NovelToon NovelToon

เมียใหม่

01

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

ณ สถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งแสงสีจากไฟสาดส่องพาให้เวียนหัวหมุน ผสมด้วยความมึนเมาจากพิษแอลกอฮอล์ยิ่งกล่อมให้นักเที่ยวคออ่อนล้มพับลงนอนอย่างช่วยไม่ได้ เสียงดนตรีอึกทึกจนทำให้ผู้คนที่ต้องการสนทนาพากันตะโดนใส่กันจนคอแทบแตก

“เสี่ยขา ไม่มาตั้งนานน้องเจแอนคิดถึงแทบแย่” สาวสวยในชุดเดรสสีแดงรัดรูป นั่งลงบนตักของผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่มพร้อมทั้งซบหน้าลงซุกไซร้เคล้าไปกับคำพูดออดอ้อน การกระทำแบบนี้คงไม่ต้องให้อธิบายกันมากว่าเธอประกอบอาชีพไหน

“กูไม่ค่อยว่าง ออกไป ร้อน!!” คนถูกอ้อนตะคอกใส่อย่างอารมณ์เสีย จนสาวสวยต้องถอยตัวลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาอีกตัว เจแอนเป็นตัวท็อปของที่นี่แต่วันนี้เธอไม่ใช่เป้าหมายของ “อคิราห์” เจ้าของสถานบันเทิงแห่งนี้ เป้าหมายของเขาในคืนนี้เป็นแม่สาวนักเที่ยว สูงยาว ผมทองที่ยืนเต้นยั่วยวนเขาอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์นั้นต่าหาก

“ไปทำงานของมึงไป”

“แต่…” “หรือมึงอยากจะหาที่ทำงานใหม่”

“มะ ไม่ค่ะ” เมื่อถูกขับไล่ด้วยวิธีนี้แม่ดาวผับก็ลุกหนีออกไปหาลูกค้าทันที ส่วนตาคมดุดันก็เอาแต่จ้องเรือนร่างที่เต้นโล้อยู่กับเสียงดนตรีปรานจะกลืนกินเสียให้ได้

“ปกติมานี่มึงต้องคั่วกับน้องเจแอนนี่ว่า ทำไมวันนี้ถึงไล่น้องเค้าอย่างกับหมูกับหมาล่ะวะ” ธีสิส เพื่อนสนิทของอคิราห์ถามขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปยกขวดเหล้าขึ้นมาเทลงคง

“วันนี้กูเจอคนที่น่าสนใจกว่าน่ะสิวะ” เขาว่าทั้งที่ตายังคงจดจ้องอยู่กับแม่สาวผมทองสุดเซ็กซี่ หากคืนนี้ไม่ได้หิ้วเธอกลับไปกิน อคิราห์นักล่าคงเป็นเพียงชื่อที่ไม่มีอยู่จริง

“คนนั้นน่ะเหรอ” ธีสิสหันไปยังปลายทางของสายตาเพื่อนสนิทก่อนจะถามขึ้นตามที่คาดเดาเอาเอง

“เออ ยิ่งมองยิ่งหิว”

“มึงจะเอากลับไปกินที่บ้านเหรอวะ”

“กูไม่ชอบไปที่อื่น ทำไมกูจะไปเอากันที่ไหนแล้วมึงเกี่ยวอะไรด้วย”

“กูสงสารน้ำหอมเค้าน่ะ แค่มึงเอาคนอื่นไปนอนมันก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว นี่มึงเล่นเอาไปนอนบนเตียงที่มึงนอนกับเค้า”

“อีหอมมันยังไม่ว่าอะไรเลย มึงมาเดือดร้อนอะไรด้วย” น้ำหอมที่ทุกคนกำลังพูดถึงกันอยู่นี้คือผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างอคิราห์มาตั้งแต่เขายังไม่มีอะไร เด็กสาวกำพร้าที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นแม้จะรู้ตัวว่าอคิราห์ไม่ได้รักแต่ที่พึ่งเดียวที่เธอมีก็มีเพียงเขาเท่านั้น อคิราห์เองที่เก็บน้ำหอมไว้ก็เพราะความดีที่เธอทำให้ทั้งนั้น ผู้หญิงคนอื่นมีเพียงเซ็กส์ที่มอบความสุขให้กับเขาได้ แต่น้ำหอมทำทุกอย่างที่คนเป็นเมียจะทำให้ได้ แม้ในวันนี้จะมีทุกอย่างหนาที่ดูแลบ้านและจัดการความเรียบร้อยต่างๆ ก็ยังเป็นน้ำหอมที่ดูแลเหมือนเดิม แต่ถึงเธอจะดีแสนดีเพียงใดความดีก็ไม่อาจเอาชนะใจของคนอย่างเขาได้ เรื่องผู้หญิงเป็นเรื่องที่แสนจะเจ็บช้ำ ยิ่งนานวันความเกรงใจก็ยิ่งลดน้อยลงทุกที แต่ก่อนพามาก็ไปนอนกันห้องอื่น ทุกวันนี้พาใครมากลับเป็นเจ้าของบ้านที่ต้องออกไปนอนอีกห้อง คำว่าเมียที่ถืออยู่ไม่มีค่าอะไรเลย

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูปลุกให้ร่างบางที่นอนหลับอยู่บนเตียงต้องลุกขึ้นกลางดึก ทันทีที่ประตูเปิดออก ภาพที่เห็นดั่งฟ้าผ่าลงกลางใจที่ด้านชา

“หอม คืนนี้มึง…”

“หอมรู้” อคิราห์ไม่ทันได้พูดจบคนในห้อก็เดินสวนออกมาพร้อมกับแทรกขึ้นกลางประโยค ดวงตากลมโตร้อนผ่าว ครั้งแล้วครั้งเล่ากับเรื่องนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่เคยได้ เคยทะเลาะกันอยู่ครั้งหนึ่ง รุนแรงถึงขั้นถูกคนเป็นผัวตบตี แล้วอย่างนี้ใครจะอยากพูดให้เจ็บตัวทนได้ก็ทนกันไป

“เมียพี่เหรอ” สาวผมทองที่มากับอคิราห์ถามขึ้นด้วยความสงสัย จะว่าแปลกมันก็ไม่เชิง ถ้าไม่ใช่เมียทำไมมานอนในห้องนอน แล้วถ้าเป็นเมีย ทำไมไม่โกรธไม่โมโหเลยสักนิด

“ทำไม มาถึงขนาดนี้จะกลับแค่เพราะพี่มีเมียแล้วหรือไง”

“หนูไม่มีปัญหาหรอก คืนเดียวแล้วก็แยกกันไป แต่เมียพี่จะไม่เอาปืนมายิงหนูใช่มั้ย”

“มันไม่กล้าหรอกน่า มาเร็วเสียอารมณ์”

“แล้วเค้าไปนอนไหน”

“เออ ช่างหัวมันเถอะใครมามันก็ออกไปนอนที่ของมัน หนูอะมานี่” มือหนาดึงร่างระหงเข้าไปในห้องอย่างอดใจไม่ไหว กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นน้ำหอมแสนหอมหวานปลุกเร้าอารมณ์เสือป่าได้เป็นอย่างดี

“อื้อ…” งานชำนาญ งานถนัดของเขาล่ะ ไม่ว่าใครหน้าไหนที่โดนลิ้นโลมเลียไปบนเรือนร่างเป็นต้องร้องครวญครางทุกราย มือเรียวได้แต่กำแน่นอยู่ที่หมอน ดวงหน้านวลฟุบลงบนหมอนเพื่อซับน้ำตา เสียงแห่งความสุขสันต์ดังแว่วมาจากห้องนอนตัวเอง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผัวก็กำลังเริงรักอยู่กับคนอื่น เธอควรจะชินชาไม่ใช่หรือไง คืนแล้วคืนเล่าที่ต้องทนนอนฟังเสียงครางจากผู้หญิงคนอื่นจากการกระทำอย่างว่าของผัวตัวเองคืนนี้ถือว่าไม่เท่าไหร่บางคืนมากันเป็นโขยงร้องกันเกรียวกราว ค่ำคืนแสนยาวนานผ่านพ้นไปอย่างเจ็บปวด กว่าจะคล้อยหลับไปก็ใกล้จะสิ้นคืนแล้วรู้ตัวอีกทีก็ต้องตื่นขึ้นมาทำกับข้าวตอนเช้าสำหรับทุกคนในบ้านรวมไปถึงแขกของอคิราห์เมื่อคืนนี้แล้ว

“ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” เสียงของแขกไม่ได้รับเชิญดังมาจากทางบันใดของบ้าน สายตาเย็นชาหันไปมองเพียงแวบเดียวก่อนจะหันกลับมาให้ความสนใจกับข้าวต้มบนโต๊ะอาหาร

“เมื่อคืนหลับสบายดีมั้ย” เสียงทุ้มดังตามมาหลังจากผู้หญิงผมทองนั่งลงบนเก้าอี้ได้เพียงแป็บเดียว

“ถามเจสซี่ หรือถามเมียพี่” สาวผมทองหันไปถามด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

“ก็ต้องถามเจสสิคะ เมียพี่เค้าหลับสบายของเค้าทุกคืนนั่นแหละ” คนถูกพูดถึงได้แต่นั่งนิ่งไม่พูดอะไรตอบ เขาไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าความรู้สึกของเธอจะเป็นอย่างไร ถ้าเขาแคร์สักนิดก็คงรู้ว่าเรื่องแบบนี้มันไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่จะรับได้

“หลับสบายสิคะ ก็พี่เล่นซะจนเจสหมดแรงขนาดนั้น กว่าจะได้นอนกันก็เอาจนหมดคืน”

ตึง!!

เสียงเก้าอี้ที่ถูกผลักออก ก่อนร่างบางจะลุกขึ้นยืนดังจนทำให้คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่หันมามองด้วยความตกใจ ผู้หญิงคนหนึ่งจะทนฟังเรื่องพันนี้ได้นานแค่ไหน หนึ่งนาที หนึ่งชั่วโมง หนึ่งปี หรือ….นานจนจำไม่ได้แล้ว อย่างที่น้ำหอมทนอยู่ตอนนี้

“เป็นอะไรของมึง” อคิราห์ถามเสียงเข้ม สีหน้าดูจะไม่พอใจสักเท่าไหร่ ตรงข้ามกับแม่เจสซี่ผมทองที่ดูจะตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก สุดท้ายก็แสดงความรู้สึกออกมาจนได้สินะ คิดว่าจะทนได้นานกว่านี้ซะอีก

“เราคุยกันดังเกินไปหรือเปล่าคะ เมียพี่คงจะรำคาญ”

“มึงเป็นอะไรอีหอม!!” อคิราห์ลุกขึ้นแล้วตรงเข้ามาหาร่างเล็กที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่โต้ตอบอะไร

“กูถามทำไมมึงไม่ตอบ!!” มือหนาคว้าแขนทั้งสองของน้ำหอมไปข้างอย่างแรง พร้อมกับเขย่าถามจะเอาคำตอบ

“หอมเบื่อ!!! เหนื่อยที่จะต้องมาทนดูพี่พาคนอื่นมานอนแบบนี้”

“เราคุยกันแล้วนี่ ว่ากูแค่พามานอนเป็นครั้งคราว มึงจะอะไรวะ”

“แล้วถ้าหอมพาคนอื่นมาบ้างพี่จะรู้สึกยังไง” คนถูกถามยืนนิ่งจ้องมองแววตาที่จดจ้องเขาอย่างไม่เกรงกลัว ไร้ซึ่งแววตาของน้ำหอมเด็กสาวแสนอ่อนโยนที่อยู่กับเขาเสมอมา

เพี๊ยะ!!

มือหน้าฟาดลงที่แก้มนวลเต็มแรง มันแรงพอที่จะทำให้ร่างเล็กๆ กระเด็นลงไปกองอยู่ที่พื้น เลือดสีแดงฉานไหลลองมาจากปากเรียวเล็ก ความรู้สึกชาวืดเริ่มจางหายกลายเป้นความเจ็บจากแก้มฉาบลงไปถึงกลางอกซ้าย

“อยากเป็นกระหรี่นักเหรออีหอม กูไม่นอนด้วยมันคันนักหรือไง” คำพูดดูถูกเหยียดหยามดัง ก้องอยู่ในหูของคนที่ไม่ควรจะถูกกระทำด้วยซ้ำ เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เป็นเขาต่างหากที่ผิดเต็มๆ แล้วยังมาพาลเหมือนว่าตัวเองถูกอย่างหน้าด้านๆ

“เจส ขอตัวกลับก่อนนะคะ” คนนอกอย่างแม่สาววันไนท์สแตนแม้จะสะใจอยู่น้อยๆ ที่ได้เห็นภาพผัวเมียทะเลาะกันแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะรุนแรงถึงขึ้นตบตีกันแบบนี้

“ไม่แดกแม่งแล้วเหี้ยเอ้ย!!”

เพล้ง!!

ถ้วยข้าวต้มบนโต๊ะถูกปัดลงมาแตกกระจายอยู่บนพื้น ร่างเล็กที่ยังคงนั่งคอตกอยู่ที่พื้นก้มหน้าร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

“ฮึก ฮือ….” เสียงสะอื้นค่อยๆ ดังขึ้นเมื่อทุกคนเดินออกไป

“ฮือ!!!” มือเล็กๆ กำหมัดแล้วทุบลงที่พื้นอย่างบ้างคลั่ง ความเจ็บที่มือยังไม่มากเท่าความเจ็บที่ยังชาบนแก้ม ความเจ็บที่ได้รับจากคนที่สละให้ทั้งตัวทั้งใจ ทั้งศักดิศรี แต่กลับไม่ได้อะไรคืนมาเลย หลายครั้งเหลือเกินที่เธอมีความคิดว่าถ้าหยุดรักคนเลวแบบนี้ไม่ได้ ความตายคงเป็นทางเดียวที่จะพาเธออกไปจากความเจ็บปวดนี้ หลังจากทะเลาะกับน้ำหอมที่เดียวที่อคิราห์จะเลือกไปก็คือบ้านของธีสิส ทันทีที่เจ้าของบ้านเปิดรับคนอารมณ์เสียก็จะเดินตรงเข้าไปที่เคาท์เตอร์ภายในบ้าน ค้นเอาเหล้าออกมาดื่มราวคนกระหายน้ำ

“มาแบบนี้ทะเลาะกับน้ำหอมมาอีกล่ะสิ” เจ้าของบ้านชินชากับท่าทางของเขาเสียแล้ว ไม่ว่าจะทะเลาะกันมากี่ครั้ง มาถึงเพื่อนสนิทของเขาก็ตรงมาหยิบเหล้าออกมากินราวกับเป็นบ้านตัวเองทุกที

“เออ กูเบื่อแม่งงี่เง่า”

“งี่เง่าอะไรวะ ไม่ใช่ว่ามึงพาใครไปนอนจนเค้าต้องไปนอนห้องอื่นใช่มั้ย”

“เออ ปกติไม่เห็นมันจะเป็นเหี้ยอะไรเลย วันนี้แม่งมาทำบึงบังใส่กูเลยตบแม่งคว่ำเลย”

“ไอ้เหี้ยอคิน มึงผิดนะเว้ย”

“กูผิดอะไร มึงไม่รู้หรอกว่ามันพูดอะไรกับกู”

“พูดอะไร”

“มันบอกถ้ามันเอากับคนอื่นบ้านกูจะทำไง”

“มึงก็เลยตบเค้า?”

“เออ ก็กูไม่ชอบ กูให้มันอยู่ในบ้านเป็นเมียกุก็บุญหัวมันเท่าไหร่แล้ว ไม่มีกูใครจะเอามัน” ธีสิสได้แต่ถอนหายใจกับความโง่เขลาของเพื่อน เขารู้ดีว่าอคิราห์นั้นก็รักน้ำหอมไม่ได้น้อยไปกว่าที่น้ำหอมรักเขาเลย แต่เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้เขาหยุดที่เธอไม่ได้ “มึงลองคิดดูเล่นๆ ดิ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ มึงจะทำไงวะ ถ้าเค้าจะไปจริงๆ ถ้ามีคนที่รักน้ำหอมเค้าจริงๆ รักมากพอที่จะทำให้เค้าตัดใจจากมึงได้”

“ไม่มีทางอย่างอีหอมมันจะไปไหนได้ มันรักกูจะตาย” คนถูกถามนิ่งไปแป็บหนึ่งก่อนจะตอบ แม้คำพูดจะดูมั่นใจ แต่ในใจก็แอบหวั่นไปตามคำพูดของเพื่อนอยู่เล็กน้อย

“ของตายมันไม่มีอยู่จริงหรอกอะอคิน วันนึงเค้าก็ทนไม่ได้ กูบอกกับมึงกี่รอบแล้วว่าสิ่งที่มึงทำไม่มีผู้หญิงหน้าไหนทนได้หรอก”

“ก็อีหอมไง”

“ก็เพราะเค้ารักมึงไง ถ้ามึงรักเค้ามึงก็แคร์เค้าบ้าง อย่างน้อยจะมีใครก็อย่าพาไปให้เค้าเห็นเลย” อคินนิ่งไปครู่หนึ่งพร้อมกับคิดตามคำพูดที่เพื่อนบอก

“วันนี้มึงอาจจะไม่รู้สึกอะไร วันไหนเค้าไปแล้วมึงจะรู้สึก กูบอกได้แค่นี้แหละ” ในขณะที่อีกฝ่ายเย็นลงแล้วอีกฝ่ายที่ไม่ได้รับคำปลอบโยนจากใครกำลังจมอยู่กับความเจ็บปวด คำพูดและการกระทำของอีกฝ่ายกำลังดึงอีกคนลงสู่ความมืดอย่างไร้ที่พึ่งพา ความรู้สึกของคนถูกทิ้งกำลังคลอบงำผู้หญิงตัวเล็กๆ และพาเธอไปสู่ความคิดด้านมืด กี่ครั้งแล้วที่ถูกทิ้งให้รออย่างไม่มีหวัง กี่ครั้งที่ไม่ว่าทำอะไรให้ก็ถูกมองข้าม กี่ปีแล้วที่วันสำคัญไม่ได้รับความสำคัญ ของขวัญชิ้นสุดท้ายเขาให้มาตั้งแต่เมื่อไหร่พยายามนึกยังนึกไม่ออกเลย

“ระวังตกลงไปนะ” เสียงปริศนาดังขึ้นในขณะที่ร่างบางยืนจ้องมองผิวน้ำเงียบสงบ มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่อาบอยู่บนแก้มก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคนแปลกหน้า

“เศร้าอยู่ล่ะสิ มีอะไรอยากจะระบายหรือเปล่า” คนแปลกหน้าเดินตรงเข้ามาหาร่างบางที่ริมน้ำอย่างช้าๆ

“คุณเป็นใครคะ ทำไมถึงได้….”

“ฉันก็อยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว เธอต่างหากมาทำอะไรที่นี่”

“ไม่รู้จะไปไหนก็เลยมา เดินเล่นเฉยๆ” น้ำหอมตอบกับผู้หญิงแปลกหน้าที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ที่นี่เปลี่ยวจะตาย ฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้ว เห็นมาตั้งแต่เช้าแล้วนี่ ไม่สบายใจอะไรมาเหรอ เล่าให้ฉันฟังได้นะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว”

“ตั้งใจมาฆ่าตัวตายใช่ไหม” จังหวะที่น้ำหอมกำลังหมุนตัวจะเดินกลับเสียงของผู้หญิงแปลกหน้าที่ถามขึ้นทำให้น้ำหอมต้องชะงักและหันกลับไปหาเธออีกครั้ง

“ทำไม…”

“ทำไมฉันถึงรู้น่ะเหรอ หึ…” เรียวปากสวยกระตุกยิ้มก่อนจะก้าวเข้ามากระซิบบอกกับน้ำหอมว่า

“คนมาฆ่าตัวตายที่นี่บ่อยจะตาย” หลังจากพูดจบประโยคผู้หญิงตรงหน้าก็สลายหายวับไปต่อหน้าต่อตา น้ำหอมสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ แววตาหวาดกลัวกวาดมองไปรอบๆ เพื่อหาว่าเธอหายไปไหน แต่มีเพียงความมืดและความว่างเปล่าเท่านั้นที่เธอมองเห็น ตึ้ง เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้นทำให้ความสนใจถูกดึงไปที่หน้าจอมือถือ

“คืนนี้กูไม่กลับ ไม่ต้องสาระแนรอ” ข้อความที่จุดชนวนความน้อยใจพาความรู้สึกดำมืดแสนเศร้าโศกให้กลับมาอีกครั้ง มือที่ถือโทรศัพท์สั่นริกด้วยความโกรธ ในใจของคนที่กำลังอยู่ในจุดที่ต่ำขนาดนี้คิดได้เพียงว่าทำอย่างไรก็ได้ให้พาตัวเองออกไปจากความรู้สึกแย่ๆ นี้เสียที ตูม!!! โทรศัพท์ถูกปาลงไปในน้ำและจมหายไปในเวลาเสี้ยววินาที น้ำหอมจ้องดูผิวน้ำที่นิ่งสงบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ถ้าหอมตายไป พี่จะเสียใจบ้างหรือเปล่า”

ตูม!!!

คำถามถูกถามขึ้นเพียงไม่กี่วินาที คำตอบก็ดังขึ้นในใจของคนถาม ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจกระโดดลงไปในน้ำที่กำลังไหลเชี่ยวอยู่ที่ด้านล่าง แรงของน้ำพัดเอาร่างบางให้จมลงสู่พื้นดินใต้น้ำ ลมหายใจค่อยๆ หายไปมือที่ตะเกียกตะกายเพื่อจะโผล่ขึ้นจากน้ำไปหาอากาศคว้าได้แต่ของเหลวที่ไม่สามารถดึงเธอขึ้นสู่ผิวน้ำได้ วินาทีสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจ น้ำหอมลืมตาขึ้นมาพบกับผู้หญิงที่เธอคุยด้วยเมื่อสักพัก ทุกอย่างบอกกับเธอว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนแน่ๆ

“มึงอยากกลับขึ้นไปมั้ย กูช่วยมึงได้นะ” เสียงของอีกฝ่ายดังขึ้นมาในหู ไม่เคยรู้มาก่อนว่าอยู่ในน้ำจะพูดคุยกันได้

“ทำไมเราถึง….”

“มึงกำลังจะตาย มึงอยากรอดมั้ย” น้ำหอมตกใจเมื่ออีกฝ่ายรับรู้ความคิดของตนทั้งที่ยังไม่ได้พูดออกไป แต่คำถามก็แทรกเข้ามาในสมองของเธอเช่นกัน

“ถ้าต้องกลับไปทนอยู่กับคนเลวๆ อย่างพี่อคิน ฉันขอตายดีกว่า….” เมื่อคำถามได้รับคำตอบทุกอย่างก็สงบลง ความรู้สึกอึดอัดจากการขาดอากาศ ความเหน็บหนาวของน้ำ หรือแม้แต่…ความเจ็บปวดที่ใจ

02

บทที่ 2 ฟื้นจากความตาย

​ภาพของห้องพักคนไข้ในโรงพยาบาลค่อยๆ ชัดขึ้น ร่างเล็กๆ บนเตียงค่อยๆ ประคองตัวเองให้ลุกขึ้น มือเรียวยกขึ้นมาจับที่หน้าแล้วลูบลงมาที่ตัว

เพี๊ยะ!!

“โอ้ย” เสียงร้องของคนบนเตียงคนไข้ปลุกคนเฝ้าให้ตื่นขึ้นมาด้วยความดีใจ

“หอม!!” เสียงเรียกจากคนเฝ้าทำให้น้ำหอมหันไปมองดูผู้ชายร่างกำยำที่ยืนทำหน้าดีอกดีใจอยู่ข้างเตียงอย่างประหลาดใจ

“พี่นึกว่าพี่จะเสียหอมไปแล้วจริงๆ ซะอีก” อคิราห์โผลเข้ากอดร่างบางของภรรยาด้วยความดีใจ กว่า 3 คืนแล้วที่น้ำหอมหลับใหลอย่างไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คนหาปลาช่วยเธอไว้ได้ทัน แม้ว่าหลังงมร่างขึ้นมาเธอจะหยุดหายใจไปแล้วก็ตาม

“มึงแช่งให้กูตายเหรอ” มือบางผลักอกกว้างออกอย่างเต็มแรงพร้อมกับแสดงอาการโกรธเกรี้ยว

“หอม พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้น”

“ก็มึงบอกว่านึกว่าเสียกูไปแล้ว ความหมายก็คือคิดว่ากูตายแล้วไม่ใช่หรือไง”

“หอม…” อคิราห์จ้องมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ แววตาของน้ำหอมตอนนี้ไม่ใช่แววตาไร้เดียงสา และอ่อนโยนอย่างที่เขาเคยเห็นเลยสักนิด ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนว่าน้ำหอมตรงหน้าไม่ใช่น้ำหอมที่เขาเคยรู้จัก

“หอมๆ หอมเหี้ยอะไร”

“ก็ น้ำหอมชื่อเราไง จำไม่ได้เหรอ” หรือว่าจะความจำเสื่อม อคิราห์ดูจากท่าทางของเมียแล้วก็วิเคราะห์ไปต่างๆ นานา

“กูชื่อหอมเหรอ ชื่อเหี้ยอะไรวะสลิดชิบหาย”

“หอมเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมถึงดูแปลกๆ ไป” อคิราห์พยายามใจเย็นกับเมียแม้จะเริ่มหงุดหงิดกับท่าทางที่แปลกไปแต่การที่เสียเธอไปสามวันมันก็ทำให้เขารับรู้แล้วว่า เขาไม่สามารถเสียเธอไปได้อีกแล้ว

“เป็นเหี้ยอะไรล่ะ ปวดหัวชิบหาย นี่กูเป็นอะไรป่วยเนี่ย”

“หอมไปกระโดดน้ำตาย แต่มีคนช่วยไว้ได้ ตอนแรก…หอมหยุดหายใจไปแล้ว แต่ระหว่างรอเรื่องเอกสารหอมก็ฟื้นขึ้นมาตอนอยู่ในห้องดับจิต จำได้มั้ย” เจ้าตัวพยายามนึกและลำดับเหตุการณ์ตามที่ชายแปลกหน้าบอก ภาพตัวเองกระโดดน้ำ ภาพที่มองเห็นผู้หญิงอีกคนถูกงมร่างขึ้นมาจากน้ำ ภาพที่ตัวเองตามรถกู้ภัยมาที่โรงพยาบาล ทุกอย่างค่อยๆ ชัดขึ้น

“เหี้ย!!!” ร่างบางกระโจนลงจากเตียงแล้วลากสายน้ำเกลือวิ่งไปที่ห้องน้ำ ส่องมองดูหน้าตัวเองที่กระจก ภาพที่เห็นเป็นผู้หญิงรูปร่างหน้าตาสะสวย ผิวขาวเนียนผุดผ่อง ความรู้สึกเจ็บเมื่อตอนที่ตบหน้า

“เป็นอะไร” อคิราห์ที่วิ่งตามมาประคองถามกับน้ำหอมท่าทางแปลกประหลาดทำให้เขาแปลกใจเหลือเกินว่าเมียของเขาเป้นอะไร

“ทำแบบนี้ได้ ทำแบบนี้ได้จริงด้วย!!! กูได้กลับมาใช้ชีวิตแล้ว กูไม่ต้องเป็นวิญญาณแล้ว!!” น้ำหอมร้องลั่นพร้อมกับหันไปเขย่าตัวคนตรงหน้าด้วยความดีใจ

“พูดอะไรวะ พี่ไม่เข้าใจ”

“ช่างแม่งเหอะ ไว้จะเล่าให้ฟัง ไอ้เหี้ยดีใจชิบหาย”

“กลับไปพักที่เตียงเถอะ รอหมอมาตรวจ”

“เออ แล้วนี่กูจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่อะ”

“ยังไม่รู้ต้องรอหมอก่อน”

“แล้ว…มึงกับกูนี่ เป็นไรกันวะ”

“หอมเป็นเมียพี่ไง จำไม่ได้เหรอ”

“จำได้กูจะถามเหรอ” อคิราห์ถอนหายใจพร้อมกับเดินตรงไปนั่งที่โซฟาเขาไม่ชินกับคำพูดคำจา ท่าทาง และแววตาของน้ำหอมคนนี้เลย ระหว่างรอหมอมาตรวจเขาไม่ได้พูดคุยะไรกับเธอเลยได้แต่นั่งจ้องท่าทางระริกระรี้ของน้ำหอมที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เธอดูตื่นเต้นกับทุกอย่าง แสงแดด สายลม หรือแม้แต่แก้วน้ำโง่ๆ ที่หัวเตียง หลังจากหมอตรวจดูร่างกายแล้วพบว่าเธอแข็งแรงดี ไม่มีวี่แววของคนเพิ่งตายหลงเหลืออยู่เลย หมอจึงอนุญาตให้กลับบ้านได้ ตลอดเวลาบนรถอคิราห์ไม่ได้พูดอะไรกับน้ำหอมเลยปล่อยให้เธอโหวกเหวกโว้ยวายอยู่กับทุกอย่างที่พบเห็นตามท้องถนน เขาสังเกตดูตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้าน ตอนหมอเรียกไปคุยก็ถามหมอแล้วว่าเธอความจำเสื่อมหรือเปล่า หมอก็ตอบว่าสมองไม่ได้รับการกระทบกระเทือนอะไร แล้วอะไรกันที่ทำให้น้ำหอมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ หรือนี่จะเป็นการแก้แค้น คงจะโกรธอยู่ล่ะสิ คงอยากให้เราขอโทษใช่ไหม อคินคิดกับตัวเองในใจ

“หอมเป็นไรวะ นี่ยังไม่หายโกรธพี่ใช่มั้ย”

“ห้ะ”

“ก็ที่เราทะเลาะกันก่อนที่หอมจะ…”

“ก่อนมันไปฆ่าตัวตาย มึงทะเลาะกันเหรอ ทะเลาะกันเรื่องอะไรทำไมถึงขนาดต้องฆ่าตัวตาย”

“นี่หอมจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”

“โอ๊ย!!”

อยู่ๆ ความรู้สึกเจ็บปวด สิ้นหวัง ความทรงจำร้ายๆ ของเจ้าของร่างก็ฉายขึ้นในหัวของน้ำหอมคนใหม่

“เป็นอะไร” ร่างบางทรุดตัวลงบนพื้นมือทั้งสองข้างยกขึ้นกุมที่ศีรษะด้วยความเจ็บปวด

“หอม เป็นอะไร” อคิราห์ทรุดตัวตัวลงพยุงร่างของเมียด้วยความเป็นห่วง

“กูเห็น” เพียงแวบเดียวทุกอย่างก็หายไป ภาพที่น้ำหอมได้เห็นเพียงแวบเดียวเป็นภาพความทรงจำแสนเจ็บช้ำของเจ้าของร่าง ความทรงจำที่พาให้ทุกอย่างดำดิ่งลงไปสู๋การฆ่าตัวตาย

“เห็นอะไร”

“เห็นความเหี้ยของมึงไง”

“อะไรนะ”

“มึงรักมันบ้างปะวะ กูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย”

“หอมพูดเรื่องอะไรวะพี่งง”

“ชีวิตนี้ทั้งชีวิตมันมีแค่มึง พ่อแม่หนีหายทิ้งมันไว้กับ…ญาติ อยู่ในบ้านที่มีแต่ญาติเหี้ยๆ จ้องจะข่มขืน เรียนก็ไม่ได้เรียนต้องมาหาทำงานรับจ้าง โดนหลอกให้ไปเป็นเด็กรับแขกดีที่มันได้กับมึง มึงทำให้มันรู้จักกับความรักแล้วมันก็รักมึงจนหัวปรักหัวปรำ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่มึงเป็นลูกน้องเค้า จนตอนนี้เป็นเจ้าของกิจการความมั่งความมีบังตา สรรหาแต่ความสุขนอกบ้านจนมองข้ามเมียที่อยู่เคียงข้างมาตั้งแต่ลำบาก กูพูดถูกมั้ย”

“หอมเป็นไรวะ พูดแปลกๆ พี่ร็นะเว้ยว่าพี่ทำเหี้ยกับหอมอะ พี่ขอโทษได้มั้ย เรามาเริ่มใหม่กันได้มั้ย”

“เริ่มใหม่ ? ขอโทษ? ง่ายไปปะวะ มึงรู้มั้ยว่าอีหอมมันนอนร้องไห้รอมึงกลับบ้านทุกคืน แต่มึงแม่งก็พากะหรี่กับมาด้วย มาไล่ให้มันไปนอนที่อื่น แล้วมึงก็เอาเตียงของมึงกับมันไปทำเรื่องเหี้ยๆ เป็นกูก็ตายดีกว่า”

“หอมอย่าพูดเรื่องตายอีกได้มั้ย พี่รู้ว่าหอมโกรธ หอมจะให้พี่ทำไงวะหอมถึงจะหายโกรธ บอกมาดิ พี่จะทำให้ทุกอย่างอะ”

“ทุกอย่างเลยเหรอ”

“ทุกอย่างที่พี่ทำให้หอมได้ พี่จะเลิกยุ่งกับคนอื่น พี่จะกลับบ้านมาหาหอม ไม่ทิ้งให้หอมอยู่คนเดียวพี่…”

“ชู่ววว จุ๊ๆๆๆ” นิ้วเรียวยกขึ้นมาทาบที่ปากของคนตรงหน้า ความคิดสนุกๆ โลดแล่นอยู่ในหัวของน้ำหอมคนใหม่

“ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเพื่อหอมทั้งนั้น ถ้าอยากให้หอมหายโกรธ พี่ก็แค่….อืม…ลองกราบตีนหอมดูมั้ย”

“อะไรนะ” อคิราห์ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมา อคิราห์ผู้ยิ่งใหญ่เนี่ยนะจะมาก้มกราบตีนผู้หญิง เสียศักดิ์ศรีชิบหาย

“หอมว่าหอมพูดชัดนะ จะให้พูดอีกรอบเหรอ”

“หอม มันไม่มีอย่างอื่นแล้วหรือไง”

“เฮ้อ สุดท้ายพี่ก็รักศักดิ์ศรีตัวเองมากกว่ารักหอมอยู่ดีสินะ” น้ำหอมพูดพร้อมกับหมุนตัวหมายจะเดินหนีแต่มือหนาของอคิราห์ก็คว้าแขนเล็กๆ ของเธอไว้เสียก่อน

“ถ้าหอมต้องการแบบนั้น….” ร่างสูงทรุดตัวคุกเข่าลงต่อหน้าภรรยา แววตาเปล่งประกายของน้ำหอมจ้องมองดูท่าทางแสนจะฝืนของคนตรงหน้าอย่างตื่นเต้น

“พี่ทำให้ก็ได้” มือหนาสองข้างยกขึ้นประกบกันก่อนจะกราบลงที่ปลายเท้าน้อยๆ

“ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะร่วนทำให้อคิราห์ต้องเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความโกรธเกรี้ยว ท่าทีเยาะเย้ย แววตาชั่วร้ายนั่น ไม่มีภาพของน้ำหอมคนเดิมแม้แต่น้อย

“เอาจริงหรอเนี่ย กูนึกว่ามึงจะไม่ทำ ฮ่าๆๆๆ”

“หอม!!!”

“จุ๊ๆๆๆ โมโหเหรอจ๊ะ หอมหยอกน่ะ แต่ก็โอเคนะ ไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ก้มกราบเมียแบบนี้”

“หอม พี่ไม่ตลกนะเว้ย หอมอยากให้พี่กราบพี่ก็กราบแล้วไง ทำไมหอมยังไม่หยุดทำแบบนี้สักที”

"กูทำอะไร”

“ก็ทำเหมือน…หอมไม่ใช่น้ำหอมที่พี่รู้จัก”

“แล้วถ้ากูบอกว่ากูไม่ใช่อีน้ำหอม มึงจะเชื่อกูป้ะ” อคิราห์ได้แต่ยืนจ้องคนตรงหน้าเงียบๆ ใจหนึ่งก็เชื่ออย่างที่เธอบอก ตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาจนถึงตอนนี้ ไม่มีแม้เสี่ยววินาทีที่ทำให้เขารู้สึกถึงน้ำหอมของเขาเลย แต่ทุกอย่างมันก็เห็นกันชัดๆ ว่าผู้หญิงคนนี้คือน้ำหอม ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใครไปได้

“อีน้ำหอมมันตายไปแล้ว กูไม่ใช่มัน มึงเชื่อมั้ย” ประโยคสุดท้ายก่อนที่ร่างเล็กๆ จะเดินจากไปทิ้งความสับสนไว้ให้กับอคิราห์จนเขาทำอะไรไม่ถูก แววตาที่มองเห็น ท่าทาง คำพูด ความรู้สึก ไม่ใช่น้ำหอมคนที่เขารู้จักเลยจริงๆ

03

บทที่ 3 มึงเป็นใคร

เสื้อผ้าในตู้ถูกรื้อกระจัดกระจายร่างเล็กๆ พยายามค้นหาชุดที่ถูกใจสักชุดแต่ก็ไม่มีเลย จากตู้เสื้อผ้าก็ย้ายไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ทุกลิ้นชักที่เปิดออก ทุกซอกทุกมุม ไม่มีแม้เงาของเครื่องสำอางสักชิ้นมีเพียงครีมบำรุงผิวสองสามกระปุกกับยางมัดผม

“หาอะไร” อคิราห์ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำเอ่ยปากถาม คิ้วหนาขมวดหากันด้วยความสงสัย น้ำหอมไม่ใช่คนที่จะรื้อค้นของกระจัดกระจายแบบนี้ อะไรเก็บไว้ที่ไหนเธอคือคนที่รู้ดีที่สุด

“เครื่องสำอาง นี่มึงคิดว่ากูตายก็เลยเก็บไปทิ้งหมดเลยเหรอ”

“เครื่องสำอาง?” อคิราห์ทวนคำพูดอีกครั้ง

“ก็เออน่ะสิ มีแต่ครีมโง่ๆ เนี่ย”

“หอมไม่แต่งหน้า จะมีเครื่องสำอางได้ยังไง”

“อะไรนะ”

“ก็ปกติหอมแต่งหน้าที่ไหน อีกอย่างหอมก็ไม่ได้ไปไหนด้วย อย่างมากก็ไปตลาดจะแต่งหน้าทำไม”

“กูล่ะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผัวมึงมีเมียน้อย” น้ำหอมบ่นพึมพำ

“อะไรนะ”

“เปล่า แต่ถึงจะไปตลาดอย่างน้อยรองพื้น เขียนคิ้วทาปากก็ยังดีมั้ย นี่อะไรมีแค่ลิปมันจะบ้ารึไง”

“ถ้าอยากได้พรุ่งนี้ก็ไปซื้อแล้วกัน เดี๋ยวพี่พาไป แล้วเสื้อผ้าทำไมค้นออกมาเละแบบนี้”

“ก็ดูสิ มีแต่เสื้อผ้าเก่าๆ เย็บแล้วเย็บอีก เสื้อขาวเหลืองจนเป็นเสื้อเคยขาวก็ยังเก็บไว้อีก” อคิราห์หันไปมองดูเสื้อผ้าบนเตียงก่อนจะหยิบเสื้อตัวหนึ่งขึ้นมาดู จริงอย่างที่น้ำหอมว่าเสื้อผ้าเก่าจนยับเยินแต่เมียของเขาไม่เคยทิ้งมันเลย ตัวไหนขาดก็เอามาเย็บซ่อมแล้วใส่ต่อ เขาทำไมไม่เคยสังเกต ไม่เคยใส่ใจตรงนี้เลย เงินที่มีก็ตั้งมากมายทำไมถึงได้ละเลยเรื่องนี้ไปได้

“เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปหาซื้อเสื้อผ้ากันนะ”

“เออ มันก็ควรซื้อมั้ย แต่กูจะใส่ชุดไหนไปมีแต่เก่าๆ ไม่เอาด้วยหรอก”

“ใส่ไปก่อนเถอะ พี่ขอโทษที่ไม่เคยสนใจน้ำหอมเลย”

“โอ๊ย!!!” ทันทีที่น้ำหอมเอื้อมมือไปหยิบเสื้อตัวหนึ่งในกองขึ้นมา ภาพความทรงจำก็ฉายขึ้นในหัวเหมือนเมื่อครั้งก่อน เสื้อตัวนี้เป็นเสื้อที่อคิราห์ซื้อให้ น้ำหอมรักและหวงมันมาก ไม่เคยเอาออกมาใส่เลยสักครั้ง เก็บไว้แต่ในตู้มาโดยตลอด

“เป็นอะไรอีก”

“มึงซื้อเสื้อตัวนี้ให้…กูเหรอ” อคิราห์รับเสื้อมาจากมือของเมียแล้วจ้องมองดูจนนึกขึ้นมาได้ว่าครั้งหนึ่งเคยซื้อเสื้อให้เธอจริงๆ แต่นานมากแล้ว

“ใช่ ตอนนั้นน่าจะ….”

“วันเกิดกู”

“ใช่” อคิราห์คิดย้อนกลับไปมันช่างนานเหลือเกิน แต่เสื้อยังคงสภาพดีผิดกับเขาที่ไม่ว่าของขวัญชิ้นไหน ก็ไม่เคยหลงเหลืออยู่เลย

“กูใส่ตัวนี้ก็ได้ สภาพดีที่สุดในกองนี้แล้ว”

“อืม เก็บเสื้อผ้าแล้วก็นอนกันเถอะ”

“ใครเก็บ?” น้ำหอมโวยขึ้นทันทีเมื่อคนที่บอกว่าเป็นผัวทำท่าจะลุกหนี ทิ้งเธอไว้กับกองเสื้อผ้าบนเตียง

“ก็หอมเป็นคนค้นออกมา หอมก็เก็บสิ ปกติหอมก็ทำทุกอย่างในบ้านอยู่แล้วนี่”

“กูเป็นเมียมึง หรือเป็นคนใช้กนแน่วะ กูไม่เก็บ แค่ค้นออกมาก็เหนื่อยแล้ว ไปตามคนใช้มาเก็บสิวะ”

“ตอนนี้เนี่ยนะ”

“ทำไม มึงจะกองไว้แบบนี้แล้วนอนที่พื้นเหรอ?”

“ไม่ใช่ พี่หมายถึงถ้าให้คนมาเก็บตอนนี้คงไม่มีใครมาหรอกมันดึกแล้ว”

“โอ้ย!! เงินเดินที่ให้มันจ้างไม่คุ้ม 24 ชั่วโมงหรอกเหรอ” เมื่อเห็นท่าทางฮึดฮัดอคิราห์กำด้แต่ถอนหายใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ป่านนี้น้ำหอมคงโดนจบจนล่วงลงไปนอนกองอยู่บนพื้นแล้ว แต่หลังจากที่เขาได้เสียเมียไปสามวัน เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกเลย ทำให้ต้องพยายามข่มอารมณ์ตัวเองถึงจะโมโหแค่ไหนก็ตาม

“เดี๋ยวพี่เก็บให้ก็ได้” สุดท้ายก็เป็นอคิราห์ที่ต้องมาเก็บเสื้อผ้าบนเตียงที่น้ำหอมเป็นคนค้นออกมา เมื่อเตียงว่างแล้วทั้งคู่ก็ล้มตัวลงนอน เมื่อไฟในห้องปิดลงแขนแกร่งก็เลื้อยไปบนเรือนร่างระหงนานแล้วเหมือนกันที่เขาไม่ได้ทำแบบนั้นกับเมียตัวเอง เหตุผลก็เพราะน้ำหอมไม่เป็นงาน ไม่เร่าร้อนเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ให้ทำอะไรก็ทำไม่ได้พาให้เสียอารมณ์ไปหมด

“อื้อ…” เมื่ออีกฝ่ายเริ่มรุกหนักขึ้นมีหรือคนถูกกระทำจะอดทนต่อสิ่งเร้าได้ไหว แม้จะรู้ตัวเองว่าไม่ใช่น้ำหอมคนที่เป็นเมียของผู้ชายที่กำลังคล่อมอยู่บนร่างของเธอ แต่เจ้าของร่างก็เป็นเมียของเขาจริงๆ เพราะงั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเลยสักนิด ดีเสียอีกไม่ได้ทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว มือหนาเริ่มจับขยำบนเนินอกขนาดพอดีมือแล้วลงน้ำหนักนวดกลึงอย่างชำนาญ ริมฝีปากอุ่นประกบจูบดูดดื่มบนเรียวปากนุ่มสิ่งที่แปลกใหม่สำหรับอคิราห์คือลิ้นที่สู้ลิ้นของเมียแสนไร้เดียงสาของเขามันเร่าร้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“อื้ม” น้ำหอมถอนจูบจากอคินแล้วเปลี่ยนไปใช้ลิ้นเลียที่ลำคออย่างคนชำนาญทำเอาเสือร้ายถึงกับร้องครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว ร่างเล็กพลิกตัวเองให้เป็นคนคุมเกมอคิราห์ได้แต่นอนตัวอ่อนระทวยไปกับลีลาการเล้าโลมของ ลิ้นเล็กๆ ละเลงเลียไปจนถึงขอบกางเกงนอนเมื่อถึงจุดที่เป็นใจความสำคัญของเกมมือเล็กๆ ก็ค่อยๆ ดึงกางเกงออกเผยให้เห็นดาบเล่มงามที่ชูตระง่านล่อตาล่อใจวิญญาณหิวกระหาย

“อ่า….” เมื่อมือน้อยจับนวดที่ลำขนาดใหญ่เจ้าของแก่นกายก็ครวญครางออกมาไม่เป็นท่า

“อื้อ แค่นี้ก็แย่แล้วเหรอ ยังไม่ได้ลองชิมเลย”

“อื้อ พี่ไม่ไหวแล้วหอม”

“อะไรนี่เพิ่งเริ่มเองนะ”

“ก็หอมไม่เคยทำแบบนี้ พี่ตั้งตัวไม่ทัน” ความเร่าร้อนของน้ำหอมมากเกินกว่าที่อคินจะรับไหวเขาต้องพลิกตัวเองขึ้นมาคุมเกม ชุดนอนของน้ำหอมถูกปลดออกเผยให้เห็นสรีระของเธอได้อย่างชัดเจน อคินก้มหน้าลงซดเนินเนื้ออย่างเมามันมือข้างหนึ่งก็ลดลงปลดกางเกงในตัวน้อยที่ดูจะเกะกะตาเสียเหลือเกินออกไปให้มันพ้นๆ เมื่อเร้ากันจนถึงจุดที่ทนไม่ไหวแล้วจึงจัดการลงมือทำอะไรๆ ที่มันควรจะทำ และเมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลงความมั่นใจในบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในใจของอคิราห์ สิ้นแรงจากบทรักแสนเร่าร้อนทั้งคู่ก็นอนเปลือยคู่กันบนเตียงอย่างไม่มีความเขินอาย

“ถามจริงๆ นะ เรื่องที่บอกว่า ไม่ใช่น้ำหอมน่ะ จริงเหรอ” อคิราห์ตัดสินใจถามขึ้น

“ทำไม พอได้กูแล้วก็เชื่อเลยเหรอทั้งที่กูพยายามจะบอกตั้งหลายรอบ”

“ก็ ปกติน้ำหอมไม่ได้….”

“ไม่ได้อะไร”

“ไม่ได้เก่งเรื่องนี้สักเท่าไหร่”

“ลีลากูสุดยอดไปเลยล่ะสิ”

“ถ้าเอ่อ…ถ้าหอมไม่ใช่หอม แล้วเป็นใคร”

“กูไม่รู้ก่อนหน้านี้รู้แต่จำไม่ได้แล้ว”

“อะไร ไปเช็คสมองมั้ย มันอาจจะมีน้ำเข้าไปขังจนทำให้ระบบความจีปัญหาก็ได้”

“โอ้ย มึงอย่าเพ้อเจ้อได้มั้ย คือกูร็สึกว่าพออยู่ในร่างของอีหอมนานๆ เข้าความทรงจำเรื่องตัวเองมันหายไป แต่ความทรงจำของอีหอมมันเข้ามาแทน”

“ทั้งหมดมันเรื่องจริงเหรอวะ” อคิราห์ได้แต่จ้องมองคนพูดอย่างตั้งใจ เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเชื่อเรื่องที่เมียเขาพยายามบอกแล้ว

“เออ กูไม่ใช่อีหอมเมียมึง อีหอมมันตายไปแล้ว”

“แล้วมึงเป็นใคร มาอยู่ในร่างเมียกูได้ยังไง เอาเมียกูคืนมา” น้ำหอมพลิกตัวหันไปหาคนที่นอนอยู่ข้างๆ แล้วใช้แขนข้างหนึ่งเท้าที่ศีรษะ

“คืองี้นะ ความจำในหัวกูตอนนี้คือ ตอนที่เมียมึงกระโดดลงไปในน้ำ ก่อนที่มันจะสิ้นใจ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่กูตาย ทุกวันกูต้องไปกระโดดน้ำตายซ้ำๆ แต่วันนั้น กูไปเจอเมียมึงกำลังจะตายพอดี กูกับมันตายในเวลาเดียวกัน แค่คนละปี กูถามมันแล้วว่าอยากกลับมาหรือเปล่า เพราะผู้คุมวิญญาณยังไม่มา กูจะช่วยมันก็ได้ แต่มันบอกว่าไม่ ถ้าต้องกลับมาเจอผัวเลวๆ แบบมึง มันขอตายดีกว่า กูก็เลยได้ร่างของมันมา”

“ไม่จริง กูไม่เชื่อ”

“และถ้ามึงไม่เชื่อที่กูพูดอะนะ มึงก็ถามตัวเองละกันว่ามึงเหี้ยกับมันจริงหรือเปล่า แล้วเรื่องที่มึงทำเหี้ยกับมัน มันมากพอที่มันจะตัดสินใจแบบนั้นหรือเปล่า กูบอกได้แค่นี้ แล้วถ้ามึงไม่พอใจที่กูมาอยู่ในบ้านมึงกูออกไปก็ได้นะ สวยๆ แบบนี้หาคนเลี้ยงไม่ยากหรอก”

“ไม่ต้อง อยู่นี่แหละ ถึงมึงจะไม่ใช่หอมแต่ร่างมันก็เป็นหอมอยู่ดี”

“แล้วจะเอายังไง จะให้กูเป็นเมียมึง หรือจะอยู่กันเฉยๆ”

“ก็อยู่กันแบบที่เคยเป็นนั่นแหละ”

“กูไม่นอนร้องไห้รอมึงนะคะ มึงทำอะไรได้กูก็ทำได้เหมือนกัน”

“หมายความว่าไง”

“ก็ถ้ามึงพาใครมานอน กูก็จะไปนอนกับคนอื่นเพื่อเคลียร์เตียงให้มึงกับกะหรี่ไง”

“ไม่ได้นะเว้ย!!”

“ทำไมจะไม่ได้ อีหอมมันโง่ ถ้ามันทำแบบนี้ก็จบแล้ว”

“ถ้ามึงทำแบบนั้นมึงได้เห็นดีกับกูแน่”

“ทำไม มึงจะทำอะไรกู”

“กูจะเอาหมอผีมาไล่มึงออกจากร่างเมียกู”

“กูบอกแล้วไงว่าอีหอมมันตายแล้ว ถ้าไม่มีวิญญาณกูก็เท่ากับร่างนี้ตาย มึงจะเอาแบบนั้นมั้ยล่ะ” อคิราห์ได้แต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไร เพราะอย่างที่น้ำหอมพูดมาถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับเขาต้องเสียเมียไปอีกรอบ ต่อให้ในร่างไม่ใช่น้ำหอมจริงๆ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังได้เห็นได้อยู่กับน้ำหอมต่อ

“เอาเป็นว่ากูจะไม่พาใครมานอนที่บ้านโอเคมั้ย”

“ไม่โอเค มึงต้องไม่ทำให้กูเห็นไม่ทำให้กูรู้ เพราะกูไม่ใช่อีหอม กูไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีขนาดนั้น”

“แล้วมึงจะทำไม”

“ก็ลองดู จะได้รู้ไง”

“นอนเถอะ คุยกับมึงกูเหนื่อยชิบหาย”

“ก็ดีกูก็เหนื่อย”

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!