NovelToon NovelToon

พิชิตใจอาจารย์หน้านิ่ง

ตอนที่ 1

กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ \~\~\~\~\~\~\~\~\~\~\~

ร่างสูงโปร่งในชุดนอนสีขาว ลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวเตียงก่อนจะกดปิดนาฬิกาปลุกที่แสนจะน่ารำคาญ

“10:49” ร่างสูงบ่นพึมพำด้วยอาการงัวเงีย จู่ๆ เธอก็รีบดีดตัวขึ้นมาจากเตียง เมื่อตระหนักได้ว่าเธอมีเรียนอังกฤษตอน 10 โมงเช้า “ฉิบหายแล้วไอ้ธัน มีเรียน 10 โมงนี่หว่า”

ธัน หรือ ธัญชนก นักศึกษามหาวิทยาลัยดังย่านใจกลางกรุง เธอเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมยานยนต์ อีกทั้งเธอยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยอีกด้วย เมื่อวานเธอต้องซ้อมบาสทั้งวัน เนื่องจากงานกีฬาสานสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ กำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่ช้านี้ วันนี้เธอเลยตื่นสายเป็นพิเศษ ความเลวร้ายไม่ใช่แค่นั้น เพราะวันนี้เธอต้องเรียนอังกฤษของอาจารย์ที่เธอไม่รู้จัก

“วันแรกก็สายซะแล้วกู” ธันบ่นพึมพำขณะกำลังวิ่งสุดแรงเกิดไปยังห้องที่เขาเรียน ธันยืนหอบอยู่หน้าประตูห้องเรียน เขากำลังชั่งใจว่าจะเปิดเข้าไปดีมั้ย เพราะนี่ก็สายมากแล้ว

“หรือกลับดีวะ แต่ว่าคาบแรกอาจารย์ต้องเช็คชื่อแน่เลยวะ” ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี “เอาวะ เป็นไงเป็นกัน!”

มือเรียวเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เขา เขามองไปรอบๆ อย่างเกร็งๆ เหมือนทุกๆ คนกำลังกดดันร่างสูงทางสายตา

“ขออนุญาตค่ะอาจารย์” ธันขออนุญาตคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาสอนนักศึกษาอีก 20 กว่าคนอยู่ ใบหน้าที่เรียบนิ่ง ปากสีแดงระเรื่อ ผิวที่ขาวผุดผ่อง ทำให้ธันเผลอจ้องหน้าหญิงสาวที่กำลังส่งสายตาดุๆ มาให้เธออย่างเผลอตัว

“สายขนาดนี้ไม่เข้าก็ได้นะคะ” ใบหน้าของอาจารย์เนตรยังคงเรียบนิ่ง จ้องมองไปที่นักศึกษาโดยไม่ละสายตา

เนตร หรือ กมลเนตร เธอเป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านกรุงเทพ เธออายุ 38 ปี ต่างจากรูปร่างหน้าตาของเธอที่ใครๆ ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เธออายุแค่ 30 ต้นๆ เท่านั้น ธันยิ้มให้อาจารย์อย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอไม่รู้จะทำยังไงได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาที่สุดแสนจะบาดลึกคู่นั้น

“ขอโทษค่ะ พอดีตื่นสายนิดหน่อย” ร่างสูงเหลือบไปมองหน้าอาจารย์สาวอีกครั้งก่อนจะรีบก้มหน้าตามเดิม เพราะสายตาเย็นยะเยือกคู่นั้นยังคงจ้องเธอไม่หยุด

“ไม่นิดแล้วค่ะ เริ่มเรียน 10โมง ตอนนี้ 11:27 เหลือเวลาเรียนแค่ 30 นาที แบบนี้นักศึกษาจะได้อะไรกลับไปคะ นักศึกษาต้องรู้จักตรงต่อเวลาฝึกเอาไว้ให้เป็นนิสัยนะคะ” ใบหน้าสวยจ้องนักศึกษาตัวปัญหาอย่างไม่ลดละ เธอพยายามจะขู่ให้เด็กคนนี้กลัวจะได้ไม่ทำแบบนี้อีก

“ขอโทษค่ะ ครั้งหน้าธันจะไม่มาสายอีก” ธันยกมือไหว้อาจารย์อีกครั้ง เขาแทบจะหยุดหายใจเมื่อโดนสายตาคมคู่นั้นมองมา ถึงแม้อาจารย์สาวหน้าจะนิ่ง ดุ ราวกับ เจ้าหญิงน้ำแข็ง แต่ใบหน้าที่เข้ากันนั้นก็สวยสุดๆ ไปเลยละ

อาจารย์สาวถอนหายใจนิดๆ เธอก็ไม่ได้อยากต่อความยาวสาวความยืดอะไร เพียงแต่อยากให้บทเรียนกับคนที่ไม่ตรงต่อเวลาเท่านั้น “เชิญนั่งค่ะ” เนตรพูดกับนักศึกษาตัวปัญหาก่อนจะกลับไปตั้งใจการสอนต่อ จะโหดไปไหนเนี่ยอาจารย์

ด้วยความเพลียสะสมตั้งแต่เมื่อวาน ทั้งการซ้อมบาสหนัก นั่งทำงานจนดึก ทำให้ธันเกิดอาการง่วงนอนขึ้นมาอีกรอบ ตาค่อยๆ หนักอึ้ง เพราะเสียงหวานที่กำลังสอนอย่างตั้งใจ ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีคนกล่อม เมื่อทนความง่วงไม่ไหวร่างสูงจึงค่อยๆ ฟุบลงกับโต๊ะ จนเวลาล่วงไปจนหมดคาบ นักศึกษาคนอื่นๆ ถยอยออกจากห้องเรียน คงเหลือแค่เพียงธันกับเนตรที่ยังอยู่ในห้อง เนตรที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บของใส่กระเป๋าอย่างประณีตเหลือบเห็นเด็กเจ้าปัญหานอนฟุบอยู่กับโต๊ะอย่างไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เด็กคนนี้อีกแล้ว ถ้าจะมาแล้วหลับแบบนี้จะมาทำไมกันนะ

เนตรเดินไปหาร่างสูงที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ที่โต๊ะ เธอเขย่าตัวเขาเบาๆ เพื่อเป็นการปลุกให้คนที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราได้ตื่น

“นักศึกษาคะ หมดคาบแล้วแล้วค่ะ” เนตรขมวดคิ้วเล็กๆ ให้คนที่ฟุบอยู่

ธันที่ได้รับรู้ถึงแรงเขย่าตัว เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก มือเรียวลูบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อขจัดความง่วง และเขาก็ต้องตาลุกโตเมื่อเห็นว่าคนที่ปลุกเขาเป็นอาจารย์ที่พึ่งรบกันไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน “อาจารย์…”

ใบหน้าเรียบตึงถูกดึงกลับมาใช้อีกครั้ง เนตร จ้องหน้าตัวปัญหาเขม็ง “คราวหน้าถ้าจะมาหลับก็ไม่ต้องมานะคะ นอนอยู่ที่ห้องสบายกว่า” เธอไม่รู้เลยว่าเด็กคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ เข้าเรียนสายยังไม่พอ ดันมาหลับในห้องขณะที่เธอกำลังสอนอีก เธอส่ายหัวเล็กๆ ให้ร่างสูง

“ขอโทษค่ะอาจารย์!!” ธันรีบดีดตัวขึ้นมาจากเก้าอี้ เขาไหว้อาจารย์สุดโหด อย่างกลัวๆ

“แล้วนี่ทราบมั้ยคะว่าวันนี้อาจารย์สอนอะไร” เนตรยังคงใช้ใบที่เรียบนิ่งคุยกับเด็กตัวปัญหา

“ไม่ทราบค่ะ…” ร่างสูงส่ายหัวให้อาจารย์ เขารีบก้มหน้าหลบสายตาของเธอ เมื่อเธอจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

เนตรถอยหายใจอีกเฮือกใหญ่ เธอไม่ได้เป็นคนใจร้ายอะไร เพียงแต่ ใบหน้า ท่าทาง และคำพูดที่ชวนหน้ากลัวของเธอ ทำให้นักศึกษาเกรงใจไม่มากก็น้อย เธอวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ ก่อนจะหยิบชีท ออกมาจากกระเป๋า มือสวยยื่นกระดาษ 3 แผ่นให้คนข้างหน้าด้วยใบหน้าที่เรียบตึง “นี่ค่ะ ชีทของวันนี้ ถ้าคราวหน้ายังเป็นแบบนี้อาจารย์จะไม่ช่วยแล้วนะคะ” ธันรับชีทไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“อย่าทำแบบนี้อีกนะคะ” เนตรพูดทิ้งท้ายกับธันไว้ เธอรับไหว้ร่างสูงแล้ว รีบเดินออกจากห้องไป โดยไม่ได้หันมามองหรือฟังอะไรจากนักศึกษาเจ้าปัญหาอีก

ธันเดินตรงไปที่โรงอาหารคณะอย่างเหม่อลอย เขานัดเจอเพื่อนที่นั้น เพราะคาบที่ผ่านมาพวกเขาเรียนอังกฤษเหมือนกันแต่อยู่คนละเซค ใบหน้าสวยราวกับนางพญายังคงวนเวียนอยู่ในหัวของธัน ทุกครั้งที่นึกถึงก็พาลให้หัวใจดวงน้อยๆ เต็นแรงทุกครั้ง รักแรกพบเป็นแบบนี้นี่เอง

“มาได้แล้วหรอวะ มีเรียนบ่ายต่ออีก ให้ไวเดี๋ยวไม่ทันได้กินข้าว” หญิงสาวตัวเล็กเอ่ยทักทันทีที่เห็นเพื่อนสนิทเดินเข้ามาหา

อัน หรือ อัญญาวี เธอเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของธัน หรือจะเรียกว่าเพื่อนคนเดียวของเขาก็ได้ เพราะทั้งคู่สนิทกันตั้งแต่ตอนเด็กๆ เพราะอะไรหลายๆ อย่างทำให้ทั้งคู่เข้ากันได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ถึงขนาดในการเลือกคณะและสาขา ทั้งคู่ก็ยังชอบอะไรที่เหมือนๆ กัน เลยมาลงเอยที่คณะและสาขาเดียวกัน ร่างสูงนั่งลงกับเก้าอี้ยาวของโรงอาหารคณะอย่างเซ็งๆ

“ตื่นมาได้ก็บุญละ เมื่อวานอาจารย์ซ้อมหนัก” ธันบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ทำให้อันต้องส่ายหัวให้กับอาการเบื่อโลกของไอ้เพื่อนตัวดี

“ถึงว่ากูโทรไปตั้งหลายสายไม่เห็นมึงรับ”

“เออดิ แล้ววันนี้กูโคตรซวยเลยว่ะ” เมื่อนึกถึงคำดุของอาจารย์มันก็พาลให้หงุดหงิดแต่เมื่อนึกถึงใบหน้าที่สวยเฉียบบาดใจนั้นมันกลับทำให้เธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

“ทำไมวะ” อันขมวดคิ้วเล็กๆ ให้เพื่อน

“ก็กูเข้าเรียนสายชั่วโมงครึ่ง โดนอาจารย์ด่าอีก” ร่างสูงทำหน้าเซ็งๆ มันจะดีกว่านี้ถ้าการเจอกันครั้งแรกของเขากับอาจารย์ไม่ใช่การถูกอาจารย์ว่าเรื่องมาสาย เมื่อได้ยินคำตอบของเพื่อน อันก็ขำออกมาทันที เพราะถ้าเป็นเขา สายขนาดนั้นเขาคงไม่เข้าแล้ว นอนอยู่ห้องรอเรียนคาบต่อไปเลยดีกว่า

“สายขนาดนั้น มึงยังจะไปให้อาจารย์ด่าเล่นอีกหรอวะ” เขาส่ายหัวพร้อมหัวเราะเล็กๆ ให้เพื่อนตัวสูง

“ก็...” ปากสวยต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงหวานคุ้นหูที่ได้ยินเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลัง

เนตรยืนถือจารย์ข้าวอยู่ข้างหลังคนตัวสูง เธอตัดสินใจกินข้าวที่โรงอาหารของคณะวิศวะเพราะไหนๆ ก็มาสอนที่ตึกนี้แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่มีโต๊ะว่างเลย จนเหลือบมาเห็นเด็กตัวปัญญาที่มาสายแถมยังหลับในอีกนั่งอยู่ และที่ข้างๆ เขาก็มีที่ว่าง เธอเลยตัดสินใจเดินเข้าไปขอนั่งด้วย

“ขอโทษนะคะ อาจารย์ขอนั่งด้วยนะ พอดีไม่มีโต๊ะว่างเลย” ใบหน้าที่เรียบนิ่งถูกส่งให้นักศึกษาสองคนที่กำลังนั่งจ้องเธออยู่ ธันเดาอารมณ์เธอไม่ได้เลยจริงๆ ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไร หรือรู้สึกยังไง อาจารย์จะได้ยินที่นิททาไปตอนแรกมั้ยวะ

“น…นั่งเลยค่ะ” ธันแสดงสีหน้าเกร็งๆ ให้อาจารย์สาว เธอรู้สึกเหมือนถูกแช่แข็ง ในขณะที่หัวใจกำลังเต้นรัวๆ ไม่หยุด ขาเรียวสวยก้าวเข้ามานั่งข้างๆ คนตัวสูงอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะกริยา ท่าทาง เธอจะประณีต และคอยระวังอยู่เสมอ

ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งสบตากันมองอาจารย์สุดเนียบกินข้าวอย่างละเมียดละไม สาวๆ ที่ค่อยตามธันก็มาทำหน้าที่เช่นเคย น้ำหวานสาวสวยปี 4 เจ้าของเพจ FCน้องธัน ชึ่งธันก็รู้จักพอสมควรเพราะเธอตามเขาไปเกือบทุกที่ เป็นเพราะงานกีฬาสีภายในครั้งก่อนแท้ๆ มันทำให้เขาเป็นที่หมายตาของสาวๆ หลายคน เพราะธันทั้งเก่ง เท่ และลุคอบอุ่นของเขา

“น้องธันคะ ยังไม่ได้กินข้าวอีกหรอคะ นี่ค่ะพี่ซื้อมาฝาก ละนี่ของพวก fcคนอื่นๆ” หญิงสาววางถุงขนาดใหญ่ลงบนโต๊ะตรงหน้าของธันและอัน ในนั้นมีขนมมากมายอยู่เต็มถุง เธอรู้สึกขอบคุณทุกๆ คนมาก เธอไม่ได้รู้สึกรำคาญหรืออะไร เพียงแต่บางทีเธอก็เกรงใจพวกเธอ

“ไม่มีของอันบ้างหรอคะ” อันเอ่ยถามคนมาใหม่เชิงหยอกล้อ

“มีสิคะ มันรวมๆ กันมาน่าจะมีเขียนเปะไว้ว่าของใคร” สาวสวยหันไปยิ้มให้อัน เธอใช้มือสวยบีบแก้มของเขาเบาๆ ถึงอันจะไม่ได้เป็นนักกีฬา แต่เขาก็เป็นถึงนักร้องของมหาวิทยาลัย ซึ่งนั้นก็ทำให้เขาฮอตไม่แพ้ธันเลย

“ขอบคุณนะคะพี่หวาน ไม่เห็นต้องลำบากเลย” ธันเอ่ยขอบคุณพี่สาวคนสวยอย่างสุภาพ

“ไม่ได้จ้ะ น้องธันของพี่ต้องอิ่ม!! งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ” สาวสวยใช้มือทั้งสองข้างบีบแก้มของทั้งคู่ก่อนจะโบกมือเพื่อบอกลา เมื่อพี่สาวคนสวยได้เดินจากไป ธันก็เหมือนพึ่งนึกได้ว่าเขายังไม่ได้กินข้าวเลยด้วยซ้ำ เพราะตอนตื่นก็รีบเข้าเรียน มาตอนนี้ก็จะบ่ายแล้วด้วย

“กูลืมกินข้าวไปเลยวะ กินหนมแทนก็ได้วะ” ร่างสูงทำหน้าเซ็งๆ เพราะมั่วแต่คุยเรื่องอาจารย์เลยลืมเรื่องกินข้าวไปซะสนิท

“ข้าวเช้าอ่ะ มึงกินยัง” อันเอื้อมมือไปหยิบขนมขบเขี้ยวออกมา 2 ห่อ ก่อนจะเปิดถุงขนมยื่นให้เพื่อน

“ไม่อ่ะ กูตื่นจะ 11 โมงอยู่ละ จะเอาเวลาไหนกินวะ” ธันรับถุงขนมก่อนจะหยิบมันเข้าปาก เสียงซ้อมกับซ้อนที่ถูกคนข้างๆ รวบอย่างละเมียดละไมดังขึ้น บ่งบอกว่าอาจารย์ทานข้าวเสร็จแล้ว

“ไม่กินทั้งข้าวเช้าข้าวเที่ยงแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ อีกอย่างขนมที่ได้มาก็ดูไม่มีประโยชน์เลยสักอย่าง ถ้ายังอยากมีชีวิตอีกยาวก็ไปกินข้าวนะคะ” เสียงหวานแต่คำพูดไม่ได้หวานอย่างเสียง ธันกับอันที่กำลังจะหยิบขนมเข้าปากต้องชะงักมือไว้ เมื่อโดนคำพูดที่ไม่รู้ว่าเป็นห่วง หรือติเตียน หรืออะไรสักอย่างที่ผู้ฟังยากจะรับสารมาได้อย่างเข้าใจอารมณ์ผู้พูด

“ธันกลัวเข้าเรียนไม่ทันค่ะ เดี๋ยวเรียนเสร็จค่อยกินก็ได้” ธันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เมื่อโดนสายตาดุๆ ส่งให้

“ถ้านักศึกษาไม่มั่วนั่งคุยเรื่องที่อาจารย์ดุตอนนั้น ปานนี้กินข้าวเสร็จแล้วค่ะ”

“เอ่อ…คือ” ร่างสูงหันหน้าไปมองเพื่อน เพื่อขอความช่วยเหลือ อันส่ายหัวให้เขาเบาๆ นั้นคือการ บอกว่า เรื่องนี้จะไม่ขอยุ่ง

เนตรลุกขึ้นยืนก่อนจะหาอะไรสักอย่างในกระเป๋า เธอหยิบแซนด์วิชที่ซื้อติดกระเป๋าไว้ทุกเช้าออกมาก่อนจะยื่นให้คนตัวสูง

“นี่ค่ะ รองท้องไปก่อน อาจารย์ขอตัวนะคะ” ร่างบางเดินออกไปโดยไม่รอความพูดใดๆ ของนักศึกษา เธอเพียงแค่ทำหน้าที่เพื่อนร่วมโลกที่ดีก็เท่านั้น

สองเพื่อนรักมองหน้ากันอย่างรู้กัน อันหันซ้ายหันขวาเพื่อมองอาจารย์เนตรว่าเธอยังอยู่แถวนี้รึเปล่า ก่อนจะโน้มลงมาคุยกับธัน

“ดุจริงด้วยว่ะ แต่ก็ใจดีนะเนี่ย”

“ดุแต่น่ารัก อันกูเจอเนื้อคู่แล้วว่ะ” ความคิดถูกถ่ายถอดออกมาเป็นคำพูดให้เพื่อนได้รับรู้ ว่าเขารู้สึกยังไง แต่ดูเหมือนไอ้เพื่อนตัวดีจะไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่

“ไอ้ธันมึงจะเล่นรุ่นใหญ่หรอวะ ดูอาจารย์น่าจะ 35 ขึ้นแล้วนะ ปานนี้มีครอบครัวไปแล้ว” คำพูดของอันทำให้ร่างสูงชะงัก คนเพียบพร้อมแบบนั้น จะโสดได้ยังไงกัน อีกทั้งอายุอานามก็น่าจะมากแล้ว คงไม่มีใครปล่อยนางฟ้าแบบนี้ลอยนวลไปได้หรอก แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้นี่น่า

“ถ้ายังไม่เห็นกะตา กูก็ไม่ถอย!! ป่ะเรียน” ธันลุกขึ้นยืนก่อนจะอ้อมไปลากอันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามให้ลุกขึ้น ร่างสูงกอดคอเพื่อนตัวเล็กเพื่อไปเรียนวิชาถัดไป

ตอนที่ 2

“ธันๆ กูหาข้อมูลอาจารย์เจอละในเว็บมอ มึงดูยังใช้นางสาวอยู่เลย” อันสะกิดให้คนตัวสูงดูบางอย่างในโทรศัพท์มือถือ มันคือข้อมูลของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ซึ่งเนตรก็ใช้คำนำหน้าว่านางสาว จริงด้วยว่ะใช้นางสาวอยู่แบบนี้กูก็ยังมีสิทธิ์!!

“จริงด้วยว่ะ งั้นก็แปลว่ากูมีสิทธิ์อ่ะดิ” ธันยิ้มร่าให้เพื่อนสนิท

“อาจจะไม่ได้จดทะเบียน”

“เอาไรมาพูด กูต้องได้เห็นกับตาก่อนถึงจะเชื่อ”

“ถ้าจะเอาจริง” อันส่ายหัวเบาๆ เพราะเขาก็ไม่คิดว่าธันจะชอบอาจารย์เนตรจริงๆ

ธันแอบหวั่นใจนิดๆ กับสิ่งที่อันพูดเพราะโอกาสที่จะเป็นเรื่องจริงสูงมาก ผู้หญิงที่อายุขนาดนี้จะไม่มีใครได้ยังไงกัน ทั้งสวยทั้งเก่ง จริงๆ ต้องพูดว่าโอกาสที่เนตรจะไม่มีแฟนหรือครอบครัวแถบจะไม่มีเลยล่ะ

“เออดิ กูชอบอ่ะ แต่ถ้าอาจารย์มีครอบครัวแล้วกูก็จะตัดใจ”

“ไม่ตัดใจละจะแย่งงี้หรอ ตัดใจอ่ะถูกแล้ว”

“พูดมากมึงอ่ะ จดไปเลย” ธันทำหน้าคาดโทษใส่เพื่อนสนิทอย่างอัน

วันนี้ธันมีซ้อมบาสต่อหลังเรียนเสร็จ อีกไม่กี่เดือนก็จะมีการจัดงานกีฬาสานสัมพันธ์ของแต่ละมหาลัยแล้ว ทำให้นักกีฬาของมหาวิทยาลัยต้องซ้อมกันหนักหน่อย ส่วนอันก็ต้องซ้อมวงดนตรีด้วยเหมือนกันเพราะเขาเองก็ต้องขึ้นแสดงดนตรีภายในงานเช่นกัน ทั้งคู่เลยต้องแยกย้ายกันหลังจากเรียนวิชาแคลคูลัสเสร็จ

บรรยากาศการซ้อมดูจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะใกล้วันแข็งเต็มที่ ธันซ้อมซูดบาสระยะไกลอยู่ก็สังเกตเห็นอาจารย์หน้านิ่งที่เขาพึ่งเจอไปเมื่อเช้า แต่ดูเหมือนว่าเนตรจะมาหาอาจารย์เซนโค้ชของธัน ธันหยุดนิ่งดูทั้งคู่อยู่สักพักไม่รู้ว่าทำไมแค่เห็นอาจารย์คนสวยนั้นยิ้มให้อาจารย์เซนแล้วถึงได้รู้สึกอิจฉาขนาดนี้นะ

เซนเป็นอาจารย์หนุ่มรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยของเนตร ซึ่งเซนก็จัดว่าเป็นคนหล่อคนหนึ่งเลยละ เขาพยายามตามจีบเนตรมาเกือบปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเนตรจะไม่ได้ชอบเขา เธอให้ได้แค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น เนตรเดินเข้าไปในยิมที่มีนักศึกษาซ้อมบาสอยู่ เธอมองหาเซนคนที่นัดมาที่นี่

“เนตรครับ”

“เซน! ตกใจหมดเลยค่ะ” เนตรรีบหันมาตามเสียงเรียกของอาจารย์หนุ่ม จนหน้าของทั้งคู่เกือบชนกันเพราะเซนยื่นหน้าเขามาใกล้เธอมาก เนตรตกใจนิดๆ ก่อนจะรีบถอยหลังออกมาให้ห่างจากอาจารย์หนุ่ม

“มีอะไรจะคุยกับเนตรหรอคะ?”

“เนตรครับคบกับผมนะครับ ผมจะดูแลเนตรและหนูแก้วตาเอง ผมคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วหวังว่าเนตรจะตอบรับนะครับ” อาจารย์หนุ่มเดินไปหยิบช่อดอกไม้ที่โต๊ะ ก่อนจะเดินกลับมาคุกเข่าลงตรงหน้าเนตร ซึ่งนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้เนตรเขินเลยสักนิด เธอคิดว่าเธฮคงหมดวัยที่จะเขินกับอะไรแบบนี้ไปแล้วละ

“เซน...เนตรขอโทษนะคะ แต่เนตรว่าเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า ขอบคุณสำหรับทุกๆ อย่างนะคะ เซนเป็นคนดีมากๆ แต่เนตรคิดแบบนั้นกับเซนไม่ได้จริงๆ ดอกไม้นี่เนตรจะรับไว้ในฐานะเพื่อนนะคะ” เนตรรับดอกไม้จากมือของอาจารย์หนุ่ม ซึ่งนั้นก็ทำให้เซนผิดหวังมากแต่เขาก็เลือกที่จะส่งยิ้มให้เนตร สำหรับเนตรแล้วเซนเป็นคนดีจริงๆ เธอเลยเปิดโอกาสให้เขาได้ลองเขาหาเธอดู แต่มันกลับกลายเป็นว่าเธอไม่ได้คิดกับเขาแบบคนรักเลย

“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณที่ให้โอกาสผมนะครับ”

ธันมองทั้งคู่ด้วยอารมณ์ที่ไ ม่ค่อยดีนัก แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ธันรู้ว่าเนตรยังไม่มีแฟนเพราะไม่อย่างนั้นอาจารย์เซนคงไม่มาขอเป็นแฟนแบบนี้ คนตัวสูงหมุนลูกบาสบนนิ้วสักพัก ก็เปลี่ยนเป็นการเขว้งตรงไปยังเซนด้วยความแรงทำให้ลูกบาสลอยมากระแทกหน้าอาจารย์หนุ่มจนทำให้เขาสลบ

เสียงของนักศึกษาที่ตกใจกับเหตุการณ์ดังขึ้นทั่วยิม ทุกคนหยุดการซ้อมก่อนจะรีบกรูกันเข้าไปช่วยพยุงอาจารย์หนุ่ม ส่วนธันที่เป็นต้นเหตุกลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ เพราะทุกคนไม่ทันได้มองว่าลูกบาสมาจากทางไหน

“โทษทีจารย์ เมื่อกี้แค่หมั่นไส้นิดหน่อย”

เนตรตกใจไม่น้อยเพราะอยู่ๆ เซนก็ล้มพับไปต่อหน้าต่อหน้า เธอฝากนักศึกษาให้ช่วยดูแลเซนก่อนจะขอตัวกลับ เพราะเธอต้องไปรับลูกที่โรงเรียน ร่างบางรีบก้าวเท้าออกไปจากโรงยิมเพราะนี้ก็ใกล้เวลาเลิกเรียนของลูกสาวแล้ว

ธันตัดสินใจเดินตามเนตรออกไปเพราะยังไงวันนี้ก็คงงดซ้อมไปแล้วละ ก็เล่นก็เรื่องซะขนาดนี้ ธันหยุดมองเนตรที่กำลังเปิดประตูเข้าไปในรถ เขาอยู่รอเธอสักพักแต่ก็ไม่เห็นว่ารถคันนั้นจะเคลื่อนไปไหนเลย จนกระทั่งเนตรเดินออกมาจากรถอีกครั้ง ดูท่าทางของเธอแล้วคงกังวลไม่ใช่น้อย ด้วยท่าทีแบบนี้ทำให้ธันรู้ได้เลยว่ารถของเธอต้องเสียแน่ๆ

คนตัวสูงแกล้งเดินผ่านรถของเธออย่างเนียนๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าเนียนจริงรึเปล่า ธันชะโงกหน้าดูสีหน้าของเนตรที่กำลังเป็นกังวลอยู่ เขาอมยิ้มนิดๆ เพราะตอนนี้เนตรดูน่ารักมากๆ เลยละ

“อ้าว! อาจารย์คะเป็นอะไรรึเปล่าคะ?”

“รถเสียค่ะ อาจารย์ว่าจะโทรตามช่างก่อนแต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานรึเปล่า” นี่คงเป็นโชคของธันละมั้งเพราะเธอน่ะเป็นลูกเจ้าของอู่ซ่อมรถที่มีสาขาถึง 30 สาขา และแน่นอนว่าเธอชอบในการซ่อมรถจึงมีวิชาติดตัวมาบ้าง

“ธันขอดูก่อนได้มั้ยคะ?”

“ซ่อมเป็นหรอคะ?”

“พ่อเปิดอู่ซ่อมรถน่ะค่ะ ก็พอจะบอกได้ว่ารถเป็นอะไร”

เนตรพยักหน้ารับอนุญาติให้ธันเข้าไปเช็คภายในรถได้ คนตัวสูงเข้าไปนั่งประจำที่คนขับก่อนจะมองสำรวจภายในรถ ซึ่งมันก็ดูจะเรียบร้อยเป็นระเบียบต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง

ธันพยายามสตาร์ทรถอยู่หลายครั้ง เขาพยายามเช็คนู้นนี่นั้น จนเจอปัญหาจริงๆ ไฟที่แสดงติดๆ ดับๆ นั้นแปลว่ารถแบตหน้าจะหมด ธันเดินออกมาจากรถพร้อมยิ้มกว้างให้เนตรที่กำลังทำสีหน้ากังวลอยู่

“แบตหมดค่ะ คงต้องเรียกช่างให้มาเอาไปชาร์จ”

“นานมั้ยคะ?”

“5-10 ชั่วโมงค่ะ ประมาณนี้” เนตรเผลอแสดงสีหน้ากังวลออกมาเพราะเธอกลัวว่าจะไปรับแก้วตาไม่ธัน

“อาจารย์รีบหรอคะ?”

“ค่ะ ต้องไปรับลูกที่โรงเรียนน่ะ” ธันทำหน้าตกใจกับสิ่งที่เนตรพูด แต่เมื่อกี้อาจารย์เซนยังขอเป็นแฟนอยู่เลยนี่น่า เนตรขมวดคิ้วเล็กมองธันที่กำลังแสดงสีหน้าอึ้งๆ อยู่ แต่เธอก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากเพราะไม่ใช่คนแรกหรอกที่เป็นแบบนี้ตอนรู้ว่าเธอมีลูกแล้ว

“คงไม่ได้คิดว่าอาจารย์ยังสาวอยู่ใช่มั้ยคะ?”

“เอ่อ...ก็อาจารย์ยังสวยอยู่เลย”

“ทำไงดีนะ” เนตรบ่นพึมพัมกับตัวเอง แต่ธันก็ได้ยินอยู่ดี เขาคิดอยู่สักพักว่าจะชวนอาจารย์กลับด้วยมั้ย มันจะดูแปลกๆ ไปรึเปล่านะ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะชวนเธอ

“ให้ธันไปส่งมั้ยคะ?”

“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ ไม่รบกวนนักศึกษาดีกว่า เดี๋ยวอาจารย์กลับกับอาจารย์เซนก็ได้”

“อาจารย์เซนน็อตขนาดนั้นคงขับรถไม่ไหวหรอกค่ะ อาจารย์จะไม่ให้ธันไปส่งจริงๆ หรอคะ?” ธันถามย้ำเพราะสังเกตสีหน้าของเนตรที่ไม่สู้ดีนักเพราะคำพูดของธันที่บอกว่าอาจารย์เซตคงขับรถไม่ไหว “คิดว่าเป็นการตอบแทนที่อาจารย์ให้ชีทกับแซนด์วิชธันก็ได้นะคะ”

และมันก็ได้ผล เนตรพยักหน้าหงึกๆ เพราะเธอก็ไม่อยากไปรอแท็กซี่ที่คอยแต่จะปฏิเสธผู้โดยสารเหมือนกัน ธันรีบต่อสายไปหาเพื่อนสนิทอย่างอันทันทีเพราะเขาใช้บิ๊กไบค์จะให้เนตรมาซ้อนแบบนั้นเธอคงไม่ยอมไปแน่ๆ หลังจากยืมรถเพื่อนได้ธันก็บอกให้เนตรรออยู่แถวนี้ๆ ไปก่อน

ระหว่างทางเนตรไม่ได้พูดอะไรกับธันเลย เธอยังคงนั่งตรงหน้าเชิด...จนธันอดที่จะชื่นชมในความสวยราวกับนางพญาของเนตรไม่ได้ หลังจากเงียบไปนานเนตรก็หันมาบอกกับธันให้จอดที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่

“จอดที่โรงเรียนข้างหน้าให้อาจารย์หน่อยนะคะ” เนตรหันมาบอกกับธัน คนตัวสูงพยักหน้าตอบรับ เมื่อรถจอดเนตรก็เปิดประตูลงจากรถเพื่อที่จะไปรับลูกสาว เธอเดินเข้าไปสวัสดีครูที่ยืนคอยส่งนักเรียนอย่างคุ้นเคย ตอนลอบมองเนตรอยู่ในรถด้วยรอยยิ้ม เขาพึ่งจะได้เห็นยิ้มกว้างแบบนี้ของเนตรครั้งแรกเพราะตอนที่อาจารย์เซนขอเป็นแฟนเนตรก็เพียงส่งยิ้มบางๆ ให้เขาเท่านั้น เนตรอุ้มเด็กน้อยขึ้นมานั่งตักก่อนจะปิดประตูแล้วส่งยิ้มเล็กๆ ให้ธัน

“คุณแม่คะ รถคุณแม่ไปไหน?”

“รถแม่เสียค่ะ สวัสดีพี่เขาก่อนสิคะ”

“ตู้วหู้วววพี่คนนี้เป็นใครคะคุณแม่ หล่อจัง” แก้วตาลูกสาววัย 5 ขวบของเนตรยกมือสวัสดีธัน ดูท่าเธฮจะถูกชะตากับธันเอามากๆ

“พี่ที่มหาวิทยาลัยค่ะ รถแม่เสีย พี่เขาอาสามาส่ง อีกอย่างพี่เขาเป็นผู้หญิงจะหล่อได้ยังไงคะ?”

“หล่อค่ะ” เด็กน้อยยังคงยืนยันคำเดิม

“ผู้หญิงก็หล่อได้นะคะอาจารย์”

ธันหันไปยกยิ้มให้เนตรอย่างกวนๆ แต่กลับได้สีหน้านิ่งๆ เป็นการตอบแทน ดูเหมือนว่าถ้าไม่ใช้ลูก เนตรคงไม่ยิ้มแบบนี้ให้แน่ๆ บทสนทนาภายในรถคนสองแม่ลูกมันน่ารักมากๆ จนธันอยากหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ เขาได้แต่ภาวนาในใจให้บ้านของเนตรอยู่ไกลๆ แต่ดูเหมือนว่าคำขอของเขาจะไม่ได้ผลเพราะเนตรชี้บอกซอยที่เธออยู่ก่อนจะบอกให้จอดหน้าบ้านหลังใหญ่

“จอดตรงนั้นนะคะ เข้าไปดื่มอะไรข้างในก่อนมั้ยคะ?”

ถ้าเลือกได้ธันก็คงไม่ปฏิเสธ แต่ตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานะที่ตอบตกลงไปไม่ได้เพราะอันบอกไว้ว่าพอซ้อมดนตรีเสร็จต้องรีบไปทำธุระต่อ ถึงจะรู้ว่าธุระที่ว่าคือพาสาวไปทานข้าวก็เถอะ แต่ยังไงรถมันก็ไม่ใช่ของเขาอยู่ดี เธอเลยต้องปฏิเสธเนตรไป

“พี่คนหล่อเข้ามาเล่นกับแก้วก่อนสิคะ หนูมีของเล่นเยอะมากๆ เลยค่ะ” เด็กน้อยจับมือธันแน่น คนตัวสูงลูบหัวแก้วตาอย่างอ่อนโยน

“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ พอดีเพื่อนรออยู่น่ะค่ะ” ธันบอกเนตรด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแต่ใจตอนนี้มันห่อเหี่ยวสุดๆ “ไว้ค่อยมาเล่นกันนะคะเด็กดี”

ธันหันไปจับแก้มแก้วตาด้วยความเอ็นดู เด็กน้อยยิ้มหวานให้เขา แก้วตาใช้มือจับหน้าธันก่อนจะจุ๊บไปที่แก้มเนียนของคนพี่ จนธันต้องใช้มือลูบหน้าข้างที่โดยจูบเพราะความเขิน

“แอบไปจุ๊บพี่เขาได้ยังไงคะ”

“ก็พี่ธันหล่อ ใจดี แก้วตาชอบ หนูจะเป็นแบบพี่ธัน”

เนตรขำเล็กๆ ให้ลูกสาวเธอพึ่งจะเคยเห็นมุมนี้ของลูก เพราะถ้าเป็นคนอื่นแล้วแก้วตาแทบจะไม่คุยด้วยเลย ยิ่งเป็นผู้ชายเด็กน้อยจะมีอาการไม่อยากเข้าใกล้ไปเลย เนตรอุ้มแก้วตาลงมาจากรถก่อนจะจับมือไว้ ยิ้มบางถูกส่งให้ธัน ถึงมันจะไม่ใช่ยิ้มที่ธันอยากเห็น แต่ก็ดีแค่ไหนแล้วที่เธอยอมยิ้มให้

“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”

“ยินดีค่ะ” ธันยิ้มตอบก่อนจะปิดกระจกแล้วรีบวนรถกลับ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ธันรู้สึกว่านี่คือการเริ่มต้นที่ดี เธอได้รู้ว่าเนตรมีลูกแต่ไม่มีสามี เพราะงั้นเธอก็จะเดินหน้าจีบอาจารย์สุดเนียบคนนี้ต่อ

ตอนที่ 3

นี่ก็อาทิตย์กว่าๆ แล้วที่ธันได้รู้จักกับเนตร ทุกครั้งที่ธันเข้าเรียนคาบของเนตรธันจะไปก่อนเวลาเสมอ ซึ่งมันก็อยู่มี 2 เหตุผลที่ทำให้คนขี้เกียจตื่นเช้าต้องลากสังขารตัวเองมาก่อนเวลาตลอด นั้นก็คือ 1 กลัว 2 อยากเจอกับเนตรเร็วๆ เพราะตั้งแต่วันที่เขาไปส่งเนตร ธันก็ยังไม่ได้คุยกับเนตรอีกเลย ในที่สุดวันที่ธันรอคอยก็มาถึง บ่ายนี้เขามีเรียนของเนตร และวันนี้ธันก็ตั้งใจจะขอไลน์เธอให้ได้!

“ยิ้มอะไรของมึง” อันขมวดคิ้วก่อนจะถามเพื่อนสนิท ธันยักคิ้วพร้อมส่งใบหน้ากวนๆ ให้อัน

“คาบต่อไปเรียนของอาจารย์เนตร”

“ไหนมึงบอกอาจารย์มีลูกแล้ว กูนึกว่าตัดใจไปละ”

“มีลูกแต่ไม่มีแฟน กูก็มีสิทธิ์ปะ”

“มีความมุ่งมั่น แต่อาจารย์เขาจะโอหรอวะ เคยมีแฟนเป็นผู้ชายถึงขั้นมีลูกด้วยกัน เขาจะชอบผู้หญิงได้จริงๆ หรอวะ” พอคิดๆ ไปแล้วมันก็จริง ขนาดอาจารย์เซนทั้งหล่อ หุ่นดี เป็นถึงอาจารย์ด้วยกัน เนตรยังไม่สนใจเลย นับประสาอะไรกับธัน เด็กปี 3 ที่เจอกันครั้งแรกก็เข้าเรียนสายเลย ธันถอนหายใจเล็กๆ เห้อ...แต่ช่างเถอะ ไม่ลองไม่รู้ก็ไม่รู้

“ก็ต้องลอง ช่วยคิดหน่อยดิจะขอไลน์อาจารย์ยังไง”

“ก็ขอธรรมดา อาจารย์คะขอไลน์หน่อยเผื่อจะถามเรื่องเรียนนู้นนี่ คนเป็นอาจารย์อ่ะมึง ต้องให้อยู่แล้ว” ธันพยักหน้าให้อันเพื่อเป็นการบอกว่าความคิดนี้ใช้ได้

หลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่ก็แยกกันเหมือนเดิม เพราะวันนี้ทั้งคู่มีเรียนวิชาภาษาอังกฤษอีก 2 ชั่วโมง ธันเดินเข้าห้องเรียนก่อนเวลาเรียนเหมือนทุกครั้งเพื่อรอเจอหน้าอาจารย์เนตร คนที่เขาเพ้อคิดถึงบ่อยๆ ในช่วงนี้ ไม่นานนักทั้งห้องก็เต็มไปด้วยนักศึกษา รวมถึงเนตรที่ตอนนี้กำลังจัดการแมคบุ๊คเครื่องเก่ง

เสียงหวานกำลังอธิบายให้นักศึกษาฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ เวลาปกติเธอก็ดูเนียบอยู่แล้ว พอได้มาสวมบทอาจารย์ เนตรก็ไม่ได้ทำหน้าที่ขาดตกบกพร่องเลย เนตรก้มมองนาฬิกาเวลาตอนนี้ก็เกือบจะหมดคาบแล้ว เธอยิ้มให้นักศึกษากว่า 30 คนในห้อง ก่อนจะบอกให้นักศึกษาเอางานมาส่งแล้วเลิกเรียนได้

“นักศึกษาคะ ก่อนออกจากห้องอย่าลืมส่งรายงานที่อาจารย์ให้ทำเมื่อคาบก่อนด้วยนะคะ” เนตรบอกนักศึกษาก่อนจะก้มลงเก็บของใส่กระเป๋า นักศึกษาต่างก็เรียงแถวส่งรายงานที่โต๊ะเนตรและทยอยออกจากห้องเรียนไป จนตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่เนตรกับธัน ฉิบหายอีกแล้ว ลืมรายงานอาจารย์ได้ไงวะ

ธันนั่งนิ่งอยู่กับที่เขากำลังคิดหาวิธีเอาตัวรอดจากเนตรเพราะเนตรน่ะเวลาดุ เธอจะน่ากลัวมากๆ ไม่ใช่คำพูดแต่เป็นองค์ประกอบหลายๆ อย่างของเธอทำให้นักศึกษาหลายคนไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยด้วย เนตรเช็ครายงานที่นักศึกษาส่งมาเธอนับจำนวนรายงานอยู่หลายครั้ง ก่อนจะพบว่ารายงานขาดไปหนึ่งเล่ม เนตรขมวดคิ้วพร้อมกับหันไปมองเด็กเจ้าปัญหาอย่างธันที่กำลังส่งยิ้มแห้งๆ มาให้เธอ อีกแล้วนะเด็กคนนี้ นี่จะไม่ใส่ใจอะไรเลยใช่มั้ย

“นักศึกษาคะ รายงานอาจารย์ล่ะคะ” เนตรถามธันแบบนั้น แต่เธอก็พอจะรู้อยู่แล้วแหละว่าธันไม่น่าจะมีรายงานมาส่งเธอ

“ล...ลืมค่ะอาจารย์”

“ลืมแปลว่าไม่ใส่ใจนะคะนักศึกษา” เนตรรู้สึกว่าจะต้องอบรมไอ้เด็กเจ้าปัญหานี่อีกรอบแล้วล่ะ เธอก็ไม่ได้อยากหักคะแนนนักศึกษาหรอกเพราะลำพังคะแนนช่วยก็มีแค่งานเล็กๆ แบบนี้แหละ ถึงมันไม่ได้มากมายอะไรแต่มันก็ส่งผลต่อเกรดเหมือนกันแค่คะแนนเดียวก็เปลี่ยนเกรดได้แล้ว อีกอย่างเด็กทุกคนก็อยากได้เกรดดีๆ กันทั้งนั้น แต่ก็น่าแปลกใจที่บ้างคนไม่ชอบส่งงานเลย

“คือ...ธันขอส่งคาบหน้าได้มั้ยคะ”

“อาจารย์จะรู้ได้ยังไงคะว่านักศึกษาทำแล้วจริงๆ ไม่ใช่จะกลับไปทำแล้วมาส่งอาจารย์อีกคาบ แบบนั้นเพื่อนๆ ก็เสียเปรียบสิคะ” ธันก้มหน้าหลบสายตาคมเฉียบของเนตร

“อาจารย์มีสอนต่อมั้ยคะ”

“ไม่มีแล้วค่ะ”

“งั้นธันจะรีบกลับไปเอารายงานที่ห้อง แล้วไปส่งที่บ้านอาจารย์ดีมั้ยคะ แบบนี้ธันคงไม่มีเวลาไปทำรายงานใหม่” จริงๆ มันไม่ใช่แผนของธันด้วยซ้ำ ก็เขาลืมมันจริงๆ แต่ในเมื่อตอนนี้มันเป็นโอกาสก็ต้องคว้ามันไว้สิ เนตรยืนคิดอยู่ชั่วครู่ ก็พยักหน้ารับ เธอไม่อยากให้นักศึกษาโดนหักคะแนน คะแนนมันก็เยอะอยู่ อีกอย่างถ้าให้ธันส่งคาบต่อไป ก็ดูจะเอาเปรียบเด็กคนอื่นอีก แบบนี้ก็โอเคแล้วแหละ เพราะยังไงธันก็รู้จักบ้านเธอแล้ว

“ขอบคุณมากนะคะอาจารย์ เดี๋ยวธันจะรีบกลับไปเอารายงานเลย” ธันยิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนจะรีบลุกขึ้นเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเป้

“ไม่ต้องขับรถเร็วนะคะ มันอันตราย อาจารย์ขอตัวก่อนนะคะ”

เนตรพูดจบก็รีบเดินออกจากห้องไป ธันมองเนตรเดินลับไปก่อน คนตัวสูงหยิบเป้ขึ้นมาสะพายก่อนจะรีบเดินไปที่ลานจอดรถ ธันก้าวขาขึ้นบิ๊กไบค์คันโปรด หมวกกันน็อคถูกหยิบขึ้นมาสวม ตอนนี้เขาต้องรับแล้วละเพราะดูท่าฟ้าจะครึ่มๆ

ธันใช้เวลาประมาณ 15 นาที ในการกลับไปเอารายงานที่คอนโด คนตัวสูงหันขึ้นไปมองท้องฟ้าที่ดูท่าจะไม่เป็นใจในการขับรถเท่าไหร่ ก็รีบขึ้นรถขับตรงไปบ้านเนตรทันที ฟ้าเริ่มมืดตั้งแต่ที่เขาขี่รถออกจากมหาลัย แต่ก็ยังไม่ตก คนตัวสูงตัดสินใจแวะซื้อขนมเข้าไปฝากแก้วตาเพราะดูเด็กน้อยจะชอบเขาอยู่เหมือนกันไปหาทั้งทีต้องทำคะแนนสักหน่อย

พอคิดว่ามันจะไม่ต้องฝนชุดใหญ่ก็พร้อมใจกันเทลงมา จนธันต้องรีบขับหนีฝน ยังโชคดีที่เขาก็กังวลเรื่องฝนเหมือนกันเลยเลือกกระเป๋าเป้กันน้ำมาใช้และใส่ชุดที่มิดชิดพอสมควร คนตัวสูงขี่รถเข้าไปจอดชิดๆ ถนนหน้าบ้านเนตรก่อนจะลงไปกดกริ่ง แล้วยืนรอคนข้างในให้ออกมาเปิดประตูให้ เปียกจนได้

เมื่อได้ยินเสียงคนกดกริ่งหน้าบ้านเนตรก็รีบออกมาชะโงกดู ก็พบกับเด็กเจ้าปัญหายืนตากฝนอยู่หน้าบ้าน เนตรรีบไปหาร่มก่อนจะบอกให้แก้วตารออยู่หน้าทีวี ร่างบางรีบวิ่งฝ่าสายฝนออกไปรับธัน เธอก็ไม่คิดว่าฝนจะตกขนาดนี้แล้วเจ้าเด็กคนนี้ก็ยังจะมาอีก

“เข้ามาก่อน ฝนตกขนาดนี้กลับไม่ได้หรอก” เนตรแบ่งร่มให้คนตัวสูงเข้าแต่เธอต้องยกแขนสูงขึ้นเพราะเขาตัวสูงมาก ธันเลยอาสาถือร่มให้ ทั้งคู่เบียดกันอยู่ในร่มคันเล็ก เนตรรีบเปิดประตูก่อนจะดึงแขนธันให้เข้ามาในบ้าน ทันทีที่เด็กน้อยเห็นคุณแม่เธอก็รีบวิ่งมาหาเนตรทันที

“คุณแม่คะฝนตกแรงมากเลย” เด็กน้อยวิ่งมาบอกผู้เป็นแม่ด้วยความตื่นเต้น

“พี่ธัน หนูคิดถึงพี่ธันที่สุดเลย” เด็กน้อยผละออกจากคนเป็นแม่ ก่อนจะวิ่งไปหาธัน คนตัวสูงดันตัวแก้วตาไว้ก่อนเพราะเขาตัวเปียกมาก เดี๋ยวเด็กน้อยจะไม่สบายเอา เด็กน้อยทำหน้าเศร้าๆ

“ตัวพี่เปียก กอดไม่ได้นะคะเดี๋ยวหนูไม่สบาย” ธันเปิดกระเป๋าเป้ก่อนจะหยิบขนมที่เขาตั้งใจซื้อออกมาให้เด็กน้อย “ขนมค่ะ พี่ซื้อมาฝาก”

เด็กน้อยยิ้มดีใจก่อนจะไหว้แล้วรับขนมจากธัน แก้วตารีบวิ่งไปนั่งประหน้าทีวีเพราะการ์ตูนที่รอกำลังจะฉาย เนตรส่ายหัวนิดๆ ให้ลูกสาว

“ไม่เห็นต้องลำบากเลยค่ะ”

“พอดีผ่านน่ะค่ะ เขาบอกว่าร้านนี้อร่อยเลยซื้อมาฝาก”

“เปลี่ยนชุดก่อนนะคะ อยู่แบบนี้ไม่สบายแน่ ใกล้งานกีฬาแล้วด้วย เดี๋ยวอาจารย์ไปหยิบชุดมาให้นะ” พูดจบเนตรก็เดินหายขึ้นชั้นบนไป ธันยืนตัวสั่นอยู่หน้าประตู แต่ยังไงเขาก็อยากให้ฝนตกถึงพรุ่งนี้เช้าเลยแหละ เผื่อเนตรจะให้ค้างด้วยอ่ะนะ

เนตรเดินลงมาพร้อมชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ก่อนจะยื่นให้คนที่ตัวเปียกโชกเหมือนลูกหมาตกน้ำ ไปเปลี่ยน แต่ก็ยังโชคดีที่ธันใส่ชุดหนังสำหรับการขี่บิ๊กไบค์ทับมา ตัวข้างในเลยไม่ได้เปียกมาก ไม่งั้นพรุ่งนี้ไม่สบายแน่ๆ อีกอย่างเขาต้องไปซ้อมบาสด้วย

ธันเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยท่าทีเขินๆ ก็นี่มันเป็นบ้านของเนตร คนที่เขาแอบชอบแถมยังเป็นอาจารย์ของเขาอีกด้วย ถึงอยากจะอยู่ด้วยแต่ก็ไม่ชินอยู่ดีนั้นแหละ เนตรมองเด็กตัวสูงที่ยืนยิ้มให้เธออยู่ ร่างบางเดินตรงไปหาเขาก่อนจะยื่นมือขอชุดที่เปียกของเขาเพื่อจะเอาไปปั่นแห้งให้ ตอนแรกธันก็ลังเลเพราะเขาก็เกรงใจเนตรมากเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับสายตาดุๆ ของเธอ “นั่งดูทีวีไปก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวอาจารย์ขอตัวไปทำอาหารก่อน”

ธันเดินเข้าไปหาแก้วตาที่กำลังนั่งดูการ์ตูนอยู่ คนตัวสูงนั่งลงข้างๆ แก้วตา เด็กน้อยหันมายิ้มให้คนมาใหม่ก่อนจะปีนขึ้นมานั่งตักเขา ธันยิ้มอบอุ่นให้เด็กหญิงตัวน้อย ตอนนี้มีความถามมากมายที่อยากจะถามออกไป เขาคิดิยู่สักครู่ใหญ่เพราะไม่รู้ว่ามันจะกระทบอะไรกับเด็กน้อยรึเปล่า “แก้วตาคะ พี่ธันถามอะไรหน่อยได้มั้ย”

“ถามอะไรหรอคะ พี่ธันถามเยอะๆ ก็ได้ แก้วตาชอบให้พี่ธันถาม”

“คือ...คุณแม่ของแก้วตามีแฟนมั้ยคะ แบบว่า...”

“อ่อ...คุณพ่อหรอคะ คุณพ่อไปมีคุณแม่ใหม่แล้วค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ แก้วตาอยู่กับคุณแม่ดีกว่า” เด็กน้อยช่างพูดยิ้มสดใสให้ธัน เธอดูไม่มีท่าทีว่าจะเสียใจอะไรเลยนั้นคงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่าเนตรเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวแล้วเด็กจะขาดความอบอุ่นรึเปล่า

ชีวิตคู่ที่ล้มเหลวไม่ได้แปลว่ามันจะล้มเหลวไปหมด ความรักและความเข้าใจคงเป็นอะไรที่เราควรใช้ให้มากๆ ในตอนนี้ตัวธันเองก็ไม่คิดหรอกว่าจะจีบเนตรยังไง จะติดรึเปล่า เธอจะปฏิเสธรึเปล่า เขารู้แค่ว่าตอนนี้อยากจะดูแลคนคนนี้กับตัวตาให้ดีที่สุด แค่นั้นเอง...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!