NovelToon NovelToon

ทานตะวันสีเพลิง

Episode 1

ที่บ้านหลังเล็กท้ายหาดแห่งหนึ่งในพัทยา บ้านที่มีขนาดเล็กจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีชีวิตสองชีวิตอาศัยอยู่ที่นี่ได้ สภาพของบ้านมีลักษณะเป็นเพิงหมาแหงนเก่าๆ สร้างขึ้นโดยใช้ต้นไม้ขนาดเท่าขายึดเป็นเสาจำนวน 9 ต้น แปะมุงด้วยสังกะสีเก่าๆ จากโรงสีที่บริจาคให้กับ ‘ยายบุญมี’ ด้วยความสงสาร ยายบุญมีอาศัยอยู่กับหลานสาววัย 20 ปี ที่ลูกสาวนำมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงตั้งแต่แบเบาะผ่านมา 20 ปีแล้วก็หายหน้าหายตาไป ไม่ได้พบเจอกันอีกเลย ยายบุญมีตั้งชื่อให้หลานสาวว่า ‘ทานตะวัน’ เพราะแกชอบดอกทานตะวันเป็นการส่วนตัว นับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ทานตะวันโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง แต่ยายบุญมีนั้นกลับแก่ชราลงทุกวัน โรคก็รุมเร้าจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ลำพังตัวเองจะตายไปก็ไม่เสียดายหรอกชีวิต แต่ทานตะวันสิ จะอยู่อยู๋อย่างไรโตเป็นสาวแล้ว อันตรายรอบตัวมันมากมายไปหมด ยิ่งต้องไปทำงานหามรุ่งหามค่ำทุกวัน หาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ไหนจะค่าหยูกยาของยาย คิดแล้วก็น้อยใจตัวเองที่มีปัญญาส่งหลานเรียนได้แค่ ม.3 หากตะวันได้เรียนสูงกว่านี้สักหน่อย ก็คงไม่ต้องมาทนลำบากหาเงินเลี้ยงคนแก่ใกล้ตายอยู่อย่างนี้

“ยายหนูเป็นยังไงบ้างคะหมอ” เสียงใสๆ เอ่ยถามด้วยความเป็นกังวล คืนก่อนยายบุญมีล้มหัวฟาดกับพื้น ขณะที่ทานตะวันไปทำงานช่วงกลางคืน กลับมาถึงก็เห็นนอนนิ่งอยู่บนพื้นแล้ว แต่เธอก็ไม่รอช้ารีบขอให้เพื่อนบ้านใกล้เคียงพายายมาส่งที่โรงพยาบาลทันทีหลังจากที่พบเห็น

“อาการน่าเป็นห่วงครับ ถ้าไม่รีบผ่าตัดด่วน หมอคงต้องพูดกันตามตรงว่า...ไม่รอด” เหมือนฟ้าผ่าลงกลางอก คนสำคัญในชีวิตเพียงคนเดียวของสาวน้อยทานตะวันก็คือยาย ยายเป็นทุกอย่าง เป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ ถ้าไม่มียายก็ไม่มีใครอีกแล้วแม้ตอนเรียนจะล้ออยู่เสมอว่าใส่เสื้อผ้าที่เก็บมาจากกองขยะ แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่ยายมอบให้กับเธอ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ยายจะหามาให้ได้ ยายไม่เคยซื้อเสื้อผ้าใส่เลย แต่ทุกวันปีใหม่ยายจะแอบเอาเงินที่ขายของเก่าได้ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้กับทานตะวันทุกปี ยายมักจะกินข้าวแค่นิดหน่อย เพราะกลัวหลานจะกินไม่อิ่ม หากวันไหนหาเก็บของเก่าไม่ได้ บางครั้งยายบุญมีก็ไปขโมยของในตลาดมาทำกับข้าวให้หลานกิน จนตัวเองต้องถูกแม่ค้าขว้างปาข้าวของใส่ราวกับหมูกับหมา แต่เพราะคนส่วนใหญ่มองว่าแกสติไม่ดี เลยไม่ได้ถือสาอะไร หรือบางครั้งเห็นไปด้อมๆ มองๆ อยู่แถวนั้น ก็อาจจะเจอแม่ค้าใจดีจัดการมอบของให้บ้างเล็กๆ น้อยๆ พอได้เอามาแบ่งกันกินกับหลาน

“ใช้เงินเยอะไหมคะหมอ”

“น่าจะไม่ต่ำกว่าแสนนะครับ”

“แสนหนึ่ง....เลยเหรอคะ” แสนหนึ่งทานตะวันเอ๊ย เงินตั้งแสนเธอจะไปหาจากไหนได้ ลำพังทุกวันนี้ล้างจานจนมือเปื่อย ก็ยังได้แค่วันละสามร้อยบาทเท่านั้น เด็กสาวได้แต่รำพันในใจ เพราะไม่มีความรู้อะไรทานตะวันจึงได้แต่คิดว่าตัวเองต้องหาเงินแสนมารักษายายให้ได้โดยไม่ได้หาหนทางอื่นๆ ที่จะมาช่วยลดหย่อนค่ารักษาในครั้งนี้

 

 

หลังจากไปดูยายในห้องแล้ว ทานตะวันก็ออกมาทำงานในร้านที่เธอทำงานอยู่ประจำ ทานตะวันทำงานอยู่หลังร้านตลอดเวลา จนเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองไปเสียแล้ว เธอเดินเข้าออกทุกวันจนเคยชิน แต่วันนี้มันไม่เหมือนทุกวัน ในหัวนั้นคิดอยู่แต่เรื่องยาย กับเงินหนึ่งแสน ที่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะหามาจากไหนได้

เพล้งงง!! เสียงจานกระเบื้องหล่นกระทบพื้นดังสนั่น เศษจานแตกกระจัดกระจายไปทั่วพื้น

“เฮ้ยตะวันระวังหน่อย เจ๊มาเห็นเข้าได้หักไม่เหลือกินเลยนะเว้ย” เสียงของ ‘ฟ้า’ เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของทานตะวันกระซิบกระซาบเตือน ทานตะวันรีบก้มลงเก็บเศษจาน แต่เหมือนว่าจะช้าไป

“นังตะวัน นังฟ้า ฉันได้ยินเสียงจานแตก!!” ร่างบางของ ‘ซ้อหลิว’ ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู แม่หม้ายสาวสองพัน ปีเจ้าของร้านหน้าเลือด ที่เค็มยิ่งกว่าเกลือทั้งทะเล รีบวิ่งมาดูทันทีจริงๆ เธอก็รอหักเงินลูกจ้างอยู่แล้ว ยิ่งลูกจ้างอย่างทานตะวันกับฟ้าที่มักจะถูกหักยิบหักย่อยอยู่เสมอ ยิ่งถือเป็นงานถนัดของเจ๊หลิว ถ้ามีที่อื่นไปสองสาวคงไม่ทนอยู่ที่นี่เป็นแน่ ซ้อหลิวเปิดร้านอาหารขึ้นมาบังหน้าอีกธุรกิจที่ทำเงินได้ดีกว่านั่นคือธุรกิจขายบริการ  ที่ชั้นใต้ดินถูกเปิดเป็นซ่องค้ากามให้กับเหล่ามาเฟียใหญ่ๆ และพวกคนมีอิทธิพล ด้วยความหน้าเงินซ้อหลิว ทำให้เธอค่อนข้างที่จะเลือกลูกค้า ไม่ใช่จะปล่อยให้ใครเข้ามาได้มั่วซั่ว เพราะไหนจะไม่คุ้มค่าแรงเด็กๆ ไหนจะเสี่ยงกับตำรวจอีก ปล่อยให้รายใหญ่เชื่อถือได้ แถมรายได้ดีดูจะดีกว่า เพราะเธอเชื่อเสมอว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากมันเสียง่าย

“อ๋อ!! นังตะวัน แกใช่ไหมหา!! มานี่เลยมานี่ หลักฐานคามือเลยหนอย…”

“เจ๊หนูเจ็บ โอ๊ยยย” ซ้อหลิวตรงเข้าไปกระชากผมที่รวบมัดไว้เป็นหางม้าสีดำขลับ ยาวสลวยของทานตะวันแล้วออกแรงกระชากลากเธอให้เดินตามไปที่ห้องบัญชี

“แกแหกตาดูนะ สองวันนี้แกทำจานที่ร้านของฉันแตกไปกี่ใบแล้วหา!! ฉันจะไล่แกออกดีไหม? เอานังฟ้าไว้คนเดียวจะได้ไม่เปลืองเงินฉันด้วย เซ่อซ่าดีนัก!!” ซ้อหลิวกางบัญชีแล้วชี้ให้ทานตะวันดู ร่างบางล้มตัวลงคุกเข่าพนมมือกราบกรานอ้อนวอนขอความเมตตา เนื้อตัวสั่นพร่าด้วยความกลัว

“เจ๊ขา...ฮึกตะวันกำลังลำบาก ยายตะวันกำลังป่วย ตะวันจะหาเงินไปรักษายาย”

“ยายมีน่ะเหรอ แกก็แก่แล้วตายๆ ไปก็สิ้นเรื่อง แกจะได้สบายด้วยไงนังตะวัน ไม่ต้องมาทำงานหาค่ายาแบบนี้” พอได้ยินอย่างนั้นดวงตากลมโต ก็เอ่อนองไปด้วยน้ำตา ‘ถ้ายายตายไปตะวันจะอยู่ยังไง ทำไมเจ๊ต้องมาแช่งยายแบบนี้ด้วย’ เธอมองคนพูดพลางคิดในใจ

“เจ๊ขา....ถ้าหนูขอยืมเงินเจ๊สักแสนหนึ่งได้ไหมคะ” ทานตะวันใช้โอกาสนี้เงยหน้าขึ้น ขอความเมตตาจากหญิงหม้ายวัยกลางคนที่ยังคงสวยฉ่ำ ทันทีที่เธอได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นอ้อนวอน สายตาคู่คมก็หันมากวาดมองร่างของเด็กสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา ก่อนจะหัวเราะลั่น

“ฮ่าฮ่าฮ่า แสนหนึ่ง” ร่างระหงลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วสาวเท้าตรงไปหาเด็กสาวที่นั่งพนมมืออ้อนวอนอยู่ที่พื้น จากนั้นก็ก้มมองหน้าทานตะวันใกล้ๆ ก่อนจะใช้นิ้วชี้จิ้มลงบนหน้าผากมน แล้วออกแรงผลักจนคนโดนกระทำเซถลา

“ถุย นังตะวันแกจะยืมเงินฉันแสนหนึ่ง แล้วแกทำงานล้างจานได้วันละสามร้อย แถมยังโดนหักทุกวันแบบนี้ ชาติหน้ากี่ชาติกว่าแกจะคืนฉันหมดหา!!” มีหรือที่ซ้อหลิวหน้าเงินจะให้ อะไรที่ทำแล้วไม่มีผลประโยชน์ คนอย่างซ้อหลิวไม่ทำทั้งนั้น

“ตะวันขอร้องนะคะเจ๊ ตะวันไม่มีทางอื่นแล้ว”

“ฉันจะได้อะไรจากแกล่ะนังตะวัน แกทำงานแกก็เก็บเงินไปสิเก็บเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ครบเองนั่นแหละ” ร่างบางในชุดกี่เพ้าสีแดงเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะอย่างไม่ไยดี ทิ้งให้เด็กสาวนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นแบบนั้นโดยที่ไม่แม้แต่จะชายตามอง

“แม่เสี่ยกวงให้เอามาให้” เล้ง ลูกชายคนเดียวของซ้อหลิวยืนซองสีน้ำตาลให้ผู้เป็นแม่ ก่อนหันมองเสียงสะอื้นที่ห่างออกมาเพียงไม่กี่ก้าว

“ตะวันจ๋าของพี่เล้งเป็นอะไรจ๊ะ ใครทำอะไร” เล้งทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ร่างเล็กที่กำลังฟูมฟาย มือก็ฉวยโอกาสเอื้อมไปโอบไหล่บาง

“มันทำตัวเองสองวันจานแตกห้าใบ แม่จะไล่มันออกแล้ว” ซ้อหลิวพูดพร้อมกับกางกระดาษออกอ่าน

“โธ่!! แม่น้องตะวันจ๋าเขาอยู่กับยายแค่สองคน ยายมีก็แก่ใกล้ตายแล้ว จะไล่น้องออกทำไม น้องจะเอาอะไรกิน” พอได้ยินแบบนั้นตะวันก็สะบัดแขนเล้งออกไปอย่างทันทีด้วยความโกรธ สายตาที่พร่ามัวเพราะน้ำตาจ้องมองคนตรงหน้าอย่างโกรธเกรี้ยว

“เอ่อพี่ขอโทษนะจ๊ะตะวัน” เล้งพอได้สติรู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปก็รีบขอโทษขอโพยใหญ่ แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่ยอมให้อภัยเขาแน่

“นังตะวัน ฉันมีทางออกให้แกแล้ว แกจะเอาแสนหนึ่งใช่ไหม?”

ซ้อหลิวละสายตาจากกระดาษในมือหันไปมองเด็กสาว

“อะไรเหรอคะ” ทานตะวันมองด้วยสายตาที่แสนไร้เดียงสา ความหวังสุดท้ายมาถึงแล้ว เธอสุดแสนดีมจที่มีหนทางจะหาเงินไปรักษายายแล้ว

“อาทิตย์หน้าเสี่ยกวงจะจัดล่องเรือสำราญ เขาต้องการสาวบริสุทธิ์ไปขึ้นประมูลขายบนเรือ ถ้าแกตกลง ฉันจะออกค่ารักษายายแกทั้งหมดให้” ข้อเสนอพาให้สาวน้อยชาไปทั้งตัว ‘ขายตัวเหรอ’ อาชีพที่ยายพร่ำสอนมาโดยตลอดว่าอย่าทำ อาชีพที่ยายขอมาทั้งชีวิตต่อให้จนปัญญาแค่ไหนก็ห้ามทำเด็ดขาด คำสัญญาที่เคยให้ยายไว้ผุดขึ้นมาในหัวของเด็กสาว ทานตะวันนิ่งเงียบอยู่นาน จนคนรอคำตอบเริ่มจะหงุดหงิด

“นังตะวัน แกคิดเอาก็แล้วกัน ยายแกกำลังจะตาย แค่ขายตัวแกไม่ตายหรอก ขายแค่บนเรือครั้งเดียว ล่องเรือก็แค่สามวัน ถ้าคนที่มันได้แกไปมันเบื่อ มันก็โยนแกทิ้งเองนั่นแหละ คงไม่เอาทั้งวันทั้งคืนหรอกน่า!!” เพราะซ้อหลิวเองก็ไม่มีตัวเลือกอื่นเหมือนกัน เสี่ยกวงไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทำให้เธอไปหาสาวบริสุทธิไม่ทัน มีทานตะวันมาเป็นตัวเลือกแบบนี้ แถมยังเป็นคนโง่ ๆ ไม่ประสาอะไร กดค่าแรงก็ง่าย เงินที่เธอจะใช้ก็แค่เศษเสี้ยวที่เคยได้เท่านั้น

“แม่ถ้าแม่เอาน้องตะวันจ๋าไปประมูลเล้งจะไปด้วย”

“หุบปากไปเลยไอ้เล้ง ฉันจะเอาเงินฉันไปประมูลเด็กตัวเองมาทำอะไร มีงานอะไรก็ไปทำซะเดี๋ยวฉันขว้างด้วยแก้วนี่” ซ้อหลิวยกแก้วขึ้นขู่ลูกชาย จนเล้งวิ่งเตลิดหนีออกไป

“เอาไงนังตะวัน อย่าคิดนานเวลาฉันเป็นเงินเป็นทอง”

“ตกลงค่ะ” ตะวันตอบออกไปอย่างไม่คิด เพื่อยื้อชีวิตยายแล้วนั้นเธอพร้อมจะยอมแลกทุกอย่าง

“ถ้าอย่างนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกต้องเก็บตัวอยู่ที่บ้านฉัน รอเวลาขึ้นเรือ”

“แล้วตะวันไปเยี่ยมยายได้หรือเปล่าจ้ะ”

“ได้ เดี๋ยวฉันให้ไอ้เล้งมันพาไป” ซ้อหลิวเชื่อเสมอว่าหากสินค้ามีคุณภาพกำไรย่อมงาม เพราะอย่างจึงจำเป็นที่จะต้องจับทานตะวันขัดให้เงา ก่อนจะเอาขึ้นไปล่าราคางามๆ เด็กสาววัย 20 คงจะรีดเงินจากไอ้พวกแก่ตัณหากลับได้ดีทีเดียว

 

 

-วันลงเรือ-

“ตะวัน...นี่แกคิดดีแล้วใช่ไหม?” ที่ท่าเรือขนาดใหญ่มีผู้คนมากมายมายืนรอขึ้นเรือเพื่อไปปาร์ตี้สุดมันจนต้องลืมโลกบนฝั่ง ท่ามกลางผู้คนมากมายเด็กสาวสองคนยืนคุยกันด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก

“ตะวันคิดดีแล้ว มันไม่มีทางอื่นแล้วฟ้า ยังไงตะวันฝากดูยายของตะวันด้วยนะ” ฟ้าตามมาส่งเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง ใจจริงไม่อยากให้ต้องทำอะไรแบบนี้เลย แต่ก็เข้าใจว่ามันคือทางสุดท้ายแล้วจริงๆ

“ตะวันไม่มีทางอื่นแล้วฟ้า มันไม่มีทางอื่นแล้ว” สาวน้อยพูดด้วยความน้อยใจน้อยใจตัวเอง เด็กสาวที่ตัวสูงกว่าดึงคนตัวเล็กเข้าไปก่อนน้ำตาก็พลันหลั่งไหลด้วยความสงสาร ถ้าเธอร่ำรวยกว่านี้สักนิดเพื่อนก็คงไม่ต้องลำบากแบบนี้

“พวกแกจะล่ำลากันอีกนานไหมหา! นี่นังฟ้าฉันจะพานังตะวันไปหาเงิน ไม่ได้เอามันไปฆ่า อีกสามวันวันฉันก็กลับแล้ว แกอย่าโอเวอร์จะได้ไหม” สาวใหญ่หันไปโวย เพราะทนรอให้เพื่อนล่ำลากันไม่ไหว เจ้าแม่ในวงการอย่างซ้อหลิวได้ห้อง VIP เพราะเป็นคนสนิทของเสี่ยกวง ทานตะวันเองก็ต้องพักห้องเดียวกับซ้อหลิวไปก่อน หลังจากถูกประมูลแล้วถึงจะไปนอนห้องเดียวกับแขก

“เตียงเล็กจังเลยค่ะเจ๊” ทันทีที่เข้าไปในห้องตะวันก็เดินสำรวจภายในห้องด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“แกไม่ต้องบ่นหรอก ฉันนอนคนเดียว” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปม ก่อนจะหันไปมองที่โซฟา

“อ๋อตะวันต้องนอนที่โซฟาใช่ไหมจ๊ะ” สาวใหญ่ถอนหายใจด้วยความรำคาญ แล้วละมือจากการรื้อข้าวของ หันไปโวยกับสินค้าที่นำขึ้นเรือมาของเธอ

“คืนนี้แกก็ต้องขึ้นประมูลแล้ว แกก็ไปนอนกับแขกสิ มานอนกับฉันทำไม นังโง่!!” ซ้อหลิวตวาดเสียงดังลั่น พอได้ยินแบบนั้นตะวันก็ใจสั่นด้วยความกลัว ‘นี่เรากำลังทำอะไร ที่ทำแบบนี้มันถูกแล้วจริงๆ หรือ’ เธอถามตัวเองอีกครั้ง แต่พอนึกถึงภาพยายที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาลความกลัวมันก็หายไปจากหัวทันที

“ตอนนี้แกนอนพักไปก่อน พอจะแต่งตัวฉันจะไปปลุกแกเอง หน้าตามันจะได้สดใส ไม่ใช่ซีดเหมือนไก่ต้มแบบนี้” สิ้นคำสั่งทานตะวันก็ทำตามอย่างว่าง่าย แม้ในสมองจะตีกันยุ่งอยู่กับเรื่องขายหรือไม่ขาย ถูกหรือไม่ถูกก็ตาม

Episode 2

ห้องติดกันเป็นห้องของ ‘แดเนียล คาเซียโน่’ มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลีผู้ชื่นชอบในการควงผู้หญิงไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำหน้า มีตั้งแต่นางแบบ ดาราดัง ไฮโซ แต่หลังๆ มาเขาเอือมที่จะต้องมีข่าวเลยหันมาซื้อของดี ราคาไม่สูงกินดีกว่า ผู้หญิงพวกนั้นนอกจากจะนำพาสื่อที่ทำชีวิตเขาวุ่นวายแล้ว ยังหัวสูงใช้แต่ของแพงผลาญเงินเขาอย่างไม่จำเป็น แดเนียลไม่ใช่คนโง่ที่จำใช้เงินบำเรอผู้หญิงไปอย่างสิ้นเปลืองแม้ว่าเขาจะมีเงินมากมายใช้ทั้งชาติไม่หมดก็ตาม และที่ตั้งใจมาในครั้งนี้ก็หวังเพียงจะได้บดขยี้สาวน้อยบริสุทธิ์สักคนให้ร่างแหลกคาเตียงก็เท่านั้น ก่อนการประมูลจะเริ่มเขาได้ซื้อสาวขายบริการจากบนเรือเอามาเคี้ยวเล่นๆ บนเตียงคนหนึ่งคั่นเวลารอการประมูล

“อ๊ะ คุณแดเนียลขามายด์เสียวค่ะ"

สาวขายบริการที่ถูกจ้างมาบำเรอกามให้กับแขกร้องลั่น ความหล่อดิบบวกกับอาวุธขนาดใหญ่โตของเขาช่างสร้างสุขให้เธอเหลือเกิน ดวงตากลมโตหลับพริ้มรับรสเร่าร้อนแสนสุขสมจากแก่นกายขนาดใหญ่ที่ถล่มลงในโพรงสวาทของเธอ มือเรียวจิกทึ้งผ้าห่มด้วยความเสียวซ่านทุกช่วงจังหวะของการบรรเลงแดเนียลก้มลงดูดเลียเนินอกเนียนจนเกิดเป็นรอยแดงช้ำหลายจุด พร้อมกับสลับไปละเลงลิ้นเชยชมยอดอกสาว คนถูกกระทำแอ่นอกรับสัมผัสเสียวอย่างพึงพอใจ เธออยากจะถวายตัวเป็นทาสสวาทเขาเหลือเกิน ยิ่งใกล้ถึงจุดไคลแม็กซ์แดเนียลยิ่งออกแรงหนักขึ้น รุนแรงขึ้นจนสาวขายบริการกรีดร้องลั่น ไม่นานทุกอย่างก็สิ้นสุดลง แดเนียลลุกขึ้นทันทีเมื่อเสร็จกิจจากนั้นก็เดินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายเตรียมพักผ่อนรอการประมูล

“นี่เงินของเธอ ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไปซะ ฉันจะพักผ่อน”

แดเนียลยื่นธนบัตรจำนวนตามราคาที่ได้ตกลงกันไว้ ให้กับสาวขายบริการ ที่กำลังนอนเปลือยอยู่บนเตียง

“มายด์ขออยู่ต่อได้มั้ยคะ ราคานี้เหมาทั้งคืนไปเลย”

สาวสวยพลิกตัวขึ้นมาต่อรอง ใบหน้าคมแสดงสีหน้าไม่พอใจ เขาถอนหายใจก่อนจะหันไปกระชากร่างของสาวขายบริการให้ลุกขึ้น เธอหมดประโยชน์กับเขาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเก็บไว้เชยชมอะไรทั้งนั้น

“โอ๊ยคุณแดเนียลมายด์เจ็บค่ะ”

“เจ็บก็ออกไป จะเดินไปเองหรือจะให้โยนออกไป”

เขาว่าพร้อมกับโยนร่างบางลงบนเตียง คนตัวเล็กพอได้เจอกับแดเนียลในอารมณ์โกรธเกรี้ยวก็หวาดกลัวจนต้องรีบคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมไปลวกๆ พอได้ปิดบังร่างกายแล้วรีบคว้าเงินและข้าวของประคองตัวเดินออกจากห้องไป เขาซื้อผู้หญิงพวกนี้มาเพื่อสนองความต้องการเพียงครั้งคราวเท่านั้นไม่ได้ต้องการผูกมัดเลี้ยงดู ไม่เคยแม้แต่จะนึกอยากใช้กับผู้หญิงคนไหนด้วยซ้ำผู้หญิงพวกนี้ก็แค่อยากได้เงินกันทั้งนั้น ซื้อมาแค่ใช้ระบายอารมณ์แล้วต่างคนต่างไป เขาได้ระบายอารมณ์ ผู้หญิงได้เงินถือว่าวินวินกันทั้งคู่

ทางฝั่งซ้อหลิวก็กำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมข้าวของสำหรับแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับสินค้าเพียงชิ้นเดียวของตัวเอง เมื่อเวลาใกล้เข้ามาสาวใหญ่ก็เดินเข้าไปปลุกทานตะวันที่เตียง

“นังตะวัน ตื่น!”

สาวใหญ่ลุกขึ้นไปเขย่าตัว ปลุกเด็กสาวที่กำลังหลับอยู่บนเตียงให้ตื่นขึ้น ตากลมค่อยๆ เปิดขึ้นจากนั้นเจ้าตัวจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยอาการงัวเงีย

“นังตะวันตื่นไปอาบน้ำ จะถึงเวลาแล้ว”

มือสองข้างเริ่มออกแรงเขย่าหนักขึ้น คนถูกปลุกค่อยๆ ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ จัดการขัด ถูกตามคำสั่งของคนที่ตะโกนสั่งอยู่หน้าห้องน้ำ เมื่อจัดการอาบน้ำขัดถูร่างกายเสร็จ ทานตะวันจึงเดินออกมานั่งที่เก้าอี้ ซ้อหลิวได้จัดแจงทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว สาวใหญ่เริ่มจากการเป่าผมให้แห้งแล้วรวบขึ้นไปมวยไว้ไม่ให้ย้อยลงมาเกะกะการแต่งหน้า

“นังตะวัน แกต้องยั่ว เข้าใจไหม สายตาแกต้องกวาดเชื้อเชิญให้แขกสนใจแก”

ปากเอ่ยสั่งกำชับสาวน้อย มือก็ยุ่งอยู่กับการลงรองพื้น บนผิวหน้าที่เนียนละเอียดราวกับเด็กที่ไม่เคยต้องทำงานหนัก ตากแดดตากลมอะไร

“ทำตายั่วยังไงคะ”

ทานตะวันถามขึ้นด้วยความไร้เดียงสา

“โอ๊ยนังตะวัน ฉันจะเสียเงินกับแกไปฟรีๆ หรือเปล่า แกดูฉัน แล้วทำตาม”

คนแต่งหน้าวางเครื่องสำอางในมือลง แล้วทำตายั่วสวาทให้ทานตะวันดู สาวน้อยทานตะวันพอได้เห็นแล้วก็นึกตลก เผลอยิ้มออกมา อย่างไม่ตั้งใจ

“นังตะวันแกขำอะไร”

“ก็ขำเจ๊นั่นแหละ ทำหน้าตาตลกจัง”

“นังนี่ ถ้าก็ไม่ติดว่ากลัวของช้ำฉันจะตบให้กลิ้งเลยนะ”

ซ้อหลิวพูดพร้อมกับง้างมือทำท่าจะตบ

“แล้วนี่แกซิงจริงใช่มั้ยนังตะวัน ฉันก็ไม่ได้เช็คของเลย ไม่อยากย้อมแมวขาย เสียชื่อ”

ตะวันแค่ก้มหน้าผงกหัวรับ เมื่อจัดการแต่งหน้าทำผมเรียบร้อยแล้ว สาวใหญ่ก็ลุกไปหยิบชุดสีขาวบาง ยาวแค่เข่า มายื่นให้กับสินค้าของเธอ

“เอ้าชุด ใส่ซะ”

“ทำไมมัน….บางแบบนี้ล่ะเจ๊”

ทันทีที่รับมาถือในมือ ตะวันก็เอ่ยถามทันที จะให้ใส่ชุดแบบนี้ออกไป อายคนแย่

“นังตะวันฉันเอาแกมาขายตัว แกจะแต่งแบบไหนใส่ชุดนักบินอวกาศเหรอ อย่าเรื่องมาก ใส่!!”

ซ้อหลิวเริ่มจะทนไม่ไหวกับความใสซื่อของสินค้าเสียแล้ว อยากขายๆ ให้มันจบๆ รำคาญเหลือเกิน ทานตะวันถอดชุดคลุมออกเผยให้เห็นผิวขาวนวลน่าสัมผัส ทรวงอกขนาดพอเหมาะชูชันชวนให้ขยำ เนินสาวถูกปิดด้วยกางเกงในตัวน้อยสีขาวเพียงตัวเดียว

“เจ๊ สะ เสื้อในจะไม่ต้องใส่จริงๆ เหรอ”

“ฉันให้ทำอะไรก็ทำเถอะ จะเอาไหมเงินน่ะ”

เอาเถอะตะวัน งานง่ายๆ ได้เงินไปรักษายายด้วย เด็กสาวบอกกับตัวเองในใจ ซ้อหลิวเดินนำทานตะวันออกมาจากห้อง แต่เพียงเดินพ้นประตูออกมาก็นึกเปลี่ยนใจอยากให้ใส่เสื้อคลุมปิดไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่เปลืองตอนเดินผ่านสายตาพวกเงินไม่ถึงแต่อยากจะกินของดี

“นังตะวัน รอฉันตรงนี้นะ ฉันไปเอาของก่อน”

“ของอะไรจ๊ะ”

“เสือก!!”

ตะวันทำหน้ามุ่ย อยากรู้สักหน่อยก็ไม่ได้ ขณะที่กำลังยืนรอซ้อหลิวอยู่ ผู้ร่วมเรือข้างห้องก็ได้เดินออกจากห้องเพื่อไปรอการเปิดประมูลพอดี ทันทีที่หนุ่มหล่อร่างกำยำได้เห็นสาวน้อยในชุดสีขาวบางๆ ก็เกิดความร้อนวูบวาบขึ้นที่แก่นกลางกาย ทานตะวันเมื่อมองเห็นสายตาคู่หื่นกำลังเล้าโลมรูปร่างของเธอ มือบางก็ยกขึ้นมาปิดป้องทรวงอกอวบ มันเชิญชวนให้เขาเข้าไปสัมผัสมัน เรือนร่างเล็กๆ ดูแล้วอยากลากไปฟัดบนเตียงให้หมดสิ้นเรี่ยวแรง ผิวขาวผ่องนั่นมันดึงดูดคนหื่นให้เดินเข้าไปทักทายสาวน้อยห้องข้างๆ ไม่แน่หากตกลงกันได้คืนนี้คงไม่ต้องเสียเงินประมูล

“เท่าไหร่”

คนตัวสูงก้มลงถามพลางแอบมองทรวงอกสาวอย่างหิวกระหาย แม้มือน้อยๆ จะปิดบังบางส่วนไว้แต่มันกลับปลุกเร้าให้เขาอยากขยำมัน จนแทบจะห้ามมือไว้ไม่อยู่

“แสนนึงค่ะ”

ทานตะวันตอบไปอย่างไร้เดียงสา

“ไม่แพงไปรึไง ถ้าซื้อเธอแสนนึงสู้เก็บเงินไปประมูลของใหม่ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ”

เขาโวยทันที แม้แดเนียลจะชอบซื้อกิน แต่ก็ไม่สู้ราคาที่แพงนัก เขาไม่ใช่คนโง่ ที่จะเสียเงินมากมายกับของพวกนี้

“ตะวันยังซิงนะคะ”

เสียงใสกับท่าทางไร้เดียงสาของเธอ ชวนให้ชายหนุ่มนึกสนุกขึ้นมา

“จริงเหรอ”

“จริงค่ะ”

“งั้น ขอลองได้มั้ย จะได้รู้ว่าเธอยังสดจริงๆ”

ตะวันก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย ใบหน้าหล่อเหลากับน้ำเสียงกระเซ้า พาให้เด็กสาวหน้าร้อนวูบ นี่เขาเพียงแค่เร้าเธอทางสายตาเท่านั้น แต่ในใจอยากกระโจนใส่ใจแทบขาด

“อ้าวคุณแดเนียล”

ซ้อหลิวเอ่ยทักทาย แดเนียลเคยไปใช้บริการที่ซ่องของซ้อหลิวอยู่หลายครั้งทำให้ทั้งคู่รู้จักกันบ้าง

“เด็กซ้อเหรอ”

พอรู้ว่ามาจากไหน ยิ่งทำให้เขามั่นใจในคุณภาพ ของซ้อหลิว ไม่มีของไม่ดีแน่นอน

“ค่ะ แต่ถ้าได้ไปทำใจหน่อยนะคะ มันโง่ๆ เซ่อๆ เด็กมันไม่เคย”

ทั้งคู่เดินไปคุยไป ทานตะวันรับเสื้อคลุมจากซ้อหลิวมาก็รีบสวมทันที แดเนียลได้แต่บ่นเสียดายในใจ แต่ก็ยังแอบมองใบหน้าจิ้มลิ้มอยู่เป็นระยะ

“เริ่มต้นที่เท่าไหร่ครับ”

“50,000 ค่ะคิดว่าทรงนี้คงปั่นราคาได้เป็นแสน”

แดเนียลพยักหน้ารับ

“หวังว่าผมจะได้ใช้บริการเด็กซ้อนะครับ”

“ถ้าใจถึงก็ไม่แน่ค่ะ”

“แล้วเจอกันนะสาวน้อย”

"แดเนียลโบกมือลาทานตะวัน เธอเอาแต่ก้มหน้าหลบเพราะยิ่งใกล้ถึงเวลา ความคิดมันก็โจมตีกันอย่างหนัก จนเริ่มสับสนไปหมด ซ้อหลิวเดินนำตะวันไปที่หลังเวทีเพื่อเตรียมตัวขึ้นประมูล

Episode 3

สาวใหญ่ยังคงวุ่นอยู่กับการดูแลความเรียบร้อยของทานตะวัน ซ้อหลิวจัดแจงเสื้อผ้าให้เปิดโชว์สรีระเพื่อเรียกราคาจากผู้ที่มาประมูล แม้ทานตะวันจะอายุเพียง 20 ปีและดูแล้วจริตไม่ยั่วยวนตามที่ซ้อหลิวคาดหวังไว้ แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาและท่าทางซื่อๆ ใส ๆ ไร้เดียงสา แบบที่ซ้อหลิวเรียกว่าโง่ มันก็พอจะเรียกราคาได้เหมือนกัน ต้องมีสักคนนั่นแหละที่จะชอบซื่อๆ โง่ๆ แบบนี้

“คิวที่ 2 แกพร้อมรึยัง”

ทานตะวันส่ายหัวไปมา อยู่ๆ ภาพยายตอนที่สอนเรื่องอย่าขายตัวก็ผุดขึ้นในหัวอีกครั้ง ถ้ายายหายแล้วรู้ว่าตะวันขายตัวยายต้องโกรธแน่ๆ สาวน้อยคิดในใจ

“ตะวันไม่ทำแล้วได้มั้ย”

เสียงใสกระซิบบอกสาวใหญ่ที่กำลังยุ่งอยู่กับการซับหน้าขาวนวล

“แกพูดอะไรของแก ยายแกกำลังจะตาย แกลืมไปแล้วหรือไง”

“ตะวันกลัวยายรู้แล้วยายจะโกรธ”

“งั้นแกก็เลือกเอาแล้วกันว่าแกกลัวยายแกโกรธ หรือกลัวยายแกตาย”

ประโยคตัดสินลบล้างทุกความคิดออกไปจากหัวทันที ถึงคิวซ้อหลิวต้องหิ้วสินค้าขึ้นไปโชว์บนเวที เธอจัดการถอดเสื้อคลุมให้ตะวันแล้วพาเดินขึ้นเวทีไปอย่างสง่า เสียงผู้คนโห่ร้องชอบใจ ทำให้ทานตะวันต้องก้มหน้าลงด้วยความอาย แต่ซ้อหลิวรีบจับหน้าให้เงยขึ้นแล้วหันไปดุด้วยสายตา

“น้องทานตะวัน อายุ 20 คุณภาพตามหน้างาน สดๆ ซิงๆ เปิดประมูลที่ 5 หมื่นบาท”

ซ้อหลิวประกาศอย่างช่องชำนาญ เพราะเวทีประมูลผู้หญิง เธอขึ้นไปจนชินเสียแล้ว

“1 แสน” เสี่ยงกวงยกมือช่วยสาวใหญ่คนสนิทปั่นราคาตามที่ตกลงกันไว้

“1 แสนครั้งที่ 1”

เสียงพิธีกรประกาศทวนราคา

“แสนเจ็ด”

เสียงดังมาจากอีกฟาก

“สองแสน”

พิธีกรไม่ทันได้ทวนราคา ผู้เสนอราคาก็ร้องขึ้นอีกเสียง

“สองแสนห้า”

แดเนียลรีบเสนอราคาเพราะกลัวจะสูงไปมากกว่านี้ แม้เขาจะอยากได้เด็กตะวันคนนี้แค่ไหน แต่ก็ไม่อยากสิ้นเปลืองเงินไปกับของแบบนี้เท่าไหร่นัก

“หนึ่งล้าน”

เฮียเฉินเฒ่าผู้รักในการเสพสมกาม ยิ่งเห็นสาวๆ อายุน้อยๆ ยิ่งรู้สึกคึกคัก แม้อายุจะเข้า 60 แล้วแต่ตำรับตำรายาจีนก็ยังช่วยให้เสพสมกามจนสาวๆ เพลียได้เช่นกัน

“หนึ่งล้านครั้งที่หนึ่ง”

เสียงพิธีกรประกาศ แดเนียลได้แต่ถอนใจ ไม่คิดว่าราคาจะสูงขนาดนี้ ดวงตาคู่คมได้แต่ไล้โลมเรือนร่างบางบนเวที เขารอบกลืนน้ำลายเมื่อเผลอนึกภาพตัวเองกำลังร่วมรักกับเธอ

“หนึ่งล้านครั้งที่สาม”

“สองล้านห้า”

อยู่ๆ ปากที่พยายามปิดเงียบของแดเนียล ก็เผลอตะโกนโผลงไปอย่างไม่ทันคำนวณ บ้าจริง!! เขาสบถกับตัวเอง แต่พอหันไปมองสาวน้อยบนเวทีอีกครั้ง เขาก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ กินของแพงๆ สักครั้งคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง เสียงพิธีกรประกาศจนครบสามครั้งไม่มีใครเกทับราคาของแดเนียล เขาได้แม่สาวน้อยทานตะวันไปตามที่ใจหวัง สายตาไร้เดียงสามองลงมาที่คนชนะการประมูลเหมือนกับแววตาของลูกกระต่ายร้องขอความปราณีจากพญาราชสีห์ก็ไม่ปราน ซ้อหลิวจูงสินค้าราคาสองล้านห้ามาส่งให้ถึงมือลูกค้าวีไอพีของเธอ ทุกสายตาต่างจับจ้องทานตะวันกันอย่างเสียดาย ไอ้ครั้นจะทุ่มสู้สูงๆ ก็กลัวของดีจะอยู่ท้าย ทานตะวันออกมาแรกๆ เลยทำให้เหล่าผู้ท่องกามไม่กล้าตีราคาสูงนัก ผิดกับคนบ้าอย่างแดเนียล แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกว่าตัวเองบ้าเลย

“เธอเป็นของคุณค่ะ”

ซ้อหลิวประคองทานตะวันส่งให้กับแดเนียลเขาดึงเธอเข้าไปกอดไว้แน่น

“ยินดีด้วยนะครับคุณแดน ทุ่มเยอะขนาดนี้ไม่เสียดายคนหลังๆ เหรอ”

เฮียเฉินแวะมาทักทาย แม้จะยิ้มแย้มแค่ไหนแต่แดเนียลก็ดูออกว่าเฮียเฉินคงโมโหน่าดูที่พลาดจากแม่สาวน้อยคนนี้ “ครับ เดี๋ยวผมคงต้องขอตัวก่อน ของแพงต้องรีบกินให้คุ้มราคา”

เขาพูดพร้อมกับก้มมองคนที่อยู่ในอ้อมแขน แขนที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ช้อนร่างบางขึ้นร่างเล็กๆ ที่เบาเสียจนเขารู้สึกเหมือนยกกระสอบนุ่นถูกยกขึ้นเดินออกจากโถงจัดงาน ทานตะวันตกใจหน้าเหวอปนกันไปกับความรู้สึกชาๆ ไปทั้งตัว

“เดี๋ยวนะคะ จะไปเลยเหรอ”

เธอหันไปถามคนที่กำลังอุ้มร่างของเธออยู่

“ไปเลยสิ ไปสวรรค์กันดีกว่า”

เขาอุ้มทานตะวันออกมาจากงาน ตาก็เอาแต่จับจ้องสองเต้าอวบ แก่นกายก็ร้อนวูบ แข็งกร้าวพร้อมใช้งาน มาถึงหน้าห้องแดเนียลปล่อยทานตะวันลงแล้วหยิบกุญแจขึ้นมาไขห้องอย่างรีบร้อน แดเนียลเดินนำแม่กระต่ายน้อยเข้ามาในห้อง หล่อนเดินเข้ามายืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตู เอาแต่ก้มหน้า มือทั้งสองข้างจับกันไว้แน่น ยืนบิดไป บิดมา ร่างสูงปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกเหลือไว้เพียงกางเกงในตัวจิ๋วที่ปิดบังท่อนเนื้อขนาดมหึมาไว้ แต่อยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าบางอย่างที่แสนสำคัญเขาได้ใช้ไปจนหมดแล้ว

“เธอมีถุงยางรึเปล่า”

เขาหันไปถามคนที่เอาแต่ยืนก้มหน้าบิดตัวจนเขาเริ่มรำคาญ

“จะเอามาทำไมล่ะคะ”

ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมาถาม ถึงจะมาขายตัวก็ใช่ว่าจะพกมาหรอกo

“เอามาใส่ไอ้นี่ไง”

เขาชี้ลงตรงใต้สะดือ ต่างคนต่างเข้าใจคนละอย่างทานตะวันหมายถึงว่าตัวเองนั้นจะพกมาทำไม แต่คนฟังกลับเข้าใจว่าอีกฝ่ายถามเขาว่าจะเอามาทำไม ทานตะวันตกใจยกมือขึ้นปิดตา แก้มนวลแดงก่ำด้วยความเขินอาย คนบ้าทำอะไรไม่เกรงใจกันเลย แดเนียลถอนหายใจ ทำไงดีล่ะเมื่อกลางวันก็เผลอใช้ไปเสียหมดแล้ว ไอ้ครั้นจะออกไปหาบนเรือนี้ก็ไม่รู้จะมีหรือเปล่า อีกอย่างก็ไม่อยากเสียเวลาเขาอยากจะบดขยี้แม่เด็กนี่เต็มทน เอาก็เอาวะ “เธอยังเวอร์จิ้นอยู่ใช่ไหม”

แดเนียลเดินเข้าไปถามตรงๆ ทานตะวันพยักหน้ารับ เอาวะเสี่ยงก็เสี่ยง เขาไม่รอช้าคว้าร่างบางราคาสองล้านห้าโยนลงบนเตียงแล้วกระโดดตามลงไปตะปบมือหนากระชากเสื้อบางราวกับผ้ามุ้งออกฉีกจนมันขาดออกเป็นชิ้นๆ

“คุณคะ”

เสียงแผ่วเบาราวเสียงกระซิบทำให้แดเนียลชะงักมือ

“ตะวัน…ไม่เคย”

“ทำตามที่ฉันบอก แล้วอย่านอนนิ่งเป็นท่อนไม้ก็พอ”

พูดจบแดเนียลก็ก้มลงจูบริมฝีปากเรียวปากเล็กสีชมพูระเรื่อจากลิปกรอสสีธรรมชาติ หล่อนคงไม่เป็นจริงๆ เขาเป็นฝ่ายรุกอยู่คนเดียว ทั้งดูด ทั้งเลีย ลิ้นซุกซนชอนไชเข้าไปหาแต่อีกฝ่ายยังนิ่งขนาดนี้ ริมฝีปากร้อนๆ ถอนจูบแล้วไซร้ต่ำลงมาที่คอ กลิ่นกายสาวธรรมชาติปราศจากกลิ่นน้ำหอมปลุกเร้าอารมณ์คนหื่นได้ดีเหลือเกิน คอขาวนวลถูกฝากรอยแดงไปทั่ว ตรงนั้นที ตรงนี้ที ทานตะวันจากที่อยู่นิ่งมือเริ่มเคลื่อนมาคล้องที่คอคนข้างบน เขาไล่เลียลดลงต่ำเรื่อยๆ จนมาถึงจุดที่เขาเฝ้ามองตั้งแต่ค่ำ มือหนาข้างหนึ่งบีบขย้ำเนินเนื้อขนาดพอดีมือ ปากก็ก้มลงดูดยอดสีชมพูอย่างหิวกระหาย คนถูกกระทำดิ้นพล่านไปทั่วเตียงกลับยิ่งกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายให้เพิ่มมากขึ้น

“อือ”

เสียงที่เขารอคอยเล็ดลอดให้ได้ยินแว่วๆ ทานตะวันพยายามกลั้นเก็บเสียงที่ดูจะเป็นการฝืนธรรมชาติ แดเนียลจึงต้องขยับตัวขึ้นไปกระซิบบอกที่ข้างหูขาวๆ

“ถ้ารู้สึกก็ปล่อยมันออกมา อย่าฝืน”

ทานตะวันพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ใบหน้าคมยิ้มรับอย่างพอใจแบบนี้สิที่เขาต้องการ ถึงจะไม่เป็นงานก็ต้องไม่ดื้อเขาว่าอย่างไรก็ต้องเชื่อฟัง เมื่อบอกเรียบร้อยแล้วลิ้นสากก็กลับลงโลมเลียอีกครั้ง เขาทรุดหน้าลงทำกิจกรรมที่ค้างไว้ต่อ มือหน้าขยำอกสาวอย่างป่าเถื่อนจนเนื้อขาวๆ แดงเป็นรอยเต็มไปหมด เขาทั้งดูด ทั้งเหน็บฝากรอยแดงเป็นจ้ำๆ ทั่วทั้งเรือนร่าง

“อ๊า อื้อ”

เสียงทานตะวันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับแรงของแดเนียลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นิ้วเรียวลดต่ำลงตรวจสอบอีกฝ่ายว่าพร้อมแล้วหรือยัง น้ำหวานล้นทะลักจากกลีบเกสรสาวเธอพร้อมรับศึกจากเขาแล้ว แต่นี่มันครั้งแรกจะใช้อาวุธติดกายเลย อีกคนคงลำบาก เขาจึงเลือกที่จะใช้นิ้วเรียวช่วยนำทางก่อนให้อีกคนชินกับการเข้าออกของสิ่งแปลกปลอม

“อ๊ะ อ่า ซี้ดดดอ๊ะ”

ทุกการขยับเคลื่อนไหวของนิ้วที่สอดอยู่ สร้างเสียงร้องครวญของสาวน้อยใต้ร่างเขา หล่อนหลับตาพลิ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับสิ่งที่เขามอบให้ มือของแดเนียลเปียกชุ่มไปด้วยน้ำสาว มันมากจนทำให้เขาคิดอะไรขึ้นได้ สิ่งที่ไม่เคยทำกับใครสักที แม้จะอยากลองทำแค่ไหนก็ตาม นึกแล้วก็เสียวไปทั้งตัว เขาขยับตัวต่ำลงมาที่หว่างขา ก้มหน้าลงทำบางสิ่งด้วยลิ้น จนทานตะวันดิ้นพล่านด้วยความเสียว

“อ๊า ซี้ดด อ๊า คุณแดเนียล อ๊า”

มือบางพยายามดันศีรษะออกเพราะเสียวซ่านจนทนไม่ไหว มือหน้ารวบแขนทั้งสองข้างไว้แล้วทำมันต่อตามความพอใจของตัวเอง ทานตะวันทั้งเกร็งทั้งดิ้น มือตีนจิกกับเตียงจนเกร็ง แต่เอวก็แอ่นรับการกระทำนั้นอย่างปฏิเสธไม่ได้ เมื่อเขาทำมันจนพอใจแล้วจึงค่อยๆ หยุด ก่อนจะเคลื่อนตัวกลับมาไซร้ที่คอขาวๆ อีกครั้ง

“เธอพร้อมจะเป็นของฉันหรือยัง ทานตะวัน บอกฉันสิ”

เสียงกระซิบปลุกขนให้ลุกซู่ไปทั่วร่างกาย

“พร้อมค่ะ”

“ตอบฉันมาว่าเธอเป็นของใคร”

เขาถามซ้ำอีกรอบ

“ตะวันเป็นของคุณค่ะ”

แดเนียลยิ้มเล็กๆ อย่างพอใจ ก่อนจะจับขาของเด็กสาวให้ถ่างออกแล้วค่อยๆ ใช้นิ้วสร้างความเคยชินกับอุโมงค์ที่จะส่งรถไฟขบวนใหญ่เข้าไปเสาะสำรวจ

“อ๊า อู้ววว”

มันคงทนรอการเยี่ยมเยือนของเขาไม่ไหวแล้ว ทานตะวันน้อยบีบรัดนิ้วเรียวของเขาแน่น น้ำรักชุ่มรอต้อนรับขบวนรถไฟอย่างตั้งตา เขาไม่รอช้าแล้วค่อยๆ ส่งรถไฟเข้าอุโมงค์อย่างทะนุถนอม เพราะรู้ดีว่าอีกคนต้องเจ็บจนแทบขาดใจแน่ๆ

“อ๊า คุณแดเนียลเจ็บ ตะวันเจ็บ”

ทานตะวันร้องลั่นสองมือบางทุบตีหน้าอีกหนา แต่แรงเล็กๆ แค่นี้หรือจะสร้างความเจ็บปวดให้กับกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งของเขาได้ เขามองดูคนข้างล่างแล้วคงเจ็บหนัก เนื้อตัวแดงไปหมด ตาทั้งสองข้างเอ่อนองไปด้วยน้ำตา อยู่ๆ เสียงร้องอี๊อ๊าก็กลายเป็นเสียงร้องไห้ไปเสีย เขาพักกิจกรรมใต้สะดือลง แล้วโน้มตัวลงไปจูบปลอบประโลมเหยื่อ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

“ทนอีกนิดเดียวเธอก็ไม่เจ็บแล้ว ทนอีกหน่อยนะ เจ็บแค่นิดเดียว”

“ฮือ ไม่เอาแล้ว ตะวันเจ็บ เจ็บจะตายแล้ว ฮือๆ”

ทานตะวันสะอึกสะอื้นไม่ฟังอะไรแล้ว เขาพยายามใจเย็นอย่างเข้าใจ มือหนายกขึ้นลูบเรือนผมนุ่มสลวย เคราสากไล้ไปตามซอกคอหอม สลับกับปากที่เหน็บฝากรอยแดงบนเนื้ออ่อน

“ทนหน่อยนะ แล้วก็จะไม่เจ็บอีกแล้ว”

เขาพยายามอดทนเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย พูดจบปากเรียวก็กดลงประทับที่ริมฝีปากของทานตะวัน ครั้งนี้เธอมีการโต้ตอบเขาบ้างแล้ว แดเนียลจูบเด็กสาวอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานแล้วลอบสอดใส่อาวุธเข้าไปช้าๆ

“อื้ม อื้อ”

เสียงครางลอดผ่านริมฝีปากกล่อมคนหื่นอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อทุกอย่างเข้าที่แดเนียลก็ถอนจูบ ลุกขึ้นให้ได้ท่าที่ถนัด แล้วจึงลองขยับเอวดู

“อ๊ะ”

ทันทีที่เคลื่อนไหว ทานตะวันก็เปล่งเสียงครางแบบที่เขาชอบ

“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”

เขาถามไปพร้อมกับขยับเอวไปด้วย ทานตะวันส่ายหน้าและหลับตาพลิ้มรับการเคลื่อนไหวนั้น มือสองข้างกำหมอนบนหัวแน่น เขารู้ว่าหล่อนยังเจ็บอยู่ จึงเริ่มด้วยการโยกเบาๆ เท่านั้น แล้วค่อยๆ เพิ่มความเร็วและความแรงขึ้น พับ พับ พับ เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องอยู่ในห้อง เขาทำกิจกรรมบนเตียงไป แบ่งจังหวะก้มลงดูดเนินเนื้ออวบขาวเป็นทีที พอให้คนข้างล่างได้แบ่งความสนใจไปที่อื่นจะได้ลดความเจ็บลงบ้าง ในที่สุดทั้งคู่ก็ถึงจุดหมายแดเนียลลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย ปล่อยให้อีกคนนอนซมอยู่บนเตียงอย่างอ่อนแรง ร่างกำยำมองดูรอยข่วนบนเนื้อตัวของตัวเองแล้วยิ้มอย่างพอใจ หลังอาบน้ำเสร็จแล้วแดเนียลเดินออกจากห้องน้ำมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ก้มดูอีกคนที่นอนหลับตาอยู่ใต้ผ้าห่ม คืนนี้คงต่ออีกหลายยก จะทำไงได้ก็ปากมันดันลั่นราคาไปสูงขนาดนั้น ซื้อมาแพงแบบนี้ยังไงก็ต้องใช้ให้คุ้ม เขาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ทานตะวัน ปล่อยให้พักสักหน่อยก็แล้วกัน ถ้าต่อเลยคงขาดใจตายไปก่อนแน่

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!