*ขออนุญาตเจ้าของภาพนะค่ะ
นักข่าวสมัครเล่น
"สวัสดีค้าาา วันนี้เราจะมาถามตัวละครทุกตัวเกี่ยวกับนิสัยของเขานะค่ะโดยจะคำถามเดียวกันว่า'คุณนิสัยยังไง?'นะค่ะ^^"
เวยหนาน
"นิสัยฉันหรอ? ก็ไม่รู้สินะค่ะ"
เสี่ยวจินหยุน
"ผมนิสัย'ดี'ครับ"
เซียวหลง
"นิสัยของผมหรอครับ? ก็ประมาณว่าร่าเริงและก็อีกอย่าง ผมเป็นคนน่ารักนะครับ"
ซีซวน
"ฉันฉลาด"
เวยจื่อถิง
"ไม่พูดมากละกันนะครับ...ผมหล่อและรวยมาก"
เลขาหลัว
"นิสัยของผมก็ออกแนวสุขุมนะครับ และผมก็เป็น'เคะ'ด้วยนะครับ^^"
"...ฉ.ฉันชอบเธอนะ เรามาเป็นแฟนกันเถอะ!" ชายหนุ่มหน้าหล่อกำลังสารภาพรักหญิงสาวหน้าตาสวยแต่ดูเย็นชาต่อหน้าสาธารณะพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้หญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เขินอาย
"ขอโทษนะแต่ฉันรับมันไว้ไม่ได้หรอก ขอตัวนะ" หญิงสาวเดินจากชายหนุ่มอย่างเฉยชา
ชายหนุ่มนิ่งค้างอยู่กับที่ราวกับช็อค เมื่อโดนปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากหญิงสาวที่ตนแอปชอบมานานนับปี แต่กลับโดนปฏิเสธไม่ถึงสิบวินาที...
...ถึงจะเสียใจ แต่ก็ได้เตรียมใจก่อนที่จะมาสารภาพรักอยู่แล้ว
เวยหนาน หญิงสาวที่เพิ่งโดนสารภาพรักเมื่อครู่ ได้เดินมาบริษัทเพื่อที่จะมาทำงานต่อ...
เวยหนานเป็นถึงผู้ช่วยของประธานบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของประเทศ และยังเป็นน้องสาวของประธานบริษัท แต่เวยหนานไม่เคยใช้เส้นสาย เธอตั้งใจทำงานและสร้างผลงานไว้มากมายจนผู้เป็นพี่ให้มาเป็นผู้ช่วยของตน
วันแล้ววันเล่าเวยหนานไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากทำงาน กิน และนอนพักผ่อน ในแต่ละวันของเธอมีแต่เรื่องเดิมซ้ำๆ
ส่วนเรื่องความรัก เวยหนานไม่เคยคิดที่จะมีใครเพราะเวยหนานรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจำเป็นสำหรับเธอเพราะเธอไม่มีความปรารถนาอยากได้อะไรอยู่แล้ว เธอคิดแค่ว่าต้องช่วยทำงานครอบครัว เท่าที่ตนจะช่วยได้
ด้วยรูปร่างหน้าตาที่งดงามราวกับสวรรค์ส่งมาเกิดกิริยามารยาทนั้นงดงามสมกับเป็นกุลสตรี และเป็นอัจฉริยะตั้งแต่เกิดเธอจึงมีนิสัยที่เย็นชา และเฉยเมยต่อทุกสิ่ง
...เธอไม่มีความปรารถนา ไม่มีความหวัง และไม่มีอารมณ์ ไม่ร้องไห้ ไม่ยิ้มแย้ม เหมือนหุ่นยนต์ที่รู้จักแค่คำว่างาน
"อาหนานวันหยุดนี้ไปเที่ยวกันไหม" เวยจื่อถิงเอ๋ยปากชวนเวยหนานที่นั่งทำงานอยู่ ไปเที่ยวเล่นเพื่อพักผ่อนบ้าง
เพราะตนนั้นอยากเห็นน้องสาวยิ้มอย่างมีความสุข ไม่ใช่เป็นคนเย็นชาไร้อารมณ์แบบนี้
"หนานอยากอยู่บ้านอ่านหนังสือมากกว่าค่ะ"เวยหนานพูดโดยที่ยังทำงานอยู่
"ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเชื่อพี่"
"หนานอยากอยู่บ้าน"
'แม้จะพยายามโน้มน้าวมากแค่ไหน คนดื้อเงียบอย่างเวยหนานนะหรือจะยอมง่ายๆ ต้องหาข้ออ้างแล้วสิ...เฮ้ออ'เวยจื่อถิงพูดในใจพลางถอนหายใจไปพลาง
"...อาหนานไปคุยงานกับประธานเสี่ยวที่จะไปทริปกับเรา โอเครไหม"
และตามคาดเวยหนานหยุดมือและเงยหน้ามองพี่ชายก่อนที่จะพูดว่า
"งั้นรบกวนพี่ใหญ่ช่วยเตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการคุยธุระกับประธานเสี่ยวด้วยนะค่ะ"เวยหนานพูดจบก็ก้มหน้าทำงานต่อ
"โอเครๆ เดี๋ยวพี่จะไปเตรียมให้ คิกๆ" เวยจื่อถิงหัวเราะดีใจที่น้องสาวตนติดกับง่ายๆ
เวยจื่อถิงรีบโทรหาเลขาให้ติดต่อกับประธานเสี่ยว เพื่อที่จะนัดคุยงานในทริปวันหยุดที่ใกล้จะถึงในเร็ววันนี้
"ฮัลโหลๆ เลขาหลัว ช่วยติดต่อกับประธานเสี่ยวให้ผมหน่อยสิ!"
"'ใจเย็นก่อนนะครับท่านประธาน ค่อยๆพูดนะครับ เดี๋ยวก็หัวใจวายหรอกครับ'"เลขาหลัวพูดปรามเจ้านายของตน เพราะเดาจากน้ำเสียงของเจ้านายแล้วคงมีเรื่องที่น่าดีใจมากแน่ๆ
"คืออย่างนี้นะ อาหนานยอมตกลงไปทริปกับฉันแล้ว"
"'แล้วท่านก็หลอกคุณเวยหนานว่าให้ไปคุยงานกับท่านประธานเสี่ยวสินะครับ'"เลขาหลัวพูดอย่างรู้ทัน
"ร.รู้ได้ยังไง!?"เวยจื่อถิงเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกเมื่อเลขารู้ทันตนถึงขนาดนี้
"'เอาเป็นว่า ผมจะรีบติดต่อให้นะครับ'"
"โอเคร ถ้าติดต่อและนัดได้สำเร็จ กลับบ้านมาฉันจะจัดรางวัลให้อย่างงามเลย รักนะครับ จุ้ปป3"
"'ตื้ด.ตื้ดดด'"เสียงตัดสายจากเลขาหลัวที่ตอนนี้กำลังเขินหน้าแดงอย่างช่วยไม่ได้
"ชิส์! ไอ้คนเซ่อซ่า!"เลขาหลัวพูดพลางยิ้มหน้าแดง
"คนบ้าอะไรถึงน่ารักขนาดนี้ คืนนี้ต้องจัดหนักให้ซะแล้วคิกๆ..."เวยจื่อถิงพูดพลางหัวเราะอย่างมีความสุข
หลังจากที่เลขาหลัวได้วางสายจากเวยจื่อถิง เลขาหลัวจึงรีบติดต่อกับประธานเสี่ยวทันที
.
.
.
"'ทางเราไม่สะดวกไปตามนัดครับ ขออภัยด้วยครับ'"เสียงของเลขาฯประธานเสี่ยวพูดเสียงเรียบ
"งั้นทางเราจะติดต่อหาวันใหม่ให้นะครับ ขออภัยที่รบกวนเวลาครับ สวัสดีครับ" เลาหลัววางสายพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ
ทางด้านเวยจื่อถิงที่ตอนนี้กำลังเตรียมเอกสารให้เวยหนานเพื่อไว้ใช้ในการคุยธุระกับประธานเสี่ยว ซึ่งตอนนี้กำลังใกล้จะเสร็จแล้ว...
ก๊อกๆ
"ประธานครับ ขออนุญาตนะครับ"เลขาหลัวเคาะประตูเสร็จก็เดินเข้ามาภายในห้องที่ประธานเสี่ยวทำงานอยู่
"เป็นไงบ้างเลขาหลัวที่รัก ทางประธานเสี่ยวตกลงมั้ย?"เวยจื่อถิงยิ้มถามอย่างมีความหวัง
"ประธานเสี่ยวไม่ว่างไปนัดครับ เพราะติดธุระครับ"เลขาหลัวพูดเสียงเรียบ
"...!"
'เอายังไงละทีนี้ ถ้าอาหนานรู้ว่าฉันหลอกเธอ เธอจะโกรธฉันไหมนะ...'เวยจื่อถิงคิดในใจพลางกุมหน้าผาก
"อย่าคิดมากอย่างนั้นสิครับ"เลขาหลัวยื่นกาแฟที่ตนถือเอาเข้ามาตั้งแต่แรกมาให้เว่ยจื่อถิง
"อาหลัว ฉันต้องทำยังไงดี? ถ้าอาหนานรู้ว่าฉันโกหก อาหนานต้องโกรธฉันมากแน่ๆ " เวยจื่อถิงกุมหน้าผาก
"เดี๋ยวผมจะไปอธิบายให้คุณเวยหนานรู้เองครับ"
"ไม่นะ! อย่านะอาหลัว! "
"ดีกว่าโกหกเขานะครับ"
'...คิดสิคิดๆ ต้องทำอย่างไง? อยากให้น้องสาวไปทริปด้วยเพราะกลัวจะเป็นหุ่นยนต์ หรือว่าโกหกว่าประธานเสี่ยว...เอ๋? คิดออกแล้ว!'
"เป็นไปได้ไหมถ้าฉันโกหกไปเรื่อยๆ จนกว่าอาหนานจะไปถึงทริปแล้วเราก็บอกอาหนานทีหลังว่าประธานเสี่ยวไม่ว่างมาตามนัดได้..."เวยจื่อถิงพูด
"แต่คุณก็ต้องโกหกให้มันเนียนๆหน่อยนะครับ และอีกอย่างผมจะไม่ยอมช่วยคุณโกหกด้วย"เลขาหลัวพูดเสียงเรียบพลางหันหลังให้เวยจื่อถิงและก้าวขาเดินออกจากห้อง
"อาหลัวอย่าเพิ่งไป! อาหลัว!!!"เวยจื่อถิงรีบลุกเดินตามเลขาหลัวแต่ไม่ทันจะได้เปิดประตู เวยหนานก็ยืนขวางเวยจื่อถิงไว้
"พี่ใหญ่ทะเลาะอะไรกับเลขาหลัวอีกแล้วค่ะ"เวยหนานถามเสียงเรียบ
"ก็อาหลัวนะสิ พูดเสร็จก็เดินหนีพี่ไปเลย พี่ก็ต้องวิ่งตามไปง้อเนี่ย ถ้าไม่รีบอาหลัวก็เปลี่ยนไปอีก พี่ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นหรอกนะ! พี่ไปละ ฝากดูแลห้องด้วยนะอาหนาน"
เวยจื่อถิงพูดเสร็จก็รีบวิ่งตามเลขาหลัวไป
"..."
เวยหนานเดินเข้าไปในห้องทำงานของเวยจื่อถิง และเอาเอกสารที่เวยจื่อถิงฝากให้ทำเอาไปวางไว้บนโต๊ะ
ในขณะที่วางเอกสารไว้บนโต๊ะ สายตาของเวยหนานก็เหลือบไปเห็นเอกสารที่เวยจื่อถิงทำเกือบจะเสร็จ และเอกสารนั้นคือเอกสารที่เวยจื่อถิงเตรียมให้ตนเอาไว้ไปคุยงานกับประธานเสี่ยว
...ทำไมเวยหนานจะไม่รู้ว่าเวยจื่อถิงนั้นโกหกตน และรู้ว่าที่เวยจื่อถิงโกหกนั้นเพราะตน
"ในเมื่อพี่ใหญ่ต้องการฉันก็จะทำ"เวยหนานพูดพึมพำกับตัวเอง
...หลังเลิกงาน เวยหนานไปที่ร้านหนังสือเพื่อหาซื้อหนังสือเพิ่ม
"ไงหนานหนาน มาซื้อเพิ่มอีกแล้วหรอ?"เซียวหลง เพื่อนของเวยหนานทักเวยหนานอย่างเป็นกันเอง
"อืม"เวยหนานพยักหน้า
"ครั้งนี้อยากได้หนังสือแบบไหนล่ะ?"เซียวหลงถามพลางเดินตามเวยหนานมา
"อยากอ่านเกี่ยวกับสารคดีและสมุนไพรน่ะ"เวยหนานพูด
"แล้วเอาสารคดีเกี่ยวกับอะไรล่ะสัตว์หรือพืช ท้องทะเลหรือพื้นดิน?"เซียวหลงถามพลางอ่านแถบหนังสือสารคดี
"เกี่ยวกับพืช นายช่วยหาเกี่ยวกับพืชหายากให้หน่อยนะ และก็เป็นพืชเขตหนาวด้วย"เวยหนานพูดพลางเดินหาหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพร
หลังจากหาหนังสือที่ต้องการได้ ทั้งสองก็เดินเล่นในห้างต่อและไปหยุดที่ร้านประจำที่ทั้งสองเมื่อเจอกันก็จะมานั่งกินของหวานที่ร้านขนมแห่งนี้ตลอด
"นี่หนานหนาน ได้ข่าวว่ามีคนมาสารภาพรักกับเธอ เหรอ?"เซียวหลงถามอย่างติดตลก
"อืม..."
"แล้วเธอตอบกลับว่าอะไรเหรอ?"
"ก็ปกติ"เวยหนานพูดพลางดื่มชามะนาว
"โอ้โห...สงสารคนที่เธอเพิ่งปฏิเสธมาอ่ะ เธอหัดฝึกเห็นใจคนอื่นบ้างก็ได้นะฮ่าๆ..."เซียวหลงหัวเราะเจื่อนๆ
"..." เวยหนานนั่งฟังเงียบๆ
"หนานหนาน วันหยุดปีนี้เธอจะอยู่บ้านเหมือนปีที่แล้วใช่มั้ย ดีเลยถ้างั้นฉันจะเอาหนังสือไปเล่นด้วยนะ..."เซียวหลงพูดพลางกินเค้ก
"ฉันจะไปเที่ยวกับพี่ใหญ่"เวยหนานพูดเสียงเรียบ
"ห้ะ!?"เซียวหลงทำช้อนที่เพิ่งตักเค้กหล่นเสียงดังจนคนในร้านหันมามอง
"..."เวยหนานนิ่งเงียบและมองไปที่เซียวหลงด้วยสายตาเย็นยะเยือก
"ม.ไม่จริงน่า...หนานหนานที่ไม่ชอบการเที่ยวคนนั้นนะหรอถึงจะไปเที่ยวได้? น่าเหลือเชื่ออ่ะ"เซียวหลงพูดเกินจริง
"..."เวยหนานนิ่งเงียบและยังมองไปที่เซียวหลงด้วยสายตาเย็นชาโดยมีนัยว่าให้หยุดแสดงท่าทีเกินจริงนั้นซักที
"แหะๆ ก็มันจริงนี่...เลิกมองฉันแบบนั้นเถอะ ฉันกลัวสายตาเธอนะ!"เซียวหลงแก้เก้อด้วยการกินเค้กต่อ
"..."
"ว่าแต่หนานหนาน ทำไมเธอถึงยอมไปเที่ยวได้ล่ะ ปกติเธอจะอยู่ที่บ้านและอ่านหนังสือไม่ใช่เหรอ?"
"พี่ใหญ่อยากให้ไป"เวยหนานพูดพลางดื่มชามะนาว
"อย่างนั้นี่เอง...งั้นฉันจะไปขอร้องพี่จื่อถิงไปด้วยดีกว่า"เซียวหลงพูดพลางยิ้มให้เวยหนาน
"..."เวยหนานมองไปที่วิวในร้านไม่สนใจที่เซียวหลงพูด
"ฉันรู้นะว่าพี่จื่อถิงต้องมีข้ออ้างพาเธอไปแน่ๆเลยใช่มั้ยหนานหนาน?"เซียวหลงพูดติดตลก
"อืม พี่ใหญ่บอกว่าจะให้ฉันไปคุยงานกับประธาน เสี่ยวน่ะ"เวยหนานพูดเสียงเรียบ
"นั่นไงว่าแล้ว! ฮ่าๆๆ..."เซียวหลงหัวเราะเสียงดัง
"..."เวยหนานวางถ้วยชาลง
"จะกลับแล้วหรอ?"
"อืม"
"เดี๋ยวฉันไปส่ง!"
"อืม"
.
.
.
ในขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้างสรรพสินค้าจู่ๆเซียวหลงก็ปวดท้องและบอกให้เวยหนานกลับก่อนเลย
เวยหนานพยักหน้าจากนั้นเซียวหลงก็วิ่งหายไปทางห้องน้ำซึ่งท่าทางเซียวหลงน่าจะเข้าห้องน้ำผิดถึงได้ยินเสียงผู้หญิงกรี้ดร้องขนาดนั้น
เวยหนานหันหลังและเดินต่อไปไม่สนใจเพื่อนเลยสักนิด
"อั่ก!"จู่ๆก็ถูกผู้ชายคนหนึ่งวิ่งชนเต็มแรง จนเวยหนานล้มและกล่องเค้กที่เวยหนานตั้งใจซื้อกลับไปไว้กินก็ลอยไปตกอยู่ที่หัวของคนที่กำลังเดินผ่านมาเต็มๆ
"ขอโทษนะครับผมขอตัวก่อนนะครับ"ผู้ชายที่วิ่งชนเวยหนานวิ่งไปโดยทิ้งให้เวยหนานที่ล้มอยู่ตรงพื้นนิ่งอึ้ง
"เดี๋ยวก่อน..."
"เดี๋ยวอะไรของเธอห้ะ!? นี่เค้กของเธอใช่ไหม!?"ผู้ชายที่โดนลูกหลงเดินมามองเวยหนานด้วยสายตาโกรธแค้น
เวยหนานลุกขึ้นและปัดฝุ่นเล็กน้อยก่อนที่จะก้มขอโทษผู้เสียหายจากเค้กของตน
"ขอโทษนะค่ะ ดิฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ"
"ไม่ได้ตั้งใจหรอ? หึ!"เขาแค่นหัวเราะ
"นี่คือค่าเสียหายนะค่ะ"เวยหนานหยิบเงินก้อนหนึ่งออกจากกระเป๋าและยื่นให้คู่กรณี
"ห้ะ!?"เขารับเงินมางงๆและมองเวยหนานด้วยสายตางงงวย
"ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะค่ะ"เวยหนานก้มขอโทษอีกครั้ง
"ฉันไม่ได้ต้องการเงินนี่หรอกนะ! เอาคืนไป!"เขายื่นเงินให้เวยหนานคืน แต่ถูกเวยหนานดันกลับไปให้เขาคืน
"นี่คือค่าเสียหายค่ะ ดิฉันรับคืนไม่ได้หรอกนะค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวก่อนนะค่ะ"
"เดี๋ยวก่อนสิ! เธอคิดว่าแค่ยัดเงินแค่นี้แล้วจะไปได้เหรอ?"เขาพูดพลางจับข้อมือของเวยหนานที่กำลังจะเดินจากไป
"...!"เวยหนานพยายามฝืนไม่ให้ตัวเองร้อง
"เธอจะยังไปไหนไม่ได้!"
"ปล่อยก่อนได้ไหมค่ะ?"เวยหนานมองไปที่ข้อมือที่ถูกบีบ
"ไม่!"เขาออกแรงบีบให้แรงขึ้น
"...!"เวยหนานขมวดคิ้วแน่นพลางออกแรงสบัดมือ
"เงินแค่นี้ไม่พอสำหรับความอับอายที่ฉันต้องเจอหรอกนะ!"เขาตะคอกเสียงดัง
"ได้โปรดปล่อยก่อนได้ไหมค่ะ แล้วค่อยคุยกันค่ะ"เวยหนานพยายามกัดฟันพูด
"ชิส์!"เขาที่เห็นเวยหนานพยายามกลั้นความเจ็บปวดแทบไม่ไหวเลยปล่อยข้อมือออกให้
"ถ้าจำนวนเงินนั้นไม่พอดิฉันสามารถโอนให้เพิ่มค่ะ"เวยหนานพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
"เฮอะ! แก้ปัญหาด้วยเงิน! ฉันไม่ต้องการ! ฉันอยากเอาเค้กมาป้ายหัวเธอคืนต่างหาก!"เขาตะคอกเสียงดัง
"..."เวยหนานเงียบพลางพูดในใจอย่าเอือมระอาว่า
'น่ารำคาญ'
"นี่เลาขากง!ไปซื้อเค้กมาเดี๋ยวนี้!"เขาตะโกนพูดเสียงดัง
"เอ่อ...ท่านประธานครับ มันไม่เกินไปหน่อยหรอครับ?"เลขากงพูดพลางมองเวยหนาน
"นายอยากจะทำตามคำสั่งของฉันหรืออยากจะโดนฉันไล่ออก!"เขาพูดอย่างเกรี้ยวกราด
"อ.เอ่อ..."เลขากงมีท่าทีลนลานอย่างเห็นได้ชัด
'ประธานท่านรู้ตัวใหมครับว่ากำลังโวยวายต่อหน้าผู้หญิงอยู่นะครับ ได้โปรดให้เกียรติเธอด้วยได้ไหมครับ'เลขากงพูดในใจพลางถอนหายใจ
'นายคนนี้น่ารำคาญชะมัด'เวยหนานพูดในใจ
"เลขากง! ทำไมยังไม่ไปเอาเค้กมาให้ฉันอีก!"
"ผ.ผมว่าท่านลองคิด..."
"ไปเดี๋ยวนี้!"
"ค.ครับ"เลขากงทนต่ออารมณ์เกรี้ยวโกรธของอีกฝ่ายไม่ไหวเลยทำใจเดินไปหาซื้อเค้กตามคำสั่ง
'ขอโทษด้วยนะครับคุณผู้หญิงผมไม่มีทางเลือกจริงๆ'
"คุณไม่คิดว่ามันเกินไปหน่อยหรอค่ะ ดิฉันก็ขอโทษไปแล้วและชดใช้ค่าเสียหายไปแล้วด้วย"
"เอาไปคืน! ฉันไม่ยอมเปี้อนคนเดียวหรอกนะ!"เขายื่นไปให้เวยหนานคืน
เวยหนานไม่รับและมองเจาด้วยสายตาเย็นชา
"คุณอายุกี่'ขวบ'แล้วค่ะ?"เวยหนานเน้นคำว่าขวบให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวทำตัวเหมือนเด็กขนาดไหน
"เรื่องของฉัน! ฉันเปื้อนเธอก็ต้องเปื้อนด้วย!"
"นี่คุณ!"
"อ.เอ่อ...ขออนุญาตินะครับ ผมต้องขอโทษคุณผู้หญิงที่เมื่อครู่ผมวิ่งไปกระทันหัน และคุณผู้ชายครับเมื่อครู่ผมเห็นว่าคุณกำลังจะเอาคืนใช่ไหมครับ
ในเมื่อผมเป็นต้นเหตุผมขอรับเค้กที่คุณต้องการที่จะเอามาป้ายหัวนะครับ เพราะคุณผู้หญิงท่านนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย"ผู้ชายที่วิ่งชนเวยหนานเดิมมาแทรกกลางระหว่างศึกของเวยหนานกับประธานหนุ่มพลางใกล่เกลี่ยให้
"ท่านประธานครับ ได้เค้กแล้วครับ"เลขากงวิ่งมา พร้มกับเค้กในมือ
ประธานหนุ่มถือเค้กขึ้นมาและทำท่าจะเหวี้ยงมันไปทางผู้ชายที่ชนเวยหนานแต่...
"ฉันหมั่นใส้เธอมากกว่า! ขอปาใส่เธอละกัน"
'พลั่ก'
เค้กถูกเหวี่ยงมาทางหัวของเวยหนานทันที
เวยหนานหลบไม่ทันจึงจำใจยอมรับเค้กก้อนนั้น
"แค่นี้ก็พอใจแล้วสินะค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะค่ะ คุณเด็กหนึ่งขวบ!"เวยหนานโมโหอย่างเห็นได้ชัดพลางเดินชนไหล่ประธานหนุ่มทันทีที่พูดจบ
"ใครหนึ่งขวบฟะ!"
"พอเถอะครับท่านประธาน!"เลขากงแทบจะกอดขาประธานหนุ่มให้หยุดเลยทีเดียว
'โชคดีที่ผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบมีเรื่อง ถ้าไม่งั้นละก็เรื่องได้จบกันที่โรงพักแน่ๆ'เลขากงพูดในใจ
"ฉันขอสาบานเลยว่าถ้าได้เจอเธอยัยมนุษย์น้ำแข็งนั่นอีก ฉันจะเอาคืนให้สาสมแน่ๆ! ฮึ้ยยย!!!"ประธานเสี่ยวตะโกนลั่นอย่างหัวเสีย
"เฮอะ ฉันจะไม่มีวันเจอนายอีกครั้งแน่"เวยหนานพูด
ทางเซียวหลง
เซียวหลงที่ตอนนี้อยู่โรงพักเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าเป็นโรคจิต กำลังถูกสืบสวนอยู่
"ผมไม่ใช่โรคจิตนะครับบบบบบ!!!!"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!