ใต้แสงจันทร์ส่องสว่างบนพื้นดิน ปรากฏร่าง2ร่าง 1กายเนื้อ1โปร่งใส และร่างวิญญาณนั้นคือผม'ออดิส'และคนที่อยู่ข้างๆผมคือ'คิสม่า'เป็นแฟนผม ส่วนตอนนี้ทำไมเรา1คน1ผีถึงมาอยู่กลางสนามหญ้าหน้าสุสานตอนเที่ยงคืนแบบนี้ เพราะคิสม่าแฟนหนุ่มขี้อ้อนของผมกำลังจะฆ่าตัวตาย แต่หากจะพูดว่าทำไม...ต้องย้อนไปพูดถึงอดีต ก่อนที่ผมจะตายก็คงประมาณ8ปีก่อน ตอนนั้นผมกับคิสทะเลาะกันแทบทุกวัน จนวันนั้นผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต ผมกลายเป็นวิญญาณ ผมเสียใจ
วันนั้นมันครบรอบ3ปีที่เราคบกัน ผมรู้ว่าผมไร้เหตุผล และผมกำลังจะไปขอโทษ แต่ก็เป็นไปไม่ได้แล้ว เราอยู่คนละโลก ผมมองเขาร้องไห้ในงานศพของผม ผมมองเขาโศกเศร้า ไม่พูดไม่จา ไม่กินไม่นอน ผมเจ็บใจอยู่เสมอที่อยู่ข้างๆเขาแท้ๆ กลับทำอะไรให้เขาไม่ได้ ผมเคยสามารถทำดีกับคิสได้มากกว่านี้ แต่กลับไม่ทำ หลังผ่านไปหลายเดือน แม่ของผมก็มาพูดให้เขาปล่อยวาง แถมยังพูดอีกว่าผมไม่เคยรักเขา ผมมีคนอื่น ถึงมันจะเป็นเรื่องโกหกแต่ผมก็ขอบคุณแม่มากที่พูดแบบนั้น ผมเห็นเขาร้องไห้อย่างหนักตลอด3วันเต็ม ตอนผมเห็นเขาร้องไห้ก็อดเศร้าตามไม่ได้ แต่หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆดีขึ้น แม้จะยังมีซึมบ้างในบางครั้ง แต่เขาก็ก้าวข้ามเงามืดที่เกิดจากการตายของผมได้อย่างช้าๆแล้ว
จนในที่สุดหลังผ่านไป4ปี เขาก็เริ่มต้นมีความรักครั้งใหม่ แม้ผมจะเจ็บปวด แต่ผมก็ดีใจ ที่ในที่สุดคิสก็จะมีคนที่ห่วงใยและดูแลเขา แต่2ปีต่อมา ตอนที่ผมคิดที่จะปล่อยวาง เขา...คิสก็เจอเหตุการณ์ที่คงจะเจ็บปวดและอัปยศที่สุดในชีวิต เขาถูกแฟนของเขาขายให้เพื่อนที่เป็นอันธพาลย่ำยี ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าตอนนั้นคิสรู้สึกยังไง ผมรู้แค่ว่า ผมรู้สึกเหมือนถูกฉีกกระชากวิญญาณจนแทบจะสลายไปเดี๋ยวนั้น แต่ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่ามีผมอยู่ข้างๆ แต่ผมกลัวว่าถ้าแม้แต่ผมยังทิ้งเขา เขาจะตัวคนเดียวแล้วจริงๆ
แต่สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นก็ทำให้ผมได้รู้ว่ามนุษย์นั้นโหดเหี้ยแค่ไหน แฟนของคิส...ไอ้ผู้ชายสารเลว เขามีรูปที่คิสถูกย่ำยี แถมยังขู่ว่าต้องส่งเงินให้ทุกเดือน ไม่งั้นจะเอารูปลงอินเทอร์เน็ต โดยที่จำนวนเงินนั้นไม่น้อยก็จริงแต่อยู่ในระดับที่คิสสามารถจ่ายให้มันได้ทุกเดือนจริงๆ ผมสาบานเลยว่าตอนนั้นผมอยากจะเข้าไปหักคอมันให้ตายไปซะ
ผมต้องคอยเฝ้ามองคิสค่อยๆกลับเข้าไปในเงามืด อยู่ในความโศกาและความหวาดระแวง แถมไอ้ผู้ชายระยำนั่นยังคอยส่งข้อความมาดูถูกเหยียดหยามทุกวัน ดูถูกที่เป็นรักร่วมเพศ ด่าว่าน่าขยะแขยง ผมที่คอยเฝ้ามองได้แต่อ้อนวอนต่อพระเจ้าให้สถานการณ์ของคิสดีขึ้น ให้เขาพ้นจากชายที่ทรมานเขา....ทรมานคิส แต่มันไม่เคยได้ผลเลย แต่ต่อให้ไม่ได้ผล ผมก็มีแค่สิ่งนี้ที่ทำได้ ผมอ้อนวอน อ้อนวอนและอ้อนวอน
1ปีกับอีก8เดือนในที่สุดคิสก็หลุดพ้น คำอ้อนวอนของผมเป็นจริง ส่วนรอดพ้นได้ยังไง ก็มันบังเอิญเป็นเหมือนผมเมื่อ6ปีก่อนไงล่ะ อุบัติเหตุทางรถยนต์...แต่ผมไม่คิดเลย ว่ามันจะเป็นจุดเริ่มต้นของนรกอีกขุมหนึ่ง
อันธพาลที่เคยย่ำยีก็มีรูปนั้นเหมือนกัน โดยที่ผมกับคิสไม่เคยรู้ว่าก่อน หลังจากผู้ชายคนนั้นตายไปได้เดือน อันธพาลนั่นมันก็มาข่มขู่ คิสไม่เชื่อเพราะชายคนนั้นขี้ระแวง ไม่น่าส่งรูปให้คนอื่น คิสจึงปฏิเสธไป อันธพาลที่ไม่ได้อย่างที่หวังจึงเอารูปนั้นอัปโหลดลงอินเทอร์เน็ต
คิสทนคำด่าทอ ดูถูก เหยียดหยันและสายตาที่น่าขยะแขยงอยู่ทุกวัน ตลอดสามเดือนจนทนไม่ไว้ จึงได้ออกมาในวันนี้ ออกมาจบชีวิตตัวเอง....หน้าสุสานหลุมศพของผม
"ดิสที่รัก ผมมาหาคุณเป็นครั้งแรกในรอบ8ปีที่คุณตายไป คุณไม่เจอผมรู้สึกยังไงบ้าง ดีใช่มั้ยที่ไม่มีคนน่ารำคาญมาให้เห็นหน้า"
ไม่เลย คิสที่รัก ผมอยู่ข้างคุณเสมอมา ใบหน้าของคุณไม่เคยทำให้ผมรำคาญใจ ไม่เลยซักครั้ง แม้จะทะเลาะกันใบหน้าของคุณ เสียงของคุณ หรือแม้แต่อะไรก็ตามที่เป็นตัวคุณก็ไม่เคยทำให้ผมรำคาญใจ
ตลอด3เดือนนี้คิสได้แตกสลายอย่างสมบูรณ์ 8ปีที่ผ่านมา ใจของคิสก็เกิดรอยร้าวมากมายชนิดที่ว่าพร้อมแตกสลายได้ตลอดเวลา เมื่อรวมกับเหตุการณ์ครั้งนี้ คิสจึงแหลกสลายอย่างไม่อาจฟื้นคืนได้อีก
"คุณรู้มั้ย เหตุผลเดียวที่ผมไม่เคยมาหาคุณเลยเพราะไม่อยากให้คุณเป็นห่วง ผมเคยสัญญากับตัวเองว่าจะมาหาคุณในวันที่ผมมีความสุขและหาที่พึ่งทางใจคนอื่นแทนคุณได้แล้วเท่านั้น แต่ผมหาไม่ได้ คุณบอกผมเสมอว่าผมเชื่อคนง่ายและไร้เดียงสา จนถึงตอนนี้ผมพึ่งได้รู้ว่าคุณปกป้องผมจากคนไม่ดีมามากแค่ไหน ทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน คุณบอกผมว่าคุณหึงจึงได้ไร้เหตุผล"
ก็พวกเขามีเจตนาไม่ดีกับนายในทางเชิงชู้สาว ผมหึงก็สมควร
"แต่คุณไม่เคยหึงผมกับเพื่อนเลย และพวกเขาล้วนแต่เป็นเพื่อนดีๆ...."
เจตนาของพวกเขาคือมิตรภาพ ไม่มีอะไรน่าหึง
"และสุดท้ายในวันที่ไม่มีคุณ ผมก็...พูดไปเดี๋ยวคุณจะเป็นห่วงน่ะ เพราะงั้นไม่พูดดีกว่า"
ไม่ต้องพูดหรอก ผมอยู่กับคิสตลอดเวลา ผมรู้ว่าคิสเจออะไรมาบ้าง และผมจะอยู่เคียงข้างคิสคลอดไป
"แม่คุณเคยมาหาผมด้วย เธอโกหกผมว่าคุณมีคนอื่นและหมดรักผมแล้ว ผมรู้ดี และรู้ด้วยว่าคุณคงสบายใจกว่าถ้าผมเชื่อแบบนั้น ผมเลยใช้เวลา3วัน หลอกตัวเองทั้งวันทั้งคืนว่าคุณหมดรักและมีคนอื่น ผมหลอกตัวเองมา8ปี ผมผิดคำสัญญากับตัวเองและได้มาหาคุณในวันที่ผมสิ้นหวัง เพื่อขออย่างเห็นแก่ตัวให้ได้ไปอยู่เคียงข้างคุณ"
เขาคือชายที่ผมรัก และเป็นชายที่ทรมานเกินจะทานทน ผมรักและอยากให้เขามีชีวิตอยู่ แต่ในทางกลับกัน ผมก็ไม่อาจทนเห็นเขาอยู่ในนรกได้อีกต่อไป การมีชีวิตอยู่สำหรับเขาคือตายทั้งเป็น แต่ผมรู้ว่ามีคนอีกมากมาย โอกาสอีกมากมายให้เขาได้ไขว่ขว้า ความคิดของผมตีกัน ย้อนแย้งไม่หยุด แต่ไม่ว่ายังไง ต่อให้ผมอยากให้เขามีชีวิตอยู่ ผมก็ทำอะไรไม่ได้...เพราะผมตายไปแล้ว
1ร่างโปร่งใสได้แต่อยู่ข้างๆ มองคนที่ตนรักอย่างสุดหัวใจ ฆ่าตัวตาย 'เขาคนที่ผมรักแตกสลายไม่มีชิ้นดี' ร่างโปร่งหลั่งน้ำตา2สายอย่างเงียบงัน ก่อนจะค่อยๆสลายเป็นละอองแสง ทิ้งคำอ้อนวอนแด่พระเจ้าดั่งที่ทำมาตลอดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหายไป
ได้โปรดแด่พระเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ ขอพระองค์ทรงดูแลผู้เป็นดั่งดวงใจของข้า'คิสม่า ลีโอเนล' ให้เขาได้เกิดใหม่อย่างมีความสุข ชีวิตที่ดี สภาพแวดล้อมที่ดี คนรักที่ดี ขอพระองค์ทรงเมตตา ต่อให้ต้องวิญญาณแหลกละเอียดและหายไปไม่อาจได้เกิดใหม่ ต่อให้ต้องนำวิญญาณเป็นเครื่องสังเวย หากเพื่อให้ดวงใจไม่ต้องมีชีวิตดั่งอยู่ในขุมนรกอีก ข้าก็ยินดี สดุดีแด่พระองค์เจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์
ตอนพิเศษ: ย้อนอดีต
มืออันอ่อนโยนที่สัมผัสแก้ม เสียงกระซิบที่ดังอยู่ข้างหู ทั้ง2สิ่งคือสิ่งที่ทำให้ผมน้ำตาไหล เพราะผมจำได้ว่าวันนี้คือวันอะไร....วันที่ผมตาย
"ดิสอย่าหึงไปเลยน้า~ เค้าจะอยู่ห่างๆผู้ชายคนนั้น โอเคมั้ย เอ๊ะ!! ทำไมดิสถึงร้องไห้ล่ะ โกรธขนาดนั้นเลยเหรอ เค้าขอโทษ~"
นิ้วเรียวขาวที่ช่วยเช็ดน้ำตาและคำพูดที่ออดอ้อนให้หายโกรธทำให้ผมแน่ใจในที่สุด ผมกลับมายังอดีต ความจริงที่ไม่น่าเชื่อทว่ากลับเกิดขึ้น หรือก่อนหน้านี้อาจเป็นความฝันอันยาวนานที่แสนทนมาน แต่เรื่องนี้ผมยังไม่คิดหรอก ผมรีบสวมกอดคนบางข้างตัวพร้อมปล่อยโฮออกมาเสียยกใหญ่ คนข้างตัวหรือแฟนหนุ่มของผม'คิสม่า'รีบกอดปลอบผมอย่างงุนงงก่อนจะถามอีกครั้งอย่างสับสน
"เป็นอะไรดิส ร้องไห้ทำไม"
"ผม...ผมคิดว่า..จะเสียนายไปแล้ว ไม่มีโอกาสอีกแล้ว" โอกาสที่จะได้กอด ได้พูดคุย ได้บอกรักและ....ขอโทษ
"ผมขอโทษนะที่ทำให้ทะเลาะกันอยู่เรื่อย ขอโทษที่ดูแลไม่ดี" ขอโทษที่ทำให้เธอต้องเจอนรกบนดินแบบนั้น
ผมพูดพร้อมสะอึกสะอื้นอย่างดูไม่ได้ คนข้างตัวปล่อยกอดให้หลวมลงเล็กน้อย จากนั้นผมก็รู้สึกไดถึงสัมผัสอ่อนนุ่มบริเวณริมฝีปาก เป็นการประกบจูบโดยคิส ก่อนที่อีกฝ่ายจะค่อยๆสอดลิ้นเข้ามา จูบเราเริ่มลึกซึ้งขึัน ลิ้นของเราพัวพันกัน ผมค่อยๆกลายเป็นฝ่ายรุกและลิ้มรสหวานภายในโพรงปากของแฟนหนุ่มอย่างโหยหา องศาการจูบของเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆพร้อมหยาดน้ำใสที่ไหลออกมา เราจูบกันอยู่นานก่อนจะผละจากกันอย่างอาลัย
"คุณอยู่เคียงข้างผมมา11ปีแล้วนะ ผมไม่หายไปไหนหรอก ออดิส 8ปีที่อยู่เคียงข้างผม ขอบคุณนะ แม้ผมจะไม่รู้มาโดยตลอดจนกระทั่งย้อนอดีต แต่ผมรู้ดีว่าคุณคงทรมานไม่น้อยไปกว่าผมแน่" คิสพูดพร้อมน้ำตาที่เอ่อคลอจากความเศร้าและดวงหน้าที่แดงปลั่งรวมถึงอาการหอบหายใจน้อยๆจากการจูบเมื่อครู่
ผมตะลึงงัน ด้วยรู้ว่าความทรงจำเกี่ยวกับนรกบนดินพวกนั้นจะทำคิสทุกข์ทรมานขนาดไหน
"คิส นายจำไว้แค่อย่างเดียว ฉันจะอยู่เคียงข้างนายเอง"