คุณเชื่อไหมว่ามี “ภูตประจำดอกไม้” อยู่ ตอนแรกที่ฉันได้ยินเรื่องนี้ ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี มันคงเป็นนิทานกล่อมเด็กที่แต่งขึ้นมาหลอกเด็กไปวันๆ

ก่อนที่คุณจะเบื่อฉันอยากให้คุณอ่านมันก่อนคลิกออกไป “:)

ภูตแห่งดอกไม้

   นานมาแล้ว ณ ดินแดนแห่งดอกไม้หลากหลายชนิดได้เติบโตขึ้นที่นั้น ประชากรของดินแดนนั้นทั้งหมดเกิดจากดอกไม้ บ้านของพวกเขาก็เป็นดอกไม้ ภูตแต่ละตนเมืื่อถึงเวลาตื่นนอน ก็จะออกมาจากดอกไม้เพื่อไปทำหน้าที่ของตน และนั่นทำให้ดอกไม้บาน 

   หน้าที่ของภูตดอกไม้ คือการผลิบานอย่างสวยงาม เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นมีความสุข และเป็นสีสันของโลก

วันหนึ่งถึงเวลาผลิบานดอกไม้ดอกใหม่ที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ทุกๆครั้งภูตทุกตนจะอยู่ต้อนรับสมาชิกใหม่ เมื่อถึงเวลาผลิดอก เสียงความยินดีดังก้องต้อนรับเจ้าตัวน้อย แต่มีเพียงดอกเดียวที่ยังไม่บาน ทำให้เขาไม่สามาออกมาได้ การผลิบานครั้งนั้นมีเพียงภูตตนเดียวที่ไม่สามารถเกิดมาได้ ภูตตนอื่นพยายามคิดหาวิธีช่วย แต่ทำอะไรไม่ได้เลยจนเวลาล่วงเลยมาหลายปี

วันนั้นเป็นวันที่เกิดพายุพัดกระหนำ่เข้่สู่เกาะ ลมพายุพัดเเรงจนกิ่งก้านของต้นไม้หักลงมา ในดอกไม้ที่มีภูตตนน้อยหลับไหลอยู่นั้น ถูกพายุพัดจนออกทะเลไป ดอกไม้ดอกน้อยลอยตามกระแสนำ้มาเรื่อยๆจนถึงฝั่งของเมืองชนบท ล่องลอยผ่านทางนำ้มาเรื่อยๆเป็นเวลานาน จนถึงธารนำ้ใกล้ๆชุมชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีคนมาเล่นนำ้มากมาย ตรงฝั่งที่อยู่ใกล้ๆนั้นมีหญิงสาวกับเด็กหญิงตัวน้อยอยู่ใกล้ดอกไม้หลงทางที่ไม่สามารถขยับตามใจอยากได้ ถูกหญิงสาววัยกลางคนนำกลับมาที่บ้านของเธอแล้วปลูกใส่กระถางในห้องนอนของลูกเธอ 

   ในเช้าวันสดใส แสงแดดอบอุ่นสาดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอนของเด็กน้อย เสียงหัวเราะเล็กๆของภูตน้อย แม้จะแทบไม่ได้ยิน เด็กสาวตัวน้อยกลับวิ่งมาที่หน้าต่าง เหมือนเธอได้ยินบางอย่างจากแถวนั้น และเสียงก็ดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมดอกไม้ที่ผลิบานตรงหน้าของเธอ ภูตตัวน้อยเกิดมาและส่งเสียงกระซิบออกไปให้เด็กหญิงว่า 

เธอมีความสุขเหมือนฉันไหม

🌷 ขอบคุณผู้ที่อ่านจนจบนะ-////-



แฟร์รี่(FAIRY)

ธันวาคม 6, 2016

แฟร์รี่(FAIRY)

เหล่าแฟร์รี่สวนนั้นถือกำเนิดขึ้นมาจากส่วนใบของต้นไม้ ดอกไม้ สมุนไพรต่างๆ พวกเขามักจะอยู่ในสวนสมุนไพร สวนผัก และสวนดอกไม้ โดยจะคอยดูแลปกป้องสิ่งเหล่านี้มิให้เหี่ยวเฉาเสียหาย โดยพลังของพวกเขาจะสามารถช่วยฟื้นฟูพืชผักให้เจริญงอกงาม ด้วยความที่พวกเขามีนิสัยอ่อนโยน น่ารัก มีน้ำใจ และเป็นมิตรอย่างยิ่ง เหมาะกับบ้านที่มีสวนผัก สวนดอกไม้ หรือสวนสมุนไพร มากๆจ้าาา ไม่เป็นอันตรายต่อเหล่าสัตว์เลี้ยงและคนในบ้านแน่นอน



ภูติจิ๋วดาราแสนน่ารักนี้มักปรากฏตัวในรูปแบบของแสงเป็นวงกลมเล็กๆกระพริบ หรือแสงที่เป็นเส้นพุ่งเร็วแล้วหายไปจนมองแทบไม่ทัน พวกเฟย์ชอบท่องเที่ยวไปในดินแดนต่างๆทั่วผืนพิภพ และไปยังมิติช่วงเวลาต่างๆอย่างอิสระ ในโลกเรานี้มีเฟย์อยู่เป็นร้อยพันสายพันธุ์ แต่ที่รู้จักกันดีที่สุดคือ STAR FAERY เฟย์พันธุ์นี้ผู้คนนิยมสะสมที่สุด STAR FAERY มักปรากฎบนท้องฟ้ายามค่ำคืน สามารถมองเห็นได้ด้วยตามนุษย์ บางครั้งมนุษย์อาจเข้าใจผิดว่าเป็นแสงสว่างของดาวฤกษ์ที่กระพริบแล้วหายไป พวกเขาได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเมตตาและจงรักภักดี เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาผูกสัญญากับผู้เป็นนาย พวกเขาจะรับทุกอย่างที่อยู่ในใจของผู้เป็นนายเข้าสู่จิตใจของตนเอง ดังนั้นเฟย์จะทำตามความปรารถนาทุกอย่างของคุณให้เป็นจริงอย่างไม่มีขีดจำกัดไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม บางครั้งจึงมีผู้กล่าวว่าเฟย์นั้นรู้จักตัวคุณดีกว่าที่คุณรู้จักตัวเองเสียอีก ดังนั้นคุณควรต้อนรับพวกเขาเข้าสู่บ้านคุณด้วยความอบอุ่น เป็นมิตร พวกเขาจะมอบความสุขเสียงหัวเราะ ความเริงรื่นให้กับชีวิตคุณอย่างไม่มีวันหมด



แฟร์รี่ผู้มีพลังพลังธาตุดินอันแข็งแกร่งน่าทึ่ง พวกเขาเป็นนักทำสวนและการเกษตร อีกทั้งยังสร้างสรรค์อาหารรสเลิศได้อีกด้วย พวกเขาชอบนำส่วนผสมต่างๆมาปรุงเป็นอาหาร และมักจะคิดค้นสร้างสรรค์สูตรอาหารของตนเอง เรียกได้ว่าใครที่ชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจคงไม่อาจปฏิเสธความช่วยเหลือจากยูราโน่ได้แน่ๆ นอกจากด้านอาหารแล้วพวกเขายังขึ้นชื่อในเรื่องความตลก สนุกสนานและเป็นมิตรอย่างที่สุดอีกด้วย



แฟร์รี่ธาตุไฟกำเนิดมาจากธาตุไฟบริสุทธิ์ที่อยู่ในธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงถือครองพลังเวทย์แห่งไฟเอาไว้เต็มเปี่ยม แฟร์รี่ชนิดนี้มีลักษณะนิสัยความคล้ายคลึงกับแฟร์รี่เผ่านักรพ(สู้ยิบตาและหนักแน่นเป็นที่สุด) ดังนั้นจึงเป็นแฟร์รี่ผู้พิทักษ์ที่จะปกป้องผู้เป็นเจ้าของจากภยันตรายต่างๆได้เป้นอย่างดี แฟร์รี่ชนิดนี้เหมาะกับผู้ฝึกเวทย์มนตร์สายไฟ และผู้ที่มีความผูกพันกับธาตุไฟ (แซนดี้ต้องขอบายคนหนึ่งล่ะเพราะเจออะไรที่เกี่ยวกับไฟทีไรมีอันซวยตลอด555 แต่ใครที่เจออะไรที่เกี่ยวกับไฟแล้วรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ก็นับว่าเหมาะกับแฟร์รี่ชนิดนี้ค่ะ ของอย่างนี้ต้องสังเกตตัวเองด้วยนะคะ ว่าตนเองถูกหรือไม่ถูกกับธาตุไหน บางครั้งการตรวจดวงชะตาก็อาจบอกไม่ได้เสมอไป เพราะตามดวงแล้วแซนดี้ถูกกับธาตุไฟ แต่พอเอาเข้าจริงๆกลับไม่ใช่ธาตุที่นำความโชคดีมาสู่แซนดี้เลย



โนมเป็นภูติขนาดเล็กผู้ทรงภูมิปัญญา มัลักษณะคล้ายคนแคระ พวกเขามีถิ่นอาศัยอยู่ใกล้ๆสายแร่ใต้ผืนดินหรือภายในถ้ำ มักชอบหลบซ่อนตัวอยู่ถายในต้นไม้ใหญ่อีกด้วย พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำงานหนักมาก มักอยู่ภายใต้ผืนโลกคอยดูแลสมบัติและทรัพยากรณ์ทางธรรมชาติ เมื่อพวกเขาปราศจากความกดดันและชินกับผู้เลี้ยงจะแสดงลักษณะนิสัยสนุกสนานขี้เล่นออกมา โกมจะนำมาซึ่งพลังงานธรรมชาติ ทำให้ผู้เลี้ยงสามารถเข้าถึงธรรมชาติอันแท้จริงได้



บริทาเนียแฟรี่เป็นภูตที่อยู่ในยุคกลางของอังกฤษ มีลักษณะนิสัยร่าเริงสนุกสนาน ชอบร้องเพลง และเต้นรำ เป็นที่สุด จนถึงขั้นมีผู้กล่าวว่าพวกเขาได้รับเชิญให้ไปร้องเพลงเต้นรำถวายกษัตริย์อาเธอร์และราชินีกวินนีเวียร์ในวันอธิเษกสมรส เหมาะกับผู้มองหาสิ่งเร้นลับที่มีพลังส่งเสริมการเต้นและการร้องเพลงให้ก้าวหน้า รวมทั้งพลังแห่งความคิดสร้างสรรให้ก้าวไกล อีกทั้งภูตชนิดนี้ยังมีพลังในการดึงดูดความมั่งคั่งอีกด้วย



พิกซี่ภูตจิว พวกเขาเป็นจิตวิญญาณที่กำเนิดขึ้นในประเทศอังกฤษ อยู่มาก่อนเฟย์รี่ เมื่อเฟย์รี่ย้ายเข้ามาในอังกฤษ พิกซี่ได้ทำสงครามปกป้องบ้านตัวเอง เพราะพวกเขากลัวว่าเฟย์รี่จะเอาทุกอย่างไปแต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ร่วมกัน พิกซี่เป็นจิตวิญญาณชั้นสูง รูปร่างของพวกเขาไม่ใหญ่ไปกว่าฝ่ามือมนุษย์ มีผมสีแดง และตาสีเขียว สามารถนำพาความโชคดี ความมั่งคั่ง มาสู่มนุษย์ที่รับพวกเขามาอยู่ร่วมได้ ที่ที่เราจะพบพิกซี่ได้เยอะคือ มณฑลเดวอน คอร์นวอลล์ และซัมเมอร์เซ็ท พิกซี่จะนำพาความโชคดีและความมั่งคั่งมาสู่ผู้เลี้ยงได้ หากเราเปิดใจให้ความรักและดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงถือเป้นภูติให้โชคด้านความโชคดีและความมั่งคั่ง





...ADVERTISEMENT...

REPORT THIS AD

ที่เรารู้จัก : แฟรี่ Fairy คือสิ่งมีชีวิตในตำนานที่มีพลังเหนือธรรมชาติ พูดถึงแฟรี่ เรามักนึกถึงผู้หญิงมีปีกตัวเล็ก ๆ แต่ความจริงแล้วคำนี้ยังครอบคลุมถึงสิ่งมหัศจรรย์อื่น ๆ ด้วย เช่น ก๊อบลิน หรือโนม แฟรี่ปรากฏตัวในหลายความเชื่อ และแต่ละความเชื่อ ก็อาจให้นิยามแฟรี่ไม่เหมือนกันซะด้วย

ตัวอย่างแฟรี่ประเภทต่าง ๆ

Adhene – ส่วนใหญ่เป็นแฟรี่ที่ชั่วร้าย มีอีกชื่อหนึ่งว่า Cloan ny moyrn. (Isle of Man)

แบนชี Banshee – วิญญาณหญิงสาว ออกมาร้องไห้ยามค่ำคืนเพื่อเตือนว่าบ้านนั้นจะมีคนตาย (ไอริช)

บราวนี่ Brownie – แฟรรี่ตัวเล็กๆ ที่จะออกมาทำงานบ้านในตอนกลางคืนแลกกับที่พัก (สก๊อตแลนด์)

Changeling – ภูตที่ถูกทิ้งไว้แทนเด็กที่ถูกภูตขโมยไป

Dryad – เทพธิดาแห่งป่า เกิดขึ้นจากต้นไม้ และจะคอยปกป้องต้นไม้ต้นนั้น ๆ (กรีก โรมัน)

คนแคระ Dwarf – มนุษย์ขนาดเล็ก ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใต้ดินในภูเขา (เนเธอร์แลนด์)

เอลฟ์ Elf – สิ่งมีชีวิตมีเวทมนตร์ในตำนานขนาดเล็ก (อังกฤษ เยอรมัน นอร์ส)

โนม Gnome – ภูตธาตุดิน (กรีก)

ก๊อบลิน Goblin -โนมที่มีรูปร่างวิกลวิการ ชอบเล่นสนุก แต่บางครั้งเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมสามารถทำอันตรายแก่ผู้คน (ยุโรป)

เกรมลิน Gremlin – สิ่งมีชีวิตชั่วร้ายที่คอยทำให้เครื่องกลทำงานผิดพลาด

อิมป์ Imp – ปีศาจร้ายตัวจิ๋ว

ญิน Jinni – สิ่งมีชีวิตที่มีปัญญา มีตัณหา มีตัวตนที่เราไม่อาจเห็นด้วยตาธรรมดา (ตะวันออกกลาง)

เลเปรอคอน Leprachaun – ภูตตัวเล็ก ผู้พิทักษ์สมบัติ (ไอริช)

นางเงือก Mermaid – สิ่งมีชีวิตที่ด้านบนเป็นมนุษย์ ด้านล่างเป็นปลา (ทั่วไป)

นิมฟ์ Nymph – วิญญาณธรรมชาติผู้หญิง (กรีก, โรมัน)

Pari – แฟรี่ผู้งดงาม เกิดจากไฟ (เปอร์เซีย)

พิกซี่ Pixie – แฟรี่ตัวเล็กไม่มีปีก (อังกฤษ)

พัค Puck – ปีศาจชนิดหนึ่ง

สไปรท์ (เทพยดา) Sprite – ภูตตัวเล็ก มีปีก (ยุโรป)

ซิลฟ์ Sylph – ภูตธาตุลม (กรีก)

โทรล Troll – สิ่งมีชีวิตผิดรูปร่าง เต็มไปด้วยขน อาศัยอยู่ใต้ดิน (สแกนดิเนียเวีย)

อูริสค์ Urisk – ภูตหน้าตาอัปลักษณ์ แต่เป็นมิตร (สก๊อต)

Wichtlein – ก๊อบลินอัปลักษณ์ที่ประกาศความตายโดยการเคาะสามครั้ง (เยอรมัน)





แฟรี่ มักมีรูปร่างคล้ายคนตัวเล็กๆ หูแหลม และมีปีกเหมือนผีเสื้อ คำว่า FAERY (หรือบางทีก็ใช้ FAIRY)มาจาก FER-SIDHE (อ่านว่า ฟาร์ ชีห์) อันแปลว่า ชายแห่งเนินเขา หรือเป็นคำเรียกที่หมายถึง เทพของชาวเคลติค ซึ่งเทพเจ้าของชาวเคลติคเรียกว่า AES SIDHE หมายถึง คนแห่งเนินเขา (ส่วนเทพีเรียกว่า BEAN SIDHE หมายถึง หญิงแห่งเนินเขา เพราะเทพของเคลติคนั้น เป็นผู้ปกครองเนินเขาต่างๆ ที่เรียกว่า SIDHE) ซึ่งหลังจากศาสนาคริสต์เข้ามามีบทบาท เหล่าเทพเจ้าก็ถูกลืม และคำว่า ฟาร์ ชีห์ นี้ก็ได้กลายมาเป็นคำว่า FAIRY แต่ความเชื่อเกี่ยวกับภูตน้อยแฟรี่นั้นมีมานานแล้ว ก่อนคริสตศาสนาจะเข้ามา นั่นคือ พิกซี่(PIXIE) แต่เท่าที่รู้มา แฟรี่กับพิกซี่รูปร่างเหมือน





กัน แต่พิกซี่จะป่าเถื่อนกว่าหรือไม่นั้น มิอาจบอกได้ ในเมื่อคำว่าแฟรี่นี้มีหลังจากคริสตศาสนา แต่ตัวแฟรี่เองกับมีมาก่อน ก็เข้าใจว่าทั้งสองอาจจะเป็นพวกเดียวกัน (แต่แฟรี่ไม่ใช่นางฟ้า ก็เพราะการเห็นแฟรี่เป็นเป็นนางฟ้านี่แหละ ทำให้ยศของพิกซี่ต้องต้อยต่ำลง) แฟรี่เป็นดวงวิญญาณที่กำเนิดแต่ธรรมชาติซึ่งพวกเค้ามีอยู่ทั่วโลก และอยู่มาก่อนเรานานแล้ว





แฟรี่มีแพร่หลายในหลายๆตำนาน เช่นเคลติค (ตัวเริ่ม) กรีกก็มีบ้าง แต่ไม่ได้เป็นแบบดั้งเดิม กล่าวคือ มักนำไปเกี่ยวกับภูตอื่นๆเช่น ฟอน หรือเทพแพน ครึ่งคน ครึ่งแพะ ซึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นเกี่ยวข้องกับปีศาจ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของซาตานด้วย (หัวแพะกับหาง โดยจริงๆคือ มังกร) และที่ควรรู้คือ แฟรี่มีเวทมนตร์กำบังตนจากสายตาของมนุษย์ แต่ไม่ได้เป็นการล่องหนด้วยการเบียงเบนแสง ที่จริงเป็นเพราะมนุษย์ส่วนมากไม่มีความเชื่อในเรื่องแฟรี่ ก็จะไม่ได้เห็นกัน

วิธีการมองเห็นแฟรี่ก็คือ นำหินที่มีทะลุเป็นรูตรงกลางสามารถมองลอดผ่านได้ จากกลางลำธาร (ต้องเป็นหินที่เป็นโดนน้ำกัดเซาะเป็นรูโดยธรรมชาติเท่านั้นจึงสามารถใช้ได้)

วันนี้คอลัมน์ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูน มีเรื่องแปลกๆน่าสนใจจากตำนานต่างประเทศ มาฝากกันอีกแล้วครับ ในกระบวนตำนานอมนุษย์และสัตว์มหัศจรรย์ของฝรั่ง ดูเหมือนไม่มีสัตว์วิเศษตัวไหนน่าจะโด่งดังเป็นที่รู้จักกันมาเป็นเวลานานเท่ากับอมนุษย์ประเภทนี้เป็นแน่ ใช่แล้วครับ แฟรี่ (Fairy) เป็นอมนุษย์ ซึ่งหากจะเรียกว่า “ภูตแผ่นดิน” ชนิดหนึ่งก็ไม่น่าจะผิด แม้ว่าพจนานุกรมไทยหลายหลาก จะแปลคำนี้ว่า “นางฟ้า” แต่แฟรี่หาได้อยู่บนฟ้าดังที่คิด พวกนี้มีนิวาสสถานอยู่บนพื้นดินที่เดียวกับเราต่างหาก

แฟรี่อาจมีรากเดิมมาจากกรีกโรมัน แต่ที่แน่ๆ พวกมันอยู่อาศัยกันในอังกฤษเช่นเดียวกับภูตแผ่นดินพันธุ์อื่น พวกมันยึดภูมิลำเนาอยู่ทั่วไป ยกเว้นแถบคอร์นวอลล์ เดวอนและซอมเมอร์เซต เพราะที่นั่นเป็นอาณาเขตของอมนุษย์ตัวเล็กอีกหลายประเภท

แฟรี่เริงระบำ โดยวิลเลียม เบลค ค.ศ.1786.

แฟรี่จะเลือกชุมนุมกันอยู่ ณ ทำเลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นป้อมปราการของมนุษย์โบราณ หรือหุบเขาตื้นๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก ลานดินโบราณที่มีรูปเป็นวงเรียกว่าป้อมแฟรี่ (fairy forts) วงแหวนภูต (แฟรี่ริง-Fairy Ring) หรือคือเห็ดที่งอกต่อกันเป็นรูปวงกลมในป่า หรือวงหญ้าที่ขึ้นเป็นสันกลม หรือดินที่มีร่องลึกเป็นวงกลมก็ล้วนเป็นวงแหวนภูต แฟรี่ริงที่ชาวบ้านไม่อยากยุ่ง ที่สำคัญตามพุ่มไม้หนามก็เป็นที่โปรดปรานของชาวแฟรี่จนชาวบ้าน อังกฤษสมัยก่อนไม่กล้าตัดแม้มันจะขวางทาง เพราะต้องเสี่ยงกับการโดนแฟรี่หมายหัวโดยไม่จำเป็น

แฟรี่อาจมีฐานะที่สูงกว่าบรรดาอมนุษย์พันธุ์เล็กอื่นๆอยู่บ้าง ตรงที่เป็นเผ่าพันธุ์คล้าย “เทวดาถูกลดขั้น” ต้องอยู่ระหว่างสวรรค์และนรก ซึ่งก็คือโลกมนุษย์ของเรานี่ล่ะ พวกนี้จึงมีอุปนิสัยทั้งดีและร้ายระคนกัน แฟรี่มีทั้งเพศหญิงและเพศชาย รูปร่างเหมือนมนุษย์ตัวเล็กๆ อยู่ในวัยหนุ่มสาวเสมอ ฉลาดเฉลียวเป็นพวกอมตะไม่ตาย หรือไม่ก็มีช่วงอายุนานจนเลยอายุปกติของมนุษย์ แฟรี่เป็นพวกมีพลังวิเศษ มีฤทธิ์เวทมนตร์ ดูเหมือนจะมากกว่าภูตแผ่นดินชนิดอื่นๆ สามารถเหินไปในอากาศได้ ร่ายเวท ทำนายอนาคตได้ และที่สำคัญอวยพรให้มนุษย์ได้ ส่วนจะเป็นพรดี หรือพรร้ายก็แล้วแต่โชคชะตาฟ้าลิขิตว่า มนุษย์คนนั้นเจอแฟรี่แบบไหน หรืออารมณ์ไหน

คาดว่าพวกแฟรี่ในตำนานดั้งเดิมของฝรั่ง น่าจะตัวสูงสง่าหล่อเหลาอยู่นานทีเดียวครับ กระทั่งมาถึงศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมานั่นแหละไปไงมาไงไม่รู้ตัว แฟรี่ที่เล่าขานกันก็ชักจะหดลงเรื่อยๆ จนเหลือแค่ระดับหัวเข่ามนุษย์ ไล่เลี่ยกับภูตแผ่นดินอื่นๆ ไม่ว่าพิกซี่ โนม หรือเลเปอคาน ฯลฯ ต่างกันตรงที่แฟรี่มักไม่ค่อยมีพวกหน้าตาน่าเกลียดเหมือนภูตแผ่นดินชนิดอื่นๆ ส่วนใหญ่หน้าตาดีกันหมดล่ะครับ

แฟรี่ต่อสู้กับค้างคาว โดยจอห์น แอนสเตอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์.

ว่าถึงความสามารถที่จะเหินไปในอากาศของแฟรี่ เมื่อก่อนก็ไปด้วยอำนาจเวทของตน หรือไม่ก็ขี่หลังนกครับ แต่พอมาถึงสมัยวิกตอเรียเป็นต้นมา แฟรี่กลายเป็นภูตแผ่นดินมีปีกซะงั้น (คาดว่าคงมาจากภาพถ่ายลวงโลกจากฝีมือคนที่อ้างว่าถ่ายตัวแฟรี่ได้ครับ) มีทั้งแบบที่เป็นปีกผีเสื้อและปีกแมลง ถ้านึกไม่ออกก็ลองนึกถึงตัวการ์ตูนละครทิงเกอร์ เบล ในเรื่องปีเตอร์แพนนั่นล่ะครับ...แฟรี่มีปีก

พวกแฟรี่มีการจัดลำดับขั้นอยู่เหมือนกันนะ แบ่งออกเป็นสองกลุ่มครับ คือพวกที่อยู่กันเป็นสังคมเมืองกับพวกที่ชอบอยู่โดดเดี่ยว แถมด้วยพวกนิสัยดีกับนิสัยเลวอีกต่างหาก คล้ายๆคนเลยครับ

พวกแรก แฟรี่สังคมเมืองมักสวมเสื้อผ้าสีเขียว แฟรี่พวกนี้มักชอบจับกลุ่มกันเต้นรำร้องเพลงเป็นที่สำราญใจ ส่วนพวกโดดเดี่ยวอยู่ป่าจะแต่งตัวด้วยสีแดงน้ำตาล หรือเทามากกว่าสีเขียว พวกนี้ดูถูกการเต้นรำและความสำราญของแฟรี่สังคม แฟรี่โดดเดี่ยวมักผูกพันกับครัวเรือนแห่งใดแห่งหนึ่ง หรือสถานที่ หรือที่ยึดครองใดๆ แต่ชอบติดต่อกับมนุษย์

ไม่ว่ามันจะเป็นภูตแผ่นดินแบบสังคมหรือโดดเดี่ยว นิสัยของมันก็เป็นสิ่งที่ชาวบ้านพึงระวัง เพราะไม่มีใครรู้ว่าแฟรี่ตนใดเป็นพวกดีหรือพวกร้ายกันแน่ แฟรี่ดีชอบมองหาความช่วยเหลือจากมนุษย์และตอบแทนความเมตตาของคนด้วยของขวัญและอวยพรความปรารถนาแก่คนคนนั้น ส่วนพวกร้ายก็แตกต่างจากพวกแรกลิบลับ มันจะร้ายกับมนุษย์ โดยเฉพาะคนเดินทางตอนกลางคืน แฟรี่ร้ายพวกนี้จะปรากฏตัวเป็นกลุ่ม ประมาณว่ายกโขยงกันมานั่นแหละ แล้วจัดการร่ายมนตร์ทำให้หลงทาง หรือไม่ก็หอบ ตัวคนนั้นขึ้นไปลอยคว้างอยู่กลางอากาศ ถ้าหาทางเล่นงานอย่างอื่นๆไม่ได้ น้อยที่สุดก็เอาผมคนคนนั้นพันกันเล่นจนเป็นปมยุ่งไปทั้งหัว