NovelToon NovelToon

นิยายเรื่อง ประชันยุทธสะท้านฟ้า

บทที่ 1 การตื่นของวิญญาณยุทธ์

ในแผ่นดินหมอกคราม หากผู้ใดปรารถนาจักกลายเป็นยอดยุทธ์ ผู้นั้นจักต้องปลุกวิญญาณยุทธ์แห่งตนขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับฟ้าดิน และบำเพ็ญตบะโดยดูดซับไอปราณฟ้าดินแก่ตนวิญญาณยุทธ์มีมากมายมหาศาลมิอาจคณานับ แบ่งเป็น ฟ้า ดิน ดำ เหลือง แต่ละระดับแบ่งย่อยเป็นอีกสิบขั้นยิ่งวิญญาณยุทธ์สูงส่ง ผู้นั้นจักบำเพ็ญตบะได้อย่างรวดเร็ว แข็งแกร่งและมีศักยภาพ ให้โอกาสที่จะประสบความสำเร็จเป็นจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคตก็ยิ่งมากขึ้นในตอนนี้ สำนักฉินกำลังประกอบพิธีปลุกวิญญาณยุทธ์ขึ้น ณ เมืองหลินซุ่ย ในราชอาณาจักรลั่วเหอศิษย์คนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นพิธีสีดำสนิท ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความภคภูมิใจ โดยด้านล่างของแท่นพิธีถูกรายล้อมไปด้วยศิษย์น้อยใหญ่และผู้อาวุโสพรรคตระกูลฉินลูกศิษย์รายนี้มีนามว่าฉินฉางคง เป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสใหญ่พรรคตระกูลฉินและขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะรองลงมาจากชายน้อยฉินหนานด้วยเหตุนี้ บรรดาลูกศิษย์และผู้อาวุโสที่อยู่ทั่วสารทิศต่างชะเง้อมองด้วยใบหน้าที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อในตอนนั้นเอง แท่นพิธีสีดำสนิทก็เริ่มหมุนไปรอบๆ ลำแสงสีขาวเริ่มสาดส่องออกมาราวกับภาพไม่ใช่ความจริง ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าดั่งมีอสรพิษตัวใหญ่หลายตัว กำลังพุ่งเข้าสู่ร่างของฉินฉางคง และสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามีบางสิ่งกำลังเคลื่อนตัวอยู่ภายในร่างเขาโฮก!ทันใดนั้น ก็มีเสียงคำรามอันน่าเกรงขามของสัตว์ดังออกมาจากภายในตัวของฉินฉางคงและจู่ๆก็มีลำแสงสีเหลืองพุ่งออกจากด้านหลังของฉินฉางคง ในขณะที่ลำแสงนั้นเริ่มแตกออกเป็นห้าแฉก เงาของเสือขาวที่ดุร้ายขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นมา ราวกับเป็นการมาของราชันแห่งสรรพสัตว์ ลมหายใจอันดุร้ายของมันแผ่ขยายไปทั่วบริเวณ“ ... ”สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง ไม่มีใครคาดถึงผลลัพธ์เช่นนี้วิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้น5 นับว่าเป็นวิญญาณยุทธ์ของผู้มีพรสวรรค์อันดับต้นๆของเมืองหลินซุ่ย ซึ่ง3ปีอาจจะมีปรากฏมาสักครั้ง และในบรรดาผู้ที่ครอบครองวิญญาณยุทธระดับเหลืองขั้น5ขึ้นไป จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในอนาคตสูง นับเป็นวิญญาณยุทธ์ที่หายากมากพวกเขาต่างคิดว่าฉินฉางคงอย่างมากสุดจะปลุกวิญญาณยุทธ์ได้แค่วิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้น4เพียงเท่านั้นใบหน้าของฉินฉางคงแสดงให้เห็นความปลื้มปีติดีใจ เพราะตัวเขาเองก็นึกไม่ถึงว่าจะสามารถปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้น5 ขึ้นมาได้เมื่อเขาเห็นถึงแววตาที่ตกตะลึงของบรรดาลูกศิษย์และผู้อาวุโสที่อยู่ในบริเวณนั้น ฉินฉางคงก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนอย่างทะนงตน และกวาดสายตาไปยังที่ศิษย์ที่ดูธรรมดาๆ คนหนึ่งด้วยแววตาเต็มไปด้วยความท้าทายศิษย์คนนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะที่สุดในพรรคตระกูลฉิน นามของเขาคือ ฉินหนาน“เอาหละ คนต่อไป ฉินหนาน!” ผู้อาวุโสผู้ดำเนินพิธีรวบรวมสติกลับมา และมองไปยังฉินหนานด้วยสายตาที่คาดหวังตอนนี้ ฉินฉางคงอาจจะถือว่าเป็นอัจฉริยะที่สุดในสำนักฉิน ฉะนั้นการปลุกวิญญาณยุทธ์ของคนที่มีพรสวรรค์ยิ่งกว่าอย่างฉินหนานก็คงไม่ด้อยไปกว่าฉินฉางคงเป็นแน่หากเป็นเช่นนั้น เท่ากับว่าเราจะมีสุดยอดอัจฉริยะถึง2คน และในอนาคต พรรคเราจะต้องรุ่งเรื่องอย่างไม่เคยมีมาก่อนเป็นแน่เป็นไปตามคาด หลังจากผู้อาวุโสผู้ดำเนินพิธีตระโกนเรียกชื่อนี้ขึ้นมา บรรดาศิษย์และผู้อาวุโสต่างพากันแตกตื่น สายตาทุกผู้ล้วนจับจ้องไปที่วัยรุ่นที่ดูธรรมดา ในสายตาพวกเขาต่างสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังที่มากกว่าฉินฉางคงก่อนหน้านี้เสียอีกฉินหนานไม่เพียงแต่เป็นศิษย์ในพรรคตระกูลฉิน แต่เขายังเป็นตำนานของเมืองหลินซุ่ยอีกด้วยฉินหนานเป็นบุตรชายของผู้ก่อตั้งพรรคตระกูลฉิน ในวัยเด็ก อายุ6ปีก็เริ่มเรียนหนังสือ อายุ8ปีก็ร่ำเรียนต่อในเมืองหลินซุ่ย เมื่ออายุ9ปีก็เลิกเรียนและหันมาฝึกวิทยายุทธ์ อายุ10ปีเขาสามารถล่าเสือได้ด้วยมือเปล่า อายุ12ปีเริ่มเรียนวิชาเพลงดาบ อายุ13ปีก็สำเร็จวิชายุทธ์10วิชา และเมื่อตอนอายุ14ปี แม้เขาจะถูกฟ้าผ่าแต่ทั้งตัวกลับไร้ซึ่งบาดแผล จนถึงอายุ16ปีสามารถคิดค้นวิชาเพลงดาบขึ้นมาเป็นของตัวเอง และถูกจัดเป็นวิชายุทธ์ขั้นกลาง จนทำให้ทั้งเมืองหลินซุ่ยต้องตกตะลึงกันทั่วหน้า

บทที่ 2 การตื่นของวิญญาณยุทธ์ (2)

เคยมีผู้บำเพ็ญตบะจนบรรลุขั้นราชันย์วิญญายุทธ์ ได้ยินถึงเรื่องราวของฉินหนาน ก็กล่าวขึ้นมาทันทีว่า “พรสวรรค์ของเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ การตื่นขึ้นของวิญญาณยุทธ์ของเขาจะต้องเป็นวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้น5 หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นได้”เมื่อราชันย์วิญญายุทธ์พูดออกไปเช่นนั้น ก็ทำให้ชาวเมืองหลินซุ่ยแตกตื่น และสรรเสริญฉินหนานให้เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเมืองตั้งแต่วิญญาณยุทธ์ยังไม่ตื่นฉินหนานสวมชุดคลุมสีดำสนิทตัดกับสีผิวที่ขาวซีดของเขา มองดูแล้วเหมือนคนอ่อนแอขี้โรค ถึงแม้ทุกสายตาต่างจับจ้องมาที่เขากำลังเดินขึ้นไปบนแท่นพิธี แต่สีหน้าของเขากลับสุขุมนิ่ง ไม่ตื่นตระหนก และไร้ซึ่งความทะนงตนแต่อย่างใด“เฮ้อออ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง.....”

ฉินหนานพูดความในใจออกมา จากนั้นพลางสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งเฮือก ผู้คนต่างจ้องมองเขาเริ่มนั่งขัดสมาธิ และหลับตาลงจู่ๆก็มีแสงสีขาวส่องขึ้นมาจากแท่นพิธีพุ่งเข้าสู่ร่างกายฉินหนานอย่างไม่ขาดสายในขณะนี้ บรรดาศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหลายต่างพากันนั่งไม่ติด และลุกขึ้นมาเมื่อเห็นวิญญาณยุทธ์ที่ฉินหนานปลุกขึ้น"ข้ารู้สึกว่าวิญญาณยุทธ์ที่นายน้อยฉินหนานปลุกขึ้น มันจะต้องไม่ธรรมดา!”"ใช่ เพราะขนาดคุณชายฉินฉางคงยังสามารถปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้น5 ขึ้นมาได้ นายน้อยฉินหนานมีพรสวรรค์มากกว่าเขา ยังไงก็ต้องปลุกวิญญาณยุทธ์ที่สูงกว่าได้อย่างแน่นอน!”"หึ แต่สูงกว่าวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้น5 ในประวัติศาสตร์ของพรรคตระกูลฉินยังไม่เคยปรากฏเลยสักคน”

"หุบปากไปให้หมด อย่ารบกวนนายน้อยฉินหนาน ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าจะรับผิดชอบกันได้ไหม?”“……”บรรยากาศรอบๆเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากศิษย์อายุน้อยที่นั่งอยู่อย่างนอบน้อมแล้ว บรรดาผู้อาวุโสทั้งหลายต่างพากันพูดชื่นชมอย่างไม่ขาดสาย ในใจล้วนเต็มไปด้วยความคาดหวังเมื่อฉินฉางคงเห็นบรรยากาศเช่นนี้ ความปลื้มปีตีดีใจและภาคภูมิใจที่ตัวเองสามารถปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่5ขึ้นมาได้ก่อนหน้านี้ ก็เหมือนกับถูกทำลายลงในพริบตา จนสีหน้าแทบดูไม่ได้“หึ วิญญาณยุทธ์เป็นสิ่งที่ฟ้าประทาน อย่างอื่นนอกเหนือจากนั้นล้วนไม่ใช่” ฉินฉางคงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเจ้าคิดว่าวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่5 มันคืออะไรกัน คิดว่าอยากจะปลุกเมื่อไหร่ก็ปลุกได้หรือ? ก็ขออย่าให้วิญญาณยุทธ์ที่นายน้อยฉินหนานปลุกขึ้น

มาเป็นแค่วิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่2ก็แล้วกัน”คำพูดที่เขาพูดมาเมื่อกี้ ทำให้บรรดาศิษย์และผู้อาวุโสต่างมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ความชิงชังแต่บรรดาศิษย์และผู้อาวุโสไม่ได้กล่าวอะไร เพราะอย่างไรตอนนี้อัจฉริยะอย่างฉินฉางคงก็ครอบครองวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่ 5 แล้ว นั่นก็ทำให้สถานะเขาในตอนนี้ไม่ธรรมดาฉินฉางคงที่ถูกมองด้วยความชิงชัง แม้จะทำให้อารมณ์เสีย แต่ใจก็เย็นลงไม่น้อย พรสวรรค์ของฉินหนานแสดงออกมาตั้งแต่วัยเด็ก แม้แต่ราชันย์วิญญายุทธ์ยังประหลาดใจ ฉะนั้นวิญญาณยุทธ์ที่ปลุกขึ้นมา จะเป็นวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่3ได้ยังไงเมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉินฉางคงก็จับจ้องไปที่แท่นพิธีอย่างเคียดแค้น“ฉินหนาน แกจะต้องปลุกวิญญาณยุทธ์ที่ต่ำกว่าวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่5ของข้า อย่างน้อยที่สุดแกก็อย่าปลุกวิญญาณยุทธ์ที่สูงกว่าระดับเหลืองขั้นที่5ขึ้นมาเลย”ในใจของฉินฉางคงอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งขึ้นมาในตอนนั้นเอง ลำแสงสีขาวที่ล่องลอยอยู่ด้านบนแท่นพิธีเริ่มมากขึ้นภายใต้แสงสีขาวศักดิ์สิทธฺ์เหล่านี้ ใบหน้าของฉินหนานที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นพิธีเริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็มีเสียงแหลมกังวานดังออกมาจากร่างกายที่ดูอ่อนแอของเขาทุกคนแทบจะหยุดหายใจอย่างพร้อมเพรียงกันพอได้ยินเสียง ปั้ง ดังระเบิดออกมา ก็มีลำแสงสีเหลืองหนึ่งสายพุ่งออกมาจากภายในตัวฉินหนานอย่างฉับพลัน ท่ามกลางสายตาที่ตื่นเต้น ลำแสงสีเหลืองพุ่งออกมาก็หยุดชะงักลง จากนั้นดาบขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงก็ค่อยๆปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงสว่างสีเหลืองในตอนนั้น บรรดาศิษย์และผู้อาวุโสต่างแน่นิ่งลงลำแสงสีเหลืองหนึ่งสาย? วิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่1อย่างนั้นหรือ ถือว่าเป็นวิญญาณยุทธ์ชั้นต่ำที่สุดเลยนะ? เป็นไปได้อย่างไร?ขนาดฉินฉางคงที่สาปแช่งก่อนหน้านี้ยังตกตะลึงเช่นกัน เพราะตัวเขาเองก็นึกไม่ถึงว่าอัจฉริยะอันดับ1ของเมืองหลินซุ่ย จะปลุกวิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่ 1 ที่ถือว่าเป็นวิญญาณยุทธ์ไร้ต่ามากที่สุดเลยก็ว่าได้!ฉินหนานที่อยู่บนแท่นพิธี ค่อยๆลืมตาทั้งสองข้างขึ้น เขาเห็นสีหน้าบรรดาผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันซบเซา“ดาบแห่งเปลวเพลิง วิญญาณยุทธ์ระดับเหลืองขั้นที่ 1.....”ฉินหนานพูดขึ้นในใจ จากนั้นก็กำหนดจิตเรียกเก็บดาบแห่งเปลวเพลิงที่ลอยอยู่เข้ามาไว้ในร่างกาย ตัวเขาเองกลับไม่รู้เสียใจและผิดหวังแม้แต่นิด ที่มันเป็นวิญญาณยุทธ์ชั้นต่ำ ในทางกลับกัน ดวงตาของเขากลับส่องประกายแววตาแห่งความสุขออกมา แต่เขาก็รีบเก็บอารมณ์นั้นไว้อย่างรวดเร็ว

บทที่ 3 จิตวิญญาณแห่งเทพเจ้าสงคราม (1)

บรรยากาศโดยรอบเงียบงันไปชั่วอึดใจฉินฉางคงเป็นคนแรกที่ได้สติ พลันหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง “ฮ่า ๆ ฉินหนาน คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะปลุกจิตวิญญาณนักรบระดับเหลืองชั้นที่หนึ่งเท่านั้น! อัจฉริยะอะไรกัน ตอนนี้ก็เป็นได้แค่เศษสวะที่ไร้ค่าเพียงเท่านั้น ข้าต่างหากที่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของตระกูลฉิน ยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งของเมืองหลินสุ่ยจิตวิญญาณนักรบระดับเหลืองชั้นที่หนึ่ง ท่ามกลางจิตวิญญาณนักรบทั้งหมด ถือว่าเป็นระดับต่ำที่สุด สามารถเรียกได้ว่าเป็นจิตวิญญาณนักรบขั้นสวะแม้ในหมู่ตระกูลฉินด้วยกันเองก็ตาม ผู้ที่ปลุกจิตวิญญาณนักรบระดับเหลืองชั้นที่หนึ่งขึ้นมาถือว่ามีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย ส่วนใหญ่มักเป็นระดับเหลืองชั้นที่สองขึ้นไปทั้งนั้น

เสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งและเสียดรูหูของฉินฉางคง ปลุกให้ผู้คนรายรอบที่แห่งนั้นพลันรู้สึกตัวขึ้นมาทันทีลูกศิษย์ รวมถึงบรรดาผู้อาวุโสทั้งหลาย ณ ที่นั้น สายตาที่มองไปยังฉินหนานพลันเปลี่ยนไป จากแต่เดิมที่เคยนับถือ คาดหวัง ตอนนี้แปรเปลี่ยนไปเป็นความผิดหวังและดูถูกอย่างยิ่งยวด“ดันเป็นจิตวิญญาณระดับเหลืองชั้นที่หนึ่งเสียได้ บัดซบ นี่มันสวะชัดๆ“เสียดายความรู้สึกนัก อัจฉริยะอันดับหนึ่งอะไรกัน มันก็แค่เพียงสวะที่ได้จิตวิญญาณนักสู้ระดับเหลืองชั้นหนึ่งเท่านั้น”“ ถูกต้องแล้ว พี่ฉินฉางคงต่างหากที่เป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่ง ส่วนฉินหนานนั้น น่ากลัวจะเป็นได้แค่สวะอันดับหนึ่งของตระกูลฉินเท่านั้น”

“……”ในโลกยุทธภพ ผู้แข็งแกร่งจะเป็นที่เคารพนับหน้าถือตา ปฏิกิริยาของคนเหล่านั้นจึงไม่แปลกเลยจนนิดเดียว ในทางกลับกันกลับรู้สึกได้ว่ามีความเกลียดชังแอบแฝงอยู่ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ฉินหนานแสดงพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งออกมาให้เห็นตั้งแต่เด็ก พวกเขาล้วนคาดหวังไว้กับฉินหนานมากเกินไป แต่ใครจะรู้เล่าว่าบทสรุปจะออกมาเป็นเช่นนี้ไปได้พวกเขาล้วนสิ้นเปลืองความรู้สึกไปมากมาย บรรดาลูกศิษย์ และผู้อาวุโส จะไม่แปรเปลี่ยนเป็นเกลียดชังไปได้อย่างไรตอนนี้ฉินฉางคงดีใจจนเนื้อเต้น ทั่วทั้งร่างกายสั่นสะท้าน เขาใช้สายตาเหยียดหยามมองไปยังฉินหนานและหัวเราะด้วยเสียงอันดังสนั่น “เห็นหรือยังว่า ก่อนหน้าที่ข้าเคยพูดไป เรื่องว่าจิตวิญญาณนักสู้ของแต่ละคนเป็นลิขิตของฟ้า ถึงเจ้าสามารถสร้างกระบวนยุทธ์ขึ้นมาเอง ถึงอย่างไรก็ยังเป็นสวะอยู่วันยันค่ำ ”ฉินหนานมองไปที่ฉินฉางคงเพียงครู่โดยไม่เอื้อนเอ่ยคำใดและเดินจากไปโดยไม่ใยดีหากเป็นเมื่อก่อน จะต้องมีลูกศิษย์ และผู้อาวุโสของตระกูลฉินติดตามไปด้วยเป็นแน่ แต่ยามนี้ข้างกายของฉินหนาน ว่างเปล่าไม่มีใคร ช่างโดดเดี่ยวยิ่งนักพอคล้อยหลังฉินหนาน เหล่าลูกศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหลายที่รายล้อมทั่วสี่ทิศต่างรู้สึกตัวขึ้น รีบมารุมล้อมรอบกายของฉินฉางคงทันที ใบหน้าล้วนเต็มไปด้วยการประจบเอาใจ“พี่ฉินฉางคง นานมาแล้วที่พี่ไม่สนใจใยดีข้าเลย คิดถึงพี่จริงๆ”“นายน้อยฉางคง ข้าว่าให้ท่านมาเป็นนายน้อยผู้นำของตระกูลฉินยังดีกว่า คนสวะพรรค์นั้นจะมีสิทธิ์อะไร”“นายน้อยฉางคง ตั้งแต่วันนี้ไป เราก็ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ท่านให้เราไปซ้ายเราก็จะไปซ้ายไม่ไปขวาโดยเด็ดขาด”“……”ต่อมาไม่นาน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพิธีปลุกจิตวิญญาณนักสู้ก็กระจายไปทั่วทั้งตระกูลฉินและเมืองหลินสุ่ย ไม่เพียงแต่บ้านตระกูลฉินเท่านั้นที่ตื่นตระหนก ผู้คนทั้งเมืองหลินสุ่ยต่างตกตะลึงไปตามกันเหตุเพราะพวกเขานึกไม่ถึงว่า ยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลินสุ่ยเช่นฉินหนาน จะปลุกได้เพียงจิตวิญญาณสีเหลืองชั้นที่หนึ่งขึ้นมาเท่านั้นแต่นี่เป็นโลกยุทธภพ ในยามที่พวกชาวยุทธ์ต่างตื่นตระหนกตกใจนั้น สายตาทุกคู่ก็จับจ้องไปยังตัวของฉินฉางคงอย่างรวดเร็วเพราะจิตวิญญาณนักสู้ระดับเหลืองชั้นที่ห้าถือว่าเป็นชั้นยอดของเมืองหลินสุ่ยหลังจากที่ฉินหนานเดินออกมาจากพิธี ก็เดินตรงกลับมายังเรือนพักทันที สีหน้ายังคงรักษาความสงบนิ่งไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีความเกรี้ยวกราดให้เห็นแม้แต่น้อย เพราะในโลกมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ มีแต่ผู้ที่มีความสามารถเท่านั้นที่จะได้รับการเคารพยกย่องถึงแม้จะเข้าใจความจริงข้อนี้เป็นอย่างดี แต่กิริยาอาการของเหล่าลูกศิษย์และผู้อาวุโสทั้งหลายกลับทำให้ฉินหนานรู้สึกหนาวเหน็บในใจ“ช่างมันเถอะ จะไปใส่ใจอะไรกับคนพวกนั้น ข้าลองใช้จิตวิญญาณนักสู้นี้มาทดสอบรสชาติของการบำเพ็ญตบะดีกว่า”ฉินหนานกลับมาสงบนิ่งได้อย่างรวดเร็ว ภายในอาณาเขตอันกว้างขวาง เขานั่งลงขัดสมาธิ พลันดาบเพลิงโลกันต์ก็ลอยออกมาจากด้านหลัง และค่อยๆ ทะยานสูงขึ้น ปลดปล่อยคลื่นความร้อนออกมาเป็นระลอกดาบเพลิงโลกันต์ทะยานออกมาพร้อมกับปลดปล่อยแรงดึงดูดอันเย้ายวนออกมาระลอกหนึ่ง พร้อมดูดพลังลมปราณจากทั้งฟากฟ้าและพื้นดินลมปราณไหลหลั่งเข้าสู่ร่าง จนร่างกายของฉินหนานต้านทานไม่ไหวสะท้านออกมาคำรบหนึ่ง ใบหน้าอันซีดเซียวค่อยๆ ซับสีเลือดขึ้น เหมือนดั่งร่ำสุราจนเมามายอย่างไรอย่างนั้นการบำเพ็ญพรตเป็นเต๋า เดิมทีนั้นเป็นการฝึกกำลังภายในโดยแบ่งออกเป็นสิบขั้นการฝึกกำลังภายในนั้น จากชื่อก็บอกแล้วว่า คือการดูดซับลมปราณ เข้ามาบ่มเพาะภายในร่างกายดังนั้น เมื่อฉินหนานดูดซับเอาลมปราณเหล่านี้เข้ามาในกายแล้ว ก็เป็นการชำระชีพจรในร่างกาย เพิ่มพลังให้กล้ามเนื้อเวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งผ่านไปหกชั่วโมงกว่า ฉินหนานจึงลืมตาขึ้น บนหน้าผากปรากฏเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ซึมออกมา“ระดับชั้นของจิตวิญญาณนักสู้ จริง ๆ แล้วก็สำคัญมิใช่น้อย”เมื่อจิตใจของฉินหนานล่องลอยก็นำดาบเพลิงโลกันต์มากุมไว้ พร้อมประคองดาบเล่มนี้อยู่ในมือ พลางมุมปากของเขาก็ปรากฏเป็นรอยยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!