"มีเครสด่วนมาก น้องอรเข้ามาด่วนด้วยนะ อาจารย์หมอให้น้องเป็นผู้ช่วยเท่านั่น" เสียงต้นสายที่โทรมายังโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของ นางสาวอรอุมา เกริกเกียรติ หญิงสาวที่เรียนจบพยาบาล ทำงานมาได้ 10 ปี และวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ วันที่ 9 กันยายน นี่ก็เข้า 32 ปี ละทำแต่งานไม่เคยได้เที่ยวได้หยุด พ่อแม่ก็ไม่มีเป็นเด็กกำพร้าที่โตมากับแม่ชีที่วัดในชุนบทที่แสนห่างไกล จนเรียนจบมัธยมต้นแม่ชีที่เลี้ยงดูเธอมาก็ได้เสียชีวิตไป เธอจึงหาเงินเรียนจนจบมัธยมปลาย แล้วสอบทุนได้เรียนพยาบาลและต้องทำงานใช้หนี้ทุน 10 ปี แต่ก็ยังโชคดีที่เธอมีแฟนที่เข้าใจเธอยิ่งนักเธอกับแฟนคบกันมา 6 ปีแล้วแต่เพราะเธองานยุ่งมากจึงไม่มีเวลาได้เจอกันแถมเธอยังไม่เคยมีอะไรกับแฟนเลย แต่เขาก็ไม่เคยว่าอะไร วันนี้วันเกิดเธอ เธอควรมีเวลาให้เขาบ้าง
อรอุมาจึงตัดสินใจโทรศัพท์หาอาจารย์หมอ "อาจารย์คะวันนี้วันเกิดหนูของดรับเครสได้ไหมคะ ที่จริงวันนี่หนูให้เจนจิราเข้าแทนแล้วนี่คะ"
อาจารย์หมอตอบกลับมาว่า "อ้าว...เรอ เจนนี่บอกว่าเธอมาไม่ได้วันนี้แฟนเธอจะไปสู่ขอเธอที่บ้านเลยมาแทนไม่ได้"
"งั้นอาจารย์หาคนอื่นแทนได้ไหมคะ หนูอยากไปหาแม่ที่วัดด้วย" อรอุมาขอร้องอาจารย์หมอ
"ก็ได้ๆงั้นก็ Happy Birthday นะ" อาจารย์หมอเข้าใจเพราะเขาเรียกใช้แต่เธอให้เธอได้พักบ้างสักวันก็ดี
อรอุมาตั้งใจจะไปหาแฟนที่อพาร์ทเม้น แต่เธอคิดว่าเพื่อนรักเธอกำลังจะหมั้นแวะไปทำให้ตกใจดีกว่า คิดได้เช่นนั้นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งตัวให้ดูดีหน่อยละกันไปงานเพื่อนทั้งที่
มาถึงบ้านเจนนี่ก็แอบเดินเข้าไป ก็ต้องตกใจ น้ำตาไหลออกมาเป็นทาง เจ้าบ่าวที่ไปสู่ขอเพื่อนรักเธอคือแฟนเธอ จักรกริช พร้อมทรัพย์ เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆของประเทศ
จักรกริชหรือกริช พูดขึ้นว่า "ไม่ต้องสนใจหรอกครับ เธอเคยเป็นแฟนเก่าผม"
อรอุมา คิดในใจ "แฟนเก่า"เก่าตอนไหนก่อนวันเกิดยังโทรคุยกันอยู่เลย จึงเดินกลับออกไปด้วยน้ำตานองหน้า เพื่อนรักที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่มัธยมต้น คุยกันทุกเรื่องจนเป็นมากกว่าเพื่อนแต่เธอทำแบบนี้เนี่ยนะ ไม่รู้ว่าอรกลับมาถึงแฟลตพยาบาลได้อย่างไร ใช่ไม่ผิดแม้แต่แฟลตพยาบาลเธอก็พักด้วยกัน อรนอนคิดครู่นึงจึงอาบน้ำใหม่ตั้งสมาธิที่แทบไม่มีขับรถออกไปหาห้องพัก ได้ห้องค่อนข้างไกลจากโรงพยาบาลนิดหน่อยที่สำคัญไม่มีคนรู้จักก็พอ เธอต้องการความเป็นส่วนตัว ในตอนนี้
เมื่อได้ที่พักเธอก็กลับมาเก็บของย้ายออกทันที โดยใช้บริการรถรับจ้างแถวหน้าโรงพยาบาล แล้วเข้าไปทำเรื่องลาพักร้อน 15 วัน ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยลาพักร้อนแม้กระทั้งลาป่วยเลยเป็นเพราะเธอต้องการเก็บเงินแต่งงาน ที่สำคัญถ้าเธอมีมากกว่านี้พ่อแม่ของกริชคงไม่คัดค้านแน่ๆ เธอบล็อกเบอร์เจนนี่และกริช แล้วกลับห้องพักจัดของไปเรื่อยๆของที่กริชเคยให้ทั้งหมดและของที่เจนนี่เคยให้หรือซื้อด้วยกันเธอเอาไปบริจาคให้เด็กยากไร้ทั้งหมด ยกเว้นทอง ไม่ว่าจะเป็น แหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ เธอเอาไปขายนำเงินมาจ่ายค่าห้องพักใหม่
จริงๆแล้วอรอุมาเป็นคนสวยใช้ได้เลย เธอสูง 168 เซ็นติเมตร น้ำหนัก 47 กิโลกรัม น้ำหนักเธอมีแต่จะลงเพราะทำงานตลอดแทบไม่มีเวลาพัก ถ้าใครหยุด ลา เธอก็รับควบให้จนได้เป็นพยาบาลดีเด่นในสายงาน เธอผิวขาวมากเพราะแทบไม่ได้ออกแดดเลย หน้าอกเธอก็ได้มาตรฐาน ผมเธอหยักลอนใหญ่ธรรมชาติแถมสีผมเธอนั้นแปลกกว่าใครคือสีแดงโค้กตั้งแต่เกิดมั้งเพราะเธอไม่เคยเข้าร้านเสริมสวย ตากลมโตสองชั้นตาดำใหญ่มาก คิ้วเรียวยาวสวย จมูกโด่งเหมือนลูกครึ่งฝรั่งปากรูปหัวใจสวย เค้าโคล่งหน้าเธอนั้นรูปไข่ไก่ ภาพรวมคือเธอสวยโดดเด่นมากถ้าเธอเลือกอาชีพดาราหรือเดินแบบคงดังมากแน่ๆ แต่เธอเลือกทำตามแม่บุญธรรมคือทำดีนั้นเอง ซึ่งตรงข้ามกับเจนนี่ที่เธอสูงเพียง 161 เซ็นติเมตร แต่หน้าอกใหญ่คัฟDน่าจะได้ ตาชั้นเดียวออกไปทางหมวย น้ำหนัก 50-51 บางคนก็บอกว่าเธอเซ็กซี่น่ารักผิดกับอรอุมาที่สวยสง่างาม
ส่วนจักรกริชนั้น หน้าตาจัดว่าหล่อ สูง 170 น่าจะได้ ผอมกำลังดีแต่ไม่รู้มีซิกแพ๊ค เซเว่นแพ๊คไหม เพราะเธอไม่เคยเห็น ตาสองชั้น จมูกโด่งคมสัน ปากหนาน่าจูบ ฐานะยิ่งน่าจับทำสามี
เมื่อนอนคิดนั้น นี่ โน่น ไปเรื่อยก็ผ่านมา 2 วันแล้วเธอรู้สึกว่าร่างกายเธอผิดปกติ จึงลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวไปตรวจที่คลีนิคไกลๆจากที่พักหน่อยเพราะเธอไม่อยากให้ใครรู้จักที่พักเธอ ที่จริงเธอก็เคยคิดจะไปตรวจร่างกายอยู่บ้างเหมือนกันเพราะมัวทำแต่งานเลยไม่มีเวลา
เมื่อไปถึงคลีนิค ก็เป็นอย่างที่อรคิดไว้ว่าเธอต้องรู้จักหมอคนนี้ "สวัสดีคะพี่หมอ"
กัมปนาท เรืองเพชร นายแพทย์ระบบศัลยแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลเดียวกันกับเธอแต่ไม่ค่อยได้คุยกันเพราะเป็นพยาบาลห้องผ่าตัด จะไม่ค่อยได้ออกมาเดินเท่าไหร่ "อ้าว!น้องอรมาตรวจร่างกายเหรอครับ วันนี้ว่างได้ซะทีนะ"
"คะ อรลาพักร้อนน่ะคะ มัวแต่ทำงานจนอะไรๆก็ไม่เหมือนเดินหมดแล้วค่ะ" อรอุมาพูดเหมือนภาพรวมๆ เธอมองภายในตรวจที่เพรียบพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีเครื่องซีทีสแกนที่เหมือนของโรงพยาบาล มีผู้ช่วยนำชุดมาให้เธอเปลี่ยนและผ้าปิดตา แล้วพาเธอไปที่เตียงสแกนเมื่อนอนลงเตียงก็เลื่อนเข้าห้องสแกน เสียงพี่หมอนาทบอกว่าให้ผ่อนคลายนึกถึงเรื่องดีๆไว้เพราะจะใช้เวลา 15 นาทีในการสแกนทั้งร่างกาย แล้วแกก็เล่าเรื่องตั้งแต่เรียนให้ฟัง มันช่วยให้เธอผ่อนคลายแล้วหลับไปโดยไม่รู้ตัว ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่พี่หมอนาทถามว่าเป็นยังไงบ้าง "อรหลับไปนานเลยสินะคะ หน้าอายจัง"
"ไม่เป็นไร คนไข้วันนี้ไม่ค่อยมี ไปพักก่อนเถอะต้องรอผลตรวจพอควรเชียวล่ะ" หมอนาทพูดกับอร พลางเดินนำไปที่ห้องๆนึง "นี่ห้องพักพี่เองเอาไว้เวลาฉุกเฉินกลับบ้านไม่ได้น่ะ"
"ขอบคุณคะ อรคงจะเพลีย เพราะไม่เคยพักพอได้พักเลยอยากพักยาวๆ" อรอุมาพูดหยอกๆ
"นอนเถอะ พี่ไปดูผลซะหน่อย" พูดจบก็เดินออกไป ที่จริงเขาเคยจะจีบเธอแต่เห็นเธอมีแฟนแล้วเลยอยู่ห่างดีกว่าจะได้ตัดใจ แต่อย่างว่าตัดยังไงก็ไม่ขาด ถึงไม่ได้พบโดยตรงได้เดินผ่านแผนกห้องผ่าตัดก็ยังดีอะไรทำนองนั้น แต่นี่เธอมาหาเขาถึงที่เลยนะ เขาก็เลยตื่นเต้นและใจสั่นๆ แต่ก็เก็บอาการได้เป็นอย่างดี
พี่หมอนาทเป็นรูปร่างฝรั่ง สูงโปร่งขาวแดง ตาคมเหยี่ยว จมูกโด่งคมสัน ปากหนาได้รูป หน้าออกไปทางพ่อ เพราะคุณพ่อหมอเป็นคนสหรัฐอเมริกา คุณหมอจึงหล่อ ในความคิดของอรนั้นคิดว่าเธอนั้นไม่คู่ควรกับหมอคนไหน เพราะเธอฐานะไม่ดี หมอส่วนมากรวยๆทั้งนั้นไม่งั้นก็จบเมืองนอกมา
อรอุมานอนคิดๆไปก็พล่อยหลับอีกครา แต่ครั้งนี้เธอฝันแปลกๆ "ถึงเวลาที่เจ้าควรกลับที่ที่เจ้าจากมาได้แล้ว ก่อนที่ข้าจะไม่มีที่อยู่" ภาพที่เธอเห็นคือสวนดอกไม้ที่งดงาม ภายในมีดอกไม้นาๆพันธุ์เบ่งบานมากมาย พอเธอได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจตื่น พร้อมกับได้ยินเสียงของพี่หมอเดินมาพลางถามผู้ช่วยว่า "เธอหลับอยู่รึ เดี๋ยวผมเข้าไปเอง"
หมอนาทเดินเข้าก็พบว่าอรอุมานั่งอยู่ด่อนแล้ว "ตื่นแล้วรึ ไปเดินเล่นกับพี่หน่อยไหม"
อรอุมารู้ทันทีว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ "พี่หมอพูดมาเถอะคะ ยังอรก็ต้องรู้นี่ค่ะ"
หมอนาทถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ "อรเป็นมะเร็ง ระยะเกือบจะสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องสะเทือนใจคงไม่ลามเร็วขนาดนี้ มีเรื่องอะไรให้พี่ช่วยไหม"
"ไม่มีอะไรคะ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่คะพี่หมอ" อรอุมาถามกลบเกลื่อน
"ให้พี่ไปส่งไหม ยังพักที่แฟลตโรงพยาบาลรึเปล่า" กัมปนาทถามเพื่อใก้แน่ใจ เขาไม่มั่นใจว่าเธอจะกลับห้องพักได้ "หรือไม่ก็พักที่นี่นะ ไม่ต้องกลับ"
"อรไม่เป็นไรหรอกคะพี่หมอ ขนาดโดนเพื่อนแย่งแฟนอรยังไม่เป็นไรนี่คะ พอดีว่าอรจะไปไหว้คุณแม่ที่วัดหน่อยน่ะคะ และคงค้างคืนที่นั้น อยากไปชาร์ตพลังหน่อยส่วนค่าบริการต้องคิดนะคะไม่งั้นอรไม่คุยกับพี่หมอจริงๆด้วย" ไม่ว่าเปล่ายังทำปากย่นๆเชิงว่าถ้าขัดใจมีงอล
พอมองเห็นท่าทีอ้อนๆของอรอุมาก็ทำเอากำแพงใจพังทลายลง ยิ่งได้ยินว่าเธอไม่มีแฟนในตอนนี้ยิ่งทำให้หัวใจแทบออกมาเต้นนอกอกได้เชียว "เอาอย่างนี้แล้วกัน ไว้น้องอรว่างเลี้ยงข้าวกับไปดูหนังกับพี่สักเรื่อง ok นะ"
"ฮ่าๆๆ เอาตามนั้นเลยคะ อรไปก่อนนะคะเดี๋ยวค่ำ see you next time" อรอุมาโบกมือลากัมปนาท
"คุณหมอคะ จะให้เธอไปจริงเรอคะ หนิงมองดูเธอไม่ ok เลยนะ" พยาบาลผู้ช่วยหมดกล่าว
"ผมห้ามเธอไม่ได้หรอกครับ ผมว่าบางทีให้เธอไปสงบจิตใจแบบดีก็ดีนะครับ ถ้าเธอกำลังใจดีขึ้นคงคิดได้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป" ในใจของกัมปนาทนั้นคิดว่า"พี่อยากให้อรคิดได้เร็วๆพี่อยู่ข้างอรเสมอ"
เมื่อออกมาจากคลีนิคของหมอนาท อรอุมาก็ตรงมาที่วัดแล้วเดินเข้ากุฏิที่เคยเป็นบ้านของเธอทันที คนที่วัดรู้ว่าถ้าอรอุมามาจะไปที่นั้นเลยจึงไม่มีใครใส่ใจ เพราะเธอบริจาคเงินให้วัดเป็นค่าเก็บกุฏิเก่าหลังนี้ไว้ ท่านเจ้าอาวาสวัดที่เห็นเธอมาแต่เล็กแต่น้อยก็ทำใจรื้อมันไม่ได้ จึงยังเก็บไว้เป็นที่พักใจให้เธอ
"แม่หอมจ๋าาาา อรคิดถึงแม่จัง ขออรไปที่ที่ไม่ต้องรับรู้เรื่องพวกนี้ได้หรือไม่คะ อรเจ็บปวดใจและกายเจียนตายแล้ว ฮือออออๆๆ" อรอุมาร้องไห้จนหลับไปพร้อมกับอ้อมกอดที่มีรูปแม่ชีหอมหอล
..................................................................................
ณ อีกฟากหนึ่งก็มีหญิงสาวอีกนางที่นั่งร้องไห้ปานใจจะขาด "ฮือๆๆๆ ทำไมท่านแม่ไม่พาข้าไปด้วยเจ้าคะ ลูกเหนื่อยเหลือเกิน"
หญิงสาวนางนี้มีหน้างดงามและตากลมโตสองชั้นตาดำใหญ่มาก คิ้วเรียวยาวสวย จมูกโด่งเหมือนลูกครึ่งฝรั่งปากรูปหัวใจสวย เค้าโคล่งหน้าเธอนั้นรูปไข่ไก่ รูปร่างสูงโปร่ง ใส่ชุดจีนโบราณ สีเขียวอ่อนหรือไม่ก็ซีดจนมองไม่เห็นสีที่แท้จริง ในระหว่างที่ร้องไห้นางก็เผลอหลับไป
"ที่นี่ที่ไหน" เสียงหญิงสาวสองคนพูดขึ้นพร้อมกับ เมื่ออีกคนได้ยินเสียงอีกคนก็หันมามอง ทั้งสองสบตากัน ต่างคนก็ต่างตกใจอีกคน
"เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงคล้ายข้ายิ่งนัก นี่ข้าตายแล้วรึ" หญิงสาวที่ใส่ชุดจีนโบราณกล่าวขึ้น
อรอุมาจึงถามว่า "เธอ เป็นใคร? มาจากไหน?"
"แล้วเจ้าเล่า"
"ฉันถามเธอก่อน เธอต้องตอบมาก่อนสิ ฉันถึงจะตอบเธอ" อรอุมาตอบกลับไป
"ข้าชื่อ ไป๋เจี่ยอิน ข้าอาศัยอยู่ในแคว้นเป่ยหนาน เป็นบุตรของเจ้าเมืองเสวี่ยเป่ย แต่แม่ข้าตายแล้วท่านพ่อก็ให้แม่รองขึ้นมาเป็นแม่ใหญ่แทน แล้วก็.......เจ้าล่ะ"
"ฉันชื่ออรอุมา ไม่มีครอบครัว หึๆ มีแฟนแต่โดนเพื่อนรักแย่งไป แถมยังป่วยเป็นโรคที่ใกล้จะตายแล้ว"
"เจ้าตายแล้วรึ งั้นข้าก็ตายแล้วสิ" เจี่ยอินกล่าวถามอรอุมา
"ฉันยังไม่ตาย เธอก็น่าจะยังไม่ตาย ที่โน่นเธอใช้ชีวิตยังไงเรอ" อรอุมาถามอย่างสนใจ
"ข้าไม่มีตัวตนในจวนหรอกนะ ข้าถูกไล่ออกมาจากจวน จึงเดินมาเรื่อยๆจนถึงวัดร้างนี่แหละ ก็มาพบเจ้า แล้วเจ้าล่ะ"
"ฉันเหรอ เป็นพยาบาล คือหมายถึงดูแลคนป่วยอะนะ แค่นั้นชีวิตไม่ทีอะไรเลย"
"งั้นเอาอย่างนี้ไหมเราลองเปลี่ยนกันไหม" เจี่ยอินกล่าว
"เธอหมายถึง สลับตัวกันเรอ คงยุ่งกันใหญ่....แต่ถ้าได้คงน่าจะดีนะ..."
อยู่ก็มีเสียงชายชรากล่าวว่า "พวกเจ้าจะทำเช่นนั้นจริงรึ"
ทั้งสองหันกลับไปมองก็พบว่ามีชายชรานั่งเอนหลังพิงต้นไม้ใหญ่อยู่
"ท่านเป็นใคร" เจี่ยอินถามขึ้น อรอุมาก็พยักหน้ารับ
"ข้าคือผู้ที่ทำให้พวกเจ้ามาพบกันยังไงละ"
""ก็นั้นแหละคุณตาเป็นใคร? ชื่ออะไร? จะได้เรียกถูกไง" อรอุมาพูดขึ้น
"ข้าคือเทพผู้ให้กำเนิด พอดีข้าส่งพวกเจ้าสลับกัน อีกอย่างพวกเจ้าคือฝาแฝดกันแต่ไม่สามารถเกิดด้วยกันได้"
"มีงี้ด้วยเรอ คุณตาอำป่าว" อรอุมาพูดขึ้น
"ตอนนั้นข้าพึ่งจะมารับหน้าที่เลยเบลอๆ แหมๆของมันผิดพลาดกันได้นี่นาาา ตอนนี้ข้าจะให้พวกเจ้าเลือกว่าจะทำอย่างไร"
ไป๋เจี่ยอิน กับ อรอุมามองหน้ากัน ยิ้มๆแล้วกอดกันครู่นึง อรอุมาจึงพูดขึ้นว่า "เราตกลงกันว่าจะสลับตัวกัน"
เจี่ยอินจึงกล่าวเสริมว่า"ท่านต้องให้พรเราด้วย เพราะท่านทำผิดพลาด"
อรอุมาพูดเสริมอีกว่า "แล้วพรนั้นต้อวคูณสองด้วย ถ้าให้พร 3 ข้อ ก็ต้องเพิ่มเป็น 6 ข้อ"
"ใช่ๆ เอาตามที่นางว่า" ไป๋เจี่ยอินกล่าวขึ้น
"พวกเจ้านี่....ทั้งพี่ทั้น้องเลย ก็ได้ๆ" เฮ้อ!นิสัยไม่เปลี่ยนเลยทั้งสองคน เทพผู้ให้กำเนิดคิดในใจ
"ขอถามก่อนใครเป็นพี่ ใครเป็นน้อง" อรอุมาข้องใจ
"เจ้าเป็นน้องนางเป็นพี่ เอ้ารีบขอ แล้วกลับเข้าร่างก่อน อีกสามวันข้าจะเรียกพวกเจ้ามาอีกที"
"เช่นนั้นเจ้าขอก่อน ข้า...เอ่ย...พี่จะขอทีหลังเอง" เจี่ยอินกล่าวแบบเขินๆ
"งั้นข้อแรกใก้พวกเราสามารถสื่อสารพูดคุยกันได้ตลอดเวลาและไม่เจ็บไข้ได้ป่วยใดๆถ้าตอนนี้ป่วยก็ให้หายป่วย" อรอุมากล่าว พร้อมกับผายมือให้เจี่ยอินขอข้อแรกเช่นกัน
"ได้ แล้วเจ้าล่ะ" เทพผู้ให้กำเนิดหันไปทางเจี่ยอิน
"ข้าให้พวกเรามีความสามารถในการจดจำเรื่องราวต่างๆทั้งยังสามารถเรียนรู้ได้รวดเร็วแม่นยำ"
เทพผู้ใหกำเนิดพยักหน้า
"ข้อ 2 ข้าขอให้พวกเรามีพรสวรรค์ที่เก่งกว่าใครๆไม่ว่าจะเป็น วรยุทธ์ที่เก่งกาจ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ร้อง รำ ทำเพลง ทุกอย่างที่มีในโลกนี้และโลกนั้น" อรอุมาพูดแบบรวมๆ
"มันไม่มากไปรึ เจ้าจะเอาทุกอย่างเลยรึ งั้นไปบอกไปเลยล่ะว่าเอาแบบเทพต่างๆบนสวรรค์" เฮ้อ
อรอุมาหันไปมองเจี่ยอินแล้วพยักหน้า เจี่ยอินจึงยิ้ม
"เช่นนั้น ข้อ 2 ของข้าเอาแบบที่ท่านว่ามา เอาทุกอย่างที่เทพต่างๆบนสวรรค์มีทุกองค์เลย" "ถ้าได้แบบเง็กเซียนฮ่องเต้ด้วยยิ่งดี"อรอุมาเสริม
เทพผู้ให้กำเนิดได้แต่ถอนหายใจ เฮ้อ!ไม่น่าพลั้งปากเลย "เจ้าจะบ้ารึ นางหนูนี่!"
"แหมข้าแค่ล้อเล่นน่า ท่านไม่ถือเด็กเช่นข้าหรอก ฮ่าๆๆ" อรอุมากล่าว
"ส่วนข้อ 3 พวกเราขออาวุธ สัตว์เทพ ของวิเศษต่างๆ ทุกอย่าง" เจี่ยอินกล่าว "ท่านต้องบอกว่า อาวุธทั้งในโลกนี้และโลกนั้นด้วย แล้วยังสามารถเรียกได้ตลอดเวลาด้วย" อรอุมาพูดขึ้น "ใช่ๆโลกนี้และโลกนั้นด้วย แล้วเรียกได้ตลอดเวลา เพราะพวกเรามาจากคนละที่กัน"
"ส่วนข้อ 3 ของข้านั้นขอเก็บไว้ก่อน เผื่อฉุกเฉินจะได้มีตัวช่วย" อรอุมาพูดพลางหันมายิ้มให้เทพผู้ให้กำเนิด
"เจ้านี่.......เฮ้อ!ช่างเถอะๆตามนั้นแหละ...หลังจาก 3 วันนี่มีอะไรก็รีบทำเสีย"
"ท่านตา แล้วพรทึ่ขอจะได้เมื่อใดรึ" อรอุมาถาม
"ตอนที่พวกเจ้าสลับตัวกันนั้นแหละ มันจะติดตามพวกเจ้าไป เอ้า!ไปได้แล้ว"
"เดี๋ยวก่อนคุณตา!" อรอุมาถอดแหวนเงินที่เธอสวมตั้งแต่เธอได้งานทำครั้งแรกให้ เจี่ยอิน"เอาไปแล้วให้คิดว่าพี่ยังมีฉันเสมอ" อรอุมาพูดพร้อมหันไปยิ้มให้เจี่ยอิน
"อืม ข้าจะไม่ลืมว่ายังมีเจ้าน้องข้า" เจี่ยอินดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาให้ อรอุมา"ข้าไม่มีสมบัติใด เจ้าเก็บมันไว้นะ"
เมื่ออรอุมาลืมตาตื่นขึ้นมา ด้วยเสียงระฆังตอนตี 4 กว่าๆ ก็พบว่าในมือตนนั้นกำผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งไว้แน่น "แปลว่าฝันนั้นคือเรื่องจริงสินะ งั้นเริ่มจากเขียนบอกเรื่องราวในอดีตไว้ให้พี่ดีกว่า" อรอุมาคิดเช่นนั้นก็ขับรถกลับห้องพักทันที
เช่นกันกับเจี่ยอิน เธอเดินทางเข้าไปในป่า สร้างเพิงเล็กๆอาศัยอยู่ แล้วเธอก็ออกไปจัดหาของที่พอจะเปลี่ยนเป็นาครื่องใช้ในครัวเรือนได้ แล้วเธอก็ตั้งชื่อใหม่ไว้ให้น้องสาวเธอว่า
เธอตั้งชื่อ แซ่ ไว้ให้น้องสาวว่า "จางชิงเยียน" แซ่โจว ชื่อหานหลิน คิดไปก็พยักหน้าไป เธอมองมือตนเองที่ด้านและแตกเลือดซึมจึงรีบไปต้มน้ำเพื่อล้างมือ "เราต้องดูแลตัวเองดีๆ ไม่งั้นเวลาน้องสาวมาจะเจ็บตัวได้" เธอบ่นกับตนเอง ใช่ตอนนี้นางไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว นางยังมีน้องสาวอีกคน แม้นว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่นางจะทำให้น้องสาวลำบากเพราะนางไม่ได้
นางเดินเท้าเข้าไปในเมือง ใช้ผ้าปิดหน้าไว้ ไปที่หลังจวน จวนหนึ่งแอบปีนทางต้น ฝไม้เข้าไป นางไม่เคยทำแบบนี้ แต่หลังจากที่นางได้รู้จักอรอุมา นางก็คิดนางต้องทำทุกอย่างเพื่อปูทางไว้ให้น้องสาวนาง
แม่ของนางนั้นเป็นหญิงสาวที่มาจากเมืองหลวง ไม่ใช่คนเมืองเสวี่ยเป่ย เป็นบุตรสาวคนที่ 8 ของจวนราชครู เป็นบุตรสาวของอนุคนที่ 5 ที่ไม่ได้ตั้งใจเพราะครอบครัวของยายเจี่ยอินนั้นเป็นความลับที่ไม่มีใครรู้แม้นกระทั้งท่านราชครูเองก็ไม่รู้ แต่ก่อนที่แม่ของนางจะสิ้นใจได้บอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างแก่นาง ดังนั้นนางก็จะบอกต่อแก่น้องสาว เมื่อตอนที่ไปจากที่นี่แล้ว ดังนั้นเจี่ยอินต้องไปเอาของสำคัญที่แม่ของนางให้ไว้ซึ่งนางซ้อนไว้อย่างดีในถ้ำเสือหรือก็คือในเรือนของฮูหยินใหญ่นั่นเอง เพราะเอาไว้ใกล้ตัวนาง ไม่มีทางที่นางจะรักษามันไว้ได้แล้วความลับของท่านยายก็จะถูกเปิดเผย
แต่เจี่ยอินคิดว่าอรอุมา น้องสาวเธอนั้นสามารถไปที่นั้นได้แน่นอน น้องสาวนางเก่ง น้องสาวนางฉลาด ดังนั้นนางก็ต้องเป็นที่พึ่งให้น้องสาวได้
เมื่อเจี่ยอินเข้าไปในจวนได้ นางรู้ว่าเวลาไหนเป็นช่วงที่จะปลอดคนและตรงจุดไหนจะไม่มียามเฝ้า จากนั้นก็เข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดหญิงรับใช้ด้วยความที่นางรำบากมาพักใหญ่ผิวจึงคลำและดูแทบไม่ออกว่านางคือใครเคยเป็นใครมาก่อน นางเดินไปที่เรือนฮูหยินใหญ่
"นี่เจ้าน่ะ เป็นใครหน้าไม่คุ้น" ฮูหยินใหญ่ถาม เมื่อเห็นสาวใช้ที่ไม่คุ้นหน้าเดินเข้ามาในเรือนตน
เจี่ยอินเคยมาครั้งหนึ่งแล้ว จึงกล่าวว่า "ข้าน้อย หลิงอันน้องสาวพี่หลิงอิน ที่เคยมาแทนพี่สาวเมื่อเดือนก่อนเจ้าคะ วันนี้พี่สาวไม่ค่อนสบายจึงให้ข้าน้อยมาแทนอีกครั้งเจ้าคะ"
"ออ เจ้าเคยมาครั้งนึ่ง อืม!ใช่ๆ จะไปทำอะไรก็ไปเถอะ" นางจำได้ว่าเด็ดคนนี้เคยมา แต่ตอนนั้นเด็กคนนี้ดูมีน้ำมีนวลกว่านี้ ตอนนี้ผอมลงมาก ช่างเถอะไม่ใช่เรื่องของนาง คิดเช่นนั้นก็เฉยไป
เจี่ยอินลอบถอนหายใจ จากนั้นก็เข้าไปทำความสะอาด ถูพื้น ปัดกวาด เหมือนไม่ได้สนใจอะไร เพราะนางรู้ว่ายังมีคนแอบสงสัยและมองนางอยู่ จึงทำเป็นว่าทำหน้าที่สาวใช้ตามปกติ จนได้เวลาที่ทุกคนตายใจนางจึงเดินไปหาหัวหน้าสาวใช้ "พี่สาวเจ้าคะ ข้าขอไปปลดทุกข์หน่อยเจ้าคะ"
หัวหน้าสาวใช้จึงพูดขึ้นว่า "เจ้าก็ทำงานหลายชั่วยามแล้วถือว่าไปพักด้วยแล้วกัน"
"ขอบคุณพี่สาวคนสวยเจ้าคะ" เจี่ยอินแอบชมหัวหน้าสาวใช้เพื่อให้นางไม่สงสัย จากนั้นก็รีบเดินไปทางห้องน้ำจริงๆ แต่เข้าไปแป๊บเดียว พอแอบมองก็เห็นว่ามีคนตามมาจริงๆ พอเห็นนางเข้าห้องน้ำพวกนางก็รีบเดินกลับไป พอพ้นหลังคนสอดแนมนางก็รีบวิ่งไปที่ข้างต้น เหม่ยฮวาแหวกต้นนิดนึงก่อนจะขุดโดยใช้ปิ่นไม้ขุดเมื่อมีคนเดินผ่านก็แสร้งว่าพรวนดิน จนพบกล่องเงินขนาดเท่าฝ่ามือ ที่รูปทรงของกล่องนั้นทำให้โค้งงอเหมาะแก่การเก็บซ่อน นางจึงยึดเข้าไปในขาแถวๆข้อเท้าแล้วเอาเชือกผูกไว้ เมื่อเสร็จเรียบร้อย นางจึงแอบวิ่งไปที่ห้องน้ำทำว่าพึ่งเดินออกมา เป็นจังหวะที่สางใช้สอดแนมกลับมาพบพอดี "พี่สาวคนสวยมาตามข้ารึ พอดีเลยจ๊ะข้าทำธุระเสร็จพอดี" นางไม่ลืมหยอดคำชม
สาวใช้นางนั้นได้ยิมว่าตนสวยก็ยิ้ม "อืม เห็นเจ้ามานานแล้ว ยังไม่กลับไปสักที เดี๋ยวก็โดนว่าเอาหรอก"
"พอดียืนนานทำให้มันช้านะเจ้าคะ เช่นนั้นเราเถอะเจ้าคะ" เจี่ยอินกล่าวแบบเกรงๆ เหมือนกลัวมาก จนเมื่อเสร็จงานตกค่ำ นางก็ออกมาจากจวน นางรีบเดินตรงไปที่เพิงเล็กๆหลังวัดร้าง
เมื่อครบ 3 วัน นางก็ล้มตัวลงนอนที่เพิง พร้อมกับกั้นทุกอย่างไว้อย่างดี
เช่นเดียวกันกับอรอุมา ที่ปิดโทรศัพท์ไว้เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
เมื่อทั้งสองได้พบหน้ากันก็กอดกันกลม พร้อมกับถามสาระทุกข์สุกดิบ
"พอๆๆได้แล้วพวกเจ้า เอ้า!นี่คือแหวนมิติที่สามารถเอาอะไรออกมาก็ได้ มันเป็นของพวกเจ้า หยดเลือดลงไปเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของมันซะ ออ!อีกอย่างมันเป็นแฝดกันหรือก็คือ มันคืออันเดียวกัน แต่พวกเจ้าอยู่คนละที่ สามารถเข้ามาหากันได้ แต่ไม่นาน เข้าใจนะ" เทพผู้ให้กำเนิดกล่าว
"ขอบคุณค่ะ/เจ้าคะ" เจี่ยอินและอรอุมากล่าวพร้อมกัน
เมื่อได้ทุกอย่างครบและร่ำลากันเรียบร้อย สองพี่น้องก็เดินหน้าไปแทนอีกคน
"น้องสาวพี่เจ้าอาจจะลำบากหน่อยนะ พี่ขอโทษ" เจี่ยอินกล่าวพร้อมน้ำตา
"เช่นกันค่ะ พี่ต้องเข้มแข็งนะ พี่ยังมีฉันเสมอเข้าใจนะ" อรอุมาพูดปลอบพี่สาวตนเอง
เจี่ยอินพยักหน้าตอบรับใช่ เธอต้องเข้มแข็งเพื่อน้องสาวเธอ
ทั้งสองสาวรับของทุกอย่างและพรที่ขอแล้วก็เดินกลับไปทันที
..................................................................................
อรอุมาที่อยู่ในร่างเจี่ยอินลืมตาขึ้นมา "นี่พี่อยู่แบบนี้รึ บ้าไปแล้ว ไหนว่าเป็นลูกสาวเจ้าเมือง...." เมื่อมองในมือตนก็พบว่ามีสมุดเล่มหนึ่ง ที่บอกเล่าเรื่องราวและชื่อใหม่ที่พี่สาวตั้งให้เธอ "อืม..ก็เพราะดี" เมื่อล้วงเข้าไปในอกเสื้อก็พบว่าพี่สาวเธอเขียนเล่าประวัติครอบครัวและความลับท่านยายของเธอ เธอจึงรีบเผาทิ้งทันที ที่เผาได้เพราะข้างที่นอนมีกองถ่านที่ที่มีไฟกองอยู่ พี่สาวคงกลัวว่าเธอจะหนาวแน่ๆ อรอุมาก็แอบยิ้มๆ
"ต่อไปนี้เราคือ จางชิงเยียน แซ่"จาง" ใช้ตามท่านยายเรอเนี่ย" เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็ลุกขึ้นมองซ้าย แลขวา
"งั้นก็ฝึกวิชาก่อนแล้วค่อยเดินทางทวงของที่จวนเจ้าเมือง ก่อนไปเมืองหลวง" คิดได้เช่นนั้นก็เข้าไปในแหวนมิติก่อนที่จะนั้งอ่านตำราเคล็ดลับวิชาต่างๆจนครบทุกเล่ม จากนั้นก็ออกมานั่งทำสมาธิเพื่อปรับสมดุลในร่างกาย "นี่โดนวางยาให้ไม่สามารถฝึกวรยุทธ์ได้เรอเนี่ย อื!แล้วฉันจะไปเอาคืนให้"
เมื่อเป็นเช่นนั้นเธอก็เข้าไปในแหวนมิติใหม่เพื่ออ่่นตำราแพทย์ รวมทั้งตำราอื่นๆทุกเล่นจนไม่มีให้อ่านอีก ด้วยพรที่ขอเธอจึงอ่านได้รวดเร็วแถมยังจำได้มั้งหมดอีกด้วย
แต่ด้วยพรอีกข้อ เธอจึงเอ่ยขึ้นว่า "ถูกวางยาก็ต้องป่วย รวมอยู่ในพรห้ามป่วย ท่านอย่ามาโกงข้า ขับพิษให้ข้าเลยนะท่าน" อรอุมาทวง
เทพผู้ให้กำเนิดที่กำลังนั่งคุยกับเทพโชคชะตา ได้แต่ถอนหายใจ
"ถูกของนางนี่น่า ท่านขัดไม่ได้หรอกนะ ฮ่าๆๆๆรีบทำมห้นางก่อนที่นางจะโวยวายดีกว่านะท่าน" เทพโชคชะตากล่าว
"ไม่ช่วยข้ายังจะมาซ้ำเติมอีก เฮ้อ!!" ว่าพลางล่ายเวทย์ขับพิษให้อรอุมาทันที
ชิงเยี่ยนนั่งลงทำสมาธิอีกครั้งก่อนทึ่รวบรวมสมาธิพุ่งไปที่จุดตันเถียนที่ท้องน้อยเพื่อเปิดเป็นตัวเชื่อมต่อ ซึ่งวิธีการคือทำจิต - กายแล้วลมหายใจออกเบา ๆ ยาว ๆ จนสุดปลายลมซึ่งตรงปลายลมนั้นให้คำเตือนหรือบอก "กับตัวเองถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของตัวเรากับธรรมชาติตามหลัก" เทียนเหรินเหออี "คนกับฟ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน
เมื่อเชื่อมติดแล้ว จะสัมผัสได้ถึง "พลังชี่" ที่เกิดขึ้น
"พลังชี่" คือการโจมตีถึงการทำงานของระบบกำลังทำงานของระบบปฏิบัติการพลังอำนาจสั่งสมจากที่ผู้ฝึกสามารถเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับอาการ "ของการเกิดพลัง ชี่ที่สำคัญคือความรู้สึกว่ามีคำสั่งไฟฟ้าแปลบปลาบที่ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างมีแรงขับและดูดซับสอดประสานกับเพลงรวมทั้งอาการชาเล็กน้อยของมือทั้งสองข้าง ในกรณีบางกรณีผู้ฝึกจะรู้สึกว่าเกิดกระแสอุ่นร้อนตรงข้ามบั้นเอวโดยเฉพาะจังหวะไตทั้งสองข้างทั้งอุ่นและสบายและอาการอื่น ๆ อีกมากที่ในยามปกติจะไม่เลื่อนหรือไม่แสดงอาการเหล่านี้
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!