วิญญาณหลอนสื่อรัก ตอนที่ 1
“มืดจัง...”
“ทำไมรถสองแถวต้องมาเสียตรงนี้ด้วยนะ”
วีดา...
หญิงสาวคนหนึ่งบ่นขึ้นเมื่อรถสองแถวที่เธอนั่งมาเกิดเสียกระทันหันระหว่างทาง
“ละดูดิแถวนี้เป็นป่าทั้งนั้นเลย แถมยังมืดอีก”
เธอเดินด้วยความระแวงทั้งจากโจรผู้ร้าย สัตว์มีพิษ และ...ผี
แต่ระหว่างที่กำลังเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะรอรถใครสักคนผ่านมา
จู่ๆ ก็ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงด้านหน้า และมองจ้องมาที่เธออยู่
วีดารับรู้ได้ทันทีว่าหญิงสาวคนนั้นจะต้องไม่ใช่คนแน่ๆ เธอจึงแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นแล้วรีบเดินผ่านไป
แต่ระหว่างที่วีดากำลังจะเดินผ่าน หญิงสาวก็ได้เอามือขึ้นมาจับไหล่ของวีดาเอาไว้
“ทะ-เธอต้องการอะไร”
วีดาพูดเสียงสั่นเครือถามกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ
ไหล่ของวีดาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำจากมือของหญิงสาวคนนั้น
“บอกมาเร็วสิ แล้วก็รีบไปซะ”
วิญญาณหญิงสาวผมยาวหน้าตาซีดเซียวยืนปรากฏที่อยู่ตรงหน้าของ
“วีดา” หญิงสาวผู้ซึ่งสามารถสื่อสารกับวิญญาณได้
“หนาว...”
วิญญาณหญิงสาวบอกกับวีดา
“งะ-งั้นจะเอาผ้าห่มมั้ย”
เธอถามวิญญาณหญิงสาวตนนั้น
“ช่วยฉันด้วยยย..”
วิญญาณหญิงสาวบอก พร้อมกับชี้มือไปทางถนนที่มืดเปลี่ยวรกร้างที่อยู่ทางด้านหน้า
“ชะ-ช่วยรึ ทะ-เธอจะให้ชั้นช่วยอะไรล่ะ”
วีดาถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ชั้นอยู่ตรงนั้น...”
“ชั้นหนาว...ช่วยชั้นที”
วิญญาณหญิงสาวพูดเสียงสั่นเครือ ใบหน้าของเธอดูเศร้าจนวีดารู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก
และเมื่อไม่สามารถที่จะหลีกหนีไปไหนได้ วีดาจึงตัดสินใจเดินไปที่ตามที่วิญญาณสาวบอกด้วยท่าทีหวาดกลัว
“ถะ-ถึงรึยัง”
วีดาถามขึ้นมา เนื่องจากเธอเดินมาค่อนข้างที่จะไกล และเส้นทางที่เดินก็ชักจะเปลี่ยวขึ้นไปทุกที
วิญญาณสาวไม่ตอบ เธอยังคงนำทางวีดาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงบ่อน้ำแห่งหนึ่ง
บริเวณรอบๆ บ่อมีหญ้ารกร้างขึ้นสูง วิญญาณหญิงสาวหยุดและชี้ลงไปในบ่อน้ำ
“เธอจมอยู่ด้านล่างบ่อนี้เหรอ”
“เพราะอะไรล่ะ”
วีดาถามด้วยความสงสัย
วิญญาณหญิงสาวจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้วีดาฟัง
-
-
-
“ราดียา”
หญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง เธอทำงานเป็นเลขาของ “คุณชาวี” เจ้าของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาที่ดิน
ราดียาเป็นคนหน้าตาสะสวย ขยัน ทำงานเก่ง จึงได้เป็นเลขามือหนึ่งของคุณชาวี
“ชั้นทำงานอยู่ที่นี่มา 3 ปี”
“และพอกำลังจะเข้าสู่ปีที่
4 คุณชาวีก็ขอชั้นเป็นแฟน”
ราดียาบอกกับวีดาด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย
เธอยังเล่าต่อไปอีกว่า...
“ชั้นยังจำวันนั้นได้ดีไม่มีวันลืม”
ราดียาเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นต่อ
“ชั้นทำงานเป็นเลขาของคุณชาวี”
“ซึ่งโต๊ะทำงานของชั้นจะตั้งอยู่ในห้องทำงานของเค้า”
“วันนั้นชั้นกำลังทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองเหมือนอย่างเคย”
“แล้วจู่ๆ คุณชาวีเค้าก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าชั้น”
เธอยิ้มบางๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้น
“ราดียา ผมเห็นคุณทำงานที่นี่อย่างขยันขันแข็งมานาน”
“ตอนนี้ผมคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้ว”
ชาวีพูดขึ้น
“เวลาอะไรคะ”
หญิงสาวสงสัย
“เวลาของผมกับคุณ...”
“ผมกลัวที่จะต้องเสียคนดีๆ อย่างคุณไปให้กับคนอื่น”
ทันทีที่ชาวีพูดจบ เขาก็คุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับหยิบกล่องแหวนออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
ชาวีเปิดฝากล่องขึ้นและยื่นให้กับราดียา
“นี่ผมกำลังขอคุณเป็นแฟนอยู่”
“ถ้าคุณยินดี ผมอยากให้คุณช่วยรับแหวนวงนี้ไปสวมด้วยนะครับ”
ชาวีพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอน
ราดียาตกใจปนดีใจจนทำอะไรไม่ถูก เธอได้แต่ยืนนิ่ง
แต่ช่วงขณะที่เธอกำลังยืนงง ชาวีก็รีบสวมเหวนไปที่นิ้วของเธอแบบไม่ทันได้ตั้งตัวทันที
ชาวี : “คุณยินดีใช่มั้ยครับ”
ราดียา : “คะ...? ค่ะ”
ราดียาตอบรับ หลังจากนั้นชาวีก็ดึงเธอมาสวมกอด
“สุดท้ายแล้วชั้นก็ตอบตกลงเค้าไป”
“ชั้นทำงานที่นี่มาหลายปี”
“มีหลายบริษัทมาทาบทามให้ชั้นไปทำงานด้วย แต่ชั้นก็ไม่ไป”
“เพราะจริงๆ ชั้นรักคุณชาวีตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น”
“เค้าเป็นนักธุรกิจที่เก่ง ฉลาด รูปร่างหน้าตาดี ไม่มีจุดไหนเลยที่จะทำให้คนที่พบเห็นไม่หลงรักเค้า”
ราดียายิ้ม แต่แววตาของเธอกลับดูเศร้า
“มันก็ฟังดูน่าจะราบรื่นดีนี่”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอเหรอ”
วีดาถามด้วยความอยากรู้
วิญญาณสาวเงียบไปสักพัก ก่อนที่จะเล่าต่อ...
“หลังจากที่ตกลงคบหากัน เราทั้งคู่ก็อยู่ด้วยกันทุกวัน”
“ทั้งที่ทำงาน และคอนโดที่คุณชาวีเช่าไว้ให้ชั้นพัก”
“แต่เค้าไม่ได้นอนที่คอนโดกับชั้นหรอกนะ”
เธอถอนหายใจ
-
-
-
ราดียา : “วันนี้คุณจะไม่อยู่กับชั้นอีกแล้วเหรอคะ”
ราดียาถามเมื่อเห็นชาวีว่ากำลังจะกลับเหมือนอย่าเคย
ชาวี : “ผมเคยบอกคุณแล้วไงว่าแม่ผมอายุเยอะแล้ว ผมปล่อยท่านอยู่กับเด็กที่บ้านตามลำพังไม่ได้น่ะ”
ราดียา : “ถ้างั้นให้ชั้นไปดูแลแม่คุณที่บ้านดีมั้ยคะ”
เธอเสนอความคิด
“ผมยังไม่พร้อมที่จะบอกแม่เรื่องคุณตอนนี้น่ะ”
“คุณก็รู้ว่าแม่ผมเป็นโรคหัวใจ”
“แต่ว่าผมจะรีบบอกท่านเร็วๆ นี้นะ”
เขาพูดพร้อมกับหันมากอดเธอ
“ถ้างั้นชั้นขอกลับไปอยู่ที่บ้านของชั้นได้มั้ยคะ เพราะชั้นเองก็มีแม่ที่อายุมากจะต้องดูแลเหมือนกัน”
ราดียาย้อนนึกไปถึงแม่ของตัวเอง
“นี่คุณไม่รักผมแล้วเหรอ”
“ผมรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่มาที่นี่แล้วมีคุณรอผมอยู่นะ”
พูดจบชาวีก็จูบไปที่หน้าผากราดียาเบาๆ ก่อนที่จะจากไป
-
-
-
“ชั้นเชื่อใจเค้ามาตลอด”
“ชั้นทำงานที่บริษัท และเมื่อเลิกงานก็จะมารอเค้าที่คอนโดทุกวัน”
“ชั้นทิ้งให้แม่ที่อายุมากเหมือนกับแม่ของเค้าต้องอยู่บ้านเหงาคนเดียว”
“สุดท้าย...”
“อยู่ๆ เค้าก็บอกกับชั้นว่าให้ลาออกจากงานซะ”
ราดียาตาแดงน้ำตาคลอเบ้า
-
-
-
ชาวี : “ตั้งแต่พรุ่งนี้เธอไม่ต้องไปทำงานแล้วนะ”
“ทำไมล่ะคะ”
เธอทำหน้าสงสัย
“พอดีแม่ผมจะเข้ามาดูแลกิจการที่บริษัทน่ะ”
“แล้วท่านก็จะเข้ามาทุกวัน ผมห่วงว่าเรื่องของเราจะถูกเปิดเผย”
ชาวีพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“แล้วทำไมเราถึงต้องหลบซ่อนด้วยคะ”
ราดียายังคงไม่เข้าใจความหมาย
“ไว้เดี๋ยวผมจะบอกทีหลังนะ วันนี้ผมขอตัวก่อน”
พูดจบชาวีก็รีบเดินออกจากห้องไปทันที
-
-
-
เมื่อเล่าถึงตรงนี้ราดียาก็น้ำตาไหลอาบแก้ม
“เค้าทิ้งเธอไปมีคนอื่นใช่มั้ย”
วีดาทำหน้าเศร้าน้ำตาคลอไปกับราดียาด้วย
“เปล่าหรอก...”
“...เค้ามีคนอื่นอยู่ก่อนแล้วต่างหาก”
วิญญาณหญิงสาวเช็ดน้ำตา แล้วเล่าเรื่องราวต่อจากนั้น
-
-
“มีอยู่วันนึง ชั้นไปที่บริษัทเพื่อที่จะไปเอาเอกสารสำคัญที่วางอยู่บนโต๊ะทำงาน”
“พอชั้นหยิบเอกสารเสร็จกำลังจะเปิดประตูออกไป ชั้นก็ได้ยินเสียงคุณชาวีกำลังเดินคุยกับใครซักคนนึงอยู่”
“และเหมือนว่าเค้ากำลังจะเปิดประตูเข้ามา”
(แกร็ก)
“ชั้นกลัวว่าจะเป็นคุณแม่ของคุณชาวี ก็เลยรีบหลบลงไปที่ใต้โต๊ะทำงานของชั้น”
“เลยเหนื่อยคุณต้องเอามาให้ผมถึงที่นี่เลย”
ชาวีทำเสียงออดอ้อน
“ใครใช้ให้คุณขี้ลืมล่ะ”
หญิงสาวหน้าตะสะสวยคนหนึ่งมองค้อนชาวี
“ผมไม่ได้ลืมหรอก ผมตั้งใจต่างหาก”
“เพราะว่าผมกะจะหลอกให้ภรรยาสุดที่รักของผมเอาแก้มมาให้ผมหอมถึงที่ทำงานนี่ไง”
พูดจบชาวีก็หอมแก้ม “มีนา” ภรรยาสาวคนสวยของเขาฟอดใหญ่
“ตอนนั้นชั้นตกใจสุดขีดจนทำอะไรไม่ถูกเลย”
“ชั้นนั่งแอบอยู่ตรงนั้นจนภรรยาของคุณชาวีออกจากห้องไป”
“...แล้วจากนั้นชั้นก็ลุกขึ้นเดินไปหาเค้า”
ราดียาเล่าด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“ยา...!!! คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
“ผมบอกให้คุณอยู่แต่คอนโดไม่ใช่เหรอไง”
ชาวีตกใจที่เห็นราดียาอยู่ในห้องทำงานของเขา
ราดียา : “ถ้าชั้นไม่มาที่นี่แล้วชั้นจะรู้ความจริงเหรอคะ”
เธอพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวดที่ถูกหักหลัง
ชาวี : “ยะ-ยา ผมขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณก่อน”
ชาวีพยายามที่จะอธิบาย
ราดียา : “ถ้าคุณบอกชั้นก่อนมันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงใช่มั้ยคะ...?”
ชาวี : “มะ-ไม่มี”
ชาวีก้มหน้า
ราดียา : “ถ้าจะเป็นแบบนี้แล้วทำไมคุณไม่เลิกกับชั้นก่อนที่จะคบกับผู้หญิงคนเมื่อกี้”
ชาวี : “ผมมีเค้าก่อนที่จะมีคุณ”
ราดียา : “ตอบแบบนี้คุณคงไม่เลือกชั้นแน่ๆ เพราะไม่งั้นคุณคงจะไม่ซ่อนชั้นไว้”
ชาวี : “ถ้างั้นตอนนี้คุณก็รู้แล้ว คุณจะจบกับผมใช่มั้ย...?”
ชาวีถามอย่างคนเห็นแก่ตัว
“ค่ะ ชั้นจะจบกับคุณแบบไม่เรียกร้องอะไรเลย”
ราดียาพูดทั้งน้ำตา
“ผมขอบคุณนะยา”
“ผมรู้ว่าคุณเป็นคนดี”
ชาวีรีบพูดขอบคุณ
“แต่ชั้นจะไปบอกกับผู้หญิงคนเมื่อกี้ให้เค้ารู้จักชั้น”
“เค้าจะได้รู้ว่าควรที่จะอยู่กับคนอย่างคุณต่อรึเปล่า”
ทันทีที่พูดจบ ราดียาก็กำลังจะรีบเดินออกไปทันที
แต่เธอถูกชาวีดึงแขนเธอไว้เสียก่อน
“ยา...ผมขอโทษ”
“มีนาเค้าเป็นภรรยาที่แม่ผมจัดการให้ด้วยผลประโยชณ์ทางธุรกิจ”
“แต่ผมก็รักคุณจริงๆ นะ”
“คุณใจเย็นลงก่อน”
ชาวีพยายามที่จะอธิบาย
ราดียาได้แต่นิ่งเงียบฟังที่ชาวีพูด
“ผมว่าเราไปหาที่คุยกันดีกว่า”
“คุยกันที่นี่อาจจะทำให้คุณเดือนร้อน นี่ผมเป็นห่วงคุณนะ”
ชาวีพูดพร้อมนัดให้เธอไปรอเขาที่รถ เพื่อที่จะหาที่คุยกัน
-
-
-
“แล้วเค้าพาชั้นมาที่นี่”
ราดียาชี้ให้ดูตรงจุดที่วีดายืนอยู่
“ที่เปลี่ยวๆ มืดๆ แบบนี้เนี่ยนะ”
“อย่าบอกนะว่าเค้าตั้งใจที่จะหลอกเธอมาฆ่าน่ะ”
“นี่มันคดีฆาตกรรมเลยนะ...!!!”
วีดาพูดด้วยความโมโห
ราดียาส่ายหน้า
“เค้าบอกจะรับผิดชอบชั้นทุกอย่าง”
“ขอแค่ชั้นห้ามไปวุ่นวายกับภรรยาเค้า และห้ามไปที่บริษัทเด็ดขาด”
“ให้ชั้นรอเค้าอยู่ที่คอนโดอย่างเดียว”
“แต่ชั้นไม่ยอมน่ะ”
“เราเลยทะเลาะกันใหญ่โต”
“ชั้นเอามือทุบเค้าไปหลายทีจนเค้าเผลอมือผลักชั้น”
“เลยทำให้ตัวชั้นกระเด็นไปกระแทกกับหินตรงนั้น และเซตกลงน้ำไป”
“พอเห็นแบบนั้นเค้าก็เดินหนีไป แล้วก็ขับรถออกไปเลย”
“...โดยที่ทิ้งชั้นไว้แบบนั้น”
เธอน้ำตาไหล
“เค้าจงใจปล่อยให้เธอจมน้ำตายเหรอ”
วีดาถามด้วยความสงสัย
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“ชั้นบาดเจ็บ อาจจะเพราะหัวแตกและใต้น้ำมีแต่โคลนตม”
“ขาชั้นก็เลยติดจนดันตัวเองขึ้นมาไม่ได้”
“เวลาตอนนั้นมันมืด และตัวคุณชาวีเองก็ไม่รู้ว่าชั้นว่ายน้ำไม่เป็นด้วยน่ะ”
“คิดว่าเค้าคงรำคาญชั้นเลยจะทิ้งชั้นไว้แบบนั้น และคิดว่าชั้นคงจะขึ้นมาจากบ่อเองได้”
“ตอนนั้นชั้นร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจนสุดเสียง”
เธอหยุดพูดไป
“แล้วมีคนมาช่วยเธอทันมั้ย...?”
วีดาตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ
ราดียาหันมามองหน้าวีดาอย่างช้าๆ
“ถ้าทันชั้นจะตายแล้วมานั่งคุยกับเธอตรงนี้ได้มั้ย...?”
วีดายิ้มแห้งๆ
“ละ-ลืมไปเลย”
“งั้นเธอจะให้ชั้นช่วยอะไรล่ะ”
วีดายิ้มอย่างเต็มใจที่จะช่วยเหลือ
ราดียามองหน้าวีดา
“ชั้นต้องการให้เธอไปบอกคุณชาวี ว่าวิญญาณของชั้นยังติดอยู่ที่นี่”
“ให้เค้าไปขอขมาแม่ชั้น และดูแลจนกว่าท่านจะสิ้นอายุขัย”
วีดาฟังแบบนั้นแล้วก็ถอนหายใจ
“ได้ เธอรอชั้นแล้วกันนะ”
พูดจบวีดาก็รีบลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินทางไปหาชาวีทันที
แต่ระหว่างที่ลุก เธอได้ชนเข้ากับชายคนหนึ่งอย่างจัง
“เฮ้ยยยยยยย...ใครอีกละเนี่ย”
“ขอเคลียร์เป็นคดีๆ ไปได้มั้ย...!!!”
วีดาตะโกนกรีดร้องด้วยความตกใจ
เธอเจอเข้ากับอะไรกันแน่ถึงได้กรีดร้องเสียงหลงขนาดนั้น และเธอจะสามารถช่วยราดียาให้ไปสู่สุคติได้หรือไม่
วิญญาณหลอนสื่อรัก ตอนที่ 2
“ทำไมเธอถึงได้มาอยู่ในที่มืด แล้วก็เปลี่ยวแบบนี้”
เสียงชายคนหนึ่งถามวีดา ก่อนที่เขาจะหันไฟฉายส่องไปที่หน้าของเธอ
วีดารีบยกมือขึ้นมาบังแสงไฟที่ส่องหน้าของเธอไว้
“ชั้นเดินหลงทางมาน่ะค่ะ”
“กำลังจะหาทางออกไปจากที่นี่อยู่”
“วะ-ว่าแต่คุณเป็นคนใช่มั้ยคะ”
วีดาถามอย่างกล้าๆ
กลัวๆ
“ชั้นไปล่ะ”
พูดจบชายคนนั้นก็เดินจากไปทันที
“เดี๋ยวค่ะๆ คุณมีรถมั้ยคะ”
“ชั้นขอติดรถคุณไปด้วยได้มั้ย”
วีดารีบวิ่งตามชายคนนั้นไป
เขารีบเดินไปโดยที่ไม่ตอบอะไรวีดา
ชายคนนั้นเดินมาเรื่อยๆ
จนกระทั่งถึงรถคันหนึ่ง ซึ่งรถกำลังถูกเปลี่ยนล้ออยู่ข้างทางเนื่องจากตกหลุมขนาดใหญ่ทำให้ยางแตก
“เปลี่ยนล้อเสร็จแล้วครับนาย”
โบ้คนขับรถหันไปบอกกับกวิน เจ้านายของเขา
“เรียบร้อยแล้วก็ไปกันเถอะ”
เมื่อพูดจบกวินก็รีบขึ้นรถทันที
“คุณๆ เดี๋ยวก่อน”
“ชั้นขอติดรถไปด้วยได้มั้ยคะ”
วีดาวิ่งตะโกนพร้อมกับโบกไม้โบกมือเพื่อจะขอติดรถไปกับเขาด้วย
“เอ่อ...เอาไงดีครับนาย”
โบ้หันไปมองหน้ากวิน
“ออกรถ”
เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ครับๆ”
โบ้รีบสตาร์ทรถ
ยังไม่ทันที่โบ้จะออกรถ วีดาก็ได้เปิดประตูเข้ามานั่งข้างโบ้เสียก่อน
“ขอบคุณมากเลยนะคะที่จอดรอชั้น”
วีดาพูดพร้อมกับหายใจเหนื่อยหอบเนื่องจากต้องรีบวิ่งตามกวินให้ทัน
“พอดีชั้นนั่งรถสองแถวเพื่อจะเข้าตัวเมือง เพื่อไปเอารถที่จอดฝากไว้”
“แต่รถสองแถวดันเสียซะก่อนน่ะค่ะ”
“นี่ถ้าคุณไม่ผ่านมาทางนี้ชั้นคงต้องแย่แน่ๆ เลยนะคะเนี่ย”
วีดาอธิบายเหตุการณ์ให้ทุกคนบนรถฟัง
“นี่ๆ“
กวินพูดขัดขั้น
“คะ...?”
วีดาหันไปมองหน้ากวิน
“ช่วยหุบปากด้วย คุณกำลังทำผมเสียสมาธิอยู่”
พูดจบกวินก็หันไปอ่านข่าวในโทรศัพท์มือถือต่อ
“ค่ะ”
เธอยิ้มแห้งๆ
เมื่อรถขับไปได้สักระยะ โบ้ได้แวะเข้าไปเติมน้ำมันในปั๊มซึ่งอยู่ในตัวเมือง
“ตรงนี้คุณคงหารถไปต่อได้แล้วนะ เชิญ...”
กวินพูดขึ้นโดยที่ไม่มองหน้าวีดา
“ตะ-แต่ว่า...”
วีดาอ้ำอึ้ง
เธออยากจะขอติดรถไปอีกสักหน่อย เพราะอีกไม่ไกลเท่าไหร่ก็จะถึงจุดที่รถของเธอจอดทิ้งไว้แล้ว
และเธอเองก็ไม่อยากที่จะเดินทางคนเดียว เนื่องจากกลัวว่าจะเจอผีมาขอความช่วยเหลือเพิ่มอีก
“เชิญครับ”
กวินพูดเน้นเสียงจนวีดาต้องยอมลงไป
“ขะ-ขอบคุณมากนะคะ”
วีดาก้มหัวขอบคุณกวินที่มาส่ง แต่ยังไม่ทันที่จะเงยหน้าขึ้นรถก็ออกตัวไปเสียแล้ว
“เหอะ...อย่าให้เจอลำบากอยู่ข้างทางบ้างนะ”
“ชั้นจะปล่อยให้เดินเองซะให้เข็ดเลย”
วีดาบ่น ก่อนที่จะเดินไปหารถเพื่อที่จะต่อไปยังที่จอดรถของเธอ
“ผู้หญิงคนเมื่อกี้ใครกันครับนาย”
โบ้ถามขึ้น
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน”
กวินพูดพร้อมกับดูข่าวในโทรศัพท์มือถือต่อ
“แล้วนายไปเจอกันได้ยังไงครับ เค้าถึงมาขอขึ้นรถได้”
“ปกตินายจะไม่ให้ใครขึ้นรถเลยนี่ครับ”
“ยิ่งเป็นเวลานี้ แล้วก็สถานที่แบบนี้ด้วย”
โบ้ถามด้วยความสงสัย
กวินคว่ำหน้าโทรศัพท์มือถือลงก่อนที่จะเล่าให้โบ้ฟัง
“ตอนที่รอนายเปลี่ยนล้อรถ ชั้นก็ลองเดินสำรวจไปรอบๆ น่ะ”
“จู่ๆ ชั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกำลังคุยอยู่คนเดียว”
“ซึ่งตรงนั้นเป็นที่มืดแล้วก็เปลี่ยวด้วย ก็เลยเดินเข้าไปดู”
กวินทำท่าคิด
“คุยอยู่คนเดียว...?”
“ในป่าที่มืดๆ อย่างนี้น่ะเหรอครับ...?”
โบ้มองหน้ากวิน
“ใช่”
“ชั้นเลยคิดว่าเค้าน่าจะเป็นคนสติไม่ดีน่ะ”
“แล้วที่ชั้นให้ขึ้นรถมาด้วย ก็เพราะเห็นว่าเค้าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวแถมยังสติไม่ดีอีก”
“ทางตรงนั้นมันก็มืดด้วย ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนั้นก็กลัวจะเกิดอันตรายขึ้นน่ะ”
กวินบอกเหตุผล
“ถ้างั้นก็น่าสงสารนะครับ”
โบ้รู้สึกเวทนาวีดา
-
-
-
ขณะที่วีดากำลังขับรถกลับ
“คุณชาวีๆ “
เธอนึกถึงเรื่องของคุณชาวีที่ราดียาเล่าให้ฟัง
“แล้วชั้นจะไปหาคุณได้ที่ไหนกันนะ”
ระหว่างที่วีดาขับรถไป เธอก็นึกถึงชาวีไปด้วยว่าเธอจะสามารถหาเขาเจอได้อย่างไร
แต่แล้วจู่ๆ ราดียาก็ยืนปรากฏตัวอยู่ตรงทางข้างหน้า และยืนขวางถนนไว้
“เอี๊ยดดดดดดด...”
วีดาเหยียบเบรกกะทันหัน เธอตกใจมากจนไม่มีเสียงกรีดร้องออกมา
“ราดียา เธอทำแบบนี้ทำไมชั้นอาจจะตายได้เลยนะ”
วีดาหันไปต่อว่าราดียาที่ตอนนี้วาร์ปมานั่งข้างๆ เธอด้วยความโมโห
“ชั้นจะพาเธอไป”
ราดียาพูดขึ้น
“ไปไหน...”
“อ๋อๆ หาคุณชาวีน่ะเหรอ ดีเลยชั้นกำลังกลุ้มอยู่เลยว่าจะไปหาเขาได้จากที่ไหนกัน”
“ว่าแต่...เธออย่าทำแบบเมื่อกี้อีกนะ”
“ถึงชั้นจะเคยเจออะไรแบบเธอมาเยอะ แต่บอกตรงๆ ชั้นไม่เคยชินเลยสักครั้งน่ะ”
พูดจบวีดาก็รีบขับรถกลับไปยังกรุงเทพทันที
-
-
เช้าวันรุ่งขึ้น...
วีดารีบเดินทางมาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เนื่องจากวันนี้ชาวีมีนัดพบลูกค้าที่นี่ตามคำบอกเล่าของราดียา
“ร้านกาแฟๆ อยู่ตรงไหนกันนะ“
วีดาเดินหาชื่อร้านกาแฟตามที่ราดียาบอก จนมาหยุดอยู่ที่ร้านๆ หนึ่ง
“เจอแล้ว...!!! ร้านนี้สินะ”
เธอแอบเปิดประตูชะโงกหน้าเข้าไปดูด้านในเพื่อที่จะมองหาชาวี
“ละคนไหนกันล่ะเนี่ย”
“ราดียาบอกว่าคนที่หน้าตาดี ตัวสูงๆ ชอบนั่งอยู่ตรงโต๊ะด้านในสุด”
วีดามองหาจนทั่วร้าน แล้วเธอก็พบเข้ากับชายคนหนึ่งที่มีลักษณะเหมือนกับราดียาบอก
“คนนั้นรึเปล่านะ”
“มีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านในสุด ลักษณะก็เหมือนกับที่ราดียาบอกไว้เลยด้วย”
ซึ่งชายคนนั้นกำลังหันหน้าไปมาเหมือนกำลังมองหาใครอยู่ และเมื่อวีดาเห็นหน้าเขาชัดๆ
“คุณ...!!!”
“นี่มันคุณคนเมื่อวานที่เราขอติดรถกลับมาด้วยนี่”
“คือคุณชาวีเองเหรอเนี่ย...!!!”
วีดาตกใจเมื่อได้เห็นหน้าชายคนนั้นชัดๆ เพราะเธอไม่คิดว่าคุณชาวีจะเป็นคนๆ เดียวกันกับที่ให้เธอติดรถมาด้วยเมื่อวานนี้
วิญญาณหลอนสื่อรัก ตอนที่ 3
วีดาได้มาดักเจอชาวี ก็เพื่อที่จะเข้าไปพูดคุยกับเขาเรื่องขอให้ช่วยปลดปล่อยวิญญาณของราดียาที่จมอยู่ในหนองน้ำ และรับปากเรื่องดูแลแม่ของเธอ
แต่เมื่อมองเข้าไปในร้าน กลับพบว่าชาวีก็คือคนที่ให้เธอติดรถกลับมาเมื่อวานนี้นี่เอง
“คุณ...!!!”
“คุณคนเมื่อวานที่เราขอติดรถกลับมาด้วย คือคุณชาวีเองเหรอเนี่ย...!!!”
“มิน่าล่ะเราถึงเจอเค้าแถวๆ
นั้น คงจะมาดูลาดเลาเรื่องราดียาล่ะสิท่า”
วีดาพอจะประติดประต่อเรื่องอะไรได้บ้าง
เธอกำลังยืนนิ่งคิด ก็เพื่อที่จะเรียบเรียงคำพูดอยู่สักพักก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้าน
“ขอช็อคโกแลตเย็นที่นึงค่ะ”
วีดาเดินเข้าไปสั่งเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โต๊ะข้างๆ กวิน ซึ่งเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชาวี
“ดูแล้วหน้าตาก็ดี มิน่าล่ะถึงทำให้สาวหลงเสน่ห์ได้ขนาดนั้น”
วีดาเบะปาก
“นี่คงจะมานั่งรอผู้หญิงคนอื่นอีกล่ะสิท่า”
ทั้งที่ทำกับราดียาขนาดนั้น แต่กลับยังไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลยมานั่งสบายใจอยู่ที่นี่”
วีดามองจ้องไปที่กวินจนเขารู้สึกตัวจึงหันมามองวีดา เธอจึงรีบหันหน้าหลบ
“เค้ามองมาที่เราด้วย...!!!” หรือว่าจะจำเราได้”
เธอนั่งก้มหน้าและรีบเอาเมนูอาหารมาปิดหน้าตัวเองไว้
“คุณครับ...”
กวินเดินมาหาวีดาที่โต๊ะ และเรียกเธอ
วีดาแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“คุณครับ...”
เขาเคาะโต๊ะและเรียกเธออีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้น
“คะ-คะ...?”
เธอเงยหน้าขึ้น และทำเหมือนว่าไม่รู้เรื่องอะไร
“คุณมีธุระอะไรกับผมรึเปล่าครับ ผมเห็นคุณมองหน้าผมอยู่นานแล้ว”
กวินจ้องหน้าเธอ
“เมื่อเปิดประเด็นมาขนาดนี้เราก็คงต้องพูดละสินะ”
วีดาคิดในใจ
จากนั้นเธอก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และตัดสินใจที่จะพูดเรื่องของราดียา
“ชั้นอยากให้คุณปลดปล่อยคุณราดียา”
วีดาจ้องหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัว
“ราดียา...?”
เขาทำหน้าสงสัยว่าวีดากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่
“นี่คุณชาวี ชั้นรู้หมดแล้วนะว่าคุณทำอะไรไว้บ้าง”
ขณะที่วีดากำลังจะเล่าเรื่องราดียา จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“คุณกวิน ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่มาช้า”
ชายคนนั้นพูดขึ้น
“คุณกวิน...?”
วีดาหันไปมองหน้ากวินที่เธอเข้าใจผิดว่าเป็นชาวี
“ไม่เป็นไรครับคุณชาวี ผมก็เพิ่งมาถึงก่อนได้ไม่นานเองครับ”
“ไปครับ ไปคุยธุระของเรากัน”
กวินเชิญชาวีไปนั่งที่โต๊ะของเขา
“คุณชาวี...?”
“คะ-คุณคือชาวี...?”
วีดาหันไปพูดกับชาวี
“ใช่ครับ ผมชาวี”
“แล้วคุณผู้หญิงคนนี้คือ...?”
ชาวีหันหน้าไปถามกวินถึงวีดา
“อ๋อ เค้าเป็นคนไม่ค่อย...”
กวินไม่พูดได้แต่เอานิ้วขึ้นมาชี้ไปที่สมองแล้วส่ายหน้า เพื่อที่จะสื่อความหมายว่าคนๆ นี้สติไม่ค่อยดี
“ครับๆ งั้นเราไปกันครับ”
ชาวีและกวินเดินไปนั่งที่โต๊ะเพื่อพูดคุยธุระ โดยปล่อยให้วีดายืนงงอยู่ตรงนั้นคนเดียว
“ที่เอามือไปหมุนๆ ที่หัวแล้วส่ายหน้านี่คงจะไม่ได้หมายว่าเราสติไม่ดีหรอกนะ”
วีดาเอามือขึ้นมาชี้ที่หัวตัวเองเพราะกำลังงงกับท่าทางของกวิน
“ระ-เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เราต้องรีบหาทางเข้าไปบอกเรื่องราดียากับคุณชาวีสิ”
วีดาเข้าไปนั่งที่โต๊ะข้างๆ กวินและชาวี เพื่อที่จะแอบฟังทั้งคู่คุยกัน
ชาวี : “เป็นยังไงบ้างครับ พื้นที่ๆ คุณไปดูมาเมื่อวานถูกใจมั้ยครับ”
กวิน : “ก็น่าสนใจอยู่ครับ แต่ผมว่าแถวนั้นมันก็ค่อนข้างที่จะเปลี่ยวอยู่เหมือนกัน”
ชาวี : “แต่อนาคตจะมีถนนตัดผ่าน และอีกหน่อยที่ดินจะมีราคาสูงกว่าตอนนี้อีกนะครับ”
กวิน : “ผมไปดูพื้นที่จริงก็คิดว่าต่อไปข้างหน้าน่าจะพัฒนาทำอะไรได้อีกหลายอย่างเลยเหมือนกันครับ งั้นเดี๋ยวเรามาตกลงเรื่องทำสัญญา...”
กวินหยุดพูดเนื่องจากสายตาเหลือบไปเห็นว่าวีดากำลังเอียงหูเข้ามาแอบฟังที่พวกเขาคุยกันอยู่ใกล้ๆ
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับผมหรือคุณชาวีรึเปล่าครับ”
กวินหันไปพูดกับวีดา
“คะ...?”
วีดาทำหน้าเหลอหลาหันไปมองหน้ากวิน
“ก็ท่าทางคุณเหมือนอยากจะพูดอะไรกับใครคนใดคนนึงในโต๊ะนี้”
เขามองจ้องหน้าเธอ
“เอ่อ จริงๆ แล้ว...”
วีดาก้มหน้าพูด
เธอนั่งนิ่งสักพัก จากนั้นจึงได้ตัดสินใจเงยหน้าและมองไปที่ชาวี
“เรารู้จักกันเหรอครับ”
ชาวีทำหน้างง
“ก็ไม่เชิงน่ะค่ะ แต่คุณรู้จักกับคนที่ชั้นเพิ่งจะรู้จักเมื่อไม่นานมานี้”
วีดาพูดอ้อมแอ้มเพราะไม่รู้จะบอกกับเขายังไงดี
“จะว่าคนก็ไม่ใช่ซะด้วยสิ”
เธอพูดงึมงำอยู่ในลำคอ”
กวินหันไปมองหน้าชาวี เขาสงสัยว่านักธุรกิจแบบนั้นจะไปรู้จักกับคนสติไม่ค่อยดีอย่าวีดาได้อย่างไร จึงคอยมองดูเหตุการณ์อยู่เงียบๆ
ชาวี : “ไม่ทราบว่าเพื่อนของคุณคือ...?”
วีดาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะพูดขึ้นมา
วีดา : “ราดียาค่ะ พอดีชั้นเพิ่งรู้จักกับเธอเมื่อวานนี้”
เมื่อวีดาพูดชื่อราดียา ชาวีก็หน้าซีดเหงื่อแตกพลั่กขึ้นมาทันที
ด้านกวินที่คอยสังเกตการณ์อยู่ก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าราดียาเป็นใครกันแน่
ชาวี : “คุณจะเพิ่งรู้จักเธอเมื่อวานได้ยังไงก็ในเมื่อเธอตา...”
เขาเผลอพูดขึ้นมาอย่างคนสติแตก แต่เมื่อนึกขึ้นได้เขาก็รีบหยุดพูดและหันไปมองหน้ากวิน
“อะ-เอ่อ คุณกวินครับ”
“เรื่องที่ดินที่คุณไปดูมาเมื่อวาน ผมขอเลื่อนนัดคุยกันอีกทีคราวหน้านะครับ”
ชาวีบอกด้วยท่าทางร้อนรน
กวินกำลังจะพูด แต่ถูกชาวีพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ผมจะให้ทางเลขาของผมติดต่อทางเลขาของคุณไปอีกทีนะครับ”
“วันนี้ผมติดธุระด่วนคงจะไม่สะดวก ผมต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ”
“ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ”
พูดจบชาวีก็รีบลุกออกจากโต๊ะเดินออกนอกร้านไปทันที
“เดี๋ยวก่อนคุณ...!!!”
วีดารีบวิ่งตามชาวีออกไป
“มีเรื่องอะไรกันนะ”
“แล้วยัยติดหนึบนั่นเป็นอะไรกับคุณชาวี”
“ท่าทางของคุณชาวีเมื่อกี้ก็ดูแปลกๆ เหมือนร้อนใจเรื่องอะไรสักอย่าง“
“ราดียาคือใคร...”
“แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับคุณชาวีกันแน่นะ”
กวินพยายามที่จะนั่งประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
แล้วหลังจากนั้นเขาก็ส่ายหัวไปมา...
“ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลยสักนิด”
“รู้ไปแล้วก็ไม่ได้มีประโยชณ์อะไรกับธุรกิจของเราเลยด้วยซ้ำ”
เขานั่งจิบกาแฟต่ออย่างสบายใจ
“ตกลงราดียาเป็นใคร...”
“แล้วมีความเกี่ยวข้องอะไรกับคุณชาวี หรือที่ดินผืนที่เราจะซื้อรึเปล่านะ”
แต่ในใจลึกๆ เขาเองก็ยังคงอยากรู้ว่าตกลงแล้วราดียาเป็นใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับคุณชาวีกันแน่
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!