NovelToon NovelToon

การเมืองอลหม่าน

แนะนำตัวละคร

*นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งเรื่องการเมืองและตัวละครเป็นเพียงเรื่องสมมุติขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีสาระแต่อย่างใด หากผิดพบาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ*

 

ตัวละครหลัก

1.คุณภูษิตา

บทบาท : นักการเมืองสาวยอดนิยมอายุ35ปี แม่หม้าย ลูก1 หย่าขาดกับสามี เพราะโดนนอกใจมานานกว่า10ปีสังกัตพรรคใจรวมไทย

 

2.ดอกบัว

บทบาท : นักศึกษาสาวผู้รักในการหาเงินและค้าขาย อายุ24ปี เรียนจบช้ากว่าเพื่อนๆเพราะต้องหาเงินไปด้วยเรียนไปด้วย

 

3.คุณอาทิตย์

บทบาท : เป็นหัวหน้าพรรคใจรวมไทย คู่จิ้นคุณภูษิตา อายุ44ปี ทั้งสภาจับคู่ให้ แต่คุณอาทิตย์กลับชอบคุณภูษิตาจริงๆ แต่ผู้หญิงจะชอบด้วยหรือไม่ต้องมาดูกันในเรื่องนะคะ

 

4.คุณนิภา

บทบาท : สังกัดพรรคไทยเป็นหนึ่ง คู่อริของคุณภูษิตา อายุ42 ลูก1คน ไม่ทราบประวัติสามี ติดตามในเรื่องนะคะ

 

ส่วนประกอบ

1.น้องจ้ะจ๋า

บทบาท : ลูกสาวตัวน้อยของคุณภูษิตาอายุ8ขวบ

2.น้องสุริยะ

บทบาท : ลูกชายคุณนิภา อายุ15ปี 

3.คุณทินกร

บทบาท : หัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่ง

 

ปล.อาจมีตัวละครเพิ่มขึ้นในตอนต่างๆ ฝากติดตามด้วยจ้า

ตอนที่ 1 ปัญหาลงตัว

ณ ห้องประชุมสภาแห่งหนึ่ง สถานที่กว้างขวางที่มีผู้คนเพียงแค่ไม่กี่คนเข้ามาร่วมประชุมในครั้งนี้ เพราะพรรคอื่นๆต่างเห็นว่าเรื่องที่กำลังถกเถียงกันไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการช่วยเหลือประเทศบ้านเมือง มีเพียงแค่พรรคไทยเป็นหนึ่งกับพรรคใจรวมไทยเท่านั้นที่ต้องการจะเอาชนะกันด้วยเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว

 ในบรรยากาศที่ตึงเครียด แอร์ในห้องประชุมเย็นฉ่ำแสงไฟเปิดสว่างทั่ว ทำให้เห็นใบหน้าของแต่ละฝ่ายได้ชัดเจน พรรคใจรวมไทยนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพรรคไทยเป็นหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายกำลังถกเถียงกันเรื่องที่จะเปิดให้มีการค้าขายหน้าสภา ในขณะที่พรรคไทยเป็นหนึ่งที่มีหัวหน้าพรรคคือคุณทินกรซึ่งนั่งด้านหน้าคุณนิภา ต้องการให้มีพ่อค้าแม่ค้ามาค้าขาย แต่พรรคใจรวมไทยซึ่งมีคุณอาทิตย์เป็นหน้าพรรคและคุณภูษิตานั่งอยู่ด้านหลัง ไม่อยากให้พื้นที่รอบๆสภาวุ่นวายโดยพ่อค้าแม่ค้าที่มาทำการค้าขายกัน ในขณะที่สมาชิกท่านอื่นๆในพรรคต่างก็เบื่อหน่ายเต็มทีที่จะต้องมาถกเถียงเรื่องเดียวอยู่เป็นเดือนๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อคุณอาทิตย์และคุณทินกรหัวหน้าพรรคทั้งสองฝ่ายยังเห็นว่านี่คือเรื่องสำคัญที่ควรพิจารณาให้รอบคอบ

"ผมคิดว่าถ้าเราเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าได้มีโอกาสทำมาหากิน เราอาจจะเข้าถึงพวกเขาได้มากขึ้นนะครับ"

คุณทินกรหัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่งกล่าวท่ามกลางความเงียบในสภาในขณะที่สส.ท่านอื่นต่างก็ลุ้นกันว่าอยากให้พรรคใจรวมไทยเห็นด้วยเสียที

"ไม่ได้นะคะคุณอาทิตย์ จะยอมให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้ามีการค้าขายหน้าสภา ความวุ่นวายอาจจะเกิดขึ้นได้"

คุณภูษิตากระซิบบอกคุณอาทิตย์หัวหน้าพรรคของเธอจากด้านหลัง เพราะเห็นว่าเขาเริ่มจะคล้อยตามด้วยเนื่องจากปัญหานี้ผ่านมาร่วมเดือนแล้วคุณอาทิตย์เองก็เริ่มจะเบื่อหน่ายตามสมาชิกท่านอื่นแล้วเหมือนกัน

คุณอาทิตย์หันมากระซิบกลับคุณภูษิตาด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบไม่ได้มองหน้าเธอแบบชัดๆ

"แต่เรื่องนี้เราถกเถียงกันมาเป็นเดือนแล้วนะครับ ผมว่าถ้ามีของมาขายแถวนี้ บรรยากาศแถวสภาอาจจะไม่ตึงเครียดเกินไปก็ได้นะครับ"

คุณอาทิตย์เริ่มเห็นข้อดีของการมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายในบริเวณรอบๆสภา เขาทั้งเห็นข้อดีและอยากให้เรื่องนี้จบได้เสียที

"ถ้าไม่มีใครคัดค้าน งั้นผมขอจบ...."

ท่านประธานรีบตัดจบเพราะเห็นว่าทั้งสองฝ่ายเงียบไปเป็นเวลานาน เลยตัดสินใจว่าพรรคใจรวมไทยมีความคิดเดียวกันกับพรรคไทยเป็นหนึ่งแล้วหลังจากที่ผ่านมาเป็นเดือนๆ แต่ท่านประธานยังพูดไม่จบ

จู่ๆคุณภูษิตาก็ยกมือขึ้น ท่ามกลางความงุนงงของคุณอาทิตย์และสมาชิกในพรรคต่างก็ตกใจกันยกใหญ่ 

"ดิฉันขอค้านไม่ให้มีการค้าขายเกิดขึ้นหน้าสภาค่ะ! ไหนจะเรื่องความปลอดภัย ความวุ่นวาย เรื่องความสะอาด ท่านประธานไม่ฉุกคิดเรื่องนี้บ้างหรือคะ!!" คุณภูษิตาทักท้วงขึ้นมาด้วยความใจร้อนเมื่อเธอเห็นว่าสมาชิคในพรรคเริ่มเห็นด้วยกับพรรคไทยเป็นหนึ่ง เธอก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่

คุณนิภายกมือเปิดไมค์บ้าง "ใจเย็นๆก่อนดีมั้ยคะคุณภูษิตา คุณควรให้เกียรติท่านประธานหน่อย ไม่ใช่ตะคอกใส่ท่านแบบเด็กไม่มีมารยาทแบบนั้น" คุณนิภากล่าวแบบเสียดสีปนๆกับสั่งสอนคุณภูษิตาไปด้วย

คุณภูษิตาเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองใจร้อนเกินไปในขณะที่สมาชิกท่านอื่นในพรรคต่างก็หันมามองเธอด้วยสายเดียวกันคือเธอไม่เคารพท่านประธานเลย เธอจึงหันไปน้อมตัวลงให้ท่านประธานและเบาเสียงลง "ขอโทษค่ะท่านประธาน ดิฉันใจร้อนเกินไป"

ท่านประธานพยักหน้า หงึกๆ ด้วยสีหน้าเหนื่อยใจแต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไรเพราะท่านเองก็เจอเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้งหลายคราแล้ว

คุณภูษิตาหันมาตอบโต้คุณนิภาต่อ

"แต่ดิฉันเพียงแค่ออกความคิดเห็นเท่านั้น และเหตุผลของดิฉันได้คิดรอบคอบมาดีแล้ว คุณควรจะไตร่ตรองเหตุผลของดิฉันดูนะคะ ว่ามันจะวุ่นวายขนาดไหนหากมีการค้าขายเกิดขึ้นที่นี่"

คุณนิภาเลือดขึ้นหน้าเมื่อมีคนที่อายุน้อยกว่ามาพูดจาเหมือนสั่งสอนเธอ สมาชิกท่านอื่นในพรรคต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘อย่าไปยอมเธอ’

"เสียมารยาทที่สุด! ฉันไม่เคยเห็นสส.คนไหนที่พูดจาแบบนี้กับรุ่นพี่มาก่อน ไม่รู้ว่าโตมายังไง!"

คุณภูษิตากำลังเปิดไมค์และลุกขึ้นด้วยท่าทางโมโหสุดขีดเพื่อโต้ตอบกลับคุณนิภาอีกครั้ง แต่ท่านประธานปิดไมค์ไว้ได้ทัน ในขณะเดียวกันนั้น คุณอาทิตย์หัวหน้าพรรคใจรวมไทยยกมือเปิดไมค์ขึ้น เพื่อที่จะขอเวลานอกให้ได้คุยกับคุณภูษิตาให้เข้าใจ

"ผมขอเวลานอก5นาทีนะครับท่านประธาน"

ท่านประธานกุมขมับพร้อมพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เบื่อหน่ายเต็มที

"ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณภูษิตา ผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แต่มันเลยมาเป็นเดือนแล้ว"คุณอาทิตย์หันไปโน้มน้าวคุณภูษิตาพร้อมกับกุมมือเธอไปด้วย

สมาชิกท่านอื่นหันมามองและแซวผ่านทางสายตา อย่างกับว่าทั่งคู่เป็นคู่รักกัน

"แต่เรื่องความปลอดภัยไม่มีใครรับประกันได้นะคะ จะให้คนนอกแบบนั้นมาอยู่รอบๆสภาได้ยังไง ยิ่งเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าพวกนั้น.." คุณภูษิตาพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนหวังจะให้คุณอาทิตย์เห็นด้วยกับเธอ

"ถ้าเป็นเรื่องนั้น ควรมีตำรวจสภาเพิ่มขึ้นมั้ยครับคุณอาทิตย์คุณภูษิตา เพื่อรองรับความปลอดภัย"

สมาชิกท่านหนึ่งที่นั่งห่างออกไปเพียงโต๊ะเดียวออกความคิดเห็นเพราะอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว

"นั่นสิครับ ถ้ามีตำรวจสภารอบด้าน คงจะเกิดเหตุฉุกเฉินได้ยาก คุณว่ายังไงครับ" คุณอาทิตย์พึ่งจะฉุกคิดขึ้นได้และถามคุณภูษิตา

คุณภูษิตายกมือขึ้นท้าวคาง ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งด้วยใบหน้าเคร่งเครียด  "อืม......แบบนั้นก็โอเคนะคะ แต่ฉันว่าให้มีถึง20ร้านค้านั้นมันเยอะเกินไป ควรจะลดให้เหลือแค่5ร้านค้าก็พอนะคะ เผื่อเกิดเหตุอะไร ตำรวจสภาจะได้รับมือทัน"

คุณภูษิตาเริ่มเห็นด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเงื่อนไขของเธอก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย

"โห 5ร้าน! จาก20จะให้เหลือ5ร้านเลยหรอครับ ผมเกรงว่าฝั่งนู้นจะมีปัญหาขึ้นมาอีก"

คุณอาทิตย์ตกใจในคำตอบ เขาหันหน้าไปยังสมาชิกท่านอื่นที่กำลังพยักหน้าเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าให้ลองเสนอดู แต่เมื่อเห็นว่าเวลาเริ่มเหลือน้อย เขาจึงได้แต่ถอนหายใจและพูดว่า

"งั้นเราลองเสนอเงื่อนไขนี้ดูนะครับ"

เมื่อครบ5นาที ท่านประธานเปิดไมค์ขึ้น "หมดเวลาแล้วนะครับ ทางฝั่งพรรคใจรวมไทยว่ายังไงบ้างครับ"

ท่านประธานกล่าวถามหาคำตอบ

"ผมเห็นด้วยกับอีกฝั่งนะครับที่จะให้มีการค้าขายเกิดขึ้น"

คุณอาทิตย์ยืนขึ้นตอบท่านประธานด้วยความเคารพ

คุณภูษิตานั่งนิ่งเงียบสายตามองไปยังคุณนิภา ในขณะที่คุณนิภามองไปยังเธอด้วยสีหน้าเยาะเย้ย อย่างกับฉันเป็นผู้ชนะ

"แต่ผมอยากให้มีตำรวจสภารอบด้านมากกว่านี้ และลดจำนวนร้านค้าลงให้เหลือเพียง5ร้านครับ" คุณอาทิตย์กล่าวถึงเงื่อนไขหวังจะให้พรรคไทยเป็นหนึ่งยอมรับข้อเสนอ

ในขณะเดียวกันพรรคไทยเป็นหนึ่งก็เริ่มมีเสียงแตกอีกครั้ง สมาชิกท่านอื่นหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าที่บอกเป็นนัยๆว่า เป็นไปไม่ได้หรอก โดยเฉพาะคุณนิภา

"นี่น่าจะเป็นความเห็นของคุณภูษิตาอีกสินะคะ"

คุณนิภากล่าวแบบเสียดสีในขณะที่คุณภูษิตามีสีหน้าเรียบเฉย

"ใช่ค่ะ ดิฉันยืดหยุ่นให้ได้เท่านี้ แล้วแต่พวกคุณนะคะว่ายอมรับเงื่อนไขตรงนี้หรือไม่ หรือจะปล่อยให้ปัญหานี้มันล่วงเลยไปถึงปีหน้า"

คุณภูษิตากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ในขณะที่สมาชิกท่านอื่นในพรรคชูนิ้วโป้งขึ้นมาเพื่อแสดงความพอใจในสิ่งที่คุณภูษิตาพูด

คุณนิภาเจ็บใจพูดไม่ออก เธอกำมือแน่น ริมฝีปากบนล่างกระทบกันเธออยากจะเถียงกลับแต่ก็คิดอะไรไม่ออก

"แบบนั้นก็ได้ครับ ผมยอมรับข้อเสนอนี้"

คุณทินกรหัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่งกล่าว

"งั้นผมขอจบการประชุมเท่านี้นะครับ ส่วนเรื่องการรับสมัครร้านค้า ผมจะให้เจ้าหน้าที่ด้านโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นฝ่ายจัดการ" ท่านประธานกล่าวจบประชุม ทุกคนต่างก็มีเสียงเฮกันออกมาเพราะดีใจที่เรื่องนี้ได้ข้อสรุปเสียที และทุกคนก็เริ่มทยอยเดินออกมาจากห้องประชุมสภา

คุณภูษิตาและคุณอาทิตย์เดินออกจากห้องประชุมพร้อมกัน เธอค่อนข้างพอใจกับข้อสรุปนี้ เพราะห่วงความปลอดภัยของตัวเองและสมาชิกท่านอื่น แต่เมื่อมีการรองรับเหตุฉุกเฉินไว้ได้ เธอจึงสบายใจขึ้น

ในขณะที่คุณภูษิตาเดินออกมายังที่รถเพื่อที่จะไปรอรับลูกจากโรงเรียน คุณอาทิตย์ได้เดินเข้ามาทักทายชวนเธอพูดคุยด้วยจากเรื่องอื่นที่นอกเหนือการทำงาน

"คุณภูษิตาครับ” คุณอาทิตย์เรียกคุณภูษิตาจากด้านหลัง   “ไหนๆเรื่องร้านค้าก็ได้ข้อสรุปแล้ว เราไปรับน้องจ้ะจ๋าไปทานเสต็กด้วยกันมั้ยครับ ได้ข่าวว่ามีร้านเสต็กเปิดใหม่หน้าโรงเรียน"

คุณภูษิตาหันมาตอบคุณอาทิตย์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจแทนลูกสาว "ได้สิคะ จ๊ะจ๋าชอบทานเสต็กมาก นางต้องดีใจแน่เลยค่ะ"

ในขณะเดียวกันนั้น คุณนิภาก็ได้เดินเข้ามามีทีท่าไม่พอใจกับข้อสรุปที่เกิดขึ้น และพูดแทรกขึ้น "แหมๆ กำลังจะไปฉลองกันเหรอคะ คงดีใจน่าดูที่ข้อเสนอในสภาจบลงด้วยดี ว่าแต่..ถ้าฉันขอร่วมแจมด้วยจะเป็นการขัดจังหวะของคู่รักรึเปล่าคะ" คุณนิภาพูดจาและทำสีหน้าประชดเพราะเธอไม่พอใจที่ทุกคนยอมรับเงื่อนไขของคุณภูษิตา

"ฉันว่าคุณควรเอาเวลานี้ไปดูแลลูกชายดีกว่ามั้ยคะ ได้ข่าวว่าโดนเรียกผู้ปกครองหลายครั้งแล้ว" คุณภูษิตาพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย พร้อมกับเดินไปเปิดประตูและขึ้นรถทันทีด้วยความโมโห เพราะกลัวจะทะเลาะกันบานปลายอีก

คุณภูษิตาขับรถออกมาในขณะที่คุณนิภาด่าเธอตามหลัง เธอหันมามองคุณอาทิตย์แว็บหนึ่ง และกลับไปขึ้นรถของตัวเองทันที คุณอาทิตย์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าเซ็งๆ ในขณะที่รถของสมาชิกท่านอื่นๆกำลังทยอยขับออกไปจนหมด

-----โปรดติดตามตอนต่อไป------

ตอนที่ 2 เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

หลังจากที่มีมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่าจะให้มีการค้าขายเกิดหน้าสภา

ทางฝั่งคุณภูษิตาที่ในตอนแรกไม่สนับสนุนให้เกิดขึ้น แต่หลังจากที่ทุกคนยอมรับเงื่อนไข เธอก็สบายใจมากขึ้นที่อย่างน้อยทางสภาสามารถยืนยันการรับรองความปลอดภัยได้

แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับไม่มีเวลาดูแลลูกสาวตัวน้อยยิ่งกว่าเดิมเพราะงานภาระหน้าที่ที่เพิ่มพูนขึ้น

ในเย็นวันนี้คุณภูษิตารับน้องจ้ะจ๋าลูกสาวของเธอกลับมาจากโรงเรียน

"จ้ะจ๋าลูก ไปอาบน้ำทำการบ้านแล้วเข้าห้องนอนนะ แม่ขอทำงานก่อน การบ้านไม่เยอะใช่มั้ย?"

คุณภูษิตาถามลูกสาว

"ไม่เยอะค่ะคุณแม่ งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ" น้องจ้ะจ๋าตอบคุณแม่ด้วยน้ำเสียงน้อยใจเล็กน้อย

"ถ้าหิวก็หาอะไรทานในตู้เย็นนะลูก" คุณภูษิตาตะโกนบอกลูกสาวในขณะที่เธอเดินหันหลังไปแล้ว

หลังจากนั้นคุณภูษิตาได้เข้าไปยังห้องทำงานของเธอเพื่อที่จะจัดการเอกสารเกี่ยวกับสิทธิการดูแลลูกที่ค้างไว้ให้เสร็จ หลังจากที่เธอได้ฟ้องหย่ากับสามี

ระหว่างนั้นเธอได้เปิดฟังข่าวในช่องINW ซึ่งกำลังออกข่าวของเธออยู่

"ต้องบอกเลยนะครับว่าคุณภูษิตาเป็นสส.ที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ เพราะเธอได้ใจพ่อค้าแม่ค้าไปเต็มๆ!!" ผู้ประกาศข่าวชายกล่าว

"ใช่แล้วล่ะค่ะ ทั้งๆที่เรื่องนี้ผ่านล่วงเลยมาเป็นเดือน แต่ข้อสรุปจบลงได้เพราะคุณภูษิตาเลย เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้เธอเลยนะคะ"

ผู้ประกาศข่าวหญิงกล่าวด้วยน้ำเสียงดีใจแทนพ่อค้าแม่ค้า

คุณภูษิตาที่ได้ฟังข่าวก็ถอนหายใจเบาๆ 'อะไรกัน แค่เปิดพื้นที่ให้ขายของ จะเอามาทำข่าวทำไมไร้สาระ!!' เธอพึมพำเบาๆ

แต่ไม่ว่าจะเลื่อนไปช่องไหนก็มีแต่ข่าวของเธอ อย่างกับว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นฮีโร่ของพ่อค้าแม่ค้าไปแล้วอย่างนั้น

ทางฝั่งคุณนิภาเมื่อได้เปิดดูข่าว เธอกลับไม่พอใจ 'ทำไมถึงยกความดีความชอบให้ยัยนั่น ทั้งๆที่ฉันเป็นคนเสนอเรื่องนี้แท้ๆ'

คุณนิภาไม่พอใจอย่างมากที่ทุกคนต่างก็ชื่นชมคุณภูษิตา เธอจึงหาวิธีต่างๆที่จะทำให้ผู้หญิงเสียชื่อเสียง แต่เธอก็พยายามมาหลายเดือนก็ยังไม่พบข้อเสียของคุณภูษิตาซักที นั่นยิ่งทำให้เธอหงุดหงิดกว่าเดิม

ในขณะเดียวกันคุณนิภาได้กดโทรศัพท์ไปหาปลายสาย "ฮัลโหล... คุณ ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง ยัยนั่นมีอะไรคืบหน้าบ้างมั้ย เห็นหายเงียบไปเลยนะ ไม่ใช่ว่าชอบยัยนั่นไปแล้วนะ!"

ปลายสายตอบกลับพร้อมหัวเราะ"ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณจะบ้าหรอ! ผมจะชอบยัยนั่นได้ไง ไม่รู้คนหรือหุ่นยนต์ สู้คุณไม่ได้ซักนิด แต่ว่าช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับษิตาเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนเธอจะยุ่งๆเรื่องเอกสาร แต่จะพยายามหาละกันว่ายัยนั่นมีเรื่องอะไรเสียๆบ้าง"

"อืมๆโอเคค่ะ งั้นคุณพักผ่อนเถอะ ฉันเองก็ต้องตื่นแต่เช้าต้องไปพบคุณครูประจำชั้นของเจ้าสุริยะอีก เฮ้ออ ลูกของเรานี่ก่อเรื่องได้ทุกวี่ทุกวัน" พูดจบคุณนิภาก็ตัดสาย

จริงๆแล้วประวัติของสามีคุณนิภาไม่มีใครทราบว่าเขาคือใคร มีเพียงคุณนิภาเท่านั้นที่รู้ดี เธอให้สามีของเธอตั้งพรรคขึ้นมา จนเขาได้เป็นหัวหน้าพรรคที่คุณภูษิตาเป็นสมาชิกสส.อยู่

ซึ่งนั่นจะเป็นใครไปได้ เขาคือคุณอาทิตย์คู่จิ้นของคุณภูษิตานั่นเอง

ภาพตัดมายังมหาลัยแห่งหนึ่ง ในเช้าวันหนึ่งกำลังมีการสอบไฟนอล

"แห่กๆ จะทันมั้ยเนี่ย ไม่น่าลืมปากกาเล้ยยยชั้น"

ดอกบัวรีบวิ่งสุดฤทธิ์ เพื่อจะไปเข้าห้องสอบได้ทันเวลา เธอตื่นสายทุกวันเพราะต้องไปขายขนมหวานที่ตลาดทุกวันหลังเลิกเรียนจนดึก บางวันก็โต้รุ่งกันไปเลย

"เอ้าๆ รีบๆหาที่ที่นั่งของตัวเองซะนางสาวดอกบัว มาเกือบสายตลอด" อาจารย์กล่าวต่อว่าดอกบัว

--1ชั่วโมงผ่านไป--

'ทำไมข้อสอบออกยากทุกเทอมเลยนะ ใครเป็นคนออกข้อสอบเนี่ยยย' ดอกบัวบ่นพึมพำกับตัวเอง

"พี่บัววว เป็นไงบ้าง วันนี้มาเกือบสายอีกแล้ว แต่ยังดีเนอะที่มาทัน ฮ่าๆๆ" ขวัญ รุ่นน้องที่เรียนด้วยกันเข้ามาแซว

"เดี๋ยวเถอะยัยขวัญ ฉันยิ่งเครียดๆอยู่ ทำข้อสอบไม่ได้ซักข้อ!" ดอกบัวตอบรุ่นน้องด้วยน้ำเสียงโมโหปนเสียใจ

"โถ่ จะไม่ยากได้ไงล่ะพี่บัว พี่ดันขายของในตลาดไม่รู้กี่ตลาดต่อวัน หามรุ่งหามค่ำขนาดนั้น หนูก็เตือนแล้วเตือนอีกว่าจะสอบไฟนอลแล้วให้พักก่อน ก็ไม่ฟัง หนูอยากให้พี่บัวจบพร้อมพวกหนูนะ"

ขวัญพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน เพราะเธอเป็นห่วงดอกบัวที่ไม่รู้ว่าเรียนจบเมื่อไหร่ ขายของหาเงินมาได้แต่ละวันก็ต้องส่งน้องที่บ้านเรียน แต่เธอก็นับถือในตัวรุ่นพี่คนนี้ ที่ถึงแม้ทางบ้านจะยากจน เธอก็ยังไม่ละทิ้งความฝันของเธอที่อยากจะเรียนให้จบป.ตรี

"เห้ยยยย!! พี่บัวๆๆๆ" สปาย รุ่นน้องอีกคนที่เรียนด้วยกันรีบวิ่งเข้ามาหาอย่างกับเจอล๊อตเตอรี่รางวัลที่1ตกอยู่

"อะไรอีกล่ะ จะมาแขวะอะไรฉันอีกฮะ!"

ดอกบัวตอบ

"พี่ดูข่าวยัง หน้าสภาเค้าเปิดให้แม่ค้าขายของได้แล้วนะ" สปายรีบยื่นโทรศัพท์ให้ดอกบัวดู

ดอกบัวสตั๊นไป10วิ เธอไม่คิดว่าในที่สุดพื้นที่ตรงนี้ก็เปิดให้ขายของได้ซักหลังจากที่รอมานาน

เธอเข้าไปอ่านรายละเอียด ถึงกับต้องตกใจ

พื้นที่ตรงนี้ไม่มีค่าเช่า!! รับแค่5ร้าน!!

"เห้ย! แบบนี้ต้องรีบแล้ว ขอบใจมากนะสปาย แล้วแกรู้มั้ยต้องไปสมัครที่ไหน"

"ไปยื่นเอกสารพร้อมกรอกข้อมูลด้านหน้าสภาได้เลยพี่ สปายเห็นมีคนไปยื่นเยอะมาก แต่ก็แล้วแต่คนที่จัดการเรื่องนี้ว่าเขาจะเลือกร้านค้าไหนมาลง"

สปายตอบ

"โอเค! วันนี่น่าจะยังทัน งั้นฉันไปละ ขอบใจมากนะ"

ดอกบัวตอบ และกำลังจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป แต่ขวัญรั้งไว้เสียก่อน

"เดี๋ยวดิพี่บัว แล้วที่นัดติวกันล่ะ"

"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ยังไงสอบไฟนอลก็ผ่านมาแล้ว เดี๋ยวรอลงเรียนใหม่ปีหน้าก็ได้ ไปก่อนนะทุกคนน!" ดอกบัวรีบตอบและรีบมุ่งหน้าไปยังสภาทันที

ในขณะที่เธอเดินออกมาหน้ามหาลัยตรงป้ายรถเมล์ได้ซักระยะ เธอได้เดินชนเด็กคนนึงเข้าอย่างจัง!

"โอ๊ยย!!" เด็กน้อยคนนั้นอุทานด้วยความเจ็บ

.......โปรดติดตามตอนต่อไป......

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!