชีวิตของตนเองเพื่อมอบพลังแห่งชีวิตเพื่อปลดล็อกเงื่อนไขทั้งที่อีกนิดเดียวแท้ราชาองค์นั้นกำมัดแน่นชักไปที่พื้นด้วยความเจ็บใจต่างก็โทษตัวเองเพราะความอ่อนแอของตนถ้าหากเขามีความแข็งแกร่งพอเหตุการเช่นนี้ก็อาจไม่เกิดขึ้น บัดสบเอ้ย เข้าอุทานออกมาจากนั้นก็ล้มฟุบไป
,,อันน่าเจ้าช่วยรอข้าสักประเดี๋ยวนะเดี๋ยวข้าก็ตามเจ้าไปแล้ว เจ้ารอข้าก่อนนะ ,, ราชาโอเทอัส ร้องไห้สระอึกสระอื้นด้วยความโหยหาและคิดถึง ทำไม..ทำไม เจ้าถึงชอบทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนี้ทุกครั้งเลยใยบ้าเอ้ย,,ราชาโอเทอัสกระชับร่างที่ไร้วินญาณเข้าสู่อ้อมกอดเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับประทับจูบลงที่มุมปากที่ไร้วินญาณ
พลังจากศาสตราวุธค่อยๆไหลเข้าร่างกายของราชาโอเทอัส ความรู้สึกในตอนนี้เข้ารู้สึกมีพลังมหาสารกำลังวิ่งแล่นอยู่ในกายของเข้า ทวารทั้ง 8 ถูกขยาย กระแสไฟฟ้าวิ่งแล่นทั่วร่าง ศาสตราวุธส่องแสงเรือนรองพร้องกับเสียงดังสนั่นเหมือนฟ้าผ่าของประจุไฟฟ้าที่วิ่งอยู่รอบๆศาสตราวุธ
" ราชาอสูรคิ้วย่นเข้าหากันใบหน้าบูดบึ่งแสดงออกถึงความโกรธเกี้ยว มันคงจะไม่ใช้เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้วที่จะสามารเอาชนะเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งๆที่ผ่านมา เขาสามารรับมือกับราชาเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องออกแรงอะไรมากนักแต่ก็มีอยู่สองคนที่สร้างความลำบากให้กับเขา คิดได้ดังนั้น ราชาอสูรและราชาโอเทอัส ก็พุ่งเข้าฮั่มหั่นกันทันที ทั้งสองสู้รัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นาน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างในที่สุดก็รู้ผลแพ้ชนะ ราชาอสูรถูกหอกศักดิ์สิทธิ์จิ่มแทงเข้าที่ราวนมด้ายซ้ายเข้าพยายามดึงมันออกพร้องกับเปิดใช้พลังฟื้นฟูแต่ก็เป็นที่หน้าแปลกใจเมื่อเขาพยายามดึงมันออกมันกับค่อยๆดูดดึงเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิมราชาอสูรร้องด้วยความเจ็บปวดอีกทั้งพลังฟื้นฟูก็ไม้ได้ช่วยอะไรเลย ราชาโอเทอัสแสยะยิ้มที่มุมปากพร้อมกับกำศาสตราวุธแน่นขนัดมือในช่วงสุดท้ายของราชาอสูร
" แกไอ้ราชาหน้าโง่แกคิดเหรอว่าถ้าข้าตายไปแล้วทุกอย่างมันจะจบ ..หึ..ฮ่า..ฮ่า..ๆ ธิดาของข้าไม่ยอมปล่อยพวกแกไว้แน่ !!!! เสียงประกาศก้าวของราชาอสูรสร้างความตกใจให้กับเหล่าราชาที่ยืนหมดแรงอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ต่อสู้ไม่มากนัก อะไรกันนี่ยังเหลือลูกมันอีกหรือนี่ .
"ราชาอสูรปล่อยมือจากศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์คว้ามือไปจับที่บ่าของราชาโอเทอัสพร้อมกับบีบแน่นไม่ยอมให้หลุดไปได้ง่ายๆ
" 'งั้นเราก็มาตายกันเถอะ,,เมื่อราชาอสูรกล่าวจบก็นำศาสตราวุธคู่กายจ่วงแทงเข้าที่หน้าอกของราชาโอเทอัสทะลุด้านหลังพร้อมกับมีก้อนเนื่อคล้ายกับหัวใจติดออกมาด้วย ร่างทั้งสองล้มฟุบลงตรงนั้นซึ่งเป็นเนินเขาโล่งไม่มีอะไร เหล่าราชาเมื่อเห็นดังนั้นก็วิ่งไปดูอย่างทุลักทุเลเพราะเนื่องจากพลังยังไม่ฟื้นตัว พร้อมกับประกาศชัยชนะให้ทุกคนได้รับรู้ เหล่าอสูรเมื่อรู้ว่านายของตนนั้นได้สิ้นชีพลงแล้วก็วิ่งกระจักกระจายอสูรบางตนที่โดนเวทย์ควบคุมเมื่อถูกปลดปล่อยก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนเพราะถูกทหารพันธมิตรร้อมรอบจึงจัมยอมถูกจับเป็นทาส ทหารพันธมิตรต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายไปทำตามหน้าที่ของตนพร้อมกับประกาศชัยชนะ ให้คนในทวีปนี้ได้รับรู้
" ข้ากษัตริย์แห่งอาณาจักรโคนาสขอสดุดีในความเสียสละของท่านทั้งสองผู้เป็นดั่งผู้กล้าที่ยอมเสียสละชีพของท่านเพื่อปกป้องพวกเรา พระศพของท่านทั้งสองจะถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เหล่าราชาที่ร่วมรบคุกเข่าให้กับการจากไปของสองราชันย์ที่ยิ่งใหญ่เป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับนำพระศพของทั้งสองพระองค์นำกับไปยังอาณาจักรบ้านเกิดของทั้งสอง
.
.
.
............ตัดมาที่เหตุการในราชอานาจักร.................
รายละเอียดอาจจะยังไม่ครบและมีคำผิดบ้างต้องขออภัย ค้าาา.
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 9
Comments