มู่หรงเฟยนั่งทบทวนความจำเสร็จหมดเเล้วจึงได้ทำการพยุงร่างของตนเอง ขึ้นจากเตียงไม้เก่าอย่างทุลักทุเลในการลุกขึ้น จากเตียงอันหน้าเวทนานี้อยู่นานกว่าจะลุกได้
“มันจะอ่อนเเอเกินไปเเล้วไม่นึกว่าเเม้เเต่จะยืนขึ้นก็จะทำไม่ได้เลยเว้ย!”
นั่งเกาะขอบเตียงอยู่นานเพราะอาการขาดอาหารจนผอมติดกระดูกหรือเพราะพิษนี้ทำเอาเเรงทั้งหมดต้องหดหาย ไปเพียงการยืนขึ้นเท่านั้นเองนั่งพักสักพักพอเริ่มมีเเรงขึ้นมา ก็พยุงร่างขึ้นจากขอบเตียงเดินไปยังประตูทีอยู่ไม่ไกลมาก
อย่างยากลำบากถึงกับต้องกับกัดฟันทนความเจ็บปวดเอาไว้พอเดินอย่างกับคนใกล้จะตายเต็มทนก็มาถึงประตูอันเป็นเหมือนเเสงสว่างของมู่หรงเฟย
"โอ้ยไอ้บ้ามันจะบอบบางเกิ้นไปเเล้วนะเว้ยกะอีเเค่ผลักประตูเองนะเว้ย!"
พอผลักประตูออกมาก็ถึงกับล้มลงฟาดกับพื้นหน้าประตูเรือนเพราะไม่มีเเรงจะยื่นหรือจะขยับตัวได้เลย พอเงยหน้าขึ้นมา ก็ทำให้ได้เห็นกับพระจันทร์สีขาวนวลลอยเด่นอยู่บนกลางท้องฟ้า
นอนอยู่กับพื้นอยู่นานพอร่างกายเริ่มทีจะมีเเรงมาบางส่วนเเล้วก็ใช้เเขนพยุงขึ้นจากพื้น ตรงหน้าเรือนก่อนจะดันทุลังเดินออกไปนอกเรือน เพื่อไปยังใต้ต้นท้อที่อยู่ ไม่ไกลจากเรือนมากนัก
การจะออกมาจากเรือนเพื่อเดินมายังต้นท้อก็ดันทุลังกว่าทีคิดมาก บวกกับร่างนี้อีกทำเอาถึงกับต้องดึงรากของต้นหญ้าเเถวนั้น เพื่อลากตัวเองไปตามพื้นเพื่อไปยังใต้ต้นท้อ
มู่หรงเฟยทำได้เพียงลากตัวเองไปตามพื้นหญ้าอย่างเวทนา เพื่อไปยังจุดหมายใต้ต้นท้อของตนเอง ทำเอาร่างผอมบางราวก้างปลานี้เหมือนจะขาดออกจากกันอย่างงั้น
"โอ้ยจะบ้าตายมาเข้าร่างใครก็ไม่ได้เรื่องอีกจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้"
มู่หรงเฟยทำได้เพียงสาปเเช่งต่อสวรรค์ที่ทำให้ตน เองต้องมาอาศัยยังร่างนี้พอลากร่างราวกลับตายทั้งเป็น มาถึงยังใต้ต้ท้อเเล้วมู่หรงเฟยก็ไม่รอช้ารีบใช้มือขุดหาอะไรสักอย่างอย่างเร่งรีบ
"เจอเเล้วก็นุกว่าจะไม่เจอเเล้วซะอีก"
ขุดมาไม่นานเกินรอก็พบกลับกล่องไม้สีสีน้ำตาลเนื้อดีที่โดนฝังไว้อยู่ใต้ต้นท้อ ตามความทรงจำของร่างนี้เมื่ออายุครบ18ปีจะต้องมาขุดเอาเเต่ร่างนี้กลับตายไปก่อนจะมาขุดเพราะมารดาได้บอกว่าหากอายุยังไม่ครบ18ปีห้ามมาขุดไป
พอได้กล่องไม้มาเเล้วมู่หรงเฟยก็ทำการใช้กิ่งไม้เเถว นั้นมากีดขอมือของตนเองเพื่อเอาเลือดมาหยดลงยังกล่องไม้นี้ พอได้เลือดสีดำเข้มมีกลิ่นเหม็นเหมือนกลับว่ามันเป็นกลิ่นของซากศพอย่างไงอย่างงั้น
พอเม็ดเลือดสีดำเข้มหยดลงสู่กล่องไม้ก็ปรากฎเป็นเเสงสีขาวขนาดเล็กพุ่งเข้ามายังหน้าผากของตนเอง ไม่นานก็ เหมือนกับว่าวิญญาณของตนเองจะฉีกขาดออกจากร่างเพราะมีความทรงจำมากมายไหลพุ่งเข้ามายังของตนเอง
ก่อนจะปรากฎภาพอดีตต่างๆทีได้รับมายังเเสงสีขาวนั้นมันก็เริ่มเล่าถึงอดีตของมารดาต่างๆ มารดาของตนเองนั้นมีชื่อเรียกว่า เหมยฮวา (ดอกกุหลาบ)เป็นบุตรสาวคนเดียวของตระกลเหมย เมื่อ19ปีก่อนนั้นเกิดสงครามระหว่างตระกูลมากมายเเละกลุ่มมหาอำนาจ
ตระกูลเหมยก็เป็นหนึ่งในนั้นโดนกวาดล้างจากกลุ่มมหาอำนาจทีหวังในสมบัติวิเศษของตระกูลหมยเเต่ทางตระกูลเหมยไม่ยอม จึงเกิดเป็นการฆ่าล้างตระ กูลขึ้นโดยมีเพียงมารดาเท่านั้นที่หนีรอดออกมาได้โดยมีท่านปู่ท่านย่าเป็นคนเปิดค่ายกลเคลื่อนย้ายพาหลบหนีมาพร้อมสมบัติของตระกูลทั้งหมด
ตระกูลที่โดนกวาดล้างนั้นทางฮ่องเต้จะประกาศว่าเป็นพวกกบฎกลับพวกมารเเต่เเท้ทีจริงเเล้ว กวดล้างเพื่อหวังสมบัติตั้งหากละตระกูลขนาดใหญ่อย่างตระกูลเหมย ล่มสลายไปก็มากมายเพราะความโลภของราชสำนัก
หลังจากทีมารดาหลบหนีออกมาได้ก็ทำการซ้อนตัวตลอด1เดือนเพราะหากไม่หลบซ้อนเเล้ว คงจะต้องโดนเจ้าพวกนั้นตามล่าเเน่ๆ เเต่เเล้วมารดาก็ได้กลายมาเป็นหลานสาวบุญธรรมของชายชราผู้หนึ่งซึ่งมารดาก็เต็มใจเพราะหากเป็น
หลานสาวบุญธรรมเเล้วคงจะไม่มีใครมาสงสัยชาติกำเนิดของตนเองเป็นเเน่เลยทำให้มารดานั้นต้องเเต่ง กับเจ้าบิดาสารเลวนั้นไงล่ะเพื่อเพิ่มอำนาจของตระกูลที่มารดาได้เป็นหลานสาวบุญธรรม
มารดานั้นต้องทนอยู่เเต่ภายในจวนตระกูลมู่นี้อย่างจำใจจนมาถึงวันเเต่งงาน ทั้งสองนั้นโดนวางยาปลุกกำหนัดในวันงานเเต่งจึงทำให้มุ่หรงเฟยเกิดขึ้นมานั้นเอง
เเต่วันที่ตนเองเกิดมานั้นก็ปรากฎเป็นชายชราผมยาวสีขาวปรากฎตัวขึ้นข้างร่างของตนเอง ก่อนจะพูดคุกับมารดาอะไรสักอย่างโดยที่มู่หรงเฟยไม่ได้ยินเกี่ยวกับมันเลย ก่อนทีอยู่มารดาก็ร้องให้ขึ้นมา
อย่างไม่มีสาเหตุอะไรเลย
"นี้สินะอดีตของมารดาตนเองมันก็ไม่ต่างจากตนเองเลยนะเนี้ย"
มู่หรงเฟยที่ได้ซึมชับเรื่องราวต่างเสร็จเเล้วก็คิดว่าทั้งเรื่องราวนั้นก็ไม่ต่างจากตนเองมากนักเท่าไหร่ เพราะต้องทนทุกข์ทรมานในตระกูลนี้อย่างเวทนา
"นี้มันอะไรกัน" พอมองมายังกล่องไม้ก็เห็นกระดาษสีขาววางใว้อยู่ในกล่อง
พอมู่หรงเฟยหยิบกรดาษขึ้นมาดูว่ากระดาษสีขาวนั้นมีอะไรอยู่ภายในกันเเน่ พอเปิดดูภายในเพื่อหาข้อสงสัยว่ามีอะไรกันเเน่อยู่ภายในก็ถึงทำเอามือไม้สั่วไหวเมื่อเปิดกระดาษดู
"นะนี้มันอะไรกันทำไมมันถึงเป็นเเบบนี้ไป" มู่หรงเฟยทำได้เพียงมองจดหมายทีอยู่มือของตนเองอย่างหวั่นไหว
จดหมายนั้นได้กล่าวถึงเรื่องราวของมู่หรงเฟยในวัยเด็กของเขาเพราะมารดาได้ทำการนำดวงวิญญาณของตนเองบางส่วนไปไว้ยังอีกโลกหนึ่ง หรือนั้นก็คือโลกหรือดวงดาวโลกที่ตนเองตายมานั้นเองไปไว้ยังโลกนั้นโดยการใช้เคล็ดลับวิชาเเบ่งดวงจิตหรือดวงวิญญาณของตนเองไป
เพราะร่างกายของตนเองนั้นเกิดมาพร้อมดวงจิตวารีหรือก็คือร่างกายหยินบริสุทธิ์ทีมีการขนานนามว่าหากใครได้ครอบครองจะมี พลังมากมายเเต่เพราะตอนมารดาได้ตั้งครรภ์นั้นได้รับพิษเย็นจึงทำให้ร่างกายของตนเองนั้น
จะเจ็บปวดทรมารทุกๆวันพระจันทร์เต็มดวงร่างกายก็จะเหมือนกับร่างกายเย็นสุดขั่วไปถึงดวงวิญญาณของตนเอง มารดาของตนเองเลยทำการเเหกกฎสวรรค์เพื่อเเบ่งดวงจิตของตนเองไปยังอีกโลกเเต่ต้องเเลกมาด้วยร่างกายของมารดานั้นลมปราณติดขัดไม่สามารถใช้ได้
เเต่มารดานั้นมีสายเลือดของบรรพบุรษของตระกูลเหมยที่เคยเป็นเซียนบนสวรรค์ตั้งเเต่สมัยโบราณ เเล้วนั้นจึงไม่ต้องเเลกด้วยชีวิต เเต่ต้องเเลกกับกลายเป็นคนไร้ค่า บวกกับร่างกายของมารดานั้นโดนพิษเย็นด้วยจึงทำให้ภายในดวงจิตนั้นโดนเเช่เเข็งไปอย่างช้าตลอดเวลาที่พระจันนทร์เต็มดวง
เเละเพื่อปกป้องตนเองว่ามีกายหยินจากบิดาสารเลวนั้นเพราะหากรู้เเล้วคงจะไม่ขายตนเองเพื่ออำนาจเป็นเเน่ จึงได้ทำการเเลกกับชีวิตของตนเองเพื่อ มู่หรงเฟย
***ดาวน์โหลด NovelToon เพื่อเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การอ่านที่ดียิ่งขึ้น!***
Comments