NovelToon NovelToon

หลี่​หลิน​เฟย​

ตอนที่​1

เสียงอาละวาด​ที่ดังขึ้นในห้องเก็บของ ​เสียงขว้างปา​ข้าวของตามด้วยเสียง​ร้องไห้​สร้าง​ความสำราญใจให้แก่สองแม่ลูกที่อยู่​ด้านนอกนัก รูปโฉม​งดงามแล้วอย่างไรสุดท้ายก็เป็นได้แค่อนุของเจ้าเมืองแก่ ๆ

ตัวข้า หลี่หลินเฟย รู้​สึกตัวตื่นขึ้น​มาก็พบว่าตัวเองถูก​ขังอยู่ในห้องเก็บของ​ คงเป็น​ฝีมือใครไปไม่ได้​นอกจากสองแม่​ลูก​มหาภัย​นั่น 

นึกย้อน​กลับไป

ข้า ผู้ซึ่งไร้มารดาคุ้มหัวตอนอายุสิบสามหนาว บิดาก็แต่งภรรยาใหม่ นาม หวงจิวฮุ่ย หญิง​ม่ายที่มีบุตรสาวอายุ​น้อยกว่าข้าเพียงหนึ่ง​เดือนติดสอยห้อยตาม​มาด้วย นาม หวงจิวซิน ในปีเดียวกันกับที่สิ้นมารดา ในสองปีมานี้ข้าต้องสู้​รบตบมือกับสองแม่ลู​กคู่นี้มาตลอดเพื่อ​ความอยู่รอด​ของตัวเองจนข้าที่เป็นบุตรตอนนี้แม้แต่บ่าวรับใช้ยังมีความเป็นอยู่ดีกว่าเสียด้วยซ้ำ

พอพ้นวันปักปิ่นมาเพียงเดือนเดียวบิดากลับตายจากไปอีกคน ทิ้งข้าไว้เผชิญชะตากรรมต่อสู้กับมารดาเลี้ยงผู้โฉดชั่วผู้​นี้ ที่พอสิ้นบิดาได้แค่สามเดือนก็ยกข้าให้แต่งเป็นอนุของขุนนาง​แก่คราวพ่อที่เป็นเจ้าเมืองอีกต่างหาก​ตัวข้าหรือจะยินยอม​

"ในเมื่อท่านเป็นผู้ตอบรับก็ส่งบุตร​สาวท่านไปเถอะ​อย่ามายุ่งกับข้า"

"หนอย ข้ารึอุตส่าห์​หวังดีอยากให้อยู่​อย่างสุขสบาย​ ยังจะมายอกย้อน​ นังตัวดียังไงเจ้าก็ต้องแต่งให้ท่านท้าวซู ข้ารับของหมั้นเขามาแล้ว"

ท่านเจ้าเมือง ซูอี้จง ขุน​นางเฒ่า มากเล่ห์บ้าตัณหา​ที่เป็นเจ้าเมือง​ เมืองหนานหยาง แห่งแคว้นอู๋​ในรัชสมัย​ ฮ่องเต้​ อู๋หย่งไท่ เมืองหนานหยางแห่งนี้ตั้งอยู่​สุดเขตแดน​ของแคว้นอู๋​ ติดกับแคว้นจ้าว ซึ่ง​เป็นบ้านพี่เมืองน้องพึ่ง​พาอาศัย​กันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ​ซึ่ง​สงบสุข​เป็น​อย่างดีตลอดมา ถึง​แม้ว่าเจ้าเมืองจะเจ้าเล่ห์​ หน้าเลือด แต่เป็นพระญาติ​ของสนมของฮ่องเต้พระองค์​หนึ่งจึงได้ใช้เส้นสายมาเป็นเจ้าเมืองที่นี่ เมืองนี้เป็นเมืองแห่งการค้าเป็น​จุด​เชื่อมต่อ​ระหว่างแคว้นจึงทำให้มีแต่พวกพ่อค้า​เดินทางเข้าออก​ทำให้ชาวเมืองมีรายได้​ตลอด

"ท่านเป็นผู้รับ ท่านก็แต่งเองสิ ข้าในตอนนี้​ก็อยู่สุขสบาย​ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาคิดเผื่อข้า"

" ข้าขอเตือนไว้ก่อนว่าท่านกับข้าตอนนี้​หาได้เป็น​อันใดกัน หากยังเจ้ากี้เจ้าการ​เรื่องของข้าอีกอย่าหาว่าข้าใจร้าย"

" เจ้า เจ้าคิดจะขู่ข้าหรือนังเด็กสารเลว เจ้าอย่าลืมนะว่าตอนนี้ข้าเป็น​เจ้าของจวนนี้ ข้าจะเฉดหัว​เจ้าออกไปตอนนี้​เลยก็ได้"

" ไม่ต้อง​ถึงกับเฉดหัว​ข้าหรอก เพราะข้าไม่คิดจะอยู่ในจวนที่เหลือ​แต่เปลือกนี่อยู่​แล้ว"

เดิมทีจวนนี้นั้นเป็นจวนตระกูล​หลี่ของนายท่าน หลี่ฟงหมิ่น เจ้าของร้านยาสมุนไพร​ขนาดใหญ่​ที่ตอนนี้​ได้เปลี่ยนมือ​ไปแล้ว เหลือ​แต่จวนตระกูล​หลี่ที่ตอนนี้​กำลังทยอยขายข้าวของมีค่าออกไปให้สองแม่​ลูก​จับจ่ายมือเติบ จนตอนนี้​คิดจะขายข้าอีก ชั่วช้าเสียจริง แต่อย่าได้หวังเพราะข้าก็กำลังคิดจะออกไปจากที่นี่คงต้องไปพึ่ง​ใบบุญ​ของท่านลุงที่เป็นพี่ชาย​คนเดียว​ของมารดาและเป็นญาติ​เพียงคนเดียวที่เหลืออยู่​แต่ท่านลุงอยู่ไกลถึงเมืองหลวง​เคยมาเยี่ยม​เยียนข้ากับท่านแม่เมื่อหลายปีก่อนแค่ครั้ง​เดียว​เท่านั้น ข้าคงต้องคิดหาทางอีกที

ข้าที่จำได้ว่าก่อนจะเข้านอนได้ดื่มน้ำชาที่วางไว้ในห้อง แล้วจึงล้มตัวลงนอนพอลืมตาขึ้นมากลับพบว่าตัวเองมานอนอยู่ในห้องเก็บของ​เสียได้ พยายาม​หาทางออกอยู่นานก็พบว่ามันถูก​ปิดจากภายนอก​ทั้งหมด อย่าให้ข้าออกไปได้ข้าจะเอาคืนให้สาสม

"คุณ​หนู​ คุณ​หนู​เจ้าคะ" 

ข้าที่ตอนนี้​หมดอาลัยตายอยาก​เงยหน้าที่ดวงตาแดงก่ำ หันมองหาเสียงเรียกแสนคุ้นเคย​ที่ไม่ได้ยินเสียนาน 

"บนนี้เจ้าค่ะ​ บ่าวอยู่​ข้างบนนี้" 

รีบเงยหน้า​ขึ้นไป​บนหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้อง​เก่าๆ เห็น​อดีต​สาวใช้​คนสนิทที่ถูก​ขายออกไปเป็นคนแรกๆหลังสิ้นบิดาด้วยข้อหาขโมย เพราะหวงจิวฮุ่ย ร่วมมือกับมือปราบคนนึง​ของทางการจนนางไม่สามารถ​ช่วยเหลือ​ได้ แต่ทำไมนางถึงมา​อยู่​นี่ได้

"ซิ่วอิง  เป็น​เจ้า มาอยู่นี่ได้อย่างไรกัน" 

"คุณ​หนู​อย่าพึ่ง​ถามเลยเจ้าค่ะ รีบออกมาก่อนตอนนี้​ฮูหยินกับคุณ​หนู​จิวซินกำลังเดินทางไปจวนท่านท้าวซูเพื่อให้มารับตัวคุณ​หนู​แล้วเจ้าค่ะ" 

หลินเฟยเลยนำตั่งเก่ามาใช้ปีนขึ้นไป​บนหลังตู้ที่สูงเอาการแล้วค่อยๆไต่ขึ้น​ไปบนช่องหลังคาที่ซิ่วอิงยกแผ่นกระเบื้องออกให้นางลอดออกไป พอลงมาถึงพื้นด้านล่าง​เล่นเอานางขาแข้งสั่น

" รีบไปกันเถอะ​เจ้าค่ะ"

" เดี๋ยว​ รอข้าสักครู่​"

หลินเฟยรีบวิ่งกลับไปนำกล่องเครื่องประดับ​และตั๋วเงินของมารดาที่นางเก็บซ่อนเอาไว้ แล้วส่งให้ซิ่วอิงถือไว้ ส่วนนางก็จุด​ไฟเผาเรือนเก็บของ​และครัวที่ติดกัน

"คุณ​หนู​ ทำอะไรเจ้าคะ" 

"หึ เอาคืนเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น ไปกันเถอะ​"

กว่าจะมีคนมาพบคงเสียหายไม่น้อยแน่ สองนายบ่าวเดินออกไปทางประตู​หลังอย่างสบายใจ เพราะไม่ต้องกลัวใครเห็น​เพราะจวนนี่บ่าวไพร่​ถูก​ขายออกไปหมดแล้ว

ตอนที่​2

ซิ่วอิงพาข้ามาที่โรงเตี๊ยม​ขนาดกลางแห่งหนึ่ง ซึ่ง​ตั้งอยู่​ใจกลางตลาดในเมืองหนานหยาง ซิ่วอิงเล่าว่า เถ้าแก่​เนี่ย​ ของโรงเตี๊ยม​แห่ง​นี้ นามว่า ​ซือจี๋ ได้ซื้อซิ่วอิงมาจากโรงค้าทาส แต่ซิ่วอิงอ้อนวอน​ว่าต้องการกลับไปช่วยคุณหนู​ที่จวนตระกูล​หลี่ แล้วจะรีบกลับมาทำตามความต้องการ​ของเถ้าแก่​เนี่ย​ แต่เถ้าแก่​เนี่ย​บอกว่า ที่ตัดสินใจ​ซื้อ​ตัวซิ่วอิง​มาเพราะจำได้​ว่าซิ่วอิงเป็น​คนของอดีตฮูหยิน​หลี่ผู้​มีพระคุณ​ของนาง ที่ได้ช่วยเหลือ​นางไว้จากโจรที่มาดักปล้นตอนนางพึ่งมาตั้งรกรากอยู่ที่นี่ เลยถามไถ่​ซิ่วอิงว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ซิ่วอิงจึงได้เล่าทุกอย่าง​ให้เถ้าแก่​เนี่ย​ฟัง จึงได้รับการช่วยเหลือสืบข่าวคราวของข้า จนรู้ว่าข้าถูก​บังคับ​ให้แต่งเป็น​อนุของท่านท้าวซู จึงได้ส่งคนมารอบดูสถานการณ์​ภายใน​จวน และตามมาช่วยข้าออกมา

ซิ่วอิงพาข้า​เดินมาถึงชั้นสามของ​โรง​เตี๊ยม​ภายในห้องๆหนึ่ง ซึ่ง​มีสตรี​วัย​ประมาณ​สามสิบห้าปีรออยู่ก่อนแล้ว

"เถ้าแก่​เนี่ย​ ข้าพาคุณหนู​หลี่หลินเฟยมาแล้ว เจ้าค่ะ" 

"คำนับคุณหนู​หลี่เจ้าค่ะ" 

"เถ้าแก่​เนี่ย​ อย่าได้คำนับข้าเลย ข้าต่างหากเล่าที่ต้องคำนับท่านที่อุตส่าห์​ช่วยเหลือ​ข้า" 

"ท่านอย่าได้กล่าวเช่นนั้น​เลยเจ้าค่ะ  ท่านคือบุตรี​ของผู้มีพระคุณ​ ก็เท่ากับว่าท่านคือผู้​มีพระคุณ​ของข้าด้วย"

" เถ้าแก่​เนี่ย​คิดมากไปแล้ว​ ข้าต่างหากที่ทำให้ท่านต้องลำบาก"

" คุณ​หนู​อย่าได้คิดมากเจ้าค่ะ ข้าเต็มใจ​อย่างยิ่ง​"

" เรียกข้าว่าหลินเฟยเถอะ​เจ้าค่ะ เรียกคุณ​หนู​ฟังดูไม่เข้ากับคนไร้บ้านอย่างเสียเลย"

" งั้นท่านก็เรียกข้าว่าป้าซือจี๋ก็​ได้นะเจ้าคะ"

ซือจี๋​มองหลี่หลินเฟยอย่างต้องชะตา​นัก นางมีใบหน้างดงามเหมือนมารดาไม่มีผิด อาจจะ​งามกว่าอยู่หลายส่วนเชียว ผิวขาวดุจน้ำนม ปากกระจับแดงช่ำน้ำ​ จมูก​โด่งได้รูปแต่ดูจะดื้อรั้น​ไม่น้อย ดวงตาหงส์​หวานซึ้ง​นัก คงต้องหาทางปกปิดเอาไว้ ไม่อย่างนั้น​คงได้มีปัญหา​ตามมาอย่างแน่นอน​ คนของท่านเจ้าเมืองคงต้องออกตามหาเป็น​แน่

" เจ้าค่ะ ท่านป้า ซือจี๋"

ซือจี๋จึงส่งยิ้มเต็มหน้ามาให้หลินเฟย

"แล้วเราจะทำอย่างไรกันต่อไปเจ้าคะ ท่านท้าวซูต้องส่งคนค้นหา​คุณ​หนู​แน่" 

ซิ่วอิงกล่าวขึ้นอย่างกังวล

ซือจี๋​ก็มองมาที่หลินเฟย เผื่อนางจะคิดเอาไว้บ้างว่าจะทำอย่างไรต่อไป

"ข้าคิดไว้ว่าจะเดินทาง​ไปหาท่านลุงที่เมืองหลวง" 

"ป้าว่าท่านท้าวซูก็คงจะคิดไว้ว่าเจ้าจะต้องเดินทางออกจากหนานหยางเป็น​แน่ คงสั่งให้มีการตรวจการผ่านด่านอย่างเข้มงวด" 

ทุกคน​หารือกันอย่างเคร่งเครียด​นักแค่ลำพังต้องหลบอยู่ที่โรง​เตี๊ยม​นี่ก็เสี่ยงต่อการค้นพบมากแล้ว

" เอาอย่าง​นี้ดีหรือไม่​"

หลินเฟยหันมามองท่านป้าซือจี๋​อย่างมีความหวัง​

" อีกสิบวันจะมีขบวนของท่านแม่ทัพ​ที่เป็นหัวหน้า​ของสามีป้าที่เสียไปเดินทาง​กลับจากแคว้นจ้าว ป้าจะฝากฝังเจ้าร่วมขบวนด้วย" 

ท่านป้าซือจี๋​เล่าว่าเดิมทีตนเป็นคนแคว้นจ้าวแต่มีสามีเป็นทหารแคว้นอู๋​ เป็นนายทหารคนสนิท​ของท่านแม่ทัพจึงทำให้นางมีโอกาส​ได้รับใช้ใกล้ชิด​บ้าง เมื่อสามีนางเสียจากการปราบปราม​โจรภูเขา​เมื่อหลายปีก่อนจึงได้มาตั้งรกรากที่เมืองหนา​นหยาง​โดยการเปิดโรงเตี๊ยม​แห่งนี้ และทุกครั้งที่​แม่ทัพเดินทางผ่านเมืองหนานหยางก็จะแวะพักที่นี่ เมื่อหนึ่งเดือนก่อนก็เดินทางไปแคว้นจ้าวและมีกำหนดกลับอีกสิบวันข้างหน้า คงจะขอให้นางร่ามเดินทางด้วยได้

"แต่ขบวนทหารก็ต้องมีแต่บุรุษ​นะเจ้าคะ" 

ซิ่วอิงกล่าวอย่างกังวล คงไม่ดีนักหากมีสตรีร่วมทาง

"ที่เจ้ากล่าวก็ถูกต้อง​ ข้าลืมคิดถึง​เรื่องนี้ไป" 

"งั้นเราก็แต่งเป็น​บุรุษ​เสียสิแค่นี้​ก็ร่วมขบวนได้" 

หลินเฟยกล่าวพร้อมดวงตาเป็นประกาย

"เอาอย่างนั้นหรือเจ้าคะคุณหนู​ มันเสี่ยง​เกินไปหรือไม่​"

" ไว้ป้าจะขอร้องให้ท่านแม่ทัพดูแลให้อีกที" 

"ขอบคุณ​ท่านป้ามากเจ้าค่ะ ซิ่วอิงเจ้าก็อย่าได้คิดมาก ไปกับพวกทหารดีกว่าเราเดินทางกันเองเพราะหนทางจากหนานหยางถึงเมืองหลวงนั้นห่าง​ไกล​นัก ไม่รู้​จะพบเจออะไรบ้างอยู่ใกล้ทหารย่อมดีกว่านัก อีกอย่างเจ้าเมืองเฒ่านั่นคงไม่คิดหาญกล้า​ค้นขบวนทัพกระมัง"

" ถ้าตกลงว่าเป็นไปตามนี้ ซิ่วอิงเจ้าก็พาคุณ​หนู​ของเจ้าไปพักเถอะ​ ป้าเตรียม​ห้องไว้ให้แล้ว เฟยเอ๋อคงเหนื่อย​มากแล้วกระมัง เดี๋ยว​ป้าให้เด็กยกสำรับไปให้"

ท่านป้าซือจี๋​กล่าวขึ้นอย่างอาทร หลินเฟยรู้สึกทราบซึ้ง​นัก

" ข้าขอบคุณ​ท่านป้ายิ่งนัก ถ้าไม่ได้ท่านกับซิ่วอิงข้าก็ไม่รู้​ว่าตัวเองจะเป็นเช่นไร"

" เฟยเอ๋ออย่าได้คิดมาก ป้ายินดีที่มีโอกาสแทนคุณ​มารดาเจ้า และป้าก็นึกเอ็นดู​เจ้านัก"

" ขอบคุณ​อีกครั้งเจ้าค่ะท่านป้า" 

"ขอบใจ​เจ้าด้วยนะซิ่วอิง ที่ไม่ทอดทิ้งข้า" 

หันมาจับมือกับซิ่วอิงที่ตาแดงก่ำ สงสารคุณหนู​ของนางนักที่พบเจอแต่เรื่องมาตลอดตั้งแต่ไร้ฮูหยิน​ ตัวนางเติบโต​มาพร้อมกับคุณ​หนู​จึงผูกพัน​รักใคร่​เพราะชีวิตนางก็มีแค่คุณ​หนู​เท่านั้น

ตอนที่​3

กรี๊ดดดดดด

"นังชั่วหลินเฟย ใคร ใครบังอาจมาช่วยมันออกไป" 

จิวฮุ่ยที่กลับมาถึงแทบจะเป็นลม จวนที่นางกำลังเจรจา​ขายถูกไฟไหม้ไปกว่าครึ่ง​ เงินที่นางจะได้อย่างงามหายวับ ต้องมีใครมาช่วยนังตัวดีนั่นแน่เพราะนางมั่นใจว่าอุดทุกรูทุก​ช่องอย่างแน่นหนาหนูสักตัวก็ยากจะผ่าน นังตัวแสบยังเผาจวนนางอีก ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ หลี่หลินเฟย

"ท่านแม่เราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ นังหลินเฟยมันหนีไปแล้ว ท่านท้าวซูก็กำลังมาที่นี่ ท่านแม่" 

จิวซินเอ่ยอย่างร้อนใจ นางกับมารดาเมื่อสักครู่​ยังหัวเราะกับความสุขที่ได้เลือกซื้อผ้างามๆและเครื่องประดับ จากการไปรับเงินสินสอดอีกครึ่งที่เหลือจากจวนเจ้าเมืองอยู่เลย หากนังหลินเฟยหนีไปแล้ว แล้วใครจะไปเป็นอนุเจ้าเมืองแก่นั่นถ้าไม่ใช่​นาง ไม่ ข้าไม่ยอมเด็ดขาด

​​​​​​" ท่านแม่ เราหนีกันเถอะ​ท่านแม่ข้าไม่ยอมไปเป็นอนุท่านท้าวซูแน่ ท่านแม่ อือ อือ" 

จิวซินร้องไห้​ออกมาอย่างหวาดกลัวนัก ใครๆก็รู้กันทั่วทั้งเมือง ว่าท่านท้าวซู ผู้​เป็นเจ้าเมืองหนานหยาง มากราคะเพียงไร ในจวนล้วนเต็มไปด้วยหญิงงามมากมาย และจิตวิปริต​ยิ่งนักชมชอบความรุนแรง​จนหญิงเหล่านั้นต้องนอนติดเตียง​ไปหลายวันเลยทีเดียว บ่าวไพร่​ในเรือนนั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหล่าหญิงงามที่ต้องปรนนิบัติ​ท่านท้าวซูร้องไห้​เจ็บปวดทรมานอย่างน่าเวทนานัก บางคนถึงกับทนไม่ไหวตายไปเลยก็มี

"ท่านแม่ ท่านต้องช่วยข้านะเจ้าคะ ท่านแม่" 

จิวฮุ่ยที่เห็นบุตรสาว​ร้องไห้​คร่ำครวญ​ก็เจ็บปวดใจนัก พลันโกรธ​แค้นหลินเฟยจนแทบกระอักเลือด เพราะนังตัวดีนั่นบุตรนางถึงได้ประสบคราวเคราะห์​

"เจ้าอย่าพึ่งร้องไห้​ซินเอ๋อ ไป รีบไปเก็บของมีค่าแล้วเรารีบหนีกัน" 

สองแม่​ลูก​รีบร้อนเก็บข้าวของ​ทุกอย่าง​ด้วยความโลภจึงมีข้าวของ​เต็มไปหมดเพราะไม่อาจตัดใจทิ้งไว้ได้ เสื้อผ้าแพรพรรณ​ล้วนเป็นของดีมีราคาทั้งสิ้น จึงช่วยกันขนอย่างทุลักทุเล​ออกมา ยังไม่ทันได้พ้นประตู​จวนก็ถูก​ชายฉกรรจ์​หลายคนจับตัวไว้

​​​​​​" เจ้าคิดว่าจะหนีข้าพ้นหรือหวงจิวฮุ่ย" 

เสียงกัมปนาท​ของท่านเจ้าเมือง ซูอี้จง ถึงกับทำให้สองแม่​ลูก​ตัวสั่นงันงก​ คุกเข่ากอดคอกันร้องไห้

หน้าตาถมึงทึง​จ้องมาที่สองแม่ลูกอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ เขาหรืออุตส่าห์​ทุ่มเทเงินทองมากมายเพื่อจะได้ครอบครอง​เฟยเอ๋อ โฉมสะคราญ​ที่งดงามเป็นหนึ่ง​ในหนานหยางแต่ถูก​สองแม่​ลูก​กีดกันให้อยู่แต่ในจวนจนไม่มีใครเคยพบเห็น​ ตนนั้นหมายปองมาเนิ่นนานนัก จนวันนี้โอกาสก็มาถึงแต่สองคนนี่กลับปล่อยให้เฟยเอ๋อของเขาหนีไป 

"เจ้ารับเงินทองข้ามามากมายแล้วปล่อยให้เจ้าสาวข้าหนีไป เจ้ายังคิดจะหอบสินสอดข้าหนีอีก เจ้าช่างหาญกล้า​นัก เด็กๆจับมันไปโยนในเหวลึกอย่าให้รอดมาได้"

"ขอรับ" 

​​​​​​" ท่านท้าว ท่านท้าวเจ้าคะเมตตาจิวฮุ่ยด้วยเจ้าค่ะ" 

"ท่านท้าวปล่อยข้ากับท่านแม่ไปเถอะนะเจ้าคะ" 

อือ อือ​

เสียงร้องไห้​ของดรุณี​น้อยตรงหน้าที่ตอนแรกเอาแต่ก้มหน้าก้มตา​เรียกความสนใจ​จากเจ้าเมืองเฒ่าทันที หน้าตาเจ้าเล่ห์​จึงกล่าวว่า

​​​​​​" ในเมื่อเจ้ารับสินสอดข้าไปแล้ว ถ้ายังอยากมีชีวิต​อยู่​ก็ส่งบุตรสาว​เจ้ามาแทนก็แล้วกัน เด็กๆพาอนุข้ากับท่านแม่ยายกลับจวน ส่วนพวกเจ้าพาคนไปค้นหาเฟยเอ๋อของข้าให้พบ"

ฮ่าาาฮ่าา

หัวเราะ​ด้วยน้ำเสียงที่จิวซินฟังแล้วรู้สึก​สะอิดสะเอียน​นัก

"ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย ท่านแม่อือ อือ" 

"ซินเอ๋อ ลูก​แม่ แม่ขอโทษ​ลูก แม่ขอโทษ​ แม่ผิดต่อเจ้านัก"

นังสารเลว​หลินเฟยเป็นเพราะเจ้า เป็น​เพราะเจ้าคนเดียว ชีวิต​ข้าถึงได้พบกับความอัปยศ​นี่ ข้าเกลียด​เจ้า เกลียด​เจ้ายิ่งนัก จิวซินที่ร้องไห้​น้ำตาแทบเป็นสายเลือด​ คิดอย่างแค้นเคือง​นัก หากข้ารอดไปได้เจ้าไม่ตายดี​แน่ 

จิวซินคิดอย่างอาฆาต​แค้น

ฮัดชิ้ว!!! ๆๆ

เสียงจามติดๆกันดังขึ้นจากร่างบางที่นอนเอกเขนกบนตั่งไม้อย่างสบายอารมณ์​ ในมือถือหนังสือบันทึก​การเดินทาง​ที่นางชื่นชอบ​ ปรายเท้ากระดิก​ไปมาไม่สมเป็นคุณหนู​ในห้องหอนัก จนซิ่วอิงส่ายหน้าอย่างระอาใจคร้านจะห้ามปราม

"คุณ​ชายจวนใดคิดถึง​ข้ากันนะ ข้าเคยได้ยินบ่าวในจวนกล่าวว่าหากจามติดๆกัน ย่อมมีผู้คิดถึง" 

อิอิ

"คุณ​หนู​ท่านหนะ ร้ายกาจขึ้นทุกวัน​รู้ตัวหรือไม่เจ้าคะ" 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!