... ตอนที่ 1 หมายศาล...
‘หมายศาล’
หมายศาลในมือของชายวัยกลางคนที่ยังคงอยู่ในมือคู่นั้น ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวยังคงจับไว้แน่น แววตาแสดงถึงความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก หากเพียงแต่เขาคนเดียวคงไม่ต้องคิดมากถึงเพียงนี้ แต่เขายังมีภรรยา และลูกสาวอีกสองคน เขาทำให้ตระกูลศิริธาราต้องล้มละลาย เขามันไม่ได้เรื่อง
“อีกสามวันแล้วรดา ผมคงต้องทำจริงๆ” รวิน ศิริธารา ชายผู้หมดสิ้นหนทาง ทรุดตัวลงกับพื้นห้องทำงาน ณ บ้านศิริธาราแห่งนี้
“ฉันเตรียมตามที่คุณบอกทุกอย่างไว้แล้วนะคะ”
“เราไม่มีทางเลือกแล้วรดา ลูกๆของเราไม่ควรต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้”
“ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณ”
“คุณจะไม่เปลี่ยนใจจริงๆใช่มั้ยคะ”
“ฉันยังยืนยันคำตอบเดิมค่ะ”
“ไอ้รวิน ออกมา ไปหมุดหัวอยู่ไหน” เสียงที่แทรกดังเข้ามาภายในบ้าน ทำให้ชายหญิงวัยกลางคนต้องรีบออกมาจากห้องเห้นชายรูปร่างหนากำยำเดินเข้ามาประมาณหกเจ็ดคน
“บอกกี่ทีแล้วว่าห้ามมาที่บ้าน” ชายหญิงสองคนมีท่าทีเลิกลั่ก มองไปรอบๆตัวบ้านหลังใหญ่นี้ เพราะเกรงว่าลูกสาวของพวกเขาจะออกมาเจอและรับรู้เรื่องราวที่เขาสองคนพยายามปิดบังมาโดยตลอด
“ก็แกไม่ทำตามสัญญา เจ้านายฉันเค้าให้มาตาม ไหนล่ะเงินที่จะหามาใช้หนี้”
“ก็บอกว่าอีกสามวันไง”
“เจ้านายฉันให้เวลาแกถึงแค่วันจันทร์ที่จะถึงนี้เท่านั้น 7 โมงเช้า เงิน 50ล้านต้องโอนเข้าบัญชี ไม่งั้นเมียแก ลูกแก ได้ถูกเอาไปขัดดอกแน่” ชายร่างสูงใหญ่ไม่ว่าเปล่าเดินเข้าไปจับใบหน้าของหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาอย่างถือวิสาสะ
“เอามือสกปรกของพวกแกออกไป อย่ามายุ่งกับเมียกับลูกฉัน บอกเจ้านายแกได้เลยว่าพรุ่งนี้ตระกูลศิริธารามีเงินมาให้พวกแกแน่” ชายวัยกลางคนปัดมือชายที่อยู่ตรงหน้าออกจากใบหน้าของผู้หญิงที่เขารักทันที ก่อนเขาจะดึงเธอมาหลบอยู่ด้านหลัง
“หึหึ!!...พวกเรา กลับ!!” ชายร่างใหญ่รูปร่างกำยำที่ทำหน้าที่เป็นคนมาเรียกเก็บเงินกู้นั้นหันไปสั่งลูกน้องที่ตามมานั้น ก่อนยกยิ้มร้ายออกมา แล้วเดินออกจากบ้านไป
“พ่อคะ แม่คะ มาถึงขนาดนี้แล้ว ให้หนูกับพี่ลิสารู้สถานการณ์บ้านเราเถอะค่ะ”
อาริญาหรือริญา หญิงสาววัย 20 ปี เดินออกมาจากมุมบ้าน เดินตรงเข้ามาหาชายหญิงวัยกลางคนผู้เป็นพ่อและแม่อย่างต้องการคำอธิบาย
“ใช่ค่ะ หนูกับน้องรู้นะคะว่าบ้านเรากำลังจะถูกยึด”
อาลิสาหรือลิสา หญิงสาววัย 21 ปีผู้เป็นพี่ค่อยๆเดินออกมาจากอีกมุมหนึ่งของบ้านเช่นเดียวกัน ก่อนที่ชายหญิงวัยกลางคนจะมีท่าทีที่ตื่นตระหนก
“พ่อกับแม่ บอกมาเถอะค่ะริญากับพี่ลิสาเข้มแข็งกว่าที่พ่อแม่คิดไว้นะคะ บอกมาเถอะค่ะว่าเมื่อไหร่ เราจะได้เตรียมตัว”
“…” ชายวัยกลางคนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยื่นเอกสารหมายศาลในมือให้กับลูกสาวทั้งสองได้ดู
หญิงสาวทั้งสองใจจดใจจ่อกับหมายศาลฉบับนั้นก่อนจะสรุปใจความแล้วว่าบ้านหลังนี้จะถูกยึดในอีกสามวัน บ้านหลังนี้หลังที่เธอทั้งสองอาศัยมาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่จำความได้ก็อยู่บ้านหลังนี้มาตลอด
“วันจันทร์ที่จะถึงนี้แล้วเหรอ”
ความจริงแล้วหญิงสาวสองคนก็ระแคะระคายเรื่องนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้ เพราะพ่อกับแม่ของเธอพยายามปกป้องเราสองคนมาตลอด
“แล้วเรื่องหนี้ห้าสิบล้านล่ะค่ะพ่อ” ริญาถามขึ้นมา เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ชายร่างใหญ่หกชีวิตบุกเข้ามาในบ้านแล้วข่มขู่พ่อกับแม่ของเธอ
“เรื่องนี้เดี๋ยวให้พ่อกับแม่จัดการนะ”
“ไม่ได้ค่ะ ยังไงพ่อกับแม่ต้องให้หนูกับพี่ช่วย”
“พ่อกับแม่จัดการได้จริงๆนะ” หญิงวัยกลางคนพูดด้วยเสียงสั่นเทา มือไม้สั่น หญิงสาวแอบเห็นน้ำตาที่คลออยู่ที่ดวงตาใสนั้นของเธอ จนทำให้ชายวัยกลางคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อนั้นกุมมือเธอไว้แน่น
“ลูกๆเตรียมตัวเก็บของเท่าที่จำเป็นก็พอ พ่อกับแม่จัดการไว้ให้หมดแล้ว พรุ่งนี้จะมีคนมารับลูกสองคนที่นี่ส่วนเรื่องอื่นเป็นหน้าที่ของพวกเรา ลูกๆวางใจเถอะ”
“แล้วพ่อกับแม่ล่ะคะ”
“พ่อกับแม่จะต้องจัดการธุระบางอย่างก่อน”
“ไม่ค่ะ หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นหนูจะอยู่ช่วยพ่อแม่จัดการเรื่องทุกอย่าง” ริญาเข้าไปกอดชายหญิงวัยกลางคนไว้แน่น ก่อนที่ทั้งสองจะกอดตอบ
“กอดแต่ริญา แล้วหนูล่ะคะ”
“โอ๋ๆๆ มาสิๆ มากอดกันทั้งหมดเลย” รดาและรวินกอดลูกสาวทั้งสองไว้แน่น เหมือนไม่ต้องการให้ทั้งสองห่างจากกายเลยแม้แต่น้อย
“โอยๆๆ ลิสาหายใจไม่ออกแล้วนะคะแม่”
“จริงค่ะ นี่พ่อกอดริญาแน่นมากนะคะเนี่ย”
“พ่อกับแม่รักลูกสองคนมากนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลูกสองคนต้องเข้มแข็งนะ”
“ลูกคุณชายรวินคุณนายรดาซะอย่าง ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“ลิสา แม่ฝากดูแลน้องด้วยนะริญาก็อย่าดื้อกับพี่ล่ะเข้าใจมั้ย”
“พูดอย่างกับว่าพ่อกับแม่จะไปไหนงั้นแหละ”
“แม่เค้าก็พูดเผื่อๆไว้เฉยๆ เราสองคนจะไปไหนได้ พ่อกับแม่ก็อยู่กับลูกนี่แหละ อยู่ในใจลูกสองคนไง เอ๊ะ!!...หรือว่าใจของลูกๆจะแอบเอาใครเข้ามาไว้ก็ไม่รู้เนาะแม่เนาะ”
“ป่ะ ไปเตรียมเก็บข้าวของเครื่องใช้ของพวกหนูกันได้แล้ว พ่อกับแม่ต้องไปจริงๆแล้วแหละ” หญิงสาวทั้งสองเดินแยกออกมา และกลับเข้าห้อง ก่อนที่จะหันหน้ามามองอย่างรู้กัน
...- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -...
...Meaning...
...ตอนที่ 2 : ขอความช่วยเหลือ...
“ลิซ่า คิดเหมือนกับฉันมั้ย”
“แน่นอนสิ ใครจะไปรอให้พ่อกับแม่จัดการเองแล้วเรานั่งอยู่เฉยๆล่ะ”
“ห้าสิบล้านนะไม่ใช่ห้าหมื่น พ่อกับแม่จะไปหามาจากไหน”
“อย่างน้อยส่งดอกให้พวกมันก่อนก็น่าจะพอได้แหละมั้ง”
“ฉันพอจะมีที่ที่เราสามารถทำเงินได้”
“ว่ามาได้เลย ฉันพร้อม”
หญิงสาวกดต่อสายหาเพื่อนสนิทของเธอ คาร่า เฟอร์เดล หญิงสาวลูกครึ่งไทย-สเปน ซึ่งตอนนี้เธอรู้ดีว่าเพื่อนสาวของเธออยู่ที่ประเทศสเปน
“เฮโหล คาร่า เฟอร์เดล”
“ยัยรีญ่า มาเต็มยศแบบนี้ มีเรื่องอะไรให้ช่วยคะมายเบสเฟรน โทรสายตรงมาขนาดนี้”
“ร้านพี่แกยังต้องการคนอยู่ใช่มั้ย”
“แกหมายความว่ายังไง”
“ฉันกับลิซ่าต้องการงานด่วน”
“โนววววววววววว ฉันไม่ให้แกมาทำงานนี้เด็ดขาด รอฉันกลับจากสเปนก่อนแล้วเราค่อยคุยกัน”
“ไม่ได้จริงๆคาร่า ฉันต้องการเงินด่วน”
“บอกมาต้องการเท่าไหร่ เอาของฉันไปก่อน”
“เรื่องนี้ฉันกับลิซ่าขอจัดการเอง”
“ถ้าครูสรู้เอาฉันตายแน่ๆ”
“อย่าบอกแด๊ดดี้นะ”
“ฉันละเหนื่อยใจจริงๆ งั้นแกคุยกับรุสเองละกัน” ว่าแล้วคาร่าก็ส่งมือถือให้พี่ชายของตัวเองที่ตอนนี้อยู่ข้างๆเธอ ก่อนที่ปลายสายจะรับโทรศัพท์นั้นไป
“เฮ้!!...พี่เขย”
“ว่าไงน้องสะใภ้” เสียงปรายสายดังออกมาจากมือที่หญิงสาวเปิดลำโพงอยู่ ทำเอาหญิงสาวผู้เป็นพี่หน้าแดงฉ่าจากอาการเขิน
“รุส นายไม่ต้องเลยตามเลยไปกับยัยรีญ่าก็ได้มั้ง” ลิสาโผลงออกมาหลังจากได้ยินเสียงปรายสายพูดถึงเธอแบบนั้น และเห็นสายตาของน้องสาวที่มีประกายระหยิบระยับ ทำตาปริบๆแกล้งให้เธอเขิน
“ไอพูดจริงจากใจ ดาร์ลิ้งไม่เชื่อ..? ไอกลับไป แต่งงานกันเลยดีกว่า”
“โอยยยยยยยยย นี่คือขอแต่งงานเหรอ หยุดหวานกันก่อนได้มั้ย”
“อ่ะๆๆ โทรทางไกลมาขนาดนี้ มีเรื่องอะไรว่ามา”
“พี่ชาย ฉันกับลิซ่าขอไปทำงานนั้นที่ร้านพี่ชายได้มั้ย”
“โนววววววววว มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกยูกันแน่”
“ไว้กลับมาจะเล่าให้ฟังทุกอย่างเลยนะพี่เขย แต่ตอนนี้ฉันกับลิซ่าต้องการเงินด่วนจริงๆ”
“ต้องการเท่าไหร่ บอกมา”
“ฉันกับลิซ่ารู้หรอกนะว่าตอนนี้บริษัทเฟอร์เดลกำลังมีปัญหา พี่ชายยังโยกย้ายเงินออกมาตอนนี้ไม่ได้พี่ชายกับคาร่าจัดการเรื่องทางนั้นก่อนเถอะ”
“โธ่โว้ย!!...เอาเป็นว่าร้านที่เมืองไทยมีเงินหมุนอยู่ ไอจะให้คนเบิกไว้ให้สักล้านหนึ่งก่อนนะ ขาดเหลือกลับไป ไอจะดูแลเอง”
“ถ้าให้ฟรีๆ ฉันกับลิซ่าขอไม่รับ เงินต้องแลกจากการทำงาน มันคือธุรกิจ”
“เอาไงก็เอากัน”
“แบบนี้สิพี่ชาย ค่อยอยากเจรจาธุรกิจด้วยหน่อย เงินถึงขนาดนี้ทำให้ทั้งเดือนเลย”
“ไม่ต้องๆ สำหรับยู ไอรู้ว่ายูเอาตัวรอดได้ แต่ลิซ่าของไอน่ะสิ”
“พี่เขย ลิซ่าบิดตัวเป็นเกลียวแล้ว เอาไปทอดเป็นข้าวเกรียบได้แล้วนะเนี่ย”
“รีญ่า เดี๋ยวเถอะ” เสียงดุเล็กๆของพี่สาวที่วัยใกล้เคียงกันนี้ส่งมา พร้อมกับมือเล็กๆที่ตีเข้ากับไหล่ของน้องสาวเบาๆ เป็นเชิงให้เธอหยุดเล่น
“คิก คิก” เสียงหัวเราะเบาๆของปรายสาย แต่ก็ส่งมาถึงหญิงสาวทั้งสอง ทำเอาหญิงสาวผู้เป็นพี่เขินจนหน้าแดงหูแดงไปหมด
“จะให้น้องคนนี้ทำอะไรบอกมาได้เลย ตั้งแต่เสริฟอาหาร ล้างจาน ถูพื้น โบกรถ ดูแลแขก”
“พอๆๆ ดีเลยเป็นพวกยู ไอจะให้ดูแลแขกวีไอพี วันนี้แขกสำคัญ เป็นเจ้าของธุรกิจตระกูลธนะวรกิจจะมาเจรจาการค้ากับตระกูลหวังจากประเทศฮ่องกง ยูกับลิซ่าแค่ดูแลอาหารเครื่องดื่มอะไรให้คนพวกนี้ก็พอ พยายามอย่าให้ใครมายุ่มย่ามระหว่างพวกเค้าเจรจาธุรกิจ พวกยูไม่ต้องถึงเนื้อถึงตัวคนพวกนี้นะไอหวง”
“อู้ว หูวววววววว หวงกันออกหน้าออกตาจริงๆ”
“เดี๋ยวเด็กๆที่จะดูแลโดยเฉพาะ ไอจะจัดไว้ต่างหากหลังจากที่เค้าเจรจาธุรกิจเรียบร้อย ส่วนชุดไอจะให้คนเตรียมไว้ที่ร้าน”
“แต้งก์กิ้วนะพี่เขย”
“ไว้ไอ คาร่า กับครูสจัดการทางนี้เรียบร้อยจะรีบกลับไปหา”
“ฝากกอดแด๊ดดี้หน่อยนะรุส” ลิสาพูดกับคนปลายสาย
“ก่อนจะกอดครูส ต้องผ่านไอก่อนนะ”
“ได้สิ มาม่ะ มากอดน้องสาวนี่มาคุณพี่เขย” ริญาแทรกขึ้นมาระหว่างชายหญิงสองคนที่กำลังหวานหยดย้อย
“พอๆๆ พอเลย ไอเหนื่อยจะเถียงกับยูไปเตรียมตัวได้แล้วไปถึงติดต่อคุณเชย์ได้เลยนะ....เออ รีญ่า”
“หืม?!? มีอะไรจะสั่งน้องสาวคนนี้อีก สั่งการมาได้เลย”
“ฝากดูแลลิซ่าด้วยนะ”
“รับทราบค่ะ คุณพี่เขย”
“ส่วนเรื่องบริษัท ST GROUP ของพ่อยู ไอเคลียร์ทางนี้แล้วจะรีบหาทางช่วยเอง”
...- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -...
...Meaning...
...ตอนที่ 3 : ลูกค้าคนสำคัญ...
- - - ณ ร้านอาหารเอฟดี - - -
หญิงสาวทั้งสองคนมาถึงก่อนเวลาพอสมควร เข้าไปติดต่อคุณเชย์ผู้จัดการร้านของที่นี่ตามที่รุส เฟอร์เดลได้บอกไว้ ก่อนจะได้ไปเปลี่ยนชุดตามที่ผู้จัดการร้านจัดเตรียมไว้ให้
ในคืนนี้เธอทั้งสองคนได้สวมชุดกี่เพ้าคอวีพอดีตัว ยาวเลยเข่ามาพอสมควร และไม่ได้รัดรูปจนเกินไป ก่อนที่คุณเชย์ ผู้จัดการร้านจะเข้ามาบรีฟงาน เพื่อให้หญิงสาวพอรู้ข้อมูลรายละเอียดของลูกค้า รูปร่างหน้าตา รายการอาหาร และเครื่องดื่มต่างๆของลูกค้าแต่ละคน เพื่อให้หญิงสาวทั้งสองดูแลได้ถูกคน
วันนี้ลูกค้าหลักๆที่เธอทั้งสองคนจะต้องดูแลมีทั้งหมด 4 คน จากตระกูลธนะวรกิจ 2 คน คนแรกคือเจ้าของบริษัท ธนา ธนะวรกิจ เป็นผู้ชายวัยกลางคน แต่ดูมีภูมิฐาน หน้าตาคมเข้มสมวัยชายอายุ 43 ปี และคนที่สองคือรองประธานบริษัทซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบริษัท ชื่อ ธีร์ ธนะวรกิจ อายุ 23ปี พึ่งจบมาจากฝรั่งเศส กลับมาเพื่อสานต่อธุรกิจเครือ TW GROUP รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาได้พ่อมาเต็มๆ ใครเห็นเป็นต้องมอง อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลย ผู้ชายด้วยกันยังต้องเหลียว ด้วยใบหน้าที่ขาวเนียน จมูกเป็นสันรับกับใบหน้า ส่วนอีกตระกูลหนึ่งคือตระกูลหวังส่งตรงมาจากฮ่องกง ดีกรีไม่แพ้กัน ในเมื่อตระกูลธนะวรกิจส่งทั้งเจ้าของบริษัทและผู้สืบทอดคนต่อไปมาคุยธุรกิจ คนของตระกูลหวังก็ต้องเป็นระดับเจ้าของและลูกชายเช่นกัน คนแรกคือคุณหวังต้าหัว และคนที่สองนั่นคือลูกชายของเขา หน้าตาดีไม่แพ้ตระกูลธนะวรกิจแม้แต่น้อย เขาคนนี้คือคุณหวังจาง
หลังจากอ่านรายละเอียดข้อมูลจนครบถ้วนหญิงสาวทั้งสองก็เข้ามาดูการจัดเตรียมสถานที่ อาหารพร้อมเครื่องดื่มต่างๆ เธอขออนุญาตผู้จัดการเข้าไปดูแล และกำกับการทำอาหารในครัว เพราะทางตระกูลหวังทั้งสองคนจะแพ้กุ้ง อาหารทุกอย่างสำหรับเขาทั้งสองจะมีกุ้งปนไม่ได้ ส่วนชาจะต้องเป็นชาเฉพาะนำเข้าจากฮ่องกงเท่านั้น ส่วนตระกูลธนะวรกิจ ไม่ได้มีอะไรห้ามเป็นพิเศษ แต่ดูเหมือนว่าคุณธนา เหมือนจะไม่สบายเล็กน้อย หญิงสาวทั้งสองให้พนักงานเตรียมน้ำผึ้งผสมมะนาวไว้ให้ เพื่อใช้จิบระหว่างเจราจาธุรกิจ ส่วนลูกชาย ธีร์ ธนะวรกิจ ของเขาจะชอบดื่มแชมเปญระหว่างการเจรจา
- - - ห้อง VIP ของร้านเอฟดี - - -
เมื่อถึงเวลานัดทั้งสองตระกูลมาพร้อมกันที่ห้อง VIP ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้ หญิงสาวทั้งสองให้เชฟและพนักงานเข้ามาเสริฟอาหาร เธอทั้งสองเข้าไปยืนกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด ก่อนที่สายตาของทั้งสี่คนจะจ้องมองที่หญิงสาวทั้งสองคนเป็นตาเดียวกัน
อาลิสาและอาริญาค่อยๆอธิบายอาหารบนโต๊ะทีละจาน ก่อนที่เธอจะเสริฟชาให้กับชายทั้งสองจากตระกูลหวังก่อน ก่อนที่อาลิสาจะทำหน้าที่เสริฟน้ำผึ้งผสมมะนาวให้กับคุณธนา ธนะวรกิจ ส่วนริญาก็นำแชมเปญไปให้กับคุณธีร์ ธนะวรกิจ เขาปรายตามองเธอเล็กน้อย ก่อนกลับไปสนใจคู่ค้าธุรกิจอีกครั้ง ก่อนที่หญิงสาวทั้งสองจะรู้งานเดินออกมาจากห้อง เพื่อให้ทั้งสี่ได้เจรจาธุรกิจอย่างส่วนตัว แต่เธอทั้งสองก็ไม่ได้ไปไหนไกล เพียงแต่อยู่หน้าห้องเพื่อรอรับให้บริการหากบุคคลภายในห้องเรียกหา
“เชิญคุณสองคนทางนี้หน่อยนะคะ” หญิงสาวรูปร่างสูงเปรียว สวมรองเท้าส้นสูงเดินตรงเข้ามาและพูดกับเธอทั้งสองคน เธอทั้งสองจำได้ว่าหญิงสาวผู้มาใหม่คนนี้เป็นคนของตระกูลหวัง เห็นจากที่เดินเข้ามาในร้านตั้งแต่แรก และเห็นจากประวัติข้อมูลที่ผู้จัดการร้านให้อ่าน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สักครู่เดียวเอง ไม่เกินห้านาที ฉันฝากให้คนมาดูแลแล้ว”
หญิงสาวทั้งสองคนปลีกตัวออกมาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ให้ไกลสายตาที่เธอจะเข้าไปดูแลแขกวีไอพีได้ เธอได้รับมอบหมายมาจากพี่รุสแล้ว จะไม่ทำให้เสียชื่อเด็ดขาด
“คุณมีอะไรว่ามาได้เลยค่ะ”
“ฉันพูดกับคุณตรงๆเลยนะ หนึ่งชั่วโมงนี้คุณจะไปทำอะไรก็ได้แล้วค่อยกลับมา ฉันมีเงินให้พวกคุณก้อนหนึ่ง”
“ถ้าฉันปฏิเสธ...”
“คิดให้ดีก่อนนะ ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของคนของฉันอยู่แล้ว แค่พวกเธอไม่มาอยู่รกหูรกตาก็พอ”
“ฟังให้จบก่อนสิ ฉันปฏิเสธที่จะออกไป แต่พวกเราไม่ได้ปฏิเสธที่จะทำงานให้เธอ ฉันทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าฉันออกไปคนจ้างงานก็ด่าพวกฉันยับสิ” ริญาพูดตอบกลับไป ก่อนจะสะกิดพี่สาวตัวเองให้เล่นตามบทไปก่อน
“เธอจ้างพวกนั้นทำอะไร ฉันทำให้พวกเธอเอง แล้วค่าจ้างทั้งหมดก็ยกมาให้ฉัน พวกฉันร้อนเงิน”
อื้อหืออออออ...พี่สาวเล่นละครเก่งกว่าเราซะอีก เพื่อไม่ให้พี่เขยเสื่อมเสียชื่อเสียง นี่ลงทุนทำให้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เอาว่ะ!!...เป็นไงเป็นกัน มาถึงขนาดนี้แล้ว น้องสะใภ้คนนี้จะช่วยปกป้องร้านของพี่เขยอย่างเต็มที่
ธนะวรกิจเป็นลูกค้าคนสำคัญของพี่รุส พี่เขยในอนาคตของเธอ เขาเลือกให้มาดูแลครั้งนี้ก็ต้องดูแลเป็นอย่างดี ถ้ากระตกกระตากไปมีหวังไม่รู้แผนการของคนพวกนี้พอดี ทางที่ดีการจะช่วยพวกคุณได้ เราจะต้องเป็นฝ่ายของพวกมันก่อน
“หืม?!?”
“เธอจะให้พวกฉันทำอะไรว่ามา” ลิสายังคงนักแน่นในการล้วงความลับจากหญิงสาวคนนี้ หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าดูมีท่าทีที่ชั่งใจเล็กน้อย
“เธอจะไม่ไว้ใจพวกฉันก็แล้วแต่นะ แต่เธอก็น่าจะเห็นว่าคนของตระกูลธนะวรกิจพอใจพวกเราสองคนมากขนาดไหน ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้นะ”
“ได้ งั้นไปเปลี่ยนชุดซะ ชุดนี้มันเย้ายวนไม่พอสำหรับเขาสองคนหรอกนะ แล้วพวกเธอมีหน้าที่ถือเครื่องดื่มไปให้เขาสองคนดื่มก็พอ แล้วเรื่องอย่างว่าน่ะ รู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง ไม่ต้องให้บอกนะ” หญิงสาวตระกูลหวังคิดพักหนึ่ง ก่อนตอบตกลงให้เธอทั้งสองร่วมงานนี้
“เครื่องดื่ม!!...มันคือ?”
“พวกเธอไม่จำเป็นต้องรู้”
“ไม่ได้ทำให้พวกเค้าถึงตายใช่มั้ย ไม่งั้นพวกฉันก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดน่ะสิ”
“ไม่ตายหรอกน้า ทำให้เค้าสองคนติดใจซะด้วยซ้ำไป”
“เข้าใจแล้ว”
ก่อนที่หญิงสาวสองคนจะปลีกตัวออกไปเปลี่ยนชุด ชุดที่ทั้งสองใส่ในตอนนี้เป็นชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีแดง รองเท้าส้นสูง เธอสองคนนัดแนะกันแล้วว่ายังไงก็ต้องพยายามบอกชายทั้งสองคนให้ได้ว่าจะมีการวางยาเกิดขึ้น ซึ่งเธอก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นยาอะไร และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนั้นต้องย้ำให้ได้ว่ารุส เฟอร์เดลไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆทั้งสิ้น
หลังจากเตรียมการเสร็จสับหญิงสาวทั้งสองก็ตรงไปยังห้อง VIP ห้องเดิมที่ปลีกตัวออกมา ก่อนกลับเข้าไปพร้อมเครื่องดื่มในมือ เตรียมพร้อมเดินเข้าไปหาชายสองคนจากตระกูลธนะวรกิจที่อยู่ตรงหน้า
ชายทั้งสี่คนจ้องมาที่หญิงสาวทั้งสองคนเป็นตาเดียว ยังคงตกใจไม่หายเมื่อเธอทั้งสองคือคนเดียวกับหญิงชุดกี่เพ้าเมื่อสักครู่ หญิงสาวทั้งสองถือวิสาสะเข้าไปนั่งตรงตักของชายทั้งสอง ก่อนที่พวกเขาจะตื่นจากภวังค์นั้น
“นี่เป็นเธอสองคนจริงเหรอ รู้ใช่มั้ยว่าเธอต้องทำอะไร” ชายวัยกลางคนไม่ว่าเปล่าลูบไล้เรียวขาเนียนของหญิงสาวไล้ขึ้นมาตรงท้องน้อย ก่อนจะเลื่อนลูบไล้เรือนกายของหญิงสาวไปมากกว่านี้ ชายคนนี้ก็ต้องชะงักไป
“อย่าพึ่งพูดอะไรมากเลยค่ะ คุณต้องฟังฉัน ฉันมีเวลาไม่มาก” มือหนาเย็นยะเยือกนั้นทำเอาอาลิสาสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอตื่นตระหนกไปไกล เธอต้องทำเข้าไปกระซิบที่หู
“หืม?!?” ชายวัยกลางคนมือชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตั้งใจฟังที่หญิงสาวพูดกับเขา
...- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -...
...Meaning...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!