สวัสดีครับนักอ่านทุกท่าน
ขอบคุณจากใจจริงที่เปิดเข้ามาสู่โลกของ รอยด์ และการเดินทางในดินแดนแห่งความทรงจำที่แตกสลายของเขานะครับ
นิยายเรื่องนี้เป็นการเดินทางที่ผมตั้งใจและใส่หัวใจลงไปในทุกตัวอักษร และมีความฝันเล็กๆ อย่างหนึ่งคือการได้เห็นเรื่องราวนี้มี หน้าปก เป็นการผ่านภาพปกที่สวยงาม
หากนักอ่านท่านใดรู้สึกเพลิดเพลินหรืออยากร่วมเดินทางไปกับเรื่องราวนี้ต่อ การสนับสนุนเล็กๆ น้อยๆ จากทุกท่านจะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยเติมเต็มความฝันในการสร้างภาพปกให้กลายเป็นจริงได้ครับ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เพียงแค่คุณสละเวลาเข้ามาอ่าน ผมก็มีความสุขและขอบคุณมากๆ แล้วครับ
ขอให้สนุกกับการเดินทางนะครับ
ด้วยรัก [Genski Owl]
...คำเตือน...
...นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ (Trigger Warning)...
...โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน...
...เนื้อหาหลักในเรื่องกล่าวถึง การฆ่าตัวตาย และ ความพยายามฆ่าตัวตาย อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ โรคซึมเศร้า, การทำร้ายตัวเอง การสูญเสีย ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้อ่านที่มีความอ่อนไหวต่อประเด็นเหล่านี้...
ภาพพร่าเลือน...ก่อนจะเริ่มชัดขึ้นเป็นสีขาวโพลนจนแสบตา ดินแดนเวิ้งว้างถูกปกคลุมด้วยความเย็นเยียบ พื้นหิมะใต้ฝ่าเท้าแบนราบ และเมื่อก้มลงมอง...เด็กชายคนหนึ่งนามว่า ‘รอยด์’ กำลังยืนอยู่เพียงลำพัง
ร่างเล็กๆ ที่ดูผอมบางของเขาสั่นเทาจากความสับสนที่ถาโถมเข้ามาในหัว เส้นผมสีดำสนิทของเขาปลิวไสวไปตามแรงลม หน้าผากที่ซีดเซียวเล็กน้อย เผยให้เห็นดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่ฉายแววหวาดระแวง เขาอยู่ในชุดที่ดูเรียบง่ายแต่ก็ผิดที่ผิดทาง...เสื้อคอเต่าสีดำแขนยาว และกางเกงผ้าลินินสีเทาเข้ม
“ผมอยู่ที่ไหน?” เสียงของเขาแหบโหยและเบาหวิว
ไม่มีคำตอบ มีเพียงความเงียบและลมที่พัดผ่านผืนหิมะจนเกิดเป็นเกลียวคลื่นจางๆ
“...ทำไม...ผมจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ” เขาพึมพำกับตัวเอง ความว่างเปล่าในหัวของเขากว้างใหญ่ไม่ต่างจากทิวทัศน์รอบกาย
ท่ามกลางความขาวโพลนนั้น มีเพียงทางเดินสีเข้มสายหนึ่งที่ทอดตัวคดเคี้ยวราวกับถนนตัดผ่านพื้นหิมะ มุ่งสู่ม่านหมอกที่มองไม่เห็นปลายทาง มันคือสิ่งเดียวที่แตกต่างในดินแดนแห่งนี้
ทันใดนั้น มีเสียงหวานกังวานใสของเมโลเดทดังขึ้นในหัวของเขา
“ไม่ต้องกลัว...ที่นี่คือบ้าน...คือความสุขนิรันดร์”
“ใครน่ะ!?” รอยด์ร้องถาม หันรีหันขวางไปรอบตัว แต่ไม่พบใคร
“ความเจ็บปวดไม่มีอยู่จริง ณ ที่แห่งนี้...ความเศร้าโศกก็เช่นกัน” เสียงนั้นยังคงดังอยู่ต่อไป “มีเพียงความสงบสุข...แค่ยอมรับมันสิ”
“ไม่...” เขาส่ายหน้า “ความสุขอะไรกัน...ที่นี่มันว่างเปล่า”
เสียงหวานนั้นพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชาและอำมหิต
“เลือกซะ...จะยอมรับความสุขสบาย หรือความเจ็บปวดที่ไม่มีที่สิ้นสุด”
มือเล็กๆ ที่ขาวซีดของเด็กชายกำหมัดแน่น เขาไม่รู้ว่าเสียงนั้นคืออะไร แต่สัญชาตญาณบอกให้เขาต่อต้าน
“ไม่! ผมไม่ไป!” เขาตะโกนสวนกลับไป
วินาทีนั้นเอง...เสียงหวานเย็นชาของเมโลเดทก็เงียบหายไป และถูกแทนที่ด้วยเสียงใหม่ที่แทรกเข้ามาอย่างแผ่วเบา...เสียงที่เขาคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด เสียงที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่น
“รอยด์...ฉันคิดถึงเธอ”
หัวใจของเขากระตุกวูบ...ความทรงจำบางอย่างพยายามจะผุดขึ้นมา
"ลิน...?" รอยด์พึมพำกับตัวเอง "นั่นเธอเหรอ... ทำไมเสียงนั่นดูคุ้นเคยจังเลย"
“อย่าไปหลงเชื่อคำหลอกลวง!” เสียงของเมโลเดทตวาดกลับมาด้วยความเกรี้ยวกราด “ความสุขที่แท้จริงรอเจ้าอยู่ตรงนี้! กลับมา!”
แต่เสียงนั้นก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้อีกต่อไป แรงผลักดันจากเสียงที่คุ้นเคยทำให้รอยด์ตัดสินใจได้ในที่สุด เขาหันหลังให้กับทิศทางที่เสียงของเมโลเดทเคยดังขึ้น และออกวิ่งสุดชีวิตไปตามทางเดินที่คดเคี้ยว มีเพียงภาพใบหน้าของลินเป็นแสงเดียวที่นำทางในใจ
“หนีไปสิ! แต่แกหนีไม่พ้นหรอก ฮะฮ่าฮ่าฮ่า!” เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของเมโลเดทไล่หลังมา แต่เขาก็ไม่สนใจ
รอยด์ยังคงวิ่งต่อไปอย่างเอาชีวิตรอด...แล้วเสียงหนึ่งก็เริ่มดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท
"ติ๊ด...ติ๊ด..."
มันดังชัดขึ้นเรื่อยๆ จนกลบเสียงหัวเราะของเมโลเดท เขาเห็นบานประตูที่แง้มอยู่เล็กน้อยเผยให้เห็นลำแสงสีขาวส่องลอดออกมาท่ามกลางม่านหมอก
เขาวิ่งไปที่ประตูบานนั้นและผลักเข้าไป...ใจกลางห้องสีขาวสะอาด มีเตียงหลังหนึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ข้างเตียงคือเสาโลหะที่แขวนถุงน้ำเกลือใส และเครื่องมือแพทย์รูปทรงประหลาดที่กะพริบไฟเป็นจังหวะพร้อมส่งเสียง "ติ๊ด...ติ๊ด..." ไม่หยุด
เขาหยุดยืนหอบหายใจหนักหน่วง ก้าวเข้าไปใกล้ ยื่นมือที่สั่นเทาออกไป...ปลายนิ้วสัมผัสกับผ้าปูที่นอนเย็นชืด
ฉับพลัน! โลกสีขาวแตกร้าว...แตกสลายเป็นผุยผง และรอบกายกลายเป็นความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด ก่อนที่ภาพหนึ่งจะฉายชัดขึ้นในสมอง...กระป๋องสีที่เปิดฝาทิ้งไว้ล้มคว่ำอยู่ ของเหลวสีดำข้นหนืดไหลนองออกมาข้างขาตั้งวาดรูปที่มีผืนผ้าใบว่างเปล่า...และทุกอย่างก็เงียบสงัดลงโดยสมบูรณ์
รอยด์ลืมตาขึ้นมาในความมืดที่เย็นเยียบ เขากำลังยืนอยู่กลางโถงทางเดินยาวที่ทอดลึกเข้าไปจนมองไม่เห็นปลายทาง แสงไฟจากโคมระย้าเก่าแก่บนเพดานสาดส่องลงมาเป็นระยะ เผยให้เห็นฝุ่นละอองที่ลอยวนอยู่ในอากาศอย่างเชื่องช้า
ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดาน หยาดฝนโปรยปรายลงมากระทบผิวกระจกไม่ขาดสาย ทำให้ทิวทัศน์ของป่าทึบด้านนอกพร่าเลือนและดูน่ากลัว อีกด้านหนึ่งคือผนังทึบที่เรียงรายไปด้วยชั้นหนังสือไม้เก่าแก่ซึ่งดูชุ่มน้ำและมีกลิ่นอับชื้นคละคลุ้งไปทั่ว
เด็กชายเดินไปตามทางเดินอย่างระมัดระวัง เสียงฝีเท้าเล็กๆ ของเขาฟังดูโดดเดี่ยวในความเงียบ...มือเล็กๆ ของเขาเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาจากชั้นที่อยู่ระดับสายตา
ปกของมันเป็นสีคราม ให้สัมผัสเย็นและชื้นเมื่ออยู่ในมือ เขาเปิดมันออก ตัวอักษรภายในกลับตาลปัตรและบิดเบี้ยวจนอ่านไม่ออก เป็นภาษาที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
"มันอ่านว่าอะไรล่ะเนี่ย" รอยด์พึมพำด้วยความสับสน
เขาปิดหนังสือลงแล้วมองที่หน้าปกอีกครั้ง...บนปกนั้นเป็นภาพวาดของหญิงชราคนหนึ่งกำลังนั่งผิงไฟอยู่ข้างเตาผิงในกระท่อมไม้ แม้จะเป็นเพียงภาพวาด แต่รอยด์กลับรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากหนังสือเล่มนั้นอย่างน่าประหลาด
ขณะที่รอยด์ตัวน้อยกำลังสนใจหนังสือในมือ เสียงฝีเท้าที่เชื่องช้าก็ดังขึ้นจากด้านหลัง รอยด์หันไปด้วยความตกใจ
หญิงชรายืนมองเขาอยู่ตรงนั้น...ด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ทำให้เห็นลักยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก...ซึ่งเป็นภาพที่คุ้นตาอย่างน่าใจหาย
ทันใดนั้น! เปลวไฟก็ปรากฏขึ้นบนพื้นที่เธอยืนอยู่ มันลุกลามขึ้นบนร่างของเธออย่างรวดเร็ว
เธอเพียงยืนยิ้มมองรอยด์ขณะที่เปลวไฟโหมกระหน่ำ แล้วไฟสายหนึ่งก็พุ่งเป็นทางยาวมาตามพื้น...ตรงมายังหนังสือ และลามเข้าใส่ชั้นหนังสือข้างๆ อย่างบ้าคลั่ง
เด็กชายหันหลังวิ่งหนีทันที เขากอดหนังสือเล่มนั้นไว้แน่นกับอกเล็กๆ ของเขา
ภาพตรงหน้าคือบันไดทางขึ้นที่ทอดตัวสู่ความมืดมิดเบื้องบน รอยด์ไม่ลังเล เขาวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างสุดกำลัง...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!