ณ เวฮิเคิลอินดัสทรี บริษัทส่งออกยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตึกที่ตั้งสูงตระหง่านค้ำฟ้าอยู่ใจกลางกรุงเบอร์ลินเมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ภายในห้องบอลรูมของตึกจัดงานเปิดตัวรถยนต์ตัวใหม่ของเวฮิเคิลอย่างอลังการบอกให้รู้ว่าคนที่สามารถเข้างานนี้ได้ก็คงระดับเศรษฐีและอภิมหาเศรษฐีเท่านั้น ภายในงานจะแบ่งเป็นโซนแบบเรียงราคาโดยโซนที่อยู่ด้านนอกราคาจะต่ำสุดเรื่อยไปจนถึงโซนสุดท้ายที่ราคาสูงสุดตามสไตล์รถยุโรปที่ไม่บอกราคาก็คงจะรู้ว่าแพงแค่ไหน งานเริ่มครึกครื้นขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีแม่สาวนุ่งน้อยห่มน้อยเริ่มออกมาวาดลวดลายยักย้ายส่ายสะโพกจนมีเสียงฮือฮาเกิดขึ้นแน่นอนว่านี่เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการขายที่ได้ผลดีเสมอกับเศรษฐีกระเป๋าหนักจนกระทั่งถึงเวลาเปิดงาน พิธีกรได้ขึ้นกล่าวทักทายแขกภายในงานและเริ่มอธิบายรายละเอียดของงาน จนกระทั่งถึงเวลาของการเชิญซีอีโอขึ้นมากล่าวเปิดงานความสนใจทั้งหมดจึงหยุดอยู่ที่เวทีเมื่อร่างสูงใหญ่ปรากฏบนเวทีต่างเรียกสายตาจากแขกในงานได้ไม่ใช่น้อยโดยเฉพาะผู้หญิงในงาน

อัลริค เบอร์สันต์ เจ้าพ่อวงการรถยนต์ของโลกโดยมีดีกรีเป็นถึงซีอีโอของเวฮิเคิล อินดัสทรี ความเก่งกาจพ่วงด้วยความหล่อเหลาจึงไม่ยากที่จะสามารถกระชากหัวใจสาวๆได้ค่อนโลก และเมื่อไม่นานมานี้ความฮอตของเขาพุ่งทะยานถึงขีดสุดโดยถูกโหวตให้เป็นผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก

และเมื่อความฮอตไม่จบเพียงแค่นั้นเพราะเมื่อช่วงเดินก่อน สื่อชื่อดังระดับโลกจับภาพเขากำลังนัวเนียกับแม่สาวผมบลอนด์กันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงที่ชายหาดในเกาะฮาวายเพิ่มความร้อนแรงด้วยการสลัดรักหล่อนอย่างไร้เยื่อไยเมื่อสองวันที่แล้วกลายเป็นข่าวแผ่หลาอยู่บนโซเชียลออนไลน์อยู่เกือบอาทิตย์แน่นอนว่ามันไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงและความฮอตของเขาน้อยลงเลยกลับกลายเป็นเพิ่มพูนมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เพียงแต่คำว่าผู้หญิงในความคิดของเขาก็เหมือนๆกันหมดเป็นสิ่งของที่สามารถหาได้ทุกเวลาเพียงแค่ใช้เงิน ได้เมื่อไรก็เบื่อเมื่อนั้นไม่มีอะไรมากก็แค่พาพวกหล่อนขึ้นห้องสักครั้งสองครั้งแล้วก็หาวัตถุเลอค่าปรนเปรอเท่านี้พวกหล่อนก็ไม่สามารถจะดิ้นไปไหนได้แล้ว เผลอๆอาจจะอยากให้เขาเลี้ยงพวกหล่อนแบบนี้ไปอีกนาน สำหรับเขาแล้วถ้าพวกหล่อนไม่เรียกร้องสิทธิอะไรมากมายก็อาจจะควงเขาได้นานแต่ถ้าก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวของเขาเมื่อไรก็จบกันเมื่อนั้น

อัลริคพาร่างอันเพอร์เฟ็กท์ของตัวเองขึ้นบนเวทีเพื่อกล่าวเปิดพิธีและขอบคุณผู้มีเกียรติเมื่อพิธีเสร็จสิ้นลงเสียงปรบมือดังท่วมท้นอัลริคก้มหัวเป็นเชิงขอบคุณจากนั้นจึงเดินลงจากเวทีแสงแฟลชจากสื่อมวลชนต่างกระหน่ำรัวเต็มที่เมื่อเขาลงมาถึงด้านล่าง เขายืนนิ่งและแอ็คท่าทางเล็กน้อยเมื่อสื่อสำนักข่าวดังต่างๆต่างขอเขาถ่ายรูป และเมื่อเสร็จสิ้นจากการถ่ายรูปเขาจึงเดินออกมาจากตรงนั้นและเพียงยกมือขึ้นทำสัญญาณชั่ววินาทีบอดี้การ์ดต่างกรูเข้ามาเพื่อเปิดทางให้รวมถึงมือขวาและซ้ายคนรู้ใจอย่างแอรอนบารอนคู่แฝดพี่น้องที่ทำงานกับเขามานาน

“ ฉันต้องการกลับเพนท์เฮาส์ให้เร็วที่สุด...อ่อหาผู้หญิงเป็นเพื่อนนั่งดริ้งให้ฉันด้วย ” เสียงรอดไรฟันดังออกมาแต่สีหน้าของผู้พูดยังคงต้องฝืนยิ้มอยู่เมื่อต้องเดินผ่านแขกในงาน

“ แต่วันนี้มาดามวิลาสินีให้บอสไปพบนะครับ ”แอรอนโน้มหน้าตอบเพราะกลัวว่าถ้าเงยหน้าอาจจะเจอสายตาฟาดฟันของเจ้านาย

เสียงถอนหายใจที่บอกให้รับรู้ว่าสถานะทางอารมณ์ของอัลริคในตอนนี้แอรอนรับรู้ทันทีว่างานนี้คนที่โดนคงไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คงจะเป็นเขาเอง

“ บอกคุณแม่ไปว่าวันนี้ฉันไม่ว่างยุ่งมากเหนื่อยมากอยากพักผ่อน หรือถ้านายจัดการไม่ได้ก็ไปเซ็นใบลาออกจากการเป็นมือขวาฉันและไปทำงานกะมาดามซะแอรอน....และฉันจะเลื่อนแบรอนขึ้นมาทำงานแทนแก “

แบรอนเข้ามาตบบ่าพี่ชายเป็นเชิงหยอกเย้า “ ไงมือขวาดีดีไม่ชอบนะแอรอน...งานนี้พักร้อนยาว ”เมื่อแบรอนพูดจบศอกหนักๆของผู้เป็นพี่กระทุ้งเข้าที่หน้าท้องอย่างจังเล่นเอาแบรอนตัวงอ

“ แต่ฉันว่างานนี้แกเจ็บยาวว่ะน้องชาย “ เสียงหัวเราะของพี่ชายเล่นเอาแบรอนชี้มือพร้อมตะโกนบอกพี่ชายที่เดินตามเจ้านายหนุ่มไปด้วยน้ำเสียงขาดๆหายๆว่าทีใครทีมันอย่าเผลอแล้วกันไม่งั้นไม่ยั้งแน่

บริเวณทางเข้าหน้างานร่างเซ็กซี่ในชุดสีแดงเกาะอกที่ด้านหลังเว้าจนเกือบจะเห็นบั้นท้ายงอนงามแถมเกาะอกด้านหน้าก็ดันจนเห็นร่องอกรำไร และสีของเกาะอกยังขับผิวอันขาวให้ผ่องยิ่งขึ้นไปอีก เธอกำลังเดินเข้ามาอย่างรีบร้อนเรือนร่างที่เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งบวกกับใบหน้าที่สวยราวกับพิมพ์สามารถสะกดตาผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดี

ไอซ์ หรือ อัยระดา วิรุโชติ นางแบบชื่อดังของเมืองไทยฉากหน้าที่สวยหรูหราราวกับเจ้าหญิงแต่ใครจะรู้ว่าฉากหลังเธอต้องต่อสู้และดิ้นรนกับชีวิตที่เข้ามาถาโถมเธอไม่เว้นแต่ละวัน ด้วยความรีบร้อนบวกกับเดินไม่ได้ดูทางทำให้เธอชนเข้ากับใครคนนึงอย่างจังยังดีที่มีอ้อมแขนแข็งแกร่งที่รับร่างเธอไว้ทันก่อนที่เธอจะหงายหลังลงไป เธอค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมาก็พบกับตาใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้เธอจนได้กลิ่นของความเป็นบุรุษเพศ และเธอจำมันได้ดีแค่ได้กลิ่นก็สามารถทำให้เธอเธอหลงใหลไม่ว่าจะเป็นคิ้วดกดำที่มันพาดอยู่เหนือดวงตาสีเทาเข้ม จมูกโด่งจัดรับกับริมฝีปากหยักลึกแสนจะเซ็กซี่ทุกอย่างที่รวมอยู่บนใบหน้าสุดเพอร์เฟ็กท์ทำไมเธอจะจำเข้าไม่ได้ล่ะอัลริค เบอร์สันต์ ผู้ชายที่เธอตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ผู้ชายที่เธอใฝ่ฝันโหยหาจนอยากได้มาครอบครองแต่ก็ได้แต่คิดและเก็บไว้ในใจ

เพียงแวบแรกที่อัลริคสบตาเขาก็จำหล่อนได้ในทันที อัยระดา วิรุโชติ ผู้หญิงที่มีแต่ข่าวฉาวมากมาย ทำไมเขาจะไม่รู้จักหล่อนล่ะเพราะชื่อของหล่อนขึ้นท็อปโซเชียลตลอดเวลากับเรื่องการควงมหาเศรษฐี และแถมยอดติดตามในไอจีตั้งหลายล้านที่มีแต่พวกผู้ชาย เขาแสนจะไม่ชอบหล่อนเอามากๆแต่ทำไมไม่ชอบกลับยิ่งเจอเขาบอกกับตัวเองเสมอว่าอย่าเข้าใกล้หล่อนเพราะหล่อนคือตัวอันตรายแต่ร่างกายเมื่อได้ใกล้ชิดหล่อนทุกครั้งเขารับรู้ได้ในทันทีว่าร่างกายเขามันตื่นรับสัมผัสของหล่อนมากแค่ไหน หล่อนคือนางแบบชื่อดังที่ไม่ได้ขายหุ่นเพียงอย่างเดียวแต่ยังพ่วงตัวของเธอด้วย ข่าวฉาวมากมายที่ประโคมออกมาและหัวข่าวหลักๆที่พาดถึงหล่อนก็คือการจับมหาเศรษฐีและส่วนมากคู่ขาของหล่อนส่วนมากมหาเศรษฐีรุ่นคราวพ่อ เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ชอบออกล่าเหยื่อและวิธีการของเธอที่ชอบจับเศรษฐีรุ่นราวคราวพ่อเพื่อหวังแค่เงินก็ทำให้เขายิ่งไม่ชอบหล่อน

“ หึ!..ฉันจำได้ว่างานนี้ฉันจัดขึ้นเพื่อขายรถนี่ไม่ได้จัดขึ้นเพื่อให้ใครมาขายตัว....และอีกอย่างที่นี่มีแต่ของเกรดเอเท่านั้นไม่มีของเกรดต่ำเพื่อขาย “

อัลริคเบ้ปากอย่างเหยียดหยามดวงตาคมกริบจ้องมองร่างบางอย่างหยาบคายราวกับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่าขยะแขยงทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าทุกครั้งที่เจอหล่อน นัยน์ตาหล่อนมันฟ้องว่าต้องการเขามากแค่ไหนเขาสะอิดสะเอียนทุกครั้งที่จะต้องมารับทนกับสภาพแบบนี้ที่หล่อนจะยัดเยียดมาให้เขาเสมอ

“ ไอซ์ไม่จำเป็นต้องขายหรอกค่ะเพราะส่วนใหญ่ผู้ชายมักจะเดินเข้ามาเองมันเลยทำให้ไอซ์เบื่อน่ะค่ะ....ไม่เหมือนคุณยิ่งวิ่งหนีไอซ์ก็อยากที่จะวิ่งไล่ยิ่งรังเกียจมากเท่าไรไอซ์ก็อยากได้มากเท่านั้น ”

ภายใต้สีหน้าเชิดอย่างถือดีที่อัยระดาแสดงอยู่ตอนนี้มันแฝงไว้ด้วยความเจ็บมากมายและเธอก็ไม่รู้ว่าเธอไปเอาความกล้าพวกนี้มาจากไหนถึงสามารถที่จะยืนต่อกรกับเขาได้และผลของทุกครั้งที่เธอเผชิญหน้ากับเขาก็มีแต่เธอที่จะเป็นฝ่ายแพ้และเจ็บเสมอครั้งนี้ก็อีกเหมือนกันคำพูดเดิมๆสีหน้าเดิมๆที่เขาเจอเธอก็มีแค่เยอะเย้ยถากถางตั้งแง่รังเกียจ

“ คนอย่างเธอมีอะไรที่คู่ควรกับฉันอย่าพูดในสิ่งที่มันน่าทุเรศออกมาซิอัยระดาและไอ้สโลแกนบ้าบอที่อยากวิ่งไล่จับเนี่ยเก็บไปใช้กับไอ้ตัวที่เธอต้องการจะเอาเถอะมันน่าขยะแขยง ”

อัลริคเลือกที่จะก้าวเท้าออกจากตรงนั้นโดยเร็วครั้งแรกสายตากับท่าทางที่เขาแสดงยามพูดมันก็แรงมากพออยู่แล้วและครั้งที่สองมันกลับเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณเมื่อมันบวกกับอารมณ์ของผู้พูดที่บอกให้รู้ว่ามันใกล้จะถึงขีดสุดทำไมหล่อนถึงชอบที่จะกวนประสาทเขาอยู่เรื่อยและหล่อนก็ทำมันสำเร็จทุกครั้ง

“ มันก็เหมาะสมกันดีไม่ใช่หรอคะหญิงปากร้ายอย่างฉันกับผู้ชายปากดีอย่างคุณ...ฉันว่าเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก ”

มันได้ผลเมื่ออัลริคชะงักเท้าทันทีเมื่อเจอคำพูดนี้น่าทุเรศที่สุดหล่อนเป็นผู้หญิงปากดีที่ควรได้รับการสั่งสอนใช่อย่างที่หล่อนบอกว่าเขาคือผู้ชายปากดีหล่อนกับเขาก็จะได้รู้กันว่างานนี้จะจบหรือจะเจ็บสำหรับหล่อนแล้วเขาไม่มีวันปรานีแน่นอน

ข้อมือหนาชกเข้าที่ข้อมือบางดึงเข้าแนบลำตัวพร้อมกับอีกมือที่ล็อกต้นคอจนอัยระดาถึงกับทำหน้าเหยเกเมื่ออัลริคเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือใบหน้าทั้งสองคนอยู่ใกล้จนลมหายใจร้อนผ่าวของอัลริคเป่ารดไปทั่วใบหน้าสวย

“ หยกที่ถูกเด็ดจนไม่เหลือใบอย่างเธอนะหรอ...อ่อเธอคงไม่รู้ซินะว่าหยกอย่างเธอมันคงจะเน่าแล้วล่ะเพราะกลิ่นมันแรงจนฉันแทบอ้วกป่านนี้หนอนมันคงชอนไชหมดแล้วละมั้งและอีกอย่างเธอคงอยากรู้ซินะว่าริมฝีปากฉันมันร้ายแค่ไหน “

ริมฝีปากของอัลริคประกบเข้ากับริมฝีปากบางอย่างรวดเร็วมันทั้งหยาบและรุนแรงอัยระดาพยายามที่จะขัดขืนแต่ไม่สามารถที่จะทำได้เมื่ออัลริคต้อนเธอให้จนมุมด้วยการดันร่างบางให้ติดกับเสาก่อนจะล็อคไว้อย่างหนาแน่นจากพยายามต่อต้านกลับกลายเป็นให้ความร่วมมือเมื่ออัลริคส่งลิ้นร้ายสอดเข้าไปละเอียดชิมความหอมหวานจากโพรงปากสาวความดุดันหยาบคายแปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนแต่มันคงจะเป็นไปได้อีกไม่นานเมื่อออกซิเจนภายในร่างบางเริ่มเหลือน้อยอัยระดาเริ่มดิ้นรนเพื่อหาอากาศหายใจทั้งทุบ ทั้งยิก ทั้งข่วน เมื่ออัลริคยอมผละออกจากร่างบาง อัยระดาถึงกับแทบจะทรุดยังดีที่เธอสามารถตั้งหลักได้

“ นึกว่าจะเซียนที่แท้ก็แม่โสเภณีฝึกหัด...หวังว่าคราวหน้าฉันคงจะไม่เจอเธออีก “

รอยยิ้มเย้ยหยันอย่างคนถือชัยชนะสะท้อนอยู่ในนัยน์ตาสวยมันยิ่งสร้างความพอใจให้อัลริคเป็นเท่าทวีคูณก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเดินออกไปทิ้งร่างบางยืนหมดแรงจากการกระทำของตนยังดีที่มีเสาไว้ให้พิงไม่อย่างนั้นเธอคงจะทรุดลงไปกองกับพื้นความกล้าที่มีมาทั้งหมดแปรเปลี่ยนเป็นความอายทันทีเมื่อบริเวณนี้ไม่ได้มีแค่เอกับเขาแค่สองคนแต่ยังมีบอดี้การ์ดของเขาอีกมากมายเมื่ออัลริคเดินออกไปลูกน้องของเขาก็เดินออกไปด้วยเช่นกันและตอนนี้ความคิดของเธอก็วนกลับไปเมื่อครั้งที่เธอเจอกันกับอัลริคครั้งแรก