ตะวันลับฟ้าทุ่งดอกไม้ก็เต็มไปด้วยความมือมิดของท้องฟ้ายามค่ำ...
ใต้แสงเงาของยามค่ำนั้นมีแสงกระทบร่างกายของชายร่างเล็ก..ในค่ำคืนนี้สำหรับชายคนนี้แล้วคงเป็นคืนที่แย่ที่สุดเพราะเรื่องที่เกิดในวันนี้มันดูจะย่ำแย่ที่สุด"อ่า.."ชายร่างเล็กคนนั้นถอนหายใจอยู่หลายครั้งก่อนจะกลับมานั่งที่หน้าสถานนีที่อยู่ใกล้ๆเวลาผ่านไปไม่นานขบวนรถไฟก็ได้มาหยุดอยู่ตรงหน้าตามด้วยเสียงเรียกของชายร่างใหญ่"ทิศเหนือ!?
มาทำอะไรที่นี้!"ตามด้วยเสียงของทิศเหนือ"พ..พี่ตะวัน?"
น้ำเสียงของตะวันดูน่าเกรงขามมากบวกกับรูปร่างที่สูงใหญ่เวลาขึ้นเสียงเลยมักทำให้อีกฝ่ายตกใจหรือหวาดกลัวอยู่บ่อยครั้ง"นี่พี่ถามอยู่นะว่ามาทำอะไรในที่แบบนี้?"ถึงแม้ว่าทิศเหนือจะดูกลัวๆแต่ก็กล้าเอ่ยปากพูด"คือผมมาสูดอากาศที่นี่เฉยๆน่ะครับ"ทิศเหนือพยายามฝืนยิ้มแต่อีกฝ่ายใช่ว่าจะไม่รู้เพราะด้วยความที่อยู่ด้วยกันมานาน"จะฝืนทำไมไม่อยากยิ้มก็ไม่ต้องยิ้ม"ทิศเหนือยื่นนิ่งไปสักพักก่อนจะเอ่ยพูด"พี่..เบื่อผมรึเปล่า"ตะวันชะงักก่อนจะพูด"เมื่อก่อนไม่เคยเบื่อเลยแต่ตอนนี้อาจจะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว"พอได้ยินแบบนี้แล้วยิ่งทำให้ทิศเหนือใจหายเข้าไปอีก"พี่..เราเลิกกันดีกว่ามั้ย"ทิศเหนือพูดจบสายลมเย็นยะเยือกได้พัดเข้ามากระทบตัวของทั้งคู่
"...เอาสิถ้าอยากเลิกมากก็เลิกไป"
จากนั้นตะวันก็เดินออกไปปล่อยให้ทิศเหนือยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว"..."น้ำตาเริ่มไหลออกจากเบ้าตาของทิศเหนือ
.
.
หยดน้ำตาพร่าหม่นในวันนี้
รักริบหรี่ปรี่ลงคงอ่อนล้า
ไม่อาจฝืนกล้ำกลืนหยดน้ำตา
ที่ล้นมาปริแก้มแย้มใจช้ำ
เขาห่างเหินเดินห่างทางสะบั้น
ไม่อาจกลั้นความรู้สึกนึกตอกย้ำ
เขาพูดมาชัดเจนในถ้อยคำ
คอยตอกตำนับหยดกดน้ำตา
.
.
<สอง>
ผ่านไปในเวลาชั่วครู่ตอนนี้ทิศเหนือก็ได้กลับมา ณ บ้านของตัวเอง
หน้าของทิศเหนือตอนนี้มีแต่คราบหยาดน้ำตาที่แห้งแล้วอยู่บนใบ้หน้าและเปลือกตาที่บวมจากการร้องไห้
ทิศเหนือฟุบลงเตียงด้วยความเหนื่อยล้าและความอ่อนเพลียก่อนจะหลับตาลงและหลับไปอย่างรวดเร็ว
ณ รุ่งอรุณที่สดใสและแฝงไปด้วยความหนาวเย็นทิศเหนือได้ลืมตาตื่นขึ้นมา
.
.