NovelToon NovelToon

ความฝันสูงสุดของมารระดับซยง

จุดเริ่มต้น

"นี่ๆ เจ้ารู้จักราชามารหงเยว่ไหม"

ชาวบ้านคนหนึ่งถาม

"เอ่อ....." อีกคนยังตอบไม่ได้

"ข้ารู้ เขาเป็น1ใน6ของเหล่ามารชั้นสูง"หญิงอีกคนตอบแทน."แต่จะว่าไป มารชนชั้นสูงตนนั้น เป็นมนุษย์นิ" บุคคลปริศนาเอ่ยขึ้นมา

"ห้ะ!" ทุกคนที่อยู่ด้วยกันต่างตะลึง

ที่บุคคลนั้นพูด

...แดนสวรรค์...

"ท่านจะไปจริงรึ"อวิ๋นเยว่เอ่ยถาม

"มันคือภารกิจจ่ะ คนในโลกมนุษย์ต่างวิงวอนให้ข้าลงไปช่วยจ่ะ " อวิ๋นฮวาตอบพลางลูบหัวไป อวิ๋นเยว่รู้ดีว่าพี่สาวของเธอนั้น จะไม่กลับมาที่สวรรค์อีกต่อไป...

สวัสดีค่ะนักอ่านทุกๆท่าน ที่หลงมาอยู่ในเรื่องนี้ด้วยนะคะ ก่อนอื่นนะคะ ไรท์ชื่อว่าออมสิน นามปากกาว่า อวิ๋น(云) นะคะ ถ้าไปเจอในไลฟ์สดไหน ทักทายกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

อารามเยว่หยาง

ณ อารามอวิ๋นฮวา

"ใครกันมาบูรณะอารามนี้ล่ะ เอาซะสะอาดเชียว"

"จริงที่เขาพูด"

ชาวบ้านหมู่หนึ่งที่ยืนรุมข้างหน้าอารามที่รกร้างมานานถึง15ปี ที่สะอาดดูผิดปกติ

"ฝีมือข้าเองแหละ" ชาวบ้านทุกคนหันมามองสตรีคนหนึ่ง

ผิวขาวผ่อง ดวงตาสีทองอร่าม อาภรณ์สีฟ้าอ่อน ทรงผมเก็บเป็นทรงประดับด้วยดอกมะลิประมาณ7ดอก

กำลังยกข้าวของด้วยตนเอง และไม่มีสีหน้าที่เจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย

ชาวบ้านทุกคนต่างตกตะลึงในความงามของสตรีผู้นั้น และไม่ได้คิดแม้แต่น้อยว่าตัวเธอนั้นจะมีคู่หมั้นแล้ว

" และพวกท่านก็หลบทางให้ข้าสิ ยืนบังอะไรกันอยู่คะ " ถึงตัวเธอนั้นจะพูดเสียงดุดัน แต่ยังคงประดับรอยยิ้ม และเดินเข้าไปในอารามทันที

.

.

.

"ว่าแต่ท่านจะบูชาใครรึ?" ชาวบ้านคนหนึ่งเอ่ยถามอย่างสงสัย

" องค์รัชทายาทอวิ๋นฮวา เทพนักรบหญิงแห่งลุ่ยเค่า* " หญิงสาวตอบ

^^^*ลุ่ยเค่า \= ทุ่งหญ้าเขียว หรือ แดนทุ่งหญ้าเขียวขจีค่ะ^^^

"ว่าแต่ ท่านมีนามอันใดรึ " ชาวบ้านอีกคนนึงถาม

"เฮ้อ~"หญิงสาวถอนหายใจก่อนที่จะพูดต่อ "ข้าอยู่แซ่'อวิ๋น' มีนามพยางเดียวว่า 'ฮวา' " นางตอบด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย

.

.

.

'ช.....ชื่อนี่มัน นามของเทพชัดๆ หรือว่า... นางจุติลงมาช่วยพวกเรา' ชายผู้หนึ่งคิดในใจอย่างตกตะลึงกับชื่อเทพที่คุ้นเคย และ เดินออกไปในสภาพที่ยังคงอึ้งอยู่

.

.

.

วันต่อมา

อวิ๋นฮวา ตระเวนหาของที่ชาวบ้านแต่ละคนที่ไม่ใช้แล้วมาบูรณะใหม่ ซึ่งชาวบ้านเมืองนี้ก็ใจดีไปหน่อย นำของที่ไม่ใช้แล้วมาให้อวิ๋นฮวา ซึ่งมาถึงตอนบ่าย อวิ๋นฮวาก็ขอคุณลุงนั่งเกวียนไปด้วย ซึ่งเขาก็อนุญาตให้ไปด้วย เพราะเป็นเส้นทางไปอารามของเธอ

ระหว่างที่นั่งเกวียนอยู่

"ปวดไหล่ชะมัดเลย"อวิ๋นฮวาพยายามบีบไหล่แก้ปวดแต่ มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

.

.

.

"ให้ข้าช่วยไหมล่ะ"

เสียงทุ้มต่ำได้เอ่ยขึ้นมา พร้อมกับโผล่ออกมาเหมือนอยากจะช่วยตัวเธอ

ชายที่เธอพบเห็นเป็นบุรุษวัย22ปี ผิวขาวผ่องแผ้ว สวมอาภรณ์ขาวทับด้วยผ้าคลุมสีเลือดหมา เดี๋ยวๆๆ สีเลือดหมูต่างหาก ดวงตาสีแดงเข้ม มีรอยเส้นสีแดงสดประดับอยู่ที่หางตา

"ไม่ล่ะ ขอปฏิเสธ^^ "

อวิ๋นฮวากล่าวปฏิเสธอย่างสุภาพ เพราะเกรงใจตัวเขา

"เอาเถอะน่า ข้าอุตส่าห์มีน้ำใจจะช่วยเจ้านะ อย่าแร้งน้ำใจแบบนี้สิ"

ชายหนุ่มพยายามอ้อนวอน

.

.

.

ทันใดนั้น ก็มีแรงบีบจากฝ่ามือของชายหนุ่ม ทำให้ตัวอวิ๋นฮวาตกใจเป็นอย่างมาก

"ก...ก็บอกว่าจะทำเองไง!!!!!"

อวิ๋นฮวากล่าวอย่างดุดัน พร้อมสีหน้าที่แดงก่ำ ก่อนที่จะดึงมือของชายหนุ่มออก

"ข้ากับเจ้ายังไม่รู้จักกัน จะทำแบบนี้มันไม่ได้นะ!"

"อุ้ป!.....ฮ่าๆๆๆๆ"

ชายหนุ่มหัวเราะก่อนที่จะพูดต่อ

"ข้าอยู่แซ่'หง' มีนามพยางค์เดียวว่า 'เยว่' ยังไงล่า ฮ่าๆๆๆๆ"

"แล้วเจ้าล่ะ" หงเยว่กลั้นขำก่อนเอ่ย

"ข้าชื่ออวิ๋นฮวา เป็นนักพรต"อวิ๋นฮวาตอบ ก่อนจะหันหน้าหนี

"แล้วคราวหน้าถ้าเจอกันอีกอย่ามาเล่นแบบนี้อีกล่ะ" นางพูดอีก

.

.

.

'เห้อ~ ยังไม่รู้สินะ'

.

.

.

เจ้าพิบัตภัยทั้งหก

"ว่าแค่พวกเราคุยกันตั้งนาน เจ้าไม่คิดจะหิวเลยเหรอ" หงเยว่กล่าว

"แล้วเจ้าจะกินไหมล่ะ" อวิ๋นฮวากล่าวพลางเอาซาลาเปาลูกสีขาวนวลออกมาให้

"แลัวเจ้าไม่หิวเหรออวิ๋นฮวา"

หงเยว่กล่าวด้วยความเห็นใจ

"นั่นสินะ ฮ่าๆๆๆ.."

เจ้านกพิราบ*หัวเราะ

^^^*นกพิราบคือฉายานางเอกคร่ะ^^^

"เอาสิ!"

หงเยว่แบ่งซาลาเปาครึ่งลูกให้อวิ๋นฮวา

"ว่าแต่ทางนี้ เจ้าจะไปที่ไหนรึ"

หงเยว่เอ่ยถาม

"อ้อ..อารามข้าเองน่ะ แล้วเจ้าล่ะ"

อวิ๋นฮวาเอ่ย

"ข้าก็ไปเรื่อยๆ อ่ะนะ " หงเยว่ตอบ

...หน้าอารามอวิ๋นฮวา...

"ขอบคุณนะคะคุณลุง!!"

อวิ๋นฮวาตะโกนขอบคุณ

"ว่าแต่เจ้าจะนอนที่ไหนล่ะ?"

อวิ๋นฮวาถาม พลางจะยกของที่หนักอึ้งไปด้วย

"เอ่อ..ข้างถนนมั้ง^^"หงเยว่ตอบพลางเกาหัว

"งั้น...ถ...ถ้าไม่รังเกียจ ก็นอนที่อารามข้าก็ได้นะ" อวิ๋นฮวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ติดอ่างเป็นพิเศษ

"ได้งั้นรึ?"

"เอาเถอะน่า ถือว่าข้ามีน้ำใจก็แล้วกันนะ"

"งั้นข้าช่วยยกของก็แล้วกัน" หงเยว่เอ่ยพลางยกของจากมือของเจ้านกพิราบ

"ขอบคุณนะ" อวิ๋นฮวาขอบคุณ

...ทันใดนั้น ก็มีเสียงคำรามดังมาจากข้างหลังของหงเยว่...

"ระวัง!!!"อวิ๋นฮวาชักกระบี่ที่ติดตัวเธอมานาน มาป้องกันหงเยว่ และเริ่มร่ายรำกระบี่จนเกิดเป็นเสียงที่ไพเราะ แต่ตัวเธอไม่รู้เลยว่า เจ้าของเสียงนั้น คือปีศาจที่ตัวเธอต้องกำจัดตามภารกิจที่ได้มอบหมายมา

แต่ว่า... มันหนีไปหน้าตาเฉย

"เอ้ะ!" อวิ๋นฮวากล่าวอย่างงุนงงและเก็บกระบี่เข้าฝัก ก่อนที่จะเข้าอาราม

'ข้าไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม หรือว่า..'

"กระบี่ของเจ้างดงามดีเนอะ ทำซะเจ้าปีศาจตัวนั้นหนีตายเลย" หงเยว่กล่าว

"งั้นขอบใจนะที่ชมข้าน่ะ แต่ว่ากระบี่ข้าไม่มีอะไรวิเศษเลยนะ"อวิ๋นฮวากล่าวอย่างงุนงง ก่อนที่จะเดินเข้าอาราม ไปอย่างเงียบๆ

"เอ่อ... รอข้าด้วยสิ "หงเยว่รีบวิ่งเข้าไปตาม

ภายในอาราม...

"เจ้าเป็นอะไรไหมอวิ๋นฮวา เธอดูเงียบๆนะ"หงเยว่ ถามด้วยด้วยความเป็นห่วง

"ข้า....มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกเจ้า ว่าที่แท้ข้าเป็นผู้ใด" อวิ๋นฮวาตอบอย่างสีหน้าที่เรียบเฉย

"องค์รัชทายาทของลุ่ยเค่า สตรีเทพนักรบ อวิ๋นฮวา.. คือนามของข้า ผู้คนต่างเลื่องลือกันว่าตัวข้านั้นจะมีเนื้อคู่เป็นราชามารทั้งนั้น ซึ่งหนึ่งในนั้นข้าก็รู้จักเขา.."

อวิ๋นฮวาอธิบาย

"ราชินีมาร..อวิ๋นเยว่.. นางคือน้องสาวของข้าเอง ส่วนที่เหลือข้ามิรู้" อวิ๋นฮวากล่าว

"งั้นให้ข้าช่วยอธิบายไหม?" หงเยว่ถาม

อวิ๋นฮวาพยักหน้า

"หกพิบัติภัยของโลกา มีมารทั้งหมดห้าคน และกึ่งเทพกึ่งมารอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ระดับซงทั้งหมด

ซึ่งมีได้แก่

หนึ่ง ผู้ควบคุมความตาย เฮยเทียน

สอง บุปผาอาบโลหิต หมิงฮวา(อวิ๋นฮวาชาติก่อน)

สาม เทพีแห่งความเจ็บป่วย อวิ๋นเยว่

สี่ จันทราสีเลือด หงเยว่(พระเอก)

ห้า หมั่นโถวอาบยาพิษ* หลี่อ้าย

^^^คิดได้ไงวะ*^^^

และสุดท้าย

คำสาปของใบเฟิง เฟิงชิง

ซึ่งมีอำนาจน้อยกว่าสี่ผู้ทำลาย ที่อยู่ระดับเจวี๋ย ได้แก่

ราชามารชีหรง

ราชามารไป๋อู่เซี่ยง

ราชามารฮวาเฉิง

ราชามารเฮ่อสวน"หงเยว่อธิบายย่างละเอียดยิบ

แต่ใบหน้าของอวิ๋นฮวานั้นมีสีหน้าที่ตกใจ และมือของเธอนั้นก็กำแน่น

เพราะหนึ่งในนั้นมีบุคคลที่ตัวเธอนั้นเคยเป็นมาก่อน และคอยสังหารเธอ

แล้วเธอนั้นก็ถอนหายใจก่อนที่จะไปทางเก้าอี้ไม้ แล้วฟุบตัวก่อนเอ่ยออกมาว่า"เจ้าไปนอนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะวาดรูปองค์รัชทายาทอวิ๋นฮวา"

"เรื่องวาดรูปให้ข้าช่วยไหมล่ะ"หงเยว่ถาม

"ไม่ล่ะ ข้ากลัวท่านจะวาดรูปท่านไม่เป็นน่ะสิ" อวิ๋นฮวากล่าวก่อนที่จะชี้นิ้วไปทางเสื่อ

"เจ้านอนที่นั่นสิ เดี๋ยวข้านอนที่นี่เอง"อวิ๋นฮวากล่าวต่อ

"ขอบใจเจ้ามากนะ"หงเยว่ขอบคุณ

แต่ความเงียบงันก็เกิดขึ้น อวิ๋นฮวาได้หลับไปก่อน หงเยว่จึงได้นำเสื้อคลุมของเขามาห่มให้อวิ๋นฮวา ก็เริ่มวาดเทวรูปที่อวิ๋นฮวาได้กล่าวไว้ จนเวลาผ่านไปถึง2ชั่วยาม จึงได้เป็นภาพองค์รัชทายาทอวิ๋นฮวา ที่ถือกระบี่ลวดลายบุปผา และดอกไม้ อาภรณ์สีฟ้าอ่อนตัดกับลวดลายสีทองและแดงเข้ม สวมหน้ากากสีเงิน ท่ามกลางกลีบบุปผาที่ร่วงโรยมา หงเยว่จึงได้ตั้งรูปภาพ และเตรียมตัวนอน...

...เช้าวันต่อมา...

อวิ๋นฮวาได้ตื่นขึ้นมา และรู้สึกถึงความอบอุ่นจากเสื้อคลุมที่หงเยว่เป็นคนคลุมให้ และมองไปทางที่หงเยว่นอนอยู่ จึงได้เอาเสื้อคลุมสีแดงเลือดหมู ไปคลุมให้คืน ก่อนที่จะออกไปข้างนอกเพื่อสูดอากาศที่สุดจะบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด ก่อนที่จะเริ่มทำอาหารโปรดของเธอ...

...จนอวิ๋นฮวาก็ทำอาหารจนเสร็จ....

...หงเยว่ก็ได้ตื่นพอดี...

"เอ้ะ! อวิ๋นฮวา ทำไมตื่นเช้าจัง"หงเยว่ถาม

"นี่คือเช้ารึ นี่มันจะเก้าโมงแล้วนะ!"อวิ๋นฮวาเผลอตะคอกใส่หงเยว่โดยมิได้ตั้งใจ

"แล้วก็ขอบคุณนะที่วาดรูปให้นะ ภาพที่เจ้าวาดน่ะงดงามมากเลยล่ะ"

"ไม่ต้องขอบคุณหรอก ข้าเต็มใจน่ะ"หงเยว่ตอบ

แล้วสายลมก็พัดผ่านทางหน้าต่างทำให้ผมของหงเยว่นั้นยุ่งขึ้นกว่าเดิม

"ให้ข้าช่วยไหมมัดผมไหมล่ะ"อวิ๋นฮวานั้นค่อยๆลูบผมของหงเยว่ แล้วพาหงเยว่ไปมัดผมที่ริมแม่น้ำ เพราะแดดของหมู่บ้านแห่งนี้ ค่อนข้างเบา อากาศเย็นสบายเป็นพิเศษ

อวิ๋นฮวาค่อยๆหวีผมให้หงเยว่เบาๆ พลางแบ่งผมให้เป็นสามส่วน แล้วก็เริ่มเปียผมให้ จนหงเยว่ก็ชวนคุยเพื่อสร้างเสียงหัวเราะของอวิ๋นฮวา จนเปียผมเสร็จ

"ข้าขอตัวประเดี๋ยวนะ" อวิ๋นฮวาเดินเข้าไปที่อาราม และอีกสักครู่ ก็มาพร้อมกับอาหารที่ทำก่อนที่หงเยว่ตื่น แล้วผีเสื้อเงินของฮวาเฉิงก็บินผ่านมา แล้วมาเกาะที่นิ้วของอวิ๋นฮวา แล้วอวิ๋นฮวาก็คำนับต่อผีเสื้อเงิน เพราะอวิ๋นฮวารู้เลยว่าผีเสื้อที่เกาะมือเธอนั้น คือราชามารฮวาเฉิง ก่อนที่ผีเสื้อเงินทั้งหลายเริ่มรวมตัวกันเป็นร่างของราชามารฮวาเฉิง ที่ถือร่มสีแดงสด กับ ดาบโค้งเอ้อร์หมิง

"ท่านเซี่ยอวี่ทั่นฮวา ฮวาเฉิง" อวิ๋นฮวาคำนับ

"เป็นยังไงหรือขอรับท่าเฉิงจู่"หงเยว่ทำตาม

"พวกเจ้าทั้งสองมาทำอะไรที่ข้างริมน้ำกันน่ะ"เฉิงจู่เอ่ยถาม

"มาทักทายกันเจ้าค่ะ พอดีเจอกันที่ริมน้ำข้างอารามของข้า"อวิ๋นฮวากล่าวพลางชี้ไปทางอารามของเธอ

"เจ้าคือคนเดียวกันกับ หมิงฮวา ใช่รึไม่"เฉิงจู่ถามอีกครั้ง

.....

อวิ๋นฮวาเงียบจัด

"หมิงฮวา ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า"หงเยว่และฮวาเฉิงกล่าวพร้อมกัน

ดวงตาของอวิ๋นฮวานั้นได้มีเลือดไหลออกมาที่ดวงตาทั้งสองข้าง จากอาภรณ์ฟ้าอ่อนสู่น้ำเงินเทา ทำให้หงเยว่ตกใจเป็นอย่างมาก และไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะมีเทพตนที่สอง ได้อยู่ในระดับซยงแบบอวิ๋นฮวา

†---------ตัดนิดๆชีวิตสดใส-------†

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!