NovelToon NovelToon

ตำนานแห่งสุสานบรรพชน

เกริ่นนำ

มองดวงจันทร์ยามค่ำนั้นสงัด

สัมผัสลมผืนทรายผ่านผิวหนัง

เสียงเงียบเฉียบไร้แววสัตว์น้อยใหญ่

มีเพียงทรายกรวดดินล้อมรอบกาย

พร้อมกองไฟกองหนึ่งส่องแสงจ้า

กับบุรุษรูปงามอิงขอนไม้

เพื่อพักผ่อนนอนหลับพักกายา

วันรุ่งขึ้นจักได้เตรียมอำลา

จากผืนทะเลทรายแผ่นใหญ่นี้

นามโกบีติดทางเหนือแผ่นดินใหญ่

(ไม่ได้มีสัมผัสอะไรหรอก แค่แบ่งวรรคละ8-9คำ ลองแต่งๆดูเพราะอยากเปิดแบบกลอนสไตล์ย้อนยุค55555++)

ณ ทะเลทรายนามโกบี ในยามค่ำคืนมีหนึ่งบุรุษรูปงามราวกับเทพธิดา รูปร่างสูงโปร่งสมส่วน ใบหน้าขาวซีดสงบนิ่ง ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ริมฝีปากได้รูปสีสดใส เส้นผมสีเงินยาวสรวยเปียกไปด้วยหยดน้ำ หลังจากชำระร่างกายเสร็จสิ้นแล้ว ก็สวมอาภรณ์ที่ทอขึ้นจากเนื้อผ้าชั้นดีไร้ลวดลายราบเรียบสีดำแซมแดงเล็กน้อย เดินตรงไปนั่งอิงแอบพิงหลังกับท่อนไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ปูพื้นด้วยผ้าสีคราม ใต้ต้นไม้ริมแหล่งน้ำขนาดเล็กในทะเลทรายยามราตรี เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เตรียมตัวออกเดินทางจากทะเลทรายแห่งนี้ตอนเช้าตรู่ ในวันพรุ่งนี้

ปฐมบท(01)

ณ จวนสกุลถัง...........

บรรยายกาศยามค่ำคืน ณ จวนสกุลถัง ตระกูลขุนนางตงฉินเก่าแก่ประจำเมืองหลวงอีกตระกูลหนึ่ง ทางเรือนหลังหลักด้านในจวน ปรากฏแสงสีสว่างไสว มีแหล่งกำเนิดมาจากโคมไฟและตะเกียงแก้ว  ที่ถูกเหล่าบ่าวไพร่นำไปห้อยแขวนตามจุดต่างต่างภายในจวนและเรือนหลังอื่นอื่น โดยแสงไสวเหล่านี้กำลังเปล่งสว่างตัดถอนต่อต้านกับบริเวณภายนอก ที่บัดนี้ท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม เต็มไปด้วยกลุ่มเมฆาสีดำไปเสียแล้ว หลังจากที่แสงอัสดงสายสุดสุดท้ายของดวงตะวันลับขอบฟ้าไป แต่กระนั้นถ้าเพียงเงยหน้าแหงนมองท้องนภายามค่ำนี้ จะสังเกตเห็นความงดงามระยิบระยับ จากดวงดาวเล็กใหญ่ที่ทอแสงสีขาวสุขสกาว เปล่งแสงสีสดใสแข็งขันท่ามกลางความมืดมิดของผืนฟ้ากว้างใหญ่ผืนนี้

เพลานี้ภายในเรือนใหญ่  ตรงส่วนของที่จัดไว้สำหรับรับประทานอาหารนั้น ได้มีเสียงพูดคุย ครึกครืนของสามคนพ่อแม่ลูกพร้อมกับคนรับใช้ข้างกายหนึ่งคน ที่ยืนคอยตักอาหารบ้าง รินน้ำชาบ้าง บริการเจ้านายทั้งหลายของตนอยู่อย่างขะมักขะเม้น ทั้งสามในเวลานี้กำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบรอบ ที่ได้รับสัมผัสจากทางหน้าต่างทิศตะวันออก ที่เปิดไว้เฉพาะในคืนนี้ เพื่อรับแสงจันทราจากภายนอก โดยมีกลิ่นอายเย็นเย็นของสายลมในฤดูใบไม้ร่วงโชยมา และใบไม้จากต้นไม้ริมหน้าต่างบานใหญ่ ที่ค่อยค่อยร่วงหล่นลงสู่พื้น อย่างแผ่วเบา ทั้งเสียงแมงและแมลงที่ส่งเสียงรับขานกันไปมา ย่อมคล้ายกับการรับฟังงิ้วในโรงแสดงนัก สิ่งเหล่านี้ทำให้การนั่งล้อมวงกินหม้อไฟครั้งนี้ ถึงอรรถรสยิ่ง กอปรกับกลิ่นหอมหวานชวนทานของน้ำซุปกระดูกหมู ที่ได้ส่งกลิ่นยั่วน้ำลายออกมาเรื่อยเรื่อย ไหนจะมีเนื้อสัตว์ที่ถูกหมักจนได้ที่ ถูกนำไปจิ้มจุ๋มลอยอยู่ในหม้อน้ำซุปที่เดือดปุดปุด โดยมีควันสีขาวขาว สายน้อยน้อยลอยออกมา เป็นสัญญาณพร้อมให้คนทั้งสาม ได้เคียบตัก และซดน้ำแกงร้อนร้อนอยู่ตลอดเวลา โดยรอบข้างหม้อไฟใบใหญ่ ยังมีเครื่องเคียงต่างต่าง ให้ตักต้มเพิ่มเติมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก

ณ  ขณะนี้เป็นช่วงผันเปลี่ยนฤดูกาล เวียนผ่านมาจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว  เหล่าใบไม้หลากสีกำลังหลุุดร่วงตกลงสู้ผืนดินอันแข็งแกร่ง  แลสายลมยามเช้าตรู่  ยามย่ำค่ำ  ยังให้ความรู้สึกเย็นยะเยือก  ดวงตะวันลับฟ้ารวดเร็วขึ้น  น้ำในลำธารสาธารณะเริ่มปรากฏเกล็ดน้ำแข็งบางบางริมขอบตลิ่ง  เป็นอีกสัญญาณจากธรรมชาติที่บ่งบอกว่า  ฤดูกาลได้ผ่านพ้นหมุนเวียนไปอีกฤดูกาลหนึ่่งแล้ว  เหล่าครอบครัวผู้นำคนสกุลถังได้นั่งรับประทานหม้อไฟ  ต้อนรับฤดูใบไม้ร่วง  ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมสุนทรียของครอบครัวนี้อย่างหนึ่งอยู่แล้ว  ในการรับประทานอาหารตามฤดูนั้นนั้น

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงผันเปลี่ยนฤดูกาล หมุนผ่านแปรเปลี่ยน มาจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงเสียแล้ว ใบไม้หลากสีกำลังร่วงหล่น สายลมยามเช้าตรู่ ยามย่ำค่ำ ให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกนัก ดวงตะวันลับขอบฟ้าเร็วขึ้น น้ำในลำธารสาธารณะภายในเมืองหลวง เริ่มปรากฏการเปลี่ยนแปลงค่อยๆกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งริมขอบตลิ่ง เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบ่งบอกถึง ฤดูกาลได้ผ่านพ้นไปอีกหนึ่งฤดูแล้ว โดยขณะนี้ผู้นำและสมาชิกครอบครัวสกุลถังได้นั่งรับประทานหม้อไฟอยู่ ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติหนึ่ง เพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ร่วง นับว่าเป็นกิจกรรมสุนทรียของครอบครัวสกุลถังอีกด้วย ในการรับประทานอาหารตามฤดูกาลนั้นๆ

ขณะที่ทั้งสามและอีกหนึ่งพ่อบ้านที่อยู่ในห้องอาหาร กำลังดื่มด่ำมีความสุขกับอาหารตรงหน้า ก็ปราฏร่างคนคุ้นหน้าที่มีสีหน้าและท่าทางรีบร้อน พุ่งตรงมาอย่างร้อนรนภายในห้องอาหาร โดยมีทหารหน้าจวนที่มีหน้าที่เฝ้าประตูของจวนตามหลังมาหนึ่งนาย

"ท่านเสนาซ้ายขออภัยที่ข้าน้อยเสียมารยาท เข้ามารบกวนท่านยามนี้" คนๆนั้นกล่าวออกไป แต่ท่าท่างกลับยังคงดูรีบร้อนมิเปลี่ยนแปลง จากตอนแรกที่เข้ามา

"มิเป็นไร" เจ้าบ้านสกุลถังหันใบหน้ากล่าวกับคนๆนั้น

"คนผู้นี้คือคนของข้าที่ใช้ทำงานสืบข้อมูลลับ มิมีอันใดหรอกเจ้ากลับไปเฝ้าประตูตามเดิมเถิด"ประโยคหลังเสนาซ้ายกล่าวกับทหารนายนั้นและแจงกับลูกและภรรยาตนให้รับรู้

"ขอรับท่านเสนาซ้าย" ทหารนายนั้นกล่าวออกไป ทำความเคารพนายของตนแล้ว ก็หันหลังก้าวออกไปจากห้องอาหาร

"ว่าธุระเจ้ามาเถิด ดูท่าท่างเจ้ารีบร้อนนัก"เสนาซ้ายกล่าวออกมา เมื่อเห็นทหารเฝ้าประตูหน้าจวนเดินจากไป

"นายท่านบัดนี้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเสียแล้ว สายของข้าภายในเมืองหลวงส่งข่าวมาว่าขุนนางตงฉิน และทหารที่ภักดีต่อรางวงศ์ปัจจุบัน กำลังถูกกลุ่มนักฆ่าฝีมือร้ายกาจ ไลล่าฆ่าฟันล้างตระกูลอยู่ขอรับ หลายร้อยชีวิตจากหลายตระกูลถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม และสายของข้ายังได้ส่งสารมาจากสกุลจวง บอกแก่ข้าน้อยว่าอีกไม่นานกลุ่มนักฆ่าจะมาถึงตระกูลของนายท่านแล้วขอรับ ข้าน้อยบังอาจเสนอว่า ให้รีบหนีตามแผนที่ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าเถิดขอรับ ตอนนี้ยังพอทันกาล ข้าได้เตรียมม้าฝีเท้าดี รถม้า และคนคุ้มกันฝีมือดีไว้ให้ท่านที่ท้ายจวนแล้ว รีบเถิดขอรับนายท่าน.....

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!