## ตอนที่ 1: บันทึกแรกในห้องสมุด
รินจังเดินเข้าไปในห้องสมุดของมหาลัยด้วยหัวใจที่เต้นแรงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความคาดหวังราวกับว่าทุกอย่างในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวใหม่ ๆ ที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อนเธอพกสมุดบันทึกเล่มใหม่ปกฟ้าอ่อนซึ่งยังว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ร่องรอยของตัวอักษรหรือลายเส้นใด ๆ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอกำลังจะเริ่มเขียนบันทึกในชีวิตมหาลัยของตัวเองรินจังนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ตรงโต๊ะริมหน้าต่างแสงอาทิตย์สาดเข้ามาตรงหน้าทำให้รู้สึกอบอุ่นและเหมือนโลกนี้กำลังยิ้มให้กับเธอเธอเปิดสมุดออก พลางเอาปากกาจิ้มลงไปบนหน้ากระดาษว่างเปล่าแล้วลุยเขียนทันทีด้วยความตั้งใจว่า
“บันทึกแรกของฉันในมหาลัย! วันนี้เป็นวันแรกของการเรียนฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ หัวใจเต้นแรงเต็มไปด้วยความคาดหวังและความสุข ฉันไม่รู้ว่าวันนี้จะเจอใครหรือเรื่องราวอะไรบ้างแต่ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างจะต้องสนุกแน่ ๆ ฉันจะจดทุกอย่างไว้ตรงนี้ให้หมด ตั้งแต่เรื่องราวเล็ก ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในชีวิตฉัน ฉันอยากให้สมุดเล่มนี้เป็นเพื่อนคู่คิด เป็นพื้นที่ที่ฉันสามารถเล่าเรื่องราวทั้งหมดของตัวเองโดยไม่มีใครมาขัดจังหวะและฉันจะจดทุกความรู้สึกของฉันทุกอย่างที่ฉันคิด ทุกสิ่งที่ฉันเห็น ทุกสิ่งที่ทำให้ฉันหัวเราะหรือทำให้ฉันคิดอะไรบางอย่างลึก ๆ วันนี้ฉันเจอเพื่อนใหม่หลายคน มีคนทักฉันมาแนะนำตัวแต่ฉันยังไม่เจอใครที่ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงหรือรู้สึกว่าต้องสนใจมากเป็นพิเศษแค่รู้สึกว่ามหาลัยนี้น่าสนใจ เต็มไปด้วยผู้คนที่หลากหลายและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ฉันอยากบันทึกเอาไว้”
รินจังหยุดพักมือและยิ้มกับตัวเอง พลางมองไปรอบ ๆ ห้องสมุดที่เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยเสียงพลิกหน้าหนังสือและเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของนักศึกษาที่เดินไปมา เธอรู้สึกว่าที่นี่เป็นสถานที่พิเศษที่ทำให้เธอสามารถจินตนาการและคิดเรื่องราวใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา เธอเขียนต่อทันทีว่า
“ฉันอยากเรียนรู้ทุกอย่าง อยากทำความรู้จักกับทุกคน อยากเห็นรอยยิ้ม เห็นการกระทำ เห็นเรื่องราวของเพื่อน ๆ ฉันอยากจดทุกความทรงจำเอาไว้ตรงนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันอยากให้สมุดนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เรื่องตลก เรื่องเศร้า เรื่องประทับใจ เรื่องเล็ก ๆ เรื่องใหญ่ทุกอย่าง ฉันจะเริ่มจากวันนี้และจะไม่หยุดเขียนจนกว่าวันสุดท้ายของมหาลัยฉันจะมาถึง”
รินจังพยักหน้ากับตัวเองแล้วเขียนต่อไปเรื่อย ๆ ไม่สนใจเวลาและไม่สนใจว่ามีใครผ่านไปผ่านมา เธอเขียนทุกความคิด ทุกความรู้สึกทุกความตื่นเต้น ทุกความประทับใจของวันแรกในห้องสมุดของเธอ รู้สึกเหมือนได้เปิดโลกใหม่และได้ปลดปล่อยตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ เธอหัวเราะเบา ๆ กับตัวเองเมื่อเขียนถึงความคิดบ้า ๆ ของตัวเองและยิ้มด้วยความสุขที่ได้เริ่มต้นเรื่องราวของชีวิตมหาลัยแบบนี้
ตอนที่ 2: เพื่อนใหม่ที่ไม่ยิ้ม
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งในมหาลัย รินจังตื่นเต้นเหมือนทุกเช้า เธอหยิบสมุดเล่มฟ้าอ่อนออกจากกระเป๋าแล้วจดความรู้สึกทันทีตอนเดินเข้าห้องเรียนใหม่ที่เต็มไปด้วยนักศึกษาหน้าใหม่และเสียงพูดคุยของเพื่อน ๆ ที่ดังแว่วอยู่รอบตัวรินจังสังเกตเห็นนักศึกษาหญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่างเพียงลำพัง ใส่แว่นตากรอบบางผมยาวสีดำเรียบตรงและก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออย่างตั้งใจราวกับโลกนี้ไม่มีใครอยู่รอบตัวเธอรินจังยิ้มกับตัวเองทันทีเพราะเห็นว่าเธอดูน่าสนใจมากและตัดสินใจว่าต้องทำความรู้จักกับเธอให้ได้แม้ว่าจะดูเย็นชาและไม่ค่อยมีรอยยิ้มเลยก็ตามรินจังเดินเข้าไปใกล้ช้า ๆ แล้วเอ่ยเสียงสดใสเต็มไปด้วยพลังว่า “สวัสดี! ฉันชื่อรินจังนะ ยินดีที่ได้รู้จัก” ยูริเอะเงยหน้าขึ้นช้า ๆ สบตารินจังเพียงเล็กน้อยก่อนจะตอบเสียงเบา ๆ แผ่ว ๆ “…ยูริเอะ” รินจังพยักหน้าและยิ้มกว้างทันที พลางคิดในใจว่าชื่อของเธอเรียบง่ายแต่ก็น่าสนใจและมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้เธออยากรู้จักมากขึ้น
รินจังนั่งลงใกล้ ๆ รู้สึกถึงความแตกต่างของตัวเองกับยูริเอะอย่างชัดเจน ทั้งคู่เหมือนอยู่กันคนละโลกรินจังที่พูดเก่ง ร่าเริง และเต็มไปด้วยพลังบวก กับยูริเอะที่เงียบ เย็นชา และมุ่งมั่นอยู่กับหนังสือของตัวเองเพียงลำพัง รินจังแอบสังเกตว่าตาเธออ่านหนังสืออย่างตั้งใจแต่สายตายังแฝงความสงบและเฉียบคมบางอย่าง ทำให้รินจังรู้สึกว่านี่อาจจะเป็นเพื่อนใหม่ที่ท้าทายและน่าสนใจที่สุดที่เธอเคยเจอในชีวิต
รินจังจึงหยิบปากกาออกมาและเริ่มจดลงในสมุดบันทึกของตัวเองทันที “วันนี้เจอเพื่อนใหม่ที่ไม่ค่อยยิ้มเลย ชื่อยูริเอะ ใส่แว่น ดูเย็นชาแต่แอบน่าค้นหา ฉันอยากรู้จักเธอให้มากขึ้น อยากเห็นรอยยิ้มของเธอ แม้ว่าจะยากก็ตาม ฉันคิดว่าเพื่อนคนนี้น่าจะเป็นคนที่ทำให้ชีวิตมหาลัยของฉันสนุกและท้าทายขึ้นอีกเยอะเลย ฉันจะพยายามทำให้เธอหัวเราะและทำให้เธอเปิดใจให้ฉันได้ เพราะฉันเชื่อว่าข้างในของเธออาจจะอบอุ่นกว่าที่เห็นภายนอก และฉันอยากเห็นสิ่งนั้นให้ได้”
รินจังมองยูริเอะอีกครั้งและยิ้มกับตัวเองเธอรู้สึกว่าการเริ่มต้นของมิตรภาพครั้งนี้จะไม่ง่ายแต่มันก็น่าตื่นเต้นมาก และนี่ก็เป็น บันทึกแรกของการเจอเพื่อนใหม่ที่ไม่ยิ้ม ซึ่งรินจังมั่นใจว่าจะกลายเป็นเรื่องราวที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตมหาลัยของเธอ
ตอนที่ 3: เสียงดังไปหมด
วันนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองคงเป็นคนที่ส่งเสียงดังที่สุดในห้องเรียน เพราะตั้งแต่ก้าวเข้าไปก็พูดคุยกับเพื่อนใหม่ไปทั่ว ทั้งหัวเราะ ทั้งเล่าเรื่อง ทั้งชวนคนอื่นกินข้าว พอได้เห็นบรรยากาศมหาลัยที่สดใสและผู้คนมากมาย ฉันก็เหมือนเครื่องยนต์ที่เพิ่งสตาร์ตเต็มที่จนหยุดไม่อยู่ เสียงหัวเราะของฉันอาจจะดังเกินไปบ้าง แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันช่วยให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้นนะแต่แล้วสายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นยูริเอะที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างเหมือนเดิม เธอไม่ได้ยิ้ม ไม่ได้หัวเราะ ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเลยนอกจากยกมือขึ้นปรับแว่นแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อเหมือนเสียงดังทั้งหมดในห้องไม่เกี่ยวกับเธอ ฉันมองไปแล้วหัวเราะแห้ง ๆ ในใจ คิดว่า “หรือว่าฉันจะเสียงดังเกินไปจริง ๆ กันนะ” ฉันลองเขียนลงในสมุดบันทึกทันทีว่า “วันนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นเครื่องขยายเสียงเดินได้ ทั้งที่ทุกคนดูเหมือนจะชอบบรรยากาศคึกคัก แต่ยูริเอะกลับไม่แม้แต่จะมองขึ้นมา เธอนิ่งเกินไปจนฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าในหัวใจของเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอหงุดหงิดกับเสียงดังหรือเธอแค่ไม่อยากยุ่งกับใครกันแน่”
หลังเลิกเรียน ฉันพยายามเดินไปคุยกับเธออีกครั้ง พูดโน่นพูดนี่ทั้งเรื่องวิชาเรียน เรื่องอาหารกลางวัน และแม้แต่เรื่องไร้สาระอย่างสภาพอากาศ แต่ยูริเอะก็ยังตอบสั้น ๆ และเสียงเรียบ ๆ จนฉันไม่แน่ใจว่าเธอฟังฉันจริงหรือเปล่า ฉันรู้สึกเหมือนพูดกับกำแพง แต่กำแพงที่มีแววตาน่าค้นหามาก ๆ เพราะยิ่งเธอนิ่งเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอยากหาคำตอบว่าภายใต้ความเงียบนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ ฉันเขียนบันทึกต่อไปว่า “บางทีเสียงของฉันอาจจะไปดังเกินไปในโลกที่เธออยากให้เงียบ แต่ฉันก็อยากให้เสียงนั้นไปถึงเธอ แม้ว่าเธอจะไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ฉันก็ยังอยากให้เธอได้ยินว่ามีใครบางคนอยากเข้ามาใกล้เธอ อยากรู้จักเธอมากกว่านี้”
เมื่อกลับมานั่งคนเดียวในห้อง ฉันย้อนคิดถึงภาพเธอที่ก้มหน้าอ่านหนังสือท่ามกลางเสียงดังของทุกคน มันทำให้ฉันรู้สึกว่าโลกของเธออาจแตกต่างจากโลกของฉันโดยสิ้นเชิง ฉันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและการพูดไม่หยุด ส่วนเธอเต็มไปด้วยความเงียบและความสงบ แต่ก็เพราะความแตกต่างนี้เองที่ทำให้ฉันอยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของโลกเธอ อยากจะลองเบาเสียงลงบ้างเพื่อฟังว่าในความเงียบนั้นมีเสียงของหัวใจแบบไหนที่ฉันยังไม่เคยได้ยิน และนี่ก็คืออีกหนึ่งหน้าที่ฉันบันทึกเอาไว้ในสมุดเล่มฟ้านี้ ว่า วันนี้โลกของฉันเต็มไปด้วยเสียงดังไปหมด แต่โลกของยูริเอะกลับเงียบเกินไป และฉันอยากเป็นสะพานเล็ก ๆ ระหว่างเสียงดังกับความเงียบนั้น
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!