NovelToon NovelToon

ปาฏิหาริย์ สายใยรักสองโลก

เรื่องย่อ

ปาฏิหาริย์ สายใยรักสองโลก

ในโลกใบใหญ่ที่เต็มไปด้วยปริศนามากมายแห่งนี้ ยังมีดินแดนลึกลับซึ่งยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนซ่อนอยู่สักแห่งบนผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่และท่ามกลางเทือกเขานับร้อยพัน ดินแดนมายาสีขาวโพลนที่ถูกหิมะปกคลุมไปทั่วพื้นที่ตลอดทั้งปี และใจกลางดินแดนแห่งนั้นยังเป็นที่ตั้งของอาณาจักรปริศนานามว่าไอซ์เนส อาณาจักรแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่ามนุษย์ผู้ได้รับพรจากทวยเทพแห่งดินแดนน้ำแข็ง

เรื่องราวของดินแดนสุดมหัศจรรย์แห่งนี้ ถูกเขียนขึ้นโดยสาวน้อยนักเขียนนิยายคนหนึ่งผู้ดำดิ่งอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ ซึ่งนี่เป็นผลงานที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจิตวิญญาณและความมุ่งมั่นของเธอ แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็เกิดสิ่งที่สุดมหัศจรรย์ขึ้นกับผลงานชิ้นเอกที่เธอสุดแสนจะภาคภูมิใจนี้ เมื่อตัวละครต่างๆ ในนิยายที่เธอเขียนเรื่องนั้นกลับมีตัวตนขึ้นมาในโลกแห่งความเป็นจริง

....

โลกสองใบที่ไม่มีวันบรรจบกันแต่ปาฏิหาริย์ทำให้มันเกิดขึ้น ไม่ว่านี่จะเป็นความบังเอิญหรือเป็นความตั้งใจของโชคชะตา แต่มันนำพามาซึ่งเรื่องราวความรักอันมหัศจรรย์ของหนึ่งคนที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงกับอีกหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่มาจากดินแดนแห่งจินตนาการ

ฝากนิยายรักโรเเมนติกเเฟนตาซีเรื่องเเรกด้วยนะครับ

บทนำ

ปาฏิหาริย์สายใยรักสองโลก

ณ ใจกลางเมืองเเห่งหนึ่ง

กลางดึกในยามค่ำคืนที่เงียบสงัดไร้ซึ่งเสียงผู้คนในช่วงฤดูหนาว สายลมอ่อนๆ ซึ่งสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก พัดโชยผ่านร่างเล็กเพรียวบางของเด็กสาวผมสีน้ำตาลตัวเล็กคนหนึ่ง ขณะที่เธอกำลังนั่งร้องไห้อยู่เพียงลำพังใต้ร่มไม้ใหญ่ ท่ามกลางเหล่าใบไม้ที่กำลังร่วงหล่นและปลิวไสวไปตามเเรงลม

....

“ฮือๆ!”

เสียงสะอื้นของเด็กสาวตัวเล็กดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าสร้อยของเธอ ก่อนที่ไม่นานจะมีน้ำเสียงโทนต่ำฟังดูมีอายุเเละเเฝงไปด้วยความอบอุ่นของคนคนหนึ่งจะดังเเว่วขึ้นมาไม่ไกล

“เเม่หนูน้อย..?”

เด็กสาวที่กำลังร้องไห้อยู่ได้ยินดังนั้นก็หยุดชะงัก ก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อหาที่มาของเสียงนั้นด้วยท่าทีตกใจ

‘ต็อก..เเต็ก!!’

เสียงฝีเท้าค่อยๆ ดังขึ้นราวกับเสียงท่อนไม้กระทบกับของเเข็ง ก่อนจะปรากฏร่างของหญิงเเก่ปริศนาสูงวัยคนหนึ่งที่เเต่งกายเเลดูเเปลกตา และทันทีที่หญิงแก่เข้ามาใกล้จู่ๆ บรรยากาศรอบๆ ตัวของเด็กสาวก็หนาวเย็นลงจนน่าประหลาดใจ

“หนาวจัง! คุณยาย...เรียกหนูรึเปล่าคะ?” เด็กสาวที่กำลังหนาวสั่นถามหญิงเเก่ด้วยเสียงสะอื้น

“เเล้วที่นี่ยังมีคนอื่นอีกเหรอจ๊ะ? ..เเม่หนูน้อย” หญิงเเก่ถามกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มเเย้ม

เด็กสาวส่ายหน้าด้วยท่าทีเศร้าสร้อยเพื่อตอบคำถามนั้น หญิงเเก่ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เด็กสาวก่อนจะนั่งลงข้างๆ พลางจ้องมองไปยังใบหน้าของเธอ

“เเม่หนูน้อยเป็นอะไรล่ะ? ..ถึงมานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวกลางดึกแบบนี้”

“หนูเหงามากเลยค่ะคุณยาย..ไปโรงเรียนก็ไม่มีเพื่อนเลยสักคนกลับมาบ้านคุณพ่อกับคุณแม่ก็ไม่เคยอยู่”

“อย่างนั้นเหรอจ๊ะ..ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เพราะนับจากคืนนี้ไปหนูจะได้พบกับใครคนหนึ่งในห้วงแห่งความฝันลองเป็นเพื่อนกับเขาให้ได้สิ” หญิงแก่ปลอบใจเด็กสาวที่กำลังเศร้าด้วยคำพูดที่แฝงไปด้วยเลศนัย

“ใครกันนะ! ..หนูจะได้เจอเขาในความฝันเหรอคะ?” เด็กสาวถามหญิงแก่ด้วยความตื่นเต้น นัยน์ตาของเธอเริ่มเปล่งประกายด้วยความสงสัย

“ใช่แล้ว..มันคือโชคชะตาที่แม่หนูต้องเผชิญยังไงล่ะ นับจากนี้ต่อไปหนูจะต้องเจอเรื่องอีกมากมาย ขอให้จงอดทนและเชื่อมั่นพยายามผูกมิตรกับใครคนนั้นที่ว่าให้ดีนะ เพราะหนูกับเขาจะต้องช่วยกันฟันฝ่าเหตุการณ์ที่เลวร้ายในอนาคตข้างหน้าต่อจากนี้”

หญิงแก่ตอบคำถามพลางยิ้มไปพลางก่อนจะหยิบสมุดหนาๆ เล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋า สมุดปริศนาสีฟ้าที่หน้าปกมีลวดลายสีขาวของเกล็ดหิมะอันสวยงาม จนดึงดูดสายตาของเด็กสาวให้จ้องมองอย่างไม่กะพริบตา แล้วหญิงแก่ก็ยื่นสมุดเล่มนั้นให้เด็กสาวพร้อมด้วยรอยยิ้ม

“นะ..นี่มันอะไรเหรอคะคุณยาย!?” เด็กสาวถามหญิงแก่ด้วยท่าทีสับสน

“สมุดเล่มนี้..ยายฝากไว้กับหนูนะ เก็บเอาไว้ให้ดี ระหว่างนั้นหนูสามารถใช้มันเขียนเรื่องราวในความฝันของหนูได้นะจ๊ะ แล้วเมื่อเวลานั้นมาถึงในสักวันยายจะมารับมันคืน”

แววตาของเด็กสาวเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม พร้อมกับความรู้สึกดีใจที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนผ่านสีหน้าและท่าทาง ราวกับว่าความเศร้าเมื่อครู่ได้มลายหายไปจนหมดสิ้น

“ขอบคุณค่ะคุณยาย! หนูจะเก็บไว้อย่างดีและจะเขียนในสิ่งที่หนูฝันเห็นมันทุกวันเลยค่ะ”

หญิงแก่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับลูบหัวเด็กสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดูก่อนจะยิ้มออกมาเพื่อตอบรับความรู้สึกอันแรงกล้าของเด็กสาวคนนั้น

“ยายคงต้องไปแล้วล่ะ ก่อนจะไปนี้ยายขอบอกไว้เป็นอย่างสุดท้าย..สิ่งที่หนูจะได้เห็นในความฝันนับจากนี้ล้วนเป็นความจริงโปรดเชื่อในมัน แล้วในวันหนึ่งที่หนูต้องการความช่วยเหลือ หากเสียงของหนูไม่มีใครที่ได้ยิน ให้หนูนึกถึงใครคนนั้นด้วยความรู้สึกแรงกล้าที่มีในความเชื่อมั่นนั้นนะ”

จากนั้นหญิงแก่ก็เดินจากไปจนไกลลับสายตา ก่อนที่บรรยากาศรอบตัวอันหนาวเหน็บของเด็กสาวจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เด็กสาวเหม่อลอยอยู่สักพักก่อนจะสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเพราะมีใครบางคนสะกิด เมื่อได้สติเด็กสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ ตัว และพบว่าตนเองนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ในห้องห้องหนึ่งเบื้องหน้าของเธอมีเพดานสีขาวโพลนที่เพียงจ้องมองก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

...เมื่อกี้นี้..เราฝันไปอย่างนั้นเหรอ? ...

เด็กสาวรู้สึกประหลาดใจและคิดว่าสิ่งที่ได้พบเมื่อครู่เป็นเพียงความฝันจนแสดงสีหน้าและท่าทางสับสนขึ้นมา ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะทักถามเด็กสาวด้วยความเป็นห่วง

“หนูเป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ? ..ทำหน้าอย่างกับเห็นผีอย่างนั้นแหละ”

“ปะ..เปล่าค่ะคุณแม่ หนูไม่ได้เป็นอะไร” เด็กสาวรีบปฏิเสธทันควัน

“อ๋องั้นดีแล้วล่ะ..ว่าแต่สมุดที่ลูกกอดอยู่นั่นน่ะหน้าปกมันสวยแปลกตาดีนะ ครูที่โรงเรียนให้มาเหรอจ๊ะ?”

เด็กสาวที่ได้ยินดังนั้นก็รีบก้มดูที่มือตัวเองทันที และพบว่าในมือของเธอนั้นมีสมุดที่ได้รับมาในความฝันเล่มนั้นจริงๆ เด็กสาวแสดงสีหน้าแปลกใจขึ้นมาอีกครั้งพร้อมพึมพำกับตนเองในใจ

...มะ..ไม่ใช่ความฝันจริงๆ ด้วยล่ะ...

“รีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมากินข้าวเช้านะจ๊ะ!” แม่ของเด็กสาวกล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องไป

“ค่ะ..คุณแม่”

เด็กสาวกอดสมุดเล่มนั้นไว้แน่นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่ค่อยๆ กว้างขึ้นด้วยความตื่นเต้น และทุุกสิ่งทุกอย่างก็ได้เริ่มต้นขึ้นในวันนั้นช

เด็กชายในความฝัน

ปาฏิหาริย์สายใยรักสองโลก

ตอนที่1 เด็กชายในความฝัน?

แสงแดดยามสายสาดส่องผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาในห้องเรียนแห่งหนึ่ง ภายในห้องมีเด็กสาวร่างบางตัวเล็กคนหนึ่งยืนตัวเกร็งอยู่หน้าชั้นเรียน โดยมีสายตาหลายคู่ของคนในห้องกำลังจับจ้องไปที่ตัวเธออย่างไม่กะพริบตา

“ตอบคำถามครูมาสิ! ทำไมถึงทำร้ายเพื่อนในห้องล่ะ?”

น้ำเสียงดุดันของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นคุณครูประจำชั้น กำลังตวาดคำถามใส่เด็กสาวที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่หน้าห้อง ท่ามกลางสายตาของเด็กทั้งห้องที่จับจ้องอยู่

“ได้ยินที่ครูพูดหรือเปล่า?” ครูสาวยังคงยิงคำถามใส่เด็กคนนั้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเค้นคำตอบ

“นะ..หนูไม่ได้ทำนะคะ หนูแค่ปกป้องตัวเอง” เด็กสาวพยายามแย้งว่าตนไม่ได้ทำแต่ด้วยเสียงที่สั่นเครือทำให้สิ่งที่เธอพูดออกมาแทบไม่มีใครได้ยิน เธอถอนหายใจออกมาเป็นระลอกพลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้

ในช่วงเช้าหน้าระเบียงของห้องเรียนแห่งหนึ่ง มีเด็กจำนาวหลายคนกำลังรุมแกล้งเด็กสาวคนหนึ่งอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางเหล่านักเรียนที่เดินผ่านไปมาอย่างไม่ขาดสาย เธอมักจะโดนเด็กกลุ่มนี้แกล้งเป็นประจำทุกเช้า

“ขอร้องล่ะหยุดเถอะ! อย่าทำอะไรเราเลย” เด็กสาวพยายามตะโกนขอร้องเด็กกลุ่มนั้นให้หยุดแกล้งเธอ

“ฮ่าฮ่าฮ่า!!” เเต่ทว่าเสียงหัวเราะที่ดังลั่นกลบเสียงเว้าวอนขอร้องของเด็กสาวคนนั้นจนหมดสิ้น

เมื่อเด็กสาวตระหนักว่าการขอร้องให้เด็กกลุ่มนี้หยุดไม่เป็นผล เธอจึงเริ่มกวาดสายตามองเด็กที่อยู่รอบๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครเลยสักคนที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ ทุกคนทำเหมือนที่ตรงนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสียงที่ไม่มีใครได้ยิน ในขณะนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกสิ้นหวังกับโลกใบนี้จนตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วครู่

'ลุกขึ้นสู้สิ!' เสียงกระซิบของเด็กชายปริศนาจู่ๆ ก็ดังขึ้นในหัวของเด็กสาวจนเธอสะดุ้งตื่นจากภวังค์

ท่อนแขนที่เรียวบางของเธอโบกสะบัดไปมาอย่างสุดกำลังเพื่อขัดขืน จนทำให้เด็กพวกนั้นล้มระเนระนาดด้วยความตกใจ ทันใดนั้นเองคุณครูที่ควรจะอยู่ดูแลเด็กก็โผล่มาเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าพอดีจึงรีบเข้ามาห้ามปราม ไม่นานครูสาวก็เรียกเด็กทุกคนเข้าห้องโดยไม่ถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย

ปัจจุบัน

หลังเรียกทุกคนเข้าห้องมาไม่นาน ครูสาวคนนั้นก็เรียกเด็กสาวออกมาหน้าห้องพร้อมไถ่ถามถึงเรื่องราวเมื่อครู่ แต่เธอตัดสินว่าเด็กสาวเป็นคนผิดเพียงเพราะเธอเห็นแค่เหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า โดยไม่ถามถึงเหตุการณ์โดยรวม ตราหน้าเด็กสาวต่อหน้าเพื่อนทั้งห้องว่ามีความผิดในสิ่งที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ

เสียงแผ่วเบาของสาวน้อยส่งไปไม่ถึงใครเลยแม้จะเป็นคนที่เธอคิดว่าเชื่อใจได้ที่สุด เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ว่าครูสาวคนนั้นจะตั้งใจหรือไม่ แต่มันก็ได้สร้างบาดแผลที่ฝังลึกลงไปในจิตใจของเด็กสาวอย่างไม่มีวันหวนคืน

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เธอกลับบ้านด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง เด็กสาวผลักประตูเข้าบ้านหลังใหญ่ที่ภายในไม่มีใครคอยอยู่ต้อนรับเธอกลับเฉกเช่นทุกวัน เนื่องจากพ่อแม่ของเธอไปทำงานกว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกดื่น เด็กสาวใช้ชีวิตทำกิจวัตรตามลำพังเหมือนอย่างที่เคยทำ

หลังจากเสร็จภารกิจเธอก็เตรียมเข้านอน โดยที่สีหน้าไม่ต่างกับตอนที่อยู่โรงเรียนเลยแม้แต่น้อย เด็กสาวขึ้นไปบนเตียงนั่งกอดเข่าเหม่อลอยอยู่สักพัก ก่อนจะเหลือบไปเห็นสมุดเล่มหนาสีฟ้าที่ได้รับมาจากหญิงแก่ในความฝัน

“สมุดเล่มนั้น? ..ที่คุณยายให้มานี่” เด็กสาวเดินไปหยิบสมุดเล่มนั้นแล้วกลับมาที่เตียง เธอจ้องมองลวดลายบนปกสมุดเล่มนั้นอย่างไม่กะพริบตาพลางนึกถึงคำพูดที่หญิงแก่พูดไว้

...หนูจะได้เจอกับใครบางคนในความฝัน...

“คืนนี้จะได้เจอหรือเปล่านะ แล้วเสียงกระซิบในตอนเช้านั่นล่ะคือเสียงใครกัน?” เด็กสาวบ่นพึมพำด้วยความสงสัยก่อนจะค่อยๆ เปิดสมุดเล่มนั้นดู

ปกสมุดสีฟ้าเล่มหนาถูกแง้มออก กลิ่นไอความหนาวเย็นแผ่ซ่านออกมาเบาๆ จากสมุดเล่มนั้น จนทำให้เด็กสาวรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาดใจ เปลือกตาของเธอค่อยๆ ปิดลงก่อนจะล้มตัวลงนอนที่เตียงหลังใหญ่แล้วหลับใหลไปอย่างรวดเร็ว

กลางดึกในคืนเดียวกัน

...ที่นี่ที่ไหนกัน? มืดจังเดี๋ยวนะ..แสงนี่มัน… ดวงตาที่มืดมิดคู่หนึ่งค่อยๆ มองเห็นส่องสว่างพร้อมกับทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้า

ต้นไม้ใหญ่ในป่าสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางดินแดนขนาดใหญ่ที่ย้อมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ก่อนที่สายตาอันเลือนคู่นั้นจับจ้องไปยังเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น ก่อนไม่นานจะมีเด็กชายอีกคนที่ตัวใหญ่กว่าเขาเล็กน้อยเดินเข้ามาหา

“หนีมาอยู่ที่นี่ประจำเลยนะ..เจ้าน่ะ”

“ข้าชอบที่แห่งนี้..มันทั้งเงียบสงบและอบอุ่นเหมือนอ้อมกอดของท่านแม่” เด็กชายตัวเล็กพูดก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเอื้อมมือไปยังท้องฟ้าด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

“อย่างนั้นเหรอ..อย่าลืมมาฝึกด้วยล่ะท่านอาจารย์รออยู่”

“เข้าใจเเล้ว!”

เด็กชายทั้งสองใช้เวลาพูดคุยกันเพียงไม่นานเด็กชายคนโตก็เดินจากไป โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองทั้งคู่อยู่อย่างไม่กระพริบตา ดวงตาคู่นั้นยังคงจ้องมองไปที่เด็กชายตัวเล็กที่นั่งเหม่อลอยไปพักใหญ่ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากในเสื้อที่เขาสวมใส่

เมื่อจ้องมองไปยังของสิ่งนั้นก็พบว่ามันคือสมุดเล่มหนาสีฟ้า ที่มีลวดลายอันสวยงามของเกล็ดหิมะสีขาวเป็นหน้าปก เด็กชายค่อยๆ สัมผัสสมุดเล่มนั้นอย่างทะนุถนอมราวกับเป็นของสำคัญ

...เดี๋ยวนะสมุดเล่มนั้นมัน เหมือนของเราเลย..นี่มันอะไรกัน? ...

สายตาคู่นั้นยังคงจ้องมองทิวทัศน์ตรงหน้าด้วยความสงสัย ก่อนที่เด็กชายตัวเล็กจะจ้องมองกลับมาหาดวงตาคู่นั้นราวกับรู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่ นัยน์ตาสีฟ้าครามเปล่งประกายท่ามกลางพื้นที่สีขาวจ้องมองกลับมาอย่างไม่กะพริบตา จนทำให้ตาที่เฝ้ามองดูอยู่คู่นั้นเบิกกว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะค่อยๆ หลับใหลลงไปในภวังค์อีกครั้งโดยไม่รู้ตัว

เด็กสาวลืมตาตื่นอีกครั้งในห้องนอนของตัวเอง ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ตกกระทบบนใบหน้าและดวงตาของเด็กสาวอย่างอบอุ่น

“นี่มันอะไรกัน..ความฝันเมื่อกี้ สิ่งที่คุณยายคนนั้นพูดมาเป็นความจริงอย่างนั้นเหรอ?” เด็กสาวรู้สึกแปลกใจและรีบจดบันทึกสิ่งที่เห็นในฝันลงในสมุดสีฟ้าเล่มนั้นด้วยความตื่นเต้น

“เรียบร้อย..ตื่นเต้นจังเลย วันนี้จะฝันเห็นอะไรอีกนะ”

หลังจากนั้นเด็กสาวก็ฝันเห็นเด็กชายกับดินแดนสีขาวแห่งนั้นนับครั้งไม่ถ้วนเป็นเวลาสามปี เเต่เมื่อเวลาล่วงเลยเธอก็ไม่เคยฝันถึงเด็กชายคนนั้นอีกเลย ความจริงเหล่านั้นค่อยๆ เลือนลางจนเด็กสาวคิดว่าเป็นเพียงเเค่ความฝันในวัยเด็ก สิ่งที่เธอได้เห็นในฝันแต่ละค่ำคืนถูกร้อยเรียงเป็นเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ของนิยายชื่อดังเรื่องหนึ่งในอีกหลายปีต่อมา

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!