แสงจันทร์สีนวลส่องลอดหน้าต่างบานใหญ่เข้ามาในห้องโถงของปราสาทดาร์ควูด ตกกระทบพื้นหินอ่อนที่เย็นเฉียบ ที่โต๊ะอาหารอันโอ่อ่า คริสโตเฟอร์ นั่งนิ่งงันอยู่ท่ามกลางความเงียบงันของครอบครัว เลือดบริสุทธิ์ของเหล่าแวมไพร์ชั้นสูงที่ไหลเวียนในกายทำให้เขารับรู้ได้ถึงความตึงเครียดที่แขวนอยู่ในอากาศหนาแน่นกว่าปกติ
ท่านพ่อ อเล็กซานเดอร์ ใบหน้าคมคายฉายแววเคร่งขรึม ท่านแม่ เอลิซาเบธ ดวงตาเรียวสวยเต็มไปด้วยความกังวล ส่วนพี่ชายคนโต มาร์คัส และน้องสาวคนเล็ก ออโรรา ต่างก็สลับกันมองเขาและท่านพ่ออย่างไม่วางตา
"คริสโตเฟอร์" เสียงทุ้มนุ่มของท่านพ่อทำลายความเงียบ "พ่อกับแม่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับลูก"
คริสโตเฟอร์เงยหน้าขึ้นมอง
"ครับท่านพ่อ"
"ถึงเวลาแล้วที่ลูกจะต้องออกไปใช้ชีวิตในโลกของมนุษย์"
ท่านพ่อพูดเรียบ ๆ แต่ประโยคนั้นกลับดังก้องอยู่ในหัวของคริสโตเฟอร์ราวกับเสียงระเบิด "เราตัดสินใจให้ลูกไปเรียนที่โรงเรียนประจำของมนุษย์ในเมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือ"
คริสโตเฟอร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"แต่... ทำไมต้องเป็นผมล่ะครับ ท่านพ่อ?
พี่มาร์คัสก็ไม่ได้ไป น้องออโรราก็ยังเด็ก"
"มาร์คัสมีหน้าที่สานต่อกิจการของตระกูล ส่วนออโรรายังไม่พร้อม" ท่านพ่อตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ "ลูกต้องเรียนรู้โลกของพวกเขา เพื่อทำความเข้าใจและใช้ชีวิตร่วมกับพวกเขาให้ได้ในอนาคต"
"ผมไม่อยากไปครับ!" คริสโตเฟอร์ลุกขึ้นยืน "ผมเป็นแวมไพร์นะครับ! ผมไม่เหมาะกับที่แบบนั้น"
"ลูกเป็นแวมไพร์ก็จริง แต่ลูกก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำเพื่อตระกูลของเรา" ท่านแม่เอลิซาเบธเข้ามาจับมือเขาไว้แน่น "ลูกจะต้องแข็งแกร่งและระมัดระวังตัวให้มากที่สุด อย่าให้ใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของลูก"
คริสโตเฟอร์ส่ายหน้าด้วยความสับสน "แต่ผมเกลียดมนุษย์... พวกเขาอ่อนแอ เปราะบาง และ..."
"อย่าเพิ่งตัดสินพวกเขา คริสโตเฟอร์" มาร์คัสเอ่ยขึ้นบ้าง "ลองเปิดใจให้กว้าง แล้วลูกจะเห็นว่าพวกเขาก็มีอะไรดี ๆ ที่ลูกคาดไม่ถึง"
"พี่พูดง่ายนี่ครับ! พี่ไม่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเขานี่!" คริสโตเฟอร์ประชด
"พอเถอะ คริสโตเฟอร์" ท่านพ่อออกคำสั่ง "ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ลูกจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ เตรียมตัวให้พร้อม"
หลังจากนั้น คริสโตเฟอร์ก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับความรู้สึกโกรธเคืองและน้อยใจ เขาเดินเตร่ไปตามโถงทางเดินที่มืดมิดและเงียบสงัดของปราสาท ความคิดในหัวตีกันไปมาไม่หยุดหย่อน เขาไม่อยากไปจากบ้านอันอบอุ่นแห่งนี้ ไม่ต้องการไปอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและสิ่งแปลกปลอมอย่างมนุษย์
ในมุมหนึ่งของปราสาท ออโรราที่แอบฟังการสนทนาอยู่ก่อนหน้านี้เดินออกมาหาพี่ชาย "พี่คริสโตเฟอร์คะ..."
คริสโตเฟอร์หันไปมองน้องสาวคนเล็ก "ออโรรา"
"พี่ไม่สบายใจใช่ไหมคะ" ออโรราถามด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา
คริสโตเฟอร์นั่งลงกับพื้นหินอ่อน แล้วดึงน้องสาวเข้ามาในอ้อมกอด "พี่ไม่อยากไปเลย"
"แต่พี่ต้องไปนะคะ พี่ต้องเข้มแข็ง" ออโรราพูดให้กำลังใจ "แล้วถ้าพี่ไปอยู่ที่นั่นแล้วเจอคนที่น่าสนใจ พี่ต้องเล่าให้หนูฟังนะ"
คริสโตเฟอร์ยิ้มอย่างขมขื่น "คนน่าสนใจงั้นเหรอ?"
"ใช่ค่ะ! คนที่ทำให้พี่รู้สึกอยากมีชีวิตอยู่เพื่อปกป้องเขาไงคะ" ออโรราตอบอย่างมั่นใจ
คริสโตเฟอร์นิ่งไป เขาปล่อยน้องสาวออกจากอ้อมกอด แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ดวงจันทร์ส่องแสงสว่างไสวกว่าเดิม แต่ในใจเขายังคงมืดมิดและสับสน เขาไม่รู้เลยว่าการเดินทางครั้งนี้จะพาเขาไปพบกับอะไร และเขาจะรับมือกับโลกของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยแสงแดดและความวุ่นวายได้อย่างไร
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงกระซิบแว่วเข้ามาในความคิดของเขา "ในที่สุดเจ้าก็จะพบกับโชคชะตาของเจ้า... เด็กน้อย"
คริสโตเฟอร์สะดุ้งสุดตัว เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่พบใคร เขาคิดว่าตัวเองอาจจะคิดไปเองแล้วก็ได้ เขาจึงเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ปล่อยให้ความมืดมิดและความเงียบงันกลืนกินเขาไปทั้งตัว
วันรุ่งขึ้น คริสโตเฟอร์ออกเดินทางในตอนเช้าตรู่ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นเต็มดวง เขาโบกมือลาครอบครัวที่มาส่งที่หน้าปราสาท แล้วก้าวขึ้นรถม้าที่เทียมด้วยม้าสีดำสนิท
เมื่อรถม้าเคลื่อนที่ออกไป คริสโตเฟอร์หันกลับไปมองปราสาทดาร์ควูดเป็นครั้งสุดท้าย เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจากโลกที่คุ้นเคยเพื่อไปยังดินแดนที่ไม่รู้จัก แต่ลึกลงไปในใจ เขากลับรู้สึกถึงความตื่นเต้นอย่างประหลาด
เขาจะได้พบเจออะไรบ้างในโลกของมนุษย์? แล้วโชคชะตาที่เสียงกระซิบนั้นพูดถึงคืออะไร? คำถามมากมายยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ขณะที่รถม้าพาเขาออกห่างจากบ้านไปเรื่อย ๆ...
รักในเงาอมตะ – ตอนที่ 2 : แสงอาทิตย์ที่ไร้เมตตา
รถม้าสีดำหยุดลงหน้าประตูโรงเรียนประจำเก่าแก่ อาคารสูงสีขาวที่เต็มไปด้วยเถาไม้เลื้อยตัดกับท้องฟ้าเช้าสีส้มอ่อน ราวกับโลกใบนี้ตั้งใจจะบอกเขาว่า "ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเจ้า"
คริสโตเฟอร์ก้าวลงจากรถม้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้ในอกจะเดือดพล่าน กลิ่นของมนุษย์ที่ลอยมากับสายลมทำให้สัญชาตญาณในตัวเขาตื่นขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามกดมันไว้
ทันทีที่เขาก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ของโรงเรียน เสียงพูดคุยก็เงียบลงเป็นระลอก นักเรียนหลายคนเหลือบตามองเขา บางคนหัวเราะคิกคัก บางคนกระซิบกระซาบกันด้วยความสงสัย
“นี่สินะ นักเรียนใหม่จากทางเหนือ” เสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่ชายวัยกลางคนในชุดสูทจะก้าวออกมา ครูใหญ่ของโรงเรียน หน้าตาเคร่งขรึม ดวงตาเรียวคมกวาดมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจ้าดู... น่าประหลาดกว่าที่ข้าคิด”
คริสโตเฟอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านหมายความว่าอย่างไร”
ครูใหญ่หัวเราะในลำคอ “ผิวซีดราวกับศพ ดวงตาสีแดง... เจ้าจะอยู่รอดที่นี่ได้หรือ? โรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้เป็นที่สำหรับเด็กอ่อนแอ”
คำพูดนั้นทำให้หลายคนหัวเราะตาม ความเย็นชาวิ่งขึ้นตามกระดูกสันหลังคริสโตเฟอร์ แวมไพร์ในตัวเขาอยากกระโจนเข้าหาคนตรงหน้า อยากให้เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่ใครที่ดูถูกได้ง่ายๆ
แต่คำพูดของท่านแม่แวบขึ้นมาในหัว
"อย่าให้ใครรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของลูก"
เขากำหมัดแน่น สูดลมหายใจลึกก่อนตอบด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ผมไม่อ่อนแอ”
ครูใหญ่ยิ้มมุมปากราวกับท้าทาย “งั้นก็ดี... ข้าหวังว่าเจ้าจะพิสูจน์คำพูดนั้นได้ในเร็วๆ นี้”
หลังจากนั้น คริสโตเฟอร์ถูกพาไปยังห้องพักของตนเอง เขายืนอยู่คนเดียวในห้องเงียบๆ แสงแดดลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กกระทบผิวเขาจนรู้สึกแสบเล็กน้อย เขาดึงผ้าม่านปิดทันที
“โลกของมนุษย์...” เขาพึมพำกับตัวเอง พลางมองเงาตัวเองในกระจก “เจ้าจะทำให้ข้าแตกสลาย... หรือข้าจะพิชิตเจ้าได้กันแน่?”
เสียงก๊อกประตูดังขึ้น คริสโตเฟอร์หันไปเห็นเด็กหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งยืนอยู่ตรงประตู
“นายคือคริสโตเฟอร์ใช่ไหม?” เด็กหนุ่มยิ้ม “ฉันชื่ออีธาน อยู่ห้องข้างๆ นาย ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
คริสโตเฟอร์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “อืม”
อีธานไม่ได้ถือสา กลับยิ้มกว้างกว่าเดิม “ไม่ต้องเกร็งหรอก ที่นี่อาจดูน่ากลัวตอนแรก แต่เดี๋ยวนายก็ชินเอง”
คริสโตเฟอร์มองเขาเงียบๆ ความรู้สึกบางอย่างแปลกๆ แวบขึ้นมาในใจ — เหมือนตอนที่น้องสาวพูดเมื่อคืนว่า “พี่ต้องเล่าให้หนูฟังนะ ถ้าพี่เจอใครที่ทำให้พี่อยากปกป้องเขา”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!