พอร์ตเรื่องคร่าวๆ #ห้ามไปทำเป็นนิยายของตนเองเด็ดขาด #บุคลในภาพนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง #นิยายรักจีนโบราณ 3P
小 明 业 สาวน้อยวัย16ปี หน้าตาน่ารักสดใสตามวัย เธอค่อนข้างจะเรียนเก่ง หัวกะทิของห้อง ส่วนด้านครอบครัวนั้น ถือว่าเป็นมหาเศรษฐีคนนึงเลย
เด็กสาวชื่อชอบ การเขียนและอ่านนวนิยายเป็นชีวิตจิตใจ
ฤดูกาลผันเปลี่ยน เข้าใกล้ฤดูเหมันต์ ซิ่งเป็นฤดูแก่งความหนาวเหน็บ ใบไม้ร่วงโรยล่องลอยไปตามแรงลม สายลมพัดพาเข้าหาหาร่างอันบอบบางของเด็กสาว ก่อนที่แรงลมจะเร็วแรงพัดวุ่นฉุดละหุก คั่นหน้าหนังสือ ไหวเปิดอย่างลวดเร็ว แลมีแสงสีทองจ้า ลอดผ่านพ้นหน้าขอบหนังสือ แรงดึง ดูดนำพาร่างเด็กสาวหายวับเข้าไปไหนพริบตา แสงดังกล่าวค่อยๆจางหายไปเช่นเดียวกัน ทุกอย่างเงียบสงบลงในทันที ลมที่พัดก็หมดไป หนังสือที่ไหวหวั่นเมื่อครู่กลับเป็นดังเดิม แต่ไร้เงาของหญิงสาวเจ้าของเรือน
โลกแห่งนี้ เหมือนกับยุคจีนโบราณเป็นอย่างมาก ที่ไม่เหมือนนั้นก็คงเป็นผู้คนที่เหาะเหินเดินอากาศได้กระมัง
ซึ่งตอนนี้ก็เดาได้ไม่ยากเท่าไหร่นัก น่าจะเป็น โลกเหมือน ที่ถูกหนังนิยายดูดมาเมื่อครู่ น่าจะอยู่ในนวนิยายแนวเทพเซียน มาร อสูร
เสี่ยวหมิงนั้นได้ข้ามมาอีกมิตินึง และได้มาอยู่ในร่าง ของนางร้ายหน้าสวยสมองทึบอย่าง อิงเสี่ยวหลาน เพราะโลกนิยายแห่งนี้นั้น ก็เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดเช่นเดียวกัน ทำให้ร่างของ อิงเสี่ยวหลาน และจางหลิงเอ๋อร์ พลัดตกลงไปในสระน้ำ จิตวิณณานของเสี่ยวหมิงเลยได้โอกาส เข้ามาอยู่ในร่างนางร้ายอย่างนาง เสี่ยวหมิงนั้นมีนิสัยแตกต่างจาก อิงเสี่ยวหลานมาก เด็กสาวจะต้องเอาตัวรอดจากพอร์ตนิยายเดิมที่เธอแต่งให้ พระเอกผู้เป็นศิษย์พี่ 5 ของสำนัก หนิงซาน อย่าง มู่เฉิงเซียว และยังมีพระเอกตัวร้ายอย่าง หยางจื่นเหยียน ที่จะต้องฆ่านางในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเเล้ว เสี่ยวในร่างอิงเสี่ยวจึงต้องทำทุกวิธีเพื่อเอาตัวรอดไว้ก่อน ศิษย์พี่อย่างเขานั้น เกลียดคนแบบนางที่สุด หน้าซื่อใจคด อิจฉาริษยาคนอื่นไปทั่ว แต่ในเวลาไม่กี่เดือนนั้นเองนิสัยหญิงสาวแสนร้าย กลับกลายเป็นเด็ดหญิงแสนซน ไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ ไม่มีการข่มแหงรังแกคนไม่มีทางสู้ และนั่นเอง หัวใจดวงน้อยของ เขาก็ได้เปลี่ยนไป จากที่รังเกียจนางนักหนา ไม่แม้แต่อยากจะสบตา กลับกลายความรักที่สุดแสนลึกซึ้ง รักนาวอย่างสุดหัวใจ ไม่มีเงื่อนไข สวน ซูหยางจิ้ง รัชทายาทผู้สืบทอดราชบัลลังก์ของเผ่ามาร เขานั้นแอบหลงรัก เทพธิดานางหนึ่ง เดาได้ไม่อยาก นางเอกของเรื่องนั่นเอง เขาคอยสังเกตนางทุกวี่วัน และเห็นทุกเหตุการที่ อิงเสี่ยวหลานที่คอยกลั่นแกล้งหญิงสาวที่เขารัก
ซูหยางจิ้งเลยคิดแค้นนางเล็กน้อย แต่ทำไงได้ เขาเป็นบุรุษจะทำร้ายสตรีได้เยื่องใด ชายหนุ่มนั้นมีนิสัยที่ชอบเที่ยว ทั้งหอนางโรม บำเรอปรนเปรอ ดื่มสุรา หาความสุขเข้าตัวเป็นที่สุด และด้วยนิสัยของเสี่ยวหมิงนั้นก็เช่นกัน นางชอบอยู่ใกล้ชมชิดอิจสตรี แต่ไม่ได้รักใคร่แต่อย่างใด เพียงร่างกายอันบอบบางของสตรีนั้นดูน่าดึงดูดเข้าหามากกว่าบุรุษ นางจึงแอบออกมา เกลือบทุกค่ำคืน และคืนนี้ก็เช่นกันนางดื่มด่ำสุราชั้นยอดจนเมามายเผลอไปทำสัญญาเลือดเข้ากับพระเอกตัวร้ายที่เมาขาดสติ ว่าเขาและเธอนั้นจะไม่ทำร้ายซึ่งกันและกัน พูดจบ นำเลือดมากเเลกเปลี่ยนกัน เขียนไว้บนฝ่ามือ สัญาสักษณ์แห่งสัตย์ ด้วยความที่ทั้งคู่นั้นเมามาก โดนคนหามกลับไป
จึงทำให้เมื่อตื่นขึ้นก็จะจำอะไรมิได้เลย
จนเวลาได้ล่วงเลยมา 1เดือน รัชทายาทถูกมอบหมายให้มาก่อกวนพวกเซียนที่สำหนักหนิงซาน เพื่อเป่าประกาศอำนาจความแข็งแกร่งของตน เเละเผ่ามาร เหล่าบรรดาศิษย์อาจารย์ที่หลงเหลือในสำนักจากการล่าภูตผี ต่างพากับเตรียมรับมือกับศึกครั้งนี้เป็นอย่างดี ก็มีแต่ หลานเอ๋อร์ที่โดนอาจารย์กักบริเวณไม่ให้ออกไปไหน แต่แบบนี้ก็ดีแล้ว เพราะนางรู้ดีว่านางเอกก็ต้องเจอกับพระเอกและก็ต่อสู้กัน อยากไปดูอยู่หรอก แต่ติดที่เขาล็อกไว้นี่สิ แกร๊ก!! "ศิษย์พี่เสี่ยวหลาน ช่วยออกไปประลองยุทธ์กับเผ่ามารทีเถิด ฝ่ายเราต้านมิไว้แล้ว" จะว่าโชติร้ายหรือโชติดี ศิษย์น้องในสำนัก มาขอร้องให้นางออกไปสู้ เพราะนาง วรยุทธแกร่งที่สุดในบรรดาลูกศิษย์ที่หลงเหลืออยู่ในสำนักตอนนี้ นางจึงมิมีทางเลือกอื่น จำใจไป
จางหลิงเอ๋อร์ เข้าประลองกับทูดซ้ายเผ่ามาร ทำให้ร่างกายบาดเจ็บ นางยืนตกตะลึงสักพัก ก่อนที่ ซูหยางจิ้ง เอ่ยถ้าทายขึ้นอีกครา ครานี้แน่นอนว่าเป็นตัวเขาเองที่จะแสดงฝีมือ
อิงเสี่ยวหลานมองดูศิษย์คนอื่นๆ ที่ต้องเจ็บปวดจากบาดแผล จึงฮึดสู้ ขอแระลองกับเขาเอง ฝีเท้าของทั้งสอง เก้าเข้ายังลาน เริ่มตั้งท่าทางการต่อสู้ แบะเข้าจู่โจมคนตรงหน้าทันที ทันใดสัญญาเลือดที่มีให้ได้เกิดปฏิกิริยาต่อทั้งสอง ฝ่าทือแดงฉาน นัยน์ตาอ่อนหนุ่ม ร่างกายถูกตีกลับเข้าฝั่งตนเอง ทำให้กระอักเลือดเลยทีเดียว พร้อมทั้ง แสงสีฟ้าสว่างทั่วนภา เสียงคมเข้มดังกึกก้อง กล่าวถึงสัญญาเลือดที่มีไว้ต่อกัน ทำให้ สิงคนนี้มิอาจทำร้ายกันได้ ทุกคนต่างงงงวย โลกทุดสิ่งกลับหยุดนิ่ง เหลือเพียงคนสองคนที่สยับเมื่อสักครู่ สิ้นเสียงกึกก้อง สถานะการกลับสู่ปกติ ทับเผ่ามารจึงยกทับกลับไป ทุกคนจึงพากันแยกย้ายไป
ไม่นานเหล่าอาจารย์และศิษย์พี่ก็ได้กลับมา แลถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครั่งพวกเขาไม่อยู่ เผ่ามารช่างกล้าจริงๆ และในเหตุการณ์นั้นเอว ทำให้ทุกคนกลับมามองทุมใหม่ของ อิงเสี่ยวหลานอีกครั้งไม่ยึดติดกัยอตีต ซูหยางจิ้งลองคิดทบทวนดูอีกครั้ง ว่าทำไมถึงฆ่าแกงกันมิได เหตุใดถึงมีสัญญาเลือด เผ่ามารจึงไม่ก่อกวนโลกมนุษย์สักพัก
วันที่ เก้าเดือนเก้า ของทุกๆสิบปีจะจัดการประลอง -ชิงอู่-ซึ่งเป็นการประลองยุทธ์ เพื่อเป็นประมุขหอคัมภีร์ หยวนอิง และประมุขเชื่อสัมพันธ์ เซียน บรรดาสัมนักต่างๆทั่วดินแดน จะส่งศิษย์เข้าประลอง เผ่ามารเองก็สามารถส่งมาได้เช่นกัน ในการประลองในครั้งนี้นั้น มีสัมนักที่ส่งเข้ามาอยู่ 4 สํานัก และอีกหนึ่งเผ่ามาร รวมเป็น 5
ซึ่งมี สำนัก หนิงซาน
สำนัก ฉีหราน
สำนัก จางผิว
สำนัก หรงเหยือน
และเผ่ามาร กวางซี
เจ้าสำนักทั้งสี่นั้นเป็นผู้อาวุโสเสียหมด เว้นแต่ สำนัก หรงเหยือน ที่เจ้าสำนัก ยังเป็นผู้เยาว์ อยู่ในวัยเบญจเพส หน้าตาสวยงาม ต้องตาเหล่าศิษย์สำนักอื่นไม่น้อยเลย
การประลองถูกเริ่มขึ้น ครั้งนี้เป็นการประลอง ฝ่ายบูน สำนักหนิงซาน ได้ส่งศิษย์พี่ใหญ่ หลี่ยงเหยือน ศิษย์พี่รอง ซูงเฉิง ศิษย์พี่สี่ จินจื่อ เหล่าศิษย์พี่พวกนี้ เก่งกาดทางด้าน ตัวอักษรเป็นที่สุด วรยุทธ์นั้นก็ถือว่าไม่เลว ทุกสำนักต่างส่งลูกศิษย์เจ้ามาประลองเช่นกัน
การประลองเริ่มขึ้นตามลำดับ เหล่าศิษย์เข้าแระลองตามตนถนัด จนมาถึงฝ่าย บู๊ บ้าง คนที่เจ้าประลองนั้น มีจำนวนไม่มากแล้ว เหตุเพราะไม่สามารถเข้าเข่งขันซ้ำได้ อาจารย์อย่าง ไท่เหยือนจื่อ แห่งสำนัก หนิงซาน เป็นต้องส่ง ลูกศิษย์ทั้ง 4คนจากการประลองเมื่อครู่เป็นอยู่แล้ว พวกเขานั้นเก่งทางด้านนี้
ศิษย์พี่สาม ฟู่หยาง ศิษย์พี่ห้า มู่เฉงเซียว
ศิษย์น้องหก จางหลิงเอ๋อร์ และศิษย์น้องเล็ก อิงเสี่ยวหลาน