ณ ญี่ปุ่น เมืองโตเกียว
เด็กชายคนหนึ่งได้ตื่นเเละลุกออกจากเตียงเมื่อเขาเเปรงฟัน อาบน้ำเสร็จ ก็ได้ลงไปกินข้าว ทันใดนั้นเสียงเรียกของเเม่เขาได้ดังขึ้น “เคนยะลูก เเม่เอาข้าววางไว้ตรงนี้น่ะ” เคนยะได้ลงมากินข้าวที่เเม่เตรียมไว้ให้
วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของเค็นยะเเละเค็นยะได้เดินขึ้นรถโรงเรียน
ณ อวาเร็นทรี่
ชายปริศนาสวมผ้าคลุมสีดำ ได้เข้าไปในพื้นที่ของเทพเเห่งมิติชายปริศนาได้เขาโจมตีเทพมิติ เทพเเห่งมิติเเละชายปริศนา ได้เข้าต่อสู้กันผ่านไป 7 วัน เเละเทพเเห่งมิติได้เสียท่าจนตัวเองต้องตาย เเละเศษพลังได้กระจายออกไป 6 ชิ้นหลุดไปในมิติต่างๆ คนที่โดนเศษพลังเข้าไปในร่างกายจะทำให้ได้รับพลังของเทพมา ทั้ง 6 ชิ้นมีพลังต่างกัน ชิ้นที่ 1 จะมีพลังที่เยอะที่สุด
ตอนนี้มิติเริ่มพังทะลายเพราะเทพที่คุมมิติได้ตายไป ตอนนี้องค์เทพสูงสุดได้รู้เเล้วว่าเทพมิติได้ตายลง เเต่ยังไม่รู้สาเหตุ
ชายปริศนา ได้วาปหายไปในมิติเเละชายปริศนา ได้รับ เศษพลังลูกที่ 1 ไปด้วย
ณ โรงเรียนฟุไคโนะจิ
PM 15:00
“นี่ๆ เคนยะ สอบวันนี้เป็นไงบ้าง”
“ก็ยากอยู่เเหละ”
“งั้นเจอกันตอนเปิดเทอมน่ะ”
เคนยะ ได้เดินกลับไปที่บ้านระหว่างกลับบ้าน เคนยะได้คิดถึงเรื่องข้อสอบวันนี้ว่าทำไมมันยากกว่าปกติถึงเคนยะ
จะอ่านมาเเล้วเเต่ก็ทำได้บางข้อ
ทันใดนั้น มีรอยเเยกมิติโผล่มาข้างหน้าของเคนยะ
เมื่อเทพเเห่งมิติได้ตายลงไปโดย ไม่ทราบสาเหตุทำให้สมดุลของของมิติได้เสียหายลง
เด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่กำลังจะกลับไปที่บ้านเขาเหม่อลอยมองโทรศัะท์จนเขาได้เดินเข้าไปในมิติที่บิดเบี่ยวเเรงดันที่อยู่ในมิติทำให้เขาถูกเเรงดันจนร่างกายเเหลกสลายทำให้ดวงวิญญาณของเขาได้หลุดเเละล่องลอยไปจนเข้าไปในมิติที่รอยเเยกของมิติเเห่งหนึ่ง
วิญญาณของเขาได้เข้าไปสิงในตัวของเด็กชายคนหนึ่งซึ่งได้ตายจาโลกไปเเล้วเขาได้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งในอีกโลกที่ไม่รู้จัก
"อ...เอ๊!!! นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย" เด็กหนุ่มได้พูดขึ้น
เขาได้ลุกเดินออกไปปรากฏว่าเขาอยู่ที่สุสานของคนตายมากมายเขาได้เดินออกไปจนไปเจอลำธาร
‘ผ..ผมชื่อ อามาเนะ เคนยะ’
เค็นยะได้ข้ามลำธารพอเดินไปได้สักพักดันไปเจอนกยูง 7 สี ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น
เค็นยะได้เข้าสู้กับนกยูงเเต่สู้อะไรไม่ได้เลย เค็นยะได้วิ่งหนีจนมาถึงทางตันนกยูงได้กระโดดเตะ เคนยะได้คิดว่าตัวเองกำลังจะตายอีกเเล้วหรอทันไดนั้น มีเสียงอะไรเข้ามาในหัว
"ปลดล็อค สกิล ลูกเเก้วเเสง" เค็นยะได้งงกับเสียงที่ได้ยิน
'นี่มันเสียงอะไรกันน่ะ!!!'
เค็นยะได้นึกภาพในหัวที่คิดว่าเป็นดาบทันใดนั้น!! ดาบเเสดงได้ปรากฎบนมือ เคนยะได้กลิ้งตัวหลบทำให้นกยูงเตะไม่โดน เคนยะ ได้เอาดาบเเสงปักไปตรงหน้าอกของนกยูงจนทำให้นกยูงได้ตายไป
เคนยะได้ได้เดินไปสักพัก ได้ไปเจอผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเค็นยะได้เข้าไปหาเเต่คาดสายตาเพียงเเปปเดียวผู้ชายคนนั้นได หายตัวไป ทันได้นั้น!!!ชายวัยกลางคนก็ได้โผล่มาจากข้างหลัง
"เจ้าเป็นใคร" ชายวัยกลางคนได้ถามเค็นยะ
"ผ..ผมไม่รู้ครับ" เค็นยะได้ตอบชายวัยกลางคน ชายวัยกลางคนได้เริ่มคุยกับเค็นยะ
"นี่นายน่ะมานั่งตรงนี้ก่อน"่
"ค...ครับ"
"ข้าได้เห็นการต่อสู้ของเจ้าเมื่อกี้เเล้ว” ชายวัยกลางคนได้ลุกขึ้นเเล้วพูดว่า
“ข้าตัดสินใจเเล้ว จงมาเป็นลูกศิษย์ชั้นซ่ะ!!!”
"ห...ห๊าา!!!" เค็นยะงงอย่างมากเพราะถูกคนแปลกหน้ามาชวนเป็นศิษย์
ก่อนเค็นยะจะพูดชายคนนั้นก็ได้พูด
“เจ้าชื่อว่าอะไรล่ะ”
"ผ..ผมชื่อ อามาเนะ เคนยะ" เค็นยะพูดด้วยความตกใจ
“ชั้นชื่อ…”
ทันใดนั้น!!! สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ก็ได้ลอยมา
*มันคือเต่า 1ใน4สัตว์เทพ เป็นเทพผู้ปกครองนภา ซึ่งได้พรจากพระเจ้าสูงสุดเพื่อให้มาดูเเลโลกให้สงบสุขเเละเป็นเทพที่เเข็งเเกร่งที่สุดใน 4สัตว์เทพ*
“น..นี้เคนยะรีบไปกันเถอะ”
ทันได้นั้นชายวัยกลางคนก็ได้รีบจับมือของเค็นยะเเล้วรีบวิ่งไปที่บ้านหลังเล็กภายในบ้านนั้นข้อนข้างรกเเละเต็มไปด้วยกองหนังสือเวทย์เต็มไปหมด ทันใดนั้น เคนยะ ได้หลับไป พอตื่นเช้ามา
"นี่เจ้าหนูมากินซุปร้อนๆก่อนไหม"
"ค..ครับ"
“คุณเป็นใคร”
"นั้นสินะ..ชื่อ..งั้นหรอ" ชายคนนั้นได้ทำหน้าเศร้า ชั้วขณะ
“งั้นนายตั้งชื่อให้ชั้นเป็นไงล่ะ”
"ด..ได้ครับ" เคนยะทำหน้าคุ้นคิดอยู่พักใหญ่
"อืมมมงั้นเซนโอะล่ะว่าไง"
“เซนโอะงั้นหรอมีความใหมว่าอะไรงั้นหรอ”
‘ยะ...เเย่ล่ะเราบอกไม่ได้ว่าเราไม่ใช้คนของโลกนี้นิ' เคนยะรีบพูดด้วยความรนรานว่า
"ม..ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรอกมันเป็นภาษาถิ่นที่บ้านเกิดผมน่ะ"
"ห..หืม ชั่งมันเถอะ เจ้ารีบกินเถอะเดี่ยวซุปจะเย็นเอา"
"งั้นเรามาเริ่มฝึกกันเถอะ"
1 ปี ผ่านไป
“อาจารย์! ผมไปล่าจิ้งเหลนมีปีกมาด้วยล่ะ..”
เมื่อเคนยะกลับมาถึง กลับไม่พบอาจารย์ของเคนยะอีกเเล้ว
“อะ..อาจารย์”
'เมื่อเคนยะเดินเข้าไปในบ้านเคนยะก็ได้พบจดหมายฉบับ1ในกระดาษเขียนว่า ข้าไม่มีอะไรจะสอนให้เเล้วเจ้าจงออกเดินทางเพื่อฝึกวิชาให้มากขึ้น สักวันหนึ่งเจ้าอาจจะเจอข้าในอีกสักที่ชั้นได้เตรียมของไว้ในกระเป๋าเเล้วเเล้วก็ของในห้องอุปกรณ์เลือกเอาไปได้เลย'
เคนยะได้เปิดกระเป๋าดูในนั้นมีสิ่งของที่ใช้ดำรงชีวิตหลายอย่าง เคนยะได้หยิบแผนที่ขึ้นมา
“นี้น่ะหรอภูมิศาสตร์ของโลกนี้น่ะเป็นโลกที่เเปลกดีแหะเเต่..ชั่งมันเทอะ”
อยู่ๆเคนยะก็ได้เกิดความคิด
“เอิ่ม..ล..เเล้วเราอยู่ตรงใหนของเเผนที่ล่ะ!! "
“จะ...เจ้าอาจารย์บ้าเอ้ย จะไปก็บอกหน่อยเหอะว่าพวกเราอยู่ส่วนใหนน่ะ”
“เห้ออออออ” เคนยะถอนหายใจยาว
“ชั่งมันละกันงั้นเราเดินไปเสี่ยงดวงไปกันเถอะก็เเล้วกัน”
เคนยะเดินไปหยิบกิ่งไม้มากิ่ง1กิ่งไม้นั้นล้มไปทางทิศตะวันออก
“ทางนั้นงันหรอ” เคนยะคิดซักพัก
"งั้นไปทางนี้ละกัน"
พอเคนยะเดินมาได้สักพักเคยได้เห็นหมู่บ้านเเห่งหนึ่ง เคนยะตัดสินใจเดินไปในหมู่บ้านเพื่อไปหาอาหาร
"อ..อืม ซื้อไรดีนะเราไม่รู้ค่าเงินของโลกนี้ด้วยเคนยะ ล้วงเป๋าที่อาจารย์เตรียมให้"
“นี่มันน่าจะเป็นเงินของโลกนี้งั้นสินะเอาไงดีล่ะ"
'งั้นลองไปถามลุงที่ขายผลไม้ดูดีกว่า'
เคนยะเดินไปที่ร้านขายผมไม้
"เอ่ออ….ลุงครับพอจะอธิบายค่าเงินได้ใหนครับ ผมยังเด็กเลยไม่รู้จัก"
ลุงขายผลไม้ทำหน้างงเเล้วถามว่า
“เธอไม่รู้งั้นหรอ”
“คือผมมาจากประเทศอื่นน่ะครับเลยไม่ค้อยรู้อะไรน่ะครับ” เคนยะรีบตอบ
“งั้นหรอๆ รำบากเเย่เลยนะงั้นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ งั้นจะอธิบายให้ฟังนะเงินเมืองของโลกนี้มีชื่อว่า กรีกย์ เเต่ละกรีกย์จะเเยกเป็นหลายประเภทเช่น 1.กรีกย์เเดง 2. กรีกย์ดำ 3. กรีกย์ทอง 4.กรีกย์เงิน ซึ่งกรีกย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ กรีกย์เเดง ซึ่งเป็น เงินที่พระมหากษัตริย์มอบให้เท่านั้น ซึ่ง 1 กรีกย์เเดง เท่ากับ 100 กรีกย์ดำ เเละ 10 กรีกย์ดำ เท่ากับ 50 กรีกย์ทอง เเละ 1 กรีกย์ทอง เท่ากับ 10 กรีกย์เงิน “
“เเล้วเเอปเปิ้ลลูกนี้ราคากี่กรีกย์งั้นหรอ”
“5 กรีกย์เงินน่ะ”
'งั้นแปลว่า1กรีกย์เงินเท่ากับ10เยนสินะ
“อืมมงั้นผมขอซื้อ4ลูกครับ”
"โอ้ ได้เลย"
"นี่ครับ"
เคนยะหยิบเหรียญกรีกย์ดำออกมาทำให้เจ้าของร้านตกใจมาก
เจ้าของร้านรนราน
'ระ..หรือว่าเจ้าหนูนี้จะเป็นขุนนางที่โหดเหี้ยมคนนั้นน่ะถ้าไปมี
เรื่องด้วยมีหวังโดนฆ่าเเน่'
"ร...รอเงินทอนเเปปนึงน่ะครับ"
"น..นี่ครับ"
"งั้นเราออกเดินทางต่อกันเถอะ"
"น..นี่เเก่น่ะขวางทางเกะกะว่ะ" เค็นยะได้หันไปมอง
"นั่นมันพ่อค้าทาสงั้นหรอ"
พ่อค้าทาสได้ขับรถม้าผ่านไปเเต่ทันใดนั้น!!!
มีเด็กหญิงคนหนึ่งกระโดดลงจากรถม้าเเละวิ่งเข้าไปในป่าด้วยความกลัว
"เฮ้จับมันเอาไว้"
"ม..ไม่ทันเเล้วครับมันวิ่งเร็วมากเลยครับ"
ทันไดนั้นเคนยะได้แอบวิ่งไปในป่า
“เเฮะ~ๆๆ”
“เธอเป็นอะไรไหม”
เด็กสาวตกใจเเต่ก่อนที่จะหนีก็ได้สลบจากความเหนื่อย
“ให้ตายสิวันนี้มันวันอะไรเนี้ยมีเเต่เรื่องซวยๆเนี้ย”
เด็กสาวได้ตื่นขึ้นมา
"นี้เธอตื่นเเล้วหรอ"
"อ..อืม"
"นายเป็นใครน่ะ!!!"
“ชั้นชื่อว่า อามาเนะ เคนยะ เธอไม่เป็นอะไรใช่ใหม”
“ค...เคนยะ..หรอ เคนยะ เคนยะ” เด็นสาวพูดชื่อของเคนยะซ้ำไปซ้ำมาทำให้เคนยะเกิดความงงเป็นอย่างมาก
“ธะ..เธอไม่ไม่เป็นไรเเน่นะ งั้นเธอมากินอาหารก่อนสิ”
“อ..อะ ค่ะ”
เด็กสาวลุกออกมาจากที่นอน หลังจากกินอาหารนั้นเเล้ว เคนยะได้ถามชื่อของเด็วสาวว่า
“เธอชื่อว่าอะไรหรอ”
เด็กสาวไม่ตอบเเละนิ้งอยู่พักใหญ่
“ช..ชื่อน่ะไม่มีหรอก”
เคนยะตกใจอยู่นิดหน่อย
“งั้นหรองั้นชั้นตั้งชื่อให้เธอเป็นไงล่ะ”
“จะดีงั้นหรอ” เธอกังวลเป็นอย่างมากเพราะไม่เคยได้รับชื่อมาก่อน
“ดีสิงั้นเอาชื่ออะไรดีล่ะ งั้นยูโนะเป็นไงล่ะ ยูโนะที่มากจากโยรูโนะที่แปลว่าตอนกลางคืนน่ะ” หญิงสาวตาเป็นประกาย
“ยูโนะสินะเพราะดีนะชั้นชอบมันมากกก”
"เเล้วนี้เธอ มีสกิลไรไหม"
"ฉ..ฉันมีสกิล ความเเม่นยำD+น่ะ"
สกิล ความเเม่นยำ
คือ เมื่อปาของหรือ ยิงธนู จะสามารถเพิ่มความเเม่นยำ ได้ตามระดับเช่น D = 15% C = 20% B = 30 A = 45% S = 60% ยิ่งระดับเยอะจะยิ่งทำให้อุปกรณ์มีประสิทธิภาพมากขึ้นเเละอาจจะพัฒนาเป็นความสามารถอื่นได้ด้วย
"นี่น่ะหรอสกิลของเธอน่ะ ส..สุดยอด"
“เเล้วของเคนยะล่ะมีสกิลอะไรบ้างหรอ”
active skill
สกิล ดาบเเห่งความตาย ระดับ S
สกิล การสร้างสรรค์ ระดับ A
สกิล กระจกสะท้อน ระดับ S
สกิล ลูกเเก้วเเสง ระดับ S
สกิล ผู้ไรู้สาระ ระดับ A
passive skill
ต้านทานเวทB+
ต้านทานพิษA
ต้านคำสาปSS
สมองกลS
•สกิล การสร้างสรรค์
สามารถสร้างสิ่งของทุกอย่างออกมาได้ เเต่ต้องรู้ถึงโครงสร้างของวัสดุอุปกรณ์ เเละจะกินพลังเวทย์มหาสาร
•สกิล กระจกสะท้อน
สกิลนี้จะ ใช้สะท้อนเฉพาะเวทย์มนต์เท่านั้น
•สกิล ลูกเเกล้วเเสง
ลูกเเล้วจะเปลี่ยนจากเเสดงธรรมดากลายเป็นพลังเวทย์มาให้ถ้ายิ่งเเสงเยอะจะยิ่งมีพลังงานเวทย์เยอะ
•สกิล ผู้ไร้สาระ
เมื่อเค็นยะ เปิดใช้งาน จะสามารถยกเลิกเวทย์มนต์ได้ทุกชนิด ยกเว้นระดับที่สูงกว่า เเต่อยู่ได้ 30 วินาที
หลังจากที่ยูโนะไดเห็นสกิลระดับสูงถึงกับเข่าทรุด
“นายเป็นใครกันเเน่เนี้ยสกิลระดับนายก็น่าจะเทียบเท่ากับมหาปราชญ์ท่านอิเอมมิสึเลยนะ ม..ไมสิอาจจะเหนือกว่าท่านผู้นั้นไปเเล้วนะ นี้นายเป็นใครกันเเน่เนี้ย”
"ห๊ะ..อ..อิเอมิสึใครหรอ"
"นี่นายไม่รู้จริงๆหรอ เขาาออกจะดัง"
ยูโนะได้อธิบายให้เค็นยะฟัง
"เขาเป็นปราชญ์ที่เเข็งเเกร่งที่สุดในเมืองเฮาทอส" ยูโนะได้อธิบายถึงความเเข็งเเกร่งของ อิเอมิสึ
เราเริ่มออกเดินทางกันดีกว่า ไปที่เมืองเฮาทอส เคนยะได้เริ่มออกเดินทางไปทางทิศเหนือ เพื่อตรงไปที่เมืองเฮาทอส
สามวันต่อมาเคนยะเเละยูโนะก็ได้เดินทางมาถึงเมืองเฮาทอส
“ถึงสักที!!” เคนยะพูดด้วยความเหนื่อยพอเดินไปถึงหน้าประตูเมือง
“เดี่ยวก่อนครับ” ทหารได้ยืนขวางเคนยะเเละยูโนะ
“ขอดูบัตรกิลด์หน่อยครับ”
"คือพวกผมทำหายน่ะครับ” เคนยะพูดด้วยความสงสัย
"งั้นหรอครับ”
"ถ้างั้นช้วยรอซักครู่นะครับ"
ทหารคนนั้นได้สั่งให้เอาลูกเเก้วมา
“ช่วยเเตะลูกเเก้วนี้ด้วยครับ"
“นี้คือ…” เคนยะพูดด้วยความสงสัย
“มันคือลูกเเล้วที่จะบอกว่าคนนั้นได้ก่ออชญากรรมไว้รึป่าวน่ะครับ สีฟ้าคือไม่ได้ก่ออชญากรรมน่ะ ส่วนสีเเดงคืออชญากรหลบหนีครับอีกคนเป็นทาสคงไม่ต้องตรวจอะไรมากเพาะฉนั้นขอตรวจเเค่คุณนะครับ”
“ได้ครับงั้นเริ่มเลยนะครับ”
เคนยะเดินตรงไปเตะลูกเเก้ว ลูกเเก้วนั้นส่องเเสงสีฟ้าบริสุทธิ์ทำให้ทหารอึ้งเป็นพักๆ
“ป.ปลอดภัยสินะครับส่วนค่าใช้จ้ายก็2กรีกย์ทองครับ”
“ด..เดี่ยวก่อนครับถ้าทำบัตรกิลด์หายเเนะนำไห้ไปทำใหม่ที่กิลนะครับอยู่ที่เเถวกลางเมืองน่ะครับ”
“ขอบคุณครับ” เคนยะขอบคุณเเล้วเดินจากไป
'แปลว่าบัตรกิลสำคัญต่อคนบนโลกนี้สินะ’
“นี้ๆเคนยะนายจะไปไหนก่อนหรอ?”
“นั้นสินะก่อนอื่นก็ต้องไปที่กิลด์ล่ะนะ”
“กิลด์นักผจญภัยใหญ่กว่าที่คิดนะเนี้ย!!”
"ว..ว้าว ใหญ่จังเลย" เคนยะได้เดินเข้าไปในกิลด์
“โห~~ดูเหมือนว่าเด็กใหม่จะมาว่ะลูกพี่” ผู้ชายร่างกำยำพูด
เคนยะเดินตรงไปที่หน้าเคาท์เตอร์
“ยินดีต้อนรับค่ะชั้นชื่อ ริต้า มีอะไรให้ช่วยค่ะ”
“ผมจะขอสมัครเป็นนักผจญภัยน่ะครับ"
“จะสมัครสินะค่ะ”
ริต้ายื่นกระดาษมาที่หน้าของเคนยะ
“ช่วย กรุณากรอกข้อมูลให้ครบด้วยค่ะ”
“ถ้างั้นไปขั้นตอนต่อไปเลยนะคะ”
“ขั้นต่อไปงั้นหรอ”
ในการสมัครนั้นจำเป็นต้องทำการคัดเลือกด้วยการสอบเพื่อไม่ให้คนที่ไม่สามารถต่อสู้ได้ไปเป็นนักผจญภัย
“เหิ้ยๆ!!”
“จะให้ไออ่อนนี้เป็นนักผจญภัยน่ะหรอจะขำว่ะ”
ชายรางกำยำทำการง้างหมัดเเล้วต่อยด้วยความเเรง
“...Freezefrome” สกิลประเภทน้ำเเข็งความเร็วสูงระดับ C ทำการเเช่เเข็งภายในเวลาสั้นๆ
“อ..อะไรน่ะ!!”
หมัดที่มีความรุนเเรงสูงกลับโดนหยุดได้เพียงเวลาสั้นๆ เคนยะมองด้วยเเรงกดดันทำไห้เข่าของชายร่างกำยำถึงกลับเข่าทรุด
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!