ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพ ประเทศไทย ชายคนหนึ่งกำลังอ่านหนังสือการ์ตูน Onepiece ตอนล่าสุดอยู่ “เห้อ สนุกสุดๆไปเลย Onepiece เนี่ย ” ชายที่กำลังบ่นกับตัวเองคนนี้มีชื่อว่า นากิ เป็นลูกครึ่ง ไทย-ญี่ปุ่น ปัจจุบันอายุ 25 ปี ป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่ได้ตั้งแต่อายุ 18 และปัจจุบันหมอคาดการว่าอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกิน 1 อาทิตย์ ดังนั้นในตอนนี้นากิจึงกำลังใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายอย่างมีความสุข
สำหรับชีวิตแย่ๆของเขาก็มี Onepiece นี่ละที่ทำให้เขามีความสุขที่สุด สำหรับครอบครัวของเขา พ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้ได้เงินประกันมามากมาย แต่ก็เอาไปจ่ายค่าโรงพยาบาล กับซื้อ Onepiece อ่านมาตลอด เอาเถอะนี่ก็ถือว่าเป็นการใช้ชีวิตละนะ เขาหันไปมองนาฬิกาแล้วพูดกับตัวเอง “ตอนนี้ก็ 4 ทุ่มแล้วสิ ให้ตายสิอ่านจนลืมดูเวลาเลย เอาเถอะนอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยตื่นมาอ่านอีกรอบ” พอพูดกับตัวเองเสร็จแล้วเขาก็หลับไป
กลางดึกคืนนั้น สัญญาณชีพของนากิ กำลังลดลงไปเรื่อยๆ “92--86--71--50--42--…” จนสัญญาณชีพของนากิลดลงจนเหลือ “0” ในคืนนี้ชีวิตตลอด 25 ปีของนากิ ได้จบลง แต่เขาคงไม่คิดหรอกว่า เขาจะได้เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง…
***
อืมมม เสียงดังอะไรเนี่ย นากิตื่นขึ้นเพราะมีเสียงดังรบกวน สิ่งที่เขากำลังเห็นอยู่ตอนนี้คือการต่อสู้ ไม่สิ สงคราม เขากำลังเห็นสงคราวระหว่างกลุ่มที่ใช้ชุดที่ดูคล้ายๆกับทหารเรือในโลกวันพีช ละอีกกลุ่มหนึ่งที่ดูป่าเถือนเหมือนกับโลกโจรสลัด “นีมัน…” เขากำลังพึมพัมกำตัวเอง ฝันไปหรอ หรือว่าละเมอ แต่พอเขาหยิกแก้มตัวเองดู ทันได้นั้นเขาก็รู้สึกเจ็บ “ไม่ได้ฝันไป” และในช่วงเวลาเดียวกันเขาสังเกตเห็นมือตัวเองที่เล็กราวกับเด็ก 3-4 ขวบ และในตอนที่เขากำลังสำรวจตัวเองอยู่นั้นก็ได้มีชายที่ใส่ชุดทหารเรือพุ่งมาใส่เขา
“โอ้ย” นากิ โดนทหารเรือคนนั้นชนจนกระเด็นไปกระแทกเข้ากับกำแพง และด้วยร่างกายของเด็กอายุ 3-4 ขวบ ทำให้เขาได้รับบาจเจ็บหนัก เมื่อเขากำลังรู้สึกตัวเขาก็โดนทหารเรือคนนั้นแตะเขาซ้ำที่ท้องจนกระเด็นไปอีกที “ชิไอ้เด็กบ้า แกมาขวางชั้นทำบ้าอะไร เพราะแกข้าชั้นถึงโดนไอ้พวกโจรสลัดเล่นงาน” พอทหารเรือคนนั้นพูดเสร็จก็ได้เดินไปหยิบดาบที่ตกอยู่และเข้าไปสู่กับโจรสลัดต่อ…
นากิที่ได้รับบาจเจ็บจากทหารเรือ พอได้ยินเขาก็รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาทันที ไม่ใช่ว่าทหารเรือต้องปกป้องประชาชนหรอกหรอ และในระหว่างนั้นก็ได้มีเศษไม้กำลังล่วงลงมาตรงจุดที่นากิกำลังนอนอยู่ และเมื่อเห็นดังนั้นนากิจึงหลับตารอรับความเจ็บปวด
“เอ๊ะ ทำไม่ไม่รู้สึกเจ็บเลย” พอเข้าลืมตาขึ้นมาเขาก็เห็นทหารเรือหญิงคนหนึ่งกำลังใช้มือบังเศษไม้อันนั้นไว้อยู่ มืออีกข้างกำลังอุ้มเด็กทารก และที่หลังก็ได้สะพายเด็กผู้หญิงอายุราว 1-2 ปีไว้อยู่ พอได้เห็นหน้าทหารเรือหญิงคนนั้นนากิก็คิดได้ทันที “นี่คุณ..” ใช่แล้วคนๆนี้คือแม่บุณธรรมของ นามิ และโนจิโกะ “เบลเมล” และนั่นเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่เขาจะหลับไป…
ทางด้านเบลเมล หลังจากทีปัดเศษไม้ทิ้งไปแล้วจึงได้หันมาดูเด็กที่ตนได้ช่วยเอาไว้ หลังจากเช็กดูชีพจรแล้วจึงรู้ว่าเขาแค่สลบไป เธอก็โล่งใจอย่างมาก “ไม่เป็นไรนะ ชั้นจะช่วยเธอเอง” หลังจากที่เบลเมลพูดจบเธอก็ใช้มืออีกข้างอุ้มนากิที่กำลังหลับอยู่ และรีบออกจากสนามรบทันที โดยเธอหวังว่าจะช่วยเด็กพวกนี้ให้ปลอดภัย
ณ เกาะโคนามิ หมู่บ้านโคโคยาชิ
อืมม นากิลืมตาตื่นขึ้น ภาพแรกที่เขาเห็นคือเพดานบ้าน หลังจากที่เขารู้สึกตัวเขาก็ค่อยๆพยุงตัวขึ้น และสังเกตุรอบๆ ที่ๆเขาอยู่ตอนนี้คือห้องห้องหนึ่ง หลังจากสังเกตรอบๆดูแล้วเขาก็ค่อยๆเรียบเรียงความทรงจำ ใช้แล้วจนถึงตอนนี้นากิยังไม่เชื่อว่าเขาได้มาอยู่ในโลกวันพีช ในร่างของเด็กคนหนึ่ง
หลังจากพิจารณาดูสักพักก็เข้าใจได้ว่า หลังจากตัวเองได้ตายลงที่โลกแล้ว ดวงวิณญาณของเขาได้เขามาอยู่ในร่างของเด็กคนนี้ หลังจากตรวจสอบความทรงจำก็พบว่าเด็กคนนี้ชื่อ กิล เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่กำลังใช้เป็นพื้นที่ทำสงครามระหว่าง ทหารเรือกับโจรสลัด โดยพ่อแม่ของเด็กคนนี้โดนโจรสลัดฆ่าตายในระหว่างสงคราม และในระหว่างที่กำลังหนีก็ได้เผลอตกจากอาคาร จนทำให้เสียชีวิตลงและต่อมาเขาก็ได้เขามาอยู่ในร่างนี้ ซึ่งพอสังเกตก็ไม่พบแผล หรืออาการบาดเจ็บจากการตกตึกเลย
เป็นไปได้ว่า พอเขาเข้ามาอยู่ในร่างร่างนี้แล้วอาการบาดเจ็บก็ได้ฟื้นฝูกลับมาหรือหายไป คงคิดได้ว่าเป็นแบบนี้ละนะ ในระหว่างที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่ ก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเขามา เธอใส่ชุดที่ดูเก่า มีผมสีแดง ไว้ผมทรงหางม้า ใช่แล้วเธอก็คือ เบลเมล แม่บุณธรรมของนามิและโนจิโกะ และยังเป็นคนที่ช่วยเขาไว้ด้วย
เบลเมลเมื่อเข้ามาเห็นนากิฟื้นแล้วจึงได้ถามออกมา “นี่เธอตื่นแล้วสินะ อาการเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ครับอาการดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณที่ช่วยผมไว้นะครับ คุณ…”
“เบลเมล ฉันชื่อเบลเมล เป็นอดีตทหารเรือ” อดีตอย่างนั้นหรอ นากิพูดในใจ
“เอาละ แล้วเธอละเธอชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ ครอบครัวละ?”
นากิ หลังจากได้ยินที่เบลเมลถามก็คิดกับตัวเองสักพัก ในโลกนี้กิลได้ตายไปแล้วดังนั้น เขาก็คือเขา พอคิดเสร็จนากิจึงตอบกลับไปว่า “นากิ ผมชื่อนากิครับ อายุ 4 ขวบ ส่วนพ่อกับแม่ของผมโดนโจรสลัดฆ่าตายในระหว่างสงครามครับ”
เบลเมลพอได้ยินอย่างนั้นก็อดรู้สึกเศร้าและรู้สึกผิดไม่ได้ ถึงแม่จะไม่ใช่ความผิดของเธอก็ตาม เมื่อนากิเห็นสีหน้าของเบลเมลก็เข้าใจได้ในทันทีและบอกกับเบลเมลว่า “ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมไว้นะครับ ไม่ใช่ความผิดของคุณเบลเมลหรอก ถ้าคุณไม่ช่วยผมไว้ ผมคงตายอยู่ในสงครามแน่ๆ” ทางเบลเมลพอได้ยินที่นากิพูดจึงมีอาการดีขึ้นและพูดบอกนากิว่า
“นากิ ถ้าอย่างนั้นชั้นอยากขอรับเธอเป็นลูกบุญธรรมพร้อมกับเด็กอีก 2 คน ที่ชั้นได้ช่วยเอาไว้เธอคิดว่ายังไง”
นากิคิดสักพักและตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม “ฝากตัวด้วยนะครับ คุณแม่”
เบลเมลพอได้ยินนากิพูดเช่นนั้นก็รู้สึกดีขึ้นมาทันที และพาผมไปรู้จักกับ นามิและโนจิโกะ โดยนามิยังเป็นเด็กทารกอยู่ และโนจิโกะมีอยุ่ 2 ขวบ หลังจากนั้นก็พูดคุยกันสักพัก และกินข้าวด้วยกัน หลังจากนั้นนากิจึงขอตัวไปนอนพัก ซึ่งทางเบลเมลก็ไม่ว่าอะไร และดูแลนามิและโนจิโกะต่อ
เมื่อนากิกลับมาในห้อง เขาก็เรียบเรียงความทรงในความคิดตนเองเกี่ยวกับเรื่องวันพีช ซึ่งเขาเองก็พอจำเนื้อเรื่องได้ แต่เรื่องเวลานี่ในไทม์ไลน์ต่างๆนี่คงไม่แน่ชัด แต่เหตุการณ์ของนามิเขาจำได้ดี เพราะเป็นเหตการณ์ที่น่าเศร้ามากๆในช่วงภาคแรกของวันพีช นามิออกทะเลกับลูฟี่ในตอนอายุ 18 จากเนื้อเรื่องนามิต้องทนอยู่กับกลุ่มอารอนอยู่ประมาน 8 ปี ซึ่งตอนนี้นามิยังคงเป็นทารกอยู่ ดังนั้นยังมีเวลาก่อนเกิดเหตุที่อารอนบุกประมาน 10 ปี
พอคิดได้เช่นนั้นนากิก็พูดกับตัวเองว่า เขาจะปกป้องเบลเมลเอง และจะไม่ยอมให้เธอตายเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ตามเนื้อเรื่องกับนามิอีกด้วย
“ในฐานะของ ลูก และ พี่ชาย”
เช้าวันถัดมา หมู่บ้านโคโคยาชิ
นากิตื่นขึ้นมาและเข้าห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำ หลังจากเขาเข้าไปในห้องน้ำและทำการส่องกระจกดูก็พบว่ารูปร่างหน้าตาของเขาดูหล่อและน่ารักเป็นอย่างมาก ทำเอาคิดไปว่าโตขึ้นต้องหล่อสุดๆแน่เลย ไปหน้าเรียวคม จมูกโด่งเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้า ผมยาวเล็กน้อย และมีผมสีขาว เดี๋ยวนะ ใช่แล้วเขากำลังคิดถึงตัวละครในอนิเมะเรื่องหนึ่ง “โกโจ ซาโตรุ” ใช้แล้วรูปร่างหน้าตาของเขาเหมือนกับ โกโจ ซาโตรุ ในอนิเมะเรื่อง มหาเวทย์ผนึกมาร ไม่มีผิด แล้วนี้ชั้นจะใช้ไสยเวทย์ได้ไหมเนี่ย ว่าไปนั่น
หลังจากที่เขาทำการอาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็เดินมาที่ห้องรับประทานอาหารซึ่งตอนนี้เบลเมลกำลังทำหารโดยมีโนจิโกะคอยช่วย หลังจากเบลเมลเห็นนากิเดินเข้ามาจึงพูดขึ้นมา “ตื่นแล้วงั้นหรอ รอแปบหนึ่งนะ ข้าวเช้ากำลังจะเสร็จแล้ว”
นากิพอได้ยินแบบนั้นจึงขานรับไปทันที และต่อมาทั้ง 3 ก็กินข้าวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากกินข้าวเสร็จเบลเมลจึงไปดูแลนามิต่อ และช่วงบ่ายหลังจากนามิหลับไปแล้วเบลเมลจึงพานากิ และ โนจิโกะ ไปสวนส้มของเธอเพื่อเรียนรู้งาน
ด้วยความที่ว่านากินั้นพอมีความรู้จากชีวิตที่แล้วจึงทำให้เรียนรู้ได้ไว และช่วยงานคุณเบลเมลได้ทันที ทำให้เบลเมลคิดว่านากิอาจจะเป็นเด็กอัจฉริยะก็ได้ ส่วนโนจิโกะพอเห็นนากิช่วยงานคุณเบลเมลได้จึงเกิดความอยากรู้อยากเห็นและให้นากิช่วยสอนเธอด้วย ในตอนแรกโนจิโกะยังคงเกร็งอยู่และไม่ได้เรียกนาดิว่าพี่ชาย แต่หลังจากที่ช่วยกันเรียนรู้งานทำให้โนจิโกะหายเกร็งและเรียกนากิว่าพี่ชายทันที เบลเมลพอเห็นแบบนี้ก็อมยิ้มขึ้นมาทันที
ตกเย็นก็พากันกลับบ้าน เบลเมลนั้นไปดูแลนามิต่อทันที ส่วนโนจิโกะก็เข้าไปอาบน้ำกับนากิ หลังจากที่กินข้าวเย็นกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ซึ่งนากิก็กำลังคิดอยู่ว่าจะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นได้ยังไง ด้วยช่วงอายุ 4 ขวบของตนแล้วด้วย จึงเริ่มวางแผนทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นทันที เพื่อที่ตนจะได้ปกป้องครอบครัวได้
***
ผ่านมาแล้ว 1 เดือนหลังจากที่นากิได้เข้ามาอยู่ในโลกวันพีช ชีวิตประจำวันของนากิคือ คอยดูแลสวนส้มของคุณเบลเมลและดูแลนามิกับโนจิโกะ โดยตัวนากิเองขอเวลาว่างในช่วงกลางวันกับเบลเมลเพื่อให้ตัวเองได้ฝึกฝน ซึ่งเบลเมลก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะคิดว่าเป็นการเล่นของเด็ก 4 ขวบ แต่ที่เบลเมลไม่รู้ก็คือ นากิได้ฝึกจริงๆ แถมเข้าขั้นโหดด้วย ซึ่งชื่อของคอร์สการฝึกนั้นก็คือ คอร์สฝึกพี่โล้นซ่าไซตามะนั่นเอง
ซิพอัพ 100 วิดพื้น 100 สคอช 100 และ วิ่ง 10 km/วัน ซึ่งถามว่าช่วงแรกเป็นไงแทบเจียนตายเลยละ แต่ด้วยคงเพราะเป็นร่างกายของคนบนโลกวันพีชด้วยละ จึงทำไห้ไม่ได้รับอาการบาดเจ็บจากการฝึกมาก ซึ่งสภาพวันแรกหลังจากฝึกเสร็จพอกลับมาถึงบ้านก็ทำเอาเบลเมลกับโนจิโกะ ตกใจเป็นอย่างมากสภาพของนากินี่เรียกได้ว่า ดูไม่ได้ๆสุดๆ ซึ่งผลจากการฝึกวันแรกก็คือ ทำไปได้ครึ่งเดียวนั่นเอง
ตัดกลับมาปัจจุบันตอนนี้นากิกำลังวิ่งอยู่รอบหมู่บ้าน ซึ่งตอนนี้เหลืออีก 1 กิโล นับเป็นภาพปกติที่คนในหมู่บ้านจะเห็นได้ทุกวันในช่วงเย็น หลังจากผ่านมา 1 เดือนนากิสามารถทำทุกอย่างได้ครับแล้วในเวลา 2 ชั่วโมงจากตอนแรกที่ เป็น 4 ชั่วโมงและลดมาเรื่อยๆ ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่าน่ากิเริ่มแข็งแกร่งขึ้นแล้ว ซึ่งนากิเองก็ไม่ได้ลำพองใจเพราะเขาเชื่อมั่นว่าพื้นฐานสำคัญที่สุด แต่ก็แอบหวั่นๆว่าผมตัวเองจะล่วงหมดเหมือนกับไซตามะเหมือนกัน
หลังจากนั้น 3 เดือน ตอนนี้นากิมีความมั่นใจในร่างกายตัวเองขึ้นมาก ส่วนสูงก็เพิ่มขึ้นมาถึง 3-4 เซนเลย ในช่วง 3 เดือนนี้นอกจากออกกำลังกาย ดูแลสวนส้มและดูแลโนจิโกะแล้ว นากิเริ่มเข้าไปอาสาทำงานในหมู่บ้านบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กๆน้อย อย่างเช่นล้างห้องน้ำ หรือเก็บของป่ามาขาย ทำให้เขาเริ่มมีเงินเก็บมาแล้วส่วนหนึ่ง
ในวันนี้เองที่นากิเริ่มตัดสินใจเพิ่มการฝึก นั่นคือการฝึกดาบ โดยให้คุณเบลเมลช่วยสอนให้นั่นเอง ตอนแรกเบลเมลก็ไม่ยอม แต่พอนากิแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความแข็งแรงของร่างกายแล้วเบลเมลจึงยอมสอนให้นากิ โดยเบลเมลไปขอให้ช่างในหมู่บ้านช่วยทำดาบไม้ให้ 2 เล่มเพื่อมาใช้ฝึกให้กับนากิ
ผ่านมา 2 เดือน ตอนนี้นากิมาอยู่ที่โลกวันพีชได้ครึ่งปีแล้ว โดยเขามีพัฒนาการความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หลังจากที่ฝึกดาบกับคุญเบลเมลได้ 1 เดือนนากิก็สามารถชนะคุณเบลเมลได้ ซึ่งทำให้เบลเมลตกใจเป็นอย่างมาก และคิดว่านากิคงเป็นอัจฉริยะจริงๆ แต่ความจริงแล้วนากิสามารถชนะคุณเบลเมลได้ตั้งแต่ 1 อาทิตย์แรกแล้ว แต่เขาไม่อยากให้คุณเบลเมลตกใจมากเกินไปจึงเพิ่มเวลาเป็น 1 เดือนนั่นเอง
เพื่อที่เขาจะได้ใช้เป็นข้ออ้างในการไปล่าสัตว์ในป่าหลังหมู่บ้านนั่นเอง ตลอด 1 เดือนที่เหลือ นากิจะเข้าไปล่าสัตว์ร้ายในป่าทุกๆ 5 วัน เพื่อเป็นการฝึกต่อสู้และประสบการณ์ของเขา ใจจริงเขาอยากเข้าไปทุกวันด้วยซ้ำ แต่เพราะคุณเบลเมล จึงทำได้เพียงทุกๆ 5 วันแทน ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจนะ ถ้าเป็นคุณ คุณก็คงไม่อยากให้ลูกชายอายุ 4 ขวบไปล่าสัตว์ในป่าคนเดียวหรอก
ซึ่งช่วงหลังมานี้นากิก็วนเวียนอยู่กับการฝึกและการล่าสัตย์ร้ายในป่า ส่วนวันไหนที่ไม่เข้าป่าช่วงเช้าจะช่วยคุณเบลเมลดูแลสวนส้ม และดูแลนามิกับโนจิโกะ และพอตกเย็นก็จะทำการฝึกทำอาหารพร้อมกับคุณเบลเมล ถามว่าทำไมผมถึงต้องฝึกทำอาหารนะหรอ เพราะผู้ชายที่ทำอาหารอร่อยนะ โครตมีสเน่ยังไงละ!!!
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!