กฏของการเล่นบอทข้อที่1
’ตกหลุมรักในโลกของบอทได้ แต่อย่าเผลอตกหลุมรักในโลกความเป็นจริง’
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
ติ๊ง!
FROM : ฟ.เฟรมคนคูล @FFREMXX
@PIELUVU คิดถึง ทำอะไรอยู่ครับวันนี้\~
ผมยิ้มให้กับหน้าจอมือถือที่มีข้อความหนึ่งจากทวิตเตอร์เด้งเตือนขึ้นมาเพียงแค่อ่านผมก็รู้สึกเขินมานิดๆเลยแฮะ
“แดกข้าวก่อนไหมไอ้พีท ก้มหน้าก้มตาเล่นอยู่ได้”
“เออ แป๊บหนึ่งสิวะ”
FROM : น้องพายบอทคนสวย @PIELUVU
@FFREMXXพายกินข้าวก่อนน้า\~ไว้คุยกันเนาะ .กอด
คลิก!
ผมจัดการส่งข้อความที่ตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์เมื่อครู่ ก่อนจะกดปิดหน้าจอและหันมาให้ความสนใจผู้ชายด้านข้างที่เอาแต่บ่นเป็นแม่คนที่สองไปได้ น่ารำคาญฉิบหายเลยไอ้เตี้ยเอ๊ย
“เห็นมึงสไลด์หน้าทวิตเตอร์มาทั้งวันแล้วนะ มันมีอะไรดีวะ”
ไอ้ภัทร เพื่อนชายคนสนิทเอ่ยปากบ่นอีกรอบ มันตักข้าวใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆสายตามองไปยังนักศึกษารุ่นพี่ที่ใส่ทรงเอผ่าหลังจนแทบจะเห็นอะไรต่อมิอะไรอยู่รอมร่อ ผมกับมันคบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้ขึ้นปีสองแล้ว จริงๆ ผมเป็นคนที่พูดน้อยเอามากๆ จนไม่มีเพื่อนคบ โชคดีที่มีไอ้ภัทรเข้ามาทักทายและชวนผมกินข้าวตั้งแต่แรกเจอ ถึงผมจะรู้สึกรำคาญมันแทบจะทุกวัน แต่เอาเข้าจริงถ้าขาดมันไปนี่ชีวิตผมต้องเงียบเหงาแน่ๆ
“มันเรื่องของกูน่า” ผมปัดประเด็นที่มันถามก่อนจะหยิบช้อนเพื่อกินข้าวแต่...”เดี๋ยวนะ กูสั่งให้มึงซื้อก๋วยเตี๋ยว มึงซื้อข้าวไข่เจียวมาทำไมไอ้ภัทร!”
“เอ้า! ร้านมันปิดนี่หว่า กูไม่รู้จะซื้ออะไรให้อ่ะ”
“แต่กูไม่กินไข่ มึงลืมหรือไง”
“เออ กูลืม เอาเงินไปซื้อใหม่เลยปะ เรื่องมากจริงพ่อเจ้าประคุณรุนช่อง” ไอ้ภัทรล้วงเอาเงินในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตขาวออกมายัดใส่มือผมลวกๆ คล้ายกับไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับผมอีกแล้ว
เป็นเพื่อนกูมาสองปี ไม่ได้มีดีอะไรนอกจากบ่นกูไปวันๆ จริงๆ มันไม่คิดจะจดจำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ของเพื่อนบ้างเลยเหรอวะฮะ!
ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ยาวของโรงอาหารในคณะมนุษย์ศาสตร์ นั่นก็คือสถานที่ที่ผมเรียนอยู่ประจำนั่นเองแหละครับ
อ้าว ลืมแนะนำตัว ผมชื่อ พีท อยู่ปีสอง สาขานิเทศศาสตร์ เอกภาพยนตร์ ผมชอบการเขียนบท ตัดต่อ และการแสดง เลยเลือกสาขานี้ครับ วันๆ ไม่ทำอะไรนอกจากเดินหล่อๆ กับกิน แต่ถ้ามีงานจากอาจารย์ทีนี่ขอบอกเลยว่าซอมบี้ที่ว่าแน่ยังแพ้พวกผม
เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ในตอนนี้ผมควรโฟกัสเรื่องหาของกินก่อนว่าผมจะกินอะไรดี...
ทำไมวันนี้ดูไม่ค่อยมีของกินที่น่ากินเหมือนทุกๆ วันเลยน้า... ฮึ่ย! แค่เห็นไข่ก็รู้สึกไม่ชอบกลิ่นมันแล้วอ่ะ
ติ๊ง!
เสียงเตือนจากมือถือในกระเป๋าเสื้อทำให้ผมต้องเลิกสนใจร้านค้าตรงหน้ามือรีบล้วงมือถือขึ้นมากดเพื่อดูการแจ้งเตือนในทวิตเตอร์ทันที
FROM : ฟ.เฟรมคนคูล @FFREMXX
@PIELUVU กินเร็วๆ นะครับ พี่เง้าเหงา
ประโยคอ้อล้อของบุคคลที่ผมโควตในทวิตเตอร์ทำเอาต้องยกยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ @PIELUVU เป็นแอคเคาน์ในทวิตเตอร์ที่ผมใช้เล่นรองจากแอคเคาน์จริงๆ ของตัวเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าผมติดเล่นมันตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกที่ผมก็ชอบการมีเพื่อนที่รู้จักกันโดยไม่เคยรู้ตัวตนจริงๆ ของโลกทวิตเตอร์นี้ไปเสียแล้ว ใครๆ ต่างเรียกว่า ‘โลกของบอท’
บอท ในความคิดของคนอื่นผมไม่รู้นะว่าเขาคิดยังไง แต่ในความคิดของผมคือการใช้รูปศิลปินหรือรูปของคนดังตามโซเชียลมาตั้งเป็นรูปมโนในแอคเคาน์ของตัวเอง และเราก็ใช้นิสัยบางส่วนของคนในรูปมาเล่นละมั้ง แอคเคาน์ที่ผมเล่นอยู่ในตอนนี้เป็นรูปนักร้องหญิงสัญชาติเกาหลีที่ใครเห็นต่างต้องตกหลุมรัก ที่ผมเล่นเป็นเธอคงเป็นเพราะความชอบส่วนตัวด้วยแหละ
เล่นแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันนะ
ไม่มีใครรู้จักตัวตนของเรา จะทำบ้าทำบออะไรไม่มีใครห้าม
เวลาเหงาก็มีเพื่อนคุย
เหมือนอย่างในตอนนี้ไง...
FROM : น้องพายบอทคนสวย @PIELUVU
@FFREMXX พี่เฟรมไปเรียนได้แล้วน้า เดี๋ยวพายทักไปคืน. นี้นะ ^ ^
แม้ว่ามันจะต่างจากความเป็นจริงที่ตัวผม เป็นผู้ชาย ส่วนในบอท ผมเป็นผู้หญิง
แต่ช่างเหอะ มันไม่จำเป็นต้องให้ใครมารับรู้ถึงตัวจริงๆ ของผมนี่นา เล่นแบบนี้สนุกออก สบายใจด้วย
“มายืนยิ้มไรตรงนี้วะ” เสียงทักของใครบางคนทำผมสะดุ้งหลุดออกจากความคิด ผมรีบเก็บมือถือใส่กระเป๋าอย่างร้อนรน ก่อนจะตั้งหลักก้มหัวให้คนตรงหน้าเล็กน้อย ส่วนสูงที่ต่างจากผมไม่มากเท่าไร ผิวเข้มตามสไตล์ชายไทยทั่วไปทำเอาผมรู้สึกอิจฉาขึ้นมานิดๆ ใบหน้าที่มีแก้มน่าจับนั่นอีก...เฮ้ออ
ร่างสูงยิ้มให้นิดๆ เขาเลิกคิ้วเหมือนรอคำตอบจากผม
พี่เฟรม รุ่นพี่ปีสามในคณะของผมเอง ผมไม่ค่อยสนิทกับพี่แกเท่าไรหรอกเคยเจอตอนรับน้องแค่สองสามครั้ง ในตอนนั้นผมยังไม่ได้ดูแลตัวเองจนดูเป็นคน ผมเชื่อว่าอีกฝ่ายคงจำผมไม่ได้หรอก พี่เขาดูป๊อปในคณะอยู่พอตัว ส่วนผมน่ะหรอจะเอาอะไรไปเทียบกับพี่แกวะ
แต่วันนี้มาแปลกแฮะ ปกติผมไม่เคยโดนพี่เขาทักทายเลยสักครั้ง แล้วทำไมถึงเข้ามาทักผมได้วะเนี่ย...
“มากินข้าวน่ะครับพี่” ผมตอบพลางชี้ไปที่ร้านข้าวตรงหน้า
ซึ่งแม่งเป็นร้านข้าวไข่เจียว U_U
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเวลาผมเจอเขาต้องลนๆ ด้วย เกิดอาการนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้อ่ะ
“นี่ใช่น้องในคณะกูปะ ถ้าจำไม่ผิด”
“คะ ครับ...”
“อ๋อ งั้นดีเลย เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนี่เนอะ วันนี้กูเลี้ยงข้าวมึงแล้วกัน”
“อะ เอ่อ...”
“มึงห้ามปฏิเสธ รุ่นพี่ให้อะไรก็ต้องรับเข้าใจเปล่า”
“แต่...”
“ป้าครับ ข้าวไข่เจียวสองจานครับผม” พี่เฟรมหันไปสั่งข้าวไข่เจียวหน้าตาเฉย ผมเม้มปากกระพริบตาปริบๆ เพราะจะเถียงอะไรออกไป ไอ้คนตรงหน้ากลับเออออเองไปหมด
“ขอบคุณนะพี่ แต่ทีหลังไม่ต้องก็ได้นะครับ เกรงใจ”
“แค่ยี่สิบบาทจะเกรงใจอะไรวะ” พี่เฟรมพูดติดขำ “นี่มึงมีเรียนต่อปล่า”
“อ่า มีครับ...” ที่ผมพูดติดขัดไปเล็กน้อยเพราะอยู่ๆ ร่างสูงกลับวางมือบนหัวผมอย่างพลการ จะปัดออกก็ดูเสียมารยาท แต่บางทีหัวผู้ชายมันไม่ควรให้ผู้ชายด้วยกันเอามือมาขยี้ปะวะ
“ตั้งใจเรียน ถ้ามีอะไรปรึกษากูได้เสมอ เข้าใจ๊! 🙂”
แม่ง... รอยยิ้มแบบ...
“ข้าวได้แล้วจ้ะหนู” เสียงป้าขัดขึ้น พี่เฟรมหันไปให้ความสนใจกับป้าร้านข้าวไข่เจียวแทน ผมรับจานข้าวทันทีที่พี่แกจ่ายเงินเสร็จ
“ขอบคุ...”
ติ๊ง!
ไม่ทันที่จะขอบคุณตามมารยาท เสียงแจ้งเตือนทวิตเตอร์ทำให้ผมเลิกสนใจพี่เฟรมและยกมือถือตัวเองขึ้นมาดู แต่การแจ้งเตือนกลับว่างเปล่า ไม่มีข้อความอะไรขึ้นมาบนหน้าจอเลย
แต่มันกลับเป็นของคนตรงหน้า...
พี่เฟรมก้มลงเลื่อนหน้าจอของตัวเองชั่วครู่ อาจเป็นเพราะเห็นผมจ้องอยู่พี่แกเลยหันหลังเดินถือจานข้าวพร้อมกับกดมือถือจากไปโดยไม่เอ่ยลาสักคำ
ผมไหวไหล่อย่างเลี่ยวไม่ได้ ถอนหายใจออกมาด้วยอาการเซ็งเล็กน้อยจริงๆ โลกเรามันกลมนะ แต่คนส่วนใหญ่กลับมองข้ามจุดเล็กๆไป
เหมือนคนที่เดินจากผมไปเมื่อกี้ไง...
ผมก้มมองมือถืออีกครั้ง การแจ้งเตือนจากแอคเคาร์ซึ่งใช้รูปหมาน้อยตั้งเป็นโพรไฟล์ที่คอยทวิตหาผมทุกเช้าเย็นจนเด้งเป็นเจ้าประจำปรากฏขึ้นพอดิบพอดี ผมกดเข้าไปที่หน้าฟีดของเขาเพื่อดูโพสต์บ่นในทุกๆ วัน ก่อนจะเคลื่อนสายตาละจากหน้าจอขึ้นมามองแผ่นหลังหนาของคนที่เดินหายลับไปในฝูงผู้คน...
FROM : ฟ.เฟรมคนคูล @FFREMXX
@PIELUVU พาย วันนี้พี่ได้กินข้าวไข่เจียวร้านโปรดแล้วนะ ดีใจกับพี่หน่อยดิ๊
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมคือน้องพาย
คนที่เขาคุยอยู่ด้วยทุกวัน...
(เข้ามาอ่านกันเยอะๆนะคะ เป้นกำลังใจให้ด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกคนเลยน้าาาา ผิดตรงไหนขอโทษด้วยน้าาารีบไปหน่อย😅😅)
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
กฏของการเล่นบอทข้อที่ 2
’อย่าจริงจังกับคำพูดของคนในทวิต’
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
“สรุปคือมึงจะเดินกลับ?” ภัทรถามไถ่ผมทันทีที่มันเข็นจักรยานคันโปรดที่ใช้ปั่นมาคณะทุกๆวันออกมาจากลานจอด ผมพยักหน้ารับยืนยันความมั่นใจให้มันไปเพราะเห็นสภาพล้อของรถมันแล้ว คาดว่าคงแตกในอีกไม่กี่กิโลเมตร
“หอกูอยู่แค่นี้เอง ไปเหอะ” ผมบอกก่อนจะขับไสไล่ส่งมันไป
“เออๆ กลับดีๆ แล้วกัน ถึงแล้วทักไลน์กูมานะ วันนี้ดอทเอๆ” ผมรีบเอออไปอย่างส่งๆ ภัทรโบกมือลาพลางไสจักรยานตัวเองออกจากหน้าคณะ ผมส่ายหัวเผลอขำเบาๆ สายตามองหน้าจอมือถือเพื่อรอข้อความเหมือนในทุกๆวัน
วันนี้เงียบแฮะ สงสัยงานเยอะละมั้ง...
“เฮ้ยๆ!” เสียงเรียกของใครบางคนทำให้ผมละสายตาออกจากหน้าจอเงยมามองหน้าร่างสูงที่ใส่เกียร์วิ่งมาแต่ไกล
คนที่ผมเพิ่งพูดถึงนั่นแหละครับ!
“มีอะไรหรือเปล่าพี่” ผมถามขึ้น ผมเปียกๆ ของพี่เฟรมถูกเสยขึ้นด้วยน้ำมือของเขาเอง แสดงถึงความเซ็กซี่จนรุ่นน้องผู้หญิงที่กำลังเดินเข้าคณะถึงกับชะงักเท้าหยุดดู
“ว่างมั้ย”
“ก็...ว่างนะครับ” ผมพยักหน้ารับ
“ช่วยกูถือของไปส่งที่หอหน่อยดิ พอดีเพื่อนมันไม่ว่างอ่ะ” ผมมองตามนิ้วพี่เฟรมที่ชี้ไปยังถุงใบใหญ่ที่ใส่กล่องไว้ประมาณสามสี่ใบ จริงๆ ผมอยากกลับไปนอนให้สบายใจเฉิบนะ แต่เอาเป็นว่า...
“งั้นผมช่วยก็ได้พี่” พี่เฟรมยกยิ้มขึ้นอย่างดีใจ เวลาเห็นพี่เฟรมตาหยีๆนี่แม่งรู้สึกดีชะมัด
คะ คือ หมายถึงว่าเขาไม่หน้าบึ้งจะดูดีอะไรทำนองนั้นต่างหาก-0-
ผมรีบเดินไปคว้าถุงที่วางอยู่ทันที ในตอนแรกที่ดูก็ไม่คิดว่าแม่งจะหนักอะไรเบอร์นี้นี่หว่า
“อ่ะ กูซื้อมาเกินถุงนึงอ่ะ ให้มึงเป็นการขอบคุณแล้วกัน” พี่เฟรมยัดถุงพลาสติกเล็กๆ ใส่อะไรสักอย่างมาใส่มือของผมที่เต็มไปด้วยถุงอีกสองใบใหญ่ ในตอนแรกไม่เอะใจอะไร แต่พอมองดีๆ มันคือไข่ต้มสามใบพร้อมซอสถั่วเหลืองหนึ่งถุง!
พี่มึง กูไม่กินไข่ T[]T
“พี่เอาไปเถอะ ผมไม่...”
“อร่อยนะ” พี่เฟรมยื่นหน้ามาใกล้หน้าผมเพื่อยืนยันให้ผมรับๆมันมา “ลองกินดูแล้วจะติดใจ”
แต่กูไม่กินไข่ทุกชนิดไงพี่ มึงต้องรับรู้เรื่องนี้!!!
“งั้นผมจะกินให้อร่อยนะครับ...” ทำไมกูพูดแบบนั้นออกปายยย\=[]\=
“ดีมาก\~ไว้เดี๋ยวพาไปกินไข่ตุ๋นร้านเจ้แมว เจ้านั้นเด็ดสุด”
“...”
“กินไข่เยอะๆ จะได้โตเร็วๆ” พี่เฟรมเล่นหัวผมอีกแล้วY_Y
“ครับ”
ปฏิเสธไม่ลงเลยกู...
“เดี๋ยวมึงซ้อนมอเตอร์ไซค์กูแล้วกัน ไม่หนักมากใช่มะ”
“นิดนึงอ่ะพี่”
“อ่า...ขอโทษนะที่ต้องใช้กะทันหันอ่ะ กูไปคนเดียวไม่ได้จริงๆว่ะ”
“เฮ้ย ไม่เป็นไรพี่ ผมเต็มใจ”
“งั้นพอเอาของไปส่งที่หอเสร็จ เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่หอแล้วกัน”
...ดีชะมัด
ผมยิ้มกริ่ม ก้มหน้าไม่สบตาคนตรงหน้า พี่เฟรมหัวเราะเบาๆ มือตบบ่าผมเหมือนบอกให้รอตรงนี้แล้วหายเข้าไปตรงลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ ไม่นานนักก็ขี่มอเตอร์ไซค์สีเหลืองมาเทียบข้างผม ไม่ทันที่ผมจะก้าวขาขึ้นซ้อน พี่เฟรมกลับสวมหมวกกันน็อกใบเล็กให้ผมแบบลวกๆ
“ใส่ไว้ เผื่อตกรถจะได้ไม่หัวแตกตาย”
“ขอบคุณครับพี่”
แม่ง ประโยคเหมือนเป็นห่วงนะ แต่คล้ายกับแช่งยังไงไม่รู้ ผมซ้อนท้ายเขาด้วยท่าทางเงอะงะ พอนั่งได้สักพักมอเตอร์ไซค์กลับไม่ยอมเดินหน้าไปจากจุดนี้เสียที ผมลองชะเง้อมองคนด้านหน้าก็พบว่าเขากำลังทวีตอยู่
มันใช่เวลามั้ยวะ คนถือกำลังหนักฉิบหายขนาดนี้นี่รู้บ้างมั้ยเนี่ย
“พี่รีบขี่ดิ ผมหนัก”
“เฮ้ มึงบ่นเหรอ” เสียงไม่พอใจของพี่เฟรมทำเอาผมถึงกับต้องรีบพูดแก้
“เปล่าพี่ ผมกลัวพี่จะลืมว่ายังมีผมซ้อนท้ายอยู่เนี่ย”
“ลืมได้ไงวะ” พี่เฟรมบ่นในขณะที่เขาเริ่มสตาร์ทรถ “กูไม่ลืมมึงหรอกน่า บ่นอยู่ได้”
นั่นเป็นประโยคที่ทำเอาผมหุบปากเงียบแต่แอบยิ้มกริ่มออกมา รถเคลื่อนที่ออกจากหน้าคณะ ถ้าจำไม่ผิดหอพี่เฟรมนี่อยู่ติดกับหอผมละมั้ง
ท่าทางเงอะงะบ่งบอกว่าทักษะการขี่ของเขาค่อนข้างห่วยในระดับหนึ่ง ผมพยายามนั่งเกร็งหนีบเบาะไว้ทุกครั้งที่มอเตอร์ไซค์ข้ามลูกระนาดซึ่งใหญ่เท่าภูเขาไฟฟูจิ และพอเห็นว่าพี่เฟรมกำลังจะเสยแท็กซี่คันหน้าผมจึงเผลอเอาถุงในมือฟาดไปยังต้นขาเขาเต็มแรง
“ถือดีๆ สิวะ เดี๋ยวรถล้มมม”
“พี่อ่ะขี่ดีๆ ผมจะตกรถแล้ววว”
“กอดเอวกูสิวะ!”
“ห๊ะ อะไรนะ ไม่ได้ยิน” ผมถามเพื่อจะทวนคำพูดของคนด้านหน้า เมื่ออยู่ๆเขากลับพูดอะไรสักอย่างที่ผมจับใจความไม่ได้”พี่พูดว่าอะไรนะ!”
“กอดเอวกูสิ!”
“หะ...”
พรึ่บ!
ไม่ทันขาดคำคนร่างสูงกลับคว้ามือขวาของผมไปวางหน้าตักอย่างถือวิสาสะ ผมเบิกตากว้างด้วยตกใจเล็กน้อย เพราะอีกไม่กี่คืบนี่มือจะแตะไข่ทองคำแล้วนะเว้ย!
“เกาะไว้แน่นๆ มึงตกไปกูคงรู้สึกแย่”
แม่งเอ๊ย อยู่ๆ ก็หน้าร้อนขึ้นมาเฉย กูเป็นหวัดแน่ๆ!
ดีนะที่มีหมวกกันน็อกปิดหน้าอยู่ ไม่อย่างนั้นคนข้างทางคงเห็นหูผมแดงลามมายันแก้มทั้งสองข้างแน่ ผมคว้าชายเสื้อพี่เฟรมดึงไว้กันตัวเองตกรถ พยายามจะไม่แตะโดนพุงของแก เพราะถ้าเผลอไปโดนขึ้นมา ภายในร่างกายผมคงต้องเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นเป็นแน่
เมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยทางลัด ผมก็ยกมือตีไหล่คนขี่เบาๆ
“เฮ้ยพี่! ซอยข้างหน้ามีหมา!”
“ฉิบหายแล้วครับ...” พี่เฟรมสบถออกมาเบาๆ เมื่อผมบอกถึงหายนะที่กำลังจะมาเยือน แล้วซอยนี้ก็แคบ จะเลี้ยวรถกลับก็ไม่ได้เสียด้วยนะ จะหนีก็คงหนีไม่พ้นแล้วล่ะ
พี่เฟรมเบรกกะทันหัน เป็นจังหวะเดียวกับที่มีหมาจ่าฝูงเดินออกมาเผชิญหน้าเราทั้งสองคน
เหี้ยแล้ว...
“ทำไงดีพี่ ชนแม่งเลยมะ!” ผมว่าพลางชี้หน้าหมาเพื่อไม่ให้มันคืบคลานเข้ามาใกล้รถมอเตอร์ไซค์ของเรา
“ลงไปไล่หมาให้หน่อยดิ”
“หา...”
“กลัวอ่ะ” พี่เฟรมพูดเสียงอ่อย ไอ้เราก็ของเต็มไม้เต็มมือยังมีหน้ามาไล่ให้ลงไปเจรจากับหมาอีก
ทว่าในตอนแรกมีแค่ตัวเดียว หลังจากนั้นไม่ถึงนาทีแก๊งของมันนับห้าถึงหกตัวก็โผล่ออกมาล้อมหน้าล้อมหลัง พี่เฟรมที่คงเห็นการณ์ไม่ดีจึงลืมตัวบิดคันเร่งทำให้รถพุ่งไปอย่างสุดแรง ฝ่าดงหมาที่กำลังใส่เกียร์วิ่งไล่มาติดๆ
บรืนนน
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!
เสียงเห่าตามมาติดๆ หมานับหกตัวต่างกรูเข้ามาประดุจว่าเราฮ็อตกันก็ไม่ปาน
“พี่ขับช้าๆหน่อย ผมกลัวร่วง!”
“อ๊ากกก มันจะงับขากูวว” เสียงโวยวายดังลั่นเมื่อคนข้างหน้าแหกแข็งแหกขาฟาดฟันกับหมาตัวใหญ่สุดในแก๊งที่วิ่งมาขนาบข้างเฉยๆ ไม่เห็นท่าทีว่ามันจะอ้าปากงับตามที่พี่แกคิดเลย
มีความมโนไปเอง
“พี่ มันไม่กัดหรอก ขับดีๆสิครับ”
โฮ่ง แฮ่\~
“อ๊าก! ออกไป!”
ตุบ!
ผมหัวเราะออกมาเมื่อพี่เฟรมใช้ขาข้างขวาสะบัดไล่หมาจนรองเท้าผ้าใบหลุด แถมยังไม่ห่วงที่จะจอดลงไปเก็บด้วยนะ
“เอ้าพี่! รองเท้าหลุดไม่เก็บหรอ”
“ไม่องไม่เอาแม่งแล้ว หมาเวรเอ๊ย!” พี่เฟรมหันหลังมามองว่ามีหมาตัวไหนตามมาอีกรึป่าว เมื่อเห็นว่าถนนโล่งดีแล้ว พี่แกจึงถอนหายใจออกมาแถมยังหอบจนดูออกเลยว่าเหนื่อยสุดๆ
“เป้นไรมั้ยพี่”
“เหนื่อยดิ ถามได้”
“เล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ขนาดนั้นไม่เหนื่อยก้บ้าแล้ว”
“คนมันกลัวนี่หว่า มาขี่แทนกูตอนโดนหมาไล่ดูมั้ยล่ะ”
“มีประชดแฮะ”
“ยังจะเถียงอีก”พี่เฟรมจิ๊ปากอย่างไม่พอใจที่ผมแอบล้อเขา
“คร้าบบบ ไม่เถียงแล้ว” ผมตัดจบบทสนทนาทันทีที่รถจอดตรงหน้าหอคุ้นหน้าคุ้นตา ที่นี่เป็นหอชายล้วนติดกับหอรวมของผม ในทีแรกแม่จะให้มาอยู่ที่นี่แต่ผมคิดว่าถ้าเกิดทำงานกลุ่มขึ้นมาคงไม่สะดวกในการใช้หอตัวเองแน่นอนเลยเลือกอยู่หอรวมจะดีกว่า
“เอาวางไว้ตรงโต๊ะหินอ่อนหน้าหอก็ได้” พี่เฟรมจัดการสั่งทันที ผมเลยเดินเอาของต่างๆไปวาง พอเหลือบเห็นถุงไข่ต้มก็รู้สึกลังเลว่าควรเอาไปด้วยดีมั้ย หรือแกล้งลืมวางไว้ดี...
เอามาด้วยก็ได้วะ!
“พี่ไม่ต้องไปส่งผมหรอก หอผมอยู่ข้างๆพี่นี่เองอ่ะ”
“หืม...หอสีชมพูอ่ะนะ” พี่เฟรมชี้ไปทางทิศที่หอผมตั้งอยู่ “ให้เดินไปส่งเปล่า”
“พี่ดูสภาพส้นตีนตัวเองก่อนมั้ยล่ะ” ผมพูดแหย่ คนตรงหน้าก้มมองเท้าตัวเองที่ในตอนนี้โล่งโจ้งเหลือเพียงถุงเท้าอยู่ข้างเดียว
“เดี๋ยวขึ้นไปเอาอีแตะแป๊บ”
“เฮ้ย พี่ไม่ต้องเลยครับ เดี๋ยวกลับเองได้น่า” ผมรีบห้ามปรามพี่เฟรมที่กำลังทำท่าจะขึ้นไปเอารองเท้าตัวเองจริงๆ ”อีกอย่างผมเป็นผู้ชายนะ มาส่งอะไรกัน”
“แล้วไงวะ เป็นผู้ชายไปส่งไม่ได้ไง?”
“มันก็ได้แหละ แต่ไม่ต้องหรอกพี่ ไหนๆพี่มาถึงหอตัวเองแล้วจะมาเสียเวลาไปส่งทำไม รีบขึ้นห้องไปเหอะครับ”
“เอางั้นหรอ...” พี่เฟรมดุนกระพุ้งแก้ม ปมพยักหน้ารับ “ถ้างั้นเดินกลับดีๆแล้วกัน ไว้ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“ได้ครับพี่” ผมยิ้มให้คนตรงหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมเต็มใจในทุกเรื่อง ว่าเสร็จพี่เฟรมก็รวบถุงทั้งหมดถือขึ้นไปที่ห้องตัวเอง ผมยืนมองพี่เค้าสักพัก พอเเผ่นหลังของอีกฝ่ายลับสายตาจึงหันเดินกลับไปยังหอตัวเอง ระหว่างทางผมล้วงมือถือขึ้นมาดทวิตเตอร์เหมือนทุกครั้ง
และแน่นอนว่าผมต้องส่องแอคเคาน์ของพี่เฟรมเหมือนเช่นเคย...
FROM : ฟ.เฟรมคนคูล @FFREMXX
@PIELUVU วันนี้พี่ต่อสู้กับหมาด้วยแหละ
การแจ้งเตือนเด้งขึ้นประจวบเหมาะกับที่ผมออนพอดี พอผมเข้าไปอ่านข้อความที่พี่เฟรมส่งมาก็ถึงกับหลุดขำในความโอ้อวดของเขา
FROM : น้องพายบอทคนสวย @PIELUVU
@FFREMXX เป็นไงบ้าง โดนกัดปะ
FROM : ฟ.เฟรมคนคูล @FFREMXX
@PIELUVU ระดับพี่นะ แค่มานี้เรื่องจิ๊บๆ
FROM : น้องพายบอทคนสวย @PIELUVU
@FFREMXX โห! แปลว่าไม่กลัวหมาเลยอ่ะดิ ไปสู้กับหมาอีท่าไหนล่ะเนี่ย
ผมใส่อารมณ์ลงไปในประโยคพร้อมกับแนบภาพกิ๊ฟเคลื่อนไหวเป็นเด็กผู้หญิงเบิกตากว้างเอามือทาบอก
จะว่าขำก็ขำนะ ขำในความมโนของเขาอ่ะ ทำไมถึงโม้อะไรได้เบอร์นี้วะ งง
FROM : ฟ.เฟรมคนคูล @FFREMXX
@PIELUVU พี่ขับรถไปส่งรุ่นน้องอ่ะ หมามันทำทีจะมากัดรุ่นน้องพี่ พี่นี่กระโดดลงจากรถไปสู้กับหมาทันที หมานี่วิ่งหนีพี่เลย โคตรเท่
FROM : น้องพายบอทคนสวย @PIELUVU
@FFREMXX ทำไมเก่งจังอ่ะ ปรบมือ
FROM : ฟ.เฟรมคนคูล @FFREMXX
@PIELUVU แน่นอน คนหล่อซะอย่าง
ผมเบ้ปากมองบนไปหนึ่งที่เมื่ออ่านประโยคขี้โม้ของพี่เฟรมเสร็จ แล้วเลื่อนนิ้วกดสลับแอคเคาน์เปลี่ยนเป็นแอคเคาน์จริงของตัวเอง ก่อนจะทวีตอะไรบ้างอย่างลงไปในหน้าฟีด
ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่สามารถทวีตสิ่งที่อยากทวีตลงในบอทได้ เพราะยังไงถ้าจะเล่นในบอทผมก็ควรคีปลุคถูกมะ
นี่จึงเป็นหนทางเดียวที่ผมสามารถใช้แอคเคาน์จริงของตัวเองทวีตอะไรก็ได้อย่างที่ใจนึก
เช่น...
TWEET BY นี่พีทคนหล่อเอง @PEETTIWAT
:: ขี้โม้ฉิบหายเลยไอ้สัตว์!
-ขออภัยในคำหยาบด้วยนะคะ😊🙏🏻-
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
กฏของการเล่นบอทข้อที่ 3
‘ อย่าอ่อยผ่านข้อความจนเกินความจำเป็น’
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
ผมนั่งเขี่ยหน้าจอมือถือเล่นเสมือนว่าว่างจัด ทั้งที่ภาพตรงหน้าผมในตอนนี้คืออาจารย์วัยกลางคนกำลังยืนสอนผ่านสไลด์นับได้ประมาณห้าสิบกว่าสไลด์ เล่นเอาทุกคนในคลาสต่างสลบฟุบหลับกันเป็นแถบ
เรื่องราวในทวิตเตอร์ก็แบบเดิม มีแฮชแท็กเพิ่มขึ้นในทุกๆวัน บางแฮชแท็กก็มีสาระ บางแฮชแท็กก็เกิดขึ้นจากความหมั่นไส้ส่วนตัว
เช่นเดียวกับแฮชแท็กหนึ่งที่ผมเอาแต่เลื่อนอ่านอย่างหาข้อสรุปไม่ได้
#แหกบอทหลอกชาวบ้าน
ผมเข้าแฮชแท็กนี้มาตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าจนตอนนี้บ่ายกว่าๆแม่ง ผมยังไม่รู้จุดประสงค์ของแฮชแท็กดังกล่าวเลย
‘บอทวงนั้นหลอกเงินบอทค่ายเล็กไปอ่ะ หน้าด้านจัง’
‘คนนี้เหมือนจะเคยเล่นบอทวงนึงด้วยนะถ้าจำไม่ผิด สันดานไม่เปลี่ยน’
‘หลอกคนอื่นว่าเป็นผู้ชาย จริงๆเป็นชะนีจ้า นังเด๋อ!’
‘บอทนี้เคย...’
“เล่นอีกแล้ว!” ไม่ทันที่ผมจะอ่านจบ คนข้างๆก็เอามือมาตะปบเข้าที่มือถือผมอย่างพลการ จ้องมาด้วยสายตากดดันจนผมต้องเงยหน้ามองมันแบบปลงๆ
“เป็นห่าเหวอะไรไอ้ภัทร! กูจะอ่านทวีต” ผมทำถ้าแย่งแต่มันเบี่ยงหลบ
“สนใจเพื่อนฝูงบ้างดิ เล่นแต่ทวีตทั้งวัน น้อยใจเป็นนะเว้ย”
“เป็นเหี้ยไรเนี่ย” แม้ผมจะด่ามัน แต่ผมกลับขำออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ มึงอ่ะ เดี๋ยวนี้ไม่เล่นเกมกับกูเลย เอะอะๆ ไม่ว่างตลอด” มันทำท่าทางงอนจนเพื่อนผู้หญิงด้านข้างเริ่มวี้ดว้าย สายเลือดวายต่างพลุ่งพล่าน “ทำเหมือนติดแฟนไปได้”
“นี่เพื่อนหรือเมียกูวะแม่ง!” ผมสายหน้าเอือมก่อนจะเอื้อมมือเอาเเขนไปล็อกคอมันยังหมั่นไส้ แต่เมื่ออาจารย์หันมากระแอมใส่ พวกผมจึงหยุดเล่นและกลับมานั่งเรียนตามปกติ
“เออมึง รุ่นพี่ปีสามได้ติดต่อมาให้มึงเล่นหนังสั้นให้ป่ะ” ไอ้ภัทรเขยิบเก้าอี้ เข้ามาใกล้ผมก่อนจะถามด้วยเสียงเบาๆผมหันไปเลิกคิ้วพลางส่ายหน้ารัว
“ไม่อ่ะ ทำไมอ่ะ เค้าติดต่อมึงมาหรอ”
“เออดิ พี่คนที่ชื่อกิตที่เป็นประธานสโมสรอ่ะ เขาบอกให้กูไปช่วยงานเขาหน่อย” พอไอ้ภัทรมันพูดถึงพี่กิต นั่นจึงเป็นเรื่องที่ดึงดูดความสนใจผมได้เป็นอย่างดี”เขาไม่รู้ตัวเหรอวะว่ากูไม่ชอบขี้หน้าเขา”
“มึงไม่บอกเขาไปอ่ะ ว่าไม่ว่าง”
“เขาบอกข้าวฟรี”
“มึงเลยไป?”
“ใช่ครับ”
โถ่ ไอ้สัตว์ นี่ถ้าไม่ติดว่ามีอาจารย์อยู่หน้าห้องผมยกเท้าถีบเข้าที่หน้าอกไปแล้วเนี่ย
พี่กิต คือรุ่นพี่ปีสามที่พ่วงหน้าที่เป็นประธานสโมสร ของคณะผมนั่นเอง แถมเขายังเป็นเพื่อนสนิทพี่เฟรมด้วย ใครๆต่างก็บอกว่าสองคนนั้นจิ้นกัน ผมนี่เบ้ปากไปถึงดาวอังคาร จิ้นบ้าจิ้นบออะไร เขาเป็นเพื่อนกันไหมล่ะ!
แล้วกูจะโมโหทำห่าอะไรเนี่ย?
“แล้วมึงจะไปเล่นบทอะไร คนบ้าหรอ” ผมพูดเเหย่คนข้างๆ เพื่อยั่วโมโหไอ้ภัทรแยกเขี้ยวแถมยังแอบทุบขาผมเบาๆ จนผมต้องตีท้องมันกลับเพื่อแก้แค้น
“กูเป็นพระเอกสิหล่อขนาดนี้”
“และนางเอกก็คือพี่กิตนั่นเอง”
“...”มันไม่พูดอะไรแต่ค่อยๆชูนิ้วกลางใส่หน้าผมด้วยสีหน้านิ่งๆเวลาได้แกล้งมันนี่ตลกฉิบหาย
“แหม่ กูหยอกเล่นทำโกรธไม่ได้”
“กูจะเอาไข่ไปปาบ้านมึง”
“มาเหอะ กูไม่กลัว” ผมท้า
พูดถึงไข่ ไข่ต้มที่พี่เฟรมให้มาเมื่อวานผมเอาไปให้ป้าแม่บ้านในหอกินเรียบร้อย จริงๆอยากเก็บไว้นะ แต่ผมเป็นคนเกลียดกลิ่นไข่สุดๆ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผมไม่โอเคกับการกินไข่เป็นอย่างสูง เป็นตายร้ายดีผมไม่คิดจะกินมันหรอก ต่อให้อดตายก็ยอมอ่ะ
“แหงสิ วันนั้นมีคนซื้อข้าวไข่เจียวให้ เดินกลับมาหน้านี่ยิ้มแป้นเป็นจานดาวเทียม ทีกูซื้อให้นะ ด่าเหมือนกูไปแอบดูมึงอาบน้ำงั้นแหละ”
“มึงกับคุณนั้นต่างกันครับ” ผมพูดพลางใช้นิ้วจิ้มหน้าผากมันแก้เขิน “เมื่อไหร่จะคืนครับ มือถือกูน่ะ” ผมว่าก่อนจะพยักพเยิดหน้าเป็นเชิงกวนตีน
“เอาไปเลยปะ กูมันคนไม่สำคัญ เพราะคนไม่จำเป็นก็ต้องเดินจากไป!” ผมยิ้มกริ่ม รีบเก็บมือถือตัวเองใส่กระเป๋าเสื้อทันที ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไอ้ภัทรถึงเอาแต่จงเกลียดจงชังพี่กิตทั้งที่เขาไม่เคยทำอะไรให้ เคยถามมันอยู่ครั้งนึง มันก็บอกว่าพี่เขาจัดกิจกรรมไม่โดนใจมัน ขัดหูขัดตา
มันใช่เหตุผลหรอว่ะ
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนเดิมๆดังขึ้น เบียงความสนใจผมจากการสอนของอาจารย์ทันที ผมค่อยๆก้มมองมือถือในกระเป๋าเสื้อ เมื่อเห็นว่ามันคือข้อความแจ้งจากไลน์ก็ทำเอาผมสงสัยว่าใครกันที่ทักมา เพราะนอกจากไลน์กลุ่มห้องก็มีไลน์ของไอ้ภัทรเท่านั้นแหละที่แจ้งเตือนทุกวัน แต่วันนี้กลับไม่ใช่ทั้งสองแฮะ...
ไอดีไลน์ของใครบางคนเด้งขึ้นมาจนผมต้องขมวดคิ้ว พยายามเพ่งดูโปรไฟล์ของไอดีนี้อย่างพินิจ รูปดิสผู้ชายคุ้นหน้าคุ้นตากำลังอุ้มแมวด้วยรอยยิ้มจนตาหยี เเถมยังใช้หน้าปกไอดีเป็นรูปเดียวกับโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ของผมอีก...
FREM เพิ่มคุณจาก ID LINE
หืม...
นี่มันพี่เฟรมนี่หว่า เขาไปเอาไอดีผมมาจากไหนวะ...
“มึง” ผมหันไปเรียกไอ้ภัทรที่กำลังเก็บหนังสือลงกระเป๋าเพราะใกล้จะหมดคาบเรียนพอดี “มึงเอาไอดีไลน์กูให้พี่ปีสามเหรอวะ”
“อือ ก็พี่เขาขออะ”
“ใคร”
“พี่ที่ชื่อเฟรมไง เขารู้ว่ากูเป็นเพื่อนกับมึงเขาเลยขอ พี่แกบอกว่าเผื่อต้องใช้ตัวละครแสดงเพิ่ม เขาเลยเอามึงอ่ะ”
“แล้วมึงก็ให้เขาไปโดยไม่ถามกูเนี่ยนะ”
“พี่แกน่ารักดีออก จะซีทำไมเพื่อน กลับไปตีดอทกันดีกว่า ปะ” ไอ้ภัทรรีบปัดประเด็นทันที มันตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะสะพายกระเป๋าลุกขึ้นเมื่ออาจารย์บอกเลิกคลาส ผมมองหน้าจอมือถือของตัวเองสักพักอย่างไม่รู้ควรจะกดรับเพื่อนดีมั้ย แต่ไม่ทันที่จะได้กดอะไร ข้อความไลน์ดันเด้งขึ้นทำเอาความคิดทั้งหมดในหัวของผมแตกกระเจิง
เฟรมเองนักเลงภูเขาไฟ :: ไอ้พีท!
เฟรมเองนักเลงภูเขาไฟ :: อันนี้ไลน์พีทปะครับ?
เฟรมเองนักเลงภูเขาไฟ :: ตอบด้วยนะครับ
พี่เฟรมทักผมรัวทีเดียวสามข้อความ ลืมไปว่าผมเอารูปมูมินขึ้น พี่แกเลยไม่รู้ว่านี่ใช่ตัวตนจริงๆของผมหรือเปล่าสินะ..
สุดท้ายผมก็ต้องรับพี่เขาเป็นเพื่อนอยู่ดี
พีท ฐิวัฒน์ :: ว่าไงพี่ ผมเอง
ผมก้มหน้าพิมพ์ตอบก่อนจะลุกสะพายกระเป๋าออกจากห้องตามไอ้ภัทรไปติดๆ แต่พอเงยหน้ามาไอ้เพื่อนสนิทก็หายลับไปเสียแล้ว มันคงรีบไปเล่นเกมตามปกติที่ชีวิตมันทำประจำนั่นแหละ...
แล้วมาโทษกูว่าไม่มีเวลาให้ ไอ้เพื่อนเลว
เฟรมเองนักเลงภูเขาไฟ :: ลงมาใต้ตึกที มีเรื่องจะคุย
พีท ฐิวัฒน์ :: เรื่องอะไรอ่ะพี่
รู้สึกลางไม่ดีเลยแฮะ...
เฟรมเองนักเลงภูเขาไฟ :: ก็บอกอยู่ว่ามีเรื่องจะคุย กูจะคุยต่อหน้าไม่ใช่คุยในข้อความ ไม่ได้อรรถรถเว้ย!
เฟรมเองนักเลงภูเขาไฟ :: รีบมา กูรออยู่
แม่ง ทำไมอ่านแล้วเหมือนได้ยินเสียงสำเนียงดุๆ ผ่านไลน์ มาเลยวะ นี่ขนาดไม่ได้สนิทหรือรู้จักกันจริงจัง ทำไมต้องตีโหด ทั้งที่ตัวจริงก็มุ้งมิ้งไม่ได้เหมาะสมกับบุคลิกหน้าตาเอาซะเล้ยยย
เฟรมเองนักเลงภูเขาไฟ :: อ่านไม่ตอบไอ้สัตว์นี่สงสัยอยากมีเรื่อง
พีท ฐิวัฒน์ :: โธ่พี่ ผมกำลังลงไป ใจเย็นดิ!
ผมรีบพิมพ์เท้าก็รีบก้าวลงบันไดเพื่อไปด้านล่าง ตึกบ้านี่ก็ไม่มีลิฟต์ แถมชั้นที่ผมเรียนยังเป็นชั้นสี่ เดินลงที่นี่ขาลากน่องโป่งจนกลายเป็นเด็กวิทย์กีฬาไปแล้ว
ติ้ง!
เสียงเตือนจากทวิตเตอร์ดังขึ้น ผมกดสลับไปยังหน้าแอพพลิเคชั่นสีฟ้า และมันทำให้ผมเกิดความสงสัย เพราะพี่เฟรมดัน DM FROM : น้องพายบอทคนสวยมาหาหรือเรียกง่ายๆว่าทักข้อความมาทางทวิตเตอร์บอทของผม
ทำไมวันนี้พี่แกมาแปลกๆวะ...
ฟ.เฟรมคนคูล :: พาย พี่ขอถามตรงๆนะ
สัตว์...
คำแรกก็ทำเอาหัวใจแป้วแล้ว แกเป็นอะไรของแกวะ หรือว่าจับผิดผมได้แล้วเลยจะขอพบตัว...เชื่อละ
ผมหยุดเดินลงบันไดและนั่งลงที่ขั้นบนสุดเพื่อดูสถานการณ์ในทวิตเตอร์ด้วยจิตใจที่หวั่นๆ
น้องพายบอทคนสวย :: ว่าไงพี่ มีอะไร
ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยใช้คะค่ะเป็นทุนเดิม เพราะไม่ได้อยากจะหลอกคนอื่นว่าตัวผมจริงๆเป็นผู้หญิงอะไรแบบนั้น
ฟ.เฟรมคนคูล :: พายเคยบอกว่าไปเรียนม.เดียวกับพี่ใช่ปะ
น้องพายบอทคนสวย :: อืม ทำไมอ่ะ
ทำไมมือกูต้องสั่นแบบนี้ว่ะ!
ฟ.เฟรมคนคูล :: เราคุยกันมานานแล้วอ่ะ ไม่คิดจะเจอตัวจริงกันหน่อยหรอ...
ตัวจริงบ้าอะไรของพี่แกเนี่ย เกิดบ้าเกิดบออะไรถึงอยากมารู้จักตัวจริงของบอทผมวะ
น้องพายบอทคนสวย :: พายตัวจริงไม่เหมือนกับที่พี่คิดหรอก อย่าเจอเลยเนอะ
ฟ.เฟรมคนคูล :: พี่ไม่เคยคิดว่าพายหน้าตาดีนี่ จะหน้าแบบไหนหุ่นเท่าโอ่งมังกรพี่ก็ไม่สนหรอก
เห็นพูดแบบนี้ทุกราย เจอตัวจริงก็หนีแทบไม่ทัน เหอะๆ
น้องพายบอทคนสวย :: ไม่ดีกว่า
ฟ.เฟรมคนคูล :: ทำไมอ่ะ เจอแป๊บเดียวก็ได้ เรียนที่เดียวกันมันไม่เสียเวลาหรอกเนอะ
ฟ.เฟรมคนคูล :: ไว้วันอื่นก็ได้นะ พี่ยังไม่รีบหรอก
ฟ.เฟรมคนคูล :: นะครับบบ
ฟ.เฟรมคนคูล :: เดี๋ยวเลี้ยงติม^+++^ .กอดๆ
แม่งน่ารักซะไม่มี ไม่ได้รู้เอาซะเลยว่าคนหลังคีย์บอร์ดเป็นใคร เพศอะไร
น้องพายบอทคนสวย :: ไว้วันอื่นแล้วกันน้า พายไม่ว่างจริงๆ
น้องพายบอทคนสวย :: พายมีธุระด่วนพอดี ไว้คุยกันเนาะ
ผมตัดบทสนทนาทันทีที่เห็นว่าไลน์เริ่มเด้งเตือนถี่ขึ้น เนื่องจากพี่เฟรมรัวสติกเกอร์มาไม่ยัง
ไอ้นี่ก็ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาไปได้ ที่กับในบอทนี่คุยดีเป็นสุภาพบุรุษเชียวเจ๊ดม่า
ผมลงมายังใต้ตึกที่มีโต๊ะยาวตั้งอยู่สองสามโต๊ะ มองซ้ายขวาเพื่อหาคนที่ส่งข้อความนัดมาเมื่อครู่ เมื่อเห็นว่าพี่เฟรมกำลังโบกมือเหมือนเรียกผมจึงรีบตรงดิ่งไปยังโต๊ะที่เค้านั่งอยู่ทันที
“มึงไม่ลงมาพรุ่งนี้เลยล่ะ”
“ให้ผมมาพรุ่งนี้ก็ได้หรอ” ผมทำท่าจะเดินกลับ หาเรื่องวอนตีนยอกย้อนคนตรงหน้าที่รีบเม้มปากยกมือคล้ายกับจะต่อยผม ผมหัวเราะนิดๆ และนั่งลงข้างผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่กับพี่เฟรมก่อนหน้านี้
พี่กิตที่ไอ้ภัทรเปิดประเด็นพูดถึงไปเมื่อช่วงบ่าย ผู้ชายร่างสูงหุ่นนายแบบมีบุคลิกอบอุ่นที่สาวๆหลายคนต่างพากันเพ้อทั้งคณะ ผมหันไปยิ้มให้พี่แกนิดๆ เหมือนว่าพี่กิตจะมีธุระต่อ
“กูไปก่อนนะ พอดีนัดเเคสหนังน้องไว้” พี่กิตหันไปบอกพี่เฟรม รายนั้นยกมือเป็นสัญญาณว่าโอเค “นี่เพื่อนน้องพัทรป่ะ”
คนด้านข้างละความสนใจจากเพื่อนตัวเองหันมาทัก ผมเลยชี้เข้าหาตัวเองและพยักหน้าให้แบบงงๆ
“ครับ”
“ภัทรบอกว่าเราอยากเล่นหนังกับเฟรมมันหรอ”
“หา! เปล่านะพี่” ผมรีบโบกมือปฏิเสธเป็นการด่วน พอหันไปมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม เขากลับยกยิ้มขำเบาๆไอ้ภัทรมึงเล่นกูแล้วงัย “ภัทรมันหลอกพี่แล้ว มันต่างหากที่อยากเล่นกับพี่กิตอ่ะ”
“หืม? กับพี่เนี่ยนะ”
“ช่ายยย มันบอกดีใจมากเลยตอนที่พี่ติดต่อให้มันไปเล่นอะ พี่ต้องสนองมันหน่อยนะครับ”
มึงเล่นกู กูเล่นมึงกับไอ้ภัทร ไอ้หมาดัชชุนขาสั้น!
—ปล. มีต่อนะคะ อยู่ตอนถัดไปกลัวมันไม่อัพให้ เพราะตอนที่สองนะว่าคำเยอะเกินไปมันเลยยังไม่อัพให้ขออภัยด้วยนะคะ—
...ΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩΩ...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!