'ตุบ!' ร่างบางของหญิงพลันชนไปที่ร่างของบุรุษปริศนาผู้หนึ่งก่อนเขาคนนั้นจะพูดขออภัยหญิงสาวขึ้นอย่างให้เกียรติ์
"ข้าขออภัยแม่นางท่านเจ็บตรงหรือไม่" เสียทุ้มนุ่มนวลถามอรชรตัวเล็กที่ตัวขาวผอมแห้งจนลักษณะภายนอกเหมือนกับกิ่งไม้แห้งเดินได้
หญิงสาวเงียบสักพักก่อนจะพูดขึ้นด้วยการดัดเสียให้ดูใหญ่เหมือนนางพญาจนน่าเกรงขามทั้งๆที่เสียงจริงๆดูอ่อนโยนมีเสน่ห์อยู่พอตัวอยู่แล้ว
"ท่านไม่ต้องมาขอโทษขอโพยข้าหรอกนะ เพราะข้าไม่อยากรับการขอโทษของท่านเสียเท่าไหร่นัก" หญิงสาวทั้งสองที่ใส่ผ้าคลุมหัวปกปิดใบหน้าไว้พลันเดินหลีกไปทางอื่นแต่ร่างสูงไม่ยอมปล่อยอรชรสองคนให้ไปเพราะเขาคิดว่ามันประหลาดเกินไป
หากว่าหญิงสาวสองคนนี้ไปทำอะไรไม่ดีขึ้นมาในเมืองหลวงมีหวังเหนือหัวของเขาได้ เรียกเขามาอบรมอีกเป็นแน่แท้
"ท่านเป็นโรคจิตหรือกระไรจึงไม่ยอมปล่อยเราสองไป" ซู่ผิงผู้ใส่ผ้าคลุมปิดหน้าอยู่ พูดขึ้นพร้อมกับเหล่ตามองคนข้างบน
"ข้าคงปล่อยเจ้าสองคนไปมิได้เสียแล้วแม่นางนอกจากข้าจักถามคำถามพวกท่านสักสองสามคำถึงข้าจักปล่อยท่านไปเมืองหลวงชั้นในได้" คนตัวสูงพูดด้วยเสียงหน้ากลัว แต่หญิงสาวทั้งสองพลันนิ่งเฉยเหมือนดั่งก้อนหินสองก้อนที่เกาะติดกันเป็นปลิง
"ท่านจักอันใดก็รีบๆว่ามาสิข้ากับนางนั่นรีบเหลือเกินคงมีเวลาให้ท่านไม่ถึงก้านธูปหรอกนะ" อรชรพูดพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ
"งันข้าขอแนะนำตัวก่อนละกันข้าชื่อว่า หลงจิ่งจง เป็นแม่ทัพหลวงแห่งแคว้นหวู่" ชายหนุ่มพูดขึ้น
"ข้ารีบและข้ามิอยากรุ้จักนามของท่านหรือยศฐาบรรดาศักดิ์ของท่านเลยแม้แต่นิดเดียวหวังว่าท่านจักเข้าใจนะท่านแม่ทัพหลง" หญิงสาวเน้นคำท้ายเพื่อเตือนสติของอีกฝ่ายว่าเลิกยุ่งกับพวกเราเสียทีมันเสียเวลา
"งันข้าขอเริ่มเลยละกันนะแม่นาง" ขนาดไม่ใช่เจ้าของร่างจริงๆยังมันเขี้ยวไอ้แม่ทัพหลงนี้เลยฉันรู้และว่านางร้ายอันดับหนึ่งต้องการจะฆ่าเขาเพราะแบบนี้นี่เองสินะ!
"ท่านจะทำการอันใดให้รีบๆเสียอย่ามายืนขวางทางชาวบ้านเขานานนักเดี๋ยวชาวบ้านชาวเมืองเขาจะคิดว่าท่านเป็นพวกชอบขวางโลก" หญิงสาวผู้เป็นนานพูดกระแทกหูร่างสูงยกใหญ่ก่อนเขาจะเริ่มต้นคำถามเหมือนมิสนมิใยคำพูดเหล่านั้น
"แม่นางทั้งสองชื่อแซ่ว่าอะไรข้าจักได้สั่งให้ทางตระกูลของท่านส่งคนมาดูแลท่าน เพราะดูแล้วท่านหญิงคงจะแอบหนีออกมาสินะ" คนร่างสูงทำสีหน้าเยาะเย้ยหญิงสาวทั้งสอง จนอรชรเริ่มชักรำคาญใจ
"ขออภัยท่านแม่ทัพนายหญิงของข้าเป็นหญิงเป็นนางไม่มีคู่ครองท่านจักถามถึงตระกูลนางได้เช่นไรหากท่านถามถึงชื่อนาง ข้าจักมิว่าเสียสักคำเดียวนี้หรือนิ!ท่านเป็นพวกวิปลาสหลงแต่อำนาจตัวเองใช่ไหมหล่ะถึงได้พูดถามถึงเรื่องแบบนี้ออกมาโดยไม่ระคายปาก คนแบบท่านทุเรศที่สุดเลย!!!" ซู่ผิงเริ่มแต่งเรื่องขึ้นเพื่อทำให้แม่ทัพหนุ่มเสียหน้า ศึกทางคำพูดและจิตวิทยากำลังบังเกิดขึ้น
ถ้าฉันจำไม่ผิดนะเจ้าของร่างนี้นี้แหละเป็นคนสอนให้ซู่ผิงแต่งเรื่องใส่สีตีไข่ไว้มากมายอยู่พอตัวจนว่าง่ายๆว่าซู่ผิงคือเจ้าแม่แห่งการแต่องค์ทรงเรื่องเลยแหละ!
มีอยู่หลายๆตอนที่ซู่ผิงแต่งเรื่องจนทำให้ฮ่องเต้เชื่อสนิทใจจนทำให้เฉลยที่อยู่ฝ่ายนางเอกแล้วไปทรยศหักหลังคุณหนูของตนโดนประหารเสียบหัวประจานไว้หน้าวัง
ทั้งบางทีนางก็แต่งเรื่องตีไข่ลงไปหลายใบจนแม่ครัวย่อมให้นางทำอาหารให้ฮองเฮาที่อยู่ฝ่ายนางเอกเสวยโดยขนาดทำซู่ผิงก็ใส่ยาพิษชนิดร้ายแรง จนทำให้ฮองเฮาสวรรคตภายในคืนเดียวหลังจากที่ได้ทานอาหารลงไป
"ใครก็ได้ช่วยพวกข้าด้วยแม่ทัพหลงผู้นี้พยายามวิจารณ์ข้าทางสายตาแล้วก็ทางคำพูดด้วย ช่วยด้วยเจ้าคะ ใครก็ได้ช่วยด้วย" เมื่อฉันได้สติก็ได้ยินซู่ผิงตะโกนลั่นตลาดด้วยท่าที(เสแสร้ง)หวาดกลัว เหมือนลูกนกตกรัง
จนทำให้ผู้คนแถวนั้นพากันซุบซิบกันเสียยกใหญ่ว่าแม่ทัพผู้เกรียงไกร บัดนี้กลับกลายเป็นพวกชอบถ้ำมองหญิงสาวไปเสียแล้ว
"นิเจ้า! หุบปากไปเลยนะอย่ามาใส่ร้ายข้าเยี่ยงนี้บังอาจนักนะ!" ร่างสูงพยายามกางแขนออกเพื่อจะทำการตบไปที่ใบหน้าของหญิงสาวตรงหน้าของตนด้วยความเจ็บใจ
แต่ชาวบ้านก็ต่างเริ่มเดินเข้ามารุมชายหนุ่มเหมือนรังเกียจพวกชอบถ้ำมอง และการที่ชาวบ้านเดินเข้ามาล้อมวงจึงทำให้หญิงสาวทั้งสองโดนพลักออกมาแล้ววิ่งหนีไปได้
"เรารีบไปเถอะนะเจ้าคะคุณหนูอยู่ต่อไปไม่เป็นเรื่องดีแน่เจ้าคะ" ซู่ผิงพลางปาดเม็ดเหงือที่ไหร่ย้อยบนใบหน้าของหญิงสาวผู้เป็นนายหญิงของตนพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดหน้าเก่าๆให้นาง
"ขอบคุณนะ ซู่ผิง" หญิงสาวยิ้มพร้อมกับพูดขอบคุณอรชรที่ช่วยนาง
"เป็นหน้าที่ของบ่าวเจ้าคะคุณหนู" ซู่ผิงยิ้มตอบ คุณหนูขอบคุณน้ำใจนางเป็นครั้งแรกหรือนี้ช่างมีความสุขจิงๆเจ้าค่า
"งันเรารีบเพ็นเร็วเข้า ก่อนที่เจ้านั้นจะตามเจอ" หญิงสาวจับข้อมือเล็กของอีกฝ่ายก่อนจัรีบวิ่งให้ออกจากบริเวณนั้นโดยเร็วที่สุดถึงแม้...จะหลงก็ตาม..
'ที่ไหนว่ะ!' ในหัวของฉันมีคำนี้พุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดทั้งๆที่ควรจะมาถูกสิก็นิยายบอกว่ามันอยู่ตรงร้านซาลาเปานี้หน่า แต่ที่นี้มันที่ไหนมีร้านซาลาเปาเกือบสิบประกบเอาทั้งซ้ายขวา
ทำไงดีเนี้ย!หลงจนได้ ซู่ผิงก็ดูเหนื่อยแล้วทำไงดีลองไปถามคนแถวๆนี้ดูก่อนละกันเพื่อรู้! ความคิดของเรานี้ช่างบรรเจิดเสียจริง!!
"เออ...คุณตาคะร้านเครื่องประดับตระกูลลู่ไปทางเหรอคะ" หญิงสาวลากคนตัวเล็กที่จับมืออยู่เข้ามาด้วยก่อนจะซักถามชายแก่ผู้หนึ่ง...
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
อัพเดทถึงตอนที่ 37
Comments