"มาเลียน่า" นางผู้นี้คือนางพญางูขาวแห่งเขาสามเศียร ผู้มีอายุมากกว่าพันปี นับตั้งแต่ศตวรรษที่10 ถึงศตวรรษที่ 15 นางถูกเสด็จพ่อ ห้ามมิให้ลงไปเล่นที่เมืองมนุษย์โดยเด็ดขาด แต่ณบัดนี้ เสด็จพ่อของนางได้เสียไปแล้ว นางจึงอยากที่จะรู้ที่จะเห็นว่าเมืองมนุษย์ที่เสด็จพ่อบอกว่าอันตรายนักอันตรายหนาจะน่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ นางจึงแอบลงไปที่เมืองมนุษย์กับงูขาวประจำตัว
เมื่อลงมาถึงเมืองมนุษย์นางก็เที่ยวเล่นไปในป่าอย่างมีความสุข
จนกระทั่งได้ไปพบกับเจ้าชายแห่งเมืองเอเซีย ที่มีนามว่า "หิรัญ" เจ้าชายผู้นี้ได้ออกมาล่าสัตว์ตรงกับช่วงเวลาที่นางลงมาเมืองมนุษย์พอดี ความรู้สึกตอนนี้ของนางราวกับเหมือนเจอรักแรกพบ องค์ชายที่สง่าไปด้วยเส้นผมสีน้ำตาลทอง ใส่ชุดล่าสัตว์ที่ดูอย่างใดก็สง่าราวกับเทพเทวดา นางจึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปใกล้ชายผู้นั้น แต่ทว่ากลิ่นอายของความเป็นงูนั้นกับแรงกล้าจนทำให้ชายผู้นั้นรู้ว่านางไม่ใช่มนุษย์ นางจึงใช้เล่ห์กลมนต์เสน่ห์เสกให้ชายผู้นั้นรักและหลงทาง เพราะมนต์เสน่ห์ชายผู้นั้นจึงพานางกลับไปที่เมืองและขอให้ท่านพ่อจัดพิธีอภิเษกสมรสให้ นางอยู่กินกับชายผู้นั้นเป็นแรมปี โดยที่มิขึ้นไปจำศีลบนเขาสามเศียรอีกเลย เพราะการกระทำนั้นจึงทำให้มนต์เสน่ห์ที่นางทำกับชายผู้นั้นค่อยๆเสื่อมลง จนกระทั่งชายผู้นั้นได้พบรักกับสาวใช้ จนนำนางมาเป็นนางสนม เมื่อมาเลียน่ารู้เช่นนั้น ก็มิรอช้าคอยตามรังควาน ทำให้ชีวิตของนางผู้นั้นไม่มีความสุขแม้แต่นิด แต่มินานนัก ตามภาษานักล่าหากมิได้ใช้พิษเพื่อล่าสัตว์ ก็จำเป็นจะต้องคายพิษพวกนั้นออกมามิเช่นนั้นจะย้อนเข้าทำร้ายตนได้ นางจึงไปแอบกลับคืนร่างเป็นนางพญางูขาวเพื่อคายพิษอยู่หลังวัง แต่ก็น่าเสียดายที่มีนางกำนันคนหนึ่งเห็นนางตอนที่กลายร่างกลับคืนเป็นพญางูขาว นางจึงเอาเรื่องนี้ไปทูลฟ้องเจ้าชาย และนั่นก็ตรงกับช่วงเวลาที่มนต์เสน่ห์คลายจนหมดพอดิบพอดี เจ้าชายจึงไม่รอช้า สั่งให้ทหารไปจับนางมามัดและเตรียมบูชายัญ เมื่อนางรับรู้ถึงภัยอันตรายที่จะแคบคลานเข้ามาถึงจึงพยายามหนีแต่เพราะอำนาจที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดจึงหนีไม่พ้นถูกจับมัดเตรียมเผาไฟทั้งเป็น เมื่อเจ้าชายทรงเสด็จมาถึงลานพิธี ก็ได้พูดกลับมาเลียน่าว่า " ข้าเป็นมนุษย์
มิสมสู่กับสัตว์เดรัจฉานอย่างเจ้า!" เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าลงมาที่กลางใจ "ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานและอย่างใด ข้าไม่มีหัวใจอย่างนั้นรึ" ความรู้สึกตอนนี้มีทั้งความโกรธความเสียใจ ความเศร้า ความผิดหวัง ความรู้สึกทั้งหลายเหล่านี้กำลังกำลังเผาผลาญจิตใจของนาง นางรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายพยายามดิ้นจนหลุดออกมาจนได้ นางกลายร่างกลับคืนเป็นพญางูขาวตัวใหญ่มหึมาน่าเกรงขาม นางไล่กินผู้คนทุกคนจนกระทั่งมาถึง คุณชายและนางสนม ที่ขณะนี้กำลังกอดกันแน่น เพราะภาพนี้ทำให้ความโกรธในใจของนางเพิ่มเป็นทวีคูณตอนนี้นางต้องการให้มนุษย์ทั้งสองตายไปพร้อมกัน แต่ว่านางกำลังจะพ่นพิษที่มีอันตรายร้ายแรงหากผู้ใดโดนเข้าไปเป็นจะต้องไหม้ยันกระดูกดำ แต่ภาพที่แสดงต่อมากับเป็นภาพที่ทำให้นางหยุดชะงัก นางสนมผู้นั้นเข้ามาบังพิษร้ายให้องค์ชาย เพราะภาพนี้ทำให้นางหยุดคิดขึ้นมาว่าสิ่งที่นางกำลังทำนี่คือความรักจริงๆหรอ ความรักคือการที่เห็นคนที่เรามีความสุขไม่ใช่หรอ แต่ทำไมตอนนี้นางกำลังทำให้คนที่นางรักเป็นทุกข์ นางจึงหยุดการกระทำนั้นทั้งหมดและเลื้อยหนีไป เพราะการกระทำนี้ทำให้องค์ชายและสนมสงสัยเป็นอย่างมากว่าเหตุใดนางจึงมิฆ่าพวกเขาทั้งสองใน
ณ ถ้ำแห่งหนึ่งบนเขาสามเศียร ขณะนี้มาเรียน่าและงูขาวประจำตัว นางได้กล่าวขึ้นมาว่า" เหตุใดกัน...เพราะความรักที่ข้ามีให้ต่อท่านมันมีไม่พออย่างนั้นหรือ...ฮึก...เหตุใดท่านจึงรักไปนามผู้นั้นไม่เคยเหลียวมองข้าเลย" น้ำตาของนางหยดลงบนพื้นถ้ำ งูขาวตัวนั้นจึงตอบกลับขึ้นมาว่า"มิใช่เลย ความรักของท่านมันช่างยิ่งใหญ่นัก มันยิ่งใหญ่มากถึงขั้นที่ว่าท่านยอมที่จะทำผิดกฎของเขาสามเศียรเพื่อรักกับชายผู้นั้น แต่ความรักที่ได้มาด้วยเล่ห์กล มักจะไม่ใช่ความรักที่จริงใจ" เมื่อได้ยินเช่นนั้นน้ำตาของนางกับหลายพรากขึ้นมามากกว่าเดิม
"นั่นสินะ...เพราะว่าค่าใช้เล่ห์กลมนต์เสน่ห์เสกให้ชายผู้นั้นรักข้า ชายผู้นั้นจึงมิได้รักข้าด้วยใจจริง แต่รักข้าด้วยมนต์เสน่ห์เพียงเท่านั้น" งูตัวนั้นได้แต่เพียงโอบล้อมนางเอาไว้ "ตอนนี้ข้ามิรู้ว่าจักไปแห่งหนใด เพราะหากข้าลงไปอยู่ที่เมืองมนุษย์ฆ่าจักต้องโดนเหล่ามนุษย์ใจร้ายพวกนั้นฆ่าเป็นแน่ แต่หากข้ากลับเข้าวังไปจำจักต้องโดนเหล่าบริวารทั้งหลาย ดูถูกเหยียดหยามเป็นแน่" งูขาวมีตอบอะไรได้แต่เพียงมองด้วย สายตาที่เวทนาเต็มทน มินานนัก นาก็คิดอะไรบางอย่างออกจึงหยิบกระจกขึ้นมาวางไว้ตรงหน้า งูขาวจึงกล่าวขึ้นด้วยท่าทีสงสัย"นี่ท่านคิดจะทำอันใด" "ข้าพอแล้วข้ามิอยากทำร้ายใครอีกแล้ว" นางกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อย "หากท่านคิดว่าวิธีนี้จะดีพอแล้วข้าก็พร้อมที่จะอยู่กับท่านตลอดไป" เมื่อนางจ้องเข้าไปที่กระจกบานนั้น ทำให้ร่างกายของนางค่อยๆกลายเป็นหินทีละนิดทีละนิด ใช่เพราะนางมีเชื้อสายของเมดูซ่า การที่ใครก็ตามจ้องในตาของนางแล้วนางจ้องกลับจักทำให้คนผู้นั้นกลายเป็นหินโดยทันที แต่ณตอนนี้นางกลับใช้คำสาปนี้เพื่อสาปตนให้กลายเป็นรูปปั้นตลอดไป นางรู้ดีว่าวิธีนี้จะทำให้นางไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกเลย แต่หากนางเลือกที่จะฆ่าตัวตายนางก็จะต้องลงไปชดใช้กรรมที่นางได้ทำไว้ตลอดทั้งชีวิต และถ้ำแห่งนี้ก็ได้ชื่อว่า "ถ้ำพญางูขาว" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันอีกชื่อว่า "ถ้ำเลือดงู"
เพราะว่าเลือดที่เกิดจากการต่อสู้ของนางพกญางูขาวได้กลายเป็นแร่เป็นเพชรสีเลือดสด และน้ำตาของนางได้กลายเป็นเพชรสีขาวบริสุทธิ์ ทำให้ชาวบ้านเข้ามาหาแล่ที่นี่ไปขาย แต่ก็มีน้อยนักที่จะได้กลับไปเพราะแรกที่นี่ขุดยากมากราวกับว่ามีคนควบคุมเอาไว้
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่่
่
่
่
่
่
่
ศตวรรษที่ 21
่
่
่
่
่
่
่
่
่
มีชายหญิงคู่รักคู่หนึ่งเดินทางขึ้นมาบนถ้ำแห่งนี้ หญิงผู้หนึ่งกล่าวขึ้นมาว่า"พี่รันที่นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่าเป็นถ้ำเลือดงู"
ศรัณย์กล่าวขึ้นตอบกลับมาว่า"น่าจะใช่นะ ถ้าพี่ดูแผนที่ไม่ผิดอ่ะ" "งั้นเดี๋ยวแพรวาช่วยดูให้" หญิงสาวที่มีนามว่าแพรวากล่าวขึ้น ทั้งคู่เดินตรงเข้าไปในถ้ำ แต่ไม่นานนักก็ได้พบเจอกับรูปปั้นที่มีรูปร่างเหมือนกับครึ่งมนุษย์ครึ่งงู ที่รอบคอมีงูพันไว้หลวมๆ "นี่ไงนี่ไง!" น้ำเสียงของหญิงสาวที่ดูตื่นเต้น "ที่เขาบอกว่าคือรูปปั้นพญางูขาว" ชายหนุ่มมองดูท่าทีของหญิงสาวผู้เป็นคนรักแล้วยิ้มอย่างมีความสุข แต่หารู้ไม่ว่าในถ้ำแห่งนั้นไม่ได้มีเพียงพวกเขาสองคนแต่มีอีกคนหนึ่งที่มองดูพวกเขาอยู่
"ได้กลับมาเกิดแล้วสินะ หิรัญ จันทรา" จบ.
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
่
เรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสั้นของแอดเจ้าจันทร์นะคะ ติดตามเรื่องนี้แล้วอย่าลืมติดตามเรื่องหลักด้วยนะ~