NovelToon NovelToon

รักครั้งใหม่ของหญิงมีพิษ

กำเนิดใหม่

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมชื่อ ลูกน้ำ นรินทร์ เมืองฤดี อายุ 30 ปี ตอนนี้ผมพึ่งเป็นวิญญาณมาหมาดๆ เนื่องจากผมเสียชีวิตด้วยการสำลักน้ำมูกตัวเอง ใช่! คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมสำหรับน้ำมูกตัวเอง ตาย!!! อนาถฉิบหาย

และตอนนี้ผมก็มาอยู่ตรงหน้าฆาตกรที่ฆ่าผมแล้ว

"ก็บอกแล้วไงว่าข้าไม่ได้ฆ่าเจ้า" นี้คือเทพแห่งโชคชะตาของผมครับ เขาเป็นคนดึงวิญญาณของผมมาจากร่าง และข้างๆ ผมก็มีเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่ใส่ชุดจีนโบราณหน้าตาสะสวยนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ผม

"ท่านช่วยข้าด้วยเถิด" และเธอกำลังขอร้องให้ผมไปอยู่ในร่างของเธอและแก้แค้นให้เธอได้สำเร็จ

นางเล่าว่านางชื่อ ไป๋เหมยหลิน อดีตฮองเฮาที่ถูกเจียงกุ้ยเฟยใส่ร้ายว่าฆ่าลูกของนาง จึงต้องอาญาให้ไปอยู่ตำหนักเย็นเพราะบิดาของนางได้ขอเอาไว้ เดิมทีนางเป็นคุณหนูรองตระกูลไป๋ เป็นลูกสาวท่านราชครู ซึ่งเป็นอาจารย์ของกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ นางตกหลุมรักองค์ฮ่องเต้ ซ่งจินหลงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ

"เอ่อ....10 ขวบนี่ ผมยังกระโดดน้ำคลองเล่นอยู่เลยนะ" เหมยหลินก้มหน้าด้วยความเขินอาย ก่อนที่จะเล่าต่อ

นางก็เลยไปขออดีตฮ่องเต้ออกสมรสพระราชทานเพื่อให้นางได้เป็นฮองเหาคู่บัลลังก์ฮ่องเต้ แต่ซ่งจินหลงผู้นั้นดันมีคนรักอยู่แล้ว ดังนั้นพอนางแต่งเข้าวังไปเขาก็ไม่ได้เข้าหอกับนางซ้ำยังรังเกียจเดียดฉันท์นางอย่างกับสัตว์เดรัจฉาน นางถูกเจียงกุ้ยเฟยพี่เป็นคนรักขององค์ฮ่องเต้ใส่ร้ายว่าฆ่าลูกสาวองค์แรกของเขา เลยปลดนางออกจากตำแหน่งฮองเฮา และแต่งตั้งเจียงกุ้ยเฟยขึ้นเป็นฮองเฮาแทน นับตั้งแต่นั้นนางก็ถูกฮองเฮาองค์ใหม่ทำร้ายร่างกายมาตลอดโดยที่องค์ฮ่องเต้ไม่ได้รับรู้ จนถึงแก่ความตาย นั้นเลยทำให้นางแค้นใจเป็นอย่างมาก นางไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตและไม่เคยทำร้ายใครก่อนเหตุใดนางถึงต้องพบชะตากรรมเช่นนี้

พอผมฟังแล้วก็รู้สึกว่านี่มันพล็อตนิยายหรือยังไง พระเอกคือ ฮ่องเต้ ฮองเฮาองค์ใหม่คือนางร้ายที่แอ๊บเป็นนางเอก อดีตฮองเฮาก็คือนางเอกตัวจริง แต่ขอโทษ! พระเอกโง่เง่ามองมารยาหญิงไม่ออกอย่างนี้ กูไม่เอา! พระเอก อะไรนะ อ่อนโยน รักความยุติธรรม แต่อดีตฮองเฮาถูกใส่ร้ายมึงไม่ถามอะไรเขาสักคำ พอคนรักออกปากว่าเป็นเหมยหลินเชื่อคนรักแม่งทุกคำ ลูกของตัวเองหรือเปล่าก็ไม่รู้

โว้ยยย คิดแล้วก็หงุดหงิด

"เจ้าตกลงช่วยนางเถอะ ด้ายแดงนางกับฮ่องเต้ได้ขาดออกจากการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ร่างของนางก็เป็นของเจ้าแล้ว" ผมเงียบไปสักพัก

"ก็ได้ ช่วยก็ได้ แต่ขอพร 3 ข้อ ผมถึงจะยอมช่วย ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะไปป่าวประกาศทั่วสวรรค์ว่าเทพแห่งโชคชะตาทำงานผิดพลาดดึงวิญญาณที่ยังไม่หมดอายุขัยออกมาตามใจตนเอง" เมื่อได้ยินดังนั้นเทพแห่งโชคชะตาก็ถึงกับเหงื่อตก ต้นเป็นเทพมาเป็นหมื่นปียังไม่เคยเห็นใครกล้าขู่เทพขนาดนี้มาก่อน

"ได้" เทพแห่งโชคชะตากัดฟันตอบ

"ข้อแรก ขอให้เหมยหลิน มีความรักที่ดีและมีคนรักที่ดีด้วย ชาตินี้ทุกข์ทนทรมานมามากพอแล้ว ต่อไปก็ขอให้นางมีความสุขก็แล้วกัน" เหมยหลินรู้สึกซาบซึ้งใจทั้งๆ ที่พวกเราไม่รู้จักกัน แต่เขาก็ขอพรให้นางได้มีความสุข

"ข้อสอง ขอให้ร่างที่ผมได้เข้าไปอยู่เป็นวิชกัญญา"

"เดี๋ยว วิชกัญญา คืออะไร" เทพแห่งโชคชะตาถามด้วยความสงสัย

"วิชกัญญา คือ ผู้หญิงที่ร่างกายอาบไปด้วยยาพิษที่รุนแรงเป็นอย่างมากทำให้ผิวของพวกนางเปลี่ยนเป็นสีฟ้าหรือน้ำเงิน ทุกส่วนในร่างกายของนางก็คือพิษ ไม่ว่าจะเป็น เลือดหรือน้ำตา สิ่งที่สามารถพลางร่างกายที่เต็มไปด้วยยาพิษของนางได้ก็คือใบโหระพาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นและวิชกัญญาจะสามารถถ่ายทอดอำนาจนี้ให้แกบุตรสาวคนแรกของนางเท่านั้น ผมขอพรนี้เพื่อใช้ป้องกันตัว" เทพแห่งโชคชะตาถึงกับอึ้งทันทีที่ได้ยินเรื่องเหล่านี้ออกมาจากปากของผม และยิ่งอึ้งมากไปกว่าเดิมเมื่อได้ยินความคิดของผม

'เลือดเพียงหยดเดียวก็สามารถฆ่าได้ทั้งกองทัพ'

"ได้ พรข้อนี้ได้" เทพแห่งโชคชะตาบอกออกไปอย่างข่มขื่น เพราะว่าตนรับปากไปแล้วว่าจะให้พรตามที่ลูกน้ำขอ

"ข้อสุดท้าย ขอสร้อยคอ สร้อยข้อมือ และสร้อยข้อเท้า เป็นสร้อยใบโหระพาทั้งหมด แล้วก็ขอให้ผมมีลูกชายด้วย"

"ได้ ข้าจะให้ของขวัญอีกชิ้นหนึ่งก็แล้วกัน" พอจบคำพูดของเทพแห่งโชคชะตาแสง 5 สีก็พุ่งตรงมายังร่างกายของผม ก่อนที่เทพแห่งโชคชะตาจะส่งผมเข้าร่างของเหมยหลิน

......สนุกแน่งานนี้.....

ฆาตกรคนแรก

ทันทีที่รู้สึกตัวในร่างของเหมยหลินเขาก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ไหลทะลักเข้ามา ความทรงจำของร่างนี้พร้อมกับวิญญาณของเขาจนหมดสิ้น ความเจ็บปวด อาฆาตแค้น ไม่เข้าใจ เศร้า ความรู้สึกมันปนกันจนจะแยกไม่ออกอยู่แล้ว เหมยหลินไม่มีบ่าวรับใช้ส่วนตัวเพราะว่าสาวใช้คนสนิทของเหมยหลินนั้นถูกคนของฮองเฮาฆ่าตายอย่างทรมาน

"ฮองเฮาและพวกเจ้าทุกคนต้องได้รับผลกรรมอย่างสาสม" ข้าเหมยหลินคนใหม่ ได้กลับมาแล้ว กลับมาทวงแค้นที่พวกเจ้าทุกคนได้กระทำไว้กับข้า แต่ตอนนี้นางต้องทักเรื่องแก้แค้นไว้ก่อน นางต้องหาทางฟื้นฟูร่างกายของตัวเอง

เหมยหลินก้มดูร่างกายของตัวเองก็พบว่าร่างของนางนั้นเป็นสีน้ำเงิน นั่นทำให้เหมยหลินหรือว่าเรื่องที่นางไปพบเทพแห่งโชคชะตาเป็นความจริง ข้างกายของนางมีสร้อยใบโหระพาปรากฏอยู่ เหมยหลินจึงหยิบสร้อยเส้นนั้นขึ้นมาสวมแล้วสีผิวของนางก็ค่อยๆ กลับมาเป็นปกติ

"เจ้ายังไม่ตายอีกหรือ อดีตฮองเฮา" เสียงเย้ยหยันดังออกมาตรงประตู แม่นมที่คอยเป็นผู้เสี้ยมสอนฮองเฮาคนใหม่ให้ทำเรื่องเลวร้ายต่างๆ นี่เอง

"เจียงกุ้ยเหมย สั่งเจ้าให้มาทำร้ายข้าอีกแล้วหรือ"

เพี๊ยะ!! อันหยางตาวาวโรจน์ก่อนที่จะเดินเข้ามาตบหน้าของเหมยหลินจนเลือดซิบ

"ช่างรนหาที่ตาย ฮองเฮาเป็นใคร แล้วเจ้าเป็นใคร ถึงได้มาเรียกชื่อมารดาของแผ่นดินเช่นนี้" เหมยหลินยิ้มเย้ยหยัน

"มารดาของแผ่นดิน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ นางน่ะเหรอ แม้แต่ลูกในไส้ของตัวเองนางยังฆ่าได้ ยังกล้าตั้งตัวขึ้นมาเป็นมารดาของแผ่นดินอีกหรือ ช่างน่าขันยิ่งนัก" อันหยางตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธปนความหวาดกลัว นางรู้ได้อย่างไร

"อันหยางเอ๋ยอันหยาง เจ้าแก่จนจะโลงอยู่แล้ว ยังกล้าทำเรื่องเลวร้ายขนาดนี้อีก เจ้าฆ่าฟางลี่ สาวใช้ของข้า" ด้วยความแค้นที่ท่วมท้นอยู่เต็มอกทำให้เหมยหลินไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป ภาพของฟางลี่ยังปรากฏอยู่ในหัวไม่เคยลบเลือนไปไหน นางต้องตายอย่างทรมาน

"หากเจ้าหายไปสักคน เจียงกุ้ยเหมยจะทำอย่างไรนะ เมื่อไม่มีคนที่จะคอยฆ่าผู้อื่นแทนนาง" เหมยหลินยิ้มออกมาอย่างเย็นชาแล้วสืบเท้าเข้าไปหาอันหยางที่ตอนนี้กำลังตัวสั่นอย่างหวาดกลัว

อันหยางกำลังคิดว่าอะไรที่ทำให้นางสวะนี่เปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้ แววตาเย็นชา ความเจ็บปวดได้แสดงออกมาจากมือข้างที่นางใช้ตบเหมยหลิน

"จ...เจ้าทำอะไรข้า" อันหยางกุมมือของนางที่กลายเป็นสีม่วงคล้ำไปหมดแล้ว แต่เหมยหลินทำหน้าไร้เดียงสาก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างสำราญใจ

"ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเจ้าเลยนะ มีเจ้านั่นแหละ ที่เข้ามาตบข้า" ท่าทางยียวนกวนประสาทของเหมยหลินทำให้อันหยางโกรธเป็นอย่างมากและตรงเข้ามาทำร้ายเหมยหลิน

แต่เหมยหลินหลบท่านถึงแม้ร่างกายของเราจะอ่อนแอ แต่จะให้หลบนังแก่หนังเหี่ยวอย่างอันหยางก็ไม่ใช่เรื่องยาก และเหมยหลินก็ข่วนใบหน้าของอันหยางจนเป็นแผล

"กริ๊ด!!! ใบหน้าของข้า"

"จะกรีดร้องอย่างคนเสียขวัญไปไยเล่า ในเมื่อใบหน้าของเจ้ามันก็อัปลักษณ์เกินทนอยู่แล้ว" ฉับพลันใบหน้าที่เป็นปกติของอันหยางก็บวมขึ้นยังดูไม่ได้ นางมั่นใจแล้วว่าจะต้องโดนพิษอย่างแน่นอน

"นังเหมยหลิน เจ้าทำอะไรข้ากันแน่" เหมยหลินมองอันหยางด้วยความเวทนา แต่อันหยางรู้ว่าคนตรงหน้าเสแสร้งสิ้นดี

"ข้าสงสารเจ้าหรอกนะ เห็นว่าใกล้ตายแล้ว ข้าจะช่วยสงเคราะห์บอกให้ก็แล้วกัน อันหยางเจ้าหญิงมีพิษหรือไม่" อันหยางส่ายหน้า

"หญิงมีพิษ คือผู้หญิงที่ร่างกายอาบไปด้วยพิษร้ายแรง ทุกส่วนในร่างกายของนางก็คือพิษ เลือดเพียงหยดเดียวของนางก็สามารถฆ่าคนให้ตายได้อย่างทรมาน" อันหยางเบิกตาขึ้นกว้าง หรือว่า....

"ใช่ อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ อันหยาง" ทันใดนั้นร่างกายของนางก็มีปฏิกิริยารุนแรงต่อเหมยหลิน อันหยางพยายามตะเกียกตะกายหนี แต่มันก็ช่างยากเย็นเหลือเกินในเมื่อความเจ็บปวดยังเล่นงานร่างกายของนางซ้ำๆ จนแทบทนไม่ไหว

"ครานั้นเจ้าฆ่าฟางลี่ จับนางแขวนคอต่อหน้าข้าทั้งๆ ที่นางไม่ได้ทำความผิดอะไร มาได้วันนี้เจ้ากลับหนีความตายของตัวเองหรือ แต่น่าเสียดายที่เจ้าจะไม่มีโอกาสรอดกลับไปหาฮองเฮาผู้เป็นที่รักของเจ้าแน่" เหมยหลินเข้าไปจับขาของอันหยางแล้วกระชากออกมาอย่างรุนแรง

"อ้วยอ้วย (ช่วยด้วย!!!) " ปากของนางไม่สามารถพูดได้อีกต่อไปแล้ว นางหวาดกลัวจับใจแล้วร้องไห้อย่างเวทนา แต่เหมยหลินก็ไม่มีความสงสารให้แม้แต่นิดเดียว

ตอนที่ฟางลี่ขอร้องนางแทบเป็นแทบตายแต่ก็ไม่สำเร็จซ้ำยังแขวนคอนางต่อหน้าเหมยหลิน ที่ตอนนั้นก็ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสไม่มีแรงที่จะเข้าไปช่วยสาวใช้ที่เป็นดั่งเพื่อนสนิทของตนเอง

"เจ้าจะร้องขอความช่วยเหลือไปไย ลืมไปแล้วหรือว่าฮองเฮาของเจ้าสั่งให้ทหารออกไปจากตำหนักเย็นแห่งนี้จนไม่เหลือใครที่จะช่วยเจ้าอีกต่อไปแล้ว" ยิ่งได้ฟังอันหยางก็ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก

"เอาล่ะ ข้าหมดสนุกแล้ว" เหมยหลินเข้าไปกระชากผมของอันยางอย่างรุนแรง

"มองตาข้า แล้วบอกข้ามาสิเจ้าเห็นอะไร" ทันทีที่ได้เห็นหน้าของเหมยหลินอันหยางก็กรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว สิ่งที่นางเห็นก็คือใบหน้าและดวงตาที่เป็นสีน้ำเงินของเหมยหลิน

อันหยางโดนบังคับให้กินเลือดของเหมยหลินแล้วก็โดนบังคับให้กลืนลงไปในท้อง

"อื้อ!! อื้อ!!! " กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่เต็มปากอันหยางพยายามจะอาเจียนออกมาแต่ก็ไม่ทันแล้ว ร่างท้วมของอันหยางสั่นกระตุกอย่างรุนแรง ตามร่างกายของนางมีเลือดออกมาเยอะมาก เมื่อใกล้ความตายเข้ามาอันหยางก็ยิ่งเห็นเหตุการณ์ที่นางฆ่าคนมากมายเพื่อฮองเฮา รวมถึงสาวใช้ของอดีตฮองเฮาด้วย นางกำลังคิดว่าที่นางโดนอยู่ตอนนี้มันคือผลกรรมที่ได้นางทำไว้หรือเปล่า ความทรมานปรากฏเด่นชัดอยู่ตามร่างกายไม่มีท่าทีว่าจะหายไปเลยสักนิด อันหยางเริ่มคิดได้แล้วว่าการทำลายชีวิตผู้อื่นมันมีผลต่อตนเองอย่างไร แต่มันสายเกินกว่าจะแก้แล้วในความคิดสุดท้ายของนางเช่นนี้อีกแล้วถ้านางย้อนเวลากลับไปได้นางจะไม่สอนให้ฮองเฮาของนางมีจิตใจที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ สุดท้ายนางก็ตายอย่างทรมานสาสมกับกรรมที่นางได้ก่อไว้

เหมยหลินมองดูอันหยางค่อยๆ ตายอย่างทรมานด้วยสายตาที่เย็นชา แต่ในเวลานั้นกลับมีน้ำตาไหลออกมาเป็นทางยาว ตัวของนางสั่นเทิ้มแต่นางก็พยายามสะกดเอาไว้

เหมยหลินร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น ชาติก่อนนางเป็นแค่คนธรรมดาไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มาชาตินี้ความแค้นที่ท่วมท้นเต็มอยู่ในหัวใจสั่งให้นางต้องเข้มแข็ง และไร้หัวใจเข้าไว้ รักครั้งนี้สอนให้นางรู้ว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้างเพื่อรักครั้งแรกที่นางทุ่มเทให้ไป

เมื่อนางสงบสติอารมณ์แล้วก็ลุกขึ้นแล้วตรงไปยังส่งของแม่นมอัน เหมยหลินสวมสร้อยคอกลับไปเหมือนเดิมแล้วลากศพของอันหยางออกไปนอกตำหนักเย็น

เหมยหลินเดินอย่างยากลำบากเพราะลากศพอยู่นางเดินตรงไปตามความทรงจำมุ่งหน้าไปทางอุทยานหลวง แล้วทิ้งศพของแม่นมอันไว้ที่นั่น และเดินกลับตำหนักเย็นอย่างใจเย็นระหว่างทางเหมยหลินก็ทำลายหลักฐานต่างๆ ที่จะสาวไปถึงตัวนางได้อย่างเงียบเชียบ

วันต่อมาก็มีข่าวในวังว่าแม่นมอันของฮองเฮาได้เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองและไม่มีใครหาสาเหตุการตายได้ คนที่ได้รับรู้ข่าวก็ต่างพากันสงสารฮองเฮาเป็นอย่างมากนอกจากนางจะเสียลูกไปแล้วก็ยังเสียแม่นมที่เลี้ยงดูนางมาตั้งแต่ยังเล็ก แต่คนบางกลุ่มที่แม่นมอันกลั่นแกล้งก็ต่างสะใจกันถ้วนหน้าซ้ำยังกล่าวอีกว่านางสมควรโดนแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าแม่นมอันมีนิสัยโหดร้ายแค่ไหน รังแกนางกำนัลเล็กๆ อยู่ร่ำไป ข่าวการตายของแม่นมอันในครั้งนี้สร้างความสะใจให้แก่หมู่นางกำนัลเล็กๆเป็นอย่างมาก

และไม่มีใครสงสัยว่าแม่นมอันไปทำอะไรที่อุทยานหลวงถึงได้ตายอย่างน่าสยดสยองอย่างนั้น

อาหารประทังชีวิต

หลังจากแม่นมอันตายไปหนึ่งสัปดาห์แล้วก็ยังไม่มีใครสามารถหาสาเหตุการตายได้ รู้เพียงแต่ว่านางได้ตายอย่างทุกข์ทรมานจากยาพิษร้ายแรง   ส่วนฮองเฮาก็เสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ก็อย่างว่าฮองเฮาเคารพรักแม่นมอันมากจะเสียใจมากก็คงไม่แปลก

เหมยหลินที่ไปแอบฟังข่าวมาจากกลุ่มนางกำนัลเล็กๆก็อดที่จะหัวเราะอย่างสมเพชไม่ได้ เจียงกุ้ยเหมยนางรักแม่นมอันคนนี้มากหรือแต่ว่าแม้แต่ลูกในไส้ของตัวเองนางยังฆ่าได้ คนเช่นนี้เหมาะที่จะมีความรักจริงๆหรือ 

"ต๊ายตาย! อดีตฮองเฮาตกอับ เป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือไม่ที่มาอยู่ตำหนักเย็นเช่นนี้ ก็อย่างว่าท่านใจร้ายอำมหิตขนาดนั้น องค์ฮ่องเต้คงจะรักท่านลงหรอก ฮ่าๆๆๆ" อันมี่ลูกสาวแม่นมอันที่ตามผู้เป็นมารดาเข้าวังเพื่อรับใช้ฮองเฮา แต่นางรู้ว่าอันมี่อยากจะเป็นสนมของฮ่องเต้ขนาดไหน นางจะช่วยสงเคราะห์ให้ก็แล้วกัน 

"นี่! เจ้ากล้าดียังไงถึงได้เมินข้า" อันมี่เมื่อไม่เห็นว่าคนตรงหน้าจะร้องไห้อย่างสมเพชเวทนาเหมือนเมื่อก่อนนางก็รู้สึกโกรธขึ้นมา ที่ทำอะไรอดีตฮองเฮาไม่ได้ นางจะเข้ามาทำร้ายร่างกายเหมยหลิน

หมับ!  เหมยหลินก็จับแขนนางเอาไว้แล้วบีบแขนนางอย่างรุนแรง

"โอ๊ย!" เหมยหลินใช้มืออีกข้างบีบคางของนางแน่น แววตาของวิชกัญญาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

"เจ้ามองตาข้า" อันมี่รู้สึราวกับร่างกายไม่เป็นของตัวเอง ทำตามอดีตฮองเฮายังขัดไม่ได้

"เจ้าจงไปยั่วโมโหเจียงฮองเฮาในวันที่ฮ่องเต้เสด็จไปตำหนัก ใช้วิธีเดียวกันเหมือนกับที่นางใช้กับข้า เจ้าใส่ร้ายนางทุกวิถีทางให้องค์ฮ่องเต้เคลือบแคลงในตัวนาง แล้วเจ้าจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ อ่อ...อย่าลืมมาส่งอาหารให้ข้าทุกมื้อด้วยล่ะ" เสร็จสิ้นคำสั่งอันมี่ก็เดินกลับตำหนักฮองเฮาอย่างไม่มีสติเท่าใดนัก นางจะจำคำสั่งของเหมยหลินได้ทุกประโยคและทุกคำไม่ลืมเลือนออกไปจากสมองของนาง และต้องทำตามคำสั่งของเหมยหลินอยู่ทุกครั้ง

"เจียงกุ้ยเหมยเอ๋ยเจียงกุ้ยเหมย ในเมื่อเจ้าแสดงตัวว่าเป็นดอกบัวขาวต่อหน้าคนรัก ถ้าอย่างนั้นข้าจะฉีกหน้ากากดอกบัวขาวนี้ออกมาต่อหน้าธารกำนัล ไม่สิ ชาวเมืองทุกคน"  เหมยหลินกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอาฆาตแค้น  ที่จริงอันมี่ก็ไม่ได้นิสัยเลวร้ายอะไรขนาดนั้น ลึกๆในใจของอันมี่ก็ยังมีความอ่อนโยนเล็กๆซ่อนอยู่ ที่นางทำร้ายและการแกล้งเหมยหลินอยู่บ่อยๆก็เพราะมันเป็นคำสั่งของฮองเฮา ถ้านางไม่ทำ นางก็จะถูกลงโทษ ด้วยความที่อันมี่รักซ่งจินหลงอยู่แล้วเพราะเช่นนี้ เหมยหลินจึงสงเคราะห์ให้นางสมหวังได้ง่ายขึ้น และไม่มีความปรารถนาที่จะฆ่านางแม้แต่น้อยก็แค่อยากจะดัดนิสัยนางก็เท่านั้น

ตำหนักคุนหนิง 

เจียงฮองเฮานั่งเฝ้ารอข่าวจากอันมี่ว่านังเหมยหลินมันตายแล้วหรือยัง เพื่อใส่ร้ายอดีตฮองเฮานางถึงต้องกลับลงทุนฆ่าลูกของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม  แต่นางก็ไม่ได้เสียใจอะไรมากนักหรอก ใครใช้ให้มันเกิดมาเป็นหญิงเล่า ไร้ประโยชน์สิ้นดี

"หม่อมฉันมาแล้วเพคะฮองเฮา" เสียงของอันมี่ทำให้นางตื่นออกจากภวังค์

"เป็นอย่างไรบ้าง มันตายแล้วใช่หรือไม่" เมื่ออันมี่มาถึงเจียงฮองเฮาก็ถามนางกำนัลคนสนิทอย่างรีบร้อน แต่อันมี่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร เสียงแหลมดังของโจวกงกงก็ดังขึ้น

"ฮ่องเต้เสด็จ!!!" 

"หม่อมฉันถวายพระพรฮ่องเต้เพคะ" 

"เหมยเออร์ เจ้าเพิ่งหายป่วยอย่าเพิ่งลุกขึ้นเลย" ฮ่องเต้พูดกับคนรักอย่างอ่อนโยน ซ่งจินหลงรู้สึกสงสารคนรักเป็นอย่างมากนางเพิ่งจะเสียลูกของนางไปยังจะต้องมาเสียแม่นมที่เลี้ยงดูนางตั้งแต่เล็กไปอีก 

"หม่อมฉัน ไม่เป็นไรแล้วเพคะ" เจียงกุ้ยเหมยก็ตอบฮ่องเต้ไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน จินหลงก็ยิ้มอย่างอ่อนอกอ่อนใจเหมยเออร์ของเขาก็เป็นเช่นนี้ ไม่อยากให้เขาต้องเป็นห่วงเลยต้องพูดปดออกมา  ดูเอาเถิดฮองเฮาที่รักของเขาเป็นคนอ่อนหวานและเจียมตัวเช่นนี้ เหตุใดอดีตฮองเฮาถึงได้มากล่าวหาคนรักของเขาว่าเป็นหญิงแพศยาจิตใจอำมหิตเช่นนี้ 

"อ้าว! นั่นนางกำนัลคนสนิทของเจ้าไม่ใช่หรือ" 

"เพคะ นางพึ่งจะเสียมารดาไป หม่อมฉันก็เลยอยากปลอบใจนางสักหน่อยเพคะเอ่อ...แม่ของนางก็คือแม่นมอันของหม่อมฉันเพคะ" จินหลงพยักหน้าเข้าใจ พลางมองอันมี่ยังรู้สึกเห็นใจที่นางต้องมากำพร้ามารดาเร็วเช่นนี้

"เจ้าเงยหน้าขึ้นมาสิ" เสร็จสิ้นคำสั่งของโอรสสวรรค์ เจียงฮองเฮาก็มองคนรักด้วยความตกใจ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไรพระองค์ไม่เคยสนใจนางกำนัลในตำหนักของพระนางอยู่แล้ว แล้วเหตุใดถึงมาสนใจอันมี่ได้เล่า

"เพคะ" อันมี่เงยหน้าของตนเองไปให้องค์ฮ่องเต้ได้ทอดพระเนตร ที่จริงหน้าตาของนางก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรออกไปทางน่ารักน่าเอ็นดูด้วยซ้ำ แล้วด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานไม่ต่างจากผู้เป็นนายทำให้ผู้คนลุ่มหลงได้ไม่ยาก 

"เจ้าชื่ออะไร" 

"อันมี่เพคะ" นางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานและสำรวม

"เจิ้นขอแสดงความเสียใจกับเจ้าด้วย ที่ต้องสูญเสียมารดาไปเร็วเช่นนี้" อันมี่ยิ้มออกมาด้วยความซาบซึ้งใจที่คนที่นางรักหันมาสนใจนาง 

"เพคะ" เมื่อเห็นความซาบซึ้งใจที่ปรากฏอยู่บนแววตาของอันมี่ จินหลงก็อดที่จะสงสารนางไม่ได้ อายุนางยังน้อยซ้ำยังต้องมาเสียมารดาไปเร็วเช่นนี้นางคงจะทำใจไม่ได้แน่ แต่จินหลงไม่รู้เลยว่าที่เขารู้สึกสงสารอันมี่เป็นพิเศษก็เพราะว่านิสัยที่นางแสดงออกมาคล้ายกับผู้หญิงที่เขารักและมนต์ล่อลวงของเหมยหลินต่างหาก ตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของนางกำนัลตัวเล็กๆแต่ไม่รู้ทำไมถึงได้เกิดความรู้สึกสงสารกับนางกำนัลผู้นี้เป็นพิเศษ 

ส่วนฮองเฮาที่คล้ายจะไม่มีตัวตนมากขึ้นไปทุกทีก็เริ่มส่งเสียงขัดบทสนทนาระหว่างอันมี่กับฮ่องเต้

"อันมี่ เจ้าจะไปยกสำรับข้าวมาให้ข้าไม่ใช่หรือ รีบไปสิ" เมื่อเห็นแววตาที่น่ากลัวของฮองเฮา ทำให้อันมี่รู้สึกหวาดกลัวชั่วขณะแต่ก็รีบทำตามคำสั่งไม่เช่นนั้นนางจะโดนลงโทษ 

"เพคะ หม่อมฉันทูลลาเพคะ" เสียงติดสั่นเล็กน้อยทำให้ซ่งจินหลงรู้สึกสงสัยว่าทำไมนางกำนัลผู้นั้นถึงกลัวฮองเฮาของเขาขนาดนั้น พระองค์ได้แต่คิดสงสัยแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรคนรักของพระองค์ไป  

แต่ซ่งจินหลงไม่รู้เลยว่าความแคลงใจในตัวฮองเฮาเล็กๆได้ปรากฏขึ้นมาในหัวใจของเขาแล้ว 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!