: เกริ่นนำ :
Best Friend or Bad Friend
เพื่อนรักเพื่อนร้าย
ร่างอ้อนแอ้นอรชรในชุดนักศึกษากระโปรงพลีทจีบรอบความยาวคลุมข้อเท้า
ปกปิดเรียวขาขาวไว้อย่างมิดชิดย่ำก้าวไปข้างหน้า
นัยน์ตาคู่สวยเศร้าหมองมองพื้นหินอ่อนบนทางเดินที่เชื่อมต่อกันระหว่างตึกเรียงราย
มือเย็นเฉียบทั้งสองของเธอกำลังกอดกุมอุปกรณ์การเรียนอิเล็กทรอนิกส์และกระเป๋าผ้าใบโปรดไว้แน่น
ๆ เพื่อซึมซับความสดใสร่าเริงของสาววัยใสไว้ให้มากที่สุดในเวลาที่เธอยังอยู่ในสถานที่แห่งนี้
มหาวิทยาลัย...
เมื่อใดที่ก้าวขาออกไปแล้วคงไม่ได้มีชีวิตเหมือนเพื่อนคนอื่น
ๆ ไม่ได้เที่ยวเล่น เดินห้างสรรพสินค้า หรือไปรวมกลุ่มกับใคร
เพราะเธอดันมีธุระประปรังที่นับว่าเป็นเรื่องจุกจิกอยู่มากมาย...
ใช่ว่าเธอไม่มีเวลาขนาดนั้นเมื่อธุรกิจกำลังไปได้สวย
ปรายลดาแค่กำลังสนใจเรื่องหาเงินมากกว่าเรื่องเรียน
จึงตั้งใจจะตรงกลับบ้านไปทำงานของตนต่อ
ไม่ทันได้รู้ตัวว่ามีบางคนกำลังตามหาตัวเธออย่างบ้าคลั่ง
“พุทรา! แกจะไปไหน?” เสียงแหลมปรี้ด รองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดจึงหยุดก้าวลงแล้วหันกลับไปหาเพื่อนที่ดึงรั้งต้นแขนของเธอไว้เบา
ๆ ด้วยสีหน้าขุ่นเคืองใจ
“งานของหญิงแย้ม
แกทำเสร็จหรือยัง?”
“เดี๋ยววันนี้ฉันทำให้นะปริม”
ในน้ำเสียงแผ่วลงตอบหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน
ความเป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล
เธอรู้ว่านัชชาไม่ได้อยากมาจิก เพราะเพื่อนคนนี้มีอะไรก็ช่วยเหลือกันมาตลอด
“อาทิตย์ที่แล้วแกก็พูดแบบนี้
แกผลัดไปเรื่อย ๆ กี่ทีละ”
“ฉันก็ทำไปบ้างแล้วป่ะ
แค่ยังไม่เสร็จ อย่าเร่งสิ”
“ไม่เร่งแล้วมันจะเสร็จไหมล่ะ? งานเดดไลน์พรุ่งนี้นะ ไม่งั้นหญิงแย้มเอาตาย
แกก็รู้ว่าแม่ไม่หักคะแนนอย่างเดียว จะได้ทำเพิ่มอีกสามเล่มไปเป็นของไหว้ท่านแม่
แล้วฉันจะไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งด้วย”
คำสั่งเรื่องเวลาส่งงานอาจารย์สุดโหดผู้ได้รับฉายาว่า ‘คุณหญิงแย้ม’ คือคำขาดบาดคอตาย!นักศึกษาระดับชั้นปีที่สามเทอมสุดท้ายคงไม่มีใครอยากถูกตัดคะแนนแล้วยังต้องทำงานเพิ่ม
ใช่เพียงเท่านั้น ใคร ๆ ก็อยากจะได้ใบปริญญาตัวเลขสวย ๆ
ไปให้พ่อแม่ที่บ้านได้ชื่นชมในเร็ววัน
“ฉันทำงานด้วยนะเว้ย
เห็นใจบ้างดิปริม บ้านฉันไม่ได้รวยอย่างแก อยากได้อะไรก็ได้
ขนาดมาเรียนฉันยังต้องนั่งรถเมล์มา”
“แกก็พูดไปเรื่อย
พูดยังกับว่าฉันรวยคับฟ้า ขับพอร์ชมาเรียนงั้นแหละ”
“แกไม่ได้ขับพอร์ช
แต่แกขับบีเอ็มสปอร์ตมาเรียน... คงไม่ต่างมั้งเพื่อน” เบ้ปากประชด
ปรายลดาไม่ได้นึกอิจฉาลูกเศรษฐีอย่างนัชชาที่มีคุณแม่เป็นถึงเจ้าแม่ปลากระป๋อง
ทั้งขายในประเทศ ส่งออก มีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันแล้วทั้งชีวิตของเธอไม่มีวันหาได้
“นั่นมันรถแม่ฉันป่ะ
ฉันอุตส่าห์กราบงาม ๆ ขอมาเพื่อขับไปรับไปส่งแก แหม... จะมาทำบ่นอะไร”
“คราวหน้าจะไม่นั่งแล้วล่ะ
ฉันว่า... ฉันจะเลิกกินปลากระป๋องไปทั้งชีวิตด้วย”
นัชชาหัวเราะออกมา
ยกมือขึ้นป้องปาก รอยยิ้มเลือนหายไปในอีกครู่ “แกเลิกกินปลากระป๋องไม่ได้หรอก
ตราบใดที่แกยังไม่รวย... แล้วฉันจะบอกอะไรให้อย่าง ฉันจะไปทำงานกับแก ไปวันนี้
เดี๋ยวนี้ ตอนนี้เลย เพราะฉะนั้น รายงานกลุ่มของเราต้องเสร็จ!”
คำขู่ฟ่อนั้นว่าทำแน่
ปรายลดาถึงกับอ้าปากค้าง
เพราะการที่จะให้ลูกผู้ดีอย่างนัชชามาทำงานของเธอคือไลฟ์ขายของ!มันคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นยะ
ฉันเป็นเพื่อนแก ฉันก็ต้องเห็นใจแกสิ... ไปกันเถอะ ฉันอยากช่วยแกทำงานเต็มแก่
ทำรายงานเสร็จแล้ววันนี้จะได้แต่งตัวสวยสะบัด ขายของเต็มหน้าฟี้ด cf cf เงินเด้งรัว ๆ ให้มือถือมันพังไปเลย”
นัชชายกมือขึ้นหยิกแก้มเพื่อนแรง
ๆ จนเจ้าตัวยกมือขึ้นลูบหน้าตาเหยเก
แก้มขาวนวลกลายเป็นสีแดงขับใบหน้างามหมดจดให้ดูน่ารักยิ่งขึ้นไปอีก
พูดถึงความสวยของปรายลดาก็คงจะระดับดาวคณะบริหารธุรกิจ
สาขาวิชาการจัดการการตลาด ผิวขาวผ่องนวลเนียนละเอียดไปทั้งตัวไม่มีแม้รอยแผลเป็น
ทรวดทรงองเอวสะโอดสะอง จมูกโด่งเป็นสันงามตามแบบฉบับดารา
ริมฝีปากบางกระจับอมแดงชมพูทำให้เธอเปล่งประกายได้ในทุกย่างก้าวเข้ารั้วมหาวิทยาลัย
เบ้าหน้าใสกิ๊ก! แม้ไม่ใช่เด็กเฟรชชี่ปีหนึ่ง... อันที่จริงเด็กปีหนึ่งหลาย ๆ
คนดูมีอายุมากกว่าเธอที่อยู่ปีสามเสียอีก
“เออ
ไปก็ไป แต่แกต้องเอาส่วนแบ่งของแกไปด้วยนะ ไม่ใช่มาทำงานให้ฉันฟรี ๆ”
“ไม่มีปัญหา
ฉันเก็บไว้ทำบุญกับแก ไว้เป็นค่ารายงาน ค่าออกอีเว้นท์งานหน้า” นัชชาผุดรอยยิ้มกว้างเต็มวงหน้า
ยกมือขึ้นคล้องควงแขนกันเดินไป
นักศึกษาสาวดาวเดือนประจำคณะไม่มีใครแพ้ใคร
คนหนึ่งมีความโฉบเฉี่ยวในตัวด้วยเครื่องสำอางอ่อนรับลิปสติกสีเชอรี่
ขณะที่อีกคนนั้นสวยใสไร้เครื่องสำอาง แค่รองพื้นกันแดดมาเรียน
เพราะไม่มีเวลาจะแต่งหน้าแต่งตาเหมือนใครเขา
มันดันไปเสียเวลาตรงที่ต้องใช้ความพยายามในการปกปิดขอบตาคล้ำจัดเพราะอดนอนด้วยรองพื้นอย่างดี
เมื่อเด็กปีสามอย่างปรายลดาใช้ชีวิตเหมือนสาววัยสามสิบ! เลิกงานกลับบ้านทำงานบ้านทุกอย่าง ยังต้องทำงานที่เป็นธุรกิจของเธอเอง
แม้ว่าจะมีคนส่งเสียงเงินให้โดยไม่มีความจำเป็นต้องทำงานอะไรเลย
นัชชายังชอบที่จะว่าเธออยู่บ่อย
ๆ
“ชีวิตปรายลดาอนาถแท้
บ้านก็ไม่ได้จนไม่รู้จะขยันทำงานไปทำไม” บ่นอุบอิบพลางส่ายหน้าไปมา
ขณะที่อีกคนไม่ได้ตอบอะไรแต่เพียงเดินเคียงข้างกันไปเงียบ ๆ
ในมหาวิทยาลัยกว้างขวาง
นักศึกษาทยอยกันเดินทางกลับบ้าน จำนวนหนึ่งมีรถยนต์ส่วนตัวใช้
บางคนก็มีพ่อแม่มารับ การจราจรจึงเริ่มติดขัด
หากวันไหนปรายลดาไม่ได้ติดรถยนต์เพื่อนกลับบ้าน ก็จะต้องนั่งรถเมล์กลับเอง
พักหลังมานี้เธอได้มีโอกาสรู้จักกับรุ่นพี่คนหนึ่ง
กลับบ้านทางเดียวกันอยู่บ่อย ๆ เป็นพี่รหัสนิสัยดี
มันจึงไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยกับเธอที่ไม่ได้เป็นคนกลับบ้านดึกดื่นอะไร
ปัญหาอยู่ตรงที่นัชชาไม่ชอบขี้หน้ารุ่นพี่นี่แหละ...
“เออ...
ปริม ฉันมีเรื่องจะ...”
“หลงทางหรือจ๊ะ? สาว ๆ” เสียงทุ้มดังขึ้น ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาขวางหน้าไว้
ให้เพื่อนสาวที่เดินอยู่ข้าง ๆ กันมีสีหน้าไม่พอใจ
“ขอโทษนะคะ
พี่ธาม วันนี้พุทราไม่ว่างนะ เพราะว่าปริมจอง วันนี้เป็นวันของปริม
เชิญป้ายหน้านะคะ คุณพี่ธาม”
“ไปไหนกัน
ให้พี่ไปด้วยสิ?” ถามหน้าระรื่น
ตาคมจับจ้องอยู่บนวงหน้าหวานด้วยแววตามากความหมาย เป็นเวลาเดือนกว่า ๆ แล้วที่ธามไทไม่ได้เป็นแค่รุ่นพี่กับปรายลดา
ท่าทางอีกคนนั้นจะยังคงไม่รู้
“ไม่ได้ไปกินชาบูแน่
ๆ ค่ะ มันไม่ใช่เรื่องของพี่รหัสด้วยนะคะ”
“มันเป็นเรื่องของพี่รหัสนะครับ
ตราบใดที่น้องรหัสเดือดร้อน ไม่สบายใจ แล้วนี่... แฟนพี่ พี่ต้องได้สิทธิ์นั้นก่อน
ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก” ในท่าทีว่าได้รับชัยชนะ
ร่างสูงแทรกตัวเข้าระหว่างกลางจนแขนที่คล้องควงของคนทั้งสองหลุดออกจากกัน
เพื่อที่เขาจะดึงมือของปรายลดามาจับเอาไว้แทน
นัชชาหน้าซีดเผือดเมื่อพบว่าเรื่องที่ได้ยินนั้นเป็นความจริง
จากอาการประหม่าของเพื่อนสาวที่ไม่ปฏิเสธมือของชายหนุ่ม
“พุทรา...! อย่าบอกนะว่าแกกับพี่ธาม...”
“ครับ ทำไมครับ?”
เป็นเรื่องทำร้ายจิตใจเพื่อนสนิทที่สุด
ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาตั้งแต่อนุบาลสองจนเข้ามหาวิทยาลัย! ไม่มีเรื่องใดของปรายลดาที่นัชชาไม่รู้
นัชชาเองก็ไม่เคยปิดบังเรื่องส่วนตัวกับปรายลดา
ริมฝีปากบางเฉียบที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเชอรี่เม้มเข้าหากันสนิทแน่น
หากไม่เป็นเพราะใส่กระโปรงสั้นเหนือเข่าทรงเอขยับตัวลำบากไปสักหน่อย คงจะได้มีหัวร้างข้างแตกกันไปข้าง!
“ไอ้พี่ธาม
นังเพื่อนทรยศ แกมีความลับกับฉันได้ยังไง?”
“คือฉัน...
เปล่านะแก ก็กำลังจะบอก... แก” ปรายลดาอึก ๆ อัก ๆ กลืนน้ำลายลงคออย่างหวั่นกลัว
เมื่อแววตาคู่สวยประกายจัดปรากฎเพลิงโทสะลูกใหญ่ ไม่ต่างไปจากอีกคน
ธามไทไม่เคยชอบขี้หน้าลูกเศรษฐีเอาแต่ใจ
อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนคนบ้า เพื่อน ๆ ในกลุ่มเขายังเรียกหล่อนว่า ‘อีปริม’ ลับหลังด้วยซ้ำ
มุมปากหนาหยักยิ้มอย่างเย้ยหยัน
“ปริมจะมีปัญญาทำอะไรพี่ได้ล่ะครับ...?”
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!” สิ้นคำเท่านั้น นัชชาเบิกตากว้างมองคนทั้งสองอย่างโกรธแค้น
กระแทกส้นสูงปึงปังไป
มือหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพายงานแบรนด์เนมออกมาเพื่อส่งข้อความอย่างไม่มีลังเลใจแม้แต่น้อย
‘พุทรามีแฟนแล้วนะคะ พ่อเลี้ยง...’
: ตอนที่ 1 :
Palawan Island
ทะเลเดือด!
น้ำทะเลสีเขียวมรกตใสสะอาดเสียจนสามารถมองเห็นปลาตัวเล็กตัวน้อยแข่งขันกันแหวกว่ายไปมา
เรือแคนนูหลายลำแล่นลู่ลมฉลิวไปกับสายน้ำด้วยไม้พายที่ผู้คนช่วยหยิบจับกันคนละมือ จากบรรดานักท่องเที่ยวทั่วโลกหลั่งไหลมาท่องเที่ยวมหาสมุทรในหมู่เกาะทางใต้ที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ การเช่าเรือขนาดเล็กและพายเรือไปรอบ
ๆ จะได้ชื่นชมทัศนียภาพอันน่าทึ่ง และเก็บภาพถ่ายสวย ๆ ได้มากกว่า ขณะเดียวกัน
นักท่องเที่ยวบางคนอาจมีทางเลือกแตกต่างไป คือเช็คอินพักโรงแรมกลางทะเลไปเสียเลย
เรือสำราญขนาดกลางลอยคออยู่กลางมหาสมุทรซึ่งวังวนของระลอกคลื่นกลายเป็นสายน้ำที่นิ่งสงบ
เหมาะสำหรับการอาบแดดร้อนจ้าท่ามกลางธรรมชาติรายล้อมรอบด้วยหุบเขา
สลับไปกับต้นไม้สีเขียวขจี
ว่ากันง่าย ๆ
คือมีเตียงนอนเคลื่อนที่เหนือน้ำทะเลดี ๆ อยากจะกระโดดน้ำตอนไหนก็ได้
นัยน์ตาสีฟ้าครามประกายสดสวยทอดมองเส้นสีขาวของปุยเมฆที่กระจายตัวอยู่บนฟากฟ้า
มือเท้าแขนแข็ง ๆ ของตน นอนเหยียดกายอย่างสงบ
ด้วยท่าทีว่าเขาคงเลือกที่จะทำตามกระแสสังคม แม้จะสวนทางไปสักเล็กน้อย
เขาไม่มีความคิดที่จะกระโดดน้ำ...
ไม่ได้มาอาบแดดให้มีผิวสีแทนดึงดูดใจสาวฝรั่ง แต่มาเพื่อนอน...
คำนิยามของท้องฟ้า...
อาจคือความอิสระ
สายน้ำ...
อาจหมายถึงความรัก
ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือความรัก
เป็นสิ่งที่ขาดไปเสียไม่ได้ สิ่งที่ลืมตาตื่นมาก็จะต้องใช้มัน ต้องอยู่กับมันในทุก
ๆ วัน ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถมีชีวิตรอดหากปราศจากน้ำ
แม้แต่ตัวของเขาเองที่พยายามละ เลิก ทิ้ง ลาจากน้ำโดยไม่สนใจว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่
นี่เขากำลังคิดถึงใคร...?
เด็กน้อยในความดูแลงั้นหรือ?
ยี่สิบเอ็ดปีแล้วที่พี่ชายของเขา
ปองกานต์ได้หาภาระลูกมหึมามาให้ต้องรับภาระดูแลเด็กสาวมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่ได้รับรู้ความจริงจากภรรยาว่าลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือไม่ใช่ลูกของตัวเอง
เป็นบทเรียนราคาแพงให้ปรเมษฐ์ขยะแขยงผู้หญิง
และใช้ชีวิตอย่างระวังตัวมาตลอด เขาไม่ได้ฝังใจอะไรกับสองคนนั่นแล้วแต่เป็นลูก...
กว่าสองเดือน
เขาได้ตัดสินใจก้าวขาออกจากบ้านอย่างไร้คำลา แค่ส่งข้อความไปว่า ‘พี่ไปทำงานนะ...
ไม่กลับ’
ด้วยอายุที่ห่างกันกว่ายี่สิบปี
เขาแทนตัวเองว่า ‘พี่’ อยู่เสมอ บางครั้งปรายลดาก็ชอบที่จะเรียกเขาว่าพ่อเลี้ยง
เพราะเขาเลี้ยงดูหล่อนมาเหมือนเป็นพ่ออีกคน
ทั้งที่จริงแล้วเขานั้นอยู่ในฐานะอาเลี้ยง
แม่อนงค์ แม่แท้ ๆ
ของเขาเคยบอกกับหล่อนว่าอาเลี้ยงมันไม่มี เรียกไปก็ออกจะประหลาด เด็กน้อยคงไม่รู้จะเรียกเขาว่าอะไร...
ปรายลดาเป็นเด็กเลี้ยงง่าย
ไม่ดื้อไม่ซนมาแต่เล็ก ๆ ยังขี้อ้อนตามประสาเด็กผู้หญิง
หล่อนได้รับการอบรมสั่งสอนเป็นอย่างดีจากแม่อนงค์ให้เป็นคนขยันขันแข็ง
รู้จักหุงหาอาหาร ซักผ้ารีดผ้า ทำความสะอาดบ้าน ทำหน้าที่ทุกอย่างมาตั้งแต่เป็นเด็กสาวตัวเล็ก
ๆ อายุแค่ห้าขวบ
ต้นกล้าแข็งแรงได้รับการรดน้ำและพรวดดินเป็นอย่างดีเติบโตเป็นต้นไม้งาม
ผลิดอกออกผลมีรากฐานมั่นคงจนเขาไม่ต้องห่วงอะไร
ปรายลดายังเป็นเด็กดี
ตั้งใจเรียน มีความคิดเพียงอย่างเดียวคืออยากทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ
ทำให้แม่อนงค์รักและเอ็นดูเหมือนเป็นลูกสาวอีกคนหนึ่ง เช่นเดียวกับตัวเขา...
ติดที่...
ความรักและความผูกพันของเขาที่มีมันมากเกินไป มากเสียจนต้องจากเธอไปบ่อย ๆ บ่อยเท่าที่จะทำได้...
ตอนนี้เขาไม่ได้รับรู้ว่าลูกพุทราเป็นยังไง
เศร้าเสียใจ หรือว่าดีใจตัวโยนที่จะได้ใช้ชีวิตของตัวเองสักที
เพราะกลัวใจตัวเองว่าจะเก็บกระเป๋าไว้ที่เดิม
กลับไปนอนบนที่นอนนุ่ม ๆ ที่มีกลิ่นหอมอ่อนของแชมพู
ครีมอาบน้ำยี่ห้อเดียวกันโชยมาแตะจมูก
ร่างนุ่มนิ่มที่พยายามซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา
พริ้มตาหลับอย่างเป็นสุขราวกับว่าเขาเป็นโลกทั้งใบ
ทั้งที่นอนกอดมาตั้งแต่ตัวเล็ก
ๆ จนเป็นสาวสวยสะพรั่งวัยยี่สิบเอ็ดปี จู่ ๆ
เขาดันกลายเป็นโคแก่กลัดมันที่จ้องจะเขมือบเด็กสาวทุกคืน!
ห่างกันสักพักคงดี...
ชายหนุ่มคิดฟุ้งซ่านอยู่ตลอดวันหยุดงานที่เขาไม่คิดจะโทรหาปรายลดา
ต่อให้โทรมาเขาก็คงไม่รับ และใช้ข้ออ้างเดิม ๆ ว่างานยุ่ง
ทันใดนั้นเอง
เสียงโทรศัพท์สั่นดังจากข้างหู ใบหน้าหล่อเหลาลงตัวหันมองตาม
หยิบขึ้นมาดูอย่างพิจารณา แน่ว่าที่ไหนบนโลกแม้จะเป็นกลางทะเลเดี๋ยวนี้ก็มีสัญญาณ
ปลายสายไม่น่าจะใช่คนขี้งกที่เจียดเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้เล่าเรียน
ไม่ว่าเขาจะหาเงินให้ใช้มากมายเท่าไร
แต่เป็นนัชชา...
‘พุทรามีแฟนแล้วนะคะ
พ่อเลี้ยง... พี่รหัสชื่อธามไท กำลังจะย้ายไปอยู่ด้วยกัน’
ข้อความสั้น ๆ
ได้ใจความชัดเจน ร่างสูงลุกพรวดขึ้นกำโทรศัพท์แน่นยังกับว่าจะบีบมันให้แหลกคามือ
ทะเลสีมรกตสดสวยละเลงด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะลึกลงไปในดวงตาของเขาเอง
“จะมีผัวเป็นตัวเป็นตน
ไม่คิดบอกพ่อเลี้ยงเลยสักคำงั้นหรือ? พุทรา...!” ปลายเสียงตวาดกร้าวอยู่ลำพังในเรือที่เหมาเอาไว้ทั้งลำ
ระดับหุ้นส่วนใหญ่บริษัทรับเหมาก่อสร้างเอกชน
เจ้าของรีสอร์ตหรูริมทะเลหลายแห่ง
สถาปนิกคนดังที่ทั้งสร้างและถือหุ้นใหญ่ผูกขาดไว้กับตัวเอง
ต่อให้เจียดให้ลูกเลี้ยงในนามกับแม่บ้าง เขาก็ยังเหลือกินเหลือใช้
มีเงินมากพอที่จะเหมาโรงแรมกลางทะเลนอนเล่น
ปรเมษฐ์พยายามที่จะต่อสายหาเด็กสาวในความดูแล
แต่ก็ไร้วี่แววเสียงหวาน ๆ ของคนที่ขาดการติดต่อกันไป
ซึ่งในคราวแรกนั้นมันเริ่มต้นมาจากเขา
“ไม่รับโทรศัพท์พี่เรอะ! กล้ามากนักนะ ดี! ถึงเวลาอย่ามาของค่าเทอมละกัน”
ว่าไปแล้วเขาถึงได้กลอกตาไปมา พยายามสงบสติอารมณ์
เมื่อนึกถึงตอนโอนเงินไปให้ครั้งล่าสุดสองเดือนที่แล้ว...
ปรกติเขาจะสั่งเลขาฯให้โอนเงินให้แม่และปรายลดาทุกเดือนในจำนวนไม่เท่ากัน
มากน้อยแล้วแต่ความเหมาะสม และสถานการณ์ทางการเงินของตัวเขาด้วย
ด้วยความที่แม่อนงค์มีลูกหลานมาก
นอกจากเขาแล้วก็มีพี่สาวพี่ชาย มีหลานอีกห้าคน
ให้ไปห้าถึงหกหมื่นบาทบางทีเป็นแสนก็ไม่พอใช้
ดันมีเรื่องแปลก
ๆ คือแม่ไม่ขอเงินเขาเพิ่ม...
ปรเมษฐ์ตัดสินใจต่อสายหาแม่
แต่หล่อนอาจเลี้ยงหลานหรือทำอะไรสักอย่างอยู่
ร่างกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามในกางเกงขาสั้นที่ดูเล็กไปถนัดตา กระแทกเท้าปึงปังลงมาจากดาดฟ้าเรือ
ภายใต้แสงอาทิตย์ร้อนแรงแม้มีหลังคาบดบังความร้อนอยู่
จิตใจร้อนรุ่มกระวนกระวายของเขาไม่ได้เย็นลง...
พุทราคนสวยของเขาไม่ธรรมดามาตั้งแต่เริ่มย่างเข้าสู่วัยสาว
เขายังจำได้ว่าตอนอายุสิบกว่าขวบ ไม่ว่าประกวดความงามเวทีไหน รอยยิ้มแสนหวานในความสวยอย่างไทยราวภาพวาดนางในวรรณคดีทำให้เธอคว้ารางวัลมาทุกเวที
ตอนนี้ก็ยังเป็นดาวมหาวิทยาลัย!
ที่ผ่านมา
เขาไม่เคยทิ้งลูกกระต่ายน้อยน่ารักไว้ลำพังท่ามกลางฝูงหมาป่าหิวกระหาย
เว้นคราวนี้ที่จากมา
“อลัน...
แกไปเช็คเอ้าท์ให้ฉัน จ่ายราคาเต็ม จองตั๋วกลับไทย
ไฟล์เร็วที่สุดให้ฉันภายในวันนี้”
เลขานุการประจำตัวของปรเมษฐ์ยืนรออยู่
หลังชะโงกหน้ามองขึ้นไปข้างบน
ได้ยินเสียงคนโวยวายประมาณว่าทะเลแสนสวยที่ชื่นชมความงามมาแต่เช้าจะกลายเป็น ‘ทะเลเดือด’
“ครับ
ผมจะจัดการให้ แล้วคุณเปาจะให้ผมไปดูไอ้เด็กนั่นด้วยไหม? แฟนน้องพุทราน่ะ”
เป็นงานนอกเหนือจากงานประจำเงินเดือนสูงลิบ
ลูกครึ่งหนุ่มบราซิลส่งผ้าขนหนูให้มือหนารับไปพาดบ่าไว้
“ฉันจะไปหามันเอง
พุดทำอะไร นอกจากเรียนไหม?”
“จะรู้ไหมครับ? ก็บอสบอกผมว่าไม่ต้องตาม...
คงจะขายเสื้อผ้าแฟชั่นเหมือนเดิมหรือเปล่า?” อลันไหวไหล่
มือหยิบแท็บเล็ตที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นมาปัดไปมา
ทั้งงานบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
รีสอร์ตส่วนตัว อสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่ง ไม่มีทางที่จะทำคนเดียวไหว
เลขานุการชาย
เป็นตัวเลือกของปรเมษฐ์ เพราะไม่ต้องการภาระเรื่องชู้สาวตามมาทีหลัง
นิสัยยุ่มย่ามวุ่นวายเรื่องของเจ้านายก็ไม่มากเกินพอดี ทำงานแค่ตามคำสั่ง
ทว่าเขาอาจจะตัดสินใจผิดไปสักหน่อย
หน้าตาระรื่นของหนุ่มวัยสามสิบปีบอกว่าเจ้าตัวช่างมีความสุขกับการเพ่งจอสี่เหลี่ยมเพื่อจัดการงานของตน
“คนอะไรไม่รู้
ยิ่งโต ยิ่งสวย... ไม่น่ารีบมีแฟนเลย”
“แกว่าอะไร...
เมื่อกี้ แกพูดว่าอะไรนะ?”
สุ้มเสียงเข้มขรึมขึ้น สายตาคมกริบจ้องลูกครึ่งหนุ่มเขม็ง สาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ
บนเรือโคลงเคลงที่มีแค่เขา อลัน และกัปตันเรือ
“เปล่าครับ
ผมพูดกับลมฟ้าอากาศ” ในท่าทีเฉยเมย
เลขานุการหนุ่มทำหน้าที่ของตัวเองอยู่อย่างไม่มีตกหล่น
อลันไม่ได้เกรงกลัวเจ้านายไปเสียทุกเรื่อง
เขาทำงานทุกอย่างให้ปรเมษฐ์ได้เหมือนกับว่าตัวเองเป็นน้องชายอีกคนหนึ่งมานับสิบปี
ซึ่งความสนิทสนมนั้นได้รับผลตอบแทนในตัวของมันอย่างสมน้ำสมเนื้อ
“ออ...
พูดกับลมฟ้าอากาศ?” สิ้นคำ
ดวงตาลุกโชนหลุบมองวงหน้าหล่อเหลาที่มองกลับมาครั้งหนึ่ง ความเป็นคนมือไว
เขาก็คว้าจอสี่เหลี่ยมมาดูด้วยความเคลือบแคลงใจอะไรบางอย่าง
พักหลัง
ๆ มานี้ลูกน้องหนุ่มเล่นโทรศัพท์บ่อยขึ้น
ปรเมษฐ์คาดหวังไว้ว่ามันควรเป็นเรื่องงานในเวลางาน เพราะเขาจ่ายเงินเดือนสูงลิบ
พร้อมโบนัสพิเศษ
ดวงไฟอีกดวงหนึ่งลุกไหม้ในเรือนกายชายแกร่งที่ขบกรามแน่นเป็นสันนูน
เมื่อพบภาพถ่ายมากมายในพื้นที่ส่วนตัวของเลขาฯ
“นี่แก...
เซฟรูป... พุทราไว้เป็นหน้าโปรไฟล์...?”
“รูปดารา...
น่ะครับ” คนตอบฉีกยิ้มกว้างกลบเกลื่อนคำโกหก
จากที่ไม่กลัวก็เริ่มกลัวขึ้นมาบ้างแล้วตอนนี้ ขณะร่างสูงตวัดกายแกร่งเดินไป
ถือวิสาสะเปิดดูทุกอย่างเหมือนเป็นโทรศัพท์ของตัวเอง
นอกจากหน้าจอที่มีหญิงสาวหน้าตาสะสวยฉีกยิ้มหวานให้อย่างเต็มใจ
เหมือนไปถ่ายมากับมือ ยังมีรูปถ่ายอีกมากมายเป็นอัลบั้ม ทั้งกินไอศกรีม
เดินเล่นในสวนสาธารณะตามลำพัง บางครั้งก็อยู่กับเขา มันคือรูปเก่า ๆ ในวันวาน
เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเรื่องงานซึ่งเขาได้สั่งให้อลันคอยติดตามลูกเลี้ยงคนสวยอยู่ห่าง
ๆ ไม่ให้บรรดาหนุ่มน้อยใหญ่มาแจกขนมจีบ
แฟ้มภาพดันอยู่ในอีกที่หนึ่ง...
มีตัวอักษรกำกับไว้ว่า ‘น้องพุทราคนสวย’
“ขออุปกรณ์การทำงานของผมคืนนะครับ...
บอส”
“ได้สิ...”
เขาตอบเมื่อขายาว ๆ ที่ก้าวไปสุดท้ายเรือหยุดก้าวลง
พลันหันหลังกลับไปส่งยิ้มให้อย่างเคย เพื่อส่งของคืนแต่ก็ไม่ถึงมือ...
โครม!
ชายร่างกำยำในเชิ้ตสีขาวสะอาดลงไปลอยคออยู่กลางทะเลด้วยลูกถีบของเจ้านายที่โบกแท็บเล็ตในมือไปมา
วงหน้าหล่อเหลายิ้มเริงร่า พอได้ระบายอารมณ์เดือดพล่านไปกับทะเล และเลขาฯทรยศ!
“พูดกับลมกับทะเลไปนานๆนะ อลัน
ฉันไม่รีบ แต่ถ้าแกทำงานช้า เงินเดือน ๆ นี้ไม่ต้องเอา”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!