"วุ้นๆๆ มีคนมาหาเธอแน่ะ"
แว่นน้อยเดินเข้ามากระซิบกระซาบบอกเบาๆ ลำพังแค่กระซิบก็ฟังไม่รู้เรื่องแล้วนะ ยัยนี่ยังยกมือมาป้องปากพูดอีกต่างหาก T^T
"มีอะไรก็พูดดีๆ สิแว่น จะกระซิบกระซาบทำไม"
นั่นไม่ใช่เสียงของฉันหรอก แต่เป็นเสียงของยัยลูกพลัมที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนฉันต่างหาก >,<
"ฉันบอกว่ามีคนมาหาวุ้นหวานน่ะ"
โอเค ฉันพอจะฟังรู้เรื่องแล้ว ว่าแต่ใครกันนะ...เป็นผู้ชายรึเปล่า ^o^
"ใคร!"
ฉันขยับจะอ้าปากถามพอดี แต่ยัยลูกพลัมพูดขึ้นถามก่อนอีก นี่ตกลงมันหรือฉันที่ชื่อวุ้นหวาน อยากรู้แทนฉันซะจริง >_<
"กุญ-แจ-ฟา"
คุณพระ! สามคำสั้นๆ ที่แว่นน้อยบอก ทำฉันกับลูกพลัมตาโตขึ้นมา ทันทีเหมือนเห็นผี ยัยลูกพลัมรีบกอบโกยทุกอย่างเข้าในอ้อมแขน แล้วลุกขึ้นทำท่าเหมือนจะวิ่ง.
"แกจะไปไหนยัยลูปพลัม"
"ก็เผ่นสิยัยวุ้น หรือแกจะอยู่ให้เขามาแหกอกแกล่ะ"
ก็จริง ที่พูดมาก็มีเหตุผล งั้นเราเผ่นกันเถอะ
"ฉันแหกแน่ แต่ไม่แน่ใจนะว่าจะแหกอกรึเปล่า
เธอใช่มั้ยที่ชื่อวุ้นหวาน"
เสียงทุ้งเข้มที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาฉันสะดุ้ง แล้วมองหน้ายัยลูกพลัมที่ค่อยๆ นั่งลงที่เดิม วางของลงที่เดิมและพยักหน้าอย่างช้าๆ ¥^¥
ฉันค่อยๆ ลอบหันกลับไปมองเจ้าของเสียงที่ยังยืนอยู่ด้านหลังฉัน O_O
"มาครบแก๊งสี่ยมทูตเลยว่ะแก"
ยัยลูกพลัมกระซิบบอกเบาๆ
"ใช่ พวกฉันมาครบ เพราะงั้นเพื่อนเธอโดนหนักแน่
ไปคุยกับฉันที่ห้องเดี๋ยวนี้ วุ้น-หวาน"
ฉันสะดุ้งนิดๆ เมื่อโดนฟา หรือชื่อเต็มๆว่า กุญแจฟา ผู้ดำรงตำแหน่งประธานสภานักเรียนตะคอกขึ้นเสียงและเดินมาจ้องหน้าในระยะประชิด.
"มีเรื่องอะไรกันหรอฟา"
"ไม่ต้องมาไขสือ เธอทำอะไรไว้ก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะ
เพราะฉะนั้นตามไปคุยกับฉันที่ห้องเดี๋ยวนี้"
บ้าเอ๊ย! นายจะเสียงดังทำไมเนี่ย ฉันอุตส่าห์ทำเสียงอ่อนหวานใส่เขา แต่เขากลับกระชากเสียงพูดกับฉันอย่างไม่คิดจะใจอ่อนในความสวยของฉันเลย.
"นายพูดเรื่องอะไร ฉัน...ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย"
ฉันยังคงแกล้งตีหน้าซื่อ ยัยลูกพลัมเตะขาฉันยิกๆ อยู่ใต้โต๊ะ แล้วยัยเพื่อนบ้านี่จะแสดงอาการพิรุธทำไมเนี่ย ถ้าทำเฉยๆไปเขาก็จับไม่ได้หรอก ถ้าจะนั่งตัวสั่นขนาดนี้ก็ยอมรับออกไปเลยสิ ปัดโธ่!! >~<*
"หรือว่าเธออยากจะให้ฉันพูดตรงนี้"
"ก็...ก็แล้วนายพูดเรื่องอะไรอยู่ล่ะ เอาให้ชัดๆนะฟา
ถ้านายจะกล่าวหาฉัน ไหนล่ะหลักฐาน ทำแบบนี้
ฉันเสียหายนะคะท่านประธานสภานักเรียน"
ฉันยอกย้อนเพื่อถ่วงเวลาสำหรับหาทางหนีทีไล่ ยังไงซะเรื่องที่เกิดขึ้น ฉันก็แน่ใจว่าไม่ได้ทิ้งหลักฐานเอาไว้แน่ๆ เขาจะรู้ได้ยังไง หรือต่อให้รู้ เขาก็ทำอะไรไม่ได้หรอกถ้าไม่มีหลักฐาน (จริงมั้ย)
"อยากได้หลักฐานงั้นหรอ งั้นก็ดูให้เต็มตาล่ะ"
ฟาพูดเสียงเข้มก่อนจะปรบมือดังๆสามครั้ง
ฉันงงนะ อยู่ดีๆเขาก็ปรบมือ จะแสดงโชว์ละครลิงหรอ
หรือว่ามันหมายความว่ายังไงกัน o^o
แล้วทุกอย่างก็เงียบลงหลังจากที่ฟาส่งสัญญาณด้วยการปรบมือก่อนที่ฉันจะมองเห็นร่างบางที่คุ้นหน้าคุ้นตาค่อยๆเดินออกมาจากมุมเสา และนั่นทำเอาฉันถึงกับเบิกตาโพลง ^×^
ฉันกับยัยลูกพลัมโพล่งเรียกชื่อเพื่อนสนิทที่โผล่ออกมาส่งยิ้มแห้งๆอยู่ข้างต้นเสาพร้อมกัน
ฉันจะฆ่าแก๊!!! #_#
"โทษทีว่ะเพื่อน ไม่ได้ตั้งใจแต่มันเผ่นไม่ทันจริงๆ"
ปั้นหยาบอกพลางส่งยิ้มแหยๆมาให้ ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย ฆ่ามันแล้วจับยัดเสาให้มันสิงอยู่ในเสาซะดีมั้ยเนี่ย!!!
"ว่าไงทีนี้ยอมรับได้รึยัง"
ให้ตายสิยัยเพื่อนบ้า ฉันอยากจะจับมันมาทึ้งหัวแรงๆแล้วตีเข่าซ้ำ มันต้องรูปของฉันไปทำมาหากินแน่ๆเลย ยัยคนชอบขายเพื่อน โกรธจริงว้อยย!!
"ตามฉันมา ก่อนที่โทษของเธอมันจะหนักไป
มากกว่านี้"
ร่างสูงบอกเสียงเรียบ คือตอนนี้ฉันหมดปัญญาจะแถแล้วล่ะ สุดท้ายก็ได้แต่จำใจหอบหิ้วสัมภาระแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดตามฟาไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ คงจะจริงอย่างเขาว่า อย่างน้อยตอนนี้โทษของฉันก็อาจจะยังไม่ถึงขั้นไล่ออกก็ได้.
ห้องสภานักเรียน
อุณหภูมิขนาดนี้ทำฉันรู้สึกหนาวยะเยือก >,<
พวกเขาเล่นเปิดแอร์ซะฉันคิดว่าหลุดเข้ามาในช่องฟรีซแช่แข็ง ถ้าจะเปิดแอร์เย็มขนาดนี้ทำไมไม่เหมาจ่ายค่าไฟโรงเรียนไปเองคนเดียวซะเลยล่ะ >๐<
เอาหล่ะ ฉันจะเริ่มต้นอธิบายรายระเอียดของโครงสร้างแก๊งสี่ยมทูตประจำโรงเรียนของฉันก่อนก็แล้วกันนะ หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ พวกเขาทั่งสี่ที่กำลังเดินชักแถวหน้าสลอนกันเข้ามาในห้องสภานักเรียนและพวกเขาคือ...แถ่น แถ่น แถ้นนนนนน>>>
...สมาชิกสภานักเรียนของแกรนด์ทาเล้นจ์ไฮสคูล (ชื่อโรงเรียนฉันเอง) เริ่มต้นจาก...
เอ็มเจ ประธานฝ่ายกีฬา
เอ็มเจเป็นขวัญใจสาวๆ ทั่วทั้งแกรนด์ทาเล้นจ์
(ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้นนะ แต่ว่าฉันแค่ปลื้มเฉยๆ
ไม่ได้ถึงขั้นตามกรี๊ดเขาหรอก ไม่เหมือนยัยลูกพลัมกับยัยปั้นหยาที่บ้าผู้ชาย) นัยตาของเอ็มเจมีสีฟ้าเพราะเขาเป็นลูกครึ่ง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไทยอิตาลี
ดังนั้นรูปร่างไม่ต้องพูดถึง สูงใหญ่ตามแบบฉบับลูกครึ่ง ซึ่งฉันว่าเขาออกจะสูงเกินมาตรฐานไปด้วยซ้ำ จมูกโด่งปรี๊ด ริมฝีปากหยักลึกน่าหลงใหล แต่แทนที่เอ็มเจจะมีผิวขาวเหมือนลูกครึ่งทั่วไป เขากลับมีผิวสีแทน เพราะเขาค่อนข้างชอบในกีฬากลางแจ้ง ส่วนกีฬาในร่มก็ไม่แพ้กัน เพราะเขาขึ้นชื่อว่าคาสโนว่าตัวพ่อของแกรนด์ทาเล้นจ์ น่าแปลกผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้กลัวคำล่ำลือนั่นสักนิด หนำซ้ำยังชอบและหลงใหลได้ปลื้มกับฉายาของเขาซะเหลือเกิน.
อ๊ะๆ อย่ายิ้มให้ฉันสิ เดี๋ยวฉันก็หลวมตัวชอบนาย แล้วไปตามกรี๊ดแบบยัยพวกนั้นกันพอดี >~<
คนถัดไปคือองศา ประธานฝ่ายวิชาการ พ่วงด้วยตำแหน่งหนุ่มฮ็อตของทาเล้นจ์ประจำปีนี้
เคยเห็นคนใส่แว่นสายตาแล้วยังหน้าตาดีมั้ย เขานี่แหละหนึ่งในหมื่นแสนคนที่จะหาได้เลย
แว่นสายตาไร้กรอบที่เขาใส่อยู่ไม่ได้ทำให้เขาดูเหมือนเด็กเรียนเลยสักนิด แต่กลับทำให้เขาดูเหมือนหนุ่มเท่ หนุ่มติสท์ อะไรทำนองนั้น นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาสอบได้ที่หนึ่งของสายชั้นมาตลอด ฉันคงคิดว่าเขาเอาแว่นสายตามาใส่เท่ๆนัยน์ตาเขาสีน้ำผึ้งดูอ่อนโยน ผมสีน้ำตาลเข้มที่ดูท่าทางว่าเขาไม่ค่อยจะได้ใส่ใจ
เซ็ทมันเท่าไหร่ องศาเป็นคนไม่ห่วงหล่อ ไม่มีมาด แต่เชื่อเถอะว่าเขาดูดีได้แม้จะไม่ได้ปั้นเสริมเติมแต่ง.
โอ๊ย!! เห็นแล้วละลาย #3#
ฉันว่าเราหยุดมโนแล้วไปกันต่อดีกว่า คนต่**าคือนที ประธานฝ่ายรักษากฎระเบียบของโรงเรียน
ชื่อเรียบง่าย ทำตัวเรียบง่าย ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ประจวบเหมาะกับคิ้วหนาเข้มได้รูปทำให้ใบหน้าเขาดูคมคายขึ้นในทันตา ขนตายาวเป็นแพ ขนาดที่ผู้หญิงบางคนยังต้องอาย นทีเป็นคนสุภาพอ่อนโยน ฉายาของเขาคือ ง่ายๆแต่ตายสนิท เพราะเขาเป็นคน
พูดเพราะ พูดง่ายๆ ไม่เรื่องมาก แต่ทว่ากลับไม่มีใครกล้าหือกับเขาสักคน รายล่าสุดที่กล้าเถียงกับเขารู้สึกจะโดนไล่ออกไปแล้ว หมอนี่ยังเป็นหลานท่านผอ. รู้แบบนี้กล้าหือกับเขาเหรอ ฉันไม่เอาด้วยหรอก.
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!