ชีวิตใหม่ของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ต้องตายด้วยอุบัติเหตุ แล้วได้มาเกิดใหม่ในโลกเวทมนต์ในร่างของดาเนส แคสเซีย บุตรชายของหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่ในเมือง ชีวิตในวัยเด็กของเขานั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ต้องผ่านเรื่องราวที่ทำให้เจ็บปวดมากมาย แล้วเขาจะผ่านช่วนเวลาแบบนี้ไปได้อย่างไรกันนะ
เอาล่ะต่อไปจะเป็นการบอกรายละเอียดต่างๆของเรื่องนี้กันนะจ๊ะ
ระดับพลังเวทย์
-นักเวทย์เริ่มต้น
-นักเวทย์ระดับกลาง
-นักเวทย์ระดับสูง
-จอมเวทย์ฝึกหัด
-จอมเวทย์ระดับกลาง
-จอมเวทย์ระดับสูง
-จอมมนต์ตรา
-ว่าที่ราชันจอมเวทย์
-ราชันย์จอมเวทย์
อาวุธและอุปกรณ์เวทย์
1.ต่ำ
2.กลาง
3.สูง (สูงสุดของอุปกรณ์เวทย์)
4.ตำนาน
5.เทพศาสตราวุธ
สัตว์อสูร (ลืมบอกมาบอกทีหลัง)
1.ต่ำ
2.กลาง
3.สูง
4.ปีศาจ
5.มาร
6.เทพ
เผ่าพันธุ์ (จะเรียงจากสูงสุดลงไป)
1.เผ่านางฟ้า เทวดา : เผ่าพันธุ์ที่มีน้อยมากจะมีปีกที่สามารถบินได้อย่าอิสระเหมือนนก
2.เผ่าเอลฟ์
3.เผ่าภูติ
4.เผ่าครึ่งปีศาจ
5.เผ่าครึ่งสัตว์
เมืองเดวาโรนมีตระกูลใหญ่อยู่5ตระกูล
1.เอดาร์รอย : ตระกูลที่เป็นของท่านเจ้าเมืองแห่งเมืองเดวาโรน
2.แคสเซีย : ตระกูลที่ดาเนสอยู่และเต็มไปด้วยผู้ใช้เวทมนตร์มากความสามารถ
3.อเคย์เดีย : ตระกูลที่มีเน้นพลังโจมตีเป็นหลังและส่วนใหญ่มีผู้ใช่เวทย์โจมตีเป็นหลัก
4.เกียร์เดส : ตระกูลที่มีผู้ใช้เวทย์ธาตุน้ำและดินที่เน้นการป้องกันอยู่มากและเน้นเรื่องการสนับสนุน
5.เมเรียเกว : ตระกูลเกียวกับการค้าด้านอาวุธเวทย์และยาต่างๆ
จบแลวนะ
..................... มีเรียนจะพูดนะเรียนนี้เจ้าของผลงานตัวจริงยังไม่อัดนุยาดรอกนะแต่ตอนน่กำลังขอเจ้าของผลงานอยู่นะแล้วก็นาเรี่องนีวันหนึ่งรงตอนหนึ่งนะครับมีอีย่างหนึ่งนะที่จริงแล้วผลงานนีมีตอนยู่ไหม่กีตอนรอกท่าจบก็จบต้องขออาไพด้วยนะครับมีพูดก็แค่นีแลวก็ผมจะทำเรี่องต่อไปท่าเรี่องนีจบนะครับจะพระยายามให้ทึงที่สุดนะครับแลวก็ขอให้ช้วยอ่านจบแล้วติดตามผมด้วยนะครับทุกคนราก่อนนะครับ
---...ตื่นได้แล้วนะ" ชายหนุ่มนัยน์ตาสีอำพันมองมาที่คนที่นอนอยู่ข้าตน ใครน่ะ...นี่เราฝันอยู่เหรอ
ชายนัยน์ตาสีทองลุกขึ้นนั่งและลูบมือหนามไปที่ผมของคนที่นอนอยู่ข้างตน พอลุกขึ้นมานั่งแล้วผ้าห่มที่ห่มเขาอยู่ก็ร่วงลงมาอยู่ที่เอว เผยให้เป็นร่างกายเปลือยเปล่าของชายผมสีน้ำตาลแดง หล่อจัง...แต่ทำไมไม่ใส่เสื้อกันล่ะ ชายคนนั้นเขามาใกล้ร่างที่นอนข้างตนเรื่อยๆ ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ที่ล่ะเล็กที่ล่ะน้อย
กรี๊ง!~~
ร่างของเด็กหนุ่มผมดำลุกขึ้นมาจากเตียงสีเทาอ่อนของตนเองอย่างช้าๆ และเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกของตนเอง ร่างของยูคาริ ยูระนวดขมับตัวเองให้ตนเองตื่นเต็มตา ฝันเมื่อกี้มัน...จำไม่ได้ซะแล้วสิ แต่ทำไมรู้สึกดีแปลกๆ ยูระลุกออกมาจากเตียงและไปอาบน้ำแต่งตัวทานข้าวเช้าและทำข้าวกล่องก่อนที่จะออกมาจากคอนโดที่ตนเองอยู่ ตอนนี้เขาก็อายุได้18 ปีแล้ว อีกไม่นานเขาก็จะเรียนจบแล้ว
เมื่อใกล้ถึงโรงเรียนก็มีใครบางคนมากอดคอของยูระเอาไว้ พอมองไปด้านข้างของคนก็เจ้าเข้ากลับใบหน้าขี้เล่นของอีกฝ่าย ดวงตาสีน้ำตาลนั้นสบเข้ากับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของยูระ ก่อนที่ยูระจะปัดแขนที่เพื่อนผมสีน้ำตาลดำออก แต่ฟุคาวะ เรน ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคนข้างกายเขามันเป็นแบบนี้เป็นประจำอยู่แล้ว เรนมองตาแผ่นหลังเล็กของคนที่ตัวเล็กกว่าตนที่ตอนนี้เดิมนำหน้าเข้าไปแล้วด้วยสายตาที่อ่อนโยนมากกว่าที่มองใครหน้าไหน
"รอด้วยสิยูจัง"
"ฉันชื่อยูคาริ ยูระ จะมีสักวันไหมที่นายเรียกฉันถูกน่ะฟุคาวะ"
เรนไม่ตอบอะไรแต่ยิ้มแก้มปริกลับไปแทน เรนเป็นเพื่อนกับยูระตั้งแต่มอต้นแต่มีเพียงแค่เรนเท่านั้นที่เรียกยูระอย่างสนิทสนมแต่ยูระกับไม่เรียกเรนเช่นนั้น แค่ตัวของเรนเองก็ไม่ได้ถืออะไร เอาเถอะ...ยังไงๆ ตัวนี้ฉันก็จะบอกนายให้ได้อยู่ดี จากนั้นยูระก็วิ่งไปเดินข้างยูระเหมือนเดิมพลางขอร้องบางอย่างด้วย
"วันนี้นายไปห้องฉันได้ไหม พอดีอยากให้ทางชีสเค้กที่ทำมาใหม่น่ะ"
"แล้วทำไมนายถึงไม่เอามาให้ฉันที่โรงเรียนเหมือนเดิมล่ะ ทำไมต้องไปที่คอนโดที่นายอยู่ด้วย" ยูระไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเรนอยากให้เขาไปที่ห้องของเขาทำไม แต่ถึงแม้ยูระจะปฏิเสธตั้งแต่เช้าจนเลิกเรียนเรนก็ยังไม่ย่อท้อในการชวนยูระไปห้องของตน จนยูระยอมในที่สุด เพราะตัวเขานั้นแพ้คนที่อ้อนเก่งๆ เอามากๆ ยิ่งตอนเรนทำตาเป็นประกายหวังในยูระไปให้ได้เขายิ่งทำใจปฏิเสธไม่ไหวแล้วจริงๆ
ในที่สุดยูระก็มาที่คอนโดที่เรนอยู่จนได้ และได้รู้ว่าคอนโดที่ตัวเองอยู่นั้นอยู่ฝั่งตรงข้างกับคอนโดที่เรนก็แค่ข้างฝั่งถนน พอขึ้นมาถึงห้องของเรนแล้ว สิ่งที่ยูระได้เห็นคือห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ก็ดูงดงาม และกลิ่นหวานๆ ที่อบอวลอยู่ในห้องคล้ายกับกลิ่นวานิลลาอย่างไรอย่างนั้น
"นายใช่น้ำยาปรับอากาศเป็นกลิ่นวานิลลาเหรอ"
"ใช่...ชอบรึเปล่า" ยูระไม่ได้ตอบคำถามของเรนแค่เพียงยักไหล่ตอบเพียงเท่านั้น
หลังจากนั้นเรนก็แยกไปทำชีสเค้กให้กับยูระ ส่วนเด็กหนุ่มร่างเล็กก็เดินสำรวจห้องนั่งเล่นที่ตนอยู่ แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เจ้าตัวจึงหยิบพวกหนังสือทำขนมที่เรนวางไว้แถวนั้นมาอ่าน เพราะตัวของเรนฝันไว้ว่าอยากเปิดร้านเบเกอรี่เลยทำขนมมาให้ยูระลองทานที่โรงเรียนเป็นประจำ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เรนชวนยูระมาบ้าน หรือว่าฟุคาวะจะมีเรื่องอยากคุยกับเรากันนะ
ยูระนั่งอย่างหนังสือทำขนมไปเรื่อยๆ จนในที่สุดชีสเค้กช็อกโกแลตก็ถูกเอามาวางไว้ตรงหน้าของยูระ เจ้าตัวจึงวางหนังสือลงแล้วมองดูตัวของชีสเค้ก มันหน้าตาน่ากินพอควรพอยูระตักเข้าไปแล้วก็รู้สึกดีสุดๆ เพราะมันเป็นรสชาติที่ยูระชอบมาก ไม่หวานมากเกินไปขมๆ เล็กน้อยเพราะเป็นดาร์กช็อกโกแลต และตัวของยูระก็ชอบดาร์กช็อกโกแลตอยู่แล้ว
"ชอบรึเปล่า"
"อื้ม!...ชอบมากๆ เลย" ยูระตอบไปด้วยหน้าตายิ้มแย้มจนทำให้เรนหันหน้าไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว แต่ยูระก็ไม่ได้ถามอะไรถึงจะสงสัยในท่าทีแบบนั้น แต่เจ้าตัวก็ห่วงกินชีสเค้กชิ้นนี้อยู่ดี
พอทานขนมแล้วก็บอกว่าตัวเองชอบชีสเค้กชิ้นนี้ของเรนมากๆ ส่วนตัวของเรนก็ยิ้มรับเพราะยูระชอบ แต่แล้วบรรยากาศรอบก็เงียบไป จนเรนหันมาสบตากับยูระอีกทีด้วยสายตาที่จริงจังกว่าปกติ จนตัวของยูระรู้สึกขนลุกจนต้องหลบตา ที่จริงยูระมีความรู้สึกกลัวเรนมาตั้งแต่แรกๆ ที่รู้จักกันแล้วและเขาไม่รู้เหตุผลที่กลัวด้วย
"ฉันรู้นะว่ายูระน่ะกลัวฉันใช่ไหม"
ยูระหันมามองหน้าเรนทันที เขาไม่เคยแสดงท่าทีกลัวออกไปให้เรนเห็นเลยแม้แต่น้องแต่เรนก็รู้ แต่ที่ทำให้ยูระตกใจจริงๆ นั่นก็คือเรนเรียกชื่อของเขาอย่างถูกต้องโดยไม่ใช่ชื่อเล่นที่เรนเป็นคนตั้งมาให้ เรนเขยิบเข้ามานั่งข้างๆ ยูระและกุมมือของยูระขึ้นมา และให้ยูระแบมือออก และเรนก็วางมือของเขาลงบนฝ่ามือเล็กนั้น
"ฉันว่าคงเป็นสิ่งนี้ที่ทำให้นายกลัว เพราะนายไม่เคยรู้จักมันนายเลยกลัว แต่ถ้ารู้แล้วฉันก็คิดว่ายูระคงจะไม่กลัวแน่ๆ" ว่าจบเรนก็ยกมือออกจากฝ่ามือของยูระ แต่มันก็มีก้อนแสงเท่าลูกปิงปองลอยอยู่บนมือยูระ
"นี่มัน...อะไรกัน" ยูระไม่เข้าใจเลยว่าที่ตนเห็นอยู่ใช่เรื่องจริงหรือเปล่า พอเรนเดินไปปิดไฟแล้วก็ทำให้ก้องแสงนั้นสว่างไสวมากขึ้นไปอีก ต่อจากนั้นเรนก็เสกก้อนแสงให้ลอยไปทั่วห้องราวกับเป็นแสงหิ่งห้อย
"มันคือเวทมนตร์น่ะ ฉันเป็นคนเดียวในครอบครัวที่มีมัน แต่ฉันไม่คิดจะเอาไปทำร้ายใครหรอกนะและที่บอกยูระไปก็เพื่อไม่ให้ยูระกลัว-"
"สวยจัง...ตอนนี้ฉันไม่กลัวเรนแล้วละนะ ขอบคุณสำหรับชีสเค้กกับความจริงในตัวนายนะ-" ตอนที่ยูระเปลี่ยนมาเป็นเรียกเรนด้วยชื่อต้นแล้วไม่ได้เรียกนามสกุลเหมือนทุกๆ ครั้งจนเรนโผเข้าไปกอดยูระจนร่างเล็กกว่าต้นลงไปนอนราบกับพื้น โดยที่มีเรนกอดอยู่ด้านบน
"เรน...หายใจไม่ออก"
"อะ!...ขอโทษนะ" เมื่อรู้ว่าทำให้คนใต้ร่างหายใจไม่ออกเรนก็รีบลุกขึ้นไปนั่งในทันที เขาดีใจมากกว่าอะไรทั้งหมด ก่อนนะตัดสินใจพูดสิ่งที่อยากบอกจริงๆ ไปในทันที
"ยูระ...ฉัน...ชอบยูระมากเลยนะ ขอให้ฉันไปจีบนายด้วยเถอะ" ยูระที่ได้ยินคำคำนั้นออกมาจากปากของเรน เขาก็อึ้งไปนาน เขาก็เคยเจอผู้ชายด้วยกันมาสารภาพรักอยู่หรอก แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พูดอะไรไม่ออกเลย ถึงยูระจะปฏิเสธทุกคนที่มาสารภาพรัก แต่ครั้งนี้เข้าไม่รู้สึกอยากปฏิเสธหรือตอบตกลง
"เข้าใจแล้ว แต่ข้าไม่คิดจะใจอ่อนง่ายๆ หรอกนะ...ข้าจะกลับแล้ว" ว่ายูระก็ของตัวกลับคอนโดที่ตนอยู่ แต่เรนก็บอกว่าจะไปส่งที่ห้าคอนโดที่ตนอยู่ยูระก็พยักหน้ารับ
"เอ๋?"
หลังจากที่ยูระกำลังเดินข้ามถนนกลับคอนโดของตนแต่อยู่ๆ ความรู้สึกของเขาก็ชาไปหมด เราโดนรถชน...เหรอ ตอนนี้เรนก็ประคองยูระขึ้นมาในอ้อมกอด น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยที่ยูระเห็น
"ไม่...ร้อง...นะ" ยูระยิ้มให้อย่างอ่อนโยนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ภาพในดวงตาของยูระมืดดับลงไปในที่สุด
อยู่ๆสติที่ควรจะดับไปตลอดการของยูระก็พลันฟื้นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ่นเคย ร่างกายก็ขยับลำบาค เสียงก็อ้อแอ้อย่างกับเด็กทารก แต่พอพยายามที่จะลุกขึ้นยืนนั้นก็ได้เห็นมือของตนเอง มันเล็กเอามากๆ แต่พอสังเกตุดูดีๆแล้วร่างกายทุกส่วนก็เล็กลงด้วย
"แอ้ๆ อุแอ้ แอ" นี้มันเกิดอะไรขึ้น
ยูระที่พูดออกไปก็เป็นคำที่ไม่เป็นภาษาเอาซะเลย พอลุกขึ้นมานั่งได้แล้วก็ไปเกาะตรงลูกกรงของเปลเด็กที่ตนอยู่ มีสิ่งหนึ่งที่คิดอยู่ในหัวขณะนี้ก็คือ 'การเกิดใหม่' ไม่แน่ใจเลยจริงๆว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องจริง เด็กน้อยมองสำรวจรอบๆห้องนอนที่อยู่ก็พบว่าของแต่ห้องสีหรูหราเอามากๆ
'ห้องหรูมากเลยแฮะ...อ่ะ! มีกระจกอยู่ตรงนั้นด้วย'
ยูระในร่างของเด็กน้อยยืนเกาะลูกกรงมองไปรอบๆห้องที่ตนเองอยู่ และก็ไม่สะดุดตากับกระจกตั้งพื้นบานหนึ่งเข้า เลยมีความคิดที่ว่าอยากเห็นตนเองที่ร่างใหม่นี้เสียหน่อย เลยปีนกรงนี้ขึ้นไปจนสุด แต่ก็พึ่งมาตระหนักได้ในภายหลังว่าไม่น่าคิดที่จะปีนขึ้นมาเลย เพราะเด็กน้อยยูระกำลังล่วงลงจากกรงตามแรงโน้มถ่วงโลกแล้ว
เด็กน้อยดาเนสหลับตาปี๊รอบรับความเจ็บกับการโดนกระแทก แต่ทว่าตัวเขากลับลอยอยู่เหนือพื้นอยู่ ยูระถึงกับตะลึงกับสิ่งที่เกิดอยู่นานจนมีหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาอุ้มตนไว้ในอ้อมแขนของเธอ มองเงิยหน้ามองก็สบเข้ากับดวงตาสีอเมทิสที่จ้อมกลับมาเช่นกัน เธอเป็นหญิงสาวที่สวยเอามากๆ ผมสีช็อกโกแล็กเข้ากับสีตาเธอเป็นอย่างมาก
"ออกมาทำไมจ๊ะเนี้ยลูกรัก"
เด็กน้อยยูระจ้อมมองหญิงสาวอยู่พักใหญ่ ซักพักก็ได้สติกลับคืนมา แต่ก็พอจะคิดได้จากคำพูดของเธอที่เรียกยูระว่าลูก ยูระได้สติกลับมาเต็มร้อยแล้วจึงชี้ไปที่กระจกที่ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ที่แรก ผู้เป็นแม่เห็นแบบนั้นจึงเดินไปที่กระจกตามสิ่งที่เด็กน้อยต้องการ
พอมาถึงหน้ากระจกแล้วก็มั่นใจเต็มร้อยว่าเวลานี้ตัวเองนั้นได้เกิดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กน้อยยูระจ้องมองตนเองในร่างเด็กขวบหนึ่ง ผมสีช็อกโกแล็กและนัยน์ตาสีมรกต ที่งดงาม
แต่แล้วอยู่ๆก็รู้สึกว่ามีคนกำลังเดินมาที่ห้องนี้ เลยหันหลังจ้องมองไปทางประตูห้องและกระตุกเส้นของผู้เป็นแม่เบาๆเป็นสัญญาณแล้วชี้ไปทางประตู เธอเห็นท่าทีของลูกน้อยทำแบบนั้นแล้วจึงเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออกก็เจอชายรูปงาม ผมสีเงินตาสีเขียวมรกตมองมาด้วงท่าทีตกใจเล็กน้อยฝ่ายหญิงก็ดูจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน
"ลูกตื่นแล้วหรอมิเอลล่า"
ซึ่งเขาก็คือคุณพ่อนั้นเอง ผู้เป็นพ่อลูบหัวลูกน้อยของตนอย่างเบามือและเข้าไปอุ้มเด็กน้อยออกมาจากอ้อมอกแม้ เด็กน้อยยูระมองสำรวจใบหน้าของพ่ออย่างละเอียด ดวงตาสีมรกตเหมือนของตัวเอง แต่มีผมสีเงินเงางาม พูดไม่เลยว่าพ่อของตนนั้น หล่อมาก
หลังจากผู้เป็นพ่ออุ้มเด็กน้อยยูระแล้ว เาก็ชูเด็กน้อยขึ้นสูง ทั้งๆที่ตัวยูระเองนั้นอายุสิบแปดปีแล้วแท้ๆ แต่เจ้าตัวกับรู้สึกสนุกกับอะไรแบบนี้ซะงั้น พอเล่ยเสร็จแล้วคุณพ่อก็วางเด็กน้อยยูระลงกับพื้นพรม ปล่อยในเจ้าตัวน้อยคลานเล่นอยู่แถวนั้น ก่อนที่ทั้งพ่อและแม่จะไปนั่งคุยกับตรงโซฟาตัวหรู
ยูระนั้นก็นึงสงสัยว่าจะคุยอะไรกันจึงค่อยๆคลานเข้าไปหา หวังในพวกเขาจะคุยกันในเรื่องที่จะสามารถบอกได้ว่าในโลกที่ตนอยู่เป็นแบบไหนกันแน่ พอคลานไปถึงก็พยายามที่จะปีนโซฟาไปนั่งข้างพ่อของตน แต่เขานั้นก็ยังเป็นแค่เด็กอายุหนึ่งขวบจึงไม่สามารถทำได้ แต่พอพ่อเขาเห็นแบบนั้นแล้วจึงอุ้มลูกน้อมมาไว้บนตักและพูดคุยกับภรรยาของตนต่อ
"มิเอล เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าอยู่หน้าประตู"
เมื่อยูระได้ยินบทสนทนาของพ่อกับแม่ใหม่ของเขานั้นก็ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เพราะมันเป็นการพูดแบบโบราณ แล้วก็คิดว่าตนต้องพูดแบบนี้ด้วยตนโตขึ้นก็รู้สึกหนักใจ แต่ใช่ว่าเขาจะพูดไม่ได้ เพราะยูระก็เป็นพวกเรียนรู้ไว้อยู่แล้ว เจ้าตัวเลยกลับมาฟังบทสนทนาอีกครั้ง
"ดาเนสเป็นคนบอกน่ะค่ะ"
ตอนนี้ยูระยังได้รู้เพิ่มอีกว่า ที่โลกนี้ถึงจะพูดโบราณไปหน่อยแต่ก็ไม่ได้มากขนาดนั้น คงจะฝึกได้ไม่ยากเย็นอะไรการการพูดแบบนี้ แล้วยังรู้ว่าตัวเองชื่อดาเนสเพิ่มมาอีก ดีจริงๆที่มาฟัง
"ดาเนสงั้นหรือ...อย่างนี้นี่เอง เจ้ามีพลังแห่งการรับรู้อย่างนั้นสินะ"
พลังแห่งการรับรู้ สิ่งแปลกใหม่ที่ตอนนี้ไม่มีคำอธิบายให้ ยูระ ไม่สิ ดาเนส เอียงคอสงสัยกับสิ่งที่ท่านพ่อพูด ท่านพ่อก้มลงมามองดาเนส และรู้ว่าลูกของเขานั้นไม่เข้าใจและอยากได้คำอธิบาย
"พลังแห่งการรับรู้ก็คือพลังที่สามารถรับรู้ได้ว่ามีสิ่งใดอยู่รอบๆตัวเจ้าบ้าง แม้ว่าเจ้าหลับตาเจ้าก็สามารถรู้ได้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน มีใครแอบอยู่ที่ใดบ้าง พลังนี้สามารถฟึกได้แต่ไม่สามารถรับรู้ได้เท่าของคนที่มีตั้งแต่เกิดแบบเจ้า ข้าคิดว่าเมื่อก่อนที่เจ้าไม่สบายบ่อยๆคงจะมาจากสาเหตุที่พลังแห่งการรับรู้ของเจ้ากำลังจะตื่น"
เมื่อก่อนร่างนี้ไม่สบายบ่อยๆอย่างนั้นสิ และอาจเป็นไปได้ว่าตัวของยูระแบะเด็กน้อยดาเนสอาจจะตายไปพร้อมกัน วิญญาณของผมกับเด็กน้อยดาเนสคงจะสลับกับยูระพอดี และอาจเป็นไปได้เลยว่าเด็กน้อยดาเนสที่ไปร่างของยูระอาจจะตายไปอีกรอบแล้วก็ได้ เพราะตอนนั้นร่างของยูระคงจะบาดเจ็บสาหัส พอคิดแบบนั้นแล้วก็นึกสงสารขึ้นมา แต่จะให้ทำยังไงได้ก็เมื่อแลกวิญญาณกันแล้วคงจะเอากลับคือไม่ได้
ดาเนสเงิยหน้าขึ้นไปสบตากับท่านพ่อและท่านก็อุ้มผมมาไว้บนท่อนแขนแกล่งของท่าน ดาเนสเล่นผมสีเงินแปลกตาของผู้เป็นพ่ออยู่ซักพัก ท่านพ่อเขาจริงพูดขึ้น
"ดาเนสลองเรียกท่านพ่อสิ"
ดาเนสยิ้มร่มตอบกลับมาและพยายามพูดเป็นคำออกมาถึงจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
"อ...อา...ดา...เน..เนส"
ดาเนสแกล้าเรื่ยกชื่อของตนเองเพื่อแกล้งพ่อของเขา ส่วนท่าพ่อก็มีสีหน้าจะร้องไห้เพราะลูกไปพูดชื่อตัวเองมากว่าจะเรียกคำว่า 'พ่อ' ท่านแม่ที่เห็นแบบนั้นแล้วก็กลั้นขำแล้วจึงมาอุ้มไปจากคุณพ่อ และเธอก็ในดาเนสเรียกตนแทน
"อัน...แอ ฮั่น..แฮ"
"ได้อย่างไรกัน ดาเนสเจ้าแกล้งพ่ออย่างนั้นรึ!"
ดาเนสหัวเราะอย่างใสซื่อตอบกลับไป ที่เห็นท่าทีของพ่อของตน เขาคงจะต้องเป็นพ่อที่หวงและรักลูกมากแน่ๆ
"งั้นถ้าแบบนี้ล่ะ"
ท่านพ่อคุกเขาลงบนพรมห้องและยืนมือออกมา ท่านแม่ปล่อยดาเนสลงบนพื้นพรมอย่างเบามือ เจ้าตัวน้อยจึงคลานไปอยู่ใกล้ๆมือของพ่อ แล้วอยู่ๆก็มีไฟสีแดงเลือดพุ่งออกมาจากมือของท่านพ่อ 'พลังเวทย์!' นั้นคือสิ่งแรกที่ดาเนสคิดได้ในชั่วพริบตา เด็กน้อยดาเนสมองไฟนั้นไม่กระพริบตาแต่ก็ไม่ได้คิดจะแตะมันจนท่านพ่อหุบมือลง
"พ่อมีพลังเวทย์ธาตุเพลิงโลหิต มันเป็นพลังไฟที่รุนแรงเกือบเทียบเท่าเพลิงทมิฬ และใกล้เคียงกับเพลิงสีฟ้าและเพลิงฟินิกซ์"
ดาเนสตั้งใจฟังท่านพ่ออธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจเพราะตัวเรนดูท่าจะมีพลังธาตุแสง พอคิดๆดูแล้วเรนในตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ แต่ก็ต้องสลัดความคิดฟุ่งซ่านออกไปเพราะจะจมอยู่กับอดีตไม่ได้ ดาเนสฟังท่านพ่อเสร็จก็หันไปมองท่านแม่ที่มองตนกับท่านพ่อจากโซฟาที่นั่งอยู่ ดูท่าท่านแม่จะรู้ว่าดาเนสต้องการอะไรท่านเลยลงมาจากโซฟาและมานั่งพับเพียบที่พรมตรงข้ามกับท่านพ่อ
ท่านแม่ยื่นมือออกมาข้างหน้า เด็กน้อยดาเนสจึงคลานเข้าไปดูใกล้ๆ แล้วอยู่ๆก็มีแท่งผลึกน้ำแข็งปรากฏออกมากลางฝ่ามือของท่านแม่ ต่อมามันก็กระจากอกเป็นเกล็ดน้ำแข็งล่องลอยออกไปทั่วห้อง
"แม่มีพลังธาตุน้ำแข็งจ่ะ เป็นพลังธาตุผสมระหว่างธาตุน้ำและลม พลังธาตุผสมนั้นยังสามารถใช่ธาตุย่อยของมันได้อีกด้วยนะจ๊ะ แต่ว่าจะมีพลังอ่อนกว่า"
"ตอนลูกอายุเข้าสามปี พลังธาตุของลูกจะปรากฏขึ้นมาเอง เมื่อถึงตอนนั้นจงฝึกให้แข็งแกล่งเพื่อปกป้องคนที่ลูกรักให้ได้นะดาเนส"
ท่านพ่อลูบหัวลูกน้อยอย่างเบามือ และตอนนี้ในใจของดาเนสเต็นรัวไม่เป็นจังหวะแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเอามากๆที่ได้มาอยู่ในโลกนี้และยิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีกเพราะจะได้ลุ้นว่าตนเองจะมีธาตุอะไรอยู่ในร่างกาย
'ท่าจะสนุกแล้วสิ ชีวิตใหม่นี้จะเป็นแบบไหนกันนะอยากรู้แล้วสิ'
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!