.... : เจอกันเสียทีนะเจ้าค่ะ คุณพี่
ภาพรอยยิ้มของหญิงสาวเมื่อตอนนั้น ปรากฏขึ้นตรงหน้าผม ซึ่งตอนนี้เหมือนผมจะอยู่ในลิฟท์ตัวเดิมที่ลงมากับไอ้กฤษ สถานการณ์เหมือนเดิม ต่างกันที่ตอนนี่ผมอยู่คนเดียว
.... : ดิฉันตามหาคุณพี่มานานแสนนาน ในที่สุดก็เจอคุณพี่เสียที
ผม :.... คุณ.. เป็นใครครับ?
ผมยิงคำถามให้กับผู้หญิงที่ยืนอยู่ห่างจากผมประมาณ 3 เมตร ตอนนี้เธอใส่ชุดนักศึกษาสีขาว กระโปรงดำยาวถึงหน้าแข้ง ดูยังไงก็เป็นนักศึกษาธรรมดาๆ ที่หน้าตาดีคนหนึ่ง แต่สำเนียงการพูดเหมือนคนโบราณ
.... : ดิฉัน รจนาเจ้าค่ะ มิแปลก ที่คุณพี่จะจำดิฉันไม่ได้ เรื่องมันก็นานมาแล้ว กว่า... 100 ปี เห็นจะได้ แต่ดิฉันยังรอและตามหาคุณพี่มาตลอด เพื่อทวงถามถึงคำสัญญาที่คุณพี่เคยให้ไว้กับดิฉัน
ผมคิดในใจ รจนา? 100ปี? สัญญา? นี่ัมันเรื่องอะไรว่ะ
หญิงสาวคนนั้นยิ้ม แล้วเดินเข้ามาใกล้ผม เธอพูดขึ้น
รจนา : ชาติภพนี้คุณพี่คงจำไม่ได้ เดี๋ยวดิฉันจะพาคุณพี่ไปดูเองเจ้าค่ะ
หญิงสาวนามรจนาพูดจบ เธอก็ยกแขนซ้ายขึ้นแล้วโบกมือเป็นวงกว้าง สถานที่ที่ผมอยู่คือในลิฟท์ แต่ตอนนี้สภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนเป็นวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เหมือนมีงานอะไรซักอย่าง เพราะมีผู้คนพลุพลานอยู่เต็มวัด บ้างเดินซื้อของ บางคนเดินเล่น มีเด็กกลุ่มหนึ่งวิ่งผ่านผมไป ผมพยายามหลบแต่ไม่พ้น เด็กกลุ่มนั้นวิ่งทะลุขาผมไป ผมยืนงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนเสียงนึงจะพูดขึ้น
รจนา : คุณพี่ไม่ต้องตกใจนะเจ้าค่ะ ที่เห็นอยู่นี้คือภาพในอดีตชาติของเรา
ผม : อดีต?
รจนา : เจ้าค่ะ
เธอหันมายิ้มให้แล้วชี้นิ้วไปด้านหน้า
รจนา : ตรงนั้นเจ้าค่ะ ดูตรงนั้น
ผมมองตามที่เธอชี้นิ้วไป ก็เห็นหญิงสาวใส่ชุดไทยโบราณ ห่มสไบสีฟ้าใส่เสื้อแขนยาวสีม่วงไว้ด้านใน และใส่โจงกระเบนสีน้ำเงินเข้ม กำลังเลือกซื้อของ ผมมองหญิงในชุดไทยสลับกับหญิงในชุดนักศึกษาที่อยู่ข้างๆผมไปมา
ผม : นั่น.... ดู.. เหมือนคุณเลยนิ?
รจนาหันมายิ้ม
รจนา : เจ้าค่ะ ดิฉันเอง
จากนั้นก็มีชายหนุ่มรูปงามไว้ผมทรงมหาดไทย ใส่ชุดคอกลมสีเหลืองอมส้มมีลายกนกสีแดง ผูกผ้าไว้ที่เอวและใส่โจงกระเบนสีส้ม เดินเขาไปหาหญิงสาวชุดไทยที่หน้าตาคล้ายรจนา
ผมยืนอึ้งอีกครั้ง เพราะชายคนนั้นหน้าตาเหมือนผม!
รจนาในชุดนักศึกษา : มาค่ะคุณพี่ เราเข้าไปดูใกล้ๆกัน
เราทั้งคู่เดินเข้าไปดูชายหญิงโบราณ
ชาย: น้องหญิงเลือกซื้อสิ่งใดอยู่หรือ?
หญิง: คุณพี่.. น้องอยากได้ผักไปทำกับข้าวถวายพระคุณเจ้าวันพรุ่งนี้เจ้าค่ะ
ชาย: พรุ่งนี้เป็นวันพระซินะ เอ๊ะ... อยู่นิ่งๆ ประเดี๋ยวนะน้องหญิง
หญิง: เจ้าค่ะ.?
ชายโบราณเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วเอื้อมมือ เพื่อหยิบเศษใบไม้ที่ติดอยู่บนหัวหญิงโบราณออก ทั้งคู่สบตากัน ปะนึ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหว มีเพียงความรักของสองคนเท่านั้นที่ยังดำเนินต่อ ผมมองดูแล้วก็เผลออมยิ้มตาม ก่อนที่เสียงหัวเราะเบาๆ ของคนติดตามหญิงโบราณจะขัดจังหวะ ทำให้ชายหญิงทั้งสองเขิลแล้วออกห่างจากกัน
ชาย: น้องหญิง.. พอถวายจังหันเช้าเสร็จ น้องไปไหว้พระขอพรกับพี่ได้หรือไม่?
หญิง :.... ได้เจ้าค่ะ คุณพี่
จากนั้นรจนาก็โบกมืออีกครั้ง สภาพแวดล้อมเปลี่ยนเป็นภายในโบสถ์ของวัดซึ่งมีพระประธานองค์ใหญ่สีทองประดิษฐานอยู่ และมีหญิงสาวชายหนุ่มคู่เดิมนั่งคุกเข่าประนมมือต่อหน้าองค์พระประธาน
ชาย : ข้าขุนศรีปานบดินทร์ขอให้คำมั้นต่อหน้าองค์พระประธานว่าข้า จะรักและดูแลแม่หญิงรจนาเป็นอย่างดี มิให้ขาดตกบกพร่องสิ่งใด หากแม่นข้าผิดคำพูดแม้แต่น้อย ขอให้ข้า...
หญิงสาวเอื่อมมือมาจับมือของชายหนุ่มที่ประนมมืออยู่ เพื่อให้ฝ่ายชายหยุดพูด
หญิง : ท่านพี่เจ้าค่ะ อย่าถึงกระนั้นเลย
ทั้งคู่หันมาสบตากัน ชายหนุ่มจับมือหญิงสาวไว้แน่น ทั้งสองยิ้มให้กัน หญิงสาวหลบหน้าเล็กน้อยด้วยจริตของหญิงโบราณที่ต้องรักนวลสงวนตัว หญิงสาวชักมือกลับแล้วเสยผมทัดหูแก้เขิล ทั้งคู่ก้มลงกราบพร้อมกัน
กฤษ : ไอ่เอก... ไอ่เอก... ไอ่เชี้ยเอก!
ผมสดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมกับคาบน้ำลายข้างแก้ม
กฤษ : มึงซ้อมตายเหรอ หลับไม่รู้เลยนะมึง คนเขากลับหมดแล้ว
ผมมองนาฬิกาข้อมือตอนนี้บ่ายสามครึ่งแล้ว
กฤษ : เก็บของแล้วไปหาจารย์ถวิลย์กัน
ผม : ใครว่ะ จารย์ถวิลย์?
กฤษ : ก็อาจารย์ที่สอนพุทธศาสนาไง... มึงหัดจำชื่ออาจารย์บ้างซิ
ผม : อ่อ.. เออๆ
ผมกับไอ้กฤษออกจากตึกเรียนแล้วไปเอารถ เพื่อที่จะขี่ไปตึก19 ซึ่งอาจารย์ถวิลย์รออยู่
ตื้อดึง เสียงลิฟต์ดังและประตูก็เปิดออก ผมกับไอ่กฤษก็เข้าไปแล้วกดชั้น 4
พอได้เข้ามาอยู่ในลิฟท์ตัวเดิมผมก็นึกย้อนกลับไปเรื่องฝันที่มันเหมือนจริงมากๆ จนผมคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง แล้วผมก็นึงถึงคำๆหนึ่ง ที่รจนาพูดไว้่ว่า "ดิฉันยังรอและตามหาคุณพี่มาตลอด เพื่อทวงถามถึงคำสัญญาที่คุณพี่เคยให้ไว้กับดิฉัน" เสียงนี้ยังคงดังอยู่ในหัวผม..
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments