สวัสดีครับผมชื่อ อิน อายุก็ 19 ปีละครับ เเต่ผมกับไปแอบชอบพี่ผู้ชายคนนึงที่เขามีแฟนแล้วเลยทำให้ผมต้องยอมตัดใจจากเขา เพราะเขาก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมซักเท่าไหร่ด้วยเฮ้อ~ แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้นนะครับมันอยู่ที่ว่าผมโดนเข้าใจผิดและถูกอ้างว่าไปฆ่าพี่ “เบล” แฟนสาวของพี่เหนือเเต่ผมก็บอกว่าไม่ได้ฆ่าเธอ “ผมไม่ได้ฆ่าเธอ!” ผมพูดอยู่หลายครั้งเเต่พี่เหนือกับไม่ฟังเเละจับผมเข้าคุกข้อหาที่ไปฆ่าเเฟนของเขา
...Part เเอดเล่า...
...ดวงตาสีมรกตตอนนี้ได้มีน้ำตาใสๆบังสีตาอันเเสนสวยเเละงดงามลงทำให้ร่างบางมองไม่ค่อยชัด สายตาของร่างบางตอนนี้ดูว่างปล่าวไร้ซึ่งความรู้สึก ความคิดในหัวกับว่างปล่าวไม่มีอะไรหลงเหลือ ร่างบางที่ร้องให้อยู่ในห้องมืดๆที่ห้องอื่นไปก็มีแต่นักโทษยกเว้นเขาเพราะเขาไม่ได้ฆ่าพี่เบล “ผม..ฮือ..มะ.ไม่ได้..อะ...ฆ่าพี่...เบล..” สิ้นเสียงของร่างบางที่ร้องไห้ใคร่ครวญอยู่ตอนนี้ความรู้สึกเศร้ามันมาเยือนที่ตัวของร่างบางเเล้ว...
ี.
.
.
.
.
.
.
เเอดพึ่งทำเเบบนี้เป็นครั้งที่ 3 มันเลยจะดูเเบบกากๆไปหน่อยนะ
...Part Ein...
หลายวันแล้วที่ผมนั่งร้องไห้อยู่ในห้องมืดๆด้วยความเศร้าโศกและเสียใจ “ทำไมพี่ไม่เชื่อผม..ฮือ” ร่างบางพูดแต่คำเดิมๆเเละรู้สึกผิดมากว่าตัวเองไม่สามารถช่วยพี่เบลออกมาจากผู้หญิงคนนั้นได้
(ผู้หญิงคนนั้นคือใครกันนะ)
“พี่เบลผมขอโทษ..ฮือ” ผมรู้สึกผิดมากที่ตัวเองนั้นอ่อนแอเกินไป
“ผู้หญิงคนนั้นมันเป็นใครกัน!” ร่างบางสถบเสียงแข็งด้วยความเค้นเเละโกรธที่มาฆ่าพี่เบลเเละหนีออกไปได้เลยทำให้ผมต้องมาอยู่ที่นี่ และเธอก็จะต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้กับผมเเละพี่เบล
...พี่เบลเป็นใคร?...
10 ปีที่เเล้ว
“พี่เบลครับไปเล่นกับอินหน่อยได้มั้ย” ผมกับพี่เบลกำพร้าเหมือนกันเเต่ครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันหรอกเพราะผมสนิทกับพี่เบลมากในตอนนั้น พี่เบลอายุเยอะที่สุดในสถานรับเลี้ยงเด็กเเล้วเเละมพี่เบลยังใจดีกับน้องๆทุกคนด้วยนะ ผมชอบให้พี่เบลมาเล่นกับอยู่บ่อยๆบางทีพี่เบลไม่อยากเล่นผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเเต่ก็เเอดเสียใจนิดๆนะเเล้วก็ไปชวนเพื่อนคนอื่นเเทน
“พี่เบลไปกินติมกันมั้ย” ผมกับพี่เบลรู้จักกันตั้งแต่ผมยังพูดไม่ค่อยชัด เเต่ใครจะไปรู้ว่าอยู่ๆผู้หญิงคนนี้ที่ผมเรียกว่าพี่สาวนั้นจะได้เสียชีวิตลงเพราะน้ำมือของคนชั่วที่ไม่สามารถให้อภัยได้ “ผมจะปกป้องพี่เบล” ในตอนนั้นผมเคยสัญญากับพี่เบลไว้ว่าจะปกป้องเธอเเต่ตอนนี้กับไม่สามารถปกป้องเธอได้ ผมผิดสัญญากับเธอ...
สวัสดีครับผมชื่ออินหลายๆคนอาจจะรู้ว่าผมแอบชอบพี่เหนือเเต่เขามีแฟนแล้วทำไงได้อะเขามีเเฟนเเล้วเราเลยจะต้องออกห่างถ้าไปกั้นขวางความรักของทั้งสองมันจะถือว่าผมเป็นตัวขัดขวางความรักคนอื่นเลยทำให้ผมต้องยอมตัดใจ เเต่ทำไงได้อะผมก็ชอบเขาไปเเล้วจะให้ตัดใจมันก็คงจะยางมากเเต่ผมจะพยายาม “พี่เบล!” เสียงของผมหยุดลงเพราะดีใจที่ได้เจอพี่สาวซึ่งก็คือพี่เบล พี่เบลตอนนี้อยู่ในชุดเจ้าสาวดูสวยงามเพราะวันนี้เป็นวันเเต่งานของพี่เหนือเเละพี่เบล ผมที่มาร่วมงานเเต่งของทั้งสองด้วยความยินดีเเละเเบบเศร้าอยู่บ้าง “อ้าวอินมาด้วยเหรอคิดถึงจังเลย~” เสียงหญิงสาวพูดขึ้นด้วยความดีใจที่ได้เจอน้องชายที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ได้โกรธที่ผมเห็นเค้าสองคนเเต่งงานกันนะเพราะเขาคือคู่ชีวิตกันอยู่เเล้ว “ครับ” เสียงของผมพูดขึ้นตอบพี่เบลด้วยความสุขและยินดี
“แล้วตอนนี้นะครับขอเชิญเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาบนเวทีเลยครัยผม” เสียงพิธีกรดังขึ้นเพื้อให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นมาทำพิธีงานเเต่งนี้
“ขอเสียงปรบมือครับผม”
เเปะๆ~
เสียงปรบมือของคนที่เข้ามาในงานดังขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองเดินขึ้นมาบนเวที
“วันนี้รู้สึกยังไงครับ”
เสียงพิธีกรถามเจ้าสาวว่ารู้สึกยังไงในวันนี้
“ก็รู้สึกดีใจค่ะ เเล้วก็ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมงานด้วยค่ะ”
เสียงพี่เบลพูดไปยิ้มไปด้วยความสุขเเละรู้สึกมีความสุขมาในวันนี้ผมที่เห็นพี่เบลมีความสุขก็รู้สึกได้เช่นกันผมรู้สึกว่ายังไงวันนึงพี่เบลก็ต้องมีครอบครัว
“เเล้วเจ้าบ่าวรู้สึกยังไงบ้างครับ”
เสียงพิธีกรถามเจ้าบ่าวว่ารู้สึกยังไงกับวันนี้บ้างเเละมากน้อยเเค่ไหน
“ก็รู้สึกดีใจมากครับที่ได้มาถึงตรงจุดนี้ได้ครับ”
เสียงเจ้าบ่าวบอกกับพิธีกรด้วยสีหน้าที่ดูเเล้วน่าจะมีความสุขมาก หลังจากนั้นก็ถึงเวลาที่ทั้งสองจะได้จูบกันตอนนั้นที่ผมได้ยินผมก็รู้สึกตกใจเเละดูเสียใจมากในตอนที่ทั้งสองใกล้จะจูบกัน อยู่ไปน้ำใสๆก็ได้มาทับนัยตาของผมจนผมมองไม่ค่อยชัดเเต่สิ่งที่ผมร้องออกมาไม่ใข่เพราะดีใจจนร้องไห้เเต่เสียใจจนร้องไห้ออกมาต่างหาก “ทำไมๆ” ผมพึมพำกับตัวเองเเต่ยิ้งเห็นน้ำตาก็ยิ่งไหลมากเท่านั้นตอนนี้ผมไม่รู้จะทำยังไงเเล้วค่อยๆเช็ดน้ำตาออกแต่มันก็ไม่หยุดไหลซักทีทำไมกันทั้งสองเขาจูบกันมันก็เป็นเรื่องที่ดีเเล้วทำไมผมถึงเสียใจล่ะทำไมๆ
“อินๆ อิน!”
เสียงปันเพื่อนของผมเรียกผมจนทำให้ผมสะดุ้งขึ้นเเล้วรีบเช็ดน้ำตาออก
“มึงเป็นไรมากมั้ย?”
ไอปันมันถามผมด้วยความเป็นห่วงว่าผมจะเป็นอะไรเเต่ผมก็บอกมันไปว่าไม่เป็นไร
“กูไม่เป็นไรหรอก”
ผมปฏิเสธว่าผมไม่ได้เป็นอะไรเเต่ด้วยความที่ไอฉันมันเป็นเพื่อนผมมานานมันเลยรู้ว่าผมเป็นอะไร
“มึงกูเข้าใจว่ามึงตัดใจจากเขาไม่ได้”
ไอปันพูดปลอบใจผมเเล้วใช้มือมาเช็ดน้ำตาให้ผม
“ไปเถอะเดี๋ยวมึงจะเป็นไปมากกว่านี้”
ผมพยักหน้าเพื้อเป็นคำตอบเเล้วเดินตามมันไปที่โรงจอดรถ
“มึงกูว่ากูยังไม่กลับดีกว่าเดี๋ยวกูจะรอเจอพี่เบล”
ผมพูดขึ้นส่วนไอปันมันพยักหน้าเข้าใจแล้วจูงมือผมไปนั่งข้างในจนงานจบอะไรเรียบร้อยเเล้วผมจึงเดินไปหาพี่เบลที่ห้องเเต่งตัว
“พี่เบลครับ....”
ผมเปิดประตูเเล้วพูดขึ้นเเล้วค่อยๆเดินไปหาพี่เบลเเต่อยู่ๆน้ำใสๆก็ไหลออกมาอีกครั้ง
“อิน! เป็นอะไร”
เสียงพี่เบลพูดขึ้นผมจึงรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นเเล้ววิ่งตรงไปที่ห้องน้ำทันที
“แฮกๆ..”
ผมหอบหายใจเเล้วค่อยๆเปิดก็อกน้ำแล้วใช้มือรวบน้ำเเล้วนำมากระทบที่หน้าของผมที่มีน้ำตาไหลออกมาเพื้อจะเป็นการเช็ดน้ำตาออก เเต่ถึงยังไงผมก็ไม่หยุดร้องเลยต้องหลับตาค่อยๆสงบสติอารมณ์อยู่ตรงนั้น 10 นาทีผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสายตาเย็นชาดูจะไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึก
“มึง!”
เสียงไอปันเรียกชื่อผมดังลั่นที่ตรงนั้นเลยทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นหันมามอง
“...”
ผมไม่ได้ตอบอะไรมันเเละเดินตัดหน้ามันไปด้วยจิตใจที่รู้สึกเศร้า
“มึงเป็นไรบอกกูดิ”
“กูอยากตาย!”
ผมหันไปพูดกับไอปันด้วยเสียงตวาดโดยที่ผมไม่รู้ตัวเเล้วค่อยๆหันกลับมาเหมือนเดิม คนเเถวนั้นที่ได้ยินก็ต่างพากันมองด้วยสายตาที่ผไม่เข้าใจ
“ทำไมมึงถึงอยากตายวะ”
“ถ้ากูอยู่ก็ต้องตายอยู่ดีป่ะ!”
ผมพูดเสียงตวาดดังลั่นเเละผมเหลือบไปเห็นพี่เหนือที่มองดูเหตุการณ์อยู่เเล้วมองผมด้วยสายตาเยาะๆผมส่วนผมก็ได้เเต่กำมือเเน่น
“มึงลองคิดตามกูนะถึงมึงจะไม่ได้เป็นนายเอกเเต่มึงก็เป็นพระรองได้ป่ะ อนาคตอาจจะมีคนที่รู้สึกดีกับมึงด้วยก็ได้!”
ไอปันมันพูดขึ้นส่วนผมที่ตอนนี้เป็นโรคซึมเศร้ากำเริบไอปันมันดูออกเเล้วค่อยๆเดินมาหาผมเเล้วเข้ามากอดผมเอาไว้ผมที่ทำอะไรไม่ได้ก็สลบไป
“มึง!”
ตอนนี้ผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นตอนนี้ทุกอย่างมืดมิดผมก็ไม่สามารถขยับเเขนหรือขยับอะไรได้เลย ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือไอปันมันพยุงผมเอาไว้...
Part แอด
ตึก ตึก
เสียงคนเดินอย่างกระวนกระวายเเล้วคอยบอกกับอินเสมอว่า
“มึงอย่าเป็นอะไรนะ...”
เสียงของปันที่บอกอินอยู่ตลอดการเดินเข้าห้องฉุกเฉิน ภาพสุดท้ายที่อินเห็นนั้นเป็นปันที่มาพยุงตัวอินเอาไว้เเล้วมีใรรบางคนที่พูดขึ้นด้วยเสียงกระวนกระวายเเล้วดูถ้าจะเป็นห่วงอินมากๆ
“เอ่อคุณหมอครับมาที่XXXมารับคนไข้หน่อยครับ!”
เสียงนี้จะดูเป็นเสียงพี่เบลก็ไม่ใช่เพราะมันเป็นเสียงผู้ชายจะว่าเป็นเสียงของไอปันก็ไม่ใช่เพราะปันมัวเเต่พูดว่า
“มึงอย่าเป็นอะไรนะ!”
เเล้วจากนั้นเสียงผู้คนก็ค่อยๆจางลงเเล้วไม่ได้ยินอะไรอีกเลย
1 สัปดาห์ ผ่านไป~
นานเเล้วที่อินนอนอยู่เเต่ในห้องพักผู้ป่วยเเล้วไม่มีถ้าทีว่าจะฟื้นขึ้นมา ปันที่บอกกับตัวเองเสมอว่าตัวเองผิดเองที่ไม่สามารถรั้งเพื่อนคนนี้ที่เขานั้นรักมากให้หายจากอาการของโรคนี้ อินพยายามเสมอเพื่อไม่ให้อินได้อาการนี้มากำเริบเเต่สุดท้ายก็ต้องมาเป็นเะราะผู้ชายคนเดียว
“อินมึงตื่นขึ้นมาดิ..กูขอโทษ!”
ฉันเอาเเต่พูดให้อินฟื้นขึ้นมาเเล้วโทษตัวเองว่าตัวเองผิดอยู่ตลอดเวลาเเต่ถึงจะบอกให้ฟื้นอินก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดีปันเริ่มหมดหวังว่าอินจะฟื้นขึ้นมาอีก
“ทำไมๆ! ฮือๆ..ฮือ”
ปันพูดกับตัวเองเเล้วร้องไห้ด้วยความโกรธที่มาจากเเค่ผู้ชายคนเดียวก็ทำให้อินนั้นหลับไปถึง 1 สัปดาห์
อินไม่เคยนอนในห้องพักผู้ป่วยนานเท่านี้นานมากสุดเเค่ 3 วันก็เท่านั้น
ตึก ตึก ตัก
เสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบกับพื้นเพราะผู้ใส่วิ่งมาด้วยความกระวนกระวาย
“ปันอินอยู่ไหน!...”
เสียงพี่เบลพูดขึ้นถามปันที่นั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจเเละเเค้นไปตามๆกัน
“พี่เบลอย่าเข้าไปเลย..ฮือๆ”
เสียงปันพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นๆเเละร้องไห้ไม่หยุดดวงตาสีน้ำตสลอ่อนตอนนี้มีน้ำใสๆไหลถ้วมนัยตาเพราะความเศร้าเริ่มปกคลุมตัวของปัน
“โอ๋ๆ”
เสียงพี่เบลพูดปลอบใจปันด้วยความห่วงใย เพราะพี่เบลคิดกับปันเเละอินเหมือนน้องชายคนนึง เเล้วพี่เบลก็รู้อยู่เเล้วว่าทำไมอินถึงได้มานอนโรงพยาบาลได้เเล้วทำไมปันถึงไม่ให้เข้าไปเบลรู้อยู่เเล้วเพราะตอนที่อินวิ่งออกมาตอนนั้นเบลได้วิ่งตามมาเเล้วดูเหตุการณ์ทั้งหมด ที่จริงเบลรู้อยู่เเล้วว่าอินชอบเหนือเเต่เหนือไม่ชอบอินตอนเเรกเบลไม่ได้คิดอะไรจนกระทั้งมาเจอเรื่องเเบบนี้เบลรู้สึกเสียใจนะที่น้องชายคนนึงของเธอเป็นอะไรไม่รู้จนต้องนอนโรงบาล 1 สัปดาห์....
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!