"อะไรนะ!!!" เสียงนี้ดังออกมานอกท้องพระโรงด้วยความโมโห หลังจากที่มีใต้เท้าผู้หนึ่งได้รายงานร้องทุกข์ถึงฮองเต้ของพวกเขา
นี้พวกเจ้ากำลังจะให้ข้ามีสนมงั้งหรอ พวกเจ้าคิดอะไรกันอยู่นะ บ้าไปแล้วรึไง
"ฮองเต้โปรดระงับโทสะด้วยที่พวกกระหม่อมรายงานนั้นก็เพื่อรัฐของเราและปวงประชานะพะยะค่ะ" ใต้เท้าผู้นั้นให้พูดอย่างหวาดกลัวและก้มหัวลงเพื่อขอร้อง " ได้โปรดทรงไตรตรองด้วยพะยะค่ะ"
"โปรดไตรตรองดวยพะยะค่ะ" หลังจากนั้นทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรงก็พากันก้มหัวกันขอร้องด้วยเสียงที่ดังจนได้ยินกันไกล
"พวกเจ้ากำลังบีบข้า!!!" ฮองเต้ได้กำหมัดแน่นจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี
"ฮองเฮาเสด็จแล้ววว"
เมื่อสิ้นเสียงของขันทีลง ก็ได้มีสาวงามคนหนึ่งเดินเข้ามาในท้องพระโรงด้วยความสง่างาม แล้วทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นก็พูดอย่างพร้อมเพียงกัน "ถวายพระพรฮองเฮา"
นางได้โบกมือรับการคำนับ "ไม่ต้องมากพิธี"
หากบนพื้นแผนดินแห่งรัฐเผ่ยบอกว่านางผู้นี้งามที่สุดในใต้หล้าจนมิอาจมีผู้ใดงามเทียบก็คงเป็นคำพูดที่ไม่เกินสำหรับหญิงสาวผู้นี้สักนิด
"ฮองเฮาเจ้ามาทำอะไรที่นี้หรอ บอกให้คนมาตามข้าไปหาเจ้าก็ได้นิไม่เห็นต้องให้เจ้ามาหาข้าเองเลย เจ้ากำลังท้องอยู่นะ ชิงหลี" ฮองเต้รีบออกไปรับมือนางมานั่งข้างๆตนเพราะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจนทำอะไรไม่ถูกกลัวนางจะได้ยินสิ่งที่เหล่าข้าหลวงได้รายงานออกมา
"ข้ามาเพราะรู้สึกช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอกันจึงมาหา ว่าแต่เมื่อสักครู่พวกท่านกำลังพูดถึงอะไรกันอยู่หรอ พูดต่อเลยข้ากำลังฟังอยู่" เมื่อสิ้นเสียงทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรงต่างพากันตัวแข็งไม่ขยับหรือไม่พูดสักนิด จนเหมือนนางได้พูดอะไรผิดไป
"เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงไม่พูดต่อ ใต้เท้าจาง เชิญพูดต่อจากเมื่อครู่"
"พะ พะยะค่ะ" ใต้เท้าผู้นั้นพูดด้วยเสียงหวาดกลัว เหมือนไปทำอะไรผิดมาเลย
"ต่อจากเมื่อครู่กระหม่อมได้พูดถึง ถึง..... " ใต้เท้าจางกัดปากตัวเองไม่ยอมพูดเหมือนมีความผิดเลย ทำไมกัน "ก็แค่อยากจะให้ข้ามีเวลาไปหาเจ้าบ้างไง ช่วงนี้เหล่าข้าหลวงกำลังเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเจ้าที่กำลังท้องอยู่ แล้วงานข้าก็เยอะทำให้ข้าละเลยเจ้าไปบ้าง ข้าผิดเอง" เสียงของไป๋หลินดังขึ้นมาแทรกจนทำให้นางรู้สึกตกใจ
"ออ เป็นอย่างนี้เองหรือเพคะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเพคะหม่อมฉันจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดีไม่ต้องเป็นห่วงไปเพคะ" ข้าได้ยิ้มให้กับไป๋หลิน เป็นอย่างงี้นี่เองเค้าก็แค่เป็นห่วงข้า ข้าคงคิดมากเกินไปที่เมื่อครู่วู่วามถามพร้อมกับมือไปจับที่มือไป๋หลิน
"ถ้าอย่างงั้งพระองค์ก็เชิญว่าราชการต่อเธอะเพคะ แล้วช่วงเวลาอาหารค่ำเราค่อยเจอกัน หม่อมฉันขอตัว" แล้วนางก็ได้เดินออกไป ทำให้ผู้คนที่อยู่ในนั้นต่างพากันโล่งอกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ดูเหมือนจะมีผู้ที่หนักใจมากที่สุดในที่แห่งนี้
"นี้พวกเจ้าจะให้ข้าหักหลังฮองเฮางั้งหรอ บ้าสิ้นดี!"
"โปรดเชื่อกระหม่อมสักครั้งเถิดพะยะค่ะเพื่อบ้านเมือง" ใต้เท้าเฉินได้นำมือมาประสานกันข้างหน้าตนและบอกกล่าวออกไปด้วยความหนักแน่น
ปั๊ป!! เจ้าจะบีบข้าให้ได้เลยใช่มั้ย เฉิน!
ตราประทับมังกรได้ถูกปัดแตกลงพื้นอย่างแรงด้วยความโกรธของไป๋หลิน ทำให้ผู้คนต่างหวาดกลัว
ออกไป ออกไปให้หมด ออกไปปปป!!
พะ ... พะยะค่ะ
"อะไรกันเรื่องนี้เป็นผลดีกับตัวเองแท้ๆทั้งๆที่กำลังจะมีเมียน้อยที่ทั้งสวยกว่า สาวกว่า สดกว่า ใหม่กว่า แท้ๆ ไม่เข้าใจฮองเต้เลยจริงๆ" เสียงของขุนนางคนหนึ่งได้ดังขึ้นหลังจากที่ออกมาจากท้องพระโรงแล้ว
"นี้เจ้าเบาๆหน่อยสิ ถ้ามีใครมาได้ยินเข้าจะทำยังไง ไปเร็ว รีบไป" แต่ใครจะรู้บางว่ามีสาวใช้ของใครคนหนึ่งกำลังฟังสิ่งที่ขุนนางพวกนั้นกำลังพูดอยู่ในความมืด
วังหลัง
"ฮองเฮาเพคะ ฮองเฮาเพคะ" สาวใช้นางนั้นได้วิ่งเข้ามาด้วยความตกใจจนสะดุ้งล้มไปทั้งๆอย่างนั้น จนทำให้ผู้คนแตกตื่นกันไปหมด ฮองเฮาที่กำลังหวีผมอยู่ก็รู้สึกตกใจไปด้วย
"นี่หลิน ข้าบอกแล้วไงว่าอย่าวิ่ง ทำอะไรมานะ ทำไมต้องรีบขนาดนี้"
ฮองเฮาเพคะ คือว่า....
เพล้ง!!! "อะไรนะ เป็นไปไม่ได้ ไป๋หลินนี่นะจะแต่งงานใหม่ เป็นไปไม่ได้หรอก เค้าสัญญากับเราแล้วว่าจะไม่มีเล็กไม่มีน้อยให้เราต้องลำบากใจ เจ้าเอาอะไรมาพูด"
จริงๆนะเพคะ เมื่อสักครู่ที่คนส่งข่าวนี้มาบอกหม่อมฉัน จนขนาดหม่อมฉันยังไม่เชื่อเลยเพคะ
ไม่ได้ เราต้องไปถามไป๋หลินให้รู้เรื่อง เมื่อข้าได้ยินแบบนั้นข้าก็รีบวิ่งไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ก็พบว่าทหารข้าห้ามให้ข้าไปหาไป๋หลิน
"หลบไปเราจะไปหาไป๋หลิน"
"ไม่ได้หรอกพะยะค่ะฮองเฮา ฮองเต้ทรงมีรับสั่งไม่ให้ผู้ใดเข้าเฝ้าจนกว่าจะมีรับสั่งพะยะค่ะ"
"แต่เราเป็นฮองเฮานะ" แต่หลังจากได้ยินเสียงที่เราพูดไปทหารพวกนี้ก็ไม่มีทีท่าจะเปิดให้เรา แต่กลับทำสีหน้าที่ลำบากใจแทน
"ได้ ก็ได้งั้งถ้าฮองเต้ออกมา บอกให้มาพบเราหน่อย"
"พะยะค่ะ"
"เราจะเอายังไงต่อดีเพคะฮองเฮาปกติคนของเราก็ไม่เคยพลาดเรื่องข่างด้วย"
ทั้งๆที่ตัวข้าอยากจะถามให้รู้เรื่องแท้ๆ แต่ข้าเชื่อในไป๋หลินเพราะไม่ว่าเรื่องอะไร เค้าก็จะบอกเราทุกอย่างไม่เคยปิดบัง เราก็หวังว่าเรื่องนี้เค้าจะไม่ปิดเราเช่นกัน กลับวัง
ณ. วังหลัง เวลาหลังอาหารค่ำ
ข้าที่พึ่งอาบน้ำเสร็จกำลังเพลินใจกับการหวีผมมันทำให้ข้ารู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้หวี รู้สึกว่างเปล่าไม่ต้องคิดอะไร แต่ก็มีบางความรู้สึกที่ควบคุมไม่ได้เพราะยังรู้สึกกังวรอยู่กับคำพูดของหลินหลินชาวใช้ประจำตัวของข้า หลังจากนั้นก็มีมือใหญ่ๆเข้ามากอดรัดข้าโดยที่ไม่ทันรู้ตัว จนข้ารู้สึกตกใจเกือบจะตกเก้าอี้เสียแล้ว ว๊าย! ข้าหันกลับไปทันทีแต่เมื่อหันไปข้าก็รู้สึกโร่งอกเพราะคนที่อยู่ตรงหน้าข้าคือไป๋หลิน
"เปี๊ยะ! นี้ท่านทำอะไรของท่านหม่อมฉันตกใจหมด" ข้าตีไปที่มือของเค้าอย่างแรงจนแดงไปหมด
ก็เจ้าไม่ยอมสนใจสามีของเจ้าเลยนิข้าก็ต้องทำแบบนี้
"อย่างน้อยท่านก็ควรจะส่งเสียงเรียกหม่อมฉันบ้างนะ เพคะแล้วมากอดข้าแบบนี้ไม่อายสาวใช้บางรึไง" แต่พอข้าพูดจบก็หันหน้าไปมากลับพึ่งรู้ตัวว่าสาวใช้ของข้าได้ออกไปหมดแล้วเหลือเพียงแต่ข้าและไป๋หลินสองคน
"ดีนิไป๋หลิน ว่างแผนมาหรอ ถ้าหม่อมฉันตกใจจนเป็นลมขึ้นมาจะทำอย่างไร" ข้าทำหน้าโกรธใส่เค้าแล้วชี้นิ้วไปที่เค้า
จร้า จร้าาา ข้าผิดไปแล้ว ยกโทษให้ข้าน้าาาา แล้วเค้าก็กอดข้าอยู่อย่างงั้งไม่ยอมปล่อยเลย
ก็ได้ แต่ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะ หลังจากนั้นเค้าก็เอาหน้าผากของเค้ามาชนหน้าผากของข้าเป็นการแสดงความรักที่เค้าทำกับข้าเป็นประจำ แต่แล้วข้าก็นึกถึงคำพูดที่หลินข้าก็รู้สึกไม่สบายใจจนตัวสั่น
เป็น..เป็นอะไรไปชิงหลี
ป่าวเพคะ ข้ารู้สึกกล้าๆกลัวๆกับคำถามที่ข้ากำลังจะถาม ว่าควรถามออกไปดีมั้ยหรือจะทำอย่างไรดี แต่ถ้าไม่ถามมันก็จะคาใจอยู่อย่างนี้
"ไป๋หลิน วันนี้ท่านคุยอะไรกับใต้เท้าจางหรอ" เมื่อข้าพูดจบไป๋หลินก็ ชะงักไปครู่ จนทำให้ข้ารู้สึกกลัวขึ้นมาว่าที่หลินพูดจะเป็นความจริง ข้าควรจะถามต่อดีมั้ย
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!