NovelToon NovelToon

ซุปตาร์หนีรัก

บทนำ

ณ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือดูไบเมืองของอภิมหาเศรษฐี ที่เว่อร์วัง คนทั่วไปต้องนึกถึงด้วยความหรูหราและความล้ำสมัยความยิ่งใหญ่ตระการตาจากเมืองแห่งท้องทะเล ได้กลายมาเป็นเมืองสวรรค์บนดิน

รวมถึงเพื่อนซี้ของเธอตะนอยร่างกายที่เป็นชายแต่ใจเป็นหญิงคนในวงการชอบเรียกนางว่า เจ๊มดตะนอยผู้จัดการดาราอันดับหนึ่งของเมืองไทย

ตะนอยนั้นบ่นมาทุกปีว่านางอยากจะมาเที่ยวดูไบ อยากจะมาเจอหนุ่มๆอาหรับ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่เธอต้องการอยากพักจากการทำงานแสดงละคร โฆษณา และ อีเว้นท์ต่างๆ ซึ่งถือว่าเยอะมากในช่วงเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ที่ไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนนอกจากการทำงาน การมาเที่ยวของเราทั้ง 2 คน มันมีความแตกต่างกันมากมาย เพื่อนของเธอนั้นชัดเจนตั้งแต่ขึ้นครื่องลงเครื่องที่สนามบินแล้วว่าต้องการอะไร

กรี๊ด กรี๊ด “ว๊าย!!! หนุ่มอาหรับหล่อ มันทำใจของกะเทยเต้นตึ๊ก ตึ๊ก”

“พอ...หยุดสักที ไหนที่พักที่แกจองไว้ตะนอย ฉันเหนื่อยมากอยากจะพักผ่อน”

กังสดาลที่รู้สึกขำและแอบอายนิดๆ ที่เพื่อนของเธอแสดงอาการตื่นเต้น กรี๊ด วี๊ด ว้าย แบบนี้จนคนทั้งสนามบินหันหน้ามามองจุดที่เธอยืนอยู่

“ระดับเจ๊มดตะนอยไม่มีพลาดในการหาที่พักฉันเช็คข้อมูลมาอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้วว่า ที่ไหนดี ที่ไหนเลิศ เจ๊มดตะนอยจัดการให้ let go!!”

พร้อมทำท่าดีดนิ้วแล้วกวักมือเรียกให้เธอเดินตามมากั้งถึงกับส่ายหน้าเบาๆ

“จ้า เรื่องงานก็ให้พร้อมแบบนี้บ้างนะ”ทั้งสองพากันเดินมายังรถของโรงแรมที่ได้ติดต่อให้มารับพวกเธอที่สนามบิน

“เฮ้อ...ถึงสักที ฉันขอพักเอาแรงก่อนนะ เหนื่อยมากและเพลียด้วย”

“โอเค ตามสบาย เดี๋ยวฉันจะจัดการเอาเสื้อผ้าเข้าใส่ในตู้ให้เองจ้ะ คุณเพื่อน”

ยังพูดไม่ทันจะจบตะนอยหันกลับไปมองอีกทีกั้งก็ได้หลับไปแล้วตะนอยถึงหัวเราะเบาๆ พร้อมกับส่ายหน้าเดินไปเปิดกระเป๋าเอาเสื้อผ้าออกมาแขวนแล้วทำการเดินสำรวจรอบ ๆ ห้อง จัดว่าห้องพักใช้ได้เลยทีเดียวสมกับราคาที่แสนจะแพง

“ไม่ไหวอาบน้ำดีกว่าเรา จะได้สบายตัว” พร้อมกับฮึมฮัมร้องเพลงไปเบาๆ

กั้งที่ได้นอนหลับไปสักพักตื่นขึ้นมาก็รู้สึกสดชื่นดีกว่าตอนมาถึงแรกๆ เธอเริ่มสังเกตมองรอบๆ ของห้องพักรสนิยมของเพื่อนจัดว่าใช้ได้ กั้งเดินบิดขี้เกียจและเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม เพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นเดินเลยไปมองตรงกระจกก้มมองไปตรงด้านล่างสมกับที่เขาบอกกันจริงๆ ว่าเป็นเมืองของมหาเศรษฐี

เธอกับตะนอยรู้จักกันตั้งแต่เด็กจนถึงเรียนมหาวิทยาลัยและเริ่มทำงานเข้ามาในวงการ ก็ได้ตะนอยนี้แหละเป็นเพื่อนมาคอยจัดคิวทั้งสองถือว่าสนิทและไว้ใจกันมากที่สุดในชีวิตเธอ ภายนอกทุกคนอาจจะคิดว่าเธอมีฐานะร่ำรวยไม่จำเป็นต้องมาทำงานในวงการก็มีกินมีใช้แล้ว ซึ่งความเป็นจริงแล้วเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายคนนั้นเห็นจะมีก็แค่นามสกุลเท่านั้นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกันตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นได้ไล่เธอกับแม่ออกบ้าน ถ้าเปลี่ยนนามสกุลได้ใจเธอก็อยากจะเปลี่ยนให้มันจบๆไป แต่ติดตรงแม่ของเธอไม่ยอมให้เปลี่ยน เธอก็ไม่เข้าใจในตัวท่านเช่นกัน

แม่เลี้ยงสุมณฑา เทียมสมรหรือที่ใครๆ เรียกว่าแม่นาย เธอกับแม่ได้ย้ายกลับไปอยู่เชียงใหม่ตั้งแต่พ่อกับแม่ได้แยกทางกัน เราสองคนมาช่วยกันพัฒนาที่ดินของยาย ให้เป็นไร่ดอกกุหลาบและดอกไม้เมืองหนาวที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งไร่เรามีสายพันธุ์มากมาย จนเป็นที่ติดตลาดของเมืองไทย

กริ้ง กริ้ง กั้งรอปลายทางรับสาย “สวัสดีเจ้า แม่นาย สบายดีก่อเจ้า”

“สบายดีจ้ะคุณลูกสาวถึงดูไบแล้วหรือไงเรา”

“ถึงแล้วคะแม่ แม่ทำอะไรอยู่ค่ะ”

“แม่ก็กำลังเตรียมตัวจะเข้านอน เรานะไม่เหนื่อยหรือไงนี่คงพึ่งจะลงเครื่องได้ไม่นานใช่ไหมลูก”

“ใช่คะแต่กั้งหลับไปแล้วนิดนึงคะแม่ ตื่นขึ้นมาก็เลยโทรหาแม่ก่อน”

“แล้วตะนอยไปไหนแล้วละลูก เงียบเชี่ยวไม่ได้ยินเสียงเลย”

“ออ...ตะนอยอาบน้ำอยู่คะแม่ กั้งคิดถึงแม่จังอยากให้แม่มาเที่ยวด้วยกัน”

“จ้า...คุณลูกสาว แม่ก็คิดถึงหนู ดูแลตัวเองดีๆหละ ไปต่างบ้านต่างเมือง พอดีช่วงนี้ที่ไร่เรามันยุ่งๆ รอให้พ้นช่วงนี้ก่อนนะ แม่จะขอใช้เงินลูกบ้าง”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า สำหรับแม่กั้งยกให้หมดเลยคะ”

“ดีมากจำไว้ดีๆ นะคุณลูกสาว กั้งแค่นี้ก่อนนะแม่รู้สึกง่วงๆ วันนี้แม่ไปลงไร่มาทั้งวัน เหนื่อยๆ”

“คะแม่พักเถอะ ยังไงแล้วหนูจะโทรหาเรื่อยๆ แล้วกันนะคะแม่”

“จ้ะ คุณลูกสาว”

“กั้งรักแม่นะคะ จุ๊บ จุ๊บ”คุยกับแม่เสร็จแล้ว เธอก็เดินออกมาตรงห้องรับแขก เธอเดินไปนั่งตรงโซฟาที่เห็นตะนอยนั่งอยู่ก่อนแล้ว ตะนอยได้หันหน้ามาถาม

“โทรรายงานตัวกับป้ามาแล้วใช่ไหม”

กั้งพยักหน้า ตาก็จับจ้องไปตรงโทรทัศน์ที่กำลังนำเสนอรายการของที่นี้ ดูๆไปก็เพลินดี สักพักกั้งก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำ ตั้งแต่เดินทางมาถึงเธอยังไม่ได้ล้างหน้าหรืออาบน้ำ มาถึงเธอก็ขอนอนพักเอาแรงก่อน เดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้แบบที่เธอชอบใส่บ่อยๆ เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์รัดรูป ใส่คู่กับรองเท้าผ้าใบคู่เก่ง ถ้าไม่ทำงานเธอมักจะไม่ค่อยแต่งหน้าเท่าไหร่ เธอก็ใช่ช่วงนี้แหละได้พักใบหน้าจากเครื่องสำอางค์

“ไป ไป พร้อมหรือยัง เราจะมาเริ่มทริปท่องเที่ยวในดูไบกันแล้วน่ะ”

ตั้งแต่ก้าวแรกที่เธอเดินออกจากโรงแรม เพื่อนของเธอนั้นก็มีปณิธานอัน   แน่วแน่ที่จะพาชมผู้ชายให้ทั่วดูไบ จนตอนนี้เธอเริ่มจะเวียนหัวสรุปว่าเพื่อนเธอชวนมาดูกล้ามอกแน่นๆ ของผู้ชายอาหรับ

“แก แก ดูผู้ชายคนนั้นสิคนที่มีหนวด อือหื้อ...หล่อวะ กั้งแกว่าไหมผู้ชายที่นี้ดูดีงานดีกันทั้งเมืองเลย”

“เออ...ตั้งแต่มาถึงดูไบ ฉันขอถามแกตรงๆ นะ แกเจอคนที่ไม่หล่อบ้างหรือยังถ้าเจอแล้วบอกฉันด้วย พอดีฉันอยากจะเห็นว่าคนไม่หล่อของแกหน้าตามันจะเป็นแบบไหน”

“อ้าวชะนีนี่ก็ คนสวยแบบหล่อนก็เลือกได้สิคะ แต่สำหรับฉันคนไม่หล่อแกจะให้ฉันดูไปทำไมให้เสียสายตา คนเราน่ามันต้องดูผู้ชายไว้เปรียบเทียบหากวันหนึ่งแกเกิดจะมีแฟนขึ้นมาแกจะได้ดูออก”

“สรุปคือแกจะให้ฉันศึกษาผู้ชายแต่ละประเทศหรือไง แล้วนี้ก็อีกเรื่องหนึ่งตั้งแต่ฉันมาถึงฉันเห็นแกชมคนโน้นหล่อคนนี้หล่อ ฉันก็อยากจะเจอคนไม่หล่อของแกบ้างสิมันผิดตรงไหนฉันก็จะได้เก็บไว้พิจารณา” ตะนอยหันไปมองบนเบาๆ ตามสไตล์

“พอๆ ไม่ไหวพรุ่งนี้เราค่อยว่ากันใหม่เถอะกั้ง ฉันรู้สึกเหนื่อยและร้อนเดี๋ยวพรุ่งนี้จะอธิบายให้ฟังใหม่เรื่องผู้ชาย”

“อ้าว ฮ่า ฮ่า เห็นคึกตั้งนานอยู่ดีๆ ก็แบตหมดสะงั้นคุณเพื่อน”

ในเช้าวันถัดมากั้งตื่นขึ้นมางัวเงียลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ ที่มันดังอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา ใครเนี่ย!!! ที่โทรมาแต่เช้า

“ฮัลโล กั้งพูดอยู่ค่ะ” แต่หน้าก็ยังจมอยู่กับหมอนใบโต

“ไง ยายตัวแสบถึงแล้วไม่คิดจะโทรหากันบ้างหรือไง”

“พี่ต้นโทรมาก็บ่นเลยน่ะ วันนี้ว่างแล้วเหรอคะคุณวิศวกรถึงได้โทรมาหา”

“ก็ว่างแล้วสิ พอดีน้องมันไม่เคยคิดจะโทรหาเราเลยต้องเป็นคนโทรหาเอง”

กั้งที่ได้ยินถึงกับหัวเราะคุยกันไปได้สักพัก ตะนอยก็เดินเข้ามาแซว

“ไงคะพี่ต้น ต้องโทรมารายตัวถึงที่นี่เลยหรือไง กลัวกั้งมันจะคว้าเอาหนุ่มอาหรับกลับไปฝากหรือไงคะ”

“พี่น่ะไม่กลัว กลัวแต่จะไม่คว้ามามากกว่านะสิ” ต้นที่ได้ยินเสียงตะนอย ดังแทรกเข้ามาเพราะกั้งได้เปิดสปีคโฟนพูด กั้งที่รู้ว่าตะนอยตื่นแล้วจึงหันหลังกลับไปไล่ตะนอยให้ไปอาบน้ำ

“ไป อาบน้ำได้แล้วแก เดี๋ยวฉันจะได้อาบมั้ง”

“พี่ต้นแค่นี้ก่อนนะคะ เสียดายเงินค่าโทรศัพท์ เดี๋ยวกั้งจะถ่ายรูปสวยๆ ส่งไปให้ดูคะ”

คุยเสร็จไปได้สักพักเธอก็ขอนอนอีกนิด จนตะนอยอาบน้ำเสร็จเธอก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวพร้อมกับเช็คกล้องกระเป๋าเงินสิ่งของต่างๆ ภายในกระเป๋า แล้วก็พากันเดินออกมายังด้านหน้าของโรงแรม ทั้งสองมองไปรอบๆ จนเจอร้านกาแฟที่สวย บรรยากาศดีน่านั่งในยามเช้า ซึ่งแดดมันยังไม่ถึงกับร้อนมาก เธอกับตะนอยเดินเข้าไปภายในร้านเพื่อดูเมนูและสั่งอาหารมานั่งทานเพลิน ๆ ก่อนจะออกไปเดินเที่ยวกันในวันนี้ ช่วงที่เธอนั้นกำลังมองไปรอบๆ ก็ต้องร้องออกมาเสียงดัง

“โอ๊ยๆ แกหยิกฉันทำไมตะนอย” ตะนอยที่พึ่งรู้สึกตัวจึงก้มมองตรงต้นแขนของเพื่อนที่เธอลืมตัวเผลอบิดเข้าไป

“โทษ ๆ ฉันขอโทษเผลอไปนิดนึงพอดีฉันเจอคนหล่อ นี่ๆ ดูสิแกคนบ้าอะไรจะหล่ออะไรขนาดนั้น”

กั้งหันไปมองตามที่ตะนอยชี้ก็หล่อจริงๆ แต่คนไหนกันล่ะที่เห็นยืนกันเป็นกลุ่มเหมือนกับพวกบอดี้การ์ดในละครหรือหนังที่เธอแสดง มองไปมองมาก็เหมือนกับพวกแกงค์มาเฟีย กั้งเมื่อมองเลยเข้าไปในกลุ่มของชายกลุ่มนั่นเธอสังเกตว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่เดินลงมาจากรถ เขาดูดีจัง หล่อ สมาร์ทมาก ท่าทางคงจะเป็นนักธุรกิจใหญ่ของที่นี่แน่ๆ มีแต่คนวิ่งออกมาต้อนรับ

“ชะนี ชะนี แกมองคนไหนแกชี้ให้ฉันดูสิ อย่ามามองคนเดียวกับฉันนะ”

“เดี๋ยวๆ น่ะฉันยังไม่รู้เลยว่าแกมองหรือชมคนไหนที่เห็นๆ เขาก็ยืนกันเป็นกลุ่มหรือว่าแกจะเหมาทั้งหมดดูท่าทางจะแข็งแรงแล้วกะเทยจะรับไหวไหม” กั้งที่ส่งเสียงหัวเราะจนตะนอยมองค้อนหันกลับมาเตรียมจะต่อว่า

“ค่ะ!!! ได้มาทั้งหมดกะเทยก็พร้อมรับนะ ส่วนแกนังชะนีสนใจจะรับสักคนไหมคะ”

“อย่า!!! มาโยนให้ฉันพอดีฉันไม่นิยมกินของนอกคะท่าทางน่ากลัว”

ตะนอยจึงพูดสวนกลับมา “น่ากลัวจะรับไม่ไหวใช่ไหมล่ะชะนี”

“จ้า!! คุณสมชาย” ตะนอยได้ยินก็กรี๊ดรับไม่ได้กับชื่อจริงที่เพื่อนเรียกและ เตรียมทำท่าจะตบปากเพื่อนสนิท

“หยุด!!! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะนังเพื่อนบ้า ถ้าแกเรียกชื่อนี้อีกทีฉันจะหางานให้ทำไม่ให้หยุดเกมของแกฉันก็จะไม่ให้เล่นฉันจะยึดเวลาทั้งหมดของแก”

“ถ้าฉันไม่ได้หยุด ตัวแกก็อย่าฝันว่าจะได้หยุดเช่นกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

เสียงหัวเราะของทั้งสองคนนั้นดังไปกระทบใครบางคนที่ก้าวลงมาจากรถ มาร์ตินจึงหยุดและหันหน้าไปมองตรงที่ร้านกาแฟที่มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งกับผู้ชายที่ออกจะตุงติง กั้งที่กำลังหัวเราะอยู่ดีๆ จู่ก็มีลางสังหรณ์แบบแปลกว่ามีใครมองเธออยู่

“ตะนอย ตะนอย เขามองมาทางนี้ เราเสียงดังกันไปหรือเปล่าว่ะ”

กั้งที่หันไปสะกิดเพื่อนแล้วมองไปรอบๆ ไม่มีใครเธอจึงได้แต่พยักหน้าเป็นเชิงขอโทษที่ทำเสียงดัง เขาคงจะรำคาญผู้ชายคนนั้นยืนนิ่งหันหน้ามาทางนี้ แต่ภายใต้แว่นตาเธอไม่รู้ว่าเขามองอะไร จากที่ยิ้ม ๆ ก็หุบยิ้มในทันที

“ตะนอย ตะนอย เขามองเราหรือเปล่าวะ”หรือเขามองใคร กั้งได้หันไปมองรอบๆ ก็มีแต่เธอกับตะนอยเท่านั้น

“แก แก ฉันว่าเราไปที่อื่นกันเห๊อะ”

มาร์ตินได้โอกาสก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ซึ่งเขานั่นก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันเขาจะถ่ายรูปผู้หญิงคนนั้นทำไม ใช่เธอสวย สวยแบบสาวเอเชียหุ่นทรวดทรงโอเคเลยดูใบหน้าเล็กๆ ปากนิดจมูกหน่อยนั่นจัดว่าเข้ารูปสวย

กั้งนั้นคิดในใจงานนี้เธอต้องทำอะไรผิดพลาดแน่ๆ เขาถึงได้ถ่ายรูปพวกเธอนี่เขาจะเอาไปแจ้งความหรือว่าอะไร กั้งทำสีหน้าไม่สู้ดีมันร้อนๆหนาวๆ พิลึกกฎของที่นี่เธอก็ไม่รู้ ข้อห้ามเขาห้ามทำอะไร เธอก็ไม่ได้ศึกษามาเลย

“แก เก็บของเสร็จหรือยังตะนอย”กั้งรีบเร่งให้ตะนอยรีบๆ เก็บของ

ช่วงทีเธอกับตะนอยก้มเก็บของอยู่นั้น ก็มีผู้ชายคนหนึ่งได้เดินมาหาเธอที่โต๊ะเธอนั่ง

นาโช่ที่ได้รับคำสั่งจากบอสให้เดินมาถามชื่อและสั่งให้เขามาขอเบอร์โทร แต่เมื่อเขาเดินมาถึงที่โต๊ะ เขาต้องตกใจกับผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านข้างผู้ชายคนนี้มองเขาสายตาอย่างกับจะกลืนกินเขาเข้าไปอย่างนั้นแหละ

นาโช่คิดในใจ เฮ้ย!!! ทำไมบอสทำแบบนี้กับเขา ไอ้เบ็นมันก็ว่างทำไมไม่ใช้มันมาเขาเริ่มคิดในใจเขาไม่ค่อยจะถูกโฉลกกับเพศนี้สักเท่าไหร่ เขามั่นใจมาว่าคนที่จ้องมองเขาอยู่นั่นเป็นเพศไหน

กั้งเงยหน้าขึ้นไปมองเอาแล้ว เอาแล้วไงเราต้องทำผิดกฎของที่นี้แน่ ๆ เขาถึงได้เดินมาเตือน

“ขอโทษนะครับ พอดีบอสของผมขอให้ผมมาทำความรู้จักคุณ พอดีบอส ผมคิดว่าคุณผู้หญิงหน้าตาดูคุ้นๆ คล้ายกับเพื่อนของท่าน” เนียนไปแล้วกันเรา

กั้งได้ยินคำทักทายแล้วถึงกับทำหน้าสงสัย ตะนอยก็ไม่ต่างกัน แต่ด้วยความที่เป็นคนเฟรนลี่และคนที่ยืนตรงหน้าเป็นหนุ่มหล่อ เพื่อนของเธอมีเหรอที่จะพลาด

“สวัสดีคะ ดิฉันชื่อตะนอย เป็นผู้จัดการของดารา คนที่คุณกำลังบอกว่าหน้าคุ้นๆ คนนี้เธอคือมิสกังสดาล วัฒนาศิริ แล้วนี้นามบัตรคะคุณสุดหล่อ”

กั้งดึงแขนตะนอยมาตีเบาๆ แล้วทำเสียงดุ พร้อมกับชี้ให้หยุดพูดและที่สำคัญคือเพื่อนเธอให้นามบัตรไปด้วยสิ

“ตะนอยแกไปให้นามบัตรเขามั่วซั่วแบบนั้นได้ไงและที่สำคัญแกบอกชื่อของฉันไปทำไม” พร้อมกับส่งสายตาดุๆ ไปให้เพื่อน

“เออ...ขอโทษคุณต้องการอะไรหรือเปล่า หรือว่าพวกเราได้ทำผิดกฎอะไรของที่นี่” กั้งนั่นพูดจาด้วยความระมัดระวังตัวเอง เธอไม่แน่ใจว่าเขามีจุดประสงค์อะไร

“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่อย่างที่ผมได้บอกคุณไปเมื่อกี้ บอสของผมเขาคุ้นๆ ใบหน้าคุณผู้หญิงบอสเลยให้ผมมาถามชื่อว่าใช่คนรู้จักหรือเปล่าก็แค่นั้นครับ”

กั้งได้ยินสิ่งที่ผู้ชายตรงหน้าพูดแล้วไม่คิดที่จะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดว่านั่นคือเรื่องจริง เธอพึ่งเคยมาที่นี่ไม่มีทางที่จะรู้จักใคร นึกไปอีกทีเธอกับตะนอยต้องทำอะไรผิดแน่ๆ จนเจ้านายเขารำคาญหรือว่าพวกเธอทำอะไรไม่ดี

“ไม่ใช่ครับ บอสผมแค่อยากจะรู้จักคุณเท่านั้นและนี่คือนามบัตรของบอส ครับ” เร็วกว่าเธอก็เพื่อนคนข้างๆ ที่เอามือยื่นไปรับมาทันทีกั้งได้แต่ส่ายหน้า

บทที่ 1

 

 

ตะนอยนั่นหยิบนามบัตรขึ้นมาดู หลังจากที่ชายคนดังกล่าวเดินจากไปแล้ว OMG!! CEO ดาวรุ่งพุ่งแรงโปรไฟล์เริ่ด หนุ่มที่นิตยสารCLEO ยกให้เป็นนักธุรกิจหล่อชื่อดัง ติดอันดับต้นๆ ของโลก

“แก แกโปรไฟล์เริ่ดมากขอบอก”

“แล้วไงและที่สำคัญคือแกไปรับนามบัตรเขามาแบบนี่เขาจะคิดยังไง”

“แหม่ แหม่ แกเขายื่นไมตรีมาเราก็ต้องรับไว้สิ มารยาททางสังคมรู้จักไหม ชะนี ผู้ชายสมัยนี้ยิ่งหายากๆ ที่เป็นส่วนใหญ่ก็มาอยู่ในหมวดของฉัน เก้ง กวาง หรืออยากแกอยากจะมาไฟต์ ชะนีอย่างแกก็มีสิทธิแพ้ราบคาบ”

“มั่นใจจริงนะแก ฉันว่ายังไงโลกนี้ก็สร้างผู้หญิงให้มาคู่กับผู้ชายอยู่ดี ฉันจะกลัวไปทำไม ไป!!! เสียเวลา ไปเดินเล่นแถวนี้กันดีกว่า”

ส่วนนาโช่ที่เดินเข้ามาภายในโรงแรมที่พึ่งจะเปิดไปได้ไม่นานที่นี้ บอสเขา คุณมาร์ตินได้ศึกษาจนพอจะรู้จักคนใหญ่คนโตของที่นี่พอสมควรเลยได้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศนี้ ตั้งแต่ที่เขาเดินเข้ามาก็ได้แวะทักทายบรรดาสาวๆ ก่อนจะก้าวเข้าลิฟท์ เพื่อขึ้นไปชั้นบนห้องทำงานของบอสสุดหล่อนานๆ ทีจะได้ฉายเดียวไม่มี คู่หูอย่าง

เบ็น

“สวัสดีครับ คนสวย!!!”

นาโช่ได้ยิ้มโปรยเสน่ห์ให้กับบรรดาสาวๆ ตามแผนกต่างๆ ก่อนที่จะเข้าไปเจอบรรยากาศเดิมๆ คนเดิมๆ นาโช่เดินผิวปากและไม่พลาดที่จะกดเข้าไปดู IG ของคุณกั้งยังไงดาราชื่อดังก็ต้องมีIG หรือ Facebook เขาจะได้รู้ข้อมูลและหาอะไรเพิ่มเติมบ้าง

ว้าว ว้าว คนติดตามเยอะมากจริงๆ โห้...ดังใช้ได้ เดินขึ้นมาจนถึงบริเวณหน้าห้องของบอสก็ได้เจอเข้ากับ

เบ็น

“เป็นไง!!!สำเร็จไหมนาโช่เรื่องที่บอสใช้ให้ไปจัดการ”

“เบ็น !!! นายมองหน้าฉันสะก่อน นายคิดว่าฉันทำได้ไหม ระดับคนหล่ออย่างฉันเมื่อลงมือทำมีหรือที่จะพลาด” พร้อมยักคิ้วให้กับคู่หู ส่วนเบ็นที่มองแล้วรู้สึกเบื่อกับคำพูดที่หลงตัวเองของเพื่อนสนิท

“ไปๆ อย่าพูดมากคุณมาร์ตินเขารอนายอยู่” มาร์ตินที่กำลังนั่งดูรายงานสรุปผลประกอบการของโรงแรมที่เขาพึ่งได้ทำการเปิดเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ การที่เขาเข้ามาลงทุนเปิดกิจการที่นี้นั้นเขาต้องการให้โรงแรมที่เขาทำมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้และภายในโรงแรมเขาให้มีทั้งห้างสรรพสินค้าด้านล่าง ส่วนด้านบนของดาดฟ้า เขาได้จัดเป็นร้านอาหารยุโรปชื่อดังที่สามารถฟังเพลงสบายๆ มองดูวิวรอบๆของดูไบ จากที่สูงและมีห้องไว้รองรับ

พวกดารา เซเลบ นักธุรกิจใหญ่ๆ ถือว่าดีในระดับหนึ่ง ทั้งชื่อเสียงที่เริ่มจะติดเป็นโรงแรมชั้นนำในภูมิภาคนี้

ธุรกิจจริงๆ ของเขาส่วนใหญ่อยู่ที่สเปน กิจการในเครือของตระกูลกุสโซ่ นั้นมีมากมายทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้าและล่าสุดเขากำลังสร้างคอนโดมิเนียมสุดหรู เขาได้บินมาดูความเรียบร้อยของที่นี่และพึ่งจะมาถึงเมื่อช่วงเช้า ช่วงก่อนที่เขาจะเข้ามาที่โรงแรมเขายังรู้สึกอารมณ์เสียกับนาโช่ ลูกน้องคนสนิทของเขาไม่หายคิดๆ แล้วยังโมโห ดีน่ะที่พอมาถึงโรงแรมของเขายังมีเรื่องอะไรให้ผ่อนคลายเขาหยิบมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดขึ้นมาดู

รอยยิ้มที่เขาแอบถ่าย มันเป็นรอยยิ้มที่โดนใจเขามาก จริงๆ เขาไม่เคยคิดที่จะสนใจใครยิ่งกับผู้หญิงแล้วสำหรับเขาส่วนใหญ่ที่ผ่านมาก็มีแค่ไว้ปลดปล่อยชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นไม่คิดที่จะจริง แต่เมื่อเช้าเขาถึงกับต้องหยุดมองผู้หญิงเอเชียแน่ๆ สวย ถึงแม้จะมองเห็นไกลๆ แต่มันมีแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาก็ไม่แน่ใจ เขาเผลอยิ้มกับภาพที่เขาได้ทำการกดถ่ายไว้

“สวัสดีคร๊าบ คุณมาร์ตินนน” นาโช่สะตั้นคิดในใจ โอ้ววว!!แม่เจ้า เขาพึ่งเคยเห็นคุณมาร์ตินยิ้มซึ่งมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ มีอะไรดีในนั้นแน่ๆ

“นี่ครับสิ่งที่คุณมาร์ตินให้ไปจัดการ”นาโช่ยื่นโปร์ไฟล์พร้อมกับนามบัตร ของคนที่บอสอยากจะรู้จักและสั่งให้ไปจัดการ

มาร์ตินมองนาโช่ มันดีกว่าเบ็นก็ตรงนี้ ตรงนิสัยที่นาโช่มันชอบเผือกเรื่องความเผือกไม่เคยมีพลาด ถ้าหากเขาใช้เบ็นไปคงจะไม่ได้รับข้อมูลครบแบบนี้

เขาได้หยิบนามบัตรและข้อมูลที่นาโช่มันหามาให้ เป็นดาราด้วยเหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อ ดูแล้วไม่น่าจะเป็นดารา เธอดูไม่เหมือนกับพวกดารานางแบบที่เขาเคยควงเลย ดูเป็นผู้หญิงที่สวยแบบไม่มีมารยาสวยแบบเรียบๆ แต่น่าค้นหาและน่ามอง เขาไล่อ่านข้อมูลไปสักพัก

“คุณมาร์ตินครับคุณกั้งเขามี IG ด้วยนะครับ” พูดเสร็จก็ส่งยิ้มที่แสดงความภาคภูมิใจ ไหมล่ะงานแบบนี้เขาถนัดมาก

มาร์ตินได้ยินจึงเงยหน้าขึ้นไปมองนาโช่ แววตาที่นิ่งและสายตาที่แข็งกร้าว พร้อมกับน้ำเสียงที่เย็นๆ

“นายเข้าไปดูมาแล้วหรือไง”

“ใช่แล้วครับคุณมาร์ตินจริงๆ แล้วผมได้กดติดตามมาแล้วด้วยครับ”

มาร์ตินยังคงจ้องมองนาโช่ แสดงว่ามันยังไม่รู้ตัวจนผ่านไปได้สักพักนาโช่เริ่มสังเกตเห็นสายตาของบอสแล้วเริ่มรู้สึกไม่โอเค จ้องมองแบบนี้และส่งสายตามาเหมือนจะฆ่าเขาถ้าเดาจากสายตาและความรู้สึก

“มีไรหรือเปล่าครับ คุณมาร์ติน”

“ฉันใช้ให้นายทำเกินหน้าที่ที่ให้ไปทำหรือเปล่าและนายกดติดตามเขาเพื่ออะไร”

นาโช่ทำหน้าและอ้าปากค้าง อ้าว!! งงไปอีก เฮ้ย!!! มันมีความสงสัยเขาทำเกินหน้าที่ตรงไหนและกดติดตามไม่ได้ด้วยเหรอ

“ผมกดติดตามไม่ได้เหรอครับ”

“ไม่ได้!! ฉันยังไม่ได้อนุญาตให้นายกด” นาโช่ถึงกัตกใจเฮ้ย IG คุณกั้งก็เป็น IG สาธารณะ แล้วทำไมต้องขออนุญาตคุณมาร์ตินด้วย

“มองและทำหน้างงแบบนี้ นายอยากจะรู้ใช่ไหมว่าทำไม”นาโช่พยักหน้า

“ก็เพราะฉันยังไม่ได้กดติดตามก่อน แต่นายดันมาชิงกดก่อนฉันทำไม”

อ้าวเฮ้ย!!! งานเข้าเขาละสิก็เขาไม่รู้ปกติคุณมาร์ตินไม่ค่อยจะอัพเดตอะไร ใน IG อยู่แล้วยิ่ง facebook ก็ไม่ใช้เลยก็ว่าได้ ทุกอย่างเขาก็เป็นคนจัดการให้หมด แล้ววันนี้ดันจะมาเล่นเห็นมีแต่Lineเท่านั้นที่เห็นคุณมาร์ตินใช้บ่อยสุด ซื้อโทรศัพท์ราคาตั้งแพงใช้แค่โทรออกรับสายส่งLine เช็คข่าวอัพเดตข้อมูลอย่างอื่นไม่เคยใช้ ที่เห็นว่าใช้เป็นก็เมื่อครู่คือการถ่ายรูป

“ทำไม๊ ทำไมนายทำหน้าแบบนั้นนายมีปัญหาอะไรกับฉันมากไหม ”

“เปล่า เปล่าครับ งั้นเดี๋ยวผมจะกดยกเลิกติดตามออกให้ แล้วให้คุณมาร์ติน กดก่อนดีไหมครับ”นาโช่หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วทำการกดยกเลิกการติดตามออก ดูท่าทางคงจะพอใจแล้วใช่ไหม

“คุณมาร์ตินครับ ผมได้ยกเลิกให้แล้วที่นี้เชิญคุณมาร์ตินกดติดตามได้เลยนะครับ”

มาร์ตินพยักหน้าแล้วก้มทำการค้นหา appของIGมันอยู่ตรงไหน นาโช่เห็นเจ้านายปัดและทำการเลื่อนหน้าจอหาไปเรื่อยๆ นาโช่ถึงกับมองบนมองสิ่งที่บอสทำคงจะหาเจอนะวันนี้ยังไม่ได้โหลด app มาเลยงานนี้ถ้าเขาไม่บอกคงจะอีกนาน

“คุณมาร์ตินครับ คุณมาร์ตินยังไม่ได้โหลดapp มาเลย แฮะ แฮะ”มาร์ตินถึงกับหน้าตึงขึ้นมาทันทีและหันหน้าไปด่านาโช่

“ทำไมนายไม่บอกฉันก่อนให้ฉันหาเพื่ออะไร ห๊ะ นาโช่”

“อ้าว!!! อย่าพึ่งอารมณ์เสียสิครับ ใจเย็นๆ”

นาโช่ขออนุญาตเดินไปหยิบมือถือของมาร์ตินมากดและทำการโหลดพร้อมกับสมัครให้เสร็จสรรพเมื่อทำการสมัครเสร็จแล้วจึงยื่นมือถือส่งคืนให้

“นี่ครับ คุณมาร์ตินผมสมัครไว้ให้หมดแล้วนะครับทุกapp เผื่อบอสจะได้เอาไว้ส่องคุณกั้ง” มาร์ตินรับโทรศัพท์ขึ้นมาดู คนติดตามเยอะมากจริงๆ สวยน่ารักสวยมากมาร์ตินได้กดพิมพ์ลงไปในข้อความ

Martin: nice to meet you

นาโช่ที่แอบเห็นคุณมาร์ตินพิมพ์แล้วแอบยิ้มพร้อมกับหัวเราะเบาๆ คิดถึงสิ่งบอสทำไวไฟเหมือนกันนะเนี่ยคุณมาร์ติน

“เสร็จแล้วก็ไปทำงานสิ จะยืนอยู่ทำไม”มาร์ตินที่รู้ว่านาโช่แอบขำเขาในสิ่งที่เขาไม่เคยเป็น

“อ้าวพอได้เสร็จแล้วก็ไล่เลยนะครับคุณมาร์ติน” มาร์ตินทำเป็นไม่สนใจลูกน้องคนสนิทแล้วก็ก้มหน้าไล่ดูรูปไปเรื่อยๆ

กั้งที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ก็เห็นข้อความในคอมเม้นขึ้นมา MARTIN อย่าบอกนะว่าเป็นเขา...

บทที่ 2

“เฮ้ย เฮ้ย เบ็น !!! นายมาดูนี่”

“อะไรของนายเนี่ย!!! นายเห็นไหมว่าฉันทำงานอยู่ นายว่างใช่ไหมมาช่วยฉันเคลียงานตรงนี้เลย”นาโช่ที่ได้ยิน ถึงกับถอนหายใจดังๆ

“ไม่ว่าง พอดีกำลังเช็คความเคลื่อนไหวของคุณกั้ง ให้คุณมาร์ตินอยู่นายเห็นหรือเปล่า”

เบ็นถึงขั้นสะตั๊นกับสิ่งที่นาโช่พูดเขาหยุดและวางเอกสารแล้วเท้าเอวถาม

“พูดใหม่อีกทีสิ นายทำไรอยู่นะ”

“อ้าวคุณเบ็นครับอยู่ดีๆ ก็หูตึงสะงั้น ฉันบอกว่าฉันกำลังเช็คความเคลื่อนไหวของคุณกั้งให้คุณมาร์ตินอยู่ นายก็อายุพึงจะ 30 กว่าๆ หูก็เริ่มจะไปแล้วนะ เบ็น”

เบ็นจ้องมองไปที่ใบหน้าของนาโช่ที่มันยังไม่รู้ตัว ในสิ่งที่มันได้พูด

“นายมานี่สิ พอดีตอนนี้ขาของฉันก็เริ่มรู้สึกตึงๆ เหมือนกัน มาช่วยบริหารขาให้ฉันหน่อยช่วงนี้ไม่ค่อยได้ยืดเส้นเท่าไหร่ นายมาเป็นคู่ซ้อมให้ฉันที” “แหม แหม่ ขนาดไม่ได้ บริหารนะ เมื่อคืนก่อนมาที่นี้ฉันยังได้ยิน เสียงดังมาจากห้องข้างๆ ท่าทางคงจะตึงมากนะ เสียงดังทะลุมาห้องฉันดัง ป๊าบ ๆ ป๊าบๆ ฉันล่ะกลัวผนังห้องจะพัง นายก็เบาๆ หน่อยเว้ย!!! สงสารคนข้างห้องเขาบ้าง" เมื่อนาโช่ได้พูดจบเบ็นที่ยืนฟังอยู่ถึงกับของขึ้น

“ฉันถามจริงเถอะวะ!! มีเรื่องไหนที่คนอย่างนายเคยพลาดบ้างไหม ฉันเริ่มอยากจะรู้ตอนแม่ของนายท้อง ท่าทางแม่ของนายคงจะชอบกินเผือก ลูกออกมาถึงได้ชอบเผือกเรื่องของชาวบ้านแบบนี้”

“อ้าว!!! ไอ้นี่ เริ่มลามปามถึงบุพการีฉันแล้วน่ะ”เบ็นถึงกับส่ายหน้าให้กับ นาโช่ตอนนี้เขารู้สึกเริ่มที่จะเบื่อมันจริงๆ

“สรุปนายอยากรู้หรือเปล่าว่าคุณมาร์ตินคอมเม้นต์อะไรคุณกั้ง”

“อือ...ว่ามาสิ”

“แหม แหม่ ทีเมื่อกี้ทำเป็นไม่อยากรู้ พอตอนนี้อยากรู้เฉยเลยนะเบ็น”

“สรุปว่านายจะบอกไหม ถ้าไม่ฉันจะได้กลับไปทำงานต่อ”

“อ๊ะอ่ะ มาดูนี่สิ สิ่งนี้นายนายต้องไม่คิดว่าบอสจะทำ”

“เฮ้ย !!! คุณมาร์ตินเราเขาเอาจริงๆ เหรอวะ”

“จริงไม่จริงไม่รู้ แต่งานนี้ฉันว่าสนุกแน่ๆ”

เขาก็อยากจะรู้ผู้ชายอย่างคุณมาร์ตินผู้ซึ่งไม่เคยจีบใครจะใช้อะไรไปจีบผู้หญิงแค่คิดต่อมเผือกก็ทำงานสั่นระริกนาโช่ยักคิ้วให้กับเพื่อน

ตะนอยกับกั้งได้เดินทางกลับมาที่โรงแรมได้สักพัก เพราะอากาศมันเริ่มร้อน ๆ ไม่ไหวพวกเธอสู้แดดที่นี้ไม่ได้

“กั้ง ฉันว่าคืนนี้เราสองคนลองขึ้นไปด้านบนกันไหม เขาบอกว่าที่นี้มีร้านอาหารที่สามารถมองวิวรอบๆ ดูไบได้ทั่ว เราขึ้นไปนั่งฟังเพลงกันชิวๆ มองผู้ชายเพลินๆ กันดีไหมกั้ง”

“แล้วแต่แกสิ ฉันยกทริปนี้ให้แกอยู่แล้ว”

“ขอบใจนะคะ คุณเพื่อนเลิฟ”กั้งได้แต่ส่ายหน้าและหัวเราะเบาๆ ให้กะเทยได้ปลดปล่อยบ้างก็ดี จวบจนถึงช่วงเวลาช่วงค่ำในบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองแห่งแสงสี

“ว้าว ว้าว บรรยากาศดีเว่อร์ โอ่โห้! กั้งมองจากตรงนี้เห็นเกือบทุกมุมของที่นี่เลยกั้งแกมาดูสิ”

“เดี๋ยวสิ เราควรจะหาที่นั่งก่อนไหม”กั้งคุยกับพนักงานของที่นี้ จนได้มุมที่พอจะหลบเลี่ยงผู้คนมากมายได้

“ตะนอยแกมาสั่งอาหารเลยว่าแกจะทานอะไร”กั้งที่มองบรรยากาศไปรอบๆ จนสายตาไปปะทะเข้ากับใครคนหนึ่งที่เธอพึ่งเจอเมื่อเช้า

นาโช่ก็มองไปรอบๆ เช่นกัน อ้าวคุณกั้งนิน่า นาโช่จึงสะกิดเบ็นที่กำลังยืนสั่งเครื่องดื่ม

“เบ็น เบ็น โน่นไงสาวสวยที่เจ้านายให้ไปสอบถามเมื่อเช้า”

“ไหน สวยจริงๆ สมแล้วที่เป็นดาราเลยวะ” เบ็นรู้สึกแล้วว่าทำไหมคุณมาร์ตินถึงสนใจ

“แล้วนั่นเขามากับใครวะ เห็นมีผู้ชายมาด้วย”

“คนนั้นผู้จัดการของเขา ชื่อตะนอย”

นาโช่คิดอะไรสนุกๆ ช่วงรอคุณมาร์ตินที่นัดเจอกับ

คุณลูอิส

เพื่อนสนิทที่เดินทางมาเปิดตัวนาฬิกาแบรนด์ดังด้วยเช่นกัน

ลูอิสนั่นได้โทรเรียกมาร์ตินขึ้นมาทานข้าวและมานั่งฟังเพลงกัน เพื่อนรักที่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะได้เจอกัน ต่างคนต่างมัวยุ่งกับการทำงาน

“เป็นไง!!! ไอ้เสือ เงียบเลยนะไม่คิดจะโทรหาฉันเลย”มาร์ตินมองเห็นตั้งแต่ลูอิสเดินควงสองนางแบบคนดังเดินเข้ามาภายในร้านอาหาร

“สวัสดีคะ คุณมาร์ติน พอลล่านะคะยินดีที่ได้รู้จักคะ” พอลล่าส่งสายตาเชิญชวนไปให้ยังมาร์ติน มาร์ตินได้แต่พยักหน้า ส่วนใบหน้าเรียบเฉยไม่บ่งบอกอะไรทั้งนั่น

“สวัสดีคะ ลิเลียน่ายินดีที่ได้รู้จักคะคุณมาร์ติน”

“หวัดดีครับควงมาสองเลยนะ ลูอิส”

“เปล่า ฉันหามาให้แกคนหนึ่ง เห็นช่วงนี้ท่าทางจะเครียด เลยหาคนมาช่วยผ่อนคลายนั่งกันครับสาวๆ”

พอลล่าจัดการนั่งตรงข้างๆชิดกับมาร์ติน พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่สวยที่สุด

“ตามสบายเลยนะครับ”

“นายสั่งอะไรมารึยัง ลูอิส”

“ฉันสั่งมาแล้วล่ะส่วนสาวๆ อยากจะสั่งอะไรเพิ่มก็สั่งได้เลยนะครับ งานนี้เจ้าของโรงแรมเขาจัดให้ไม่อั้นครับ”

นาโช่นั่นเดินมาที่โต๊ะของกั้งพร้อมกับเบ็น ที่เขาชักชวนมาทำความรู้จัก อนาคตว่าที่นายหญิงของตระกูลคนใหม่แน่ๆ เขานั้นสัมผัสได้

“สวัสดีครับคุณกั้ง ขึ้นมานั่งฟังเพลงด้านบนเหมือนกันเหรอครับ”

“คะ กั้งมากับตะนอย ตอนนี้คงจะเดินไปดูวิวตรงมุมโน่นคะ”

“แล้วพวกคุณมากับเจ้านายเหรอคะ”

กั้งมองหาใครอีกคนซึ่งเมื่อเช้าเธอมองหน้าไม่ค่อยชัด เห็นแต่ระยะไกลๆ

“ครับผมมากับคุณมาร์ติน แต่คุณมาร์ตินคุยธุระอยู่กับเพื่อน ตรงห้องVIP ตรงโน้นครับ”

“ที่นี้มีห้องVIP ด้วยเหรอคะ กั้งไม่เห็นพนักงานบอกเลย พวกคุณจะมานั่งด้วยกันไหมคะช่วงรอเจ้านายของคุณ”

“ไม่เป็นไรครับพวกผมแวะมาทักทายด้วยเฉยๆ ครับ”เบ็นตอบ

“เมื่อกี้พวกผมเห็นคุณกั้งเดินเข้ามา พวกผมเลยมาต้อนรับแทนเจ้านาย เชิญคุณกั้งตามสบายครับ มีปัญหาอะไรเรียกพวกผมได้นะครับ”

ตะนอยที่หันกลับมาเห็นกั้งพูดคุยอยู่กับใคร เลยรีบเดินมาดูแต่นาโช่กับเบ็นนั่นได้เดินกลับไปแล้ว

นาโช่ เบ็นเดินไปยังห้องvip ที่คุณมาร์ตินอยู่และทำการเคาะประตูเบาๆ

“คุณมาร์ตินครับ” พร้อมกับกระซิบ “คุณกั้งเธออยู่ที่นี่”

ซึ่งข้างๆ คุณมาร์ตินก็มีนางแบบหุ่นสะบึ้มอยู่ด้วยงานนี้ ถ้าคุณกั้งมาเจอเขาว่าคะแนนหายตั้งแต่ยังไม่ทันได้จีบแน่ๆ

“เขาอยู่ตรงไหนมากับใคร”มาร์ตินที่ตื่นเต้นจนแสดงออกมาทางสีหน้าลูอิสได้ยินเพื่อนของเขา ทำหน้าตกใจและตื้นเต้น

“ใคร!! ใครมาที่นี่เหรอ”

“คนรู้จักกันนะ” มาร์ตินที่ยังไม่อยากแนะนำให้ เพื่อนรักรู้จักเดี๋ยวมันจะต้องแซวเขาแน่ๆ และเรื่องนี้จะต้องถึงหูมาดามใหญ่ของตระกูลกุสโซ่อย่างแน่นอน ยิ่งรายนั้นพยายามจะจับให้เขาแต่งงาน

“เฮ้ย จริงดิ งั้นชวนเขาเข้ามาในห้องนี้สิ ห้องออกจะกว้าง นาโช่ไปเรียกเขาเข้ามาเลย”

“เฮ้ย เฮ้ย อย่าดีกว่า ปล่อยเขาอยู่ตรงนั่นดีแล้ว” มาร์ตินที่พยายามปัด ไม่ต้องการให้ลูอิสเจอ แต่พอหันไปเจอสายตาลูอิส

“นายมีอะไร ที่ปิดบังไม่ให้ฉันรู้หรือเปล่า นายมีพิรุธนะมาร์ติน”

“เปล่า ฉันแค่เกรงใจเขา กลัวเขาไม่สนุกปล่อยเขานั่งตรงโน่นนะดีแล้ว”

ลูอิสมองไม่ได้เขาต้องรู้ให้ได้ว่าใคร ทำไมเพื่อนเขาทำตัวมีลับลมคมใน เป็นเพื่อนกันมาก็นานและอย่างมันมีเพื่อนไม่กี่คน มีเหรอถ้าอยู่แวดวงนางแบบดารา เขาจะพลาด

“ไป ไป นาโช่ ไปเรียกเขามา บอกเขาว่าฉันเชิญ”

มาร์ตินได้ยินคำสั่งเพื่อนแล้วเริ่มคิดหนักเอาละสิ งานเข้าตั้งแต่ยังไม่ทันจะได้ลงมือจีบซวยแล้ว บรรลัยแล้วหละงานนี้

“เออ...คุณพอลล่า คุณช่วยขยับไปนั่งตรงโน้นได้ไหมครับ พอดีเดี๋ยวเพื่อนผมจะเข้ามา”

พอลล่าถึงกับทำหน้าสงสัย ก็แค่เพื่อนทำไม มันมีปัญหาอะไรตรงไหน

“อ้าว ทำไมคะนั่งตรงนี้ไม่ได้เหรอคะ ทำไม”

มาร์ตินคอยแต่ชะเง้อมองไปยังด้านนอกมาหรือยัง ใจเขาก็ลุ้นให้นางแบบขยับออกไปสักที

“ไปนั่งตรงนั้นเถอะนะครับ นั่งข้างลิเลียน่าเถอะครับ ผมขอร้อง”

นาโช่ที่เดินไปหากั้งที่โต๊ะอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาเจอกับสายตาที่ขนลุกเหมือนเช่นตอนเช้า แต่เขากลับดึงเบ็นมายืนข้างๆ เป็นไม้กันเขาออกจากคุณตะนอย

“เออ...คุณกั้งครับ คุณมาร์ตินให้ผมเชิญคุณกั้งไปนั่งด้านในห้อง VIP ครับ และคุณด้วยนะครับคุณ ตะนอย”

“เออ...ไม่เป็นไรดีกว่าคะ กั้งนั่งตรงนี้ก็ได้คะ” กั้งปฏิเสธออกไป

แต่ด้วยความอยากรู้ของตะนอย เมื่อเช้าเธอเห็นหน้าระยะไกลๆ ยังไม่ได้เห็นใบหน้าไม่ชัด เลยอยากจะขอดูหน้าใกล้ๆ สักหน่อยดีกว่าตะนอยจึงสะกิดกั้ง

“ไปสิคะ กั้งแกไปเถอะ คุณมาร์ตินเขาอุตส่าห์ชวนแกอย่าเสียมารยาท”กั้งหันไปมองหน้าตะนอยแล้วส่งสายตาดุปรามไปให้เพื่อน

“เดี๋ยวแล้วแก!! จะไปยุ่งอะไรกับเขา”

“ก็ฉันอยากเห็นหน้าเขาชัดๆไงหรือว่าแกไม่อยากเห็น” พูดเสร็จตะนอยก็ลุกขึ้น กั้งมองอีกทีก็เห็นเพื่อนสาวเธอเดินไปโน้นแล้วตะนอยเดินนำกั้งไป พร้อมนาโช่และเบ็น

มาร์ตินเห็นกั้งเดินมาก็รีบเอามือผลักพอลล่าที่คอยแต่จะเอามือลูบไปตรงต้นขาของเขาอยู่ตลอดเวลา

“คุณพอลล่าผมว่าคุณขยับไป นั่งตรงโน้นเถอะครับ พอดีเพื่อนผมมาแล้ว”

พอลล่ามองออกไป ไหนเพื่อนเห็นแต่ผู้ชายที่เดินตุ้งติ๊งมาหรือว่าคุณมาร์ติน เป็นเก้ง ตาย ตาย เสียดายของแย่รสนิยมคุณมาร์ตินมีเพื่อน เป็นแบบนี้ด้วยเหรอไม่ยักจะทราบ

นาโช่ได้เปิดประตูให้คุณกั้งกับคุณตะนอยเดินเข้ามา ลูอิสมองเห็นและรู้แล้วว่าทำไมเพื่อนเขาถึงทำท่าทางลุกลี้ลุกลนแบบนั้น เพื่อนเขารีบผลักพอลล่าและลุกขึ้นยืนจัดเสื้อให้เข้าที่

“สวัสดีครับคุณกังสดาลและคุณ...”ตะนอยเห็นแล้วรีบแนะนำตัว

“ตะนอยคะ”

ตะนอยหันมาถามอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ คุณมาร์ติน พร้อมกับมองสองสาว ที่ยืนจ้องมาทางที่เธอยืนอยู่

“และคุณอีกคนชื่ออะไรคะ”

“ผมชื่อลูอิส ครับ”

ลูอิสที่กำลังเอื้อมมือไปจะจับมือผู้หญิงอีกคนที่เพื่อนเขาทำหน้าเขินๆ มือจะเอื้อมไปถึงมือนุ่มๆแต่เพื่อนเขารีบยกมือขึ้นมาขว้าง

“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ”พร้อมกับจับมือของกั้งเบาๆ แทนมือของลูอิส กั้งถึงกับสะดุ้งเหมือนกับมีไฟฟ้าช๊อตความรู้สึกมันแปลกๆ แบบที่เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ต่างคนต่างมองหน้า

ลูอิสมองการกระทำเมื่อกี้เพื่อนเขามีหวงสะด้วย งานนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ

กั้งรีบปล่อยมือแล้วมองเลยไปที่สองนางแบบดัง ที่ทำหน้าตาพร้อมที่จะเข้ามาตบเธอให้ได้ สายตาทีมองมายังเธอ อ้าว!! มองแบบนี้ มองหาเรื่องกันนิน่า

“สวัสดีค่ะ พอลล่าคะ” เธอส่งสายตาแบบ ได้ไงฉันยังไม่ได้คนอื่นก็อย่าหวัง นังหน้าจืดเอเชีย

กั้งมองคนที่แสดงความเป็นเจ้าของ ขนาดนี้คงไม่ต้องถามแล้ว พอแนะนำตัวเสร็จ กั้งก็รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศภายในห้องนี้สะกิด ตะนอยให้ไปนั่งตรงที่เดิมเหอะ

“นั่งด้วยกันไหมครับ คนเยอะๆ สนุกดีนะครับ”

มาร์ตินปรายตามองมาไปที่เพื่อนคิดในใจสนุกกับผีสิ ดูหน้าของเขาก่อน เขามองเหมือนจะฆ่าคะแนนหายตั้งแต่ยังไม่ทันได้จีบเลย ดูจากสายตาแล้ว

“เฮ้อ!!! คิดแล้วปวดหัววะ..” มาร์ตินบ่นพรึมพร่ำลูอิสยักคิ้วให้กับเพื่อน

“ไม่เป็นไรคะเชิญตามสบายขอโทษนะคะ” แล้วก็เดินออกจากห้องไป

“คนนี้มันยังไง” ลูอิสที่สังเกตอาการของเพื่อนที่มันทำหน้าบอกบุญไม่รับ

“นายไม่ต้องเลยงานเข้าแล้ว เห็นไหม”ดูจากสายตาของคุณกั้งแล้วรู้สึกไม่โอเคเลย เขาเริ่มจะรำคาญนางแบบที่เพื่อนชวนมาด้วย เริ่มเกาะแกะแสดงออกนอกหน้าขนาดนั้น ไม่รู้ว่าคุณกั้งเขาจะคิดยังไง

ส่วนมาร์ตินที่ตอนนี้ภายในใจมันร้อนรุ่มดังไฟสุ่ม เหงื่อก็เริ่มออกมาตามใบหน้า ถึงแม้ภายในห้องจะมีอากาศเย็นสบาย สำหรับเขาตอนนี้ของที่สั่งมาทานมันเริ่มที่จะทานหรือดื่มอะไรไม่ลง

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!