ก่อนอื่นต้องขอทักทายและสวัสดีทุกท่านที่เข้ามารับชมนะคะ ตอนนี้นิยายที่กระต่ายเคียงจันทร์แต่งขึ้นมามีทั้งหมด24เรื่องแล้วซึ่งจะมีให้อ่านในแอพเมบอีบุ๊ค และเรื่องล่าสุดที่จะนำมาเสนอนี้คือ Friend with benefits เพื่อน ไม่ ซื่อ เรื่องราวจะเป็นแบบไหนลองมารับชมกันนะคะ
อ่านตรงนี้ก่อนนะคะอย่าเพิ่งเลื่อนผ่าน ไรต์ขออนุญาตแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนนะคะ เรื่องนี้จะลงให้อ่านแค่30%เท่านั้นเผื่อใครที่สนใจสามารถไปอุดหนุนผลงานฉบับสมบูรณ์ได้ที่แอพmebนะคะ ใครไม่ชอบก็ผ่านได้จ้า ลองรับชมตัวอย่างกันก่อนนะคะทุกท่าน รักๆๆ
เกริ่นนำเรื่อง
แค่คำว่าเพื่อน ระหว่างเพื่อนซื่อบื้อ และ
เพื่อนที่คิดไม่ซื่อ
ปลื้ม ปวริศร์ เกียรติบวรสกุล (เพื่อนคิดไม่ซื่อ)
ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ดีกรีเจ้าของบริษัทส่งออกขนาดใหญ่ของประเทศ
เขาได้รับตำแหน่งสืบทอดมาจากครอบครัว ได้ขึ้นเป็นผู้บริหารในวัยที่ยังหนุ่ม
อายุของเขาเพียงแค่ยี่สิบปลายๆ แค่นั้น
หนูแดง ดาวิกา วรธีรนนท์ (เพื่อนซื่อบื้อ)
เธอกับเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมตอนปลาย เธอคิดแค่ว่าปลื้มดีกับเธอ
และช่วยเหลือเธอได้ดีมาตลอด ไม่เคยที่จะคิดหรือจะพูดกันตรงๆ
เธอไม่กล้าคิดอะไรกับเขามากไปกว่านั้น
เพราะรอบกายของปลื้มก็มีแต่สาวสวยเข้าหาไม่เคยขาด
One night stand. หรือ Friend with benefits.
ตัวเลือกที่เธอได้เสนอให้กับเขา
ผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอมาตั้งแต่มัธยมตอนปลาย
ถึงตอนนี้เขาและเธอคบกันมากว่าสิบปี
เพราะการพลาดท่าเสียทีที่ปลื้มเองก็เต็มใจให้มันพลาดเอง หนูแดงเลยเป็นฝ่ายเสนอข้อเรียกร้อง
เพราะเขาเป็นเพื่อน ซึ่งเธอเองไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขาไปมากกว่านั้น Friend with benefits.
จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเขาเพราะหนูแดง คือผู้หญิงที่เพื่อนอย่างเขาคิดเกินเลยกับเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
++++++++++++++++++++++++++++++
“เรา..อึก.. มาลองมีอะไรกันดูมั้ย” ร่างกายที่ยังโอนเอียง เอ่ยเสียงเรียบไปทางผู้ชายตรงหน้า
แววตาเธอมีแต่ความมุ่งมั่น
“หนูแดง!” เสียงเรียกที่เอ่ยออกไปด้วยความตกตะลึง
“ฉันแค่อยากรับรู้ความรู้สึกแบบนั้น
ถ้าคนแรกของฉันมันเป็นแก ฉันจะได้ไม่คิดอะไรมาก” มือไม้อ่อนที่ชี้ไปทางเพื่อนสนิทแทบจะไม่ตรง เพราะความมึนเมา
“หนูแดง บอกไปแล้วนะว่าเสียไปแล้วมันจะเอากลับมาไม่ได้” น้ำเสียงหนักแน่นรวมถึงสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังบอกกับเธอ
“แกไม่อยากภูมิใจเหรอ
ก็ไหนบอกว่าได้แล้วจะภูมิใจ” คนเมายังคงวอแว
แต่ถ้าจะถามเขาไปแบบนั้น
ในใจของเขาคงอยากจะตอบว่ามันโคตรจะภูมิใจเลยถ้าเป็นแบบนั้นได้จริงๆ
“แต่เราเป็นเพื่อนกัน” เขาแค่อยากจะย้ำ กลัวว่าคนเมาไม่นึกถึงเรื่องนี้
“Friend with benefits. เพื่อนกัน
มีอะไรกันได้ถมเถไป” ข้ออ้างอีกข้อที่เธอยกขึ้นมาบอกเขา
ก๊อกๆ
ใบหน้าหล่อเหลาฉายรอยยิ้มแก้มแทบปริ
เมื่อปวริศร์ได้เห็นร่างบางตรงหน้า ดาวิกา
เพื่อนสนิทของเขาเดินออกจากห้องมาพร้อมกับชุดราตรียาวสีม่วงอ่อนสวยสง่า
ใบหน้าขาวเนียนมีเครื่องสำอางแต่งแต้มยิ่งทำให้เธอดูสวย
ปวริศร์ต้องตกตะลึงไปกับรูปร่างสวย
“มองอะไรเล่า” ชายหนุ่มชะงัก
หลังจากที่เขาได้ยินเสียงเอ่ยถามจากหญิงสาวตรงหน้า
“สวยนะเนี้ย” เขาเอ่ยชม
พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้เธอไปอีกหน
“ก็สวยทุกวันปะ
เพิ่งจะรู้หรือไงว่าหนูแดงน่ะสวย” เขาหัวเราะชอบใจกับคำบอกของเธอ
“ปะ ไปกัน สายแล้ว”
เขายื่นแขนให้เธอได้ควง
“ทำไมเราต้องไปด้วยกัน แล้วสาวๆ
ที่แกควงอยู่ไม่งอนตุบป่องกันแย่หรือแบบนี้ที่เห็นฉันควงแกแทน”
เธอยื่นแขนไปคล้องแขนเขาไว้ พร้อมเสียงบ่นพึมพำที่เอ่ยบอกกับเขา
“เพราะความเหมาะสม”
ดาวิกาเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึงด้วยความประหลาดใจเพราะคำตอบที่ออกมาแบบนั้น
“พูดแบบนี้สาวๆ มาได้ยินก็คงจะเสียใจกันหมด”
เขาไม่ได้ตอบกลับอะไรเธอ นอกเสียจากการยิ้มย่องให้กับเธอ
งานแต่งงานของพนักงานในบริษัท ทั้งสองได้รับเชิญให้มาเป็นแขกพิเศษในงาน
ปวริศร์เปิดประตูรถให้กับสาวสวยที่เขาควงมาร่วมงาน ก่อนที่จะเดินควงกันเข้างานไปพร้อมกัน
ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูโดดเด่นของทั้งคู่
เขาและเธอจึงกลายเป็นจุดสนใจทันทีที่เดินเข้างาน
“อะไรกัน
นี่ไม่ใช่คู่บ่าวสาว ถ้าจะมองกันขนาดนี้” ดาวิกายังคงบ่นไม่หยุด
“ก็บอกแล้วไงวันนี้แกสวย
เขามองคนสวยก็ไม่เห็นจะแปลก”
“ปลื้ม
ถ้าแกไม่ได้สายตาสั้นจนมองไม่เห็น แกจะเข้าใจว่าสาวๆ ในงานเขามองแกอยู่”
“วันนี้ปลื้มมีหนูแดงเป็นคู่
ไม่ว่าใครจะมองเอาเป็นว่าปลื้มจะเมินละกัน”
มือน้อยยกขึ้นทาบอก
ประหลาดใจขึ้นมาอีกครั้งกับคำพูดของเพื่อนสนิท
“ทำเกินไปนะ ปลื้ม
ปวริศร์ไม่เคยปฏิเสธสาวๆ ที่เข้าหา”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”ใบหน้าฉายแววฉงน ถามกลับไปทางหญิงสาว
เพราะสงสัยว่านิสัยที่เธอมองเขามันเป็นไปทางนั้น
“จ้ะ
ไม่รู้ตัวเหรอถึงถาม” มุมปากเขาปรากฏรอยยิ้มขึ้นทันทีที่ได้ฟังคำบอกจากเธอ
“คงต้องเลิกนิสัยแบบนี้ได้แล้วมั้ง” เขาพูดแกมหยอกไปทางเพื่อนสนิท
“หนูแดง” ดาวิกายิ้มตอบรับให้กับคนที่เข้ามาทักทาย
ธนา แฟนหนุ่มคนปัจจุบันของดาวิกา
ทั้งสองเพิ่งจะคบหากันได้ไม่กี่เดือน เขาเป็นลูกค้าที่ใช้บริการการขนส่งสินค้ากับทางบริษัทบวรกรุ๊ป ที่ปวริศร์เป็นประธานบริษัทอยู่ตอนนี้
ดาวิกามีตำแหน่งถึงผู้จัดการ
เธอได้ตำแหน่งนี้มาเพราะเส้นสายก็คงไม่ผิด เพราะพนักงานคนเก่าที่ออกไปปวริศร์จึงแต่งตั้งให้เพื่อนสนิทของเขารับตำแหน่งนี้แทน
“ขอโทษทีนะครับที่ให้ควงเลขามาแทน” ปวริศร์บอกกล่าวไปทางธนา
เพราะคนที่เขาควงอยู่ตอนนี้คือเลขาสาวสวยของเขาเอง
แทนที่จะเป็นแฟนสาวอย่างดาวิกามากกว่า
“ไม่เป็นไรหรอกครับ
ผมเข้าใจ” มุมปากปวริศร์ค่อยๆ เหยียดออกเป็นรอยยิ้มให้กับคำตอบของชายหนุ่มที่ยืนตรงหน้า
“หาที่นั่งคุยกันดีกว่ามั้ยคะ
ยืนคุยกันแบบนี้ดูเด่นดีจัง” ลินดาเลขาสาวของธนาบอกกับทุกคน
พิธีของงานได้ล่วงเลยไปตามเวลา ปวริศร์สอดส่ายสายตามองไปยังภายในงานรอบๆ
“ดูเหมือนแกสนใจงานนี้จัง” ดาวิกาที่หันมองเขาและสะดุดสายตาเห็นเข้ากับการตั้งใจมองรอบงานของเขา
เธอจึงเอ่ยถาม
“อืม งานดูดี
แต่เล็กไปสักหน่อย”
“ก็พอดีนะ งานเล็กๆ แบบนี้แหละน่ารักอบอุ่นดีออก” ชายหนุ่มหันกลับมองเธอพร้อมสีหน้าประหลาดใจกับคำบอกกล่าวนั้นของเธอ
“ชอบงานแบบนี้เหรอ” ปวริศร์ถามเธอกลับอีกครั้ง
“อืม มันดูเข้ากับฉันมะ”
“ไม่รู้สิ
จะได้แต่งเมื่อไหร่เถอะ”
“นี่ๆ หนูแดงน่ะมีแฟน
แกเถอะจะได้แต่งเมื่อไหร่ ยังควงคนนั้นคนนี้อยู่เลย”
“พูดแบบนี้
อยากแต่งแล้วงั้นเหรอ แน่ใจนะว่าจะจริงจังกับผู้ชายคนนั้น” ดาวิกานิ่งค้างไปกับคำถามของเขา
“ไปห้องน้ำกันนานจังเลยเนอะแกว่ามะ” เขาเอ่ยถามเธอ พร้อมใบหน้าฉายแววเจ้าเล่ห์ที่ส่งไป
“ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ” เธอลุกออกจากเก้าอี้ไปทันที หลังจากบอกกับเพื่อนของเธอ
ปวริศร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ระบายทั่วใบหน้าที่ได้เห็นอาการของเพื่อนสนิทเขาแบบนั้น
ตั้งแต่ดาวิกาตัดสินใจคบกับธนาเขาก็ร้อนรน เพราะผู้ชายมันก็มักจะดูกันออก
ซึ่งเขาเองก็เพลย์บอยตัวพ่อคนหนึ่ง
ย่อมรู้ดีว่าผู้ชายอย่างธนาไม่ค่อยจะจริงใจกับใครเท่าไหร่
มันคงจะเป็นอย่างเช่นสำนวนที่ว่า ผีย่อมเห็นผี เขาไม่ได้ให้ร้าย
แต่มักจะบอกและพาเพื่อนที่แสนจะซื่อบื้อไปดูและเห็นอะไรๆ ที่จะทำให้เธอตาสว่างอยู่บ่อยครั้ง
รวมถึงตอนนี้ที่เธอเดินไปห้องน้ำ เพราะแฟนของเธอทั้งเลขาสาวหายกันไปด้วยกันนานแล้ว
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!