เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบของเช้าวันจันทร์
“ติ๊ด ๆ ๆ ๆ”
มือเรียวของ ภัทร เอื้อมมากดปิดเสียงด้วยท่าทางครึ่งหลับครึ่งตื่น ดวงตาคมที่ยังแดงเล็กน้อยเพราะอ่านหนังสือดึกคืนนั้นกะพริบช้า ๆ ก่อนจะถอนหายใจยาว
“อีกแล้ว…สายแน่ ๆ วันนี้”
เขาลุกจากเตียงด้วยความเร่งรีบ กวาดผมที่ยุ่งเหยิงไปด้านหลังแล้วคว้าเสื้อเชิ้ตนักศึกษาใส่อย่างลวก ๆ กระเป๋าสะพายถูกยัดเอกสารลงไปอย่างรีบร้อน ก่อนที่เขาจะพุ่งออกจากห้องพักเล็ก ๆ ที่เช่าอยู่ข้างมหาวิทยาลัย
ถนนยามเช้าเต็มไปด้วยผู้คน ภัทรปั่นจักรยานเก่าคู่ใจไปตามซอยแคบ ๆ ลมเย็นพัดผ่านหน้า ทว่าความคิดยังวุ่นวายอยู่ในหัว — รายงานวิชาสถิติยังไม่เสร็จดี อีกไม่กี่วันก็สอบกลางภาค เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะไหวหรือเปล่า
เมื่อเลี้ยวออกสู่ถนนใหญ่ จู่ ๆ รถจักรยานก็ส่ายแรงเพราะพื้นถนนมีร่องลึก
“เฮ้ย!” ภัทรร้องเสียงหลง ก่อนจะเสียหลักเกือบล้ม
โชคดีที่มีมือใครบางคนคว้าหมับเข้าที่แขนไว้ทันเวลา ร่างของเขาหยุดนิ่งก่อนจะได้ฟาดลงพื้น เขาเงยหน้าขึ้น… และสบตากับชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ชายคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตนักศึกษาขาวสะอาด กางเกงสแลคเรียบร้อย รอยยิ้มบางบนใบหน้าอบอุ่นจนภัทรถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ดวงตาเป็นประกายเหมือนจะหัวเราะได้ทุกเมื่อ
“ระวังหน่อยสิ ถนนแถวนี้มันหลุมบ่อเยอะนะ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยเสียงนุ่ม
ภัทรรีบก้มหน้าลง แก้มร้อนขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ
“อะ…ขอบคุณครับ”
เขาจัดจักรยานให้เข้าที่ แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อคนแปลกหน้าก้มลงช่วยจับแฮนด์จักรยานให้มั่นคง ก่อนจะยกคิ้วเล็กน้อย
“เราเรียนมหาลัยเดียวกันใช่ไหม? เห็นป้ายคณะตรงกระเป๋านาย”
“อ้อ…ใช่ครับ คณะบริหาร” ภัทรตอบสั้น ๆ
อีกฝ่ายยิ้มกว้างขึ้น พลางยื่นมือขวามา
“เราชื่อ คีรินทร์ ปีสาม คณะวิศวะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
ภัทรลังเลเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะยื่นมือไปจับตอบ ความอบอุ่นจากสัมผัสนั้นแผ่ซ่านผ่านปลายนิ้วอย่างประหลาด เหมือนโลกวุ่นวายเมื่อครู่หยุดนิ่งไปชั่วขณะ
เสียงนาฬิกาข้อมือของคีรินทร์ดังติ๊ดบอกเวลา เขาหัวเราะเบา ๆ
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวเข้าเรียนสาย”
ในเช้าวันธรรมดาที่เหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ ภัทรไม่รู้เลยว่าการได้พบกับคีรินทร์ จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล…
เช้าวันนั้น ภัทรมาถึงห้องเรียนด้วยหัวใจที่ยังเต้นแรงไม่หาย ภาพรอยยิ้มอบอุ่นของคีรินทร์ยังติดอยู่ในหัว ทั้งที่เจอกันเพียงไม่กี่นาที แต่กลับชัดเจนราวกับรู้จักกันมานาน
เขานั่งลงตรงเก้าอี้ด้านหลังชั้นเรียน ก่อนจะหยิบสมุดออกมา ทว่าแทนที่จะตั้งใจจดเลกเชอร์ สมุดกลับเต็มไปด้วยร่องรอยการขีดเขียนชื่อ “คีรินทร์” อย่างเผลอตัว
“ภัทร นี่นายเหม่ออะไรอีกแล้วเนี่ย”
เสียงเพื่อนสนิทในคณะอย่าง แก้ม ดังขึ้นพร้อมกับท่าทางกอดอก
“ปะ…เปล่าสักหน่อย!” ภัทรรีบปิดสมุดทันที ใบหน้าแดงก่ำ
แก้มเลิกคิ้วอย่างจับผิด แต่ไม่ทันซักถามต่อ อาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้อง ทุกคนจึงรีบหันไปตั้งใจเรียน
ช่วงพักกลางวัน ภัทรถือถาดอาหารเดินหาที่นั่งในโรงอาหารมหาลัย เสียงผู้คนคุยกันจอแจ เขามองหาที่ว่างด้วยความลังเล จนกระทั่งเสียงทุ้มที่คุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลัง
“ภัทร มานั่งตรงนี้สิ”
เขาหันไปก็พบคีรินทร์นั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่ง โบกมือเรียกด้วยรอยยิ้มสดใส เพื่อนร่วมโต๊ะอีกสองสามคนเป็นนักศึกษาวิศวะเหมือนกัน ต่างหันมามองภัทรด้วยสายตาเป็นมิตร
ภัทรเกือบทำถาดอาหารร่วงเพราะไม่ทันตั้งตัว
“อะ…ครับ” เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินไปนั่งอย่างเกร็ง ๆ
คีรินทร์เอื้อมมือดึงเก้าอี้ให้เล็กน้อย เป็นการกระทำเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความใส่ใจ
“นี่เพื่อนเราชื่อบอมกับต้น เรียนวิศวะเหมือนกัน”
“สวัสดีครับ” ภัทรยกมือไหว้
การสนทนาเป็นไปอย่างเป็นกันเอง คีรินทร์มักหันมาถามภัทรบ่อย ๆ เช่น “อาหารโอเคไหม” หรือ “เรียนเช้านี้เข้าใจหรือเปล่า” ราวกับใส่ใจมากกว่าปกติ
หลังเลิกเรียน ภัทรเดินกลับหอพัก ข้างกายมีคีรินทร์ปั่นจักรยานคู่มาอย่างสบาย ๆ
“เอาจริง ๆ นายเป็นคนที่ไม่ควรปั่นจักรยานคนเดียวเลยนะ” คีรินทร์พูดพลางหัวเราะ
“ทำไมล่ะ”
“ก็ดูสิ เมื่อเช้านายเกือบล้ม ถ้าเราไม่ช่วยคงได้เข้าเฝือกไปแล้ว”
ภัทรยู่หน้า “ก็ไม่ได้ซุ่มซ่ามขนาดนั้นสักหน่อย”
เสียงหัวเราะของคีรินทร์ดังขึ้นก้องในอากาศเย็นยามเย็น เป็นเสียงที่ทำให้ภัทรเผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว ความเกร็งในใจค่อย ๆ คลายลงทีละน้อย
เมื่อถึงหน้าหอพัก คีรินทร์หยุดจักรยาน “ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ ภัทร”
ภัทรพยักหน้าช้า ๆ
“อืม… ขอบคุณนะ เรื่องวันนี้ด้วย”
คีรินทร์ยิ้ม ก่อนจะปั่นจักรยานจากไป ทิ้งให้ภัทรยืนมองแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างเหม่อลอย ภายในอกอบอุ่นแปลกประหลาดเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังเริ่มก่อตัวขึ้น…
บ่ายวันศุกร์ ท้องฟ้าเริ่มครึ้มตั้งแต่ช่วงบ่าย นักศึกษาหลายคนรีบกลับหอพักเพราะกลัวฝนตก แต่ภัทรยังต้องอยู่ทำรายงานกลุ่มในห้องสมุด
“ภัทร นายไม่กลับเหรอ” เพื่อนกลุ่มเดียวกันถาม
“เราจะขอหาหนังสือเพิ่มอีกนิดน่ะ นายไปก่อนเถอะ”
เมื่อเพื่อน ๆ เดินออกไป ภัทรจึงนั่งต่อคนเดียว เสียงฝนแรกกระทบกระจกใสด้านข้างห้องสมุด “พร่ำ ๆ” จนในที่สุดก็กลายเป็นสายฝนเทลงมาไม่หยุด
ภัทรถอนหายใจ พลิกหน้าสมุดด้วยความกังวล เขาไม่ได้พกร่มมาเลย
ไม่นานเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้น เขาเงยหน้า… และพบว่าคีรินทร์ยืนอยู่ตรงนั้น มือข้างหนึ่งถือร่มพับสีกรมท่า อีกข้างถือแฟ้มเอกสาร
“ยังไม่กลับอีกเหรอ” คีรินทร์ถามพลางเลิกคิ้ว
“อือ…เราลืมเอาร่มมา คงต้องรอฝนหยุด” ภัทรตอบเสียงแผ่ว
คีรินทร์หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะยกมือสะบัดร่มในมือ
“งั้นไปด้วยกันสิ ร่มนี้กางได้สองคนสบาย”
หัวใจของภัทรเต้นแรงทันที แต่ก็พยักหน้าอย่างไม่เต็มเสียง
ฝนยังตกหนักเมื่อทั้งคู่เดินเคียงกันออกจากประตูห้องสมุด ร่มคันเล็กบังคุ้มเฉพาะด้านบน จนไหล่ทั้งสองชนกันโดยไม่ตั้งใจ
“ขอโทษ…” ภัทรพูดเบา ๆ พลางขยับหลบ
“ไม่เป็นไร เดินชิด ๆ กันนี่แหละจะได้ไม่เปียก” คีรินทร์ตอบด้วยรอยยิ้ม
กลิ่นสบู่หอมอ่อน ๆ จากร่างสูงข้างกายลอยมากระทบจมูก ทำให้ภัทรใจเต้นรัวจนต้องก้มหน้า ปล่อยให้เสียงฝนเป็นตัวกลบความสั่นไหวในใจ
เมื่อเดินมาถึงศาลาพักเล็ก ๆ ภัทรหยุดเพราะอยากพักหายใจ คีรินทร์เองก็หยุดตาม เขามองออกไปยังสายฝนแล้วพูดเสียงเรียบแต่จริงใจ
“รู้ไหม เราแอบมองนายมาหลายครั้งแล้ว”
ภัทรเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาเบิกกว้าง
“ห๊ะ… หมายความว่ายังไง”
คีรินทร์หัวเราะเบา ๆ
“ก็หมายความตามนั้นแหละ นายอาจไม่สังเกต แต่ตอนที่นั่งในโรงอาหาร วันไหนนายเหม่อ เรามักเห็นตลอด”
ใบหน้าของภัทรร้อนวูบขึ้น เขารีบหันไปทางอื่น
“อย่าพูดเล่นสิ…”
คีรินทร์ส่ายหัวช้า ๆ
“ไม่ได้เล่นนะ ภัทร”
เสียงฝนยังคงตกพรำ แต่ในใจของภัทรกลับวุ่นวายยิ่งกว่าพายุ ความรู้สึกที่เขาพยายามซ่อนเอาไว้ ถูกเปิดเผยออกมาบางส่วนโดยไม่ทันตั้งตัว…
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!