" หลงหลง คุณจะรับชา หรือกาแฟดีครับ? " ผมเอ่ยถามขึ้น เมื่อคนตรงหน้า สายตายังคงจับจ้องมองที่บทละครในมือ ในขณะที่ผมนั่งฝั่งตรงข้าม มีเพียงโต๊ะที่คั่นกลาง
"...." หลงหลง ยังคงนิ่งเงียบ ผมเลยเอาใบหน้าเขยิบเข้าไปใกล้มากขึ้น สายตายังคงจ้องใบหน้าเรียวคม นัยน์ตาคู่สวยยังคงไม่ละสายตาออกจากบทละคร
" หลงหลง " ผมเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา ด้วยสายตาออดอ้อน จ้องมองคนตรงหน้าที่เริ่มรู้สึกตัว แต่ยังคงวางท่าทำเป็นมองไม่เห็นผม
"...."
" รับชาหรือกาแฟดีครับ? " ผมเลยถือวิสาสะเขยิบใบหน้าไปใกล้มากขึ้น พร้อมกับกระซิบข้างใบหู
" เสี่ยวไป๋ คุณใกล้เกินไปแล้วครับ " หลงหลงกล่าวพร้อมเอามือข้างหนึ่งปิดใบหูที่แดงก่ำ
" คุณน่ารักเกินไปแล้ว ดูใบหน้าคุณสิ แดงก่ำไปหมดแล้ว "
" อะ--แฮ่ม "
" หลงหลงสำลักความรักผมเหรอครับ (●>∪<●) "
"...."
" ฮ่าๆ อย่าทำใบหน้าแบบนั้นสิครับ รับชาหรือกาแฟดีครับ? " ผมกล่าวเมื่อเห็นว่าหลงหลงกำลังจะชักสีหน้า
" ผมขอเป็นกาแฟดำครับ คราวหน้าคุณถามผมดีๆ ก็ได้ " หลงหลงปรับน้ำเสียงและสีหน้าให้เป็นปกติ
" ถ้าคุณยอมตอบผมโดยดีนะครับ คิกๆ " ผมกล่าวอย่างอารมณ์ดี
ml" ก็เล่นจ้องมองผมตั้งนานแบบนั้น ใครจะกล้าสบตากับคุณละ " หลงหลงกล่าวในขณะที่สายตาพยายามหลบไปทางอื่น
" มีแฟนสวยทั้งทีก็ต้องจ้องนานๆ สิครับ "
" เสี่ยวไป๋ ผมไม่เห็นจะจำได้เลยว่าผมไปตกลงคบกับคุณตอนไหน? " หลงหลงกล่าวด้วยใบหน้าสงสัย
" ตอนนี้เลยไหมครับ คุณกับผมก็โสดทั้งคู่ "
" เสี่ยวไป๋ แต่.... " หลงหลงถอนหายใจก่อนกล่าว
" ไม่มีแต่ครับที่รัก ผมไปชงกาแฟก่อนนะครับ น้ำร้อนเดือดได้ที่แล้ว " ผมกล่าวสรุปโดยไม่รอให้คนตรงหน้าได้กล่าวปฏิเสธ
"...." สักพักหลงหลงก็ยิ้มหัวเราะเบาๆ ออกมาด้วยท่าทางงุนงง
............................
" ที่รัก กาแฟร้อนมาแล้วครับ " ผมกล่าวในขณะที่มือถาดกาแฟ และขนมทานเล่น พร้อมกับเดินตรงไปยังห้องนั่งเล่น
เมี๊ยว~~
เจ้าแมวอ้วนตัวสีดำ กำลังนอนอยู่บนตักของหลงหลง และทำท่าทางออดอ้อนส่งเสียงร้อง ในขณะที่หลงกำลังเอามือเกาพุง
" เสี่ยวไป๋แมวตัวนี้ชื่ออะไรเหรอ? "
" ต้าชิงครับ ปกติมันไม่ค่อยชอบให้ใครจับ สงสัยมันคงชอบคุณ "
" อืม " หลงหลงตอบรับเพียงสั้นๆ ในขณะที่นัยน์ตายังคงจับจ้องไปที่เจ้าแมวอ้วน
" ที่รัก กาแฟกับขนมทานเล่นพร้อมแล้วนะครับ " ผมกล่าวพร้อมกับวางถ้วยกาแฟและขนมลงบนโต๊ะ พร้อมกับนั่งลงด้านข้างคนตรงหน้า
" ต้าชิง กินเค้กไหม? " หลงหลงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"...." ผมแทบจะสำลักกาแฟที่ผมกำลังดื่ม แมวอ้วนตรงหน้ามันมีดีอะไรกว่าผมเหรอครับ ทำไมหลงหลงถึงให้ความสำคัญกับมันขนาดนี้!!
" อ้ามๆ ~....เสี่ยวไป๋! " ในขณะหลงหลงเอื้อมมือตักเค้กพอดีคำจะป้อนไปที่ต้าชิง เจ้าแมวอ้วนสีดำ ผมเลยอาศัยจังหวะอุ้มมันออกจากตัก และรับชิ้นเค้กเข้าปากแทนครับ
" อร่อยจังเลยครับที่รัก " ผมส่งเสียงอย่างอารมณ์ดี
" เสี่ยวไป๋ ถ้าคุณอยากกินก็ไม่เห็นต้องแย่งต้าชิง เค้กก็ยังมีเหลืออยู่ "
" ได้กินจากมือที่คุณป้อน ผมว่าอร่อยสุดครับ " ผมกล่าวพร้อมกับทำใบหน้าใสซื่อ
"...." หลงหลงหันใบหน้าที่กำลังแดงก่ำไปทางอื่น
" หลงหลง " ผมกล่าวเรียกชื่อให้คนตรงหน้าหันมา
" อึก....อื้อ" หลงหลงหันใบหน้าที่แดงก่ำกลับมา ผมเลยอาศัยจังหวะที่เขากำลังเผลอจุ๊บเข้าไปที่ริมฝีปาก
" สุขสันต์วันครบรอบวันแรกที่เราคบกันครับ " ผมจ้องมองไปที่ใบหน้าแดงก่ำของคนตรงหน้า ' คุณน่ารักเกินไปแล้วครับหลงหลง จนผมรู้สึกอยากจะจับคุณกินแทนขนมว่าง '
Facebook page : M_c27761
Twitter : @MC27761
...............................
เอาฟิคสั้นๆ มาฝากค่ะ เนื่องจากหมวยนึกไม่ออกเกี่ยวกับนักสืบไป๋ 😅😅 ถ้ามีคำผิดตกหล่น ไม่รู้สึกฟิน ขออภัยค่ะ 😂😂
คาร์ : หลัวฝูเชิง x หลัวเฟย
" แตนนน แต็นนน " เสียงสดใสร่าเริงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่มีเพียงคนเดียวนั่นคือ เสี่ยวม่าน ตำรวจสาวผู้มาดมั่น เธอมาพร้อมกับกล้องถ่ายรูปคู่ใจ
"...." หลัวเฟย เงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะก้มหน้าลงอ่านหนังสือพิมพ์ตามเดิม ราวกับว่าเรื่องเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
" นี่หลัวเฟย นายอย่านิ่งแบบนั้นสิ ฉันมีกล้องถ่ายรูปมาอวด คิกๆ เป็นไงสวยไหม? " เสี่ยวม่านกล่าวด้วยน้ำเสียงยิ้มร่ากับกล้องถ่ายรูปในมือ รวมถึงยื่นไปตรงหน้าของหลัวเฟย
" อืม " นัยน์ตาคู่สวยยังคงจ้องมองที่หนังสือในมือ หลัวเฟยเพียงตอบรับสั้นๆ กับท่าทีของเสี่ยวม่าน
" หลัวเฟย อย่าเอาแต่ก้มหน้าก้มตาสิ มองมาทางนี้เร็ว "
" ทำไม? o_O "
" นี่หลัวเฟยสนใจฉันหน่อยสิ ฉันตั้งใจจะถ่ายรูปนายคนเดียวโดยเฉพาะ แต่นาย…. " เสี่ยวม่านกล่าวด้วยสีหน้าหม่นหมอง
" เห้อ….โอเค ได้ฉันจะเป็นนายแบบให้เธอ เลิกทำสีหน้าแบบนั้นได้แล้ว " หลัวเหยกล่าวตอบรับอย่างใจอ่อน เพราะเขาเองก็แพ้สีหน้าของเสี่ยวม่านในเวลานี้
' เสร็จฉันละหลัวเฟย คิกๆ ' เสียวม่านคิดภายในใจด้วยเสียงหัวเราะ
" เอาล่ะน้าาา~~ " เสี่ยวม่านกล่าวก่อนจะกดชัตเตอร์รัวๆ
หลัวเฟยที่ตกเป็นนายแบบจำเป็นจึงทำท่าทางตามที่เสี่ยวม่านขอร้อง ไม่ว่าหลัวเฟยจะลุกเดินทำอะไร ก็จะได้ยินเสียงชัตเตอร์จากกล้องถ่ายรูปตัวใหม่คู่ใจของเสี่ยวม่านดังติดตาม ราวกับเกาะติดไปด้วย
หลัวเฟยมารู้สึกได้ก็สายไปเสียเเล้ว แรกๆเขาคิดว่าเดี่ยวเสี่ยวม่านเธอก็คงเบื่อ แต่เปล่าเลยไม่ได้เป็นดังที่เขาคิดไว้ เขาจึงทำได้เพียงยินยอมเท่านั้น
………………………
อีกด้านนึง
" ฉันมีอะไรดีมานำเสนอค่ะคุณฝูเชิง รับรองว่าคุณจะต้องไม่พลาดรีบเก็บสะสมแน่นอนค่ะ " หญิงสาวกล่าวด้วยความมั่นใจ ด้วยแววตาแหลมคม
" ว่ามาเลยครับคุณเสี่ยวม่าน ผมชักจะอยากจะรู้แล้วสิ " ฝูเชิงกล่าวด้วยความสงสัย
" คิกๆ ฉันรับรองได้เลยค่ะคุณฝูเชิงต้องยินยอมทุ่มสุดตัวแน่ๆค่ะ " เสี่ยวม่านกล่าวด้วยแววตาอย่างมั่นใจ ชูนิ้วโป้งปาดไปที่จมูกตัวเอง ก่อนหยิบรูปถ่ายจำนวนหนึ่ง ขึ้นมาวางลงบนโต๊ะ
" นี่แค่ส่วนหนึ่งของหลัวเฟย ยังมีภาพหลุดที่รับรองได้ว่าคุณฝูเชิงและคนอื่นๆไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน "
" คุณเสี่ยวม่านครับ เสนอราคามาได้เลยครับ ผมอยากจะขอซื้อภาพทั้งหมด และรวมถึงฟิล์มครับ "
" ฉันคิดไม่ผิดจริงๆที่นำมาเสนอให้คุณชายฝูเชิงเป็นคนแรก ตกลงค่ะ ราคาตามนี้คุณชายฝูเชิงว่าอย่างไรบ้างค่ะ? " เสี่ยวม่านกล่าวพร้อมยื่นกระดาษที่มีตัวเลขหลักเจ็ดหน่วย เพื่อแลกกับภาพถ่ายรูปทั้งหมด
" ตกลงตามนี้ครับ ถ้ามีภาพหลุดอื่นๆอีก มาเสนอที่ทางผมก่อนนะครับคุณเสี่ยวม่าน ผมยินดีจะรับไว้ทั้งหมดครับ " ฝูเชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม รับกับแว่นตากลมสีดำที่ปกปิดดวงตา แต่ไม่อาจปกปิดรอยยิ้มแก้มปริของเขาได้
……………………
ณ ห้องนอนของหลัวฝูเชิง
ภาพถ่ายท่าทาง สีหน้า อิริยาบถต่างๆของหลัวเฟย วางกระจายเต็มโต๊ะทำงาน ฝูงเชิงพิจารณาจ้องมองด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะสะดุดภาพหนึ่ง เป็นภาพที่หลัวเฟยอยู่ในชุดนอนตัวบาง และกำลังหมดสภาพบนโซฟา เสื้อและกางเกงที่เน้นสัดส่วน รวมถึงเสื้อเชิ้ตที่ติดเม็ดกระดุมไม่ครบ ชวนพาให้ฝูเชิงเกิดความรู้สึกใจสั่น และร้อนวูบวาบขึ้นมา
ฝูงเชิงจึงปลดกระดุมออก เพื่อคลายความร้อนที่มีต่อรูปถ่ายใบนั้น รอยยิ้มบนมุมปากเผยออกราวกับกระหายคนในภาพถ่าย
-จบ-
คุยกันสักนิด
ไอเดียเรื่องนี้เกิดจาก ไปตามกดเก็บภาพที่จะใช้เขียนนิยายวายจีน แต่ภาพคู่หลัวดันเด้งขึ้นมา เลยเกิดไอเดียทันที ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นรูปแบบแชท (\=_\=) และเช่นเดิมตันฟิคที่แรนดอมไว้ว่าจะเขียนเรื่องไหน ผลออกมาคือฟิคเรื่องอะไรก็รอลุ้นกันต่อค่ะ ตันบางส่วนมาจากการหาข้อมูลมาประกอบค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
' บางครั้งความรักของคนสองคน มักจะมีบททดสอบอยู่เสมอ ความเชื่อใจต่อกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ '
ณ ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่กลางใจเมือง รวมถึงชื่อเสียงที่สะสมมานานผ่านมาถึงรุ่นที่ห้าปัจจุบัน ขนมหวานหลากหลายสีสันที่วางขายมักจะขายหมดภายในวันเดียว
" เถ้าแก่ " ฝูงเชิงก้าวเดินเข้ามาภายในร้านก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเถ้าแก่ ชายวัยกลางคนที่กำลังง่วงกับลูกคิดที่ดีดไปมา
" ครับๆ คุณชายฝูงเชิงรับอะไรดีครับ? " เถ้าแก่ที่กำลังเคร่งขรึมกับสมุดบัญชีตรงหน้า ทันทีที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้นและกล่าวตอบอย่างไม่ปล่อยให้คุณชายตระกูลใหญ่รอเก้อ
" ผมมารับขนมเค้กที่สั่งไว้ครับ " ฝูงเชิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
" สักครู่นะครับคุณชายฝูเชิง ผมจะรีบไปเอามาให้ครับ " เถ้าแก่ได้ยินดังนั้นจึงตอบกลับ ก่อนเดินเข้าไปภายในครัว และถามหาขนมเค้กชิ้นสำคัญกับพ่อครัวที่กำลังง่วนอยู่กับขนมหลากหลายชนิดที่เพิ่งอบเสร็จส่งกลิ่นหอมกรุ่น เหตุผลสำคัญที่ทำให้เถ้าแก่ร้านลงทุนเดินเข้ามาเพื่อมาเอาเค้กก้อนเดียว นั่นเพราะว่า ความช่วยเหลือจากตระกูลหลังที่เคยหยิบยื่นมือเข้ามาช่วยประคับประคองกิจการร้านให้ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ จนอยู่มาได้ในทุกวันนี้
พ่อครัวที่เห็นเถ้าแก่เดินเข้ามาจึงรู้สึกแปลกใจ ก่อนจะได้ยินว่าเถ้าแก่มาถามหาเค้กที่สั่งทำเป็นพิเศษ พ่อครัวจึงหยุดมือลงและเดินไปหยิบกล่องของขวัญที่บรรจุเค้กที่ตกแต่งหน้าเรียบร้อย แต่ก็แอบคิดด้วยรอยยิ้มว่าหญิงสาวที่ได้รับจะต้องรู้สึกดีใจมากถ้าได้เห็นเค้กชิ้นนี้
" เรียบร้อยแล้วครับ ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานครับคุณชายฝูเชิง " เถ้าแก่เดินถือกล่องบรรจุเค้กอย่างระมัดระวัง ก่อนจะยื่นให้ฝูเชิงอย่างระมัดระวัง
" ไม่เลยครับเถ้าแก่ ขอบคุณครับ " ฝูเชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มสดใสตอบกลับ เดินถือกล่องเค้กกล่องใหญ่เดินออกมา และขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ก่อนขับออกไป
.
.
.
รถมอเตอร์ไซค์คันโปรดขับเลี้ยวโค้งตามมุมถนน ก่อนมุ่งหน้าสู่เบื้องหน้าท่ามกลางย่านใจกลางเมือง ร้านค้าที่ตั้งอยู่รายล้อม รวมถึงตึกมุมสูงโดดเด่นเป็นที่ตั้งของสำนักงานนักสืบหลัวเฟย ฝูเชิงที่อยากจะเซอร์ไพรส์จึงขับรถมอเตอร์ไซค์ไปจอดเทียบฝั่งตรงข้าม โดยไม่ลืมที่จะหยิบกล่องเค้ก ฝูเชิงส่องใบหน้าเข้าที่กระจกจัดทรงผม และถอดแว่นตาทรงกลมสีดำออกปัดฝุ่น ปรากฏใบหน้าเรียวคมดูเด่นเปล่งประกาย เสน่ห์ชวนหลงใหล หญิงสาวที่เดินผ่านอดไม่ได้ที่จะเหลียวหลังหันมองความหล่อเหลาของชายหนุ่ม
' เสียใจด้วยนะครับ ผมมีเจ้าของหัวใจแล้ว หึๆ ' ฝูเชิงพึมพำภายในใจด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก ยิ่งเสริมเสน่ห์ ชวนให้สาวๆต่างพากันมโนไปว่าเขาส่งยิ้มให้พวกเธอ
ฝูเชิงสวมแว่นตาทรงกลมสีดำทึบเพื่อกันแสงสะท้อน พร้อมก้าวฝีเท้าอย่างสง่าผ่าเผย เพื่อไปยังจุดหมายคือตึกสำนักงานนักสืบหลัวเฟยที่ดูโดดเด่นในสายตาของฝูเชิง
คนที่เขานึกถึงก็เดินปรากฏตัวออกมาจากสำนักงานนักสืบ ฝูเชิงเห็นดังนั้นก็ยิ้มร่าเริง เตรียมพร้อมที่จะวิ่งไปหาหลัวเฟย แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าลงเมื่อพบว่าชายหนุ่มที่เดินตามมา ไม่ใช่ใครเลย หมอชันสูตรศพ นามว่า ' ซิ่นหยางจาง ' ท่าทางการพูดคุยที่สนิทสนม รอยยิ้มที่ดูร่าเริงของหลัวเฟยช่างผิดกับเวลาที่จ้องมองเขา
ฝูเชิงไม่อาจอดทนเห็นได้จึงเกิดอาการหึงหวง นิ้วมือกำจนแนบแน่นด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะยกขึ้นชกเข้าที่กำแพงเพื่อระบายความโกรธ
" หมอซิ่น ฝากนายช่วยจัดการที่เหลือให้ทีนะ ฉันเชื่อใจนายที่สุด " หลัวเฟยกล่าวขึ้นในขณะที่เดินมาส่ง หมอซิ่นหยางจางที่จอดรถไว้ที่หน้าตึกสำนักงานนักสืบ โดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครอีกคนเดินมาทางด้านหลัง
" เชื่อใจอะไรกันเหรอครับ? " ฝูงเชิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด ต่างกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มร่าเริงราวกับไม่อะไรเกิดขึ้น ทั้งที่มือกำหมัดแน่น
" ฝูเชิง " หลัวเฟยเอ่ยเสียงขึ้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย
" สวัสดีครับคุณหลัวฝูเชิง ยินดีที่ได้พบครับ อ่ะ ผมชื่อ ซิ่นหยางจางครับ " หมอซิ่นหยางจางกล่าวด้วยรอยยิ้มและท่าทางที่ดูเป็นมิตร
" สวัสดีครับคุณหมอซิ่นหยางจาง ขอโทษที่เสียมารยาทมาขัดจังหวะเสียก่อนครับ " ฝูเชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่แสร้งทำ หมอซิ่นหยางจางกลับไม่รู้สึกถึง
" ไม่เลยครับคุณฝูเชิง ผมดีใจเสียอีกที่ได้เจอคุณครับ พวกคุณช่างดูเหมาะสมกันจริงๆ คุณเสียวม่านกล่าวไว้ผิด "
" เสี่ยวม่าน ยัยนั่นบอกอะไรนาย? " หลัวเฟยจ้องมองทางหมอซิ่นหยางจางก่อนเอ่ยถามด้วยด้วยความสงสัย
" ได้เวลาต้องกลับแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ ถ้าได้เรื่องยังไงจะมาแจ้งนายอีกทีนะหลัวเฟย " หมอซิ่นหยางจางหันมากล่าวกับฝูเชิงและหลัวเฟย โดยที่เลี่ยงตอบคำถาม ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มกรุ่มกริ่มแทนคำตอบ
" เฮ้ นายรีบกลับไวจังเลยนะหมอซิ่น " หลัวเฟยเอ่ยตะโกนไล่หลัง ไม่ได้สนใจสีหน้าของฝูเชิงที่แสดงสีหน้าบ่งบอกความรู้สึกหลากหลายบนนัยน์ตาคู่เรียวคมสวย
" เรามีเรื่องต้องคุยกันครับที่รัก " ฝูเชิงแนบใบหน้าจากด้านหลังเข้ามา ก่อนกระซิบด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินกันเพียงสองคน
" เอ๊ะ!! " ยังไม่ทันที่หลัวเฟยจะรู้ตัวก็โดนฝูเชิงรวบตัวอุ้มขึ้นพาดบ่าอันแข็งแกร่งไปแล้ว
.
.
.
ผ่านไปสิบนาที ที่ไม่เสียงใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของคนทั้งสอง บนโต๊ะตัวยาววางไว้เพียงกล่องเค้กที่ถูกเปิดออก ส่วนก้อนเค้กถูกจัดวางบนจานใบใหญ่ที่ถูกตัดแบ่งชิ้นเค้กขนาดพอดีวางใส่จานใบเล็กรวมถึงส้อม กาต้มน้ำที่พ่นไอน้ำที่เพิ่งเดือดก่อนส่งเสียงตัดความเงียบ ฝูเชิงที่ยืนมองอยู่กาต้มน้ำร้อนจนตอนนี้กำลังกดปิดเตา เทใบชาลงในเหยือกกระเบื้องเคลือบ ตามด้วยน้ำร้อนก่อนจะปิดฝา เพื่อให้ใบชาหลอมรวมละลายกัน
กลิ่นหอมชวนสดชื่นของน้ำชาที่กำลังถูกเทลงบนถ้วยชาทั้งสอง ฝูเชิงขยับมือวางถ้วยชาลงด้านหน้าของหลัวเฟยที่นั่งมองเขามาเนิ่นนาน ราวกับมีคำถามภายในใจหรือกำลังพิจารณาสถานการณ์ เพื่อหาทางเอาตัวรอด ราวกับเจ้าแมวเจ้าเล่ห์ เขารู้สึกมาตลอดว่าหลัวเฟยที่เอาแต่ทำตัวยุ่งตลอดเวลาที่อยู่กับเขา แต่กลับมีเวลาว่างคุยกับคนอื่นได้
" …. " หลัวเฟย
" คุณลองจิบชาและทานขนมเค้กพร้อมกันสิ อาจจะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ " ฝูเชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทั้งที่ในใจยังมีความรู้สึกหึงหวงปนกับความสงสัย
" คุณมาหาผมด้วยเรื่องแค่นี้เหรอ? อืม อร่อยดี " หลัวเฟยใช้ส้อมตักก้อนเค้กขึ้นก่อนนำเข้าปากก็ลิ้มรสกับความรู้สึกละลายในริมฝีปาก พร้อมกับรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ
" เฟยๆ คุณรู้สึกยังไงกับผมกันแน่ ผมมั่นใจเสมอว่าผมรักคุณ แล้วคุณ? " ฝูเชิงเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่จริงจังต่อความรู้สึก สำหรับหลัวเฟยกลับมองว่ามีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด
" นายบอกฉันแล้ว นั่นก็คือความรู้สึกของฉัน " หลัวเฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้มยียวน ก่อนจะตักเค้กเข้าปากอย่างอารมณ์ดี พลางมองใบหน้าฝูเชิงที่กำลังทำสีหน้าครุ่นคิด
"...." รอยยิ้มบนใบหน้าของฝูเชิงยิ้มแก้มปริกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะโน้มตัวลงจูบริมฝีปากเจ้าของหนวดคมที่กำลังใช้เลียเค้กบนฝีปาก
"...." หลัวเฟยที่กำลังอึ้งกับรสจูบก้ต้องรู้สึกหนาวขึ้นอีกครั้ง ที่เขาดันไปแหย่หนวดจิ้งจอกเจ้าเล่ห์เสียแล้ว
" ทานเค้กกันต่อที่ห้องนอน….ชักอยากจะลองชิมเค้กที่เลียรสสัมผัสหอมหวานบนตัวเฟยๆ " ฝูเชิงที่ถอนริมฝีปากออกเอ่ยด้วยรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม รวมทั้งช้อนตัวหลัวเฟยในท่าเจ้าสาวพาเดินเข้าห้องนอน
' ความรักมักจะมีบททดสอบ '
[จบ]
….......
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
Facebook : M_c27761
Twitter : @mc27761
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!