มาโอดะ สุเมรางิ เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นวัย 17 ปี ได้มาพบกับพระเจ้า เนื่องจากความผิดพลาดในรายชื่อผู้ต้องเสียชีวิตวันนี้ เพราะว่าฝ่ายจัดรายชื่อหยิบชื่อจากกระดานแห่งชีวิตผิด เขาจึงต้องมาพบพระเจ้าเพราะเขาเสียชีวิตจากการที่ก้างปลาติดคอตาย เพราะเหตุนั้นเขาจึงมาอยู่ต่อหน้าพระเจ้าในทันที และเมื่อพระเจ้าเห็นถึงความผิดพลาดจึงอยากขอโทษและให้โอกาสเขาได้ใช้ชีวิตจึงส่งเขาไปเกิดใหม่พร้อมมอบพรให้เขามาทั้งหมด และได้ส่งเขาไปยังต่างโลก ที่นั่นเป็นโลกแห่งดาบ,เวทย์มนต์และมังกร ด้วยความที่สุเมรางิเป็นคนที่ชอบเรื่องต่างโลกอยู่แล้วจึงมีความสุขมาก
"เอาล่ะๆ เจ้าพร้อมแล้วใช่มั้ยมาโอดะคุง"
"ครับ ผมพร้อมแบบสุดๆเลย" สุเมรางิตอบอย่างไม่ลังเลและไม่ถามอะไรเลย
"งั้นโชคดีนะ เปิดประตูได้"
หลังจากนั้นสุเมรางิก็ได้มาเกิดใหม่ที่ต่างโลกในร่างของเด็กทารกในตระกูลขุนนางของอาณาจักที่มีชื่อว่า ซาเรีย เขาเกิดมาในตระกูลขุนนางชั้นดยุคโดยที่เขาเป็นบุตรคนที่4ในตระกูล และเขาได้มีชื่อใหม่ว่า ไอน์ ฮาเลนชไตล์
5ปีต่อมา
"อรุณสวัสดิ์ขอรับ ท่านไอน์" เสียงของชายอายุ60ต้นดังแว้วเข้ามา
"อืมมม อรุณสวัสดิ์ครับปู่คาโล"
หลังจากวันที่ผมลืมตาดูโลกนี้ก็ผ่านมา5ปีแล้ว ผมได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย และในตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างในโลกนี้ทั่งเวทย์มนต์ และได้ทดลองพรต่างๆที่ได้รับมาตอนมายังโลกนี้ ในตลอดช่วงเวลาที่เฝ้าสั่งสมประสบการณ์และเรียนรู้สิ่งต่างๆ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงนั้นคือวันเข้าพิธีวงศ์เครือแห่งพระเจ้า พิธีวงศ์เครือแห่งพระเจ้าคือ พิธีที่เด็กทุกคนต้องไปที่โบสถ์ในเมืองหลวงและรับการทดสอบพลังเวทย์และพรเพื่อจะรับสถานะและหน้าที่ในสังคม โดยแบ่งออกเป็นระดับต่างๆคือ
1.พลังเวทย์:80,000-มากกว่านั้น(ส่วนมากไม่เกิน100,000)
จะได้เป็นอาชีพระดับศักสิทธิ์ เช่น ราชองครักษ์ หรืออัศวินศักดิ์สิทธิ์ หรือแม้แต่จะเป็นนักบวชชั้นสูงเพื่อชิงตำแหน่งสันตะปาปา และอื่นๆ แต่หากมีพรระดับสูงอย่างผู้กล้าก็จะได้เป็นผู้กล้าและเข้าไปอยู่ในวัง และถึงแม้คนหมู่นี้จะมีพรทั่วไปหรือไม่มีก็จะได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนเวทย์มนต์ประจำอาณาจักร ซึ่งถือเป็นโรงเรียนของพวกขุนนางชั้นสูงและราชวงศ์
2.พลังเวทย์:50,000-70,000
จะได้เป็นอาชีพระดับสูง เช่น จอมเวทย์ประจำราชสำนัก หรือ เข้าทำงานที่กระทรวงเวทมนตร์ และคนหมู่นี้จะได้เข้าศึกษาในโรงเรียนระดับสูง
3.พลังเวทย์:20,000-40,000
จะได้เป็นอาชีพระดับกลาง เช่น ทหารระดับกลาง และ อาชีพราชการต่างๆ แต่ส่วนมากมักไปเป็นนักผจญภัย
4.พลังเวทย์:ต่ำกว่า-10,000
จะได้เป็นอาชีพทั่วไป เช่น ชาวบ้าน ช่างก่อสร้าง ช่างตีเหล็กทั่วไป
5.พลังเวทย์:0-หลักร้อย
คนพวกนี้จะไม่ได้รับอาชีพใดๆเลยทั้งสิ้น และถูกตีตราว่าไร้ค่า(บุคคลที่ไม่มีพลังเวทย์นั้นแทบจะไม่มีเลย)
6.พลังเวทย์:ไม่จำกัด
จะถูกเรียกว่าบุตรของทวยเทพจะได้รับการดูแลจากประเทศชาติเป็นพิเศษและอาณาจักรจะให้ความสำคัญสูงสุด(มีน้อยมากๆ)
ในขณะเดียวกัน ไอน์ ที่กำลังเดินลงมาจากบรรไดเพื่อที่ห้องรับประทานอาหารที่อยู่ในปีกตะวันตกของคฤหาสน์ ไอน์นั้นครุ้นคิดเกี่ยวกับระดับพลังเวทย์ของตนเอง จนไอน์นั้นเดินมาถึงห้องรับประทานอาหารแล้วนั่งลง บนโต๊ะมีอาหารว่างอยู่ตามตำแหน่งของโต๊ะและจำนวนของคนในบ้าน ซึ่งประกอบไปด้วย พ่อซึ่งเป็นดยุกและผู้นำตระกูล เค้าคือ
ดยุคกุสตาฟ ฮาเลนชไตล์ ถัดมาคือแม่ของไอน์ คือ คุณหญิงมาเรีย ฮาเลนชไตล์ ต่อมาคือพี่ทั้งสามของไอน์ พี่ชายคนโตคือ อเล็กซ์ พี่สาวคนโตคือวิเวีย และพี่ชายคนรองคือ วิลเลียม พวกเขามานั่งอยู่ที่โต๊ะก่อนผมแล้ว และเมื่อผมมาภึงพ่อครัวก็เดินมาเปิดที่ครอบอาหารไว้เผยให้เห็นเนื้อวัวย่างสุกกำลังดีราดด้วยซอสบางอย่างและผมก็เริ่มทานมันในทันที ในขณะที่ทุกคนกำลังกินอยู่พ่อก็พูดขึ้นมาว่า
"ไอน์ วันนี้ลูกต้องไปที่โบสถ์เพื่อเข้าพิธีใช่ไหม"
"ใช่แล้วครับท่านพ่อ หลังรับประทานก็น่าจะไปเลยครับ"
"อืม ก็ดี"
หลังจากนั้นพอไอน์ออกมาจากโต๊ะเดินมาจนถึงประตูหน้าคฤหาสน์ก็มีรถม้าจอดรอเขาอยู่แล้วไฮน์ขึ้นรถม้าและเริ่มเดินทางไปยังโบสถ์โดยมีคาโล และทหารอีก 4 คนตามมาด้วยเพื่อคุ้มกัน ในระหว่างเดินทางรถม้าของไอน์ต้องผ่านเขตการค้าในเมืองเพื่อไปยังประตูเมืองและไปสู่เมืองหลวง ระยะเดินทางระหว่างเมืองของตระกูลเขาสู่เมืองหลวงนั้นใช้เวลาประมาณ 1 วันอย่างช้าก็ 2 วัน ในวันภัดมาไอน์ก็ได้มาถึงเมืองหลวงและเข้าไปได้อย่างไม่มีปัญหาเพราะด้วยการเป็นคนในตระกูลดยุค จึงไม่มีการตรวจสอบมากเท่าไหร่ ในขณะที่รถม้าของไอน์ผ่านถนนในเมืองหลวงทุกคนต่างมองมาที่รถม้าของไอน์เพราะข้างรถม้านั้นติดตราตระกูลดยุคเอาไว้ นั้นจึงทำให้ไอน์รู้สึกแปลกและพยายามหลบสุดชีวิต พอเดินทางพ้นเขตเมืองไอน์ก็ลงรถม้าและเดินเท้าต่อเพราะพื้นที่ต่อจากนี้จะเป็นเขตหลวง ห้ามรถม้าเข้ามายกเว้นราชวงศ์ ไอน์เดินมาพร้อมกับผู้ติดตามอีก 4 คนของเขาเมื่อมาถึงยังโบสถ์ไอน์เห็นโต๊ะรับป้ายหมายเลขอยู่ที่หน้าทางเดินเข้าเขตโบสถ์และไอน์ก็เดินเข้าไปรับป้ายโดยแม่ชีอธิบายว่า ป้ายนี้ให้เก็บติดตัวไว้ตลอดและเมื่อถึงคราวที่ตนจะได้สัมผัสคริสตัลศักดิ์สิทธิ์เพื่อตรวจสอบพลังเวทย์ให้นำแผนป้ายนี้ไปสัมผัสคริสตัลและคริสตัลจะปรากฎสีออกมา ถ้าสีทองคือขั้นศักดิ์สิทธิ์ สีแดงคือขั้นสูง สีฟ้าคือขั้นกลาง สีเขียวคือทั่วไป และหาคริสตัลไม่แสดงสีคือมีพลังเวทย์ต่ำเกินไปและไม่ได้รับอาชีพ แต่ถ้าหากปรากฎสีขาวออกมาก็จะมีพลังเวทย์ไม่จำกัดโดยครั้งสุดท้ายที่มีปรากฎคือเมื่อ3,000ปีที่แล้ว เมื่อไอน์รับทราบถึงข้อมูลไอน์ก็เดินไปต่อแถวเพื่อเข้าไปสัมผัสคริสตัลศักดิ์สิทธิ์ในโบสถ์ ในขณะที่กำลังต่อแถวก็มีคหนึ่งปรากฏสีทองออกมาและมีพรแห่งผู้กล้ามาด้วยบาทหลวงและทุกคนในโบสถ์ต่างตกตะลึงและวุ่นวายกันใหญ่และเด็กคนนั้นก็ถูกโบสถ์พาตัวไปเข้าเฝ้าพระราชา พอผ่านไปสักพักก็กลับสู่สภาพปกติและให้คนอื่นเข้ารับการทดสอบต่อ เมื่อผ่านมาอีกสักพักก็มาถึงไอน์ ไอน์เดินเข้าไปและสัมผัสคริสตัลเมื่อสัมผัสไปเข้าได้เข้าไปสู่ดินแดนของพระเจ้าอีกครั้ง
"นี้ผมตายอีกแล้วหรอครับ"ไอน์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย
"เปล่าเจ้าไม่ได้ตายหรอกแค่ข้าดึงจิตเจ้ามาหาข้าเท่านั้นเอง แล้วเป็นไงบ้างละใช่ชีวิตที่2มีความสุขไหมละ"
"ครับ ต้องขอบคุณท่านจริงที่ได้ให้โอกาสผมอีกครั้ง"
"โห๊ะๆๆๆ"
ในระหว่างนั้นก็มีแสงเกิดขึ้นที่ใต้เท้าของเขา
"อ๊ะ ได้เวลาแล้วงั้นหรอ งั้นไว้เจอกันใหม่นะโอดะคุง"
"ครับท่าน"
หลังจากนั้นเขาก็กลับมายังร่างและเห็นคริสตัลนั้นส่องแสงสีขาวออกมาพร้อมกับปรากฎรายละเอียดพรทั้งหลายของเขาทำเอาทั้งบาทหลวงและทุกคนที่เห็นต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เขาต่างวุ่นวายกับการตรวจสอบระดับพลังเวทย์ของไอน์และนำไอน์ไปยังพระราชวังเพื่อเข้าเฝ้าฯกษัตริย์โดยที่ไอน์ยังคงงงเพราะเขาคิดว่าเขานั้นได้ปล่อยพลังเวทย์ของตนเองออกมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น
หลังจากการทดสอบพลังเวทย์ไอน์และคนอื่นๆอีก 4 คน ที่มีพลังระดับศักสิทธิ์และพรที่ทรงพลังซึ่ง 4 คนนั้นได้รับพรต่างกันคือ เด็กหนุ่มผมทองที่มีชื่อว่า อลัน นั้นมีพรแห่งผู้กล้า เด็กผู้หญิงข้างๆเขามีนามว่า
อลิเซีย มีพรแห่งสตรีศักสิทธิ์แห่งพระเจ้า และเด็กผู้หญิงอีกคนมีขื่อว่า อลิซ ซึ่งเธอมีพรศักสิทธิ์แห่งการรักษา และคนสุดท้ายเป็นเด็กผู้หญิงอีกคนมีนามว่า โอลิเวีย และเธอมีพรปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งคนเหล่านี้คือปาร์ตี้ผู้กล้าในอนาคต ตัดมาที่ไอน์ซึ่งเขายืนอยู่ข้างหลังของเด็กทั้ง 4 คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา ซึ่งทั้ง 4 คนนั้นมองเขาด้วยสายตาเชิงเหยียดหยามเพราะความมั่นใจในตัวเองสูง เมื่อองค์ราชาเสด็จมาถึงก็ประทับลงบนบัลลังก์ของตนพร้อมและมีเด็กผู้หญิงอีกคนยืนอยู่ข้างๆซึ่งคงจะเป็นองค์หญิงแห่งอาณาจักรนี้ และมีเสียงกล่าวขึ้นว่า
"กษัตริย์แห่งอาณาจักรซีเลีย โรเนส ฟอน ซีเลีย ที่33 เสด็จแล้ว"
หลังจากนั้นองค์ราขาก็ทรงถามถึงพลังของแต่ละคนกับทางบาทหลวง
"เอาล่ะ ไหนบอกพลังของแต่ละคนมาทีสิท่านอาร์คบิชอป"
"ขอรับฝ่าบาท"บาทหลวงวัย30ต้นกล่าวขึ้น
"คนแรกนั้น เขามีนามว่าอลัน เขามีพลังเวทย์ระดับศักดิ์สิทธิ์และมีพรแห่งผู้กล้าครับ"
"อืมๆ"
ทุกคนในท้องพระโรงต่างส่งเสียงฮือฮาออกมา
"คนต่อมา เด็กผู้หญิงคนนี้มีนามว่าอลิเซียครับ เธอมีพรแห่งสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเจ้าครับ"
"คนที่สามนั้นเธอมีนามว่าอลิซครับ ซึ่งเธอมีพรศักดิ์สิทธิ์แห่งรักษาคร้บ"
"คนสุดท้ายมีชื่อว่าโอลิเวียครับ และเธอมีพรนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ครับฝ่าบาท"
"โอ้ ดีมากๆ พวกเจ้าทุกคนในอนาคตจะเป็นความหวังของอาณาจักรเรา"
"เอ๊ะ แต่ปาร์ตี้ผู้กล้าก็ครบแล้ว แล้วคนที่ยืนอยู่ข้างหลังละท่านอาร์คบิชอป เค้าเป็นใครกัน"
ทุกคนในท้องพระโรงต่างมองมาที่ไอน์ด้วยสายตาสงสัย
"ครับฝ่าบาท เด็กหนุ่มคนนี้มีนามว่า ไอน์ ครับฝ่าบาท และเขานั้นมีพลังอยู่ในระดับบุตรของทวยเทพและมีพรมากมายที่ได้รับมาจากเหล่าทวยเทพครับ"
สิ้นเสียงของอาร์คบิชอปทุกคนในท้องพระโรงต่างตกตะลึงและส่งเสียงฮือฮาออกมาดังมากและเด็กอีก 4 คนที่เป็นกลุ่มผู้กล้าในอนาคตต่างมองไอน์ด้วยสีหน้าตกตะลึงเช่นเดียวกัน
"จ จริงหรือท่านอาร์คบิชอป เด็กหนุ่มคนนี้มีพลังถึงขั้นบุตรแห่งทวยเทพงั้นหรือ"
"ครับฝ่าบาท มิหนำซ้ำเค้ายังมีพรมากมายทั้งที่เราเคยพบและไม่เคยพบเห็น"
สีหน้าของพระราชานั้นเป็นสีหน้าที่ทั้งดีใจและตกใจภายในเวลาเดียวกันและพระราชาก็ทรงรับสั่งให้พาไอน์ไปที่ห้องทำงานของตน สั่งให้นำเด็กอีก 4 คนไปรอที่ห้องรับรองในพระราชวัง เมื่อไอน์มาถึงห้องทำงานของพระราชานั้นสภาพห้องนั้นเต็มไปด้วยกระดาษที่ตั้งอยู่เต็มไปหมดไม่ว่าจะอยู่บนโต๊ะหรือมุมห้องต่างเต็มไปด้วยกองเอกสารและหนังสือมากมาย หลังจากนั้นไม่นานพระราชาเดินเดินเข้ามาและประดับลงบนเก้าอี้ทรงงานของตนและสั่งให้ทหารออกไปให้หมด
"นั่งลงก่อนสิ"พระราชาบอกให้ไอน์นั่งลง
"ขอรับฝ่าบาท"
"เจ้ามีนามว่าไอน์สินะ แต่ดูจากการแต่งตัวเจ้าคงมาจากตระกูลขุนนางชั้นสูงพอตัวสินะ"
"ขอรับ ข้าเป็นบุตรคนที่ 4 ของท่าน ดยุคกุสตาฟ ฮาเลนชไตล์"
"อ๋อ เป็นบุตรของกุสตาฟนี้เอง"
"ขอรับฝ่าบาท"
"เอาล่ะ ข้าจะเข้าประเด็นหลักแล้วนะ ไอน์เจ้ารู้ตัวบ้างไหมว่าตัวตนของเจ้านั้นเป็นยังไงในตอนนี้"
"ข้ามิทราบขอรับ"
"อืม ก็ไม่แปลกเพราะตัวตนของเจ้ามิเคยปรากฏมานานกว่า3,000ปีแล้ว ฟังนะไอน์ในตอนนี้หน่ะ ตัวตนของเจ้านั้นมีความสำคัญมากขนาดที่ว่าหากอาณาจักรอื่นรู้ถึงตัวตนของเจ้า พวกเขาอาจจะเข้ามาสวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรของเราหรือแม้กระทั่งประกาศสงครามเพื่อแย่งชิงตัวเจ้ามายังอาณาจักรของตนเองเลยล่ะ"
เมื่อไอน์ได้ฟังสีหน้าของไอน์ถึงกับซีดเผือกอย่างกับศพ
"ไม่แปลกหรอกที่จะมีปฏิกิริยาอย่างนั้น แต่ว่านะไอน์ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเก็บเป็นความลับไม่ได้"
ไฮน์เริ่มมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปและมองไปที่พระพักตร์ของพระราชา
"หากไม่มีการป่าวประกาศถึงตัวตนของเจ้าและไม่แสดงพลังให้ใครเราก็จะสามารถเก็บไว้เป็นความลับภายในวังนี้ไว้ได้ แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าล่ะน่ะ"
"ขอรับ ฝ่าบาทข้าอยากจะเก็บมันมันเอาไว้เป็นความลับครับ"
"ฮ่าๆๆๆๆ งั้นก็เอาตามนั้นแต่ว่าหากปล่อยเจ้าให้กลับไปใช้ชีวิตทั่วไปแลดูจะเสียของเปล่า เอาอย่างนี้ไหม ข้าจะให้เจ้าได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนเวทมนตร์ประจำอาณาจักร และให้เจ้าอาศัยอยู่ในวังหลวงเพื่อเก็บเรื่องพลังของเจ้าไว้เป็นความลับ"
"เอ๋ แต่ฝ่าบาทเรื่องที่จะให้กระผมศึกษาที่โรงเรียนเวทมนตร์กระผมก็พอเข้าใจอยู่ครับแต่เรื่องที่จะให้อาศัยอยู่ในพระราชวังจะไม่เป็นไรหรือขอรับหากมีคนเห็นข้าเข้าออกพระราชวังบ่อยๆคนอื่นอาจจะสงสัยนะขอรับ"
"งั้นเจ้าจงมาเป็นบุตรบุญธรรมของข้าซะ ข้าฝันอยากมีลูกชายมานานแล้ว"
"แต่ขุนนางคนอื่นๆจะได้โต้แย้งหรือขอรับ"
"ไม่หรอกๆ ขุนนางทุกคนนั้นได้ประจักษ์ถึงพลังของเจ้าแล้วและคงไม่โต้แย้งด้วยหากข้าจะให้เจ้าครองราชย์ต่อจากข้า พวกเขาคงยิยดีด้วยซ้ำ งั้นเอาตามนี้นะไอน์คุง"
"เอออ๋!!!"
หลังจากนั้นไม่นานก็มีพิธีแต่งตั้งให้ไอน์ได้เป็นราชวงศ์และองค์ชายของอาณาจักรเนื่องจากการที่เขามีพลังเวทย์และความสามารถมากมายเขาจึงได้รับการสนับสนุนมากมายจากเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ทุกคนของอาณาจักรที่เป็นมหาอำนาจอย่างซีเลียและเขาได้รับชื่อใหม่ว่า ไอน์เนส ฟอน ซีเลีย โดยมีตำแหน่งเป็นองค์ชายและรัชทายาทแห่งซีเลียแต่ยังไม่มีการจัดงานและปรากฎตัวต่อสาธารณะจนกว่าไอน์จะอายุครบ 10 ปี ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของไอน์เอง ในตอนนี้มีเพียงพระราชสาส์นจากวังหลวงสู่ประชาชนและขุนนางเท่านั้น
2 ปี ต่อมา ไอน์มีอายุครบ 7 ปี ซึ่งก็คือถึงเวลาที่จะต้องเข้ารับการศึกษาโดยที่ไอน์ในโรงเรียน ในปัจจุบันไอน์นั้นเป็นถึงองค์ชายและองค์รัชทายาทแห่งซีเลียอย่างเป็นทางการ และในวันนี้จะเป็นัวนแรกที่ไฮน์จะเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเวทมนตร์ประจำอาณาจักรตามปกติของราชวงศ์และผู้ที่มีพลังเวทย์สูง ในเช้าวันนั้นไอน์ได้เตรียมตัวและเดินไปที่รถม้าพร้อมกับคนรับใช้เมื่อถึงที่หน้าประตูวังก็มีรถม้าและเหล่าทหารอารักขาส่วนตัวของไอน์อยู่เต็มไปหมด ไอน์เดินขึ้นรถม้าไปและเริ่มออกเดินทางโดยมีทหารอารักขาตามมาด้วยหลายสิบคน แต่ไอน์ก็เริ่มชินแล้ว เพราะมาถึงตอนแรกๆเวลาไอน์ไปไหนจะมีทหารตามไปด้วยจำนวนมากเสมอทำให้ไอน์รู้สึกกังวล แต่พอผ่านมาเรื่อยไอน์ก็เริ่มปล่อยวางและพยายามทำใจเรื่องนี้ถึงแม้จะทูลขอเสด็จพ่อไปหลายครั้งเรื่องให้มีทหารอาร้กขาตามไปข้างนอกให้น้อยลงแต่ก็ถูกตอบกลับมาว่า "กลัวอันตรายจะเกิดขึ้นกับลูกนะพ่อไม่ยอมหรอก" บางทีเสด็จพ่อเป็นห่วงเราเกินไปนะ ไอน์คิดในใจอย่างยอมรับในสภาวะ เมื่อเดินทางมาสักพักจนมาถึงหน้าโรงเรียนเวทมนตร์ไอน์ก็เดินลงมาพร้อมกับสายตาของนักเรียนที่จดจ้องมาที่เขาและรถม้า เพราะรถม้าที่ไอน์นั่งมาเป็นรถม้าที่มีตราประจำตัวของไอน์และตราราชวงศ์ติดอยู่ และนักเรียนมากมายก็กำลังมองมาที่เขา เขาเดินลงมาจากรถม้าและคิดในใจว่า ว่าแล้วยังไงก็ไม่ชินกับไอการที่ถูกมองอย่างนี้ เมื่อไอน์เดินลงมาจากรถม้าเขาก็เดินเข้าไปในโรงเรียนและหาห้องเรียนของตนจนเขาเจอห้องเรียน ห้องเรียนของไอน์นั้นเป็นห้องเรียนระดับสูงที่มีแต่ลูกของขุนนางชั้นสูงและคนในราชวงศ์ เมื่อเดินเข้ามาไอน์รีบตรงไปที่ที่นั่งริมหน้าต่างและเขาก็นั่งอยู่ตรงนั้นจนมีคนมาทักเขา
"อรุณสวัสดิ์ครับ เช้านี้อากาศดีนะครับ"เสียงทักทายจากคนที่เดินมานั่งข้างเขา
ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น"
"ผมคือ อเล็กซ์ เรนเดลล์ บุตรชายของเอิร์ลแห่งฟาเวียเนสขอรับ"
"ผมไอน์เนส ฟอน ซีเลีย องค์ชา..."
"องค์ชายแห่งซีเลียใช่ไหมครับ ยินดีที่รู้จักนะครับ!!!" เขาพูดออกมาอย่างเสียงดัง
"ชู่ววววว"
"อะ ขอโทษครับ ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับองค์ชายแห่งอาณาจักรนะครับ แห๊ะๆๆ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ"
ในขณะที่คุยกันอยู่อาจารย์ก็เดินเข้ามาและบอกให้ทุกคนนั่งที่และอาจารย์ก็เริ่มแนะนำตัว
"เอาละ ฉันคืออาจารย์ประจำชั้นของทุกคน มีชื่อว่า โรเส่ วิมเบิล หวังว่าในระยะเวลาที่อยู่ในโรงเรียนนี้ทุกคนจะสามารถผ่านพ้นไปด้วยกันได้นะ"
"อาจารย์ครับ ผมว่าเรามาเริ่มด้วยการแนะนำตัวกันก่อนดีไหมครับ" มีเสียงเด็กผู้ชายดังขึ้น เสียงของเขานั้นช่างฟังดูเจ้าเล่ห์
"อืม อย่างนั้นก็ดีเหมือนกัน" อาจารย์ตอบ
"**นั้นคือลูกชายคนที่ 1 ของดยุคออกราฟ ดยุคจากพื้นที่เขตใต้ เขาคือ เอเนสัน ออกัสติน ระวังไว้นะครับองค์ชายหมอนี้อาจคิดเล่นไม่ซื่อได้"
"อือ เข้าใจแล้ว"
"เอ้า คนถัดไป"
หลังจากเอเนสันแนะนำตัวอาจารย์ก็เรียกคนถัดไป เธอเป็นผู้หญิงที่แลดูสวยงามยังกับสตรีในตำนานเทพโบราณ
"ยินดีที่รู้จักค่ะทุกท่าน ดิฉันคือ คาร์เน่ ทิสต้า บุตรสาวของเอิร์ลแห่งวอเร็น เจสัน ทิสต้า"
"เอ้า คนต่อไป"
ถึงตาของไอน์แล้ว
"ครับ ยินดีที่ได้พบทุกท่าน กระผม ไอน์เนส ฟอน ซีเลีย ราชโอรสของ โรเนส ฟอน ซีเลียที่33 ครับ"
สิ้นสุดเสียงไอน์ทุกคนในห้องต่างตกตะลึง ห้องอยู่ในบรรยากาศเงียบเชียบมีเพียงอาจารย์ที่รู้อยู่แล้วกับอเล็กซ์ที่รู้ก่อนหน้าดท่านั้นที่ดูไม่ตกใจเท่าไหร่ หลังจากนั้นอาจารย์ก็ให้แนะนำตัวต่อจนครบทุกคนในห้องจนหมดเวลาคาบเรียนแรกและทุกคนก็เรียนต่อจนถึงตอนพักกลางวัน พอถึงตอนพักกลางวันไอน์กับอเล็กซ์ก็เดินออกไปจากห้องด้วยกันระหว่างนั้นก็มีสายตาของคนทั้งห้องจ้องมองมาที่ไอน์ ข่าวแพร่ไปเร็วมากว่าที่ห้องเรียนชนชั้นสูงมีองค์ชายมาร่วมเรียนด้วยและมีบุตรของขุนนางมากมายพยายามจะตีสนิทหรือบางคนก็เริ่มที่จะมองไอน์ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร พอถึงตอนเย็นรถม้าประจำตัวของไอน์ได้มารอที่หน้าโรงเรียนพร้อมกับทหารอารักขาจำนวนมากกว่าตอนเช้าประมาณ3เท่า เป็นรับสั่งของกษัตริย์ที่ให้เพิ่มทหารอารักขาของไฮน์พอหมดเวลาเรียนไฮน์เดินมาขึ้นรถม้าเเละตามมาด้วยเสียงของนักเรียนที่ตามมาและมีคนกลุ่มหนึ่งพยายามจะเข้าหาไอน์แต่ก็โดนทหารอารักขาบังไว้และไอน์ก็ขึ้นรถม้าและออกเดินทาง พอถึงวังไอเดินมาหาเสด็จพ่อที่ห้องทำงานเพื่อทักทายและกลับไปที่ห้องของตนเองเมื่อไอน์เก็บของเสร็จเขาก็เดินออกมาที่สนามหลังพระราชวังและเริ่มฝึกใช้เวทมนตร์และพรต่างที่ได้รับและไอกำลังฝึกพรที่มีชื่อว่า สร้างสรรค์ไร้ขอบเขต ไอน์เคยลองพรนี้และเขาพบว่ามันสามารถสร้างได้ทุกสิ่งที่เขาปรารถนาไม่ว่าสิ่งนั้นจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ขนาดไหนก็สามารถออกมาได้ไอน์คิดว่าจะใช้พรนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อเขาและอาณาจักรของเขาให้ได้มากที่สุด
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!