NovelToon NovelToon

เด็กใจแตก (2)

คุยกันก่อน

**ขอคุยกันก่อน**

เดิมทีไรท์ตั้งใจว่าจะไม่ลงเล่ม 2 แบบรายตอน แต่ว่าเห็นยอดคนอ่านในเล่ม 1แล้วก็รู้สึกดีใจ และเห้นว่าเล่ม2วางขายในรูปแบบอีบุ๊คสักพักแล้วจึงตัดสินใจจะลงรายตอนให้อ่าน แต่คงจะต้องขออนุญาตติดเหรียญนะคะ และสำหรับใครที่ไม่อยากรอ สามารถเข้าไปอ่านในรูปแบบอีบุ๊คที่เมพมาร์เก็ตได้เลยค่ะ ราคา 79 บาทเองนะ

“จากรอยแผล ที่เคยทำร้ายตัวเองในอดีต

สู่การเลือกเดินทางเส้นใหม่ ด้วยวัยที่เติบโตขึ้น

เธอมองเห็นโลกที่ตัวเองอยู่ในอีกมุม

เธอเพิ่งเข้าใจว่าที่ผ่านมา เธอทำตัวเองเสียเวลาไปมาก

จากนี้ไปขอเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่และทิ้งอดีตที่เคยเลวร้ายไปทั้งหมด”

-แก้ม-

01

หลังจากวันนั้นมาฉันก็บล็อกเฟซบุ๊ก บล็อกไลน์ เปลี่ยนเบอร์ ตัดการติดต่อทุกอย่างจากพี่บูม ถึงจะไม่รู้ว่าเขาจะอยากติดต่อมาหรือเปล่าก็เถอะ เรื่องลุงคมฉันบอกกับแม่ไปตามตรง โดยมีไอ้เอ็กซ์ช่วยเป็นพยานให้ แม่ได้ฟังก็เข้าใจและเลิกกับลุงคมทันที อย่างน้อยตรงนี้ก็ทำให้ฉันเห็นว่า ฉันมองแม่ผิดไปเยอะมาก ถ้าฉันบอกเรื่องที่โดนลุงคมลวนลามทางสายตา ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เรื่องวันนั้นมันก็อาจจะไม่เกิดขึ้น นอกจากเลิกกับลุงคม แม่ยังพาฉันไปแจ้งความเอาผิดลุงคมด้วย ส่วนเรื่องไอ้เอ็กซ์… ที่มันถามฉัน ฉันก็ยังไม่ได้ให้คำตอบ ตอนนั้นสภาพจิตใจฉันยังไม่พร้อมจริง ๆ มันก็เข้าใจและยินดีจะรออยู่ในฐานะเพื่อน กว่าฉันจะผ่านจากการอกหักครั้งแรกมาได้ แทบตายเลยเหมือนกัน ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืนอยู่เป็นอาทิตย์ ดีที่ยังมีแม่คอยปลอบใจ มีไอ้เอ็กซ์คอยมากวน พาไปทำนั่นทำนี่ให้ลืม ๆ ไป ฉันยังคงร้องไห้ทุกวันแค่ไม่ได้ร้องตลอดเวลาเหมือนกับตอนแรก ร้องแค่ตอนที่อยู่คนเดียว ร้องแค่ก่อนนอนจนหลับไป พอตื่นเช้ามาก็บอกตัวเองให้ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด ‘ความรักเป็นสิ่งที่ทุกชีวิตต้องเจอ แต่ความรักมันก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต’ ฉันยังต้องเป็นลูกที่ดีของแม่ เป็นนักเรียนที่ต้องสอบเข้ามหาลัย จนถึงวันนี้ ผ่านมาปีกว่าแล้ว ฉันไม่รู้ว่าเลิกร้องไห้ก่อนนอนตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้อีกทีพี่บูมก็เป็นเพียงความทรงจำสีชมพูจาง ๆ ของฉันไปแล้ว แต่ถ้าเทียบกันจริง ๆ พี่บูมคงทรมานกว่าฉันเยอะที่ต้องทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก ไปตลอดชีวิต อ้อ! อีกเรื่องรถที่เกิดอุบัติเหตุวันนั้นเป็นรถของพี่บูมจริงแต่ว่าพี่บูมให้เพื่อนยืมไป ฉันรู้มาจากการไปส่องเฟซบุ๊กเพื่อน ๆ พี่บูม

ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า ฉันเลิกคิดเรื่องพี่บูมแล้วโฟกัสที่การเรียนมากกว่า

ปัง!! ปัง!! ปัง!! ปัง!!

“มึงเสร็จหรือยัง” เสียงไอ้เอ็กซ์ทุบประตูดังลั่นแต่เช้า วันนี้ฉันปฐมนิเทศวันแรก ตายแล้วสายแล้วด้วย จะโดนว้ากไหมเนี่ย มัวแต่งหน้าเพลินไปหน่อย

“สวยครับ สวยฉิบหายเลยไปเรียนวันแรก ตั้งใจจะไปกวาดตำแหน่งดาวเลยหรือไง” ไอ้เอ็กซ์โวยวายลั่น เราอยู่หอเดียวกัน ห้องติดกัน แม่ไว้ใจฝากให้มันช่วยดูแลฉันเพราะเรื่องลุงคมที่เกิดขึ้นวันนั้นแหละ

“หึงหรือไงจ๊ะ” ฉันเลยแกล้งแซวมัน ถึงเราจะไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่เราก็สนิทกันมากกว่าแต่ก่อนมาก

“ไป ไปสักทีเถอะ วันแรกก็พากูสายเลยนะมึง”

“ขี้บ่น อยากมารอเองทำไมล่ะ”

“ถ้าไม่รอ แล้วมึงจะไปยังไง จะเดินไหม ห้ะ”

“โอ๊ยไปสักทีเถอะเสียเวลา เพราะมึงบ่นกูนี่แหละ” จากหอมามหาลัยใช้เวลาอยู่พอสมควรกว่าจะหาคณะเจออีก ฉันเรียนวารสารศาสตร์ ส่วนไอ้เอ็กซ์เรียนโลจิสติก เราต้องแยกกันตั้งแต่ที่จอดรถแล้วนัดเจอกันอีกทีที่เดิม ถึงจะอยากอยู่ด้วยกันขนาดไหน แต่ความถนัดต่างกันฉันก็ไม่สะดวกจะฝืนตัวเองหรอกนะ

เป็นไปตามคาด กว่าฉันจะหาคณะเจอทุกคนก็นั่งรวมตัวกันหมดแล้ว มีรุ่นพี่ยืนห้อมล้อมแหกปากตะโกนแบบที่เขาร่ำลือกันเป๊ะ

“น้องครับ น้อง น้องคนสวยที่ยืนอยู่ตรงนั้นอะ คณะนี้หรือเปล่าครับ” พี่คนหนึ่งในกลุ่มร้องเรียกผ่านโทรโข่งฉันพยักหน้าตอบแบบเก้อ ๆ เขิน ๆ ทำให้คนทั้งคณะหันมามองฉันคนเดียว มันก็อายเหมือนกันนะ

“เอ้า ๆ มานั่งครับ” ผิดคาดคิดว่าจะโดนทำโทษ แต่ไม่โดน เขาแค่ให้ฉันเข้าไปนั่งรวมกับคนอื่น แค่มีรุ่นพี่ผู้หญิง กับผู้หญิงรุ่นเดียวกันมองจิกเฉย ๆ

“น้องชื่ออะไรคะ พี่จะเขียนป้ายชื่อให้” พี่คนหนึ่งเดินเข้ามาถาม เริ่มใหม่ ชีวิตใหม่ งั้นก็…

“ชื่อมามิค่ะ อูมามิ” สีหน้าของพี่คนเขียนชื่อแสดงออกถึงความหมั่นไส้อย่างชัดเจน ทำไมล่ะ คนชื่อแปลกกว่านี้ก็ยังมีถมไป

“นี่เธอ” เสียงของผู้ชาย..? ไม่แน่ใจว่าผู้ชายแท้ไหม ที่นั่งข้าง ๆ ฉันเรียกพร้อมสะกิดถาม ฉันแอบมองดูป้ายชื่อ ก็ชี้ชัดว่านางเป็นสาวสอง

“ห้ะ”

“อายแชร์โดว์ของอะไรอะ สีดี๊ดี” เขาว่าพลางชี้ไม้ชี้มือถาม

“แบรนด์เกาอะ”

“เราเจเล่นะ” นางพูดพร้อมชูป้ายชื่อขึ้นให้ดู ใช่ไหมล่ะ ผู้ชายที่ไหนจะชื่อเจเล่

“เราอูมามิ เรียกมามิก็ได้”

“ชื่อดัดจริตสุด” ฟังดูนางอาจจะจิก ๆ นะแต่ฉันกลับรู้สึกว่านางไม่มีพิษภัย เจเล่เป็นคนตัวใหญ่ผิวสี ผมเกรียนลักษณะคงปิดที่บ้านอยู่ เราแลกไลน์กันไว้เผื่อมีอะไรจะได้ติดต่อกัน เจเล่จึงถือว่าเป็นเพื่อนคนแรกของฉัน นอกเหนือจากไอ้เอ็กซ์

“สำหรับน้อง ๆ พี่ขอเตือนหน่อยนะครับว่าอย่ามาสายอีก วันนี้มีน้องมาสายหลายคน พี่จะยังไม่ทำโทษเพราะถือเป็นครั้งแรก แต่ถ้ามีครั้งต่อไปเราเจอกันแน่นอนครับ ส่วนเรื่องกฎระเบียบเราไม่ได้เคร่งมากนัก มีไม่กี่ข้อขอให้เคารพกฎด้วย แยกย้ายครับ”

“หล่อเนาะ” เจเล่เอียงมากระซิบบอกฉัน

“ใครอ่ะ” ฉันเลยแกล้งถามไปงง ๆ แต่จริง ๆ รู้อยู่แล้วว่าหมายถึงพี่ฌอนเฮดว้ากลูกครึ่งหล่อเข้มยืนเด่นอยู่คนเดียวนั่นแหละ

“หล่อนอย่ามาแอ๊บสตอกับฉันนะคะ ฉันจับเก่งนะบอกเลย” เจเล่หันมาค้อน ก่อนจะจีบปากพูดกับฉัน

“ขอโทษด้วยนะคะ ทางนี้ก็เทพธิดาการแสดงเหมือนกัน” ฉันพูดเล่นหยอกล้อกับเจเล่อย่างสนุกสนาน จนเราสองคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น ด้วยจริตของกะเทยในตัวเราทั้งสองคน

เสร็จจากกิจกรรมปฐมนิเทศฉันก็ไปกินข้าวกับไอ้เอ็กซ์ที่ร้านข้าวหน้าหอ หนทางแห่งการเอาชีวิตรอดของพวกเราสองคน อร่อยที่สุดเท่าที่กินมาในละแวกนี้

“วันนี้เป็นไงมั่งมีเพื่อนยัง” ไอ้เอ็กซ์ถามระหว่างที่นั่งรอข้าว

“ทำไมกูดูเข้ากับใครไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรือไง”

“ก็เออดิ ตอนอยู่มัธยมมึงมีเพื่อนสนิทไหมนอกจากกูเนี่ย”

“มีมึงแล้ว จะต้องมีใครอีกล่ะ”

“ตอนมัธยมมันก็ได้ไง กูดูแลมึงได้ตลอด แต่มาอยู่มหาลัยมันก็ยุ่งกว่าเดิม กลัวจะดูแลมึงได้ไม่ดีเท่าเดิม” หลังจากเรื่องวันนั้น เราสองคนแทบจะตัวติดกันตลอดจนใคร ๆ ก็มองว่าเราคบกัน

“พระเอกค่ะ พระเอกมากคำพูดคำจา”

“ไม่ใช่พระเอก เป็นพระรองดีกว่า กูเห็นพระรองแม่งดีกับนางเอกกว่าพระเอกเยอะ แต่นางเอกแม่งก็รักพระเอก”

“งั้นก็เสียใจด้วยที่กูเป็นนางร้าย” เราก็พูดเล่นพูดล้อกันจนข้าวมาเสิร์ฟ

“ขอโทษนะคะ” อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาที่โต๊ะเรา ด้วยท่าทางเป็นมิตร นางยิ้มให้กับไอ้เอ็กซ์ก่อนจะหันมาหาฉัน

“ครับ” ไอ้เอ็กซ์รีบเงยหน้าขึ้นตอบอย่างเร็วเลย แหมไม่ค่อยเท่าไหร่เลยนะมึง ต่อหน้าต่อตา

“เพื่อนพี่ให้มาขอไลน์น้องผู้หญิงได้ไหมคะ” พี่ผู้หญิงพูดพร้อมกับชี้ไปที่โต๊ะของตัวเอง ฉันตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าใครเป็นคนขอ มั่นใจว่าเขาเป็นคนขอแน่ ๆ เพราะคน ๆ นั้นก็คือพี่เค

“เอ่อ…”

“ไม่ได้ครับ” ฉันไม่ทันได้ตอบ ไอ้เอ็กซ์ก็ชิงตอบไปก่อน พี่ผู้หญิงพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้เราแล้วเดินกลับโต๊ะตัวเองไป

“ฮอตนักนะมึงไปมอวันแรกมีผู้ชายมาขอไลน์” มันหันมาแยกเขี้ยวตาเขียวใส่ฉันทันที

“ก็ขอนอกมอปะ” ฉันแกล้งแหย่ ยั่วโมโหมันเพราะรู้สึกว่าหน้ามันตอนดุดุน่ารักดี ฮ่าฮ่าฮ่า

“ก็นั่นแหละ ถ้ากูไม่มีใครมาจีบ อย่าหวังว่ากูจะยอมให้ใครจีบมึง” มันไม่ได้เพิ่งเป็นแบบนี้นะ มันกันคนนั้นคนนี้ไม่ให้จีบฉันมาตั้งแต่อกหักจากพี่บูม ฉันไม่ได้ให้สถานะว่าเราเป็นอะไรกัน ยังคงใช้คำว่าเพื่อนเหมือนเดิม มันก็ไม่ได้ขอฉันหลังจากครั้งที่ถามวันที่กลับจากบ้านพี่บูมมันเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น เราต่างไม่ได้พูดถึงมันอีกมีแค่หยอกล้อกันเล่น ๆ ส่วนเรื่องอย่างว่าเราก็มีบ้างประปรายแต่ไม่บ่อย ถ้าถามถึงสถานะของเราคงตอบได้ว่า ค่อนข้างอธิบายยาก

02

ผ่านช่วงปฐมนิเทศมาได้ก็มาวุ่นวายกับการคัดหรีดคณะ หาคนประกวดดาว ฉันไม่อยากจะบอกว่าตัวเองโดนชวนไปคัดหรีดอยู่วันละหลายรอบ แต่ฉันไม่อยากเป็นมันวุ่นวาย เลยตกลงกับพี่ที่ชวนไปประกวดดาวว่าจะลงประกวด ฉันว่าประกวดดาวอย่างน้อยมันไม่ต้องไปซ้อมให้มันยุ่งยาก แล้วก็เหนื่อยด้วย ฉันอยากมีอิสระกับชีวิตมหาลัย

“สวยไหม กระโปรงใหม่” ฉันอวดกระโปรงที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่ ไอ้เอ็กซ์กวาดตามองแล้วทำหน้าไม่พอใจนัก มันกวาดตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า มองแล้วก็ทำหน้างอคอหัก เห็นแล้วสนุกจัง ฉันชอบเวลาโดนมันดุ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน (ฟังดูโรคจิตเนอะ)

“กระโปรงเหี้ยอะไรของมึง” มันคำรามลั่น มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ โยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วหันมาทางฉัน

“กระโปรงนักศึกษาไง”

“สั้นขนาดนี้มึงไม่ต้องใส่หรอก จะไปเรียนหรือจะไปอ่อยผู้ชาย”

“ใครก็ใส่ปะ มึงก็ชอบดูนี่ เห็นเวลาพวกใส่สั้น ๆ เดินผ่าน มองตาเป็นมันเชียว” ฉันเลยประชดกลับ เห็นชอบมองจังเวลาคนอื่นใส่รัด ๆ สั้น ๆ ฉันใส่บ้างทำเป็นบ่น

“ชอบดู แต่ไม่ชอบให้มึงใส่ ผู้ชายมันก็ดูเอาสนุกตาเท่านั้นแหละ” มันตอบพร้อมกับชี้เข้าไปในห้องแทนการบอกให้ไปเปลี่ยน

“ดูเฉย ๆ ไม่ได้ควักเอาไปด้วยซะหน่อย ไม่เห็นจะแคร์เลย” ฉันนั่งลงบนเตียงอย่างไม่สนใจ มันละมือจากถ้วยมาม่า ที่เพิ่งจะยกซดหลังจากหยุดปากด่าฉันเมื่อครู่ แล้วหันมาหาฉัน ก่อนจะถอนหายใจอย่างเอือมระอา

“ถอดออกเลยนะ ถ้ากูอิ่มแล้วมึงยังไม่ถอด เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่”

“จะทำอะไรเหรอ” ฉันถามเสียงอ่อย มันไม่ตอบแล้วหันกลับไปกินมาม่าต่อ ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นต่อ อยากจะยั่วมันด้วยแหละ กลัวเหรอ มาสิ มาเลยหึหึ จริง ๆ น่าจะรู้จักฉันดีด้วยซ้ำ ไอ้เรื่องดื้อน่ะที่หนึ่ง

“นี่มึงจะลองดีกับกูใช่ไหม” ไอ้เอ็กซ์เดินเอาถ้วยมาม่าไปเก็บ แล้วเดินกลับมายืนกอดอกมองฉันที่ปลายเตียง

“อะไร”

“กูบอกว่าไม่ให้มึงใส่ไง ยังไม่ยอมถอดอีก” มันยังคงยืนกอดอกมองฉันอยู่แบบนั้น

“ไม่ได้ใส่ออกไปไหนสักหน่อย” แต่ฉันก็อยากจะเจอดี นอนเล่นมือถือไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ขยับไปไหนทั้งนั้น

“ก็นั่นแหละ ไม่ชอบ ถอด!!”

“ไม่ชอบเหรอ? มึงไม่ชอบแต่กูชอบนี่” ฉันลุกขึ้นนั่งแล้วตอบพร้อมกับทำหน้าท้าทายคนโมโห

“มึงจะถอดเอง หรือจะให้กูถอดให้”

“ไม่รู้สิ” ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง ก่อนจะพลิกตัวนอนคว่ำเล่นโทรศัพท์ต่อ โดยไม่สนใจคนที่มันยืนจ้องตาเขม่นอยู่ที่ปลายเตียง สะใจป่านนี้มันคงโมโหจนควันออกหูไปแล้ว

“สงสัยต้องลงโทษให้จำสักหน่อยแล้วมั้ง จะได้รู้ว่าไอ้กระโปรงนี่มันไม่ควรใส่” เอ็กซ์ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ แล้วกระซิบบอกกับฉัน ฉันหันไปยิ้มให้มันก่อนจะยักคิ้วทีหนึ่ง ไม่กลัวหรอกเอ็กซ์เอ๊ย บทลงโทษคือของหวาน

“อื้อออ” มันดึงฉันเข้าไปจูบแล้วพลิกขึ้นมาคล่อมฉันไว้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนตั้งตัวไม่ทันเลย

“ก็ดีเหมือนกัน เคยลองแต่ชุดนักเรียน ไม่เคยลองชุดนักศึกษาสักที”

“ไอ้บ้า!!” มือของมันว่องไวซุกซน ลูบไล้อยู่ที่ต้นขาแล้วสลับขึ้นมาลูบที่หน้าอกก่อนจะบีบขยำอย่างเคย มันปลดกระดุมเสื้อออกจนหมด แต่ไม่ได้ถอดเสื้อออก เพียงแหวกให้เปิดเห็นบลาข้างในมันซบหน้าลงบนเนินอกถูไถหน้าสูดกลิ่นกายจนพอใจ แล้วจึงถลกบลาขึ้นจากนั้นก็ก้มลงดูดเลียที่เนินอกสีชมพูคล้ำอย่างหิวกระหาย

“อื้อ…” ฉันแอ่นอกรับสัมผัสนั้นอย่างพอใจ ลีลาของมันพัฒนาขึ้นจากเดิมมาก เพราะมีคู่ซ้อมมากฝีมือที่เข้ามาหลากหลาย มันมักจะพูดเสมอว่าถ้าแค่คิดจะขำ ๆ ด้วย มันชอบคนมีประสบการณ์มากกว่าสนุกกว่าเยอะ ได้เรียนรู้ ได้ลองอะไรใหม่ ๆ แต่สุดท้ายคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตคงเป็นคนที่เป็นของเราคนเดียว ได้ยินแบบนั้นจริง ๆ ก็แอบใจสลายนะ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันมันผ่านใครมาบ้างแล้วก็ไม่รู้นี่

มือเริ่มล้วงเข้าไปใต้กระโปรงเพื่อถอดชั้นที่อยู่ข้างในออกจากนั้นก็ทำตามขั้นที่ควรจะเป็นต่อไป ทุกครั้งฉันไม่เคยลืมที่จะป้องกัน มันไม่เพียงแค่ช่วยไม่ให้พลาดแบบเรื่องนิ้งกับพี่บูม แต่เราไม่รู้ว่าคนที่เราจะนอนด้วยมีโรคอะไรที่จะเอามาแพร่ให้เราหรือเปล่าการป้องกันมันก็ไม่ได้ยากหรือเสียเวลา จนเสียอารมณ์ขนาดนั้น คำว่าพลาดน่ะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีแถมแก้ไขอะไรก็ไม่ได้ แต่ผลของคำว่าพลาด บางทีก็อาจจะต้องอยู่กับเราไปจนตลอดชีวิต ฉันไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงหรอก

ผ่านไปสักพักทุกอย่างก็สิ้นสุดลง ไอ้เอ็กซ์ลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนฉันค่อยอาบทีหลัง ถึงเราจะอยู่คนละห้องแต่ข้าวของฉันบางส่วนก็อยู่ในห้องมัน เพราะฉันมาที่นี่บ่อยตั้งแต่มาอยู่หอมานอนที่ห้องมันหลายครั้งแล้ว

“เอ็กซ์ ทำไร” ฉันเดินออกจากห้องน้ำมานั่งบนเตียง

“เล่นเกม ทำไม” มันตอบทั้งที่ตายังมองอยู่ที่โทรศัพท์

“เช็ดผมให้หน่อย”

“ไม่เอา เช็ดเองดิกูไม่ว่าง” มันตอบย่างไม่คิด แถมยังเล่นเกมต่อ โดยไม่สนใจคำพูดของฉันเลย

“ไอ้เอ็กซ์ กูบอกให้เช็ดผมให้หน่อย!!” ฉันเริ่มขึ้นเสียง ปกติแล้วฉันจะเอาอะไร ฉันก็จะเอาให้ได้ แล้วมันก็ต้องยอมด้วย

“เออ ๆ จบตานี้ก่อน” มันตอบมาส่ง ๆ เหมือนแค่อยากให้ฉันหยุดเซ้าซี้

“ไม่!! เดี๋ยวนี้!!” แต่คนเอาแต่ใจ ก็คือคนเอาแต่ใจ ฉันไม่ยอมหรอก

“โหแก้มกูเล่นเกมแปบ นะ ๆ นะแก้มนะ” จนตอนนี้มันยังคงจ้องอยู่ที่โทรศัพท์มือกดยิก ๆ ไม่หันมามองฉันสักนิด ได้จะเอาแบบนี้ก็ได้

“ไม่เป็นไร กูว่าจะหาแฟนสักคนที่พร้อมจะ…”

“เออ มาแล้วนี่ไงเอาผ้ามา” ฉันยังพูดไม่ทันจบมันก็วางโทรศัพท์ลง แล้วเดินมาหาฉันบนเตียง หือนึกว่าจะแน่

“ไม่เล่นแล้วเหรอเกมน่ะ”

“ช่างแม่งสักตา ทำอะไรเสร็จค่อยเล่นก็ได้” ฉันยิ้มอย่างงผู้ชนะ แบบนี้ก็ตลกไปอีกแบบ ฉันเคยเป็นคนติดเกมมาก่อน รู้ดีกว่าการจะทิ้งเกมไปทำอะไรสักอย่าง เรื่องที่จะทำมันต้องสำคัญมาก ๆ มากแบบมาก ๆ

“ปล่อยแม่งซะยาว เช็ดก็ยาก เช็ดไม่เป็นก็ต้องมาเช็ดให้มึง” มันบ่นไปเช็ดไป

“ลำบากมากก็ไม่ต้อง เดี๋ยวกูโพสต์หาแฟนเดี๋ยวนี้เลย” ฉันเลยหันไปจะแย่งผ้าจากมือมัน

“เออ ๆ ไม่เป็นก็ หะ หัดไว้ไง ใจเย็นดิวะ กะ…กูหมายถึง กูทำไม่เป็นมันอาจจะช้า”

“กูรอได้ ขี้บ่นนักนะมึงอะ” พอเช็ดผมเสร็จแล้วเราก็ออกมาหาอะไรไปไว้กินในห้องตอนดึกๆ

ที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ หอพัก

ฉันเดินไปเลือกพวกน้ำอัดลมไปใส่ไว้ในตู้ เพิ่งย้ายเข้าเลยยังไม่ค่อยมีของอะไร

“อยู่หอกับแฟนเหรอ” เสียงคุ้นหูดังขึ้นข้าง ๆ ฉันวางกระป๋องน้ำอัดลมลงในตะกร้าแล้วหันไปหาเจ้าของเสียง

“พี่เค”

“นึกว่าลืมไปแล้วนะเนี่ย”

“มาเรียนไกลเนอะ”

“เราก็เหมือนกัน สบายดีนะ”

“สบายดี ตั้งแต่แม่เลิกกับพ่อพี่ ชีวิตก็มีความสุขขึ้นเยอะ” ฉันเลยพูดประชดไป

“พ่อแม่เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว พี่ก็จีบแก้มได้แล้วดิ”

“ไม่!!” ฉันตอบเสียงแข็ง ถ้าคบกันลุงคมก็ต้องมาวนเวียนในชีวิตพวกเราอีก ถึงไม่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรกับพี่เคอยู่ดี

“ทำไมอะ พี่ยังรอแก้มอยู่นะ”

“ไม่ได้ขอร้องให้รอ แต่จะขอให้เลิกรอ แก้มไม่ชอบพี่”

“แต่พี่ชอบ….ลีลาของแก้มนะ” พี่เคก้มลงกระซิบประโยคหลัง ฉันไม่สนใจและรีบเดินหนีมาหาไอ้เอ็กซ์ พอจ่ายตังก็ชวนมันกลับห้องเลย ตอนออกมาข้างนอกยังมองเห็นพี่เคมองมาที่เราอยู่เลย ทำไมโลกมันกลมแบบนี้ ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วยังจะตามมารังควานอีก นี่สินะผลของคำว่าพลาดที่มันคงจะติดตัวฉันไปตลอดชีวิต

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!