รุ่นพี่ที่เลิฟ
นิยาย
รุ่นพี่ที่เลิฟ
ผู้เขียน : มูมิน
ตอนที่1 : Home
สวัสดีครับทุกๆคน
เราชื่อมีน นะ อายุ 16 ปี เกิดราศีมีน เราเป็นคนรูปร่างเล็ก ผิวขาว ผอมบาง สูง 168 เซนติเมตร
นิสัยเราก็เป็นคนสนุกสนาน เป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ เอาแต่ใจตัวเองหรือเปล่าก็มีบ้างนะ เราเป็นคนไม่ชอบเล่นเกมส์ และไม่ชอบเล่นกีฬาใด ๆ เลยเพราะมันดูยากมาก ๆ สำหรับเรา โดยเฉพาะการเล่นกีฬาบาสเก็ตบอลเราไม่ชอบที่สุดไว้เราจะเล่าให้ฟังว่าทำไมเราถึงไม่ชอบกีฬาชนิดนี้ ที่สำคัญเราเป็นคนขี้ลืม และซุ่มซ่ามมาก ๆ เดี๋ยวเพื่อนๆก็จะได้เห็นวีรกรรมของเราแน่นอน
ครอบครัวเรามีกัน 5 คน และน้องหมาอีก 1 ตัว
มีคุณพ่อ คุณย่า และพี่สาว 2คน พี่โม และพี่เมย์ น้องหมาชื่อพี่มีตังค์อายุ 8 ปีแล้ว
ทุกคนต้องคิดแน่ๆ แม่เราไปไหน แม่เราเสียไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์
ครอบครัวเราเป็นครอบครัวฐานะปานกลางไม่ถึงกับรวยหรือจน ก็อยู่กันแบบไม่เดือดร้อน บ้านที่อยู่เป็นสมบัติของคุณย่ายกให้คุณพ่อเป็นของขวัญในวันแต่งงาน ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองครับมีหน้าที่ต้องทำ แต่เราโชคดีหน่อยเราเป็นลูกคนเล็กคุณย่าตามใจแทบไม่ต้องทำอะไรเลย ส่วนกับพี่เมย์พี่สาวคนรองเราไม่ค่อยลงรอยกับพี่เมย์เท่าไหร่เพราะอายุห่างกันแค่ 2 ปีจะทะเลาะกันบ่อย แย่งของกัน แย่งทีวีดู สารพัดครับ นางชอบกัด แต่บางทีเราก็ไม่ยอมนะสู้นางอยู่ สำหรับพี่สาวคนโตพี่โมเรียนมหาลัยปี4 แล้วครับพี่โมเป็นความหวังของที่บ้านเป็นลูกรักของคุณพ่อ พี่โมทำทุกอย่างในบ้านแทนคุณแม่ เหมือนแม่อีกคนของเราเลย มาถึงคุณย่าวันๆ ก็จะทะเลาะกับพี่มีตังค์และชอบทำขนมไทยโดยเฉพาะขนมชั้นและบัวลอยคุณย่าเราทำอร่อยที่สุดในโลก และสุดท้ายคุณพ่อ พ่อเราทำงานธนาคารครับเป็นคนเจ้าระเบียบ เมื่อไหร่ที่มีคำสั่งลงมาทุกคนต้องทำตามไม่งั้นโดนตัดทุกอย่าง ดุหรือเปล่า ไว้อ่านไปเรื่อยๆ ก็จะรู้เองว่าพ่อเราดุแค่ไหน และที่ขาดไม่ได้คุณแม่เราทุกวันพระเราจะใส่บาตรให้ท่านทุกครั้ง ส่วนพี่มีตังค์หมาไทยหลังอานสีน้ำตาลทะเล้นๆน่ารักเวลาเรามีปัญหาพี่มีตังค์จะอยู่กับเราตลอด นี่แหละครับครอบครัวของเราเอง จะมีเรื่องป่วนๆ สนุกสนาน บ้าๆบอๆ ทุกข์สุขปนกันไป เราจะมาเล่าให้ฟังนะ แต่วันนี้เรารีบหละ ขอตัวต้องไปโรงเรียนก่อนนะครับ โรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ และอะไรใหม่ๆ กำลังรอเราอยู่ครับ ที่แน่ ๆ มีพี่เมย์และพ่อรออยู่ข้างล่าง
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกครับ กับชีวิตมอปลายวันแรกของเรา
“มีน แกเสร็จหรือยังพ่อจะไปส่งที่โรงเรียนแล้วนะ จะ7โมงแล้ว” เสียงแผดๆของพี่เมย์ทะลุมาจากชั้นล่าง
“มีนรีบลงมาลูกย่าจัดกับข้าวไว้ให้หละพี่โมทำไว้ให้” เสียงย่าแทรกพี่เมย์มา
“ใกล้เสดแล้วอีก 5นาที เดี๋ยวลงไปคับย่า ” เราแอบตื่นเต้นนะกับชั้นเรียนใหม่ วันนี้แต่งชุดนักเรียนใหม่ ปักชื่อโรงเรียนใหม่ ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ แต่ก็ภูมิใจ แอบคิดจะเจออะไรบ้างนะ ตื่นเต้นๆ
10 นาทีผ่านไป
ทุกคนพร้อมที่โต๊ะทานข้าว และเมนูโปรดของเรา หมูทอดน้ำปลา โอ้โหพี่โมกับย่าน่ารักที่สุด
“ช้าทุกงานแกอ่ะไอ้มีน กว่าจะเสด็จลงมาได้ ” พี่เมย์ผู้ขี้บ่นทุกสถานะการณ์
“บ่นทำไมเนี้ย วันนี้เปิดเทอมวันแรก อย่าทำเสียอารมณ์” เราชอบเล่นหูเล่นตาใส่นาง
“รีบกินกันเด็ก ๆ เดี๋ยวพ่อแกจะสายไปอีก” คุณย่าตัดบท
“ถ้ากินเรียบร้อยแล้วก็ไปกันได้หละ พ่อรีบ เดี๋ยวรถติดอีกจะช้ากันพอดี มีน เมย์ ไม่ลืมอะไรแล้วนะลูก เช็คอะไรให้เรียบร้อย “ เสียงทุ้มๆ เหมือนจะดุของพ่อย้ำเราแบบนี้มาตลอด
“แกอ่ะมีนเช็คดีๆ ชอบลืมโน่นลืมนี่ตลอดทำคนอื่นเสียเวลา” พี่เมย์ก็ยังบ่นต่อไป
“เรียบร้อยครับพ่อ เอ่อแล้วพี่โมออกไปยังครับพ่อ” เราชะเง้อมองหาพี่โมระหว่างเดินไปที่รถ
“พี่โมออกไปตั้งแต่แกยังไม่ตื่นแล้ว ตื่นมาทอดหมูให้แกไงแล้วไปเรียนมัวรอแกก็สายพอดี “ มีเสียงพี่เมย์แทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ยุ่ง” เราแอบแลบลิ้นใส่พี่เมย์
แล้วเดินไปหาพี่มีตังค์ ซึ่งรอส่งพวกเราอยู่หน้าบ้านแล้ว
“พี่มีตังค์มีนไปโรงเรียนก่อนนะเจอกันตอนเย็น” เราลูบหัวพี่มีตังค์อย่างที่ทำมาตลอด
ทุกคนสวัสดีคุณย่าแล้วขึ้นรถพร้อมเผชิญรถติดในวันเปิดเทอมวันแรกของมีน และ พี่เมย์ และวันจันทร์วันทำงานของคุณพ่อ
“มีน เมย์ เช็คของตัวเองอีกรอบนะลูกว่าไม่ลืมอะไรแล้ว” พ่อย้ำอีกครั้ง
“ครบครับไม่ลืม วันนี้มีนพร้อมมากกับวันเปิดเทอม เตรียมตัวมาหลายวันแล้ว สบายมาก” น้ำเสียงเราพร้อมมาก
“จ๊ะ” เสียงแบบประชดมาก ๆ จากพี่เมย์เราสัมผัสได้
“เอ่อพ่อคะตอนเย็นไม่ต้องแวะมารับหนูกับน้องนะค่ะ เดี๋ยวหนูนั่งรถเมล์กลับพร้อมน้องได้ค่ะ เผื่อพ่อเลิกงานเย็น” พี่เมย์พูดเสร็จเอื่อมมือไปเปิดเพลงเกาหลีวงโปรดของนาง อันนี้ให้อภัยเราก็ชอบเหมือนกัน
“โอเคร” พ่อพยักหน้าแล้วกำลังขับรถออกจากบ้าน
“มีนลูก” เสียงย่าเรียกเสียงดังมาก พ่อหยุดรถทันที
พ่อเปิดกระจกรถ “มีอะไรแม่เรียกซะตกใจกันหมด”
“นั่นดิย่าทำหนูตกใจเลย” พี่เมย์สมทบอีกเสียง
ส่วนเราก็แค่งงไม่มีไรเกิดขึ้น หันไปมองหน้าย่า แล้วตะโกนขึ้นมาทันใด “เฮ้ย มีนลืมโทรศัพท์” ในมือย่าถือโทรศัพท์เราอยู่ ทั้งพ่อและพี่เมย์มองหน้าเราพร้อมกัน ย่ายื่นโทรศัพท์มาให้พ่อแล้วย่าก็ยิ้มให้เราพร้อมโบกมือให้
“ไหนแกบอกพร้อมไงไอ้มีน จะสายก็เพราะแกนี่แหละ ถ้าฉันไปสายไม่ทันเข้าแถววันแรกนะแกโดนแน่” พี่เมย์ได้ทีใส่เราเต็ม
“ก็คิดว่าใส่ในกระเป๋ามาแล้ว เอ่อขอโทษ พ่อออกรถเหอะครับเดี๋ยวจะสาย” เราก็อ่อนๆลง เพราะรู้ตัวเองผิด
“ไม่ลืมอะไรแล้วแน่นะ จะได้ไปสักที” พ่อย้ำ
“ครับพ่อ ไม่มีหละ”
วันแรกไปโรงเรียนเราก็เจอซะหละ อันนี้แค่เล็กน้อยที่จะเจอ สิว ๆ มาก ครับ
แล้วพ่อก็ขับรถออกจากบ้านไปส่งเรากับพี่เมย์ที่โรงเรียนได้สักที
จากบ้านเรามาโรงเรียน ถ้ารถไม่ติดก็ใช้เวลา 15 นาทีก็ถึงโรงเรียนใหม่แล้ว และใกล้กว่าโรงเรียนเดิมของเราซึ่งก่อนหน้าคุณพ่อต้องออกบ้านเช้ากว่านี้เพราะต้องส่งเราและส่งพี่เมย์อีกตอนนี้เราย้ายมาที่เดียวกันกะพี่เมย์แล้วก็จะสบายคุณพ่อด้วย แต่ในความเป็นจริงตอนนี้ปากซอยบ้านออกมาก็ติดแหงกแล้วเพราะกำลังทำรถไฟฟ้าอยู่ กว่าจะถึงโรงเรียนก็ใช้เวลา 45 นาที วันนี้เปิดเทอมวันแรกยิ่งติดหนักเข้าไปอีก
“เมย์เบาเพลงหน่อยลูก” น้ำเสียงพ่อแบบนี้ควรลดเสียงโดยด่วน
“พี่เมย์เบาเพลงนิดนึง” เราเอื่อมมือไปสะกิดพี่เมย์จากเบาะหน้ารถ ที่นั่งประจำของนางที่ใครก็ไม่ได้นั่งยกเว้นเวลาคุณย่าไปด้วย
ระหว่างรถติดพี่สาวจอมเหวี่ยงก็หลับ ส่วนเราก็นั่งเบาะหลังดูโน่นนี่ในโทรศัพท์ไป ส่วนรถพ่อก็ค่อยขยับไปตามจำนวนรถที่เยอะและผู้คนมากมาย ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ รถเมล์
ทันใดนั้นระหว่างที่รถค่อยๆ ขยับไปตามทาง ทุกคนจดจ่อในอารมณ์ของตัวเอง มีมอไซด์คันนึง ล้มลงตรงหน้ารถเรา พ่อก็เบรกอย่างจัง ทุกคนสะดุ้ง พี่เมย์ตื่นทันที
“ชนมั๊ยครับพ่อ” เรารีบถามด้วยความตกใจ
“ไม่ชนนะเขาล้มเองน่าจะเหยียบเบรกแล้วลื่น” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มปกติมาก ๆ ไม่ตกใจเลย แล้วเดินลงไปช่วยพยุงคนกับรถคนนั้นขึ้นมา พ่อคุยกับคนนั้นไม่ถึงนาทีแล้วมอไซด์คันนั้นก็ขับต่อไปได้ตามปกติ
“โอ้ยอะไรเนี้ย จะสายไปกันไปอีกแน่ ๆ เลย ไม่เห็นหน้านะเป็นใคร มีนฉันว่ามันเหมือนเรียนโรงเรียนเดียวกับเราแน่เลย” เสียงพี่เมย์โมโห แผดเสียงดังในรถ
“ไม่รู้อ่ะมีนไม่ทันสังเกต แต่คิดว่าน่าจะใช่โรงเรียนเดียวกับเรานะ” เราสมทบไป
พ่อเดินเข้ามาในรถ “ไปกันเด็กๆ ไม่มีไรหละ สายกันพอดีวันนี้”
“คับพ่อ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ” เราก็โล่งหละ
“หนูว่านะคนนี้เรียนโรงเรียนเดียวกะพวกเราแน่ ๆ คะพ่อ” พี่เมย์ยังคงยืนยัน
“พ่อไม่ทันสังเกต แต่น่าจะรุ่น ๆ พวกลูก ๆ นะแหละ เอ่อเค้าทำจี้ร่วงไว้ด้วย น่าจะติดมากับสร้อย คงคว้าเอาแต่สร้อยไป น่าจะรีบไม่ทันสังเกตว่าจี้หาย “ พ่อโชว์จี้รูปนกกางปีกให้ เรา กับพี่เมย์ดู แล้วก็วางไว้ตรงหน้าไมล์รถไว้
“ช่างเหอะพ่อ ตอนนี้เราจะไปทันมั๊ยเข้าแถวโรงเรียนมั๊ย ไอ้มีนคนแรกหละ มาเจอคนนี้อีก” พี่เมย์หันมามองเรา
“อะไรว่ะโทษมันอยู่ได้ โทษมอไซด์คันนั้นดิ ทำเสียเวลา” เราเริ่มออกอาการโมโห
นึกอยู่ในใจ อย่าให้เจออีกนะมอไซด์คันนี้จะด่าให้ ทำเราโดนด่าซ้ำสองไปอีก
“พอ ๆ พ่อว่าทันอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว” พ่อพยายามสงบศึก
“อีก10 นาทีค่ะพ่อ หรือให้พวกหนูลงตรงนี้แล้วเดินไปดีกว่าคะ พ่อจะได้กลับรถแล้วไปทำงานเลย เดี๋ยวเมย์กับน้องลงเดินดีกว่าค่ะ” พี่เมย์ยืนยันจะลงเดิน
“ได้พี่เมย์แค่อีก2ป้ายรถเมล์เอง สบายมาก” เราสนับสนุน
แล้วเราสองคนก็ค่อย ๆ เปิดประตูรถออกมา สวัสดีพ่อ แล้วเดินไปโรงเรียนกับพี่เมย์
“ ไอ้มีนแกเร็วๆ เลย อย่าอ้อยอิ่ง” พี่เมย์กำชับ
“เอ่อรู้แล้วก็รีบเนี้ย” เราเริ่มอารมณ์ไม่ดี
เป็นเพราะคนขี่มอไซด์คันนั้นแหละทำเราเวลาต้องมาเดินดุ่ม ๆ แบบนี้เนี้ย เมืองไทยอากาศตอนเช้าก็ร้อนเอาการ ชุดนักเรียน ทรงผม ที่เซทมาไปหมด หมดกัน
ทันใดนั้น
“เฮ้ย พี่เมย์” เราตะโกนเรียกพี่เมย์
“อะไรของแกมีน อะไรอีก กูรีบ” พี่เมย์ก้าวขาอย่างรวดเร็วพร้อมหันมาตะคอกใส่เรา
“เออออออออออออ” จะพูดดีมั๊ยนึกในใจ
“อะไรของเมิงมีน กูรีบ จะพูดไรก็พูดมา” พี่เมย์เริ่มใส่อารมณ์
“มีนลืมโทรศัพท์ไว้ในรถพ่อ” ส่งสายตาแบ๊วๆ ใส่พี่เมย์
“อีมีนเมิงนี่นะ กูหละเชื่อเมิงเลย พ่อไปโน่นแล้วไม่ต้องใช้โทรศัพท์แล้ววันนี้อ่ะ สมน้ำหน้า ลืมอยู่ได้” แล้วพี่เมย์ก็ดุ่ม ๆ นำหน้าหายไปอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ ไม่ใช้ก็ได้ว่ะ” โมโหตัวเอง โมโหคนขี่มอไซด์ ที่นี่จะติดต่อนุ่น กะ พอร์ช ยังไง เอาว่ะไปถึงห้องหละกันค่อยว่า แต่ตอนนี้จะสายหรือเปล่า ว่าแล้วก็วิ่ง ๆ ตามหลังพี่เมย์ไป
ในที่สุดก็มาถึงหน้าโรงเรียนจนได้ เหงื่อแตก สภาพไม่ต่างอะไรจากอาบน้ำใหม่ กลิ่นเค็มของเหงื่อ เราสัมผัสมันได้เลย มองหาพี่เมย์ก็ไม่เจอแล้ว สงสัยว่าจะผ่านด่านอาจารย์ปกครองหน้าโรงเรียนไปแล้ว พี่เมย์นะพี่เมย์ ทิ้งน้องจนได้ โทรศัพท์ก็ไม่มี เอาว่ะทำใจให้อารมณ์ดี วันนี้วันแรก วันเปิดเทอม ทุกอย่างต้องดี
อยู่ ๆ มีมือมาแตะที่ไหล่ ทำเราสะดุ้งเฮือก
“ว่าไงมีน ไปทำไรมาวะ สภาพเมิงเปียกเป็นลูกหมาขนาดนี้ ” เพื่อนพอร์ชนั่นเองเพิ่งมาเหมือนกัน
“ไอ้พอรช์ กูตกใจหมดเลย เพิ่งมาเหมือนกันเหรอวะ” เราแอบดีใจมีเพื่อนหละ
“เอ่อดิเพิ่งนั่งพี่วินมาถึงก็เห็นแกเนี้ย” พอร์ชพูดไปหัวเราะไป
“ทำไมกูไม่นั่งวินมาเหมือนเมิงว่ะ กูจะเดินมาทำไมวะเนี้ย” เราเพิ่งนึกได้ อดโมโหตัวเองไม่ได้อีก
“ก็เมิงมันโง่ไง ไอ้มีน” พอร์ชจับเสื้อเปียกๆของเราแล้วมองบน
“เอ่อ ๆ ช่างมัน ตอนนี้เข้าแถวก่อน แล้วนุ่นมันถึงยังว่ะ กูลืมโทรศัพท์ไว้ในรถพ่อว่ะ” เราอธิบายให้เพื่อนฟัง
“นุ่นถึงแล้วกำลังจะไปเข้าแถวเปิดเทอมวันแรก เมิงนี่ตลอดเลยเน้อไอ้มีนเรื่องขี้ลืมเนี้ย” พอร์ชดูท่าทางแบบรู้นิสัยเราดี
“อย่าซ้ำเติมเพื่อนโอเครมั๊ย” เราย้ำ
เราวางกระเป๋านักเรียนแล้วไหว้อาจารย์หน้าโรงเรียน “สวัสดีครับอาจารย์”
“ชื่ออะไรเราอ่ะ” อาจารย์ถามด้วยเสียงดุมาก หน้าก็ดุด้วย
“ ชื่อ พัฒนพงษ์ ตันประเสริฐ ครับ ชื่อเล่น มีน ครับ อยู่ชั้น ม.4/2 ครับ” เสียงเราอ่อยๆ แอบกลัวอาจารย์
“มาวันแรกก็สายเลยนะนายพัฒนพงษ์ สายไป 5 นาที แล้วไปทำอะไรมาสภาพเหมือนลูกหมาตกน้ำขนาดนี้รีบไปยืนรวมกับเพื่อนๆ คนอื่น ที่สายรอให้เพื่อน ๆ เข้าแถวหน้าเสาธงเสร็จค่อยเข้าไป” อาจารย์ฟันธงมาและชี้ให้เราไปยืนรวมกลุ่มกับคนที่มาสาย ยังดีนะที่มีไอ้พอร์ช อยู่เป็นเพื่อนด้วยอีกคน วันนี้วันเปิดเทอมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่เป็นอย่างที่คิดเลย
“พอร์ชเมิงนั่งข้างกูป่าวว่ะ” เราหาเรื่องมาคุยระหว่างรอขึ้นห้อง
“เอ่อดิ ไม่รู้ว่ะนุ่นนั่งกะใครยังไม่ได้ถามเลยว่ะ แต่นุ่นนั่งแถวหลังเรา” พอร์ชเสริม
“ดีหละใกล้ๆ กัน ไม่รู้ว่าที่นี่จะเป็นไง คิดว่าน่าจะโอเคนะว่ามั๊ย” เราออกความเห็น
“ดีซิเมิง พี่เมิงก็เรียนที่นี่ ถ้าไม่ดีพี่เมิงจะเรียนเหรอวะ พี่เมิงนี่สุดยอดความเรื่องเยอะแล้ว”พอร์ชพูดถึงพี่เมย์แล้วมองบนแบบรู้นิสัยพี่เมย์
“กูจะฟ้องพี่กูเย็นนี้” เราสมทบ
“อย่านะเมิงพี่เมิงอิทธิฤทธิ์เยอะกูกลัว” พอร์ชพูดแล้วหัวเราะเสียงดังขึ้นมา จนอาจารย์และเพื่อนคนอื่น ๆ หันมามอง
ก็พอทำให้บรรยากาศที่แย่ ๆ ดีขึ้นมาบ้าง เราแอบนึกในใจนะ วันนี้ที่ซวยและทำเรามาสาย เป็นเพราะนักเรียนคนนั้นแหละที่ขี่มอไซด์ ขอให้เรียนโรงเรียนเดียวกับเราเหอะจะหาตัวให้เจอ แต่ก็ไม่เห็นหน้า จำมอไซด์ไม่ได้ จำไรไม่ได้เลย เหมือนงมเข็มเลย แต่ตอนนี้ช่างมันเหอะ ขอคิดบวกก่อน
“นักเรียนขึ้นห้องเรียนห้องตัวเองได้แล้วนะครับ” อาจารย์ปกครองสั่งให้ทุกคนขึ้นไปห้องตัวเอง
เราไหว้อาจาย์แล้วลากไอ้พอร์ชมาด้วย
“ป่ะพอร์ช ว่าแต่ห้อง ม.4/2 ไปทางไหนว่ะ” เรากำลังงง
“ทางนี้มีน ตามกูมา” พอร์ชเดินนำเราไป
ระหว่างทางที่เดินไปที่ห้อง ทำไมเราตื่นเต้นและรู้สึกเหมือนหัวใจมันหวิว ๆ ทำไมเหมือนเราถึงนึกชอบที่นี่ขึ้นมาในทันที ตั้งแต่เดินผ่านประตูโรงเรียนมา ผ่านสนามบาสเก็ตบอล ผ่านหอประชุม แล้วโรงอาหาร จนมาถึงอาคารเรียนของเรา ที่อยู่ชั้น3
วันนี้เป็นการเริ่มต้นกับที่ใหม่ กับเพื่อนใหม่ กับอะไรใหม่ ๆ ตลอด 3ปีหลังจากนี้เราจะพบเจออะไร และผ่านอะไร มันต้องสนุกสนานแน่ ๆ สถานที่แห่งนี้นอกเหนือจากบ้านที่มีพี่ มีพ่อ มีย่า และน้องหมา โรงเรียนแห่งนี้จะเป็นที่แห่งความทรงดีๆ ของเราไปตลอดแน่นอน ขอให้เพื่อน ๆ ร่วมสนุกไปกับเรานะครับ แค่วันแรกก็สนุกขนาดนี้แล้ว หลังจากนี้เรื่องราวต้องสนุกน่าติดตามแน่นอน มาสนุกไปกับมีนนะครับ
“ไอ้มีนๆๆๆๆๆๆ” เสียงพอร์ชเรียกรัวๆ พร้อมเขย่าไหล่เรา
“อะไรของเมิงว่ะพอร์ช” เราตื่นจากภวังค์
“ถึงแล้ว ม.4/2 ห้องเรียนเราแล้วว่ะเพื่อน เมิงคิดไรอยู่เนี้ยกูเรียกอยู่ตั้งนาน” พอร์ชย้ำ
ตอนนี้เรา กับ พอร์ช อยู่หน้าห้องเรียน ม.4/2 เรียบร้อยแล้ว มองขึ้นไปบนป้ายห้องแล้วเดินไปตรงประตูเข้าห้องเรียน ในขณะที่กำลังเรากับพอร์ชกำลังจะก้าวเท้าเดินเข้าห้องเรียนทันใดนั้น ก็มีเสียงๆ หนึ่งพูดขึ้นมา
“เธอสองคนหยุดอยู่ตรงนั้น ห้ามก้าวเท้าเข้ามาเด็ดขาด จนกว่าฉันจะสั่งให้เธอสองคนเข้ามา”
โอ้วเกิดอะไรขึ้นกับวันแรกของการเปิดเทอมในวันนี้อีก เราจะเจอกับอะไรต่อไป ไว้ตอนหน้าเรามาจะมาบอกทุกคนนะครับว่าจากนี้เราจะเจอกับอะไร
“พอร์ชๆๆๆ กูลืมหยิบกระเป๋านักเรียนมาจากหน้าโรงเรียนว่ะ” ตาแบ๊วๆ ใส่เพื่อน
“ไอ้เวรมีน อีกแล้วเหรอเมิง”
...............👉🏻👉🏻👉🏻👉🏻👉🏻👉🏻👉🏻😄😄😄😄😄😄😄😄😄..............................
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments