ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
นี่คงเป็นการกลับมาเมืองไทยอีกครั้งหลังจากที่ภาคินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศนานหลายปี เมื่อเรียนจบการศึกษาได้ย่างภาคภูมิบิดาจึงให้เขากลับมาดูแลบริษัทที่บ้านเกิดและหาฤกษ์แต่งงานกับมาริษาลูกสาวของเพื่อนรักบิดาเมื่อเธอเรียนจบ เพราะก่อนหน้านี้บิดาได้หมั้นหมายมาริษากับเขาตั้งแต่เยาว์
"เฮ้อ...ถึงสักทีไม่ได้กลับมานานเท่าไรเเล้วนะ"ภาคินพูดเมื่อเขาเดินทางมาถึงบ้าน บรรยากาศภายในบ้านยังคงเหมือนเดิมไม่แปลเปลี่ยน
"เย้...พี่คินกลับมาแล้ว คิดถึงจังเลยค่ะ"นรินน้องสาวของเขาโผเข้ามากอดด้วยความดีใจ
"อืม..พี่ก็คิดถึงเราเหมือนกัน"เขาพูดพร้อมกับยกมือลูบศรีษะเธออย่างเอ็นดู
สองพี่น้องคุยกันสักพักก่อนเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ภาคินหยุดอยู่หน้าประตูก่อนถามนรินเมื่อเห็นแม่บ้านเข้าไปทำความสะอาดห้องที่เคยว่างมานาน...
"นริน พี่จำได้ว่าห้องนี้มันเคยเป็นห้องว่าง"เขาถามเพราะบ้านหลังนี้ก็ไม่มีใครนอกจากนริน ส่วนแม่บ้าน คนสวน3-4คนจะอยู่ชั้นล่างพ่อกับแม่ก็ไปดูงานต่างประเทศนานๆถึงจะกลับมาสักที
"อ๋อ...ริษาค่ะเธอเข้ามหาลัยเดียวกันกับนรินคุณพ่อเลยให้เธอมาพักบ้านเราค่ะ" ภาคินเงียบก่อนทำหน้านิ่ง
"แต่ตอนนี้ริษาไม่อยู่หรอกนะคะ กลับเชียงใหม่เปิดเทอมถึงกลับขึ้นมาเรียนตามเดิม"
"ใครสนกันล่ะ จะมารึไม่มา"ภาคินพูดใบหน้าเรียบเฉย
"เฮ้อ...พี่จะเกลียดอะไรริษานักหนา ลืมๆไปบ้าง"นรินพูดพร้อมถอนหายใจ
"พี่ไม่มีทางลืมคนที่ทำให้พี่เกือบตายหรอกนะ"เขาพูดเสียงเข้มแววตาเยือกเย็น
"แต่ริษาเป็นคู่หมั้นของพี่นะ อีกหน่อยก็ต้องแต่งงานกัน"นรินพูดอย่างเหนื่อยใจ
"หึ!.คู่หมั้นหรอจะทำให้ไม่มองหน้ากันไปติดเลยคอยดู"ภาคินพูดแล้วมองหน้านรินที่เอาแต่จ้องเขา
"เรามีอะไรจะทำก็ไปทำเถอะ พี่เหนื่อยอยากพักผ่อน"เขารีบพูดตัดบทสนทนาก่อนเดินเข้าห้องไป
"นรินจะคอยดู พี่คินอย่าหลงรักริษาล่ะกัน"
ณ เชียงใหม่ในไร่ส้มแห่งหนึ่ง
ในช่วงเวลาสั้นๆที่มาริษากลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงปิดเทอม ขณะที่เธอนั้งเล่นที่ศาลาท่าน้ำหลังบ้าน มีสายลมเย็นๆพัดโชยมาอากาศบริสุทธิ์ ธรรมชาติในชนบทรู้สึกปรอดโปร่ง นึกถึงความหลังเมื่อ14ปีก่อนตอนเธอ5ขวบ
"พี่คินค่ะ เรามาเล่นด้วยกันเถอะค่ะ"
ภาคินนั่งหลับตากอดอกเอาหลังพิงต้นไม้ริมธาร เขาหลี่ตามองเสียงเจื่อยแจ้วของเธอก่อนหลับตาลงทำเป็นไม่สนใจ
"พี่คินค่ะคุณแม่ทำขนมเยอะแยะเลยริษาเลยเอามาให้พี่คินกับนรินทานดูสิค่ะ"ริษาตัวน้อยพูดพร้อมยื่นจานขนมให้เขา
"ชิ!.อย่ามายุ่งกับฉัน ไปไกลๆเลยยายขี้เหร่"ภาคินพูดอย่างลำคาญก่อนเดินหนีสองสาวไปทันที
ภาคินเดินเลี่ยงมานั่งที่ริมลำน้ำอีกฝัง มาริษากับนรินพากันเดินหาเขาจนทั่ว ก่อนจะเจอเขานั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ..
"อ๊ะ...เจอพี่คินแล้ว"นรินชี้บอกมาริษา สองสาวน้อยรีบเดินตรงไปหาภาคินทันที
"พี่คินทำอะไรอยู่ค่ะ"มาริษาเอ๋ยถาม ภาคินที่นั้งอยู่ข้างลำธารลุกขึ้นแล้วหันกลับมาทางสาวน้อยสองคนใบหน้าบึ้งตึง
"ยายคนน่ารำคาญจะตามมาทำไม"เขาพูดพร้อมกับผลักมาริษาเซจนล้มก้นกระแทรกพื้น
"ฮื้อ...พี่คินใจร้ายผลักริษาทำไม"มาริษาร้องไห้ก่อนลุกขึ้นผลักภาคินกลับ ภาคินที่ยืนหันหลังไปทางคลองน้ำก็เซหงายหลังตกลงน้ำทันที
"ตู้มมม"
แต่โชคดีที่มีผู้ใหญ่อยู่แถวนั้นและช่วยไว้ทันเขาจึงไม่เป็นไรมาก หลังจากวันนั้นมาริษาก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย
"กริ๊ง...กริ๊ง.."
เสียงมือถืงดังนรินส่งไลน์มาบอกว่าภาคินพี่ชายของเธอกลับมาถึงแล้ว เมื่อมาริษาอ่านข้อความ ก้อนเนื้อตรงอกข้างซ้ายของเธอ เต้นกระหน่ำรัวไม่เป็นจังหวะ เมื่อนึกถึงใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
"ตัวจริงพี่คินจะหล่อเหมือนในรูปไหมน่ะ"เธอพูดขณะมองดูรูปในมือถือที่นรินเคยส่งให้
เวลา16.00น.
มาริษากลับมาถึงบ้าน เธอมองดูไปรอบๆ ดูบ้านเงียบสงบเหมือนเจ้าของบ้านจะไม่อยู่ เธอเดินเข้าไปในครัวถามกับแม่บ้าน ก่อนได้ความว่านรินไปทำธุระข้างนอกกว่าจะกลับก็คงค่ำๆโน้นแหละ...
เธอจึงรีบกลับเข้าห้องเพื่อจัดการกับสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนเดินลงมาข้างล่างอีกครั้ง
"อ้าว.. ริษามาถึงเมื่อไร"นรินถามเมื่อเห็นเธอเดินลงบันไดมา
"สักพักแล้วล่ะ นรินไปไหนมาตอนริษามาถึงก็ไม่เจอใคร"
"รินไปทำธุระข้างนอกมา แต่พี่คินเขาก็อยู่นะ แล้วริษาได้เจอพี่คินรึยัง"มาริษาส่ายหน้าก่อนก้มหน้าลงอย่างเขินอายๆ
"คงจะอยู่ในห้องทำงานน่ะ นี้ก็ใกล้จะถึงเวลาทานข้าวเย็นแล้ว ริษาช่วยไปตามพี่คินให้ทีสิ"นรินพูดพร้อมมองนาฬิกาที่ข้อมือ
มาริษาเดินไปหยุดตรงหน้าประตูห้องทำงานของเขา มือบางประสานกันแน่น ก่อนเหงื่อจะซึมตามฝ่ามือจนเหนียวด้วยความตื่นเต้นดีใจจนทำตัวไม่ถูก
"ก๊อก.ๆ"
"ใคร"พอได้ยินเสียงคนในห้องหัวใจของมาริษาก็เต้นแทบไม่เป็นจังหวะ เมื่อนึกถึงใบหน้าคนที่อยู่ข้างใน
"ริษาเองค่ะ"
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเปิดประตูเดินเข้าไปหยุดหน้าโต๊ะทำงานภาคิน เขานั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ในมือ ถือแฟ้มเอกสารนั่งหันหลังให้เธอ
"พี่คินกลับมาถึงเมื่อไรคะ" เขาไม่ตอบคำถามของเธอแต่ถามเธอกลับเสียงเรียบว่า...
"เธอมีธุระอะไร"
"อ่อ..คือ..คือนรินให้ริษามาบอกพี่คินว่าอาหารเย็นพร้อมแล้วค่ะ"ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ มริษาจึงหันหลังจะเดินออกจากห้องแต่ต้องชะงัก
"เดี๋ยว" มาริษาหันหลังกลับ
" คะ "
"จำเอาไว้ เรื่องระหว่างฉันกับเธอ เธอไม่ต้องเที่ยวไปโฆษนาบอกใครว่าเราเป็นอะไรกัน"
"ค่ะ ริษาจะจำไว้.."
"อ้อ..แล้วก็อีกอย่างฉันมีน้องสาวแค่คนเดียวคือนรินเท่านั้น..ส่วนเธอคงไม่ต้องให้ฉันบอกหรอกนะ" น้ำเสียงเขาช่างเย็นชาเหลือเกินแม้แต่หน้าของเธอเขายังไม่หันมามองด้วยซ้ำ
"ค่ะ คุณภาคิน" มาริษารีบเดินออกมา ก่อนหยดน้ำตาหนึ่งหยด ไหลทิ้งลงตรงหางตา เธอกระพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้มันไหลออกมา
หากเป็นแต่ก่อนเธอคงจะร้องไห้ฟูมฟาย ไม่เป็นอันทำอะไร แต่ ณ ตอนนี้เขาสอนบทเรียนและสร้างความเข้มแข็งให้เธอบ่อยครั้งจนหัวใจของเธอเริ่มชินกับการเย็นชาของเขาเข้าไปทุกที.....
หลายวันผ่านไป
มาริษากำลังเดินลงบันไดมาสายตาของเธอแลเห็นใครบ้างกำลังคนนั่งจิบกาแฟอยู่ที่ห้องรับแขกและสายตาของเขาก็กำลังมองเธออยู่เช่นกัน
วงหน้าของเขานั้นช่างสมส่วน สันกรามได้รูป คิ้วเข้มสีดำสนิด ดวงตาคมเจ้าเสน่ห์ สันจมูกโด่ง ริมฝีปากสีชมพูกุหลาบ หล่อเหล่าดั่งเทพบุตร
มาริษาเดินผ่านห้องรับแขกไปโดยไม่สนใจคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น เธอคิดว่าในเมื่อเค้าไม่ได้สนใจในตัวเธอสักนิด เธอก็จะไม่สนใจเขาแล้วเหมือนกัน
ภาคินนั่งจิบกาแฟอยู่สายตาของเขาจ้องมองหญิงสาวที่กำลังเดินผ่านไป ใบหน้าของเธอช่างหวานละมุน ผมยาวสลวยยาวถึงกลางหลัง ตัวเล็กผิวขาวผ่อง เอวคอดกิ่ว สะโพกผายงอนงาม ดึงดูดสายตาชายหนุ่มไม่น้อยเลยทีเดียว
"นั้นเธอจะออกไปไหน"ภาคินถามเพราะเห็นในมือของเธอถือกระเป๋าอยู่
"ไปข้างนอกค่ะ ริษานัดเพื่อนเอาไว้"
"นัดเพื่อนหรือว่านัดผู้ชายกันแน่"
มาริษาหันกลับมาเจอใบหน้าคมก่อนตอบคนช่างหาเรื่องเสียงเรียบว่า... "แล้วแต่คุณจะคิดเถอะค่ะ"
21.00น.
รถเก๋งคันงามแล่นมาจอดตรงประตูรั่วบ้าน ภาคินเห็นชายหญิงคู่หนึ่งออกมาจากรถ ท่าทางสนิดสนม หยอกล้อกันกระนุงกระหนิ่ง มาริษาหารู้ไม่ว่ามีสายตาของใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่
"ขอบคุณทุกคนนะที่ชวนริษาไปเที่ยวแล้วยังลำบากพามาส่งที่บ้านอีก"
"ไม่เป็นไรหรอก พวกเราเต็มใจ แล้วอีกอย่างวันนี้นรินก็ไม่ว่างไปเที่ยวกับพวกด้วยจะให้ริษากับบ้านเองได้ไงล่ะ" วี ชายหนุ่มหน้าหล่อแต่ใจหญิงพูด แล้วเอามือยิกแก้มนวลเบาๆ
"ใช่แล้วริษา ก็พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่" แสงดาว ที่นั่งอยู่ในรถพูด
"นี่ไอ้วี..ขึ้นรถได้แล้ว ริษาจะได้เข้าบ้านสักที"รภีมที่นั่งอยู่ตรงคนขับพูดพรางส่งยิ้มให้เธอ
"เออ..รู้แล้วๆ"วีหันไปทำหน้าเซ็งใส่รภีมก่อนหันกลับมา "แล้วเจอกันที่มหาลัยนะ ฝันดีนะริษา"
"จ๊ะ ฝันดีนะ กลับดีๆล่ะ"
หลังจากรถแล่นออกไปมาริษาเดินเข้ามาให้บ้านก็เห็นใครบางคนยืนกอดอกที่ตรงประตูทางเข้าบ้าน
"กลับมาแล้วสินะ ไปเที่ยวกับผู้ชายสนุกไหม"
มาริษาเงียบก่อนเดินเลี่ยงไปเพราะไม่อยากมีปัญหา..แต่ดูเหมือนคนตัวโตจะไม่ยอม ก่อนเดินตรงเข้าไปกระชากต้นแขนเรียวก่อนพูดเสียงเข้มว่า...
"คงสนุกมากสินะถึงได้กับมาเอาป่านนี้" แววตาของเขามองเธอเยียดๆ
"แล้วยังยืนอี๋อ๋อกันตรงรั่วหน้าบ้านอย่างไม่แคร์สายตาผู้คนแบบนั่นน่ะ "
"คุณพูดเรื่องอะไร ริษาไม่เข้าใจ"เธอมองหน้าคนตรงหน้า เธอไม่เข้าใจว่าหลายวันมานี้เขาเป็นอะไรทำไมต้องคอยพูดแขวะหาเรื่องเธอตลอดเวลา
"คิดจะทำอะไรก็หัดไว้หน้าฉันที่เป็นคู่หมั้นของเธอบ้าง อย่างให้มันประเจิดประเจ้อมากนัก หรือถ้าเธอทนไม่ไหวจริงๆก็ไปทำกันที่โรงแรมนู้น"เขาพูดด้วยโทสะ
"ขอคุณที่แนะนำที่ดีๆให้นะค่ะ ขอตัว"มาริษาฉีกยิ้มยั่วโทสะพรางแกะมือหนาออกจากต้นแขน แล้วก้าวเท้าเดินออกมาอย่างอวดดี
และนั้นมันก็ทำให้เขาโมโหสุดๆ ภาคินผลักเธอเซจนหลังไปชนกับผนัง เขาใช้มือทุบผนังข้างๆตัวเธอตามมาติดๆ
"ปัง"
มาริษาสะดุงตัวโหย่ง ก่อนมองหน้าเขาอย่างหวาดๆ เมื่อมือหน้าจับข้อมือเล็กยัดไว้ เขาปัดปลายจมูกโด่งบนแก้มใส ซุกไซ้ลำคอระหงก่อนขบแรๆ
"หยุ....หยุดนะ..ยะ..อย่าทำแบบนี้นะ"เธอร้องเสียงหลง
"หึ..ผู้หญิงไวไฟอย่างเธอ จะทำสะดีดสะดิ้งทำไม"
"คุณเอาอะไรมาพูดริษาไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูดสักนิด"
"แล้วที่ฉันเห็นอยู่มันคืออะไร"
"สิ่งที่คุณเห็นมันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอกนะ"
"ฉันเชื่อในสิ่งที่ตาฉันเห็นมากกว่าคำแก้ตัวของเธอ"
เขาก้มหน้าลงมาพรมจูบตามลำคองามอีกครั้ง
"คุณภาคิน ปล่อยริษานะ"
มาริษาพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ดูเหมือนเธอยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งจับแน่นกว่าเดิม บีบข้อมือเล็กแรงขึ้นจนหน้าเธอเบ้ด้วยความเจ็บปวด
"โอ๊ย...ริษาเจ็บนะ ปล่อยนะคุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับริษาแบบนี้นะ"
"ลืมแล้วรึไง..ว่าฉันเป็นคู่หมั้นของเธอ มาริษา"ภาคินยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย
"ฉันมีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่างไม่ใช่คนอื่น"
"หยาบ คุณมันไม่ใช่สุภาพบุรุษ"
"มันก็เหมาะสมกับผู้หญิงไวไฟอย่างเธอดีไม่ใช่รึไง"
ภาคินยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนเกือบชิดหน้าของมาริษา จนเธอได้รู้ถึงลมหายใจร้อนแผ่วที่เป่ารดแก้มบางจนร้อนวูบวาบทั้งหน้า
ขณะที่ภาคินมองริมฝีปากจิ้มลิ้มของเธออย่างเผลอไผล แต่ช่วงวินาทีสั้นๆ ริมฝีปากได้รูปก็ประกบกับริมฝีปากอิ่มอย่างรวดเร็ว จนมาริษาเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง
"อื้อ...อื้อ.."เธอพยายามขัดขืน เขาใช้มือหนาอีกข้างจับคางมนของเธอเอาไว้
จูบหวานล้ำ ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าสำรวจในโพรงปากของเธอ ซาบซ่า หวามไหว มือใหญ่เลื่อนลงมาโอบรัดเอวเล็ก บดคลึงเคล้ากลีบปากนุ่ม ป้อนความรัญจวนให้เธอครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ จนขาเรียวอ่อนแรงเกินกว่าจะฝืนยืนต่อไปไหว เธอค่อยๆรูดลงไปกองที่พื้น แต่เขารั้งร่างบางไว้ทัน ดวงตาคมเข้มจ้องสบดวงตาของเธอก่อนยิ้มหยัน
"จับนิดจูบหน่อย ก็อ่อนระทวยไปหมด ทำอย่างกับไม่เคย"เขาพูดเยียดๆ
มาริษาผลักอกแกร่งให้ออกห่างพรางใช้หลังมือเช็ดที่ปากโดยไม่พูดอะไร เธอจ้องหน้าเขาอย่างฉุนเฉียว
"อ้าว..ริษา พี่คินทำอะไรกันอยู่คะ มีอะไรกันรึเปล่า"นรินถามอย่างสงสัยและมองหน้าพวกเขาสลับกันไปมา
"ไม่มีอะไรพี่แค่ถามริษาว่าวันนี้นรินไปไหน"มาริษาเงียบทำให้นรินจ้องหน้าพี่ชายของเธอหนักเข้าไปอีก
"ไม่มีแน่นะค่ะ"
"ริษาขอตัวก่อนนะ"พูดจบเธอก็เดินกลับห้องทันที และมันยิ่งทำให้นรินอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"พี่คินได้แกล้งอะไรริษานึเปล่าค่ะ"สายตาคาดคั้นหาคำตอบ
"พี่บอกว่าไม่มีอะไร ก็คือไม่มีเข้าใจไหม"ภาคินพูอพร้อมยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนกลับเข้าห้องไป
"มันต้องมีอะไรแน่ๆ ดูจากสีหน้าริษาแล้วมันไม่ปรกติ เราต้องรู้ให้ได้ว่ามันมีอะไร" นรินบ่นพึมพรำกับตัวเองกลับเข้าห้องไปอีกคน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!