'สงคราม' มีมาพร้อมกับประวัติศาสตร์(ที่ซ้ำรอย)ของมนุษยชาติ
'สงคราม' ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามความเจริญของเทคโนโลยี
'สงคราม' มาพร้อมกับความสูญเสีย
... แต่กระนั้น... มนุษย์ก็ยังกระหายใน 'สงคราม'
... ฤามนุษย์เองที่จะเป็นผู้ประหัตประหารล้างซึ่งเผ่าพันธุ์ของตน ใช่ใครอื่นใด.....
# NO WAR
***ภาคต่อของBAD GUYS TWIN GUN***
ตัวละคร
1.แม็กซีเมียน มัวร์
2.มาร์ติน สก็อต
3.เจสสิกา บรุชเชอร์
4.โจเซฟีนี เดอราแวนโซ
5.นาตาชา มัวร์(ลูกสาวของแม็กซ์)
แสงแดดอบอุ่น และสายลมอ่อนๆของฤดูใบไม้ผลิ พัดเอากลิ่นหอมของดอกไม้ที่ขึ้นและบานอยู่ภายในบริเวณสุสาน ให้ลอยฟรุ้งในอากาศ
เอสเดินโขยกเขยกมาวางช่อดอกไม้ที่หน้าป้ายหลุมฝังศพ
"แม็กซ์สอบเข้าโรงเรียนเตรียมททหารซิลเวอร์สตาร์ได้แล้ว ดีใจกับพวกนายด้วย" เเอสแจ้งข่าวดีต่อป้ายหลุมฝังศพของเจและเกว็นเดอริน
'ซิลเวอร์สตาร์ มิลิทารี สคูล ออฟ นิวแกรนเนรี' เป็นโรงเรียนเตรียมทหารอันดับหนึ่งของรัฐ ซึ่งเก่าแก่ก่อตั้งขึ้นมาพร้อมๆกับการสถาปนารัฐ ในปีการศึกษาหนึ่งๆจะรับนักเรียนชาย, หญิงเพียงรุ่นละห้าร้อยคน แต่สำเร็จการศึกษาออกไปไม่เกินสามร้อยคนต่อรุ่น นักเรียนเตรียมทหารที่จบหลักสูตรจากที่นี่สามารถจะสอบเข้าฝึกกับหน่วยใดก็ได้ เพราะเป็นบุคลากรที่การันตีได้ในความสามาถ สัญลักษณ์ประจำโรงเรียน เป็นรูปโล่ล้อมด้วยใบปาล์ม ผูกโบว์สีขาวที่ก้านปาล์ม มีกระบี่ไขว้ปืนและดาวเงินสามดวงอยู่ด้านบนโล่ แยกความหมายตามสัญลักษณ์ได้ดังนี้
ใบปาล์ม คือ ชัยชนะ
โบว์สีขาว คือ สันติภาพ
โล่และกระบี่ไขว้ปืน คือ ความชำนาญในการศึก
ดาวเงินสามดวง คือ ความเป็นเลิศ ความแข็งแกร่ง
(ร่างกาย, จิตใจ, สมอง)
"สุขสันต์วันเกษียณนะป๋า!" มาร์ติน สก็อต เลื่อนกระจกรถลงทักพ่อ
"ขอบใจไอ้แสบ! วันนี้ฉันจะให้แกกินฝุ่น สองพันเป็นไง?"
"ได้เลยย!.. เงินด่วนนะป๋า และป๋าต้องเลิกบุหรี่เสียที... จริงจัง!.. "
"ได้เลย!.. ตามนั้น" มาร์ตินเลื่อนกระจกปิดแล้วเคลื่อนรถไปรอยังจุดสตาร์ท
เจมส์ สก็อต อดีตสักสืบ(ป้ายแดง) ชูนิ้วโป้งคว่ำให้ลูกชาย เปิดเพลงดังสนั่น อัดควันเข้าปอดเหมือนสั่งลาบุหรี่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนกระชากเกียร์ไอ้ม้าป่าคะนองให้ทะยานลงสู่สนามแข่ง
สองพ่อลูกผลัดกันนำผลัดกันตาม จนถึงรอบสุดท้าย มาร์ตินกระทืบคันเร่งแซงเข้าเส้นชัย เฉียดกระจกมองข้างรถมัสแตงของพ่อในระยะห้าสิบเมตรสุดท้าย รอบที่ผ่านๆมาน่ะ... เขาแค่แกล้งต่อให้พ่อดีใจเล่นๆ!
มาร์ตินยืนยิ้มพิงรถ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูยอดเงินในบัญชีธนาคารที่เพิ่มขึ้น ก่อนจูบโทรศัพท์ทีหนึ่งด้วยความสะใจ
"ถือว่าเป็นค่าขนมของผมแล้วกันนะป๋า!"
"เฮ่อะ! ไอ้เด็กโข่งเคราดก!"
"อย่า'รมณ์เสียน่าป๋า! ไปร้านเบอร์เกอร์บลูมกัน ผมเลี้ยงเอง"
"เลี้ยงแค่เบอร์เกอร์?!.. กระจอกชิบเป๋ง!" สองพ่อลูกพากันหัวเราะลั่น
มาร์ตินถอยรถของสปอนเซอร์เข้าเก็บ แล้วโดดขึ้นมัสแตงไปกับพ่อ เขายังเป็นนักศึกษาจึงยังเป็นแค่เพียงนักแข่งสำรอง ยังไม่มีรถเป็นของตัวเอง เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้วว่า ในปีการศึกษาสุดท้ายเขาจะต้องให้รางวัลกับตัวเอง เป็นรถเจ๋งๆสักคันและตำแหน่งนักแข่งรถหน้าใหม่
เอสรับแม็กซ์กลับในช่วงซัมเมอร์ ขากลับพากันแวะที่ร้านเบอร์เกอร์บลูม
"เฮ้! ทางนี้!" เจมส์โบกมือทักเอสที่เดินขโยกเขยกเข้าร้านมากับแม็กซ์ เอสกับแม็กซ์โบกมือทักตอบ ก่อนเดินไปนั่งโต๊ะเดียวกันกับเจมส์และมาร์ติน
พวกเขานั่งกินอาหารพลางคุยถามไถ่กันไป
"วันไหนนายอยากลองซิ่งบอกฉันได้เลยนะแม็กซ์!" มาร์ตินชวน
"โอเค!" แม็กซ์รับคำ
แม็กซ์เติบโตขึ้นเรียนสูงขึ้นต้องใช้เงินมากขึ้น แต่เอสแก่ลงแถมร่างกายไม่ได้ปกติเหมือนเก่า การทำไร่ข้าวโพดคนเดียวจึงกลายเป็นหนัก พวกเขาเลยปรึกษากันว่าจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดี
แม็กซ์เสนอให้ลดพื้นที่การทำไร่ข้าวโพดลงเหลือครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งให้ทำเป็นทุ่งเลี้ยงม้า เพราะตอนนี้เนื้อม้ากำลังเพิ่มความนิยมในตลาด แทนที่เนื้อวัวที่มีปัญหาในด้านการปนเปื้อนเชื้อต่างๆมากมาย
โดยใช้เงินทุนจากมรดก ที่เขาได้รับจากเงินประกันชีวิตพ่อ(จูเนียร์)กับแม่(เกว็นเดอริน)ของเขา
เอสตกลงตามข้อเสนอนั้น หลังจากการเก็บเกี่ยวล็อตสุดท้ายในฤดูใบไม้ร่วงจึงเริ่มดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้พร้อม เพื่อการเริ่มต้นกิจการใหม่ของครอบครัว
กลับบ้านช่วงซัมเมอร์การช่วยงานลุงในฟาร์มจึงกลายเป็นหน้าที่ของเขา
แม็กซ์รับหน้าที่ไถพรวนดินเพื่อเตรียมไว้สำหรับปลูกหญ้าทำเป็นทุ่งเลี้ยงม้า เสร็จแล้วกำลังขับแทร็กเตอร์กลับบ้าน เห็นรถลุงที่ออกไปซื้อเมล็ดพันธุ์หญ้าเลี้ยงสัตว์เลี้ยวเข้ามาพอดี เขาจึงขับแทร็กเตอร์ตามหลังไป ป่านนี้อาหารเที่ยงที่ยายทำไว้คงชืดหมดแล้ว
"หิวจะแย่!" แม็กซ์เอามือลูบท้องไปมาเพื่ออวดว่าหิวจริงๆ
"หิวจะแย่! หลานคงจะไม่กินจานชามเข้าไปด้วยหรอกนะ" ยายว่าแม็กซ์หัวเราะขำ ยายพูดถูก เขาเป็นคนกินเก่งมาตั้งแต่เด็กแต่ตัวไม่รู้จักโต ตั้งแต่เข้าเรียนที่ซิลเวอร์สตาร์มาได้ปีการศึกษาหนึ่งนี้ เขารู้สึกว่าร่างกายของตัวเองหนาขึ้นมานิดหน่อย กว่าจะเรียนจบเขาคงเป็นชายหนุ่มอกหกศอก
ช่วงบ่ายหลังลงพันธุ์เมล็ดหญ้าในทุ่งเสร็จแล้ว แม็กซ์นั่งคุยอยู่กับลุงที่ชานบ้าน แสงแดดเริ่มหุบหายแต่ไอร้อนยังมีอยู่ เอสเอื้อมหยิบเบียร์กระป๋องเย็นเฉียบในลังน้ำแข็งส่งให้แม็กซ์
"ขอบคุณครับ!" สองลุงหลานกำลังนั่งปรึกษาถึงแผนงานขั้นต่อไป เห็นมัสแตงสีเบอร์กันดีเจ้าเก่าเลี้ยวเข้ามา วิ่งห้อฝุ่นตลบวนเป็นเกลียวตามความเร็วของรถ รถจอดลงคนขับเปิดประตูลงมาไอโขลกสำลักฝุ่น
"สองคนพ่อลูกคู่นี้ขับรถไม่ผิดกัน" เอสว่า
"หวัดดีฮะเอส" มาร์ตินยิ้ม เขานัดกับแม็กซ์ไว้ว่าจะไปเที่ยวในเมืองกันคืนนี้
"อย่ากลับดึกมากนะแม็กซ์" (ยาย)
"อย่าไปมีเรื่องมีราวกันล่ะ!" (ลุง)
"ครับ!" หลังรับคำผู้ใหญ่แล้วสองหนุ่มพากันออกไปตะเวนหาความสนุกสนานตามประสาวัยรุ่น
ตีสอง... เสียงรถจอดที่หน้าบ้าน มาร์ตินมาส่งแม็กซ์กลับ
"ขับดีๆมาร์ตี้"
"ไว้เจอกันใหม่ อาทิตย์หน้าปาร์ตี้ที่น็อธเบย์ เตรียมใจไว้เพื่อนสาวๆเพียบ!"
"บาย!" แม็กซ์ไขประตูเข้ามายังเห็นลุงนั่งอ่านหนังสืออยู่
"ยังไม่นอนอีกหรือครับ!" ตั้งแต่ลุงเหลือขาข้างเดียว ไม่สะดวกในการขึ้นลงชั้นบนก็ได้ยึดเอาห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนไปโดยถาวร แถมด้วยเจ้าจอร์จและโทรทัศน์เป็นเพื่อนนอน
"ฝันดีครับ!"
"อื้อ!ไปนอนเถอะ" เอสตอบแล้วแหงนขึ้นไปดูนาฬิกา ถ้าเทียบกับเขาสองคนพี่น้องแล้ว แม็กซ์นับว่าเป็นเด็กดีไม่น่าเป็นห่วง คิดไปคิดมาก็พาลให้คิดถึงคนที่จากไป เอสถอนหายใจก่อนเอนตัวเหยียดนอนบนโซฟา ค่อยๆเข้าสู่ห้วงนิทรา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!